ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF[เอกxเบส] : Wolf

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : Divisibly

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.29K
      6
      29 ก.ย. 56


    Chapter 3 : Divisibly

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    แกร๊ก!

      เสียงของการปลดล็อคดังขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงเปิดประตูและขายาวๆก้าวเข้ามาในห้องก่อนจะค่อยๆบรรจงปิดประตูลงไปเบาๆ ร่างบางนั้นเดินเข้ามาภายในห้องนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนที่จังหวะของการเดินจะชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้น

    กลับมาช้าชะมัด หิวจะแย่อยู่แล้ว!”เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้วยความหงุดหงิดทำให้ร่างบางต้องค่อยๆหันไปมองตามต้นเสียง และเขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ

    เฮ้ยยยยยย!!!!ทำไมนายถึงจะอยู่ที่นี้อีกล่ะห๊ะ!!!”เบสตะโกนขึ้นเพราะเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นผู้ชายคนนี้อยู่ในห้องของเขาอีก แล้วแถมยังอยู่ในสภาพที่นั่งห่มผ้าอยู่บนเตียงเปลือยท่อนบนในปากก็เคี้ยวขนมยี่ห้อดังอยู่

    แล้วทำไมฉันถึงจะอยู่ไม่ได้ล่ะร่างหนาบางพร้อมกับลุกขึ้นจากตัยงทำให้เห็นว่า เขาไม่ได้เปลือยเพียงแค่ท่อนบนเท่านั้น….

    เฮ้ยยยยยย!!!!!ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า!!!”พอเบสเห็นอย่างนั้นก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังในทันทีพร้อมกับรีบกลับหันหลังไม่มองอีกฝ่ายไปเลย

    ก็ฉันอาบน้ำแล้วเสื้อผ้าของนายมันก็เล็กเกินไปฉันใส่ไม่ได้เอกพูดขึ้นด้วยท่าทีสบายๆ

    โอ๊ยยย!!ถึงงั้นก็เหอะ นายรีบๆเอาผ้ามาปิดไว้ก่อนเลยป่ะเบสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ

    ทำไมล่ะ ไม่เห็นจะเป็นไรเลยเอกพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาอีกฝ่าย

    ไม่เป็นไรได้ไงเล่า! ถ้านายไม่ปิดฉันไม่หาอะไรให้นายกินจริงๆด้วยเบสยื่นข้อต่อรองทั้งๆที่ยังไม่หันกลับไปมองอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ

    เรื่องมากว่ะ ก็ได้ๆแล้วเจ้าของร่างสูงโปร่งก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ตัวเองเพิ่งจะใช้อาบน้ำไปเอามาพันรอบเอวด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่นัก

    เอ้า!เสร็จแล้ว พอใจยัง?จากคำพูดของเอกเลยทำให้เบสค่อยๆหันตัวกลับมาดูทีล่ะน้อยว่าอีกฝ่ายอยู่ในลักษณะได้ และเมื่อเห็นว่ามีผ้าขนหนูผืนสีขาวมาบดบังแล้วนั้น เบสก็ถอนหายใจออกมายาวๆ พร้อมกับตั้งท่าจะบ่นร่างสูงอีกรอบ

    เฮ้อ!ทำไมนายยังอยู่ที่นี้ล่ะเบสกอดอกถามขึ้น คำถามที่ซ้ำซากและด้วยความที่ไม่อยากตอบ เลยทำให้เอกจิ๊ปากอย่างไม่พอใจอีกครั้งพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้หัวไปมา

    อย่างที่เห็นว่าฉันเจ็บอยู่พูดแล้วก็ชี้นิ้วไปยังรอยแผลยาวที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเริ่มดีขึ้นแล้ว

    นายเป็นคนบอกให้ฉันไม่ต้องมายุ่งกับนายเองไม่ใช่รึไง?เบสย้อนคำพูดที่อีกฝ่ายเคยบอกกับตนไว้

    ก็นายยุ่งแล้วนิ ถ้าไม่ช่วยฉันมาตั้งแต่ทีแรกฉันก็คงยังไม่อยู่ห้องนายอย่างนี้หรอกเอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบๆเหมือนกับจะบอก มันเป็นความผิดของนายอย่างนั้นแหละ

    นี่นาย!!”

    โอ๊ยยยย!เลิกโวยวายสักทีเถอะน่า หิวจะตายอยู่แล้วววเอกพูดพร้อมกับผลักหัวสีชมพูหวานนั้นจนแทบหน้าหงาย

    ให้ตายเถอะ!”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ~ณ บ้านหลังหนึ่ง~

    เฮ้อออ~~~”ชายหนุ่มร่างบางคนหนึ่งเดินเปิดประตูเข้ามาภายในบ้านอันสวยงามพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน

    ฮ่าๆ เป็นอะไรไปครับ หน้าหงอยเชียว หื้มม?ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผมสีขาวเดินออกมาพร้อมกับโอบเอวของอีกฝ่ายไว้อย่างหลวมๆ

    ก็ยังหาไอเจ้าหมาบ้านั่นไม่เจอเลยน่ะสิครับ ไม่รู้ว่าไปซ่อนอยู่ที่ไหน เฮ้ออว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบทำให้ชายหนุ่มตัวสูงยิ้มขึ้นด้วยความเอ็นดู

    ค่อยๆหาก็ได้ครับ อีกตั้งเดือนหนึ่งแหน่ะกว่าพระจันทร์จะเต็มดวงอีกรอบนะยิ้มหวานให้กับคนผมน้ำเงินแล้วลูบหัวเบาๆอย่างอ่อนโยน

    โถ่ พี่เชฟ รีบฆ่ามันตอนมันยังไม่มีพลังเยอะแล้วง่ายกว่านี่ครับว่าแล้วก็ตีแขนเจ้าของชื่อที่ตนเอ่ยออกมาเป็นการลงโทษที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

    ฮ่าๆ ก็พี่ไม่รู้นิ พี่ก็เป็นแค่หมอธรรมดาๆแหละนะร่างสูงหรือเจ้าของชื่อก็คือ เชฟพูดขึ้นกับคนรักของตัวเองแล้วยิ้มน้อยๆ ใช่ชายหนุ่มร่างสูงผมสีขาวสวมแว่นตามีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลานี้ชื่อว่า เชฟ เขาเป็นหมอและควบสถานะเป็นคนรักของนักล่าหมาป่าอย่างโน้ต เขาเป็นแค่เพียงคนธรรมดาไม่ได้มีพลังอะไรเลย เขาอาศัยอยู่กับโน๊ตในบ้านหลังเล็กๆนี้แค่สองคนเท่านั้น

    อ่อใช่!วันนี้พ่อของโน้ตโทรมาน่ะ เห็นว่ามีธุระสำคัญจะคุยด้วยเชฟพูดขึ้นอย่างเพิ่งนึกออก

    เอ๋? เมื่อไหร่หรอครับ?โน้ตเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูด

    ช่วงบ่อยๆน่ะ หัดพกโทรศัพท์ได้แล้วนะรู้ไหม!”เชฟบ่นคนรักของตัวเองอย่างไม่ได้จริงจังนัก

    ก็ผมไม่ยอมนี่น่า งั้นเดี๋ยวผมโทรไปหาพ่อก่อนแล้วกันนะพอแล้วก็ผละตัวออกมาจากเชฟพร้อมกับหอมแก้มให้ร่างสูงหนึ่งทีแล้วก็วิ่งขึ้นชั้นสองไป

     

     

     

     

     

     

    ~ณ ห้องของโน๊ต~

    ครับพ่อ มีเรื่องอะไรงั้นหรอครับ?เสียงทุ้มนุ่มกรอกเสียงลงไปตามสายด้วยความสุภาพ

    [เฮ้ออ~~พ่อว่าแกต้องทำงานหนักขึ้นแล้วแหละนะ]เสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นรุ่นใหญ่พูดขึ้นจากปลายเสียงด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน

    ทำไมหรอครับ?โน้ตรีบถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

    [สายข่าวของพ่อบอกมาน่ะ ดูเหมือนว่าจะมีหมาหลุดออกมาจากป่าอีกสองตัว]ปลายสายพูดไปก็กุมขมับไป เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนได้รู้จากแหล่งข่าว แค่เพียงหมาป่าตัวเดียวยังหาไม่เจอเลย นี่ยังจะออกมาอีกตั้งสองตัว แล้วลูกชายคนเดียวของเขาจะรับงานนี้ไหวไหมเนี้ยะ

    หา? โอ๊ยยยย!!ขยันกันออกมาจริงจริ๊งงงงง ให้ตายเถอะโน้ตกุมขมับพร้อมกับเดินอย่างคนไม่มีแรงไปนั่งที่ปลายเตียงนอน

    [แกรับไหวไหม?]คนที่ได้ชื่อว่าพ่อถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง

    เฮ้อออ~~~ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละครับ เดี๋ยวผมจัดการเองโน้ตถอนหายใจออกมาอีกครั้ง พร้อมกับบอกกับปลายสาย

    [ถ้าแกว่าอย่างนั้นน่ะนะ ระวังตัวด้วยแล้วกัน]คนเป็นพ่อพูดเตือนลูกชายของตนอีกครั้ง

    ครับผม ขอบคุณนะครับ พ่อก็ด้วยนะครับลูกชายก็บอกพ่อของตนกลับก่อนที่ทั้งสองคนจะวางสายไปพร้อมกัน

    เพิ่มงานให้ฉันจริงๆเลยนะ ไอเจ้าพวกหมาบ้า!!”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ~ณ หอพัก~

    นี่อะไรอ่ะ?เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นด้วยความสงสัย

    มาม่าเสียงใสตอบกลับไปด้วยท่าทีสบายๆ

    มาม่า?ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

    ก็เออไงร่างบางนั่งลงคีบเส้นมาม่าเข้าปากเป็นเชิงไม่อยากสนทนา

    มันคือ?แต่เอกก็ยังไม่เลิกสงสัยยังคงถามคนหน้าสวยต่อไปอยู่อย่างนั้น

    นี่นายไม่รู้จักมาม่ารึไงเนี้ยะ?เบสค้างเส้นมาม่าที่กำลังจะคีบเข้าปากเงยหน้าขึ้นมาถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

    ฮึ ไม่รู้จัก เงิบนี่คงเป็นคำๆเดียวที่สามารถอธิบายถึงลักษณะของเบสในตอนนี้ได้

    ห๊ะ!!ถามจริงดิ!อย่ามาล้อเล่นน่าด้วยความที่มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดจนเกินไปที่มนุษย์บนโลกใบนี้จะมีคนที่ไม่รู้จัก มาม่าไอเส้นหยักๆสีไข่ สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาล …..สีอะไรก็ช่างมันเถอะ แต่การที่มีคนพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่รู้จักมาม่านี้ออกจะเหลือเชื่อเกินไป เบสเลยขึ้นเสียงพูดใส่อีกฝ่ายไปอย่างเต็มๆ

    มาขึ้นเสียงใส่ฉันทำไมเนี้ยยยยยย!!”เอกก็โวยวายออกมาตามประสา

    ก็นาย! เออ ช่างมันเหอะ กินๆเข้าไปซะหิวไม่ใช่รึไง?ด้วยความที่เบสขี้เกียจจะเถียงก็เลยปล่อยเลยตามเลยแล้วก็บอกให้อีกฝ่ายกินๆเข้าไปซะ

    ก็ได้เอกว่าปุ๊บก็ก้มลงไปคีบเส้นมาม่าเข้าปากทันที

    อร่อยแฮะเอกพูดขึ้นมาเบาๆเหมือนบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะคีบเส้นขึ้นมาเป็นคำใหญ่ๆยัดเข้าปากจนทำให้เบสที่นั่งมองอยู่ถึงกับอมยิ้มออกมาแบบขำๆ

    แล้วนายชื่ออะไร?เบสถามคนที่กินมาม่าอย่างไม่ลืมหูลืมตาขึ้น เอกเพียงแค่ช้อนตาขึ้นมามองอีกฝ่ายเฉยๆ ก่อนจะรีบเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปากจนหมดแล้วค่อยพูดออกมา

    เอก นายล่ะ?เอกตอบพร้อมกับถามอีกฝ่ายกลับ

    เบส นายไปทำอะไรมาถึงได้มีเลือดมีแผลเต็มตัวขนาดนั้นเพราะคำถามที่คนหัวชมพูเอ่ยออกมาทำให้เอกถึงกับชะงักไปเล็กน้อย แล้วก็เงียบไปเป็นเหมือนสัญญาณว่าไม่อยากจะบอก และดูเหมือนว่าเบสจะรับรู้ได้ถึงสัญญาณนั้น

    เออ ช่างเถอะก็เป็นสิทธิ์ของนายที่จะไม่บอกแหละนะเบสพูดขึ้นพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อยเป็นเชิงไม่ได้ใส่ใจ

    แล้วทำไมนายถึงช่วยฉันล่ะ?คราวนี้เอกเป็นฝ่ายถามอีกคนขึ้นมาบ้าง

    เห็นนายกำลังจะตายอย่างนั้นเป็นใครใครก็ต้องช่วยแหละน่า แล้วนายจะอยู่ที่นี้อีกนานแค่ไหนเนี้ยะ?เบสตอบคำถามของอีกฝ่ายพร้อมกับถามคำถามไปด้วย

    “…จนกว่าแผลจะหายดีล่ะมั้งคราวนี้เอกตอบแบบไม่เงยหน้าขึ้นมามองตาคนหน้าหวาน

    ไม่กลับบ้านรึไง?เบสถามไปตามที่ตนเองสงสัย

    ฉันอยู่คนเดียวเอกตอบออกมาราบเรียบ

    อ่อแล้วบทสนทนาก็จบลงเมื่อต่างฝ่ายต่างหันไปสนใจกับชามมาม่ามากกว่าคู่สนทนา =.=

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ~ณ ห้องของออย~

    เมื่อขายาวๆของเจ้าของร่างสูงเยี่ยงกลายเข้ามาภายในห้องก็ได้กลิ่นหอมๆลอยฟุ้งออกมาจากฝ่ายในห้องครัว เลยทำให้ออยต้องเดินตามกลิ่นนั้นไปอย่างสงสัย แล้วพอร่างนั้นมาหยุดที่ครัวก็ไขข้อสงสัยได้ในทันทีว่ากลิ่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะเจ้าของร่างเล็กๆนั่นนะเอง

    ทำอะไรน่ะ?ออยเพียงแค่ส่งเสียงถามขึ้นเบาๆแต่ก็มากพอที่จะทำให้คนใจลอยอย่างคิวสะดุ้งขึ้นได้ ใบหน้าน่ารักนั้นหันมาหาต้นเสียงพร้อมกับยิ้มแหยๆ

    เอ่ออทำอาหารครับ คิดว่าท่านออยกลับมาคงจะหิวน่ะ แฮะๆคิวพูดขึ้นอย่างเก้อเขินพร้อมกับเดินถือจานที่มีเสต๊กเนื้อมาวางไว้บนโต๊ะ

    อ่อ ขอบใจออยเพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเท่านั้น แต่ก็เดินไปนั่งลงบนโต๊ะที่คิวเป็นคนจัดไว้ให้

    มะไม่เป็นไรครับคิวก้มหน้าพูดเบาๆด้วยความเขินอาย

    ส่วนของนายล่ะ? เอามานั่งกินด้วยกันสิอยุ่ดีๆออยก็พูดขึ้นด้วยประโยคเชิญชวนแต่ก็ไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย

    เอ่อผมไม่ได้ทำส่วนของผมหรอกครับ ผมทำให้แค่ ท่านออยคนเดียวน่ะประโยคที่ออกมาจากปากของร่างบางทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาแต่แฝงแววดุดันเอาไว้นั้นต้องเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายทันที พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ

    นั่งลงสิ

    ครับ?ร่างบางถามขึ้นอีกครั้งทำความไม่เข้าใจในคำพูดของคนที่นั่งอยู่

    ฉันบอกให้นั่งลงคราวนี้ออยเลยต้องกดเสียงลงต่ำแล้วพูด เพื่อเป็นการให้อีกฝ่ายไม่สามารถปฏิเสธได้

    อ่ะ เอ่ออครับใบหน้าหวานตอบรับเพียงเล็กน้อยก่อนจะนั่งลง พออีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามของตัวเองปั๊บออยก็ยื่นจานเสต๊กของตัวเองให้อีกฝ่าย เลยส่งผลให้คิวเอียงคอมองด้วยความไม่เข้าใจ

    นายกินไปซะ ฉันจะไปอาบน้ำยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้โต้เถียงอะไรร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว ด้วยปฏิกิริยาแบบนั้นเลยทำให้คนหัวน้ำเงินยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

    ยังอ่อนโยนเหมือนเดิมเลยนะครับ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC>>>


    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×