15/7/06
ยามบ่ายที่ริมชายหาดพัทยา เวลา 16 นาฬิกา
วิว ( หรือน้องเดวิลที่เธอพยายามขอร้องแกมบังคับให้ผมเรียก ด้วยเหตุผลที่ว่าชื่อวิวน่ะมันไม่แก่นเซี้ยว น่ารัก แบบที่เธอชอบ ) กำลังวิ่งขึ้นมาจากทะเล พร้อมตะโกนเรียกผมโหวกเหวก
“พี่โบ้ท โบ้ท ไอพี่โบ้ท”
อย่างนี้ล่ะครับ สรรพนามที่เธอใช้เรียกผมไม่เคยตรงกันสักอย่าง เพราะอายุเราที่มากกว่ากันไม่เท่าไหร่ เธอเลยเรียกผมด้วยชื่อเฉยๆบ้าง พี่บ้าง นายบ้าง คุณบ้าง หรือถึงขั้นขึ้นไอนำหน้าบ้าง เมื่อเริ่มหงุดหงิด
ผม หรือพี่โบ้ทของเธอ กำลังนอนเล่นอยู่บนกระโปรงหน้ารถ วันนี้เรามาเที่ยวทะเลกัน พร้อมกับเพื่อนเธออีก 3 คน หลังจากปล่อยให้สาวๆวิ่งเข้าใส่ทะเลแล้ว ผมก็มานั่งๆ นอนๆอ่านหนังสือเล่นอยู่ริมหาด ไม่คิดลงไปเล่นน้ำทะเลกับเธอหรอกครับ เพราะผมว่ายน้ำไม่เป็น แล้วยายเดวิลก็คอยจะลากผมไปที่น้ำลึกๆอยู่เรื่อย
“มาแอบหลับอยู่นี่เอง ตื่นได้แล้ว พวกวิวหิวแล้ว เดี๋ยวไปอาบน้ำแล้วจะได้ไปหาอะไรกินกัน” เธอใส่ผมฉอดๆ ก่อนเขย่าตัวผมแรงๆหลายครั้ง
“เล่นเหนื่อยมาก็หิวเลยนะ เดี๋ยวก็จุกหรอก” ผมว่าเธอไป ยายน้องวิวของผม ตัวเปียกมะล่อกมะแล่ก หยดน้ำพราวบนใบหน้า แถมน้ำยังหยดติ๋งๆใส่ผมอีก
“นี่ๆ ถอยไปเลย เปียกหมดแล้วเห็นไหม” ผมแกล้งต่อว่าเธอ
“อ้าว เล่นน้ำมานี่ จะให้แห้งหรือไงล่ะ” เธอเถียง พร้อมสะบัดน้ำจากผมเธอใส่ตัวผม ผมรีบกระโดดหลบแล้วโวยวาย เจ้าหล่อนกลับหัวเราะคิกคักชอบใจ ก่อนวิ่งหนีไป แต่ยังไม่ลืมหันกลับมาแลบลิ้นใส่ผม
15/7/06
ยามเย็นที่ร้านอาหาร 18 นาฬิกา
“สั่งเลยร้านนี้อร่อยทุกอย่าง” ยายน้องเดวิลโฆษณากับเพื่อนๆหล่อน
“วิวเลี้ยงใช่ไหมอ่ะ” ยายไหมเพื่อนคนหนึ่งของเธอส่งเสียงแซวมา
“นี่ไงเจ้ามือ” ยายน้องเดวิลรีบชี้มาทางผมที่นั่งข้างๆ
“อ้าว” ผมแกล้งโวยวายบ้าง แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร แค่เลี้ยงคนที่เรารักกับเพื่อนๆเธอไม่กี่คนทำไมจะไม่ได้
หญิงสาวข้างๆผมหัวเราะเสียงใส รอยยิ้มสดใสบนใบหน้า แค่นี้แหล่ะที่ผมต้องการ..
