ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังบลาๆ~[เก็บของ]

    ลำดับตอนที่ #3 : how to story board

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 56


    หวัดดีค่า!

     

     

    เอนทรี่นี้จะเป็นฮาวทูสำหรับการทำสตอรี่บอร์ดเรื่องสั้นค่ะ (ตามที่มีรีเควสมาในเด็กดี แหะๆ)

    บอกไว้ก่อนว่านี่เป็นเพียงวิธีที่เราทำไม่ได้หมายความว่ามีวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่ถูกต้อง

    และอาจมีวิธีอื่นอีกมากมายที่มีประสิทธิภาพมากกว่านะคะ

    เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ!!

     

    Story Board คืออะไร?

          Story Board หรือ เนม คือ การวาดการ์ตูนอย่างหยาบเป็นหน้า ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ (สำหรับเรื่องยาวจะทำเป็นตอนต่อตอน) เพื่อวางแผนการจัดลำดับช่อง รวมถึงบอลลูนคำพูดและความคิดต่าง ๆ ของตัวละคร ก่อนที่จะลงมือวาดจริง

     

    ข้อดีของการทำ Story Board

    1. ช่วยให้เนื้อเรื่องลื่นไหล เพราะได้อ่านทวนตั้งแต่ตั้นจนจบก่อนจะลงมือวาดจริง

    2. ช่วยให้เนื่อเรื่องไม่ออกทะเล เพราะมีแผนการวาดกำกับไว้หมดแล้ว

    3. ช่วยกะปริมาณบทพูดให้พอดีและเหมาะสมกับหน้ากระดาษและบอลลูนนั้น ๆ

    4. ช่วยให้สามารถวาดจบได้ในจำนวนหน้าที่กำหนด (สำคัญสุด!)

     

    ข้อควรจำของการทำ Story Board

    1. อย่า กลัวที่จะต้งแก้ Story Board !!!!!

    ถ้าวาด Story Board ตั้งแต่ต้นจนจบแล้วไม่แก้เลย... จะวาดเพื่อ? =_,=

    (อย่างนั้นสู้วาดจริงไปเลยไม่ดีกว่าหรอคะ? เหอๆ)

    2. อย่า ลงมือวาดทันทีหลังทำ Story Board เสร็จ !!!!!

    จะพักอาบน้ำกินข้าว หรือหลับไปเลยก็ได้ แล้วตื่นมาอ่านใหม่ตอนเช้า

    เชื่อสิ... คุณจะเจอจุดที่อ่านแล้วตะหงิด ๆ เกิดอาการอยากแก้

    3. บางทีถึงจะลงมือวาดจริงแล้ว แต่เพิ่งเจอจุดที่อยากแก้ภายหลัง ก็ยังสามารถแก้ได้ค่ะ

    ไม่ใช่ว่าจะต้องวาดตามสตอรี่บอร์ดเราเด๊ะ ๆ ถ้าเจออะไรตะหงิด ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แก้ได้ค่ะ (ส่วนมากเราชอบแก้มุมมองในช่องนั้น ๆ หรือเปลี่ยนตำแหน่งบอลลูนก็มี)

     

    ขั้นตอนการทำ Story Board

     

    1. วางโครงเรื่องหลัก ไม่ว่าจะเป็น Theme, ตัวละครหลัก, ฉาก ฯลฯ

    จะขอใช้ Upside Down เป็นกรณีศึกษานะคะ OwO
    ท้ายเอนทรี่จะมีคอมมิกไว้ให้เทียบกับตัวอย่างค่ะ

    1.1 แนวเรื่อง

         - Romantic, Horror 

    1.2 ฉาก

         - แฟลตเก่า ๆ ในกรุงเทพ

    1.3 เนื้อเรื่องย่อ (สั้น ๆ พอนะจ๊า เราสั้นแค่นี้ยังเกือบยัดลง 24 หน้าไม่พอเลย เหอๆ)

