ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Revenge Contract สัญญาร้าย เช็คบิลหัวใจ แก้แค้นรัก!

    ลำดับตอนที่ #4 : :: 2 ‘Majall’ She is Come Back 100%::

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 57



     

    2

    ‘May-jell’ She is Come Back

     

    เฮือก!!

    ฉันเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันที! ความรู้สึกเมื่อสักครู่ราวกับตัวเองพึ่งกระโดดบันจี้จัมพ์ไปหมาดๆ มันเสียววูบไปทั้งร่างจนฉันอธิบายไม่ถูกว่ามันเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆ คือ...มะ...เมื่อกี่นี้มันอะไรกัน!? ฉันฝันไป? ฉันเป็นบ้าไปแล้ว?   ฉันว่ามันต้องเป็นฝันแน่ๆ ไม่อยากจะเชื่อเลย!

    ฉันหันซ้ายหันขวาด้วยความเร็วก่อนจะเจ็บแปล๊บเข้าที่หัวในทันที   มือกุมขมับอย่างอัตโนมัติก่อนจะรู้สึกว่ามือของตัวเองสัมผัสเข้ากับผ้าอะไรบางอย่างที่พันอยู่รอบหัว   ฉันคลำๆ ดูก็ต้องตกใจอีกครั้ง O_O มันพันหัวฉันจริงๆ ด้วย! พระเจ้า   นี่ฉันไปทำอะไรให้หัวถูกผ้าบ้าๆ นี้คลุมด้วยเนี้ย

    ฉันค่อยๆ หันไปทางซ้ายช้าๆ และเบาที่สุดเพื่อไม่ให้อาการเจ็บแปล๊บที่หัวของฉันเกิดขึ้นอีก   ฉันอยู่ห้องสี่เหลี่ยมสีขาว กว้างพอสมควร ข้างๆ มีโซฟาสีครีมที่มีผ้าห่มสีฟ้าลายโดเรม่อน –O– คลุมอะไรบางอย่าง (ตัวโตๆ) ที่ซุกตัวอยู่บนโซฟา นั่นมันอะไรนะ?   ฉันเตรียมจะลุกขึ้นแต่ทว่า...

    กึก!

    มือข้างขวาของฉันถูกอะไรบางอย่างดึงเอาไว้และมันก็เจ็บเอาการ T_T   ฉันหันไปมองก็ต้องประหลาดใจเมื่อหลังมือของฉันถูกสายน้ำเกลือเจาะอยู่!? O_o บ้าน่า ทำไมฉันถึงถูกเติมน้ำเกลือ   งั้นก็หมายความว่าที่นี่คือ...โรงพยาบาล!

    พอสมองของฉันรับรู้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล ฉันก็ทำท่าจะเป็นลม (?) ก็ฉันเกลียดโรงพยาบาล!! ฉันเกลียดกลิ่นยา กลิ่นศพ กลิ่น...กรี๊ดดด!! ช่างเถอะ ฉันเกลียดโรงพยาบาลก็คือโรงพยาบาล!

    โอ๊ย~”

    ฉันร้องโอ๊ยทันทีที่ฉันพยายามจะดึงสายน้ำเกลือบ้าๆ นั่นออกไปให้พ้นตัว   ทันใดนั้นเอง...สิ่งที่ฉันสงสัยว่าข้างใต้ผ้าห่มคืออะไรฉันก็ได้รู้ทันทีว่ามันคือ...คน!!

    ...ผู้ชายซะด้วย!

    คุณเป็นบ้าอะไรนะ! ถอดสายน้ำเกลือออกทำไม!?” ชายหนุ่มตรงหน้าพูดกับฉันเสียงขุ่น ทำท่าไม่พอใจนิดๆ

    “ฉันเกลียด...ฉันเกลียดที่นี่!!

    แต่ยังไงคุณก็ต้องรักษาตัวนะเมเจลล์

    “O_O”                                                                              

    เขาพูดเสียงอ่อน ทำให้ฉันหันไปมองเขาด้วยความสงสัยว่าเขารู้จักชื่อของฉันได้ยังไง?

    อึก!

