ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Revenge Contract สัญญาร้าย เช็คบิลหัวใจ แก้แค้นรัก!

    ลำดับตอนที่ #6 : :: 4 Beginning The Vengeance 2 (end) 100%::

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 57



     

    4

    Beginning The Vengeance 2 (end)

     

    Majall : Part

    ฉันจิบไวท์ชั้นเลิศบนเตียงนอนสีขาวสะอาดที่ข้างๆ ตัวฉันมีร่างหนาของ อดีตแฟนนอนไม่ได้สติอยู่   จากการคาดเดาของฉัน อีกสักประมาณสิบนาทีอัลเบิร์ตต้องได้สติ เขาเป็นคนแบบนี้แหละ...เมาง่ายและก็หาย (เมา) ง่าย?

    ฉันเหลือบตาไปมองร่างหนาบนเตียงอีกครั้ง เสื้อถูกถอดออกเผยให้เห็นซิกซ์แพ็กส์เรียงตัวกันสวยงาม ไล่สายตาลงต่ำลงมาก็สะดุดเข้ากับวัตถุสีขาวๆ ที่โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา... อะไรนะ   ฉันยื่นมือเข้าไปหมายจะดึงวัตถุสีขาวออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อดูว่ามันคืออะไร มือหนาของอัลเบิร์ตก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือฉันทันที!

    อ๊ะ! O_O” ฉันเผลอร้องออกมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขาวใสของอัลเบิร์ต

    ละเมออย่างงั้นเหรอ...

    ฉันค่อยๆ แกะมือของอัลเบิร์ตออกก่อนจะดึงวัตถุต้องสงสัยนั่นออกมา... มันเป็นกระดาษขาวๆ แผ่นหนึ่ง   ฉันกำลังคลี่มันเปิดอ่านก็ต้องหงุดหงิดอีกครั้งเมื่อมีคนมาขัดใจ...

    ก๊อกๆ!!

    หึ! มาแล้วอย่างงั้นเหรอ... ฉันที่กำลังตีหน้าบึ่งเมื่อสักครู่พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นแย้มยิ้มโดยทันที J   ฉันยัดกระดาษแผ่นนั้นลงกระเป๋าที่อยู่ข้างตัวก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วไปเปิดประตูให้ หมากของฉัน

    แอ๊ด...

    ...!!!

    ฉันนิ่งค้างอยู่ตรงนั้นราวกับถูกแม่มดร่ายเวทมนตร์สาป มือเรียวของฉันกำลูกบิดแน่น   นัยน์ตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า

    เมเจลล์?แฮรดริกเรียกชื่อฉันเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วห้องจนสะดุดเข้ากับร่างหนาที่ไม่ได้สวมเสื้อนอนหลับใหลอยู่บนเตียง เขาเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจก่อนจะหันมาสบตาฉันช้าๆ แล้วพูดเสียงสั่น “นั่น...ใคร?”

    “...แฮด”

    “ผมถามว่าใคร!

    นั่นมัน...นั่นมันก็แค่เพื่อนของฉัน! ทำไมคุณต้องตะคอกฉันด้วยฉันพูดเสียงตัดพ้อ

    “เพราะอะไรนะเหรอ...หึๆ ก็เพราะผมเห็นแฟนตัวเองกำลังนอนอยู่กับผู้ชายคนอื่นยังไงล่ะ!

    เพียะ!!

    ราวกับมีนางมารร้ายสิงสู่อยู่ในตัวฉัน มือเรียวยาวของฉันสะบัดตบเข้าที่แก้มใสๆ ของแฮรดริกเสียงดังก้องไปถึงขั้วหัวใจ... ใบหน้าขาวใสหันไปตามแรงทิศที่ฉันตบ มีรอยสีแดงจัดอย่างเห็นได้ชัดเขาค่อยๆ หันมาสบตากับฉันช้าๆ...นัยน์ตาสีเขียวมรกตที่ดูอ่อนโยนบัดนี้มีเพียงแววตาที่เจ็บปวดและตัดพ้ออยู่ในที...

