ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    kibum'donghae)) โลกทั้งใบฉันให้นาย ✏ I►4◄U

    ลำดับตอนที่ #2 : ราวกับจะเปลี่ยนโลกทั้งใบ

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 52


    2

      ราวกับจะเปลี่ยนโลกทั้งใบ

     

     

     

     

     

     

                    โลกหมุนเวียนเปลี่ยนองศา  กาลเวลาพัดพาเอาเช้าวันใหม่เข้ามาในร้านซีซั่นคาเฟทีเรีย

                   

                    คิมฮีชอลนั่งพาดช่วงขาที่ออกจะยาวกว่าคนทั่วไปไขว่ห้างวางมาดเจ้าของร้านอยู่บนโต๊ะ 3 ริมหน้าต่างโปร่งแสง  รัศมีแห่งอรุณกาลย้อมเคลือบเรียวหน้านวลเนียนราวกับถ้วยกระเบื้องราคาแพงที่ใช้เสิร์ฟในคอฟฟี่ช็อปแห่งนี้ 

     

    กาแฟหอมกรุ่นควันขาวคลุ้งลอยคล้อยอ้อยอิ่งอยู่ในอุ้งมือขาวนุ่มซึ่งไม่เคยยกอะไรหนักไปกว่าเครื่องดื่มหนึ่งถ้วย  ท่วงท่าแสนสง่าบวกแสงเงาอันงดงามน่ามอง  ทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายแถบยุโรปกำลังเสวยน้ำชาภายในพระราชวังส่วนตัว

                   

                    และเรือนผมสีบลอนด์อ่อนของเขา  ดูจะส่งเสริมการเปรียบเปรยที่ว่าเป็นอย่างดี

                   

                    ความโมโหโทโสใหญ่โตเมื่อวานราวกับเป็นเรื่องโกหก  คิมฮีชอลเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าไม่แยแสต่อสิ่งใด  ซึ่งนั่นนับว่าเป็นเรื่องปกติของเจ้าของร้านหน้าสวย

                   

                    แต่ที่ผิดปกติน่ะ...มันกำลังจะเริ่มต้นแล้วล่ะ

                   

                    ฮีบอมมี่  เอานมสักถ้วยไหม?

                   

                    เอ่ยถามวิฬารแสนรักที่นอนขดอยู่บนขอบหน้าต่างเสียงนุ่ม

                   

                    ลูกแก้วกลมโตเคลื่อนมายังหางตาปรายมองเมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง  ดมกลิ่นน่าเวียนหัวของเมล็ดกาแฟบดคั่วชงสดๆในแก้วที่ยื่นมา  ก่อนจะย่นคอเพราะไอร้อนของเครื่องดื่ม

                   

                ...ฉันไม่กินของร้อนหรอกนะคิมฮีชอล

                   

                    รู้แล้วๆว่าไม่กินของร้อน  ตกลงว่าหิวอยู่บ้างนะ

                   

                    นิ้วเรียวยาวดังลำเทียนงอเป็นรูปตะขอแล้วใช้ข้อนิ้วคลึงใต้คางของเจ้าแมวผู้เย่อเหยิ่ง  ดูท่าคุณฮีบอมจะชอบให้ทำแบบนี้จึงหลับตาพริ้มและส่งเสียงกรนในลำคอเบาๆ

     

                    พนักงานชายเดินโฉบผ่านเข้ามาในคลองสายตาอย่างประจวบเหมาะ

     

                    ลีฮยอกแจ  ขอนมให้ฮีบอมมี่หน่อยสิ

     

                    ทั้งที่ระยะทางก็ไม่ได้ไกลห่างเกินไป  หากพนักงานร่างผอมกลับเดินต่อโดยไม่รับคำใดๆ  สีหน้าก็ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด

     

                ตกลงมันได้ยินฉันสั่งไหมเนี่ย!?

     

                    เจ้าของร้านผมทองขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจความอาร์ตของพนักงานตัวพ่อในสังกัด  ยกห่วงหูถ้วยกระเบื้องขึ้นจิบของเหลวหอมหวานสีน้ำตาลหม่นข้น  ในขณะที่สายตาเหลือบไปเห็นพนักงานหญิงคนหนึ่ง

     

                    คิมแทยอน  ย๊า!~”

     

                    เรียกเขาทั้งที่กาแฟเต็มปาก  แล้วพอลิ้นรับรสชาติผิดแปลกก็ผลักพ่นเครื่องดื่มออกมาทันที

     

                    นี่มันอะไร!?  คิมแทยอน!  ไปเรียกปาร์คจองซูมาซิ!!”

     

                    การนั่งดื่มกาแฟเป็นครั้งคราวที่ร้านของฮีชอลไม่ใช่ทำเอามาดเจ้าชายหรอกนะ  แต่เป็นการเช็คคุณภาพช็อตลูกค้า  เพราะกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่เอาใจยากสมกับราคาต่อถ้วยของมัน  แสง  อุณหภูมิ  แรงดัน  เครื่องชง  เครื่องบด  เรียกได้ว่าแทบจะทุกอย่างในชั้นบรรยากาศมีผลต่อรสชาติทั้งนั้น

     

                บาริสต้าลักยิ้มเก๋คนนั้นคิดอะไรอยู่!  กล้าดียังไงเทช็อตที่ตายจนเน่ามาให้เขาซด!

