คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Coincident 11 : ภารกิจเริ่มขึ้นแล้ว (100%)
Coincident 11
ภารกิจเริ่มขึ้นแล้ว
แทยอนเดินกระสับกระส่ายอยู่ในบ้านพักพร้อมกับอีกมือหนึ่งที่ถือโทรศัพท์คู่ใจอยู่ในมือ เนื่องจากแทยอนได้ส่งข้อความไปหาเพื่อนๆของเธอให้รีบมายังบ้านพักหลังเลิกงานเสร็จแล้ว เพื่อมาประชุมเรื่องความคืบหน้าของภารกิจที่พวกเธอกำลังทำอยู่ หลังจากที่ทุกคนได้รับข้อความของแทยอน ก็รีบขอลาเจ้านายตรงดิ่งมาที่บ้านพักทันที เว้นก็แต่ยูริที่ไม่รู้อยู่ที่ไหน แทยอนจึงได้แต่โทรตามแต่ก็ไม่รับสายทำให้หญิงสาวรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
“แทเลิกเดินเถอะ ยัยยูลมันไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวมันก็มา” ยุนอาพูดให้เพื่อนสาวสงบสติอารมณ์ของตัวเองลง แต่ปกติยัยยูลมันก็ไม่ผิดนัดนะ แถมยังเป็นคนมาตรงเวลาด้วยเรื่องแบบนี้มันไม่น่าพลาดนี่น่า
“ก็แทเป็นห่วงยัยยูลนี่ยุน ป่านนี้ยังไม่มาเลยจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” แทยอนเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งได้ยินเสียงรถดังอยู่หน้าบ้าน ทุกคนจึงรีบกระเด้งตัวและลุกออกจากโซฟาเพื่อเดินไปยังประตูหน้าบ้านทันที
“ยูล!!!” เมื่อทุกคนออกไปหน้าบ้านจึงพบกับสภาพของยูริที่ใส่เสื้อเชิ้ตตัวหลวมโคร่ง ซึ่งทุกคนก็สามารถเดาออกว่าเสื้อเชิ้ตนี้จะเป็นของใครไม่ได้นอกจากผู้ที่มาส่งยูรินั่นเอง
“พรุ่งนี้ฉันจะมารับ ไม่ต้องเดินทางไปที่ไร่เอง” ฮันคยองพูดจบก็ลาพวกแทยอนและออกรถทันที
“ยัยยูลเกิดอะไรขึ้น อย่าบอกนะว่าแกกับคุณฮันคยอง” เจสสิก้าพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ แต่ยูริรีบส่ายหน้าและบอกปฏิเสธทันที
“จะบ้าหรอสิก้า ฉันไม่ยอมให้เวอร์จิ้นน้อยๆของฉันเสียเร็วขนาดนั้นหรอก โดยเฉพาะกับหมอนั่น” ยูริพูดจบก็เดินเข้าไปในบ้านพักทันที ทิ้งให้หญิงสาวทั้งสี่คนมองหน้ากันด้วยความมึนงง ก่อนจะรีบเดินเข้าบ้านพักตาม
“เอาละ เรามาเริ่มประชุมกันเลยดีกว่านะ” แทยอนพูดเสียงเครียดพร้อมกับเล่ารายละเอียดของสิ่งที่ตนไปพบในซองเอกสารของซึงฮยอนอย่างรวดเร็ว
“วันนี้นายคิบอมไปคุยกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท แล้วฉันแอบเหลือบเห็นว่ามีคนถือซองสีน้ำตาลมาให้เขา และข้างในซองมันก็มีเอกสารว่าการค้าอะไรสักอย่าง พร้อมรูปภาพไร่ของนายคิบอมกับนายฮันคยองด้วย” แทยอนเริ่มอธิบายสิ่งที่ตนเห็นขึ้นมาทำให้ทุกคนพยักหน้ารับเข้าใจพร้อมกัน
“และสิ่งที่เขาคุยกันมันคือเรื่องเกี่ยวกับการร่วมหุ้นสร้างรีสอร์ทค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับการค้าขายอะไรทั้งสิ้น ซอว่ามันน่าจะมีสิ่งผิดปกติไปนะค่ะ” ซอฮยอนเอ่ยต่อจากพี่สาวของตนเองพร้อมกับยูริที่เริ่มพูดสิ่งที่ตนเองได้เห็นมาในวันนี้
