ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short Fic 2PM Taeckhun-TK

    ลำดับตอนที่ #2 : travel through time 1

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 53






    ซื้ออะไรมาอ่ะคุน เสียงอูยองเพื่อนสนิทผมถามขึ้นเมื่อเห็นผมแบกแบกอะไรบางอย่างเข้าห้องมา


    กระจกไงด้งสวยมากเลยอ่ะใครไม่รู้เอามาทิ้งไว้หน้าบ้านเลยแบกเอามาใช้ของฟรีหุๆ


    เห้ย..ถ้ามันเป็นกระจกต้องคำสาปอ่ะจะว่าไง


    บ้าแระด้งแกอ่านนิยายมากไปแระนะเรื่องบ้าๆอย่างงั้นไม่มีจริงหรอก นิชคุณไม่ฟังเสียงทัดทานของเพื่อนแบกกระจกบานใหญ่เข้าไปตั้งไว้ในห้องนอนตนทันที

    กระจกบานใหญ่ที่พอดีส่องได้เท่าตัวคนกรอบไม้แกะสลักวาดเป็นรูปเถาวัลย์โบราณแต่งแต้มสีสรรไว่สวยงามด้านบนสุดราวกับเขียนตัวอักษรอะไรสักอย่างไว้หากแต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านพ้นทำให้เห็นรางๆเพียงตัวTเท่านั้น

    ร่างบางยืนยิ้มภาคภูมิใจกะของฟรีสวยๆอย่างอดไม่ได้แหมต้องเข้าใจเด็กที่ชิงทุนมาเรียนถึงเกาหลีอย่างผมหน่อยสิอะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดและของฟรีมีที่ไหนผมก็จะไปเอาถึงที่นั่นหุๆ



    แหมเรานี่ก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย ร่างบางยืนส่องใบหน้าตัวเองก่อนจะเอ่ยชมออกมาไม่ได้


    เฮ้ย!....ใครนะ จู่ๆร่างบางก็ต้องอุทานออกมาไม่ได้เมื่อเหลือบไปเห็นเงาใครบางคนในกระจกหากแต่เมื่อหันไปมองข้างหลังตัวเองแล้วก็ไม่พบใคร.......งานเข้า

    คงไม่มีไรหรอกน่าวันนี้เราพิมพ์งานเยอะไปหน่อยตาคงล้า


    ฉันไปแล้วนะคุนอย่าลืมล๊อคประตูบ้านละ อูยองเอ่ยลานิชคุนก่อนจะเดินออกไปขณะนี้จึงเหลือแต่ร่างบางกับภาพสะท้อนห้องที่ว่างเปล่า..........



    นายไม่เหงาบ้างหรอคุนหน้าตาอย่างนายหาแฟนง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากซะอีกนะ
    คำถามที่ครั้งนึงอูยองเคยเฝ้าถามร่างบาง


    หากแต่นิชคุนก็ได้แต่ยิ้มบางๆ


    ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาจีบหากแต่มีมากจนเขาระอา


    ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีแฟน.....


    หากแต่ลางเลือนอยู่เสมอราวกับมีคนคอยเขาอยู่นะที่ใดที่นึง


    นิชคุน......คุน.....ผมคอยคุณอยู่นะ...


    เสียงทุ้มนุ่มแว่วเบาๆหากแต่ร่างบางกลับตกเข้าสู่ภวังค์ไปซะแล้ว

    ที่ไหนเนี่ย.........


    ยังกะตำหนักวังเกาหลีโบราณ......สวยจังแหะวังสีสดที่ตั้งอยู่ท่านมกลางหุบเขาต้นไม้น้อยใหญ่ที่กำลังผลัดใบยิ่งทำให้ที่นี่ดูสวยเข้าไปใหญ่......แล้วตกลงนี่ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย


    เจ้าใช่ผู้ที่จะมาสมัครเป็นช่างเขียนส่วนพระองค์ขององค์ชายรองใช่รึไม่ จู่ๆชายวัยกลางคนในชุดน่าจะเป็นเกาหลีโบราณเอ่ยถามผมขึ้น.........ใครวะเนี่ยแล้วทำไมใช่ภาษาเกาหลีซะโบราณเลยอะไม่สงสารเด็กไทยภาษาไม่แข็งแรงอย่างผมบ้างเลยอะ.....ตกลงเขาพูดว่าไรบ้างอะเนี่ย....พยักหน้าไปก่อนดีมะ....