    มันต้องเป็นฉันไม่ใช่หรือไงที่ต้องทำหน้าแบบนั้น!

    สารเลว...ฉันเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่กลัวใคร... ฉันรับรู้ได้ว่าตอนนี้แฮรดริกคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ละมั้ง หึ! ก็สมแล้วกับการที่เขาดูถูกผู้หญิงอย่างฉัน อะ!? หรือว่ามันจะน้อยไปสำหรับการกระทำของเขา

    “เม...เจลล์...”

    “อย่ามาเรียกชื่อฉัน!! คุณมันทุเรศ!” ฉันถอยหลังแล้วผลักประตูปิดแต่ทว่า...

    กึก!

    มือหนาของแฮรดริกกลับดันมันเอาไว้... และทุกคนคงรู้ว่าผู้หญิงอย่างฉันจะมีแรงสู้ผู้ชายอย่างเขาได้ยังไง!! Shit   ฉันสบถในใจด้วยความโมโห

    “ผมขอโทษ...”

    “...นายดูถูกฉัน”

    “ผมใจร้อนไปหมดตอนที่เห็นคุณอยู่ในห้องกับผู้ชาย...แถมสภาพยัง...” ฉันเบือนหน้าหนีก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แค่เห็นแค่นั้นผมก็เจ็บมากรู้ไหมเมเจลล์...แฮรดริกโอบกอดเข้าที่ตัวฉันเบาๆ...ฉันรู้ได้เลยว่าหัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นส่ำ ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีที่ถูกเขากอด... พระเจ้า O_O ฉันกำลังเป็นบ้า!

    ไม่มีทางหรอกน่า! ฉันกระพริบตาถี่ๆ ไล่ความคิดแปลกๆ ที่ฉันยอมอ่อนข้อก็เพราะอยากให้เขาไปจากสถานที่บ้าๆ ที่มันเป็นสถานที่ แก้แค้นครั้งแรกของฉันต่างหาก!

    “แล้วผู้ชายคนนั้นคือใคร...”

    แฮรดริกผละออกจากฉันก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงใจเย็น    ราวกับมีก้อนกระดูกชิ้นใหญ่หลุดติดคอ...ฉันกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกก่อนจะประมวลความคิดว่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตอนนี้ได้อย่างไร...

    “นั่นมัน...ก็แค่เพื่อน” ฉันพูดเสียงฉุน ทำทีเหมือนกับว่ายังคงโกรธเขาอยู่ ก่อนจะพูดต่อ “หมอนั่นแฮงค์นิดหน่อยนะ...อย่าไปสนใจเลย” ฉันยักไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะเดินออกนอกห้องแต่ทว่า...

    “มันจะจริงเหรอ~” น้ำเสียงที่สะอิดสะเอียนของ เพื่อนรักดังออกจากทางไหนซักทางก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากที่ซ่อน (?) แล้วเหยียดยิ้มที่มุมปากให้กับฉัน   ฉันเผลอกำชายเสื้อของแฮรดริกแน่นด้วยความหัวเสีย   นังบ้านี่ทำไมถึงมาผิดจังหวะแบบนี้ฮะ!! L

    “หมายความว่ายังไงกัน?” แฮรดริกพูดเสียงเบา

    “หึ ผู้ชายในห้องอาจจะมีความสัมพันธ์อะไรกับหล่อนก็ได้นะแฮรดริก...”

    “เมเจลล์บอกว่าเป็นแค่เพื่อน   ใช่ไหมเมเจลล์?”

    “...” ฉันเงียบ ลำคอราวกับขาดน้ำมาล่อเลี้ยง   ให้ตายสิ ฉันว่าสถานการณ์ตอนนี้ชักไม่เข้าท่าซะแล้ว

    “ว่าไงเมเจลล์~ จะไม่พูดอะไรหน่อยรึไง”

    “นั่นเป็นแค่เพื่อนของฉันแอนโบนี! เธอละมาทำอะไรที่นี่”

    “ฉันก็มาเที่ยวที่นี่ประจำ แต่แปลกนะ...ไม่เคยเห็นเธอมาที่นี่เลย เธอพึ่งจะมาสินะ?”