“วันนี้ฉันเดินไปหลังน้ำตกของไร่นายฮันคยองแล้วฉันก็พบกับรอยล้อของรถยนต์ แต่แถวๆนั้นไม่น่าจะมีรถยนต์ผ่านเลยด้วยซ้ำไป อาจจะเป็นไปได้ว่ามีการลักลอบค้ายากันแถวนั้น” ยูริเสริมพร้อมกับเจสสิก้าที่พูดขึ้นมาตาม
“อื้ม วันนี้นายซีวอนก็ไปพบลูกค้าคนนึงชื่อว่านายซึงรี เขาบอกว่าอยากให้ซีวอนออกแบบบ้านบนภูเขาให้เขาและเขาจะจ่ายเงินให้อย่างงามเลย แต่คนที่ดูไฮโซอย่างเขาไม่น่าจะสร้างบ้านไว้บนภูเขาเลยแม้แต่น้อย” เจสสิก้าพูดพร้อมกับยุนอาที่สรุปประเด็นทั้งหมด
“เอาเป็นว่าพวกเธอจะบอกว่านายสองคนนี้น่าสงสัยงั้นสินะ” ทั้งสี่คนพยักหน้ารับ ทำให้ยุนอาได้แต่ตบเหม่งตัวเองพร้อมกับคิดหาวิธีแก้ปัญหาโดยเร็วไวที่สุด
“ฉันว่าเราลองมาจับกลุ่มกันดีไหม แทยอนกับน้องซอคอยจับตาดูกลุ่มของซึงฮยอน ส่วนเจสสิก้ากับยูริคอยสังเกตการณ์อยู่ในไร่ของนายฮันคยองกับคิบอมเป็นไง” ยุนอาเสนอความคิดทำให้ทุกคนพยักหน้ารับ เพราะดูแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร ผิดกับเจสสิก้าที่ส่ายหัวไปมา
“ฉันจะไปยังไงละยุน ฉันต้องทำงานกับนายซีวอนนะ มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องไปที่ไร่ของคุณฮันคยองเลย” ทั้งสี่คนเครียดทันที เพราะถ้ายูริคนเดียวคงไม่สามารถสังเกตการณ์เหตุการณ์ต่างๆทั่วไร่ได้แน่ จนกระทั่งสองฝาคนละแฝดยุนยูลหันมามองหน้ากันและยิ้มให้กับเจสสิก้า
“อย่าลืมสิสิก้าว่าเธอเป็นหมอ!” ความคิดนี้ทำเอาเจสสิก้านิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะยิ้มน้อยๆออกมา
“ใช่แล้วละ ฉันเป็นหมอและฉันต้องทำให้ได้!” เจสสิก้าเอ่ยบอกอย่างมั่นใจก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา
“เดี๋ยวนะ แล้วเราจะทำยังไงถึงจะใกล้ชิดเหยื่อละ อย่าทำให้พวกเขารู้ตัวด้วยยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย” เจสสิก้าที่นอนอยู่จู่ๆก็กระเด้งตัวขึ้นมาจากหมอนอิงแสนนุ่มก่อนจะมองหน้าทุกคน
“พี่สิก้าไม่เคยได้ยินหรอค่ะว่าไม่มีชายใดสามารถพ้นเสน่หาของหญิงสาวไปได้” น้องเล็กในกลุ่มพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆทำให้ทุกคนในกลุ่มยิ้มทันที ก่อนที่จะมาตีสีหน้าเรียบเฉยใส่กันอีกครั้ง
“แล้วใครจะเป็นเหยื่อล่อละทีนี้” ยุนอาถามสมาชิกทุกคนในกลุ่มก่อนที่ทั้งสี่สาวจะหันไปมองหน้ากันไปมา
“แกเลยยัยสิก้า แกตัวต้นตอคิด เพราะฉะนั้นฝั่งฉันต้องแกเท่านั้น!” ยูริโยนงานให้เจสสิก้าทันที แต่คนอย่างเจสหรือจะยอม
“ไม่เอานะยูล แกสิ แกสวยกว่าฉัน หุ่นดีกว่าฉัน” เจสสิก้ากับยูริต่อล้อต่อเถียงแต่สุดท้ายแล้วคนที่ชนะก็คือยูรินั่นเองด้วยเหตุผลที่ว่า ก็แกมันเรียบร้อยกว่าฉันนี่!