สาวๆแย่งกันสั่งกุ้ง หอย ปู ปลา ยายวิวคอยแนะนำเมนูเด่นที่เจ้าหล่อนเคยมาทาน
“โบ้ทไม่กินกุ้งใช่มะ เอาปลาหมึกละกันนะ ที่นี่สดมากเลย อร่อยดี น้ำจิ้มนะสุดยอด” คนสวยข้างๆผมหันมาถาม
“จ้า.. วิวสั่งอะไร เราก็กินได้หมดแหล่ะ” เพื่อนๆเธอส่งเสียงโอ้กอ้าก แต่ผมปลื้มแทบตัวลอยที่เธอจำได้ว่าผมชอบทานอะไร ไม่ชอบอะไร
ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างมีความสุข ผมคงไม่เล่าละเอียดนักหรอก ไม่อย่างนั้นคุณคงอิจฉาผมแย่เลย เพียงแต่ผมมีความสุขมากๆ ไม่ใช่เพราะเป็นเพียง 1 ชาย ท่ามกลางหญิงสาว 4 คนหรอกนะ แต่เพราะคนที่อยู่ข้างๆผมนี่ต่างหาก เราแซวกัน หยอกล้อกัน เล่าเรื่องตลกกัน อาหารอร่อยๆ กับบรรยากาศดีๆริมทะเล กับคนที่ถูกใจ ความสุขของคนเรามันก็แค่นี้เอง ผมจะบอกเธอวันนี้ อีกครั้งดีไหมนะ บางทีอะไรๆ มันอาจเปลี่ยนไปแล้ว
15/7/06
ยามค่ำคืนที่กรุงเทพ 22 นาฬิกา
หลังจากตระเวนส่งเพื่อนๆของเธอครบเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับรถมาส่งวิวที่แมนชั่นของเธอเป็นคนสุดท้าย ผมจอดรถที่หน้าแมนชั่นของเธอ หันไปมองเบาะข้าง ยายเดวิล ซาตานตัวน้อยของผมนอนหลับคุดคู้อยู่ ลมหายใจสม่ำเสมอ ปอยผมระลงมาปรกหน้าผาก ตอนนี้ที่เธอเป็น สำหรับผมมันนางฟ้าชัดๆ
ผมอยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ ถ้าเป็นคุณก็ต้องเป็นแบบนี้เหมือนกันแหล่ะ หยุดเวลาไว้แค่ในรถคันนี้ ให้ผมได้นั่งมองเธอหลับอย่างนี้ไปตลอดคืน เพลงซึ้งๆ ช้าๆ บรรเลงเบาๆ พร้อมแอร์เย็นๆ ยายวิวของผม (อ่ะนะ เข้าข้างตัวเองละ) คงหลับสบาย
15 นาทีผ่านไป ยายซาตานของผมเริ่มพลิกตัว ปรือตามองมาที่ผม (อย่างน้อย ครั้งหนึ่งเธอก็ได้เห็นผมเป็นสิ่งแรกเมื่อตื่นลืมตา ผมมีความสุขจัง) เธอลุกขึ้นนั่ง และเริ่มบิดขี้เกียข
“อ่ะ บิดไป บิดไปตัวขี้เกียจน่ะ เดี๋ยวก็ได้ขยันกันใหญ่หรอก” ผมแซวเธอ ยายซาตานน้อยหันมามองค้อน
“ถึงแล้วเหรอ” เจ้าหล่อนถาม
“อื้อ..ถึงนานละ หลับไม่รู้เรื่องแบบนี้ระวังเถอะ สักวันจะพาไปไหนต่อไหน”
“ลองสิ จะร้องให้บ้านแตกเลย แล้วจะหาว่าไม่เตือน” เธอท้าแกมขู่ ทำปากยื่นปากยาว จนผมอดขำไม่ได้
“หัวเราอะไร” เธอถามเสียงโหดๆ
“ปล่าว แค่ชื่นชมคนเก่ง”
“วันนี้ขอบคุณมากๆเลยนะโบ้ท” วิวหันมาขอบคุณผม เปลี่ยนเรื่องซะผมแทบเปลี่ยนหน้าไม่ทัน ท่าทางของเธอเริ่มเหนื่อยๆ จนผมสงสาร
“ไม่เป็นไรหรอก เราเองก็ไม่ได้ไปทะเลตั้งนานละ ได้พักผ่อน สาวๆเยอะ สนุกดี” ผมตอบติดตลก หวังให้เธอหัวเราะ แต่เธอเพียงมองหน้าผมแล้วยิ้มๆ
“โบ้ท เรามีเรื่องจะบอก” วิวเปลี่ยนมาเป็นน้ำเสียงจริงจัง