    หงึกๆ


    ดีงั้นตามข้ามาจะเริ่มคัดเลือกในอีกไม่กี่เวลาข้างหน้านี้แล้ว ผมก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย.....จนมาถึงลานกว้างที่มีคนในชุดเกาหลีโบราณนั่งสลอนกันเต็มไปหมด


    ตกลงผมอยู่ไหนอะเนี่ยโรงถ่ายหนังย้อนยุคอะเปล่า....อยากเจอแดจังกึมจังเลยอ่ะ....จามองละจะอยู่มั้ยเนี่ย..........


    เอ้ามั่วแต่ชะเง้ออยู่นั่นแหละประจำที่ของเจ้าสิประเดี๋ยวองค์ชายจะเสด็จมาทอดพระเนตรแล้วกำหนดโจทย์แล้ว คนๆนั้นพูดปะมานว่าให้ผมนั่งแล้วอะไรสักอย่างผมเลยต้องนั่งลงตรงหน้ากระดาษขาวแผ่นใหญ่ที่มีถาดสีมากมายอยู่ข้างๆ


    สักพักสุดสายตาของผมเห็นเหมือนขบวนอะไรสักอย่างเดินมาก่อนจะนั่งอยู่ตรงบัลลังค์ลิบๆนั่น........ว่าแต่นี่งานอะไรเนี่ยสงสัยจะงานแข่งวาดรูป....ทำไมคนเยอะอย่างงี้เนี่ย


    องค์ชายได้ประกาศโจทย์ในการวาดออกมาแล้วคือ ความรัก ให้พวกเจ้าถ่ายถอดมันออกมาบนผืนกระดาษอย่างสุดความสามารถเริ่มได้ เสียงประกาศที่ผมจับความได้ว่าให้วาดอะไรเกี่ยวกับความรักละมั้ง......โชคดีนะเนี่ยที่ผมลงเอกวาดรูปไว้หุๆงานนี้หมูๆว่าแต่ความรักงั้นหรอวาดอะไรดีละเรา........

    มือเรียวจับพู่กันอย่างเบามือก่อนจะแตะปลายลงตามถาดสีสดต่างๆแล้วค่อยๆจรดลงบนผืนกระดาษอย่างเบามือรอยยิ้มระบายบนใบหน้าหวานบ่งบอกถึงความสุขจากจินตนาการที่ร่างบางค่อยๆถ่ายถอดลงไปบนกระดาษขาว


    หมดเวลาวางพู่กันได้ สิ้นเสียงประกาศมือเรียวก็จรดปลายพู่กันเสร็จเรียบร้อยพอดีก่อนจะระบายยิ้มออกมาอย่างพอใจกับภาพวาดตรงหน้า

    สักพักดูเหมือนว่าองค์ชายอะไรนั่นจะเริ่มเดินตรวจภาพของแต่ละคนอีกนานมั้ยเนี่ยเขาอยู่เกือบคนสุดท้ายเลยนะเนี่ยมาเร็วๆหน่อยสิ


    เออใช่....ลืมไปเลยเราดันเผลอเคลิ้มไปกับการวาดรูปจนลืมงงเลยว่าตกลงเรามาอยู่นี่ได้ไง...