ทางด้านแทยอนและซอฮยอนที่ตอนนี้นั่งคุยกันอย่างเงียบๆ แต่สิ่งที่ซอฮยอนตัดสินใจนั้นทำเอาแทยอนเครียดตามไปด้วยทันที
“ซอ พี่ว่าเอาพี่ไปเป็นเหยื่อล่อดีกว่านะ” แทยอนตกใจกับความคิดของซอฮยอนเริ่มแรก เธอบอกว่าเธอจะเป็นเหยื่อล่อในงานครั้งนี้เอง แต่ซอฮยอนเป็นคนที่ใสซื่อที่สุดในกลุ่ม ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาพี่สาวอย่างเธอไม่ขาดใจตายเลยหรือไงกัน
“ไม่ค่ะพี่แท ซอจะเป็นเองค่ะ” ซอฮยอนส่ายหน้าและพูดสิ่งที่เธอต้องการจะทำด้วยตนเอง แทยอนที่เห็นแววตามุ่งมั่นของซอฮยอนก็อดไม่ได้ที่จะไม่ทำตามน้องสาว แต่ยังไงแทยอนก็คงต้องมีข้อแม้มาแลกเปลี่ยนกับซอฮยอนสักนิดตามฉบับของพี่สาวจอมเจ้าเล่ห์นั่นเอง
“แต่ถ้าน้องซอพลาดเมื่อไหร่ พี่จะจัดการเองนะ น้องซอจะไม่มีสิทธิ์ทำมันอีก” แทยอนพูดเด็ดขาดซึ่งซอฮยอนก็ขานรับทันที
“รับทราบค่า” ซอฮยอนพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆใส่พี่สาวตนเองจนกระทั่งโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของเธอสั่นครือๆ ทำให้หญิงสาวต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาและรับแทบจะทันที
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ” ซอฮยอนกรอกเสียงใสหวานลงไปในโทรศัพท์ก่อนที่ปลายสายจะพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
/เธออยู่ไหน อย่าให้คนอื่นเขาเดือดร้อนตามหาจะได้ไหม/ เสียงของปลายสายทำให้ซอฮยอนเข้าใจทันทีว่าใครเป็นคนโทรมาหาเธอ
“ฉันอยู่บ้านพี่สาว มีอะไรอีกไหมนอกเหนือจากนี้ อ่อแล้ววันนี้ฉันจะค้างบ้านพี่สาวฉันนะ ไม่ต้องโทรมารบกวนอีก แค่นี้นะ” ซอฮยอนพูดรัวใส่ปลายสายอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกดตัดสายทิ้ง โดยที่เธอไม่ทันได้ฟังประโยคหลังที่ดังออกมาจากจิตใจของเขาเลย
/ฉันเป็นห่วงเธอ/ คยูฮยอนพูดใส่โทรศัพท์ด้วยเสียงแผ่วเบาจนรู้ว่าตอนนี้ปลายสายได้ตัดสายของตนเองทิ้งลงไปแล้ว ทำให้เขาแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ออกไปนอกรถด้วยความเหนื่อยอ่อนใจทันที
คยูฮยอนรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ซอฮยอนพยายามประชดเขาหรือพยายามต่อต้านเขา มันทำให้ดูน่าหงุดหงิดเสียจริงๆ แล้วนี่ทำไมคนอย่างโจวคยูฮยอนที่ไม่เคยเป็นห่วงใครกลับต้องมาเป็นห่วงยัยผู้หญิงน่ารำคาญที่พี่ชายเขาจับให้มาแต่งงานกับเขาด้วยเนี่ย อาจจะเป็นเพราะว่าเธอเหมือนเด็กผู้หญิงเมื่อสิบสี่ปีก่อนก็เป็นไปได้ เธอมีส่วนเค้าโครงคล้ายกับรักแรกของเขามาก และเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ชอบทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อยๆแบบนี้เสมอๆ แค่คิดโจวคยูฮยอนคนนี้ก็ปวดหัวเกินพอแล้ว
