ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The End of ‘SS’ หลอกรักร้าย แก้แค้นหัวใจให้จำยอม!

    ลำดับตอนที่ #1 : :: Prologue Loading 100%::

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 55




     

    Prologue

     

    จงจำไว้...ทำอะไรกับใครไว้ คุณจะได้สิ่งนั้นตอบแทน!

    Remember...do what I did you will get it in return!

     

    @ Dazzle High School,   01.10.25x6

    บรรยากาศภายในโรงเรียน Dazzle High School ทำให้ใครหลายคนที่เดินหรือขับรถผ่านต่างรู้สึกครึกครื้นกันอย่างถ้วนหน้า   ป้ายไม้ขนาดใหญ่ยักษ์สลักอักษรภาษาอังกฤษว่า The Celebration Complete 49 Year เพื่อให้เห็นว่าอาเซียนกำลังเข้าประเทศไทยแล้ว ณ ขนาดนี้!   เด็กนักเรียนของแดซเซิล ไฮฯ ทั้งชายและหญิงต่างเดินเข้าไปข้างในด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มสดใส   ซุ้มขายของมีอยู่รอบๆ ทางเดินที่เข้าสู่ฮอล์ล ร้านต่างๆ ตกแต่งกันอย่างสวยงามจนสุดฝีมือเพื่อให้เป็นที่น่าเดินไปจับจ่ายซื้อของ

    ภายในฮอล์ลของโรงเรียน Dazzle High School มีเนื้อที่ประมาณสิบไร่เห็นจะได้ จุคนได้หลายพันคนเลยทีเดียว   พิธีกรเสียงใสของสถาบันแห่งนี้มีใบหน้าที่งดงามราวกับถูกจับวาง นัยน์ตากลมโตสีม่วงเข้มน่าหลงใหล แถมยังเซ็กซี่และมีนัยน์ตาเฉี่ยวคมสุดเท่   ริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูนูดของแชแนลเผยบางๆ เรียกเสน่ห์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี กิริยานั้นทำให้ผู้ชายหลายคนที่อยู่ในฮอล์ลเกิดอาการ คลั่งตายและเพ้อฝันว่าจะได้จูบกับริมฝีปากบางนั้น   พิธีกรสาวคนนั้นมีชื่อว่า ยาหยีเป็นสาวไทยแท้ที่หน้าตาราวกับคนกิมจิ ถ้าหากว่าเธอไม่ได้ไปศัลยกรรมมานะน่ะ..แต่ก็อย่างว่า -*- เธอไม่ได้ไปศัลยกรรมแต่อย่างใดเพราะเธอสวยมาแต่เกิด!   ยาหยีเป็นหนึ่งในสาวผู้มีอิทธิพลของ Dazzle High School โดยผู้มีอิทธิพลจะเรียกแทนตัวว่า ‘Seven Star’ หรือ ‘SS’ และทั้งเจ็ดจะมีโค้ดเนมให้เรียกแทนตำแหน่งของตัวเองและโค้ดเนมที่ว่าจะต้องเป็นไปตามความจริง   โค้ดเนมของยาหยีเรียกว่า ‘Beauty Star’ สมกับตัวของเธอ ตัวเธอมีเสน่ห์น่าค้นหา นัยน์ตาสีม่วงทำให้เธอดูน่าค้นหาขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว

    ว่ากันว่าเซเว่นสตาร์คือ หน้าตาของสถาบันแห่งนี้ เรียกนักเรียนต่างๆ ให้หันกรูเข้ามาสมัครที่นี้กันท่วมท้น และเซเว่นสตาร์คือเสาหลักของที่นี้เลยก็ว่าได้   พ่อของเธอเป็นถึงนายกของเมืองสทริคท์ ซิตี้ (Strict City) แห่งนี้ทำให้เธอได้เข้ามาอยู่ในเซเว่นสตาร์ได้แบบง่ายๆ แต่ถ้ามองอีกด้าน ถ้าหากว่าพ่อเธอไม่ได้เป็นนายก เธอเป็นเพียงคนธรรมดาแต่เชื่อเถอะว่า...เธอจะได้มาอยู่ในเซเว่นสตาร์ได้แบบง่ายๆ ขอเพียงเธอมีความ พิเศษในตัวนะน่ะ J

    [เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเชิญประธานมาเปิดพิธีค่ะ...]

