คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : :: 4 Beginning The Vengeance 2 (end) 100%::
4
Beginning The Vengeance 2 (end)
Majall : Part
ฉันจิบไวท์ชั้นเลิศบนเตียงนอนสีขาวสะอาดที่ข้างๆ ตัวฉันมีร่างหนาของ ‘อดีตแฟน’ นอนไม่ได้สติอยู่ จากการคาดเดาของฉัน อีกสักประมาณสิบนาทีอัลเบิร์ตต้องได้สติ เขาเป็นคนแบบนี้แหละ...เมาง่ายและก็หาย (เมา) ง่าย?
ฉันเหลือบตาไปมองร่างหนาบนเตียงอีกครั้ง เสื้อถูกถอดออกเผยให้เห็นซิกซ์แพ็กส์เรียงตัวกันสวยงาม ไล่สายตาลงต่ำลงมาก็สะดุดเข้ากับวัตถุสีขาวๆ ที่โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา... อะไรนะ ฉันยื่นมือเข้าไปหมายจะดึงวัตถุสีขาวออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อดูว่ามันคืออะไร มือหนาของอัลเบิร์ตก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือฉันทันที!
“อ๊ะ! O_O” ฉันเผลอร้องออกมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขาวใสของอัลเบิร์ต
ละเมออย่างงั้นเหรอ...
ฉันค่อยๆ แกะมือของอัลเบิร์ตออกก่อนจะดึงวัตถุต้องสงสัยนั่นออกมา... มันเป็นกระดาษขาวๆ แผ่นหนึ่ง ฉันกำลังคลี่มันเปิดอ่านก็ต้องหงุดหงิดอีกครั้งเมื่อมีคนมาขัดใจ...
ก๊อกๆ!!
หึ! มาแล้วอย่างงั้นเหรอ... ฉันที่กำลังตีหน้าบึ่งเมื่อสักครู่พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นแย้มยิ้มโดยทันที J ฉันยัดกระดาษแผ่นนั้นลงกระเป๋าที่อยู่ข้างตัวก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วไปเปิดประตูให้ ‘หมาก’ ของฉัน
แอ๊ด...
...!!!
ฉันนิ่งค้างอยู่ตรงนั้นราวกับถูกแม่มดร่ายเวทมนตร์สาป มือเรียวของฉันกำลูกบิดแน่น นัยน์ตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า
“เมเจลล์?” แฮรดริกเรียกชื่อฉันเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วห้องจนสะดุดเข้ากับร่างหนาที่ไม่ได้สวมเสื้อนอนหลับใหลอยู่บนเตียง เขาเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจก่อนจะหันมาสบตาฉันช้าๆ แล้วพูดเสียงสั่น “นั่น...ใคร?”
“...แฮด”
“ผมถามว่าใคร!”
“นั่นมัน...นั่นมันก็แค่เพื่อนของฉัน! ทำไมคุณต้องตะคอกฉันด้วย” ฉันพูดเสียงตัดพ้อ
“เพราะอะไรนะเหรอ...หึๆ ก็เพราะผมเห็นแฟนตัวเองกำลังนอนอยู่กับผู้ชายคนอื่นยังไงล่ะ!”
เพียะ!!
ราวกับมีนางมารร้ายสิงสู่อยู่ในตัวฉัน มือเรียวยาวของฉันสะบัดตบเข้าที่แก้มใสๆ ของแฮรดริกเสียงดังก้องไปถึงขั้วหัวใจ... ใบหน้าขาวใสหันไปตามแรงทิศที่ฉันตบ มีรอยสีแดงจัดอย่างเห็นได้ชัดเขาค่อยๆ หันมาสบตากับฉันช้าๆ...นัยน์ตาสีเขียวมรกตที่ดูอ่อนโยนบัดนี้มีเพียงแววตาที่เจ็บปวดและตัดพ้ออยู่ในที...