//ยัยนั่นไม่มีทางเป็นรักแรกคนเดียวกันกับฮยอนนี่ไปได้หรอกน่า อย่าคิดอะไรเพ้อเจ้อสิคยูฮยอน//
ซอฮยอนที่ได้แต่อารมณ์เสียฟึดฟัดอย่างไม่สบอารมณ์ ทิ้งโทรศัพท์ใส่กระเป๋าอย่างรุนแรงก่อนที่จะหันมายิ้มให้กับพวกพี่ๆของเธอเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คยูฮยอนโทรมาสินะซอฮยอน” แทยอนหันไปถามน้องสาวตัวเอง ที่ตอนนี้นั่งข่มอารมณ์ความรู้สึกอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่
“ค่ะ โทรมาก็บ่นใส่ น่าเบื่อมากค่ะพี่แท” ซอฮยอนพูดพร้อมกับเบ้ปากเล็กน้อย จู่ๆยุนอาก็เรียกทุกคนให้ไปมุงกันอยู่ที่หน้าจอคอมทันที
“ทุกคนมาดูนี่เร็วสิ” ยุนอากวักมือเรียกทุกคนทำให้ทุกคนไปกรูกันอยู่ที่หน้าจอคอม แต่ก็พบว่าสิ่งที่ยุนอาเปิดเป็นเพียงคลับๆหนึ่งในยามค่ำคืนเท่านั้น ทำเอายูริผลักหัวยุนอาไปหนึ่งที ทำให้คนเป็นแฝดไม่พอใจกับการกระทำของแฝดคนละฝาอย่างยูริ
“แกผลักหัวฉันทำไมเนี่ยยัยยูล” ยุนอาลูบหัวตัวเองป้อยๆก่อนจะจัดแว่นให้เข้าที่แล้วจัดการเลื่อนข้อมูลลงมาดูที่อยู่ของไนท์คลับแห่งนี้
“แกเรียกพวกฉันเพื่อมาดูไนท์คลับเนี่ยนะ แกยังโอเคไหมแฝดที่รัก” ยูริพูดพร้อมกับหยิกแก้มแฝดคนละฝาของตัวเองอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่ยุนอาจะบอกยูริและชี้ไปยังหน้าจอคอม
“ก็นี่อ่ะ Butterfly night club เป็นคลับที่พวกนายซึงฮยอนกับซึงรีชอบไปเที่ยวบ่อยๆหน่ะสิ” ยุนอาพูดพร้อมกับชี้ไปยังรูปหน้าจอคมอ ทำให้เจสสิก้าอ๋อในทันที
“คือแกจะหมายความว่าวันนี้เราต้องไปที่นั่นงั้นสินะ” ยุนอาพยักหน้าเบาๆก่อนที่ทุกคนจะส่ายหัวทันที
“ไม่ไปเด็ดขาด!!!” ทุกคนปฏิเสธเสียงแข็งก่อนที่ยุนอาจะหันมาและขยับแว่นกรอบหนาเล็กน้อย
“ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเราไม่ยั่วเหยื่อก่อนมันจะแปลกนะ ภารกิจสุดท้ายแล้วเราก็รีบทำให้มันจบๆกันไปเถอะนะ” ยุนอาพูดพร้อมกับเก็บแว่นไร้เลนส์กรอบหนาเข้าลิ้นชักทันที
“โอเคก็ได้ ฉันจะไปเพื่อภารกิจ” แทยอนพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าทุกคน ทำให้ทุกคนส่ายหัวพร้อมกัน
“เฮ้อ เอาว่ะเพื่อภารกิจ” ยูริพูดเสียงดังก่อนที่ทั้งห้าสาวจะเดินไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเลือกเสื้อผ้าในการไปไนท์คลับครั้งนี้
