คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : :: Prologue Loading 100%::
Prologue
จงจำไว้...ทำอะไรกับใครไว้ คุณจะได้สิ่งนั้นตอบแทน!
Remember...do what I did you will get it in return!
@ Dazzle High School, 01.10.25x6
บรรยากาศภายในโรงเรียน Dazzle High School ทำให้ใครหลายคนที่เดินหรือขับรถผ่านต่างรู้สึกครึกครื้นกันอย่างถ้วนหน้า ป้ายไม้ขนาดใหญ่ยักษ์สลักอักษรภาษาอังกฤษว่า ‘The Celebration Complete 49 Year’ เพื่อให้เห็นว่าอาเซียนกำลังเข้าประเทศไทยแล้ว ณ ขนาดนี้! เด็กนักเรียนของแดซเซิล ไฮฯ ทั้งชายและหญิงต่างเดินเข้าไปข้างในด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มสดใส ซุ้มขายของมีอยู่รอบๆ ทางเดินที่เข้าสู่ฮอล์ล ร้านต่างๆ ตกแต่งกันอย่างสวยงามจนสุดฝีมือเพื่อให้เป็นที่น่าเดินไปจับจ่ายซื้อของ
ภายในฮอล์ลของโรงเรียน Dazzle High School มีเนื้อที่ประมาณสิบไร่เห็นจะได้ จุคนได้หลายพันคนเลยทีเดียว พิธีกรเสียงใสของสถาบันแห่งนี้มีใบหน้าที่งดงามราวกับถูกจับวาง นัยน์ตากลมโตสีม่วงเข้มน่าหลงใหล แถมยังเซ็กซี่และมีนัยน์ตาเฉี่ยวคมสุดเท่ ริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูนูดของแชแนลเผยบางๆ เรียกเสน่ห์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี กิริยานั้นทำให้ผู้ชายหลายคนที่อยู่ในฮอล์ลเกิดอาการ ‘คลั่งตาย’ และเพ้อฝันว่าจะได้จูบกับริมฝีปากบางนั้น พิธีกรสาวคนนั้นมีชื่อว่า ‘ยาหยี’ เป็นสาวไทยแท้ที่หน้าตาราวกับคนกิมจิ ถ้าหากว่าเธอไม่ได้ไปศัลยกรรมมานะน่ะ..แต่ก็อย่างว่า -*- เธอไม่ได้ไปศัลยกรรมแต่อย่างใดเพราะเธอสวยมาแต่เกิด! ยาหยีเป็นหนึ่งในสาวผู้มีอิทธิพลของ Dazzle High School โดยผู้มีอิทธิพลจะเรียกแทนตัวว่า ‘Seven Star’ หรือ ‘SS’ และทั้งเจ็ดจะมีโค้ดเนมให้เรียกแทนตำแหน่งของตัวเองและโค้ดเนมที่ว่าจะต้องเป็นไปตามความจริง โค้ดเนมของยาหยีเรียกว่า ‘Beauty Star’ สมกับตัวของเธอ ตัวเธอมีเสน่ห์น่าค้นหา นัยน์ตาสีม่วงทำให้เธอดูน่าค้นหาขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
ว่ากันว่าเซเว่นสตาร์คือ ‘หน้าตา’ ของสถาบันแห่งนี้ เรียกนักเรียนต่างๆ ให้หันกรูเข้ามาสมัครที่นี้กันท่วมท้น และเซเว่นสตาร์คือเสาหลักของที่นี้เลยก็ว่าได้ พ่อของเธอเป็นถึงนายกของเมืองสทริคท์ ซิตี้ (Strict City) แห่งนี้ทำให้เธอได้เข้ามาอยู่ในเซเว่นสตาร์ได้แบบง่ายๆ แต่ถ้ามองอีกด้าน ถ้าหากว่าพ่อเธอไม่ได้เป็นนายก เธอเป็นเพียงคนธรรมดาแต่เชื่อเถอะว่า...เธอจะได้มาอยู่ในเซเว่นสตาร์ได้แบบง่ายๆ ขอเพียงเธอมีความ ‘พิเศษ’ ในตัวนะน่ะ J
[เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเชิญประธานมาเปิดพิธีค่ะ...]