มันต้องเป็นฉันไม่ใช่หรือไงที่ต้องทำหน้าแบบนั้น!
“สารเลว...” ฉันเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่กลัวใคร... ฉันรับรู้ได้ว่าตอนนี้แฮรดริกคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ละมั้ง หึ! ก็สมแล้วกับการที่เขาดูถูกผู้หญิงอย่างฉัน อะ!? หรือว่ามันจะน้อยไปสำหรับการกระทำของเขา
“เม...เจลล์...”
“อย่ามาเรียกชื่อฉัน!! คุณมันทุเรศ!” ฉันถอยหลังแล้วผลักประตูปิดแต่ทว่า...
กึก!
มือหนาของแฮรดริกกลับดันมันเอาไว้... และทุกคนคงรู้ว่าผู้หญิงอย่างฉันจะมีแรงสู้ผู้ชายอย่างเขาได้ยังไง!! Shit ฉันสบถในใจด้วยความโมโห
“ผมขอโทษ...”
“...นายดูถูกฉัน”
“ผมใจร้อนไปหมดตอนที่เห็นคุณอยู่ในห้องกับผู้ชาย...แถมสภาพยัง...” ฉันเบือนหน้าหนีก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แค่เห็นแค่นั้นผมก็เจ็บมากรู้ไหมเมเจลล์...” แฮรดริกโอบกอดเข้าที่ตัวฉันเบาๆ...ฉันรู้ได้เลยว่าหัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นส่ำ ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีที่ถูกเขากอด... พระเจ้า O_O ฉันกำลังเป็นบ้า!
ไม่มีทางหรอกน่า! ฉันกระพริบตาถี่ๆ ไล่ความคิดแปลกๆ ที่ฉันยอมอ่อนข้อก็เพราะอยากให้เขาไปจากสถานที่บ้าๆ ที่มันเป็นสถานที่ ‘แก้แค้น’ ครั้งแรกของฉันต่างหาก!
“แล้วผู้ชายคนนั้นคือใคร...”
แฮรดริกผละออกจากฉันก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงใจเย็น ราวกับมีก้อนกระดูกชิ้นใหญ่หลุดติดคอ...ฉันกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกก่อนจะประมวลความคิดว่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตอนนี้ได้อย่างไร...
“นั่นมัน...ก็แค่เพื่อน” ฉันพูดเสียงฉุน ทำทีเหมือนกับว่ายังคงโกรธเขาอยู่ ก่อนจะพูดต่อ “หมอนั่นแฮงค์นิดหน่อยนะ...อย่าไปสนใจเลย” ฉันยักไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะเดินออกนอกห้องแต่ทว่า...
“มันจะจริงเหรอ~” น้ำเสียงที่สะอิดสะเอียนของ ‘เพื่อนรัก’ ดังออกจากทางไหนซักทางก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากที่ซ่อน (?) แล้วเหยียดยิ้มที่มุมปากให้กับฉัน ฉันเผลอกำชายเสื้อของแฮรดริกแน่นด้วยความหัวเสีย นังบ้านี่ทำไมถึงมาผิดจังหวะแบบนี้ฮะ!! L
“หมายความว่ายังไงกัน?” แฮรดริกพูดเสียงเบา
“หึ ผู้ชายในห้องอาจจะมีความสัมพันธ์อะไรกับหล่อนก็ได้นะแฮรดริก...”
“เมเจลล์บอกว่าเป็นแค่เพื่อน ใช่ไหมเมเจลล์?”
“...” ฉันเงียบ ลำคอราวกับขาดน้ำมาล่อเลี้ยง ให้ตายสิ ฉันว่าสถานการณ์ตอนนี้ชักไม่เข้าท่าซะแล้ว
“ว่าไงเมเจลล์~ จะไม่พูดอะไรหน่อยรึไง”
“นั่นเป็นแค่เพื่อนของฉันแอนโบนี! เธอละมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันก็มาเที่ยวที่นี่ประจำ แต่แปลกนะ...ไม่เคยเห็นเธอมาที่นี่เลย เธอพึ่งจะมาสินะ?”