         - สลิลถูกฆ่าแล้ววิญญาณของเธอได้ย้อนเวลากลับมาพบกับศิลา ศิลาที่ได้พบสลิลที่เป็นวิญญาณจึงตัดสินใจเช่าแฟลตเดียวกับสลิล(ที่ในเวลา นั้นยังไม่ตาย) และสามารถช่วยชีวิตสลิลได้สำเร็จ เมื่ออนาคตได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะความรักที่ศิลามีให้กับสลิล สลิลที่เป็นร่างวิญญาณจึงขอบคุณศิลาแล้วจางหายไป

    1.4 Theme/แก่น (ข้อคิด/สิ่งที่ต้องการจะสื่อ)
    *หลาย ๆ คนลืมข้อนี้ไปค่ะ ให้ถามตัวเองว่าเราอยากจะส่งข้อความอะไรไปถึงผู้อ่านคะ?*

         - ความรักสามารถทำให้ชีวิตของคนเปลี่ยนไปได้อย่างที่คุณเองก็คาดไม่ถึง!

    1.5 ตัวละคร (การ์ตูนสั้นไม่ควรมีตัวละครมากเกินไปนะคะ ให้มีตัวละครหลักที่มีบทบาทเด่นในเรื่องไม่เกิน 2-3 คนก็พอค่ะ)

         - สลิล = นางเอก มีทั้งผีสลิล(อนาคต) กับสลิลที่เป็นคน(ปัจจุบัน)ในเวลาเดียวกัน อิมเมจหลอนๆผมดำยาว ดูยิ้มแย้ม ไร้เดียงสา(หรือแค่ตีหน้าซื่อกันนะ!?) ชอบหัวเราะดัง"คิก"

         - ศิลา = พระเอก นักศึกษาหนุ่มที่มาเช่าแฟลตเดียวกับสลิล ท่าทางบ้าบ๊อง ขี้โวยวาย ดูแล้วชวนให้คนอ่านตามลุ้นไปกับเค้าด้วย

    สำหรับการ์ตูนสั้นคงไม่มีเวลาปูพื้นลักษณะตัวละครได้มากเพราะมีจำนวนหน้าจำกัด

    สิ่งสำคัญคือกำหนดรูปลักษณ์ของตัวละครแต่ละตัวให้โดดเด่นไม่คล้ายกันจนเกินไป อาทิ
      - สีผม(ขาว/ดำ/สกรีนโทน) ทรงผม(สั้น/ยาว/แสก/...)
      - สไตล์เลื้อผ้า(หรู/จน/น่ารัก/เซ็กซี่/เท่/เชย/...)
      - อุปนิสัยคร่าว ๆ ของตัวละคร(ขรึม/ขี้เล่น/ไร้เดียงสา/ซ่า/...)

    โดยหน้าตากับอุปนิสัยควรจะสอดคล้องกัน (แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปนะคะ..)

    สรุปคือ ควรออกแบบรูปลักษณ์ของตัวละครให้โดดเด่นแตกต่างกัน และมองแล้วสามารถสื่อถึงลักษณะนิสัยของตัวละครได้ทันทีค่ะ

     

    2. ลำดับเหตุการณ์คร่าว ๆ 

    จุดนี้ไม่จำเป็นต้องเริ่มลำดับจากต้นเรื่องแล้วค่อย ๆ ไล่ไปให้จบในคราวเดียวนะคะ (เดี๋ยวจะเกิดอาการตันซะก่อน) ในบางเรื่องตอนแรกเราอาจเริ่มคิดได้แค่จุดเริ่มต้นกับจุดจบ หรือเฉพาะเหตุการณ์สำคัญ ๆ ก็ให้จดเหตุการณ์นั้น ๆ ไว้ก่อน แล้วค่อย ๆ แทรกเหตุการณ์ต่าง ๆ จนทุกเหตุการณ์เรียงลำดับกันได้เป็นเรื่องราวค่ะ