    แปะๆๆ แปะๆๆ

    หลังจากยาหยีพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นทั่วฮอล์ล เธอยืนรอมอบไมล์ให้กับประธานหรือก็คือพ่อของเธอก่อนจะเดินลงมานั่งเก้าอี้สุดหรูหน้าสุดที่มีไว้สำหรับ Seven Star ในฐานะคนที่พิเศษที่สุดของ Dazzle High School แห่งนี้

    ให้ตายสิ! ฉันเบื่อที่นี้เป็นบ้า

    ไอริสหญิงสาวหนึ่งใน Seven Star บ่นเบาๆ อย่างเบื่อหน่าย   โค้ดเนมของเธอคือ ‘Feeble Star’ ซึ่งแปลว่าอ่อนแอ เธอยอมรับว่าตัวเองอ่อนแอก็จริงแต่... อ่อนแอในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสมองและก็ไม่ได้หมายถึงสภาพร่างกาย ที่เธอตั้งโค้ดเนมของเธอว่าอ่อนแอก็เพราะว่า A woman who is valuable is feeble woman but do not lack of the brainหรือ ผู้หญิงที่มีค่าคือผู้หญิงที่อ่อนแอแต่ไม่ไร้ความฉลาด  นั้นแหละคือคติประจำตัวของเธอ   แต่มันเป็นความหมายแฝง อันที่จริงแล้วเธอเป็นคนเข้มแข็ง แข็งแกร่งแต่ถ้าหากเธอแสดงคาแร็กเตอร์แบบนั้นออกมามีหวังผู้ชายได้สูญสลายหายไปหมดแน่ เพราะแบบนั้นเธอจึงต้อง เสแสร้งแกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อต้องการให้ใครสักคนมาดูแลเธอ...ให้หลุดพ้นจากอดีตที่ดำมืดจนไม่เห็นหนทางข้างหน้าว่าตัวเองจะเดินไปทางไหน ขอแค่ใครสักคนที่พาเธอออกจากหลุมดำนั้น...เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

    ยาหยียักไหล่แบบไม่ยี่หระก่อนจะสะบัดผมสีแพลตินั่มบลอนด์ของเธอไว้ที่หลังเพื่อคลายร้อนก่อนจะนั่งไขว้ห่างเรียกเรียวขาสวยสุดเซ็กซี่ออกมาให้ทุกคนเห็นเป็นประจักษ์

    เวลาผ่านไปเนินนานคุณพ่อของเธอก็อภิปรายจนจบ ยาหยีลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินผ่านหน้าพวก Seven Star ออกนอกฮอล์ลไปตามมารยาท   อันที่จริงเธออยากจะออกมาตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้า...ไม่สิ เธอไม่อยากมาที่นี้เลยก็ว่าได้!   ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องราวเมื่อหนึ่งปีก่อนมันโหดร้ายและเจ็บปวดยังไงบ้าง แต่คนที่เจ็บปวดที่สุดเห็นจะเป็นยาหยี   ถ้าหากพวกเขาย้อนเวลาไปได้ พวกเขาคงไม่ทำ เรื่องแบบนั้นกับ เธอคนนั้นหรอก

    ลีวายส์ชายหนุ่มผมสีดำสนิท นัยน์ตาสีเดียวกับผมดูเข้ากันได้ดี   เขาเป็นหนึ่งใน Seven Star โค้ดเนมของเขาคือ ‘Prudent Stat’ ซึ่งหมายความว่า สุขุม ฉลาด   ด้วยหัวสมองระดับเขาทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในเมืองสทริคท์ ซิตี้แห่งนี้โดยปริยาย   เขาหันไปส่งสายตาเป็นเชิงให้ตามยาหยีไปให้กับพวก Seven Star   ทุกคนพยักหน้าตามๆ กันก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วรีบตามยาหยีไปทันที

    ยาหยีเดินทอดน่องดูของที่ร้านต่างๆ นำมาขายอย่างเหม่อลอย ในใจเธอคิดถึงแต่เขาคนนั้นใจจะขาด   เขาเปรียบกับสายลมที่หลงฤดู พัดผ่านมาหาเธอนำความสุขมามอบให้ แต่พอนานวันเข้าสายลมนั้นก็พัดผ่านหายไปจากเธอและทิ้งความเจ็บปวด เสียใจไว้ที่เธอ...เพียงคนเดียว

    “นายไปไหนนะ...”

    หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยจิตใจที่โหยหาและอยากจะบอกความจริงกับเขาคนนั้นใจจะขาด   ในหัวเหมือนกับเทปที่กรอกลับ ภาพเมื่อวันวานหวนคืนเข้าสู่สมองของเธออย่างรวดเร็ว   เธอหลับตาพริ้มก่อนที่น้ำใสๆ จะไหลออกมาจากนัยน์ตาสีม่วงเข้มของเธอ   ตอนนี้เธอไม่เหมือนกับหญิงสาวที่ฮอตปรอทแตก ใบหน้าของเธอเศร้าหมองลงต่างจากก่อนโดยสิ้นเชิง หญิงสาวที่แสนสดใสที่เก่งกล้าหายไปจากสถาบันนี้แล้ว...