“เปล่าหรอก ฉันเคยมาแล้วละ แค่เธอไม่เห็นฉันก็เท่านั้น”
“จริงเหรอ...อะ! ว่าแต่ฉันลืมประเด็นนี้ไปได้ยังไงนะ” แอนโบนีพูดกับตัวเองพร้อมทั้งส่ายหัวไปมา “ผู้ชายที่นอนอยู่นะ ใช่ ‘แฟนเก่า’ เธอรึเปล่า?”
“อะ...อะไร? เธอหมายความว่ายังไง!!?”
“หึ! ตกใจมากรึไง ‘เพื่อนของฉัน’ J”
“หืม? จริงสิ คุณรู้จักกับเมเจลล์ได้ยังไง? แล้วที่พูดหมายความว่ายังไง” แฮรดริกมองหน้าแอนโบนีด้วยความสงสัย อย่าบอกนะยัยบ้า! ถ้าเธอบอก... เธอได้เจอดีแน่!
“อะไรกันแฮรดริก~ คุณยังไม่รู้เหรอว่า ‘แฟนเก่า’ ของเมเจลล์นะคือผู้ชายคนนั้น” แอนโบนีลากนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไปสบเข้ากับบุคคลที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง แฮรดริกหันหลังมองตามสายตาของแอนก่อนจะนิ่งค้างไว้ราวกับช็อกนิดๆ... “และเธอก็คือ... ‘เพื่อน’ ของฉันยังไงล่ะ :) ว่าแต่คุณเถอะ รู้จักเมเจลล์ได้ยังไง”
“ผมเป็นเพื่อนข้างห้องของเธอ...” แฮรดริกหันมาสบตาฉันช้าๆ เอาอีกแล้ว...สายตาที่ตัดพ้อ
“แฮรดริก...” ฉันเรียกชื่อของเขาแผ่วเบาราวกับจะขาดใจ ทำไมพระเจ้าไม่ยอมให้ฉันเป็นคนคุมเกม! ท่านทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน!!?
“...ยังไงก็แค่แฟนเก่า” แฮรดริกนิ่งไปสักพักก่อนจะหันหน้ามาสบตาฉันเบาๆ ก่อนจะเอยคำพูดออกมาจากริมฝีปากสีแดงติดจะคล่ำนิดๆ แววตาที่เขามองมาเมื่อกี้มันบอกผ่านเป็นนัยว่าผิดหวังในตัวฉันมาก นัยน์ตาที่สั่นระรัวทำให้ฉันต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่เขาจะพูดต่อ “ที่ไม่มีเยื่อใยให้แก่กันแล้ว...จริงไหมเมเจลล์”
แฮรดริกถามฉัน ฉันได้แต่เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ไม่รู้จะพูดอะไร ในลำคอมันตีบตันไปหมด หึ! ไหนยมทูตเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่า ‘เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์’ จะเปลี่ยนไป แล้วทำไมไอ้โรคขี้ขลาดนี้ไม่หายไปจากตัวฉันสักที!!?
“คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าพวกเขาไม่มีเยื่อใยให้กันแล้ว”
“...”