    ทันทีที่ฉันเห็นหน้าของชายตรงหน้าชัดๆ ทำให้ฉันสะอึกพร้อมๆ กับเป็นลมล้มลงตรงนี้   ใบหน้าขาวใสตัดกับทรงผมสีดำซอยระต้นคอ นัยน์ตาสีเขียวมรกตน่าดึงดูด ริมฝีปากแดงออกจะติดคล่ำซะนิดๆ เพราะ (ขาดเดา) ว่าเขาคงจะเป็นคนที่ชอบสูบบุหรี่   ให้ตายเถอะเมจลล์ เขาคือผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์มากๆ!

    คุณรู้จักฉัน?”

    ฉันถามเขาไปตามความคิดของตัวเอง แต่ทว่า...ทันทีที่ฉันเผลอพลั่งปากพูดคำร้ายๆ แบบนั้นลงไปทำให้นัยน์ตาสีเขียวคู่สวยคู่นั้นสั่นไหวทันที...

    “...”

    “เอ่อ...”

    “คุณจำอะไรไม่ได้เลยอย่างนั้นเหรอเมเจลล์...” เสียงของเขาตะกุกตะกักราวกับจะร้องไห้

    “ฉัน...ไม่รู้” ฉันตอบเสียงแผ่ว ทำไมนะทำไม...ทำไมฉันถึงไม่อยากเห็น เขาคนนี้ทำหน้าเศร้าๆ แบบนั้นเลย...ทั้งๆ ที่ฉันไม่รู้จักเขา

    ใช่...ฉันไม่เคยรู้จักผู้ชายสุดเพอร์เฟ็กต์คนนี้เลยจริงๆ

    “ไม่เป็นไรหรอกเมเจลล์ ^^ มันอาจจะเป็นเรื่องปกติที่สมองของคนเราเวลาถูกกระทบกระเทือนแล้วจำไม่ได้...ไปสักพัก”

    “กระทบกระเทือน?

    ใช่...คุณถูกรถชนแล้วมีผู้หวังดีส่งคุณเข้าโรงพยาบาลได้ทัน

    !!

    ฉันลองคิดทบทวนดีๆ ปรากฏว่ามีภาพๆ หนึ่งลอยเข้ามาในหัวของฉัน...ภาพรถบรรทุกของพุ่งตรงมาชนรถของฉันแล้วฉันก็หมดสติไป...แล้วก็มาอยู่ที่โรงพยาบาล?

    แต่เดี๋ยวก่อน...

    ฉันรู้สึกว่ามันมีเหตุการณ์บางอย่างที่คั่นอยู่ตรงกลางระหว่างเหตุการณ์ถูกรถชนกับเหตุการณ์ที่ฉันมานอนแบ็บอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้... แล้วมันคือเหตุการณ์อะไรล่ะ!?

    ที่นี่คือ จุดกึ่งกลางระหว่างสามภพ’ ’

    เธอตายแล้ว

    เธอไม่แค้นพวกมันรึไง~’

    พระเจ้า!! O_O ใช่แล้ว! มันมีเหตุการณ์สุดเหนือจินตนาการคั่นกลางระหว่างเหตุการณ์ที่ฉันถูกรถชนกับเหตุการณ์ที่ฉันมานอนอยู่ที่โรงบาลแห่งนี้!

    มันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ... งั้นก็หมายความว่า...ฉันตายแล้ว แต่ฉันกลับมาเป็น เมเจลล์ คอนเทย์เลอร์คนใหม่และก็สมบูรณ์สุดๆ O_O

    พระเจ้า...”   ฉันพูดเสียงแผ่วด้วยความช็อกปนความหวาดกลัวที่เกาะกินอยู่อีกด้านหนึ่งของจิตใจของฉัน...

    “คุณเป็นอะไรเมเจลล์” เขายื่นหน้ามาใกล้จนทำให้ใจของฉันสั่นไหวน้อยๆ

    “มะ...ไม่เป็นอะไร   ว่าแต่คุณ...เอ่อ”

    “...ผมชื่อ...แฮรดริก   แฮรดริก คราวน์สัน   ให้ตายเถอะเมลล์ คุณทำให้ผมเป็นบ้า   ผมเป็นแฟนของคุณนะ!   เดี๋ยวผมจะไปเรียกหมอมานะ”

    “ดะ เดี๋ยวก่อน   ฟะ...แฟน?”

    แฮรดริก...คือชื่อของเขา แล้วเขาคือ แฟนของฉัน   นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี้ย!!?