ทางด้านของซีวอนที่ตอนนี้ทุกคนต่างมารวมกันที่บ้านของเขา เพื่อไปสนุกสนานตามไนท์คลับ ผ่อนคลายอารมณ์ความเครียดจากการทำงานแต่กลับมีบางคนไม่สบอารมณ์กับการไปเที่ยวไนท์คลับครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย
“ไปไนท์คลับไปทำไม ฉันจะกลับบ้านละ” คิบอมพูดพร้อมกับกำลังจะเดินออกไปจากบ้านของซีวอน แต่ชายหนุ่มเจ้าของบ้านกลับขัดเสียก่อน
“เฮ้ยไอบอม นานๆทีนะเว่ย ยังไงก็ไปเถอะน่า” ซีวอนพูดพร้อมกับเดินไปตบไหล่ของคิบอม ทำเอาเพื่อนของเขาถอนหายใจทันที
“ไม่เอา แทยอนก็ยังไม่กลับมา ไม่ไปหรอก” คิบอมพูดพร้อมกับบุ่มบ่ามจะเดินออกไปจากบ้านแต่เสียงของซีวอนก็ขัดขึ้นอีกครั้ง
“โห ห่วงเมียหรอว่ะ เห็นเมียดีกว่าเพื่อนนี่หว่า” ซีวอนพูดพร้อมกับทำหน้าน้อยใจ แต่คยูฮยอนที่เพิ่งมาใหม่เมื่อสักครู่ก็พูดเสริมขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วงพี่สะใภ้หรอกน่าพี่บอม อยู่กับยัยนั่นนั้นแหละ” คยูฮยอนพูดขึ้นพร้อมกับนั่งลงบนโซฟา ทำให้คิบอมนั่งลงด้วยเช่นกัน
“เอาเถอะ งั้นก็เอาเป็นว่าวันนี้ไปกันเถอะนะเว่ย” ลีดงเฮ หนุ่มหน้าหวานของกลุ่มพูดขึ้น เพราะการไปเที่ยวไนท์คลับถือว่าเป็นงานอดิเรกของเขาเลย
“เออๆ ไปก็ไป แต่อย่าดึก” คิบอมพูดขึ้นก่อนที่ทั้งห้าคนจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจกันต่อเพราะเป็นเวลาที่ไนท์คลับประจำของพวกเขายังไม่เปิดนั่นเอง
เวลาผ่านพ้นไป 2 ชั่วโมง เป็นเวลาที่ไนท์คลับเปิดแล้ว พวกแทยอนได้แต่นั่งแต่งหน้ากันอยู่ในรถก่อนที่จะพูดกัน
“เอาละ ไฟท์ติ้งเพื่อภารกิจ!” ยุนอาพูดพร้อมกับก้าวลงมาจากรถและรีบลากเพื่อนๆให้เข้าไปในไนท์คลับทันที
ภายใน Butterfly night club เป็นแหล่งสถานบันเทิงยามราตรีที่มีชื่อเสียงในโซล ผีเสื้อราตรีทั้งชายและหญิงต่างเข้ามาหาความสนุกสนานเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากคลับนี้ โดยคลับนี้จะแบ่งออกเป็นโซนในและโซนนอก โซนที่ยุนอาได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าคือโซนใน ซึ่งเป็นโซนที่ซึงฮยอนและซึงรีชอบมานั่นเอง โดยเธอก็ได้จัดเตรียมโชว์สุดพิเศษที่ซักซ้อมกันมา 1 ชั่วโมงเต็มๆให้พวกเขาได้ดูกันอีกด้วย
“อีกนานไหมกว่าจะถึงอ่ะยุน -0-” เจสสิก้าบ่นออกมา เพราะเธอสวมส้นสูงเป็นเวลานานมากไม่ได้ ทำให้ข้อเท้าอักเสบ ยุนอาจึงได้แต่พูดกับเจสสิก้าว่าให้หญิงสาวอดทนอีกเพียงเล็กน้อย
“อีกนิดเองน่าเจส เดินเข้าประตูเดี๋ยวก็ถึงแล้ว” ยุนอาพูดพร้อมกับสาวเท้านำเพื่อนๆให้ไวขึ้น และมือของเจ้าสาวก็คว้าประตูเพื่อเปิดออกทันที