    จุดสำคัญคือเมื่อเราคิดเหตุการณ์หนึ่งออกมาได้ ก็ให้บันทึกเอาไว้ แล้วถามตัวเองว่า อะไรทำให้เกิดเหตุการณ์นี้? และ ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น? แค่สองคำถามนี้ก็ทำให้เราสร้างเหตุการณ์ของเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบได้แล้วค่ะ จุดสำคัญคือ ทุกเหตุการณ์จะเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน เหตุการณ์ก่อนหน้าจะทำให้เหตุการณ์ต่อมามีน้ำหนักมากขึ้นค่ะ

    ตัวอย่าง

    สลิลถูกฆ่า > ย้อนเวลากลับมาเจอศิลา > ศิลาเห็นสลิลแล้วเกิดรักแรกพบ > ศิลาตัดสินใจเช่าแฟลตเดียวกับสลิล > ศิลาเริ่มรู้สึกว่าสลิลมีอะไรแปลก ๆ (ให้คนอ่านคิดว่าสลิลเป็นผีมาตั้งแต่ต้น) > ศิลาช่วยชีวิตสลิลจากโจรโรคจิต > ผีสลิลออกมาเฉลยว่าตัวเองเป็นผีย้อนเวลากลับมาและขอบคุณศิลาที่ช่วยเปลี่ยน อนาคตของตนเอง > เพราะสลิลที่เป็นคนไม่ตายแล้ว ผีสลิลจึงหายไป > ศิลาจึงเพิ่งเข้าใจว่าความรักสามารถเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้จากหน้ามือเป็น หลังมือ

    งืม... เหตุการณ์มันยังกว้างไปหน่อย (ก็แทรกเอาเลยค่ะ)

    สลิลถูกฆ่า > ย้อนเวลากลับมาเจอศิลา > ศิลาเห็นสลิลแล้วเกิดรักแรกพบ > ศิลาตัดสินใจเช่าแฟลตเดียวกับสลิล > ศิลาพบสลิล(คน)ครั้งแรกวันย้ายเข้า > คืนนั้นศิลาเจอผีสลิลครั้งแรกบนเพดานห้อง > ศิลาถามประวัติแฟลตจากยามแต่ไม่ได้คำตอบ แล้วอยู่ๆสลิล(คน)ก็โผล่มาตอบว่าไม่มีอะไร ดูน่าสงสัยมาก > ศิลาเริ่มรู้สึกว่าสลิลมีอะไรแปลก ๆ (ให้คนอ่านคิดว่าสลิลเป็นผีมาตั้งแต่ต้น) > ศิลาเจอผีสลิลอีกครั้ง โดยผีพยายามจะสื่อสารว่าให้ไปช่วยตัวเองที่เป็นคนที่กำลังถูกฆ่า > ศิลาช่วยชีวิตสลิลจากโจรโรคจิต > ผีสลิลออกมาเฉลยว่าตัวเองเป็นผีย้อนเวลากลับมาและขอบคุณศิลาที่ช่วยเปลี่ยน อนาคตของตนเอง > เพราะสลิลที่เป็นคนไม่ตายแล้ว ผีสลิลจึงหายไป > ศิลาจึงเพิ่งเข้าใจว่าความรักสามารถเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้จากหน้ามือเป็น หลังมือ

    ฉากหลอนน้อยไปมั้ย? พูดถึงเรื่องโจรโรคจิตก่อนหน้านั้นอีกหน่อย เดี๋ยวเหตุผลอ่อนไป
    แล้วจะแยกให้เห็นความต่างระหว่างสลิล(คน) กับผีสลิลยังไงดี?
    ให้ใส่สร้อยต่างกันละกัน! เอาใหม่ ๆ