“อะไรเหรอ” ผมถามเธอ อยากให้สิ่งที่เธอกำลังจะบอกผม เป็นเรื่องเดียวกันกลับที่ผมอยากจะบอกเธอ
“เพื่อนเรา ยายไหม.. เค้าชอบโบ้ทอ่ะ”
ยายไหมที่วิวเค้าพูดถึงเหรอครับ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ บางๆ ไม่สูงนัก หน้าคมๆ เข้มๆ คล้ายๆสาวใต้ ถือซะว่าสวยแบบคมๆได้เลย
“แล้วไงอ่ะ..” ผมถามเธอต่อ
“แล้วโบ้ทว่าไงอ่ะ ยายไหมอ่ะนิสัยดี แล้วก็สวยด้วยนะ ใครๆก็จีบ แต่เค้าชอบโบ้ทจริงๆนะ” ยายวิวยืนยัน
“แล้ววิวว่าไงล่ะ” ผมถามเธอ รู้สึกตื้อๆขึ้นมาที่คอ
“จะให้วิวว่าไงล่ะ โบ้ทถามแปลกๆ วิวไม่ใช่โบ้ทซะหน่อย”
“แต่วิวรู้ว่าโบ้ทชอบใครนี่นา..” ผมถามกลับ ตั้งใจให้เธอพูดอะไรสักอย่าง
“แต่โบ้ทก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าคนที่โบ้ทชอบเค้าไม่ได้คิดตรงกันกับโบ้ท”
“ใช่ โบ้ทรู้ คนที่โบ้ทรัก เค้าไม่ได้รักโบ้ท เค้าแค่รู้สึกดีที่มีโบ้ท เค้าเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีของโบ้ท โบ้ทรู้ดีเลยล่ะ กี่ครั้งที่โบ้ทบอกว่ารักเค้า แล้วเค้าก็บอกว่าเค้าไม่ได้คิดกับโบ้ทแบบนั้น เค้าบอกให้โบ้ทเลิกคิดแบบนั้นกับเค้า และเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน”
“โบ้ทก็รู้นี่” วิวก้มหน้า ก้มตา ตลอดเวลาที่ผมพูด เธอได้แต่เสมองไปทางอื่น ไม่สบตาผมแม้เพียงครั้ง
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อไหร่วิวจะรักเรา วิวก็รู้ไม่ใช่เหรอ เรารักวิวนะ รักที่สุด และก็รักมานานแล้ว”
คราวนี้วิวมองหน้าผมและพูดอย่างชัดเจน แม้เธอจะไม่เอ่ยปาก แต่จากแววตาคู่นั้น ผมเดาได้ว่าเธอกำลังจะบอกอะไร และผมไม่อยากได้ยินมันเลย
ผมแทบไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด มีแต่คำว่าไม่รัก ไม่รัก ไม่รัก เดี๋ยวดัง เดี๋ยวเบา ลอยวนเวียนสลับไปมา
“ขอโทษนะโบ้ท แต่โบ้ทก็รู้ว่าวิวไม่เคยคิดกับโบ้ทแบบนั้น วิวไม่ได้รักโบ้ท โบ้ทเข้าใจใช่ไหม”
“รู้สิ โบ้ทรู้ดีเลยล่ะ ก็วิวบอกโบ้ทมาตั้งกี่ครั้งแล้วล่ะ บอกจนโบ้ทจำขึ้นใจแล้ว ว่าวิวไม่ได้รัก” ผมพยายามพูดให้ขำๆ แต่ทำไมคำสุดท้ายที่ออกจากปากผมมันแสนเบา และแหบพร่าเหลือเกิน
นับได้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้แล่ว ที่ผมบอกว่ารักเธอ บางครั้งเธอก็เฉยๆ เหมือนไม่ได้ยิน บางครั้งเธอก็บอกแค่ “อื้อ” และหลายครั้งที่เธอบอกว่าเธอไม่ได้รักผม เราคุยโทรศัพท์กันทุกคืน เราได้เที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ดูหนังด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง อะไรหลายๆอย่างมันดีแสนดี จนผมคิดว่าเรารักกัน แต่สุดท้ายคำที่เธอบอกผมก็แค่..ไม่รัก