คลับโซนในที่พวกเธอเข้ามานั้น ดูแล้วเป็นโซนสำหรับพวกนักธุรกิจ โซนในดูเหมือนจะไม่วุ่นวายเท่าโซนนอกมากนัก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวยามราตรีมาท่องเที่ยวกันเยอะพอสมควร ยุนอาเดินเข้าไปตรงโต๊ะที่พวกเธอจองเอาไว้ ก่อนที่จะนั่งและเริ่มพูดแผนการทันที
“เฮ้อกว่าจะถึง เมื่อยขาหมดแล้ว” เจสสิก้าบ่นอุบอิบก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างรวดเร็ว และสั่งเครื่องดื่มเล็กน้อยมากิน ก่อนที่ยุนอาจะพูดถึงแผนการทันที
“เอาละมาเตรียมการกันก่อน พอพวกซึงฮยอนมาเราทั้งห้าคนก็ไปหลบอยู่หลังเวทีนะ ฉันสั่งให้พี่เจ้าของร้านเตรียมเวทีให้เราแล้ว” ยุนอาพูดแผนการก่อนที่แทยอนจะพูดขัด
“นี่แกเตรียมพร้อมขนาดนี้เลยหรอยัยยุน -0-”
“แน่นอน ล่อเหยื่อตอนเริ่มก็ต้องทำให้เหยื่อหลงสิจ้ะ (:”
ในขณะเดียวกันพวกของซึงฮยอนก็เดินเข้ามาภายในไนท์คลับแห่งนี้ ยุนอาจึงขยิบตาให้กับเพื่อนๆเพื่อหันไปดูเหยื่อของพวกเธอแล้ว
“โหย ยุนเอาจริงดิ” ยูริพูดพร้อมกับตัดพ้อในใจ เกิดมายังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แล้วฉันจะทำได้ไหมเนี่ย -0-
“เอาจริงสิจ้ะยูลที่รัก ไปเตรียมตัวกันเถอะ พวกเราจะได้รีบไปรีบกลับ” ยุนอาพูดแต่ก่อนที่จะได้ก้าวขาออกจากโต๊ะ เสียงของซอฮยอนกลับดังขึ้นมาเสียก่อน
“ซอคิดว่างานนี้พวกเรามีปัญหากันแล้วล่ะค่ะ” ซอฮยอนพูดพร้อมกับชี้ไปที่กลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่งนั้นทำให้แทยอนเบิกตากว้างทันที
“พวกของนายคิบอม ซวยของแท้เลยงานนี้ยัยยุน” ยุนอาพูดพร้อมกับหันไปมองก็พบพวกนั้นจริงๆ ยุนอาก็เลยได้แต่ให้ทุกคนยกหนังสือปิดหน้าเพื่อกันเอาไว้ก่อน
“จะเอายังไงต่อละทีนี้ ถ้าพวกนั้นรู้ ทุกคนมีแต่ตายกับตาย” เจสสิก้าบ่นออกมาก่อนที่จะจิบน้ำสีอำพันเข้าปากตนเอง
“ยังไงก็ต้องทำ พวกแกอย่าลืมสิว่าพวกนั้นเป็นเพียงเป้าหมายที่จะทำให้งานของพวกเราสำเร็จง่ายขึ้น” ยุนอาพูดพร้อมกับจูงมือเพื่อนๆไปที่หลังเวที
“เฮ้อ ซอรู้สึกสำนึกผิดจังเลยค่ะพี่แท” ซอฮยอนพูดขณะเดินตามพวกพี่ๆไปที่หลังเวที แต่แทยอนกลับมาปลอบใจน้องสาวของตนเองเบาๆ
“ซอ พี่ก็สำนึกผิด แต่เราต้องทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จเพื่อประเทศนะ” แทยอนพูดทำให้ซอฮยอนพยักหน้าและยิ้มออกมา ก่อนที่ยุนอาจะขึ้นไปบนเวที
“สวัสดีแขกทุกคนที่เข้ามาภายใน butterfly nightclub แห่งนี้นะค่ะ วันนี้เราจะมีโขว์สุดพิเศษจากพวกเราให้ทุกท่านได้ชมกันค่ะ” ยุนอาที่ไปคว้าไมค์มาได้ก็จัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เสร็จ จนกระทั่งแทยอน ยูริ ซอฮยอน และเจสสิก้าเดินขึ้นมาบนเวที