    สลิลถูกฆ่า > ย้อนเวลากลับมาเจอศิลา > ศิลาเห็นสลิลแล้วเกิดรักแรกพบ > ศิลาตัดสินใจเช่าแฟลตเดียวกับสลิล > ศิลาพบสลิล(คน)ครั้งแรกวันย้ายเข้า > ศิลาทำสร้อยรูปดาวของสลิลขาด > คืนนั้นศิลาเจอผีสลิลครั้งแรกบนเพดานห้อง (พอตกใจตื่นก็ไม่เจออะไร จึงคิดว่าฝันร้ายเฉยๆ) > ศิลาถามประวัติแฟลตจากยามแต่ไม่ได้คำตอบ (มีหนังสือพิมพ์ลงข่าวโจรโรคจิตอยู่บนโต๊ะยาม) แล้วอยู่ๆสลิล(คน)ก็โผล่มาตอบว่าไม่มีอะไร ดูน่าสงสัยมาก > คืนนั้นศิลาเจอผีสลิลอีก(ใกล้กว่าเดิม) ตื่นมาก็ไม่เจออะไร (แต่จริงๆบนเตียงมีเส้นผมผู้หญิงอยู่...) > ศิลาเริ่มรู้สึกว่าสลิลมีอะไรแปลก ๆ (ให้คนอ่านคิดว่าสลิลเป็นผีมาตั้งแต่ต้น) > ศิลาเอาสร้อยหินรูปหยดน้ำที่ซื้อมาใหม่ไปให้สลิล(ทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าสลิล เป็นผีรึเปล่าแต่ก็ชอบสลิล) > ศิลากลับมานอนกลางวันที่ห้อง > ศิลาเจอผีสลิลอีกครั้ง (คราวนี้ตื่นมาเจอของจริง แถมตกจากเพดานลงมาคอหักนอนครวญครางอยู่บนพื้น) โดยผีพยายามจะสื่อสารว่าให้ไปช่วยตัวเองที่เป็นคนที่กำลังถูกฆ่า > ศิลาช่วยชีวิตสลิลจากโจรโรคจิต > ผีสลิลออกมาเฉลยว่าตัวเองเป็นผีย้อนเวลากลับมาและขอบคุณศิลาที่ช่วยเปลี่ยน อนาคตของตนเอง > เพราะสลิลที่เป็นคนไม่ตายแล้ว ผีสลิลจึงหายไป > ศิลาจึงเพิ่งเข้าใจว่าความรักสามารถเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้จากหน้ามือเป็น หลังมือ 

    (ขอบอกไว้ก่อนว่าจริง ๆ มันไม่ได้แทรกได้ง่าย ๆ ขนาดนี้ จริงๆแล้วเราทั้งแทรก ทั้งตัด ทั้งแก้ทั้งเรื่อง มาหลายหนแล้วค่ะ แค่อย่ากลัวที่จะต้องแก้แล้วทิ้งของเดิมก็พอ)

    อย่าลืมว่าต้องหา จุด Climax ของเรื่องให้ได้ จุดนี้จะเป็นจุดที่น่าตื่นเต้นที่สุดก่อนที่จะเฉลยปมทุกอย่างในเรื่อง

    การสร้างปมให้ผู้อ่านสงสัยก็เป็นจุดสำคัญในการสร้างเรื่อง ปมจะทำให้ผู้อ่านเกิดคำถามในใจและคาดเดาเนื้อเรื่องรวมถึงตอนจบไปต่าง ๆ นานา

    ในเรื่องนี้เราจะพยายามวาดให้คนอ่านคิดว่าสลิลเป็นผีมาแต่แรก แล้วคนอ่านก็จะเกิดคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับสลิล ทำไมถึงตาย ตกลงสลิลที่ศิลาเจอเป็นผีหรือเป็นคนกันแน่ ผีสลิลต้องการอะไรจากศิลา จนถึงตอน Climax ที่ผีสลิลมาขอความช่วยเหลือจากศิลา จึงนำไปสู่ช่วงคลายปมปริศนาทั้งหมดว่าที่แท้ผีสลิลเป็นสลิลจากอนาคตมาขอความ ช่วยเหลือให้ศิลาช่วยชีวิตตัวเองที่ยังมีชีวิตอยู่ในอดีต