    “เปล่าหรอก ฉันเคยมาแล้วละ แค่เธอไม่เห็นฉันก็เท่านั้น”

    “จริงเหรอ...อะ! ว่าแต่ฉันลืมประเด็นนี้ไปได้ยังไงนะ” แอนโบนีพูดกับตัวเองพร้อมทั้งส่ายหัวไปมา “ผู้ชายที่นอนอยู่นะ ใช่ แฟนเก่าเธอรึเปล่า?”

    “อะ...อะไร? เธอหมายความว่ายังไง!!?

    “หึ! ตกใจมากรึไง เพื่อนของฉัน J

    “หืม? จริงสิ คุณรู้จักกับเมเจลล์ได้ยังไง?   แล้วที่พูดหมายความว่ายังไง”   แฮรดริกมองหน้าแอนโบนีด้วยความสงสัย   อย่าบอกนะยัยบ้า! ถ้าเธอบอก... เธอได้เจอดีแน่!

    อะไรกันแฮรดริก~ คุณยังไม่รู้เหรอว่า แฟนเก่าของเมเจลล์นะคือผู้ชายคนนั้น”   แอนโบนีลากนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไปสบเข้ากับบุคคลที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง   แฮรดริกหันหลังมองตามสายตาของแอนก่อนจะนิ่งค้างไว้ราวกับช็อกนิดๆ... “และเธอก็คือ... เพื่อนของฉันยังไงล่ะ :)   ว่าแต่คุณเถอะ รู้จักเมเจลล์ได้ยังไง”

    “ผมเป็นเพื่อนข้างห้องของเธอ...” แฮรดริกหันมาสบตาฉันช้าๆ เอาอีกแล้ว...สายตาที่ตัดพ้อ

    “แฮรดริก...” ฉันเรียกชื่อของเขาแผ่วเบาราวกับจะขาดใจ   ทำไมพระเจ้าไม่ยอมให้ฉันเป็นคนคุมเกม! ท่านทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน!!?

    “...ยังไงก็แค่แฟนเก่า” แฮรดริกนิ่งไปสักพักก่อนจะหันหน้ามาสบตาฉันเบาๆ ก่อนจะเอยคำพูดออกมาจากริมฝีปากสีแดงติดจะคล่ำนิดๆ   แววตาที่เขามองมาเมื่อกี้มันบอกผ่านเป็นนัยว่าผิดหวังในตัวฉันมาก นัยน์ตาที่สั่นระรัวทำให้ฉันต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่เขาจะพูดต่อ ที่ไม่มีเยื่อใยให้แก่กันแล้ว...จริงไหมเมเจลล์

    แฮรดริกถามฉัน   ฉันได้แต่เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ไม่รู้จะพูดอะไร   ในลำคอมันตีบตันไปหมด   หึ! ไหนยมทูตเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่า เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์จะเปลี่ยนไป   แล้วทำไมไอ้โรคขี้ขลาดนี้ไม่หายไปจากตัวฉันสักที!!?

    คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าพวกเขาไม่มีเยื่อใยให้กันแล้ว

    “...”

    “ในใจก็ยังรู้สึกสับสนอยู่สินะ... พูดอะไรหน่อยสิเมเจลล์~

    “...ฉันจะพิสูจน์เอง” ฉันพูดเสียงราบเรียบก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาแฮรดริกอย่างสื่อความหมาย