“Hey Boy! Are you ready” เสียงใสหวานของเจสสิก้าทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีหลังจากที่ซักซ้อมมาเป็นเวลานาน ก่อนที่เธอจะค่อยๆก้าวถอยหลัง ออกมาช้าๆ
“Lets’go” ทันทีที่เจสสิก้าพูดจบเธอและยูริก็หายไปในความมืด ก่อนที่จะปล่อยให้เพื่อนทั้งสามของตนโชว์ลีลาอยู่ตรงหน้าเวที
หญิงสาวคนแรก เป็นหญิงสาวร่างเล็กในชุดราตรีสั้นแค่เข่าสีน้ำเงิน ชุดทิ้งแนบไปกับลำตัวตามสัดส่วนของหญิงสาว เผยให้เห็นผิวขาวผ่องรับกับใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยและผมที่ทิ้งตัวลงประปรายแค่บ่า ทำให้เธอดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์
หญิงสาวคนที่สอง เป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดกางเกงขายาวแนบไปตามเรียวขายาวของเจ้าหล่อน และเสื้อแขนกุดสีขาว โชว์สรีระด้านบน ใบหน้าหวานสวยจิ้มลิ้มถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางโทนเซ็กซี่ ทำให้เธอดูไร้เดียงสาแต่ดูน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน
หญิงสาวคนที่สาม เป็นเจ้าของไอเดียความคิดของเรื่องทั้งหมด เธออยู่ในชุดราตรีสีขาวบางพลิ้ว ระหว่างไหล่ทั้งสองข้างมีเพียงสายเส้นสีขาวคล้องเอาไว้เท่านั้น ชุดยาวคลุมเสมอเข่า แต่เวลาขยับตัว เนื้อผ้าบางเบาก็จะแนบไปตามสรีระร่างกายของเจ้าหล่อนให้เห็นเด่นชัดขึ้น
หญิงสาวทั้งสามโชว์ลีลาการเต้นหลังจากซักซ้อมกันมาเป็นเวลานาน ด้วยท่าทางเย้ายวนชายหนุ่มที่มาเที่ยวในไนท์คลับแห่งนี้ เริ่มจากลากไล้มือไปตามใบหน้า หน้าอกลงมาจนถึงเอวคอดกิ่ว และส่งสายตาเย้ายวนไปให้กับ ‘ เหยื่อ ‘ ของพวกเธอ เมื่อเต้นไปได้สักพัก สปอร์ตไลท์ที่เต้นก็เริ่มดับลงเรื่อยๆและเผยให้เห็นถึงร่างของหญิงสาวอีกสองคนที่โดนบีบบังคับให้เต้นโดยที่ไม่ได้มีความเต็มใจเลยแม้แต่นิด แต่ทั้งคู่ก็แย้มร้อยยิ้มอันมีเสน่ห์ออกมาปรากฏสู่สายตาของผู้ชายทั้งผับ
หญิงคนแรกอยู่ในชุดเกาะอกสีดำ ขับผิวเหลืองขาวของเจ้าตัวให้ดูโดดเด่น ชุดทิ้งแนบไปตามลำตัว เห็นสัดส่วนที่กลมกลึงและเป็นธรรมชาติของเจ้าหล่อนได้เป็นอย่างดี ผมที่เคยเอาแต่มัดรวบ บัดนี้ได้ปล่อยไปชิดกับพวงแก้มสวยน่าสัมผัส และโทนเครื่องสำอางที่ออกแนวเซ็กซี่พร้อมที่จะสยบสายตาของผู้ชายทุกคนในผับให้หยุดอยู่ที่เธอเพียงผู้เดียว
