คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : Divisibly
Chapter 3 : Divisibly
.
.
.
.
.
.
.
.
แกร๊ก!
เสียงของการปลดล็อคดังขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงเปิดประตูและขายาวๆก้าวเข้ามาในห้องก่อนจะค่อยๆบรรจงปิดประตูลงไปเบาๆ ร่างบางนั้นเดินเข้ามาภายในห้องนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนที่จังหวะของการเดินจะชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
“กลับมาช้าชะมัด หิวจะแย่อยู่แล้ว!”เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้วยความหงุดหงิดทำให้ร่างบางต้องค่อยๆหันไปมองตามต้นเสียง และเขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“เฮ้ยยยยยย!!!!ทำไมนายถึงจะอยู่ที่นี้อีกล่ะห๊ะ!!!”เบสตะโกนขึ้นเพราะเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นผู้ชายคนนี้อยู่ในห้องของเขาอีก แล้วแถมยังอยู่ในสภาพที่นั่งห่มผ้าอยู่บนเตียงเปลือยท่อนบนในปากก็เคี้ยวขนมยี่ห้อดังอยู่
“แล้วทำไมฉันถึงจะอยู่ไม่ได้ล่ะ”ร่างหนาบางพร้อมกับลุกขึ้นจากตัยงทำให้เห็นว่า เขาไม่ได้เปลือยเพียงแค่ท่อนบนเท่านั้น….
“เฮ้ยยยยยย!!!!!ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า!!!”พอเบสเห็นอย่างนั้นก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังในทันทีพร้อมกับรีบกลับหันหลังไม่มองอีกฝ่ายไปเลย
“ก็ฉันอาบน้ำแล้วเสื้อผ้าของนายมันก็เล็กเกินไปฉันใส่ไม่ได้”เอกพูดขึ้นด้วยท่าทีสบายๆ
“โอ๊ยยย!!ถึงงั้นก็เหอะ นายรีบๆเอาผ้ามาปิดไว้ก่อนเลยป่ะ”เบสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
“ทำไมล่ะ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย”เอกพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรได้ไงเล่า! ถ้านายไม่ปิดฉันไม่หาอะไรให้นายกินจริงๆด้วย”เบสยื่นข้อต่อรองทั้งๆที่ยังไม่หันกลับไปมองอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
“เรื่องมากว่ะ ก็ได้ๆ”แล้วเจ้าของร่างสูงโปร่งก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ตัวเองเพิ่งจะใช้อาบน้ำไปเอามาพันรอบเอวด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่นัก
“เอ้า!เสร็จแล้ว พอใจยัง?”จากคำพูดของเอกเลยทำให้เบสค่อยๆหันตัวกลับมาดูทีล่ะน้อยว่าอีกฝ่ายอยู่ในลักษณะได้ และเมื่อเห็นว่ามีผ้าขนหนูผืนสีขาวมาบดบังแล้วนั้น เบสก็ถอนหายใจออกมายาวๆ พร้อมกับตั้งท่าจะบ่นร่างสูงอีกรอบ
“เฮ้อ!ทำไมนายยังอยู่ที่นี้ล่ะ”เบสกอดอกถามขึ้น คำถามที่ซ้ำซากและด้วยความที่ไม่อยากตอบ เลยทำให้เอกจิ๊ปากอย่างไม่พอใจอีกครั้งพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้หัวไปมา
“อย่างที่เห็นว่าฉันเจ็บอยู่”พูดแล้วก็ชี้นิ้วไปยังรอยแผลยาวที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเริ่มดีขึ้นแล้ว
“นายเป็นคนบอกให้ฉันไม่ต้องมายุ่งกับนายเองไม่ใช่รึไง?”เบสย้อนคำพูดที่อีกฝ่ายเคยบอกกับตนไว้
“ก็นายยุ่งแล้วนิ ถ้าไม่ช่วยฉันมาตั้งแต่ทีแรกฉันก็คงยังไม่อยู่ห้องนายอย่างนี้หรอก”เอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบๆเหมือนกับจะบอก ‘มันเป็นความผิดของนาย’ อย่างนั้นแหละ
“นี่นาย!!”
“โอ๊ยยยย!เลิกโวยวายสักทีเถอะน่า หิวจะตายอยู่แล้ววว”เอกพูดพร้อมกับผลักหัวสีชมพูหวานนั้นจนแทบหน้าหงาย
“ให้ตายเถอะ!”