“ในใจก็ยังรู้สึกสับสนอยู่สินะ... พูดอะไรหน่อยสิเมเจลล์~”
“...ฉันจะพิสูจน์เอง” ฉันพูดเสียงราบเรียบก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาแฮรดริกอย่างสื่อความหมาย
ฉันเขย่งเท้าขึ้นจูบแฮรดริกด้วยความรวดเร็ว ราวกับโลกจะหยุดหมุน เราจูบกันเนิ่นนานอย่างไม่มีใครยอมใคร แฮรดริกถอนริมฝีปากออกห่างไปนิดหน่อยเมื่อเห็นท่าทีว่าฉันเริ่มไม่มีอากาศหายใจ และทันทีที่ฉันได้สูดอากาศเข้าไปเพียงอึดใจเดียว เขาก็รวบตัวฉันแล้วจูบอีกครั้งอย่างรวดเร็ว! O_O/ / จูบที่เร่าร้อนและร้อนแรงเริ่มแผดเผาใจของฉันให้ลุกเป็นไฟ ราวกับร่างกายจะละลายกองลงไปกับพื้นเพียงเพราะจูบที่ดุเดือดดั่งหมาป่าที่หิวโหยเหยื่ออันโอชะของมัน ผ่านไปสักพักจูบที่เริ่มร้อนแรงกลับแปรผันเป็นจูบที่หอมหวานและนุ่มนวล
ฉันเคลิบเคลิ้มอยู่อย่างนั้นราวกับตัวเองไม่มีสติติดตัว... โดยที่ฉันไม่รู้เลยว่า...ตัวเองกำลังเดินอยู่บนหมากของใครสักคนที่กำลังรอ ‘แก้แค้น’ ฉันอยู่!
@ Jimmy Hotel, 10.23 A.M.
ติ๊ดๆ!
ฉันโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มหนานุ่มสีฟ้าน้ำทะเลก่อนจะคล่ำหา iPhone รุ่นล่าสุดที่กำลังส่งเสียงร้องน่ารำคาญอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโต๊ะ ให้ตายสิ! มันอยู่ไหนนะ! :( ฉันคล่ำหามันอยู่ไม่นานนักก็เจอมันแล้วตัดสายจากคนที่โทรมาทันทีโดยที่ไม่มองหน้าจอก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง...
ติ๊ดๆ! ติ๊ดๆ!
พระเจ้า!! ฉันจะได้นอนไหมเนี้ย!?! ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนขนาดควีนไซต์สีขาวสะอาดด้วยความโมโหจัดพร้อมๆ กับขยี้ตาตัวเองแล้วหยิบ iPhone มาดูว่าใครกันนักหนาที่โทรหาฉันเวลานอน ไม่รู้รึไงว่าเวลานี้ปกติฉันไม่ชอบให้ใครกวนนักหรอกนะ! L เพราะมันเป็นเวลานอนของฉัน!
‘แฮรดริก’
พลันใบหน้าที่ดูบึ่งตึงเมื่อสักครู่กลับกลายเป็นเหยียดยิ้มกว้างด้วยความพอใจเมื่อคนที่โทรมา ‘สำคัญ’ พอที่จะทำให้ฉันโกรธไม่ลง
“ฮัลโหล...” ฉันกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย (จริงๆ)
[เมเจลล์! คุณอยู่ที่ไหนนะ ทำไมคุณยังไม่มาตามนัด...] น้ำเสียงร้อนรนดังมาจากปลายสาย อะ! O_O จะว่าไปแล้วเมื่อคืนตอนที่แฮรดริกมาส่งฉันที่ Jimmy Hotel เขานัดฉันให้ไปพบเขาที่ Smell Coffee Shop เพื่อจะบอกเรื่องบางอย่างที่สำคัญกับฉันนี่นา! พระเจ้า! ฉันสาย
“พระเจ้า... แฮรดริก...ฉันขอโทษ” ฉันพูดเสียงอ่อนด้วยความสำนึกผิด
[คุณยังไม่ตื่นสินะ...] น้ำเสียงเศร้าสร้อยดังมาจากปลายสาย
“ฉันขอโทษแฮด... ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
[ไม่ต้องหรอกเมเจลล์]
“หืม... คุณไม่ให้ฉันไป?”
[ผมจะไปหาคุณเอง]
“!” ฉันนิ่งไปนิดนึ่งก่อนจะตั้งสติได้แล้วพูดต่อ “คุณจะมาอย่างงั้นเหรอ... แฮด”
[คุณไม่อยากให้ผมไป?]