    ยาหยีหยุดเดินแล้วมองไปข้างหน้าเธอ   ห้องชมรมประสานเสียงที่เป็นจุดเริ่มต้นของ ความรักและ ความเศร้าตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า   สภาพของมันตอนนี้แลดูทรุดโทรมยิ่งนัก ลักษณะของห้องชมรมประสานเสียงแตกต่างจากห้องชมรมของที่อื่น เพราะมันมีลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ เสียมากกว่า

    เธอยิ้มนิดๆ ที่มุมปากเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนที่เธอมีความสุขกับเขาที่นี้   เธอผลักประตูเข้าไปก่อนจะแปลกใจที่ทำไมห้องนี้ถึงยังไม่ถูกปิดตายเหตุเพราะเรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อน และมันก็เกี่ยวกับเธอโดยตรง!   ยาหยีเดินเข้าไปข้างในตัวบ้าน (ห้องชมรม) สำรวจตรวจตราว่ามีอะไรที่แตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงจากเมื่อก่อนหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่เลย...ไม่มีสิ่งไหนเปลี่ยนแปลงและสูญหาย

    แอ๊ด~

    ยาหยัหันไปข้างหลังเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู หัวใจที่เต้นถี่รัวด้วยความหวาดกลัวผุดขึ้นน้อยๆ ที่กลางอก   แต่แล้วมันกลับหายไปเมื่อเห็นผู้ที่เปิดประตูเข้ามา

    “ไอริส...มาที่นี้ทำไม” ยาหยีถามก่อนจะหมุนตัวกลับไปสำรวจต่อ

    “ฉันเป็นห่วงเธอ   ไม่ใช่ฉันคนเดียวสิ   ยังมีพวกเพื่อนๆ ของเราที่เป็นห่วงเธอด้วยนะยาหยี   ฉันรู้ว่าเธอยังไม่ลืมเรื่องนั้น แต่ได้โปรดลืมมันซะเถอะ...เขาไม่มาแล้วละ” ไอริสเดินเข้ามาก่อนที่พวก Seven Star คนอื่นๆ จะตามเข้ามาจนครบทุกคน ยาหยียิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหัวไปมาเบาๆ

    “มัน...ลืมได้ง่ายๆ ที่ไหนกันละ” ยาหยีก้มหน้าต่ำ   เจอร์ราซเห็นท่าว่าไม่ดีจึงรีบพูดขึ้นทำลายบรรยากาศเศร้าหมองเมื่อกี้ทันที

    “เอาน่า! ยังไงพวกเราก็ไม่เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ แล้วมิ...”

    “ห้ามพูดชื่อนั้น!!!   ไอริสตะวาดเจอร์ราซเสียงดังด้วยใบหน้าหวาดกลัวปนร้อนใจ   เจอร์ราซขอโทษขอโพยไอริสก่อนจะทำหน้าสำนึกผิด

    “ฉันไม่เป็นไรหรอกทุกคน   แล้วฉันก็...!!!

    ปัง!!!

    เสียงปิดประตูดังขึ้นสะนั่น   ความหวาดกลัวขึ้นมาเกาะกุมจิตใจของทุกคนแล้วตอนนี้!   ใบหน้าของยาหยีซีดเผือกด้วยความหวาดกลัว ตัวสั่นทึมไปหมด   ไม่นึกเลยว่าเรื่องนี้มันจะยังไม่จบ

    “อะ...อะไรนะ!!!

    ไอริสชี้ไปที่มุมหนึ่งของห้อง เธอเหมือนกับเห็นเงาหนึ่งวูบผ่านไป   อัตราการเต้นของทุกคนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

    “ไอริส! เธอพูดบ้าอะไรนะ!!   แรนดอมตะวาดใส่เธอเสียงดัง

    “ก็ฉันเห็นจริงๆ! หรือว่าพวกนายไม่เห็น O_O   มีเงาหนึ่งวูบผ่านเข้าไปในห้องนั้น...!!!

    แอ๊ด~

    นิ้วเรียวยาวของไอริสที่ชี้ไปที่ประตูสั่นเล็กน้อย   เหงื่อผุดขึ้นตามหน้าและตามตัว   ราวกับเป็นเรื่องตลกแต่ทุกคนไม่ขำเลย ประตูที่ไอริสชี้เมื่อกี้เปิดเองราวกับเชิญชวนให้ทั้งเจ็ดคนเดินเข้าไป

    ณ เวลานี้ทุกคนต่างตกใจและหวาดกลัวปะปนกันไปหมด...เหมือนกับเมื่อสามเดือนก่อน อารมณ์เดียวกันเปะ! O_O   จู่ๆ น้ำเสียงชวนขนลุกก็เอ่ยขึ้น   บรรยากาศที่เย็นแล้วยังผ่ายแพ้ให้กับน้ำเสียงของใครสักคนที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นใคร! มันเย็นเยียบและน่ากลัวชวนขนลุกแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดเคียดแค้นที่ไม่มีทางหายง่ายๆ!

    “หมดเวลาสนุกแล้วสิ~...หึ!

    กรี๊ดดดดดดดด!!!”

    ปัง!

     

     

     To be Continued :p
    Talk!
    ต้องขอขอบคุณมากๆ ที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ :) นักเขียนตัวน้อยๆ คนนี้ปลื้มใจมากๆ เลยครับ!
    ยังไงก็ขอให้อ่านทุกตอนจนจบเลยนะครับ! และหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคน

    Love you All <3
    Darling-09

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×