หญิงสาวคนถัดมาอยู่ในชุดเกาะสีแดงเพลิง โชว์สรีระด้านบนและด้านล่างด้วยผ้าบางเบา และเมื่อเจ้าหล่อนขยับตัวชุดก็จะแนบทิ้งไปกับลำตัวของตนเอง พร้อมกับแย้มรอยยิ้มแสนยั่วยวนให้กับเหยื่ออันน่ารักของเธอ
ใครว่าหญิงสาวสามคนแรกเต้นเซ็กซี่แล้วแต่หญิงสาวสองคนที่เหลือเซ็กซี่ยิ่งกว่า ทำเอาผู้ชายทั้งผับถึงกับตาค้างเลยทีเดียว รวมไปถึงผู้ชายทั้งห้าคนที่นั่งอยู่บริเวณแถวหน้าเวทีด้วย
“หงุดหงิด” มีเพียงคำพูดเพียงสองคำที่พ่นออกมาจากปากของคิมคิบอม ก่อนที่เขาจะวางแก้วน้ำสีอำพันของตนเองลงและจับจ้องไปยังร่างเล็กที่ก้มหน้าไม่มองหน้าเขาแม้แต่น้อย
“ฉันโคตรหงุดหงิด” ดงเฮพูดพร้อมกับมองไปยังยุนอาที่ตอนนี้แย้มรอยยิ้มให้กับชายหนุ่มทั่วผับ เห็นแล้วอยากจะกระชากลงเวทีเสียด้วยซ้ำ
“ผมว่ารอดูก่อนดีกว่าว่าพวกเธอจะทำอะไรต่อ พองานจบ ก็แยกย้ายแล้วกันนะครับ” คยูฮยอนพูดโดยมีความหมายโดยนัย ก่อนที่จะมองไปยังหญิงสาวที่กระแทกหูโทรศัพท์ใส่เขาเมื่อตอนบ่าย
“โอเค จบงานแล้ว ‘ผู้หญิง’ ของใครก็จัดการกันเอาเอง” ฮันคยองเอ่ยก่อนที่จะมองไปยังเวทีและส่ายหัวเบาๆให้กับผู้หญิงบนเวทีที่เมื่อตอนบ่ายตกน้ำตกจนเปียกปอน
“งั้นเอาตามนั้น” และคนสุดท้ายซีวอน เขาจิบน้ำสีอำพันเข้าปาก ก่อนที่ดวงตาคมจะมองไปยังคนรับใช้ที่ไม่หลาบจำอย่างเจสสิก้า
เมื่อการแสดงของพวกเธอจบแล้วหญิงสาวก็รีบลงจากเวทีกันทันที โดยที่ซอฮยอนและเจสสิก้าเดินไปยังโต๊ะของซึงฮยอนและซึงรี ก่อนที่จะแย้มรอยยิ้มใส่พวกเขาและวางนามบัตรของตนเองลงบนโต๊ะ
“แล้วเจอกันนะค่ะ chu~” เจสสิก้าพูดพร้อมกับจูงมือซอฮยอนเดินออกไปจากโต๊ะของซึงฮยอนและซึงรีทันที
“โห พี่ยุนค่ะทำไมมันเหนื่อยแบบนี้อ่ะ” ซอฮยอนพูดพร้อมกับหันมามองยุนอาที่ตอนนี้ปัดผมของตัวเองไปไว้ข้างหลัง
“อ่าพี่ก็เหนื่อนแล้ว พี่ว่าเรากลับบ้านกันเถอะ วันนี้ซอกับแทนอนบ้านพี่แล้วกันนะ” ยุนอายิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนที่หญิงสาวทั้งห้าคนจะเดินออกไปทางประตู เห็นดังนั้น พวกของคิบอมก็รีบลุกทันที และก็ตรงที่จะเข้าไปจัดการกับ ‘ผู้หญิง’ ของตนเองทันที
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอโทษที่มาอัพช้านะค่ะ -0- พอดีว่าเพิ่งจะสอบปลายภาคเสร็จเลยมาอัพให้ช้า อ่านหนังสือจนอ้วกแตกเลยทีเดียวค่ะ TT' สำหรับตอนนี้ เอ่อไม่ขอพูดอะไรมาก งงกับตัวเองเหมือนกันค่ะ -0- มีเรื่องอยากจะพูดกับรีดเดอร์นะค่ะ คือไรเตอร์เหนื่อยมาก ช่วยเม้นกันด้วยนะค่ะ ขอร้องเลยจริงๆ TT' คนอ่านเยอะเม้นนิดเดียวค่อนข้างเสียกำลังใจในการแต่งต่อค่ะ TT ยังไงขอฝากเรื่องเม้นด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น