“มะ...ไม่ใช่! มันไม่ใช่นะคะแฮด โอเคคะ...แล้วเจอกันนะค่ะ”
ติ๊ด!
หลังจากที่ฉันพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที แฮรดริกจะมาที่นื้อย่างงั้นเหรอ ทำไมลางสังหรณ์ของฉันมันบอกว่าจะมีเรื่องบางอย่างที่สับสนรอฉันอยู่... หมายความว่ายังไงกันนะ?
10.56 A.M.
“แฮรดริก~ในที่สุดคุณก็มา J” ฉัน (แสร้งทำเป็น) ยิ้มกว้างต้อนรับเขาอยู่ที่หน้าประตูห้องของฉันด้วยชุดเรียบๆ ธรรมดาๆ ที่ฉันมักชอบใส่เวลาอยู่ที่บ้าน แฮรดริกยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้าของฉัน เขาโอบกอดฉันราวกับคิดถึงจับใจ
“ผมคิดถึงคุณมากเลยเมเจลล์” นั่นไงละ!
เขายิ้มหวานใส่ ฉันจึงฉีกยิ้มกว้างใส่คนตรงหน้าก่อนจะเชิญชวนเขาเข้าห้อง (?) แล้วเริ่มต้นพูดถึง ‘เรื่องสำคัญ’ ที่เขาอยากจะพูดกับฉัน
“ไหนคุณบอกว่าจะบอกเรื่องสำคัญไงคะ”
“อ๋อ! เรื่องที่ผมจะบอกคุณก็เรื่องที่เราจะไปเข้าแคมป์ที่ป่าเขตอุทยานในภาคเหนือยังไงละครับ ที่จริงมันก็ไม่ใช่การเข้าแคมป์หรอก มันเป็นกิจกรรมของชุมนุมเราก็เท่านั้นเอง” แฮรดริกยักไหล่ นั่นทำให้ฉันงงขึ้นเรื่อยๆ
“คุณ...หมายถึงอะไรกัน?”
“ผมรู้ว่าคุณรู้แล้ว แต่ผมแค่มาเตือนให้รีบแพ็กกระเป๋าเตรียมตัวไว้ให้พร้อมนะครับ” แฮรดริกส่งยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินดูรอบๆ ห้อง...
เข้าแคมป์? ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลยละ!?
“แฮรดริก! คุณพูดเรื่องอะไรนะ...ฉันไม่รู้เรื่อง”
“หืม...แอนโบนียังไม่ได้บอกคุณอย่างงั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไง” เขาหันมาสบตากับฉันก่อนจะจับคางครุ่นคิด เกี่ยวกับแอนโบนีเหรอ ฉันว่าหล่อนต้องแกล้งฉันแน่ๆ!
“ช่างมันเถอะคะ... ถือว่ามันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์...” ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะพูดต่อ “เซอร์ไพรส์ที่แสนวิเศษด้วยคะ J” หึ! แล้วเธอจะรู้สึกว่าการลองดีกับคนที่ชื่อ ‘เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์’ มันเป็นยังไง!
“ครับ... ว่าแต่คุณยังไม่ได้ทานข้าว งั้นผมทำอะไรให้ทานนะครับ”
“คุณทำเป็น?”