แปะๆๆ แปะๆๆ
หลังจากยาหยีพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นทั่วฮอล์ล เธอยืนรอมอบไมล์ให้กับประธานหรือก็คือพ่อของเธอก่อนจะเดินลงมานั่งเก้าอี้สุดหรูหน้าสุดที่มีไว้สำหรับ Seven Star ในฐานะคนที่พิเศษที่สุดของ Dazzle High School แห่งนี้
“ให้ตายสิ! ฉันเบื่อที่นี้เป็นบ้า”
‘ไอริส’ หญิงสาวหนึ่งใน Seven Star บ่นเบาๆ อย่างเบื่อหน่าย โค้ดเนมของเธอคือ ‘Feeble Star’ ซึ่งแปลว่าอ่อนแอ เธอยอมรับว่าตัวเองอ่อนแอก็จริงแต่... อ่อนแอในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสมองและก็ไม่ได้หมายถึงสภาพร่างกาย ที่เธอตั้งโค้ดเนมของเธอว่าอ่อนแอก็เพราะว่า ‘A woman who is valuable is feeble woman but do not lack of the brain’ หรือ ‘ผู้หญิงที่มีค่าคือผู้หญิงที่อ่อนแอแต่ไม่ไร้ความฉลาด’ นั้นแหละคือคติประจำตัวของเธอ แต่มันเป็นความหมายแฝง อันที่จริงแล้วเธอเป็นคนเข้มแข็ง แข็งแกร่งแต่ถ้าหากเธอแสดงคาแร็กเตอร์แบบนั้นออกมามีหวังผู้ชายได้สูญสลายหายไปหมดแน่ เพราะแบบนั้นเธอจึงต้อง ‘เสแสร้ง’ แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อต้องการให้ใครสักคนมาดูแลเธอ...ให้หลุดพ้นจากอดีตที่ดำมืดจนไม่เห็นหนทางข้างหน้าว่าตัวเองจะเดินไปทางไหน ขอแค่ใครสักคนที่พาเธอออกจากหลุมดำนั้น...เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ยาหยียักไหล่แบบไม่ยี่หระก่อนจะสะบัดผมสีแพลตินั่มบลอนด์ของเธอไว้ที่หลังเพื่อคลายร้อนก่อนจะนั่งไขว้ห่างเรียกเรียวขาสวยสุดเซ็กซี่ออกมาให้ทุกคนเห็นเป็นประจักษ์
เวลาผ่านไปเนินนานคุณพ่อของเธอก็อภิปรายจนจบ ยาหยีลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินผ่านหน้าพวก Seven Star ออกนอกฮอล์ลไปตามมารยาท อันที่จริงเธออยากจะออกมาตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้า...ไม่สิ เธอไม่อยากมาที่นี้เลยก็ว่าได้! ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องราวเมื่อหนึ่งปีก่อนมันโหดร้ายและเจ็บปวดยังไงบ้าง แต่คนที่เจ็บปวดที่สุดเห็นจะเป็นยาหยี ถ้าหากพวกเขาย้อนเวลาไปได้ พวกเขาคงไม่ทำ ‘เรื่องแบบนั้น’ กับ ‘เธอ’ คนนั้นหรอก
‘ลีวายส์’ ชายหนุ่มผมสีดำสนิท นัยน์ตาสีเดียวกับผมดูเข้ากันได้ดี เขาเป็นหนึ่งใน Seven Star โค้ดเนมของเขาคือ ‘Prudent Stat’ ซึ่งหมายความว่า สุขุม ฉลาด ด้วยหัวสมองระดับเขาทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในเมืองสทริคท์ ซิตี้แห่งนี้โดยปริยาย เขาหันไปส่งสายตาเป็นเชิงให้ตามยาหยีไปให้กับพวก Seven Star ทุกคนพยักหน้าตามๆ กันก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วรีบตามยาหยีไปทันที
ยาหยีเดินทอดน่องดูของที่ร้านต่างๆ นำมาขายอย่างเหม่อลอย ในใจเธอคิดถึงแต่เขาคนนั้นใจจะขาด ‘เขา’ เปรียบกับสายลมที่หลงฤดู พัดผ่านมาหาเธอนำความสุขมามอบให้ แต่พอนานวันเข้าสายลมนั้นก็พัดผ่านหายไปจากเธอและทิ้งความเจ็บปวด เสียใจไว้ที่เธอ...เพียงคนเดียว
“นายไปไหนนะ...”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยจิตใจที่โหยหาและอยากจะบอกความจริงกับเขาคนนั้นใจจะขาด ในหัวเหมือนกับเทปที่กรอกลับ ภาพเมื่อวันวานหวนคืนเข้าสู่สมองของเธออย่างรวดเร็ว เธอหลับตาพริ้มก่อนที่น้ำใสๆ จะไหลออกมาจากนัยน์ตาสีม่วงเข้มของเธอ ตอนนี้เธอไม่เหมือนกับหญิงสาวที่ฮอตปรอทแตก ใบหน้าของเธอเศร้าหมองลงต่างจากก่อนโดยสิ้นเชิง หญิงสาวที่แสนสดใสที่เก่งกล้าหายไปจากสถาบันนี้แล้ว...