.
.
.
.
.
.
.
.
~ณ บ้านหลังหนึ่ง~
“เฮ้อออ~~~”ชายหนุ่มร่างบางคนหนึ่งเดินเปิดประตูเข้ามาภายในบ้านอันสวยงามพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
“ฮ่าๆ เป็นอะไรไปครับ หน้าหงอยเชียว หื้มม?”ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผมสีขาวเดินออกมาพร้อมกับโอบเอวของอีกฝ่ายไว้อย่างหลวมๆ
“ก็…ยังหาไอเจ้าหมาบ้านั่นไม่เจอเลยน่ะสิครับ ไม่รู้ว่าไปซ่อนอยู่ที่ไหน เฮ้ออ”ว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบทำให้ชายหนุ่มตัวสูงยิ้มขึ้นด้วยความเอ็นดู
“ค่อยๆหาก็ได้ครับ อีกตั้งเดือนหนึ่งแหน่ะกว่าพระจันทร์จะเต็มดวงอีกรอบนะ”ยิ้มหวานให้กับคนผมน้ำเงินแล้วลูบหัวเบาๆอย่างอ่อนโยน
“โถ่ พี่เชฟ รีบฆ่ามันตอนมันยังไม่มีพลังเยอะแล้วง่ายกว่านี่ครับ”ว่าแล้วก็ตีแขนเจ้าของชื่อที่ตนเอ่ยออกมาเป็นการลงโทษที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
“ฮ่าๆ ก็พี่ไม่รู้นิ พี่ก็เป็นแค่หมอธรรมดาๆแหละนะ”ร่างสูงหรือเจ้าของชื่อก็คือ ‘เชฟ’ พูดขึ้นกับคนรักของตัวเองแล้วยิ้มน้อยๆ ใช่…ชายหนุ่มร่างสูงผมสีขาวสวมแว่นตามีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลานี้ชื่อว่า เชฟ เขาเป็นหมอและควบสถานะเป็นคนรักของนักล่าหมาป่าอย่างโน้ต เขาเป็นแค่เพียงคนธรรมดาไม่ได้มีพลังอะไรเลย เขาอาศัยอยู่กับโน๊ตในบ้านหลังเล็กๆนี้แค่สองคนเท่านั้น
“อ่อใช่!วันนี้พ่อของโน้ตโทรมาน่ะ เห็นว่ามีธุระสำคัญจะคุยด้วย”เชฟพูดขึ้นอย่างเพิ่งนึกออก
“เอ๋? เมื่อไหร่หรอครับ?”โน้ตเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูด
“ช่วงบ่อยๆน่ะ หัดพกโทรศัพท์ได้แล้วนะรู้ไหม!”เชฟบ่นคนรักของตัวเองอย่างไม่ได้จริงจังนัก
“ก็ผมไม่ยอมนี่น่า งั้นเดี๋ยวผมโทรไปหาพ่อก่อนแล้วกันนะ”พอแล้วก็ผละตัวออกมาจากเชฟพร้อมกับหอมแก้มให้ร่างสูงหนึ่งทีแล้วก็วิ่งขึ้นชั้นสองไป
~ณ ห้องของโน๊ต~
“ครับพ่อ มีเรื่องอะไรงั้นหรอครับ?”เสียงทุ้มนุ่มกรอกเสียงลงไปตามสายด้วยความสุภาพ
[เฮ้ออ~~พ่อว่าแกต้องทำงานหนักขึ้นแล้วแหละนะ]เสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นรุ่นใหญ่พูดขึ้นจากปลายเสียงด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน
“ทำไมหรอครับ?”โน้ตรีบถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
[สายข่าวของพ่อบอกมาน่ะ ดูเหมือนว่าจะมีหมาหลุดออกมาจากป่าอีกสองตัว]ปลายสายพูดไปก็กุมขมับไป เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนได้รู้จากแหล่งข่าว แค่เพียงหมาป่าตัวเดียวยังหาไม่เจอเลย นี่ยังจะออกมาอีกตั้งสองตัว แล้วลูกชายคนเดียวของเขาจะรับงานนี้ไหวไหมเนี้ยะ
“หา? โอ๊ยยยย!!ขยันกันออกมาจริงจริ๊งงงงง ให้ตายเถอะ”โน้ตกุมขมับพร้อมกับเดินอย่างคนไม่มีแรงไปนั่งที่ปลายเตียงนอน