    จริงสินะ ขอโทษน่าแฮรดริกยังไงก็เถอะ ตอนนี้ฉันต้องเล่นตามน้ำไปก่อน เอ่อ...แฮรดริก ฉันหิวข้าวนะ...ช่วยฉันยังพูดไม่จบแฮรดริกก็เหมือนกับว่าจะรู้ความหมายที่ฉันตั้งใจจะพูด เขาพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะถามย้ำฉันอีกหน

    “คุณอยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวผมจะไปซื้อให้”

    “อะไรก็ได้” ฉันบอกยิ้มๆ เขาพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนี้ไป...

    หึ! ฉันรอเวลานี้แหละ...

    รอเวลาเพื่อพิสูจน์ว่าเรื่อง เหนือจินตนาการเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า!!?

    “ยมทูต!! ฉันรู้ว่านายอยู่รอบตัวฉัน   ออกมาให้ฉันเห็นนะ!

    ฉันตะโกนออกไปกลางอากาศราวกับคนบ้า   ทว่า...กลับไม่มีเสียงที่เย็นยะเยือกเหมือนตอนนั้นตอบกลับมา...หรือว่านั่นจะเป็นความฝัน?

    ยมทูต BK หมายเลข 79! ออกมาให้ฉันเห็นหน้านะ

    พูดแค่นี้ก็สิ้นเรื่อง~’

    น้ำเสียงเย็นยะเยือกเหมือนเมื่อตอนนั้นดังก้องอยู่ในหัวฉันไปมา... หึ! มันเป็นเรื่องจริงสินะ...เรื่องจริงที่ว่าฉัน ตายแล้วฟื้นคืนชีพนะ!

    ถูกต้องเมเจลล์~’

    “ฉันอยากจะถามคุณว่า...ผู้ชายคนนั้นคือใคร” ฉันหลับตาถามยมทูต

    เขาคือ ผู้แพ้ของฉัน   เธอไม่ต้องไปสนใจหรอก เขาจะเป็น ตัวช่วยทำให้แผนเธอสำเร็จเอง

    “หมายความว่ายังไง”

    ก็หมายความตามที่ฉันพูด   เมื่อถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง

    “ฉันไม่เข้าใจ”

    ฉันจะเฝ้ามองเธอทุกที่...เธอทำอะไร...ฉันย่อมรู้ดี

    “นายมันเห็นแก่ตัว”

    จำไว้...เธอต้องแก้แค้นพวกมัน! แล้วอย่าแพร่งพรายความลับที่เธอได้รู้ให้ใครฟัง ไม่ว่าจะเป็น ผู้แพ้ของฉัน

    ฉัน...!!! O_O”

    คุณพูดกับใครนะเมเจลล์

    แฮรดริกเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วถามฉันด้วยสีหน้างวยงงให้ตายเถอะ บอกเขาทีว่าเขามาผิดเวลา! L

    “ฉัน...คุยโทรศัพท์ ^^;;” ฉันโกหกพร้อมส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับแฮรดริก

    “เหรอ...ไหนคุณบอกว่าจำอะไรไม่ค่อยได้ไง แล้วคุณโทรหาใคร?” ฉันเกลียดคนความจำดีชะมัด!L

    “ฉัน...ก็ฉันพอจะรู้แล้วนี่นา”

    “คุณจำได้แล้ว!?” แฮรดริกถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจพร้อมๆ กับดีใจไปในตัว (?)

    “อืม...ฉันเริ่มจำได้นิดๆ แล้วละ”   ฉันฉีดยิ้มกว้างใส่แฮรดริกแม้ว่ามันจะออกแปลกๆ สักนิด แต่เขาไม่น่าจะเห็น?   “ว่าแต่...ฉันจะได้ออกจากโรงพยาบาลนี้เมื่อไหร่”

    “คงอีกสักคืนสองคืนเนี่ยแหละ   เดี๋ยวผมไปเรียกหมอมาก่อนนะ!

    แฮรดริกพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปในที่สุด...

    เฮ้อ... –O–

    ในที่สุดฉันก็ ฟื้นคืนชีพ!’   และฉันจะทุ่มเทอนาคตของฉันเพื่อการแก้แค้น...เพียงอย่างเดียวแล้วสินะ!

    หึๆๆ! ในที่สุดฉันก็ไม่ตาย!   May-jell She is Come Back!!! (and the free boyfriend )

     

    สองวันผ่านไป...

    แฮรดริกขับรถมาส่งฉันที่อพาทย์เมนต์แห่งหนึ่งระดับหกดาว ใช่...มันหรูจริงๆ   เขาเปิดห้องใหม่ให้ฉันเพียงแค่ฉันพูดว่า ไม่อยากกลับบ้านเขาก็พร้อมที่จะทำให้ฉันทุกอย่าง   พูดถึงที่บ้านก็ทำให้ฉันแค้นใจ! ‘พวกเขาไม่เคยรับรู้เลยว่าฉันนอนใกล้ตายอยู่ที่โรงพยาบาล แถมยังไม่คิดจะมาเห็นหัวของฉันเลย!

    แม้แต่ ผู้ชายคนนั้นทั้งๆ ที่เขารู้แล้วแท้ๆ ว่าฉันประสบอุบัติเหตุ...แต่ก็ไม่มาเยี่ยมฉัน

    ฉันเหลือบสายตาไปมองนาฬิกาแขวนแบบมีสไตล์สีขาวบนผนังก็พบว่าตอนนี้มันเลยเที่ยงมาแล้ว และอาหารสักชิ้นก็ยังไม่ตกถึงท้องฉันเลยด้วยซ้ำ   คิดได้ดังนั้นฉันจึงเตรียมยกโทรศัพท์กดโทรสั่งอาหาร ทว่า...

    ติ๊งติ๊อง!

    ใครบางคนมากดออดหน้าห้องของฉัน   ฉันเดินไปเปิดประตูด้วยความรวดเร็ว เผยให้เห็นหนุ่มผมดำสนิทที่ยืนฉีกยิ้มให้ฉัน นัยน์ตาสีเขียวมรกตน่าดึงดูดมีแววตาทอประกายสดใสทำให้ผู้พบเห็นต้องเคลิ้มเป็นธรรมดา   ฉันยิ้มกว้างต้อนรับเขาก่อนจะผายมือเชิญเขาเข้ามาในห้อง

    แฮรดริกเข้ามาในห้องก่อนจะนั่งลงที่โซฟาสีครีมหรูหรา ฉันจึงนั่งตามเขาอย่างเสียไม่ได้ เมื่อก้นฉันแตะพื้นโซฟาฉันก็เริ่มเปิดปากพูด

    “แฮดมีอะไรเหรอคะ?” ฉันเอียงคอถามด้วยนัยน์ตาใสซื่อ

    “ผม...อยากชวนคุณไปทานข้าว เอ่อ...ถ้าหากเมเจลล์ไม่ว่าง...”

    “ไม่ ไม่คะ J ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลย ถ้าหากคุณไม่มาฉันก็ว่าจะสั่งอาหารทานอยู่แล้ว   ดีนะคะที่คุณมาพอดี” ฉันแย้มยิ้มบางๆ ส่งไปให้ชายตรงหน้า

    “โอเคครับ   งั้นเราไปกันเลยแล้วกัน”

    “คะ J

     

    ภายในเวลาไม่นาน แฮรดริกก็พาฉันมาที่ร้านอาหารดูดีมีสไตล์ร้านหนึ่ง   ฉันเดินตามเขาเข้าไปในร้าน บรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับคนที่ชอบรักความสงบ มีต้นไม้รอบทางเดินทำให้ได้บรรยากาศของธรรมชาติ

    กรุ๊งกริ๊ง~

    แฮรดริกผลักประตูเข้าไปในร้านส่งผลให้กระดิ่งที่แขวนอยู่ตรงประตูส่งเสียงร้องออกมา   เราเลือกที่นั่งที่ เพอร์เฟ็กต์ที่สุด   ด้านข้างของฉันคือกระจกใสบางๆ มองผ่านออกไปก็จะเห็นน้ำตกขนาดเล็กที่เจ้าของร้านทำเพื่อให้ได้บรรยากาศธรรมชาติ

    ฉันว่าที่นี้มัน Very Good ชะมัด! O_O

    “รับอะไรดีครับ”

    บริกรหนุ่มเดินเข้ามาถามพวกเรา แฮรดริกส่งยิ้มให้ฉันก่อนจะพูดขึ้น

    “เมลล์อยากทานอะไรครับ” เมลล์อย่างงั้นเหรอ หึ! นั่นมันชื่อย่อที่มีแค่คนสนิทเรียกเท่านั้นไม่ใช่เหรอ...แต่เขาก็เป็นถึงขั้น แฟนฉัน...จะเรียกก็ไม่ผิด...จริงมั้ย?