     

                    พนักงานสาวร่างเล็กยืนจ้องหน้าเจ้าของร้านนิ่ง  จะเกิดอยากแปลภาษาเกาหลีเป็นภาษาเกาหลีขึ้นมาในใจก็ช่างเถอะ  แต่คิมฮีชอลมั่นใจว่าแทยอนได้ยินคำสั่งเขาเต็มสองรูหูเซอร์ราวนด์ทั้งซ้ายขวา

     

                แล้วทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ!!

     

                    คิมแทยอน

     

                    ฮีชอลคำรามลอดไรฟัน  ...จะทดสอบความอดทนกันหรือไง!?

     

                    ถุงใต้ตายืดออกตามแรงนิ้วดึงจนเห็นหนังตาแดงๆด้านใน  ลิ้นเล็กๆแลบยาวออกมาพร้อมกับเสียงแบร่ชัดเจน  ก่อนที่เรือนกายของสาวตัวจิ๋วจะสะบัดก้นกลับหลังหัน  เดินกระทืบเท้าปึงปังจากไป

     

                ย้ะ!!!!

     

                    วงตากลมโตเหมือนสัตว์เลี้ยงหน้าขนเบิกกว้างแทบจะถลนออกมาเมื่อถูกลูบคม  อุณหภูมิในซีซั่นคาเฟทีเรียสูงขึ้นพรวดพราดราวกับกำลังถูกเปลวเพลิงเผาผลาญ  แล้วสายฟ้าก็ฟาดผ่าลงมากลางร้านทั้งที่ไม่มีเมฆตั้งเค้าแต่อย่างใด

     

                    อีฮยอกแจ!  คิมแทยอน!  ปาร์คจองซู!  เรามีเรื่องต้องคุยกัน!”

     

                    ทงเฮเอียงคอมองเพื่อนร่วมงานทั้งสามที่เดินตัวลีบตามเจ้านายซึ่งกำลังทั้งวีนทั้งเหวี่ยงขึ้นไปบนออฟฟิศชั้นสอง  นัยน์ตากลมกระพริบปริบๆ  ก่อนจะเดินเข้าไปเก็บโต๊ะสามที่เลอะเทอะไม่เป็นท่าราวกับมีระเบิดลง

     

                    ไม่ช้าผู้ต้องหาก็เดินลงมาจากห้องสอบสวน  บาริสต้าลักยิ้มเก๋ท่าทางจะโดนหนักสุดเขาเดินลูบศรีษะป้อยๆเหมือนถูกของแข็งฟาดเอา  พนักงานหนุ่มร่างผอมกุมใบหูของตัวเองไว้  ส่วนพนักงานสาวร่างเล็กดูยังสุขสบายกว่าคนอื่นแต่สีหน้าซีดอย่างกับกระดาษจดออเดอร์

     

                    อีทงเฮ  คุณคิมเรียก

     

                    อีฮยอกแจบอก  มือยังไม่ยอมปล่อยหูของตัวเองราวกับว่ากลัวมันจะหายไป

     

                    ครับ

     

                    งานเข้าแล้วไง  ทงเฮย่นจมูก  ...เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจพลีชีพก่อการร้ายของพวกนี้สักหน่อย

     

                    ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

     

                    เข้ามาสิทงเฮ

     

                    ขออนุญาตครับ

     

                    ฮีชอลมองร่างบางที่เดินค่อมตัวเข้ามาอย่างนึกเอ็นดู  พนักงานใหม่ของเขาคนนี้น่ะมารยาทงามกว่านางงามเกาหลีซะอีกนะ

     

                    เรื่องลูกค้าโต๊ะ 9 เมื่อวานน่ะ

     

                    ...ครับ

     

                เรื่องไอ้หัวรังนกนั่นยังไม่หมดเวรหมดกรรมกันอีกเหรอ!?  ฮึ่ย!!

     

                    ผมต้องขอประทานโทษจริงๆครับ  ผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นอีก

     

                    เรือนผมสีทองซีดกระดกสะบัดตามแรงผงกศรีษะ  เจ้าของร้านหน้าสวยรู้ดีว่าคนที่ต้องเอ่ยขอโทษหาใช่พนักงานหน้าหวานคนนี้

     

                    เป็นเขาเองต่างหาก...

     

                    เป็นเขาที่ห่วงใยลูกค้าคนพิเศษคนนั้นมากมายจนเกินไป

     

                    ความจริงลูกค้าหัวยุ่งไม่ได้ต้องการต่อว่าอะไรเลย  แค่วานให้ฮีซอลช่วยสั่งเครื่องดื่มของโปรดที่ไม่มีในเมนูให้เท่านั้น  หากเมื่อเจ้าของร้านได้โทรมาไถ่ถามได้ความว่าลูกค้าคนพิเศษมานั่งที่ร้านร่วมครึ่งชั่วโมงได้แล้ว  เขาก็ปรี๊ดขึ้นมาทันที

     

                    ไม่ใช่ความผิดทงเฮเลยแม้แต่นิดเดียว  แต่เรื่องอะไรฮีชอลจะสาวไส้ตัวเองออกมาประจาน  เขาