คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 : More
Chapter 7 : More…
.
.
.
.
.
.
.
“หายไปไหนมาหรอครับ พี่เชฟ?” ทันทีที่คนผมขาวออกเทาเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ก็ต้องชะงักไปทันทีเมื่อเห็นคนที่เขาไม่นึกว่าจะอยุ่ที่บ้าน นั่งไขว่ห้างกอดอกจ้องมาที่เขาเขม็ง
“เอ่ออ โน้ตกลับมาเมื่อไหร่หรอครับ?” หลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถาม หน่ำซ้ำยังถามคำถามอื่นกลับไปเพื่อเปลี่ยนประเด็น
“ก็นานพอที่จะรู้ว่าพี่ไม่อยู่ที่บ้านนานแล้วนั่นแหละครับ….ไม่มีเคสผ่าตัดอะไรไม่ใช่หรอครับ?”คนที่นั่งอยุ่บนโซฟายังคงยิ่งคำถามรัวมาด้วยท่าทีที่สงบนิ่งเช่นเดิม ตามตารางงานที่เขารู้ของคนตัวสูง วันนี้ว่างและไม่มีนัดต้องพบเจอคนไข้ใดๆทั้งสิ้น แล้ว…เขาออกไปไหนมา?
“…พี่แค่ออกไปขับรถเล่นมาน่ะครับ ว่าแต่เราเถอะทำไมวันนี้ถึงกลับมาเร็วจัง หื้มม?” เมื่อคุณหมอตัวสูงรู้วายังไงซะก็ไม่มีหลบเลี่ยงคามของคนรักได้แล้ว เลยเลือกที่จะบอกออกไปอย่างไม่ให้ถูกสงสัยได้มากที่สุด จะให้โน้ตรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเขาติดต่อกับพวกหมาป่า…
“…..ก็ไม่มีอะไรครับ คุยงานเร็วก็เลยกลับมาเร็วแค่นั้นเอง วันนี้ว่าจะพักสักวันแล้วค่อยไปตามล่าเจ้าพวกนั้นต่อน่ะครับ” เมื่อคนหัวน้ำเงินได้รับคำตอบที่น่าพอใจก็เริ่มผ่อนคลายลง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เดินมากอดออดอ้อนคนรักสักหน่อย แล้วระบายทุกอย่างให้คนที่กอดตนได้รับฟัง เขาไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังร่างสูงคนนี้เลย เชฟรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขา แต่อาจจะมีเพียงเขาฝ่ายเดียวเท่านั้น ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับร่างสูงตรงหน้า…
…….. ความเป็นจริงในบางที ก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ ถ้าความเป็นจริงนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของเขาย่ำแย่ลงไป ‘การโกหก’ มันคงจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า…….
.
.
.
.
.
.
.
~ณ คลาสเรียนแห่งหนึ่ง~
ป๊อก ป๊อก ป๊อก
เสียงของปากกาที่กระทบกับโต๊ะ ยังคงดังก้องเป็นจังหวะเบาๆต่อไปและมีทีท่าว่าอาจจะไม่หยุดลงง่ายๆหากเจ้าของปากกายังคงคิดอะไรต่างๆนาๆอยู่ภายในหัวเต็มไปหมด
“ไอเบส!! เคาะส้นตีนอะไรของมึงตั้งนานแล้วเนี้ยะห๊ะ? อาจารย์เลิกคลาสแล้วเว้ย!แดกข้าวๆ” เพื่อนสนิทของคนหัวชมพูซึ่งนั่งอยู่ข้างๆกันพูดขึ้นมาเสียงดังส่งผลให้เบสสะดุ้งอยู่ไม่น้อย แต่ก็สามารถเรียกสติให้เขากลับเขามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้ หลังจากเข้าไปอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองมาซะเป็นชั่วโมงกว่าๆ
“อ่ะๆ เออโทษทีพอดีคิดอะไรอยู่นิดหน่อย” คนตัวเล็กบอกขอโทษไปอย่างลวกๆก่อนจะเก็บของๆตัวเองลงกระเป๋าสะพายไป แล้วเดินตามเพื่อนของตัวเองออกมานอกห้องเพื่อไปหาอะไรกินกันต่อ