    “แล้วแต่แฮดก็แล้วกันคะ”

    “งั้น...ผมสั่ง ผัดบล็อกคลอรี...อย่างละสองที่ครับ”

    ...ผัดบล็อกคลอรี   นั่นมันของชอบฉันนี่นา

    พลันหัวใจของฉันกลับเต้นแรงขึ้นทีละนิด   ทำไมกันทำไม ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลยให้ตาย กะอีแค่เขาสั่งของโปรดที่ไม่มีใครรู้ มันเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ   และที่แปลกอีกอย่างหนึ่งคือ...ที่หรูๆ อย่างนี่แต่เขากลับสั่งเหมือนอาหารข้างทาง ร้านนี่มีรึไงกัน!?   แต่นั่นเป็นประเด็นรอง ประเด็นหลักคือ...เขาจงใจสั่งมา...อาจจะเพื่อฉัน?

    บ้าน่า!!!

    ฉันสะบัดหัวแรงๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวให้หมดจนคนตรงหน้ามองฉันด้วยแววตาสงสัย   ใช่แล้ว...มันอาจจะเป็นความบังเอิญ...บังเอิญจริงๆ

    “เมลล์เป็นอะไรไปนะ”

    “เอ่อ...ฉันแค่สงสัยนะ” ฉันหลับตาตอบอ้อมแอ้ม

    “ฮ่าๆๆ เมล์คงสงสัยเรื่องที่ทำไมผมถึงรู้ของโปรดของเมลล์สินะ” เขาถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะยื่นหน้าขาวๆ ของเขามาใกล้กับหน้าของฉัน

    “ฉะ...ฉันเปล่าซะหน่อย!

    เห็นๆ กันอยู่น่า~” เขาพูดยิ้มๆ ก่อนจะใช้ดวงตาสีเขียวที่น่าหลงใหลนั้นสบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของฉัน (ฉันลืมบอกไป ฉันสั่งให้ยมทูตเปลี่ยนสีตาให้เป็นสีน้ำตาลอ่อนแบบธรรมชาติ เพื่อความโดดเด่นโดยเฉพาะ (สั่งเปลี่ยนสีตาง่ายประหนึ่งสั่งไก่ KFC) ) “...คุณอยากรู้รึเปล่าละว่าผมรู้ได้ยังไงว่าของโปรดคุณคือบล็อกคลอรี”

    “ฉัน...” ฉันยังไม่ทันได้อ้าปากพูดเขาก็ใช้นิ้วเรียวยาวแตะที่ริมฝีปากของฉันเบาๆ

    “นั่นก็เพราะผมสังเกตคุณตลอดเวลานะสิ”   แฮรดริกพูดยิ้มๆ ก่อนจะเล่าต่อ   “ผมสังเกตได้ว่ามื้อไหนที่มีผักบล็อกคลอรีอยู่ดวงตาคุณจะเป็นประกาย...”

    “คะ...คุณ O_O

    บอกฉันทีว่าเขาไม่ใช่พระเจ้า   ทำไมเขาถึงได้รู้อะไรมากมายอย่างนี้!

    และผมยังรู้อีกว่าคุณเกลียดพริกหวานยิ่งกว่าอะไร

    O_O

    หึ~” แฮรดริกคลายมือจากริมฝีปากของฉันเพราะบริกรนำอาหารมาเสิร์ฟแล้ว   ไม่อยากจะเชื่อ! O_O เขารู้...รู้ในเรื่องเล็กๆ ที่ไม่มีใครแม้อยากจะจำและรับรู้ แต่เขากลับ...

    ตึกตัก...ตึกตัก

    แต่ถึงยังไง...เขามันก็เป็นแค่หนึ่งใน เหยื่อตัวหนึ่งในเกมแก้แค้นของฉัน! ฉันจะไม่มีทางหวั่นไหวเขาแน่! เพราะถ้าหากฉันหวั่นไหว...ฉันอาจจะไม่ได้ สั่งสอนให้พวกคนเลวได้สำนึกในสิ่งที่พวกเขาต้องได้รับ... พวกเขาต้องได้รับการสั่งสอนจาก พระเจ้าอย่างฉัน!’

     

    (To be Continied)
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×