     

    3. กำหนดหน้า

    เอาเหตุการณ์ต่าง ๆ มาจัดเป็นหน้า

    ตัวอย่าง

    [1] สลิลถูกฆ่า
    [2] ปก
    [3-4] ศิลาเห็นสลิลแล้วเกิดรักแรกพบ > ศิลาตัดสินใจเช่าแฟลตเดียวกับสลิล

    [5-7] ศิลาพบสลิล(คน)ครั้งแรกวันย้ายเข้า > ศิลาทำสร้อยรูปดาวของสลิลขาด
    [8] คืนนั้นศิลาเจอผีสลิลครั้งแรกบนเพดานห้อง (พอตกใจตื่นก็ไม่เจออะไร จึงคิดว่าฝันร้ายเฉยๆ)
    [9] ศิลาถามประวัติแฟลตจากยามแต่ไม่ได้คำตอบ (มีหนังสือพิมพ์ลงข่าวโจรโรคจิตอยู่บนโต๊ะยาม)
    [10] แล้วอยู่สลิลก็โผล่มาตอบว่าไม่มีอะไร ดูน่าสงสัยมาก
    [11-12] คืนนั้นศิลาเจอผีสลิลอีก(ใกล้กว่าเดิม) ตื่นมาก็ไม่เจออะไร (แต่จริงๆบนเตียงมีเส้นผมผู้หญิงอยู่...) > ศิลาเริ่มรู้สึกว่าสลิลมีอะไรแปลก ๆ (ให้คนอ่านคิดว่าสลิลเป็นผีมาตั้งแต่ต้น) 

    [12-13] ศิลาเอาสร้อยใหม่ที่ซื้อมาไปให้สลิล(ทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าสลิลเป็นผีรึเปล่าแต่ก็ชอบสลิล)
    [14] ศิลากลับมานอนกลางวันที่ห้อง

    [15-17] ศิลาเจอผีสลิลอีกครั้ง (คราวนี้ตื่นมาเจอของจริง แถมตกจากเพดานลงมาคอหักนอนครวญครางอยู่บนพื้นด้วย) โดยผีพยายามจะสื่อสารว่าให้ไปช่วยตัวเองที่เป็นคนที่กำลังถูกฆ่า
    [18] ศิลาช่วยชีวิตสลิลจากโจรโรคจิต
    [19-22] ผีสลิลออกมาเฉลยว่าตัวเองเป็นผีย้อนเวลากลับมาและขอบคุณศิลาที่ช่วยเปลี่ยน อนาคตของตนเอง > เพราะสลิลที่เป็นคนไม่ตายแล้ว ผีสลิลจึงหายไป
    [23-24] ศิลาจึงเพิ่งเข้าใจว่าความรักสามารถเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ 

    สำหรับเรื่องสั้น อย่าใช้เวลาปูเรื่องนานเกินไปจนไม่เหลือเนื่อที่ให้ทิ้งท้ายฉากจบที่น่าประทับใจ

     

    4. แต่งบท

    เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนลงมือวาดสตอรี่บอร์ด ควรเขียนบทพูดและบทความคิดที่จะใช้เขียนลงในคอมมิกออกมาโดยละเอียดเพื่อที่จะได้กำหนดขนาดของบอลลูนและจัดวางลงบนหน้ากระดาษได้อย่าเหมาะสม (ทำคล้าย ๆ เขียนนิยาย แต่แค่ไม่ต้องมีบทพรรณาละเอียด) ขั้นตอนนี้เป็นขั้นที่เราอ่อนที่สุด ฮาาา = ="

    ตัวอย่าง

    [1] สลิล: ใครก็ได้ ช่วยฉันที โลกของฉันในตอนนี้ มันกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว... // สลิลโดนจับแขวนห้อยหัวอยู่บนเพดาน