“คิดอะไรของมึงว่ะ? อย่างมึงเคยเครียดอะไรด้วย?” เพื่อนของเขาตั้งคำถามออกมาอย่างนึกแซวๆ อย่างเบสที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา เห็นหมาก็หัวเราะอย่างมันเนี้ยะนะจะมีเรื่องอะไรให้สามารถคิดได้ด้วย นึกไม่ถึงจริงๆ
“กูไม่ได้เครียดดดด กูแค่คิดดด ……… เออ ถ้าสมมุตินะเว้ย มึงดันไปเก็บหมามาเลี้ยง แล้วมึงไม่รู้ว่าแม่งมาจากไหน พันธุ์อะไรเป็นโรครึป่าว แต่มึงเห็นว่าไอหมาตัวเนี่ยะมันโดนกัดมา มึงจะช่วยป่ะว่ะ?” เบสตอบเพื่อนตัวเองกลับไป ก่อนจะตั้งคำถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้เพื่อนของเขาถึงกับต้องงงอยู่ในคำถามไปพักหนึ่งก่อนจะประมวลผลออกมาเป็นคำตอบได้
“อื้มมมมมมมมม เป็นกูยังไงๆกูก็ช่วยว่ะ ก็แม่งบาดเจ็บนี่หว่า ปล่อยไว้แม่งก็ตายดิ ยังไงก็ชีวิตๆหนึ่งอ่ะ” เพื่อนของเบสตอบกลับมาด้วยท่าทีสบายๆ แต่คนที่ได้ฟังคำตอบกลับกำลังคิดตามคำตอบของเพื่อนอย่างหนัก ก่อนจะปาคำถามใหม่เข้ามาใส่
“แล้วถ้าทำแผลเสร็จแล้วอ่ะ มึงจะปล่อยไปหรือจะเลี้ยงต่อ?” นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดไม่ตกจริงๆ อยากจะรู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นจะทำอย่างไร
“คงเลี้ยงให้หายดีก่อนค่อยปล่อยว่ะ” เบสพยักหน้าให้กับคำตอบที่ได้รับ งั้นเขาก็คงจะทำถูกแล้วแหละ
“หมาจรจัดป่ะว่ะ?” ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังคิดตามในคำตอบที่ได้รับ อยู่ดีๆเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆเขาก็โพล่งคำถามขึ้นมา ทำให้เขาต้องหันกลับไปมองคนถามคำถามแทน ก่อนจะพยักหน้าตอบไปอย่างมึนๆ ก็คงนับว่าเป็นหมาจรจัดแหละมั้ง…อย่างน้อยก็ปากจัดแหละนะ
“งั้นก็คงต้องระวังหน่อยว่ะ พวกหมาจรจัดมันไม่ค่อยได้รับความอบอุ่นเลยติดคนง่าย ถ้ามันติดแล้ว ไล่ให้ตายยังไงก็ไม่ไปหรอก” เพื่อนของเขาพูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆไม่ได้ทุกข์ร้อนหรือมีนัยแฝงอะไร แต่คนที่ได้ยินเนี้ยะดิ ……. ถ้ามันติดแล้ว ไล่ให้ตายยังไงก็ไม่ไป งั้นหรอ?
.
.
.
.
.
.
.
[Flashback : ออยคิว]
“พี่ออยฮะๆ” น้ำเสียงเล็กๆฟังดูสดใสดังขึ้นข้างหูของคนผมทอง ทำให้คนที่กำลังเหม่อมองไปบนท้องฟ้าก้มลงมามองเจ้าตัวปัญหาที่เขากำลังจับมือเล็กๆไว้อยู่
“ครับ ว่าไง?” ออยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะนึกรำคาญเด็กน้อยคนนี้
“วันนี้คิวโดนว่าด้วย เขาบอกว่าคิวไม่ได้เรื่อง อ่อนแอ่ ไม่สามารถดูแลปกป้องคนในตระกูลของพี่ออยได้ คิวเสียใจจัง” เด็กเจ้าปัญหาพูดไปพร้อมกับเบะปากออกมาอย่างรู้สึกน้อยใจ เด็กที่อายุยังไม่ถึงสิบขวดด้วยซ้ำคนนี้ คงยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมาก แต่ก็ไม่สมควรไปว่าอะไรร้ายกาจอย่างนั้นไม่ใช่หรอ? เมื่อออยได้ยินสิ่งที่เด็กน้อยพูดออกมาแล้วก็หยุดฝีเท้าที่เดินต่อ นั่งคุกเข่าลงมาให้ตัวเองอยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กตัวเล็ก ก่อนจะยิ้มหวานออกมาน้อยๆอย่างนึกปลอบ
“รู้ใช่ไหมครับ ว่าตัวเองเป็นใคร? หื้มมม?” น้ำเสียงที่ออยเปล่งออกมามันอ่อนโยน ทำให้คิวผ่อนคลายลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ หรือนี้จะคือเวทมนต์กันนะ?