[แกรับไหวไหม?]คนที่ได้ชื่อว่าพ่อถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“เฮ้อออ~~~ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”โน้ตถอนหายใจออกมาอีกครั้ง พร้อมกับบอกกับปลายสาย
[ถ้าแกว่าอย่างนั้นน่ะนะ ระวังตัวด้วยแล้วกัน]คนเป็นพ่อพูดเตือนลูกชายของตนอีกครั้ง
“ครับผม ขอบคุณนะครับ พ่อก็ด้วยนะครับ”ลูกชายก็บอกพ่อของตนกลับก่อนที่ทั้งสองคนจะวางสายไปพร้อมกัน
“เพิ่มงานให้ฉันจริงๆเลยนะ ไอเจ้าพวกหมาบ้า!!”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
~ณ หอพัก~
“นี่อะไรอ่ะ?”เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นด้วยความสงสัย
“มาม่า”เสียงใสตอบกลับไปด้วยท่าทีสบายๆ
“มาม่า?”ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
“ก็เออไง”ร่างบางนั่งลงคีบเส้นมาม่าเข้าปากเป็นเชิงไม่อยากสนทนา
“มันคือ?”แต่…เอกก็ยังไม่เลิกสงสัยยังคงถามคนหน้าสวยต่อไปอยู่อย่างนั้น
“นี่นายไม่รู้จักมาม่ารึไงเนี้ยะ?”เบสค้างเส้นมาม่าที่กำลังจะคีบเข้าปากเงยหน้าขึ้นมาถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ฮึ ไม่รู้จัก” เงิบ…นี่คงเป็นคำๆเดียวที่สามารถอธิบายถึงลักษณะของเบสในตอนนี้ได้
“ห๊ะ!!ถามจริงดิ!อย่ามาล้อเล่นน่า”ด้วยความที่มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดจนเกินไปที่มนุษย์บนโลกใบนี้จะมีคนที่ไม่รู้จัก ‘มาม่า’ ไอเส้นหยักๆสีไข่ สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาล …..สีอะไรก็ช่างมันเถอะ แต่การที่มีคนพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่รู้จักมาม่านี้ออกจะเหลือเชื่อเกินไป เบสเลยขึ้นเสียงพูดใส่อีกฝ่ายไปอย่างเต็มๆ
“มาขึ้นเสียงใส่ฉันทำไมเนี้ยยยยยย!!”เอกก็โวยวายออกมาตามประสา
“ก็นาย! เออ ช่างมันเหอะ กินๆเข้าไปซะหิวไม่ใช่รึไง?”ด้วยความที่เบสขี้เกียจจะเถียงก็เลยปล่อยเลยตามเลยแล้วก็บอกให้อีกฝ่ายกินๆเข้าไปซะ
“ก็ได้”เอกว่าปุ๊บก็ก้มลงไปคีบเส้นมาม่าเข้าปากทันที
“อร่อยแฮะ”เอกพูดขึ้นมาเบาๆเหมือนบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะคีบเส้นขึ้นมาเป็นคำใหญ่ๆยัดเข้าปากจนทำให้เบสที่นั่งมองอยู่ถึงกับอมยิ้มออกมาแบบขำๆ
“แล้วนายชื่ออะไร?”เบสถามคนที่กินมาม่าอย่างไม่ลืมหูลืมตาขึ้น เอกเพียงแค่ช้อนตาขึ้นมามองอีกฝ่ายเฉยๆ ก่อนจะรีบเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปากจนหมดแล้วค่อยพูดออกมา
“เอก นายล่ะ?”เอกตอบพร้อมกับถามอีกฝ่ายกลับ
“เบส นายไปทำอะไรมาถึงได้มีเลือดมีแผลเต็มตัวขนาดนั้น”เพราะคำถามที่คนหัวชมพูเอ่ยออกมาทำให้เอกถึงกับชะงักไปเล็กน้อย แล้วก็เงียบไปเป็นเหมือนสัญญาณว่าไม่อยากจะบอก และดูเหมือนว่าเบสจะรับรู้ได้ถึงสัญญาณนั้น
“เออ ช่างเถอะก็เป็นสิทธิ์ของนายที่จะไม่บอกแหละนะ”เบสพูดขึ้นพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อยเป็นเชิงไม่ได้ใส่ใจ