    [2] สิ่งที่เรียกกันว่าโชคชะตา วันเวลา และความรัก ล้วนเป็นอำนาจที่สามารถพลิกผันโลกทั้งใบได้ // ปก

    [3] เพื่อน: "ที่นี่ก็ท่าจะไม่ไหวมั้ง..." "ไอ้ศิลา"

    ศิลา: "หืม.. " "แต่ค่าเช่ามันถูกสุด ๆ ไปเลยฟ่ะ(ทำไงได้เศรษฐกิจไม่ดีหนิ)"

    เพื่อน: (จะไปหาที่อื่นดูก่อนมั้ยล่ะจะได้ไปเป็นเพื่อน)

    ศิลา: (อ่า... เอาไงดี ๆ) // มีผู้หญิงมองทั้งคู่มาจากบนระเบียง

    ...

     

    5. เขียน Story Board !!!!

    โดยวาดทั้งฉากและท่าทางตัวละครอย่างคร่าว ๆ ใส่ตำแหน่งบอลลูนให้เรียบร้อย แนะนำให้เขียนบทบรรยายลงในบอลลูนเลยค่ะ จะได้กะขนาดบอลลูนถูก

    สำหรับเรื่อง กระดาษที่ใช้วาด Story Board นั้นไม่ซีเรียสค่ะ บางทีเราก็เอา
    ชีทเลคเชอร์ A4 ที่ไม่ใช้แล้วมาพับครึ่งแล้ววาดก็มี แต่ช่วงนี้เริ่มหันมาใช้สมุดเปล่าไม่มีเส้นขนาดประมาณ A5 (ครึ่งนึงของ A4) วาดแล้วค่ะ เพราะเก็บได้ง่ายกว่าและ
    เป็นขนาดที่ใกล้เคียงกับหนังสือการ์ตูนค่ะ (ยิ่งถ้าเป็นสมุดห่วงด้วยแล้ว ถ้าหน้าไหนไม่ถูกใจก็ฉีกทิ้งทำลายหลักฐานได้เลยค่ะ) เวลาวาดก็ให้จัดลำดับหน้าให้ถูกต้องไปในตัวโดยให้ หน้าคี่อยู่ขวามือ หน้าคู่อยู่ซ้ายมือ นะคะ

    เรื่องการจัดลำดับช่องคงต้องอาศัยประสบการณ์ละความชำนาญ ซึ่งอันนี้เราก็ยังไม่คล่องเหมือนกัน แต่ก็มีทริคเล็กน้อยที่พอจะเอามาแบ่งกันได้ตามนี้ค่ะ...

    - เรามักจะชอบทิ้งช่องสุดท้ายของหน้าคี่ให้เล็กและน่าติดตามค่ะ

    - แต่ละหน้าควรจัดช่องไม่เกิน 6 ช่อง

    - วิธีจัดช่องที่เราชอบใช้คือ แบ่งหน้ากระดาษแนวนอนเป็นสามตอน และแนวตั้งเป็นสองตอน บางทีก็ซอยช่องย่อยในแต่ละตอนนั้นอีก เลือกขนาดช่องที่ต้องการ และไม่ใส่กรอบในช่องที่ต้องการเน้น

    ใช้ Pattern 3 ตอนแนวนอน 2 ตอนแนวตั้ง(สีแดง) ซอยช่องย่อยบ้าง เขยิบเส้นหลักบ้าง ลบเส้นหลักบ้าง(สีดำ) ก็จะได้ layout ที่แตกต่างกันไปค่ะ

    ตัวอย่าง

    3 ตอนหลักแนวนอน มีช่องย่อยในตอนแรก

    สองตอนหลักแนวนอน สองตอนหลักแนวตั้ง(หั่นเฉพาะตอนล่าง) เพิ่มช่องย่อยตอนบน แบ่งช่องล่างซ้ายเป็น 3 ตอนย่อย