ยาหยีหยุดเดินแล้วมองไปข้างหน้าเธอ ห้องชมรมประสานเสียงที่เป็นจุดเริ่มต้นของ ‘ความรัก’ และ ‘ความเศร้า’ ตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า สภาพของมันตอนนี้แลดูทรุดโทรมยิ่งนัก ลักษณะของห้องชมรมประสานเสียงแตกต่างจากห้องชมรมของที่อื่น เพราะมันมีลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ เสียมากกว่า
เธอยิ้มนิดๆ ที่มุมปากเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนที่เธอมีความสุขกับเขาที่นี้ เธอผลักประตูเข้าไปก่อนจะแปลกใจที่ทำไมห้องนี้ถึงยังไม่ถูกปิดตายเหตุเพราะเรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อน และมันก็เกี่ยวกับเธอโดยตรง! ยาหยีเดินเข้าไปข้างในตัวบ้าน (ห้องชมรม) สำรวจตรวจตราว่ามีอะไรที่แตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงจากเมื่อก่อนหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่เลย...ไม่มีสิ่งไหนเปลี่ยนแปลงและสูญหาย
แอ๊ด~
ยาหยัหันไปข้างหลังเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู หัวใจที่เต้นถี่รัวด้วยความหวาดกลัวผุดขึ้นน้อยๆ ที่กลางอก แต่แล้วมันกลับหายไปเมื่อเห็นผู้ที่เปิดประตูเข้ามา
“ไอริส...มาที่นี้ทำไม” ยาหยีถามก่อนจะหมุนตัวกลับไปสำรวจต่อ
“ฉันเป็นห่วงเธอ ไม่ใช่ฉันคนเดียวสิ ยังมีพวกเพื่อนๆ ของเราที่เป็นห่วงเธอด้วยนะยาหยี ฉันรู้ว่าเธอยังไม่ลืมเรื่องนั้น แต่ได้โปรดลืมมันซะเถอะ...เขาไม่มาแล้วละ” ไอริสเดินเข้ามาก่อนที่พวก Seven Star คนอื่นๆ จะตามเข้ามาจนครบทุกคน ยาหยียิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหัวไปมาเบาๆ
“มัน...ลืมได้ง่ายๆ ที่ไหนกันละ” ยาหยีก้มหน้าต่ำ เจอร์ราซเห็นท่าว่าไม่ดีจึงรีบพูดขึ้นทำลายบรรยากาศเศร้าหมองเมื่อกี้ทันที
“เอาน่า! ยังไงพวกเราก็ไม่เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ แล้วมิ...”
“ห้ามพูดชื่อนั้น!!!” ไอริสตะวาดเจอร์ราซเสียงดังด้วยใบหน้าหวาดกลัวปนร้อนใจ เจอร์ราซขอโทษขอโพยไอริสก่อนจะทำหน้าสำนึกผิด
“ฉันไม่เป็นไรหรอกทุกคน แล้วฉันก็...!!!”
ปัง!!!
เสียงปิดประตูดังขึ้นสะนั่น ความหวาดกลัวขึ้นมาเกาะกุมจิตใจของทุกคนแล้วตอนนี้! ใบหน้าของยาหยีซีดเผือกด้วยความหวาดกลัว ตัวสั่นทึมไปหมด ไม่นึกเลยว่าเรื่องนี้มันจะยังไม่จบ
“อะ...อะไรนะ!!!”
ไอริสชี้ไปที่มุมหนึ่งของห้อง เธอเหมือนกับเห็นเงาหนึ่งวูบผ่านไป อัตราการเต้นของทุกคนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไอริส! เธอพูดบ้าอะไรนะ!!” แรนดอมตะวาดใส่เธอเสียงดัง
“ก็ฉันเห็นจริงๆ! หรือว่าพวกนายไม่เห็น O_O มีเงาหนึ่งวูบผ่านเข้าไปในห้องนั้น...!!!”
แอ๊ด~
นิ้วเรียวยาวของไอริสที่ชี้ไปที่ประตูสั่นเล็กน้อย เหงื่อผุดขึ้นตามหน้าและตามตัว ราวกับเป็นเรื่องตลกแต่ทุกคนไม่ขำเลย ประตูที่ไอริสชี้เมื่อกี้เปิดเองราวกับเชิญชวนให้ทั้งเจ็ดคนเดินเข้าไป
ณ เวลานี้ทุกคนต่างตกใจและหวาดกลัวปะปนกันไปหมด...เหมือนกับเมื่อสามเดือนก่อน อารมณ์เดียวกันเปะ! O_O จู่ๆ น้ำเสียงชวนขนลุกก็เอ่ยขึ้น บรรยากาศที่เย็นแล้วยังผ่ายแพ้ให้กับน้ำเสียงของใครสักคนที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นใคร! มันเย็นเยียบและน่ากลัวชวนขนลุกแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดเคียดแค้นที่ไม่มีทางหายง่ายๆ!
“หมดเวลาสนุกแล้วสิ~...หึ!”
“กรี๊ดดดดดดดด!!!”
ปัง!
Talk!
ต้องขอขอบคุณมากๆ ที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ :) นักเขียนตัวน้อยๆ คนนี้ปลื้มใจมากๆ เลยครับ!
ยังไงก็ขอให้อ่านทุกตอนจนจบเลยนะครับ! และหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคน
Love you All <3
Darling-09
ความคิดเห็น