“หึ...ไม่ใช่แค่ทำเป็นนะครับ J” เขายักคิ้วให้ฉันหนึ่งทีก่อนจะพูดต่อ “แต่เชฟยังเรียกพี่เลย~”
กรี๊ดดด~ ฉันอยากจะตบหน้าหมอนี่จริงๆ! ให้ตาย แฮรดริกเป็นคนหลงตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี้ย
เขาเดินผ่านตัวฉันเข้าไปในห้องครัว ทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายที่ทำให้ฉันนิ่งค้างราวกับไม่ได้สติ ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในห้องครัว แฮรดริกหยิบจับของในห้องครัวอย่างคล่องแคล่วจนฉันทึ่งในฝีมือของเขา ให้ตาย! O_O เขานี่เป็นพ่อบ้านได้เลยนะเนี่ย
ฉันมองเขาทำอาหารไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินก่อนจะเอ่ยปากถามเขาเพราะไม่มีอะไรจะพูด
“แฮรดริก...แล้วในทริปนี้มีใครไปบ้างละ”
“ก็...เราสองคน แอนโบนี เพื่อนของแอนโบนี แล้วก็คนกลุ่มอื่น”
“คนกลุ่มอื่น?” ฉันทวนถามเขาเบาๆ ขณะที่ตาฉันยังจ้องอยู่ที่อาหารเขาอยู่
“ใช่...ทริปนี้จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม เราอยู่กลุ่ม A ส่วนพวกบิลเลียนกับแกมม่าอยู่กลุ่ม B” หมายความว่ายังไงกัน...บิลเลียนกับแกมม่า (พวกเขาเป็นเพื่อนฉันนะ) พวกเขาไปด้วยอย่างงั้นเหรอ! แล้วแฮรดริกรู้จักพวกเธอได้ยังไงกัน!?
“คุณรู้จักบิลเลียนกับแกมม่าได้ยังไงกัน”
“ฮ่าๆๆ ถามอะไรแปลกๆ เมเจลล์ คุณลืมผมหรือยังไง ผมแฮรดริกที่อยู่ห้องข้างๆ คุณนะ”
“ห้องข้างๆ?”
“อะไรกันเมเจลล์ วันนี้คุณดูแปลกๆ อีกแล้วนะ ก็เกรดสิบสองห้อง B ไง คุณห้อง C พวกเราเจอกันหลังโรงเรียนเป็นครั้งแรก พวกเราปิ๊งกัน ไม่นานเราก็เป็นแฟนกันอย่างที่เห็นคุณเหมือนพวกความจำเสื่อมเลยเมเจลล์ อย่าทำให้ผมตกใจสิ”
“...”
‘ยมทูต! ยมทูต BK หมายเลข 79’ ฉันตะโกนเสียงดังอยู่ในใจ ฉันไม่ชอบเลย ให้ตาย เวลาที่พูดกับตัวอะไรสักอย่างที่ไม่เคยเห็นหน้าผ่านโทรจิต =_=; มันน่าขนลุกชะมัด
‘หืม...ว่ายังไง ‘เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์เรียกฉันมีธุระอะไรอย่างงั้นเหรอ’ น้ำเสียงเย็นยะเยือกก้องอยู่ในหัวฉัน น้ำเสียงชวนขนลุกนั่นทำให้ฉันอยากจะเห็นหน้าคนพูดให้รู้แล้วรู้รอด!
‘ทำไมคนที่ฉันไม่เคยรู้จักหรือแฮรดริกถึงได้รู้เรื่องของฉัน แถมเขายังเป็นแฟนฉันมันหมายความว่ายังไงกันแน่ แล้วทำไมเขาถึงได้อยู่เกรดเดียวกับฉัน’
‘อะไรกันเมเจลล์~ ฉันแค่ส่งหมอนั่นให้ไปช่วยเธอได้ทุกสถานการณ์ยังไงล่ะ’
‘ถามฉันหรือเปล่าว่าต้องการ!’
‘ถ้าเธอไม่มีเขา เธอจะต้องเสียใจเมเจลล์ เพราะตัวเขาคือ ‘กุญแจ’ ที่จะทำให้เธอชนะ...’
‘ไม่...’