    3 ตอนหลักแนวนอน 2 ตอนหลักแนวตั้ง(หั่นเฉพาะตอนที่สองของแนวนอน)

    2 ตอนหลักแนวตั้ง หั่นตอนขวาออกเป็นสามตอนย่อย

     

    แค่ลอง แบ่งช่องทีละ 2 หรือ 3 ช่อง ก็จะได้ layout ที่แตกต่างกันมากมายแล้วค่ะ

    (สำหรับการ์ตูนผู้ชายจะแบ่งช่องง่ายกว่านี้อีก บางทีมี pattern ซ้ำๆกันตั้งหลายหน้า แค่ใช้วิธียืดหดช่องเอานิดหน่อยเองค่ะ)

     

    - การจัดบอลลูนควรจัดให้อ่นง่ายตามลำดับจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง

     

    - หากอยากให้อ่านบอลลูนใดของช่องถัดไปก่อนเป็นพิเศษ ให้เอาบอลลูนนั้นทับกับเส้นของช่องก่อนหน้า


    (เริ่มขอยืมจาก BSH เหอๆๆ)

     

    - ฉากที่ต้องการสื่อถึงความเร็วให้ใช้ช่องเล็ก ๆ ช่องเฉียง หรือ ใช้ตัวหนังสือน้อย ๆ เพื่อให้ผู้อ่านกวาดตาผ่านได้อย่างรวดเร็ว 

    (BSH อะเกน...)

     

    - การตีช่องว่างหรือเส้นตรงเปล่า ๆ สามารถแสดงเวลาที่ผ่านไปได้

      "เวลาผ่านไปจนถึงวันย้ายเข้า"

      "เช้าวันต่อมา"

      "คืนวันนั้น"


    - ฉากเปิดตัวตัวละครควรมีเนื้อที่มากพอสำหรับวาดตัวละครให้เด่นออกมาจากกระดาษ ดูน่าจดจำ และช่องเดบิวท์ตัวละครไม่ควรมีกรอบเพราะจะลดทอนความเด่นลงไป

      มีดอกไม้ซะด้วย... =w=

     

    - ฉากจบ(หรือจบตอนสำหรับเรื่องยาว)มักต้องการพื้นที่ช่องใหญ่ ๆ ในการทิ้งอารมณ์ อย่างน้อยครึ่งหน้ากระดาษ เพื่อให้ได้ฉากจบที่เต็มอิ่มน่าประทับใจ


    (ไม่ยอมเอา M02 มาแปะซะทีเนอะ...)

     

    ตัวอย่าง Story Board ของ UPSIDE DOWN จ้า !!

    (เน่ามากกก ไม่เคยแพร่งพรายมาก่อน =////=)

    1

    2-3

    4-5

    6-7

    8-9

    10-11

    ส่วนของจริงเทียบจากลิ้งค์นี้ได้เลยนะคะ [COMIC] UPSIDE DOWN

    เอาล่ะ! เอามาเป็นตัวอย่างให้ดูกันเท่านี้ละกันนะคะ OwO

    (ต้องขอโทษด้วยที่เป็นตัวอย่างที่แย่จริง ๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาสได้วาดเรื่องสั้นอีก จะวาดได้ดีกว่านี้แน่นอนค่ะ! เพราะจากเรื่องนี้ก็ได้บทเรียนเยอะอยู่... ฮือออ TT3TT)

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราส่งประกวดกับโครงการก้าวแรกของบงกชและได้ลงเต็มเรื่องใน Peach 13/09 ค่ะ

    (คงหาซื้อไม่ได้แล้วมั้ง ฮ่าๆ TTwTT) 

     

    จบแล้วค่ะ! (หวังว่าคงพอมีประโยชน์นะค้า)

    บ๊ายบายยยย


    Read more: http://noongnan.exteen.com/20090817/how-to-story-board#ixzz2MGtho1Ni

    เครดิตhttp://noongnan.exteen.com/20090817/how-to-story-board
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×