ทุกอย่างดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันแค่มิตรภาพของเพื่อน ไม่ใช่ความรัก เมื่อไหร่ผมจะจำซะทีนะ ผมไม่เคยจำเลยว่าเราไม่ได้รักกัน
วันนั้นที่เธอทะเลาะกับที่บ้าน และโทรมาบ่นกับผม
วันนั้นที่เธอบอกว่าผมน่ารักที่ตามใจเธอ
วันนั้นที่เธออ้อนให้ผมร้องเพลงให้ฟัง
วันนั้นที่โทรอวดอย่างดีใจกับผม เพราะเธอได้ท้อปในวิชาที่ตั้งใจ
วันนั้นที่เธอหัวเราะสดใส ในวันที่เรียนจบ
วันนั้นที่ผมโทรไปแสดงความยินดีกับเธอที่ได้งานที่ชอบ
ไม่ว่าวันไหนก็จะอยู่ในความทรงจำของผม ไม่เคยหาย
แม้กระทั่งวันนั้นที่เธอร้องไห้ เพราะว่าเธอทะเลาะกับเพื่อน เพื่อนของเธอไม่เข้าใจเธอ และทำให้เธอเสียใจ เพื่อนคนที่เธอคุยด้วย ในขณะที่ผมโทรหาเธอหลายต่อหลายครั้ง แต่สายไม่ว่าง
เพื่อนคนที่เธอต้องให้เป็นที่หนึ่งทุกครั้ง และผมต้องเป็นคนรอทุกที ไม่ว่าเมื่อไหร่ เพื่อนคนนั้นก็สำคัญที่สุดสำหรับเธอ ผมเข้าใจในข้อนี้ เหมือนที่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็สำคัญที่สุดสำหรับผม
ผมเคยคิดจะเดินจากไป แต่ในวันนั้นที่เธอร้องไห้ และบอกว่าอย่าไปเลยนะ ไม่ไปได้ไหม เพราะเธอรู้สึกดีที่มีผมอยู่ตรงนี้ และอยากให้ผมอยู่ที่เดิม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้เธออาจจะนิสัยไม่ดีบ้าง เอาแต่ใจบ้าง แต่เธอรู้สึกดีจริงๆที่มีผมอยู่
“เราอาจเอาแต่ใจ เราอาจนิสัยไม่ดี ทำให้โบ้ทเสียใจอีกหลายครั้ง เราอาจไล่โบ้ทไปไกลๆเวลาเราโกรธ แต่วันนั้น โบ้ทอย่าไปนะ เราไม่เคยอยากให้โบ้ทหายไปเลย อยู่เป็นเพื่อนเราตรงนี้นะ โบ้ทเป็นคนที่เข้าใจเราที่สุด รู้จักเราที่สุด” วิวบอกกับผมในวันที่ผมเอ่ยคำว่าลา ผมอยากจะบอกเธอว่า นอกจากนั้นผมยังเป็นคนที่รักเธอที่สุด และเป็นคนเดียวกันกับที่เธอไม่มีวันจะรักเลย
“วิวเรา รักวิวนะ และจะยืนยันอย่างนี้ เราจะอยู่ตรงนี้จนกว่าจะถึงวันที่วิวไม่ต้องการให้เราอยู่ แต่เราจะไม่มีวันเลิกรักวิวหรอก ไม่ว่ายังไงก็ตาม ความรักของเรามันก็ยังจะให้วิวไม่เปลี่ยน” ผมมักยืนยันกับเธอเสมอ
“อย่าสัญญาอย่างนั้นเลย จะลำบากใจปล่าวๆ ถ้าวันไหนโบ้ทเจอคนที่ใช่ขึ้นมา วิวนิสัยไม่ดีอย่างนี้สักวันโบ้ทคงเบื่อเองแหล่ะ” วิวเคยบอกกับผมแบบนี้ แต่ป่านนี้เธอจะยังจำมันได้ไหมนะ
อีกครั้งแล้วที่ต้องเสียใจ อีกครั้งแล้วที่ต้องได้ยินคำว่าไม่รัก คำว่ารักที่สุดที่ผมเอ่ยกับเธอ ต้องเป็นคำว่าไม่เคยรักกลับมาทุกครั้งไป ผมอยากบอกเธอว่ารักเธอทุกๆวัน แต่ไม่อยากได้ยินคำว่าไม่รักกันจากปากเธอ..
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น