    ฉันเขย่งเท้าขึ้นจูบแฮรดริกด้วยความรวดเร็ว   ราวกับโลกจะหยุดหมุน เราจูบกันเนิ่นนานอย่างไม่มีใครยอมใคร   แฮรดริกถอนริมฝีปากออกห่างไปนิดหน่อยเมื่อเห็นท่าทีว่าฉันเริ่มไม่มีอากาศหายใจ   และทันทีที่ฉันได้สูดอากาศเข้าไปเพียงอึดใจเดียว เขาก็รวบตัวฉันแล้วจูบอีกครั้งอย่างรวดเร็ว! O_O/ /   จูบที่เร่าร้อนและร้อนแรงเริ่มแผดเผาใจของฉันให้ลุกเป็นไฟ   ราวกับร่างกายจะละลายกองลงไปกับพื้นเพียงเพราะจูบที่ดุเดือดดั่งหมาป่าที่หิวโหยเหยื่ออันโอชะของมัน   ผ่านไปสักพักจูบที่เริ่มร้อนแรงกลับแปรผันเป็นจูบที่หอมหวานและนุ่มนวล

    ฉันเคลิบเคลิ้มอยู่อย่างนั้นราวกับตัวเองไม่มีสติติดตัว... โดยที่ฉันไม่รู้เลยว่า...ตัวเองกำลังเดินอยู่บนหมากของใครสักคนที่กำลังรอ แก้แค้นฉันอยู่!

     

    @ Jimmy Hotel,   10.23 A.M.

    ติ๊ดๆ!

    ฉันโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มหนานุ่มสีฟ้าน้ำทะเลก่อนจะคล่ำหา iPhone รุ่นล่าสุดที่กำลังส่งเสียงร้องน่ารำคาญอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโต๊ะ   ให้ตายสิ! มันอยู่ไหนนะ! :(   ฉันคล่ำหามันอยู่ไม่นานนักก็เจอมันแล้วตัดสายจากคนที่โทรมาทันทีโดยที่ไม่มองหน้าจอก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง...

    ติ๊ดๆ! ติ๊ดๆ!

    พระเจ้า!!   ฉันจะได้นอนไหมเนี้ย!?! ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนขนาดควีนไซต์สีขาวสะอาดด้วยความโมโหจัดพร้อมๆ กับขยี้ตาตัวเองแล้วหยิบ iPhone มาดูว่าใครกันนักหนาที่โทรหาฉันเวลานอน   ไม่รู้รึไงว่าเวลานี้ปกติฉันไม่ชอบให้ใครกวนนักหรอกนะ! L   เพราะมันเป็นเวลานอนของฉัน!

    แฮรดริก

    พลันใบหน้าที่ดูบึ่งตึงเมื่อสักครู่กลับกลายเป็นเหยียดยิ้มกว้างด้วยความพอใจเมื่อคนที่โทรมา สำคัญพอที่จะทำให้ฉันโกรธไม่ลง

    “ฮัลโหล...” ฉันกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย (จริงๆ)

    [เมเจลล์! คุณอยู่ที่ไหนนะ ทำไมคุณยังไม่มาตามนัด...]   น้ำเสียงร้อนรนดังมาจากปลายสาย   อะ! O_O จะว่าไปแล้วเมื่อคืนตอนที่แฮรดริกมาส่งฉันที่ Jimmy Hotel เขานัดฉันให้ไปพบเขาที่ Smell Coffee Shop เพื่อจะบอกเรื่องบางอย่างที่สำคัญกับฉันนี่นา!   พระเจ้า! ฉันสาย

    “พระเจ้า... แฮรดริก...ฉันขอโทษ” ฉันพูดเสียงอ่อนด้วยความสำนึกผิด

    [คุณยังไม่ตื่นสินะ...] น้ำเสียงเศร้าสร้อยดังมาจากปลายสาย

    “ฉันขอโทษแฮด... ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

    [ไม่ต้องหรอกเมเจลล์]

    “หืม... คุณไม่ให้ฉันไป?”

    [ผมจะไปหาคุณเอง]

    !”   ฉันนิ่งไปนิดนึ่งก่อนจะตั้งสติได้แล้วพูดต่อ   คุณจะมาอย่างงั้นเหรอ... แฮด

    [คุณไม่อยากให้ผมไป?]