“คิวเป็นลูกครึ่งหมาป่ากับมานุดดด คิวอยู่ในครอบครัวที่ต้องปกป้องครอบครัวพี่คิวว พ่อบอกคิวว่าคิวเป็นคนรับใช้ ส่วนพี่คิวเป็นคุณชายยย” สิ่งที่ออกมาจากปาเด็กตัวน้อยมันช่างดูไร้เดียงสา ไม่ต่างอะไรจากดอกไม้แรกบาน บางครั้งเขาก็นึกโทษพระเจ้าเหตุใดกันถึงทำให้เด็กผู้น่ารักคนนี้เกิดมาเป็นแบบนี้ไม่ใช่แค่สายเลือดแต่รวมไปถึงตระกูลที่ต้องแลกด้วยชีวิต แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจไปมากกว่านั้นก็คือ เป็นเขาเองที่อาจจะทำให้เด็กตัวน้อยคนนี้ต้องสละชีวิตลง มันเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้ ในเมื่อบรรพบุรุษกำหนดมาอย่างนี้….
“ไม่เอาๆ คิดใหม่นะครับ ฟังพี่นะ คิวอยากปกป้องพี่ไหม?”
“คิวจะปกป้องพี่ออย!!!!!!”
“ถ้างั้น…คิวไม่ต้องทำอะไรมากนะครับ แค่คอยอยู่ข้างๆพี่ก็พอ สัญญานะ?”
“คิวสัญญา~~~” นิ้วก้อยถูกยกขึ้นมาเกี่ยวกันเป็นดั่งคำสัญญาว่าจะไม่พรากจากกันไปไหน อีกคนจะคอยอยู่ข้างกาย ส่วนอีกคนจะคอยดูแล ไม่ต้องมาปกป้องอะไรเขาทั้งนั้น แค่คอยดูแลกันและก็พอ….
.
.
.
.
.
.
.
~ณ คอนโดแห่งหนึ่ง~
“จะทำยังไงต่อไปหอครับท่านออย?” คนหัวน้ำเงินพูดขึ้นด้วยท่าทางที่อ่อนน้อม
“อะไร?” คนที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะถีบเก้าอี้เล่นไปมาถามขึ้นด้วยเสียงนิ่งเรียบ
“เอ่ออ ก็เจอท่านเอกแล้ว?” คิวพูดขนาดความขึ้นให้คนร่างแกร่งได้เข้าใจ ออยเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย่อนจะยิ้มน้อยๆพอเป็นพิธี
“ก็ไม่ไง รอกลับพร้อมเอกก็แล้วกัน ฉันอยากให้มั่นใจว่าเอกจะไม่เป็นอะไร” ออยพูดพลางเคาะโต๊ะเล่นเป็นจังหวะไปมา
“งั้นหรอครับ…” คิวรำพึงอกมาน้อยๆด้วยสีหน้าหง่อยๆ
“จะกลับไปก่อนก็ได้นะ ฉันอยู่เองได้” ออยว่าพลางกระโดดลงมาจากโต๊ะ
“ไม่ล่ะครับ ผมขออยู่ข้างๆท่านออยดีกว่า” ท้ายประโยคคิวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่กังพอที่จะทำให้ออยได้ยิน
“…..ลืมไปซะเรื่องพวกนั้นนะ มันก็แค่ความคิดตอนเด็กเท่านั้น” ออยพูดขึ้นเบาๆด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปปล่อยให้คนตัวเล็กยืนอยู่คนเดียวเพียงเบื้องหลัง…
“แค่อดีต…สินะ”
.
.
.
.
.
.
.
.
TBC>>>
ความคิดเห็น