“แล้ว…ทำไมนายถึงช่วยฉันล่ะ?”คราวนี้เอกเป็นฝ่ายถามอีกคนขึ้นมาบ้าง
“เห็นนายกำลังจะตายอย่างนั้นเป็นใครใครก็ต้องช่วยแหละน่า แล้วนายจะอยู่ที่นี้อีกนานแค่ไหนเนี้ยะ?”เบสตอบคำถามของอีกฝ่ายพร้อมกับถามคำถามไปด้วย
“…จนกว่าแผลจะหายดีล่ะมั้ง”คราวนี้เอกตอบแบบไม่เงยหน้าขึ้นมามองตาคนหน้าหวาน
“ไม่กลับบ้านรึไง?”เบสถามไปตามที่ตนเองสงสัย
“ฉันอยู่คนเดียว”เอกตอบออกมาราบเรียบ
“อ่อ”แล้วบทสนทนาก็จบลงเมื่อต่างฝ่ายต่างหันไปสนใจกับชามมาม่ามากกว่าคู่สนทนา =.=
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
~ณ ห้องของออย~
เมื่อขายาวๆของเจ้าของร่างสูงเยี่ยงกลายเข้ามาภายในห้องก็ได้กลิ่นหอมๆลอยฟุ้งออกมาจากฝ่ายในห้องครัว เลยทำให้ออยต้องเดินตามกลิ่นนั้นไปอย่างสงสัย แล้วพอร่างนั้นมาหยุดที่ครัวก็ไขข้อสงสัยได้ในทันทีว่ากลิ่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะเจ้าของร่างเล็กๆนั่นนะเอง…
“ทำอะไรน่ะ?”ออยเพียงแค่ส่งเสียงถามขึ้นเบาๆแต่ก็มากพอที่จะทำให้คนใจลอยอย่างคิวสะดุ้งขึ้นได้ ใบหน้าน่ารักนั้นหันมาหาต้นเสียงพร้อมกับยิ้มแหยๆ
“เอ่ออ…ทำอาหารครับ คิดว่าท่านออยกลับมาคงจะหิวน่ะ แฮะๆ”คิวพูดขึ้นอย่างเก้อเขินพร้อมกับเดินถือจานที่มีเสต๊กเนื้อมาวางไว้บนโต๊ะ
“อ่อ ขอบใจ”ออยเพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเท่านั้น แต่ก็เดินไปนั่งลงบนโต๊ะที่คิวเป็นคนจัดไว้ให้
“มะ…ไม่เป็นไรครับ”คิวก้มหน้าพูดเบาๆด้วยความเขินอาย
“ส่วนของนายล่ะ? เอามานั่งกินด้วยกันสิ”อยุ่ดีๆออยก็พูดขึ้นด้วยประโยคเชิญชวนแต่ก็ไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย
“เอ่อ…ผมไม่ได้ทำส่วนของผมหรอกครับ ผมทำให้แค่ ท่านออยคนเดียวน่ะ”ประโยคที่ออกมาจากปากของร่างบางทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาแต่แฝงแววดุดันเอาไว้นั้นต้องเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายทันที พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
“นั่งลงสิ”
“ครับ?”ร่างบางถามขึ้นอีกครั้งทำความไม่เข้าใจในคำพูดของคนที่นั่งอยู่
“ฉันบอกให้นั่งลง”คราวนี้ออยเลยต้องกดเสียงลงต่ำแล้วพูด เพื่อเป็นการให้อีกฝ่ายไม่สามารถปฏิเสธได้
“อ่ะ เอ่ออ…ครับ”ใบหน้าหวานตอบรับเพียงเล็กน้อยก่อนจะนั่งลง พออีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามของตัวเองปั๊บออยก็ยื่นจานเสต๊กของตัวเองให้อีกฝ่าย เลยส่งผลให้คิวเอียงคอมองด้วยความไม่เข้าใจ
“นายกินไปซะ ฉันจะไปอาบน้ำ”ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้โต้เถียงอะไรร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว ด้วยปฏิกิริยาแบบนั้นเลยทำให้คนหัวน้ำเงินยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
“ยังอ่อนโยนเหมือนเดิมเลยนะครับ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
TBC>>>
ความคิดเห็น