    “มะ...ไม่ใช่! มันไม่ใช่นะคะแฮด   โอเคคะ...แล้วเจอกันนะค่ะ”

    ติ๊ด!

    หลังจากที่ฉันพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที   แฮรดริกจะมาที่นื้อย่างงั้นเหรอ   ทำไมลางสังหรณ์ของฉันมันบอกว่าจะมีเรื่องบางอย่างที่สับสนรอฉันอยู่... หมายความว่ายังไงกันนะ?

     

    10.56 A.M.

    แฮรดริก~ในที่สุดคุณก็มา J”   ฉัน (แสร้งทำเป็น) ยิ้มกว้างต้อนรับเขาอยู่ที่หน้าประตูห้องของฉันด้วยชุดเรียบๆ ธรรมดาๆ ที่ฉันมักชอบใส่เวลาอยู่ที่บ้าน   แฮรดริกยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้าของฉัน เขาโอบกอดฉันราวกับคิดถึงจับใจ

    “ผมคิดถึงคุณมากเลยเมเจลล์” นั่นไงละ!

    เขายิ้มหวานใส่ ฉันจึงฉีกยิ้มกว้างใส่คนตรงหน้าก่อนจะเชิญชวนเขาเข้าห้อง (?) แล้วเริ่มต้นพูดถึง เรื่องสำคัญที่เขาอยากจะพูดกับฉัน

    “ไหนคุณบอกว่าจะบอกเรื่องสำคัญไงคะ”

    “อ๋อ! เรื่องที่ผมจะบอกคุณก็เรื่องที่เราจะไปเข้าแคมป์ที่ป่าเขตอุทยานในภาคเหนือยังไงละครับ ที่จริงมันก็ไม่ใช่การเข้าแคมป์หรอก มันเป็นกิจกรรมของชุมนุมเราก็เท่านั้นเองแฮรดริกยักไหล่ นั่นทำให้ฉันงงขึ้นเรื่อยๆ

    “คุณ...หมายถึงอะไรกัน?”

    “ผมรู้ว่าคุณรู้แล้ว แต่ผมแค่มาเตือนให้รีบแพ็กกระเป๋าเตรียมตัวไว้ให้พร้อมนะครับ”   แฮรดริกส่งยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินดูรอบๆ ห้อง...

    เข้าแคมป์?   ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลยละ!?

    แฮรดริก! คุณพูดเรื่องอะไรนะ...ฉันไม่รู้เรื่อง

    “หืม...แอนโบนียังไม่ได้บอกคุณอย่างงั้นเหรอ   เป็นไปได้ยังไง” เขาหันมาสบตากับฉันก่อนจะจับคางครุ่นคิด   เกี่ยวกับแอนโบนีเหรอ ฉันว่าหล่อนต้องแกล้งฉันแน่ๆ!

    “ช่างมันเถอะคะ... ถือว่ามันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์...” ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะพูดต่อ “เซอร์ไพรส์ที่แสนวิเศษด้วยคะ J” หึ! แล้วเธอจะรู้สึกว่าการลองดีกับคนที่ชื่อ เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์มันเป็นยังไง!

    ครับ... ว่าแต่คุณยังไม่ได้ทานข้าว   งั้นผมทำอะไรให้ทานนะครับ

    “คุณทำเป็น?”

    “หึ...ไม่ใช่แค่ทำเป็นนะครับ J” เขายักคิ้วให้ฉันหนึ่งทีก่อนจะพูดต่อ “แต่เชฟยังเรียกพี่เลย~

    กรี๊ดดด~ ฉันอยากจะตบหน้าหมอนี่จริงๆ! ให้ตาย แฮรดริกเป็นคนหลงตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี้ย

    เขาเดินผ่านตัวฉันเข้าไปในห้องครัว ทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายที่ทำให้ฉันนิ่งค้างราวกับไม่ได้สติ   ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในห้องครัว   แฮรดริกหยิบจับของในห้องครัวอย่างคล่องแคล่วจนฉันทึ่งในฝีมือของเขา   ให้ตาย! O_O เขานี่เป็นพ่อบ้านได้เลยนะเนี่ย

    ฉันมองเขาทำอาหารไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินก่อนจะเอ่ยปากถามเขาเพราะไม่มีอะไรจะพูด

    “แฮรดริก...แล้วในทริปนี้มีใครไปบ้างละ”

    “ก็...เราสองคน แอนโบนี เพื่อนของแอนโบนี แล้วก็คนกลุ่มอื่น”

    “คนกลุ่มอื่น?” ฉันทวนถามเขาเบาๆ ขณะที่ตาฉันยังจ้องอยู่ที่อาหารเขาอยู่

    “ใช่...ทริปนี้จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม เราอยู่กลุ่ม A   ส่วนพวกบิลเลียนกับแกมม่าอยู่กลุ่ม B” หมายความว่ายังไงกัน...บิลเลียนกับแกมม่า (พวกเขาเป็นเพื่อนฉันนะ) พวกเขาไปด้วยอย่างงั้นเหรอ! แล้วแฮรดริกรู้จักพวกเธอได้ยังไงกัน!?

    คุณรู้จักบิลเลียนกับแกมม่าได้ยังไงกัน

    “ฮ่าๆๆ ถามอะไรแปลกๆ เมเจลล์   คุณลืมผมหรือยังไง ผมแฮรดริกที่อยู่ห้องข้างๆ คุณนะ”

    “ห้องข้างๆ?”

    “อะไรกันเมเจลล์ วันนี้คุณดูแปลกๆ อีกแล้วนะ   ก็เกรดสิบสองห้อง B ไง คุณห้อง C พวกเราเจอกันหลังโรงเรียนเป็นครั้งแรก พวกเราปิ๊งกัน ไม่นานเราก็เป็นแฟนกันอย่างที่เห็นคุณเหมือนพวกความจำเสื่อมเลยเมเจลล์ อย่าทำให้ผมตกใจสิ”

    “...”

    ยมทูต! ยมทูต BK หมายเลข 79’   ฉันตะโกนเสียงดังอยู่ในใจ ฉันไม่ชอบเลย ให้ตาย เวลาที่พูดกับตัวอะไรสักอย่างที่ไม่เคยเห็นหน้าผ่านโทรจิต =_=; มันน่าขนลุกชะมัด

    หืม...ว่ายังไง เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์เรียกฉันมีธุระอะไรอย่างงั้นเหรอ น้ำเสียงเย็นยะเยือกก้องอยู่ในหัวฉัน น้ำเสียงชวนขนลุกนั่นทำให้ฉันอยากจะเห็นหน้าคนพูดให้รู้แล้วรู้รอด!

    ทำไมคนที่ฉันไม่เคยรู้จักหรือแฮรดริกถึงได้รู้เรื่องของฉัน แถมเขายังเป็นแฟนฉันมันหมายความว่ายังไงกันแน่   แล้วทำไมเขาถึงได้อยู่เกรดเดียวกับฉัน

    อะไรกันเมเจลล์~ ฉันแค่ส่งหมอนั่นให้ไปช่วยเธอได้ทุกสถานการณ์ยังไงล่ะ

    ถามฉันหรือเปล่าว่าต้องการ!’

    ถ้าเธอไม่มีเขา เธอจะต้องเสียใจเมเจลล์   เพราะตัวเขาคือ กุญแจที่จะทำให้เธอชนะ...

    ไม่...