    ร่างบางก้มหน้าคิดไปคิดมาสักพักก็เห็นรองเท้าใหญ่เดินมาหยุดกึกลงตรงหน้าเขา...สงสัยอีตาองค์ชายนั่นแน่ๆ


    ภาพนี้.......... เสียงทุ้มน่าฟังดังขึ้นเหนือหัวของร่างบางหากแต่เขาก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้ไปมอง


    องค์ชายทรงพอพระทัยหรือพระเจ้าค่ะ ชายวัยกลางคนถามขึ้นเมือ่ได้รับคำตอบเป็การพยักหน้าเบาจากอีฝ่ายจึงหันมาสั่งร่างบางที่ยังนั่งก้มหน้าอยู่กับพื้น


    เจ้าเงยหน้าขึ้นมาแล้วจงอธิบายถึงภาพที่เจ้าวาด


    ใบหน้าหวานค่อยๆเหลือบขึ้นไปมองอย่างหวาดๆแล้วก็พบกับดวงหน้าเข้มที่มองมาที่ตนอยู่ก่อนแล้วสองสายตาสบกันอยู่นาน.......คุ้นเคย.....ความรู้สึกที่เขาโหยหามาตลอด.....ดวงตาเข้มที่ดูกร้าวหากแต่กลับฉายแววอ่อนโยนจมูกเป็นสันรับกับริมฝีปากที่ยกยิ้มอย่างพอใจ....


    เจ้าอธิบายเร็วเข้า


    อะ...เอ่อภาพที่ผมวาดคือภาพทุ่งดอกหญ้าที่กำลังพลิ้วไหวตาสายสายลมครับ ร่างบางเอ่ยออกไปหากแต่สายตาก็ยังไม่ละออกจากคนตรงหน้า


    มันเกี่ยวกับความรักอย่างไร เสียงนุ่มถามขึ้นก่อนจะยกยิ้มเมือ่เห็นร่างบางตรงหน้าดูลนลาน


    ก็...สายลมที่พัดผ่านก็คล้ายอุปสรรคที่เราต้องเจอหากไม่พลิ้วไหวโอนอ่อนผ่อนตามก็จะหักลงเหมือนกับความรักที่จบสิ้นและดอกหญ้าสีขาวบริสุทธิ์หากจับแรงไปก็จะหลุดลอยหากจับเบาไปก็ไม่ได้ติดมือเปรียบกับความรักที่ต้องมีความพอดีไม่มากไปไม่น้อยไป...ครับ อูยเราพล่ามอะไรไปเนี่ย....แล้วทำไมองค์ชายอะไรเนี่ยจ้องเราซะเขม็งเชียวอ่ะ.....กลัวนะเนี่ย...ที่ไหนก็ไม่รู้....คนพวกนี้ใครก็ไม่รู้...แง


    คนนี้แหละราชครู องค์ชายหันไปสั่งชายข้างก่อนจะก้มลงมายิ้มให้ผม


    เจ้าชื่ออะไร


    อะ....นิชคุณครับ อย่าเข้ามาใกล้สิ....แกรู้ตัวบ้างมั้ยว่าแกหล่อนะห๊า....คนหน้าตาดีก็เขินเป็นนะ


    เราแทคยอนนะคุน ว่าจบองค์ชายก็ส่งยิ้มละลายใจมาอีกรอบก่อนจะเดินนำขบวนจากไปทิ้งให้ผมเมากับรอยยิ้มนั่นอยู่คนเดียว


    สักพักผมก็ถูกพามาที่ห้องๆนึงที่เต็มไปด้วยภาพเขียนโบราณต่างๆ


    เจ้าถูกส่งย้อนอดีตมาเพื่อหาอะไรบางอย่างที่เจ้าคอยมาทั้งชีวิตไม่ต้องกลัวไปจงทำตามที่ความรู้สึกเจ้าบอก


    เสียงใครบางคนที่ฟังดูอบอุ่นดังขึ้นกังวาล.......ย้อมอดีตหรอว๊ะ....เป็นไปได้จิงดิ.......แต่เชื่อก็ได้นะ...ผมว่านอนสอนง่ายอยู่แล้วละ




    เรื่องนี่พร่ำพ้ออีกเเล้วกรุ-*-
    ชวนให้คนอ่านงงตลอด
    ปริศนาจะคล่อยๆคลายเมื่อคุณติดตามเรื่องีน้ต่อไปเรื่อยๆ55+
    PS.ร้ากกกกรีดเดอร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×