“เมเจลล์! คุณเป็นอะไรนะ” ฉันสะดุ้งเฮือกทันทีที่ร่างฉันสั่นไปทั้งตัว เขาเป็นคนเขย่าฉันอย่างงั้นเหรอ
“ไม่ๆ แฮรดริก! ฉันไม่เป็นไร” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ... เห็นคุณเหม่ออยู่ตั้งนานก็เลยนึกว่าคุณจะเป็นอะไร”
“ฉันแค่คิดอะไรเงียบๆ นะ ว่าแต่ทำไมพวกบิลเลียนกับแกมม่าถึงไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราล่ะ” ฉันเบี่ยงเบนประเด็น ไม่ให้เขาสนใจในตัวฉัน...สักพัก
“มีสซิสมาริลีนสั่งให้พวกเขาไปอยู่กลุ่มอื่นนะ เพราะดูเหมือนว่าทางกลุ่ม B จะไม่ค่อยมีผู้นำเลย”
“เกี่ยวกับมีสซิสด้วยอย่างงั้นเหรอ?”
“เมเจลล์...ผมสงสัยจริงๆ นะว่าคุณเป็นอะไร แต่ช่างมันเถอะ ผมเริ่มชินนิดๆ ซะแล้วละ ^^ ก็ที่เราจะไปเข้าแคมป์กันเนี่ยมันเป็นกิจกรรมของคลาสเรียนวิชาเลือก ซึ่งพวกเราทั้งหมดทั้งกลุ่ม A และกลุ่ม B ได้ลงเลือกวิชาพัฒนาท้องถิ่น และอีกสองวันก็จะเป็นผลงานชิ้นแรกที่เราจะได้ทำ”
“เราไม่ได้ไปเข้าแคมป์กันธรรมดาเฉยๆ อย่างงั้นเหรอ”
“ใช่...เราต้องไปพัฒนาท้องถิ่นที่หมู่บ้านนั้นด้วย”
“แล้วเราจะไปนอนที่นั่นกันกี่คืนละ”
“คงสักประมาณสามวัน...มั้ง”
“หมายความว่ายังไง ไอ้มั้งเนี้ย คุณไม่แน่ใจอย่างงั้นเหรอ”
“อืม =O=;;”
“งั้นฉันจะจัดเสื้อผ้าได้ยังไงล่ะ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปกี่วัน –_–”
“ไม่รู้สิ...” แฮรดริกยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะตักอาหารที่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรลงบนจาน กลิ่นหอมของมันทำให้ฉันเผลอลืมทุกสิ่งทุกอย่าง...ไปจนหมดสิ้น
คืนนั้น...
ร่างบางในชุดเดรสสั้นสีแดงสดก้าวเท้าลงมาจากเมอร์ซิเดสเบนซ์สีแดงเพลิงของเธอก่อนจะเหยียดยิ้มทีมุมปากบางๆ เมื่อเธอมาถึง ‘ที่หมาย’ ได้ในทันที
เธอล้วงมือเรียวยาวเข้าไปในกระเป๋าคลัตช์ของ CHANEL ที่เข้ากับชุดของเธอเพื่อหาโทรศัพท์มือถือก่อนจะกดโทรออกหาใครสักคน...
รอสายได้ไม่นาน คนๆนั้นก็กดรับอย่างรวดเร็ว
[ฮัลโหล]
“Hi~J เป็นไง ‘แผน’ สำเร็จรึเปล่า”
[ครบถ้วน ดีทุกอย่าง]
“หึ...ดีมาก!” ริมฝีปากแดงสดที่เคลือบด้วยลิปสติกของแชแนลเหยียดยิ้มกว้างอย่างพึ่งพอใจเมื่อรับรู้ว่า ‘แผน’ ของเธอสำเร็จทุกอย่าง
[หวังว่าเธอจะไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับฉัน] ปลายสายบอกเสียงเข้ม
“ฉันไม่มีทางลืมหรอกน่า~”
[ก็ดี!]
ติ๊ด!
เธอยกโทรศัพท์ออกจากใบหูก่อนจะเหลือบมองป้ายขนาดใหญ่ยักษ์ที่เขียนไว้ว่า... Jimmy Hotel!
“หึ! เธอจะได้รู้ว่า ‘คนอย่างฉัน’ สามารถฆ่าเธอตายทั้งเป็นได้! ‘เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์’ ”
(To be Continued)
ความคิดเห็น