    “เมเจลล์! คุณเป็นอะไรนะ” ฉันสะดุ้งเฮือกทันทีที่ร่างฉันสั่นไปทั้งตัว   เขาเป็นคนเขย่าฉันอย่างงั้นเหรอ

    ไม่ๆ แฮรดริก! ฉันไม่เป็นไร”   ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

    “เฮ้อ... เห็นคุณเหม่ออยู่ตั้งนานก็เลยนึกว่าคุณจะเป็นอะไร”

    “ฉันแค่คิดอะไรเงียบๆ นะ   ว่าแต่ทำไมพวกบิลเลียนกับแกมม่าถึงไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราล่ะ” ฉันเบี่ยงเบนประเด็น ไม่ให้เขาสนใจในตัวฉัน...สักพัก

    “มีสซิสมาริลีนสั่งให้พวกเขาไปอยู่กลุ่มอื่นนะ เพราะดูเหมือนว่าทางกลุ่ม B จะไม่ค่อยมีผู้นำเลย”

    “เกี่ยวกับมีสซิสด้วยอย่างงั้นเหรอ?”

    “เมเจลล์...ผมสงสัยจริงๆ นะว่าคุณเป็นอะไร   แต่ช่างมันเถอะ ผมเริ่มชินนิดๆ ซะแล้วละ ^^   ก็ที่เราจะไปเข้าแคมป์กันเนี่ยมันเป็นกิจกรรมของคลาสเรียนวิชาเลือก ซึ่งพวกเราทั้งหมดทั้งกลุ่ม A และกลุ่ม B ได้ลงเลือกวิชาพัฒนาท้องถิ่น และอีกสองวันก็จะเป็นผลงานชิ้นแรกที่เราจะได้ทำ”

    “เราไม่ได้ไปเข้าแคมป์กันธรรมดาเฉยๆ อย่างงั้นเหรอ”

    “ใช่...เราต้องไปพัฒนาท้องถิ่นที่หมู่บ้านนั้นด้วย”

    “แล้วเราจะไปนอนที่นั่นกันกี่คืนละ”

    คงสักประมาณสามวัน...มั้ง

    “หมายความว่ายังไง ไอ้มั้งเนี้ย   คุณไม่แน่ใจอย่างงั้นเหรอ”

    “อืม =O=;;

    “งั้นฉันจะจัดเสื้อผ้าได้ยังไงล่ะ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปกี่วัน –_–

    ไม่รู้สิ...แฮรดริกยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะตักอาหารที่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรลงบนจาน   กลิ่นหอมของมันทำให้ฉันเผลอลืมทุกสิ่งทุกอย่าง...ไปจนหมดสิ้น

     

    คืนนั้น...

    ร่างบางในชุดเดรสสั้นสีแดงสดก้าวเท้าลงมาจากเมอร์ซิเดสเบนซ์สีแดงเพลิงของเธอก่อนจะเหยียดยิ้มทีมุมปากบางๆ เมื่อเธอมาถึง ที่หมายได้ในทันที

    เธอล้วงมือเรียวยาวเข้าไปในกระเป๋าคลัตช์ของ CHANEL ที่เข้ากับชุดของเธอเพื่อหาโทรศัพท์มือถือก่อนจะกดโทรออกหาใครสักคน...

    รอสายได้ไม่นาน คนๆนั้นก็กดรับอย่างรวดเร็ว

    [ฮัลโหล]

    Hi~J เป็นไง แผนสำเร็จรึเปล่า”

    [ครบถ้วน ดีทุกอย่าง]

    “หึ...ดีมาก!”   ริมฝีปากแดงสดที่เคลือบด้วยลิปสติกของแชแนลเหยียดยิ้มกว้างอย่างพึ่งพอใจเมื่อรับรู้ว่า แผนของเธอสำเร็จทุกอย่าง

    [หวังว่าเธอจะไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับฉัน]   ปลายสายบอกเสียงเข้ม

    “ฉันไม่มีทางลืมหรอกน่า~

    [ก็ดี!]

    ติ๊ด!

    เธอยกโทรศัพท์ออกจากใบหูก่อนจะเหลือบมองป้ายขนาดใหญ่ยักษ์ที่เขียนไว้ว่า... Jimmy Hotel!

    หึ! เธอจะได้รู้ว่า คนอย่างฉันสามารถฆ่าเธอตายทั้งเป็นได้! ‘เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์’ ”

     

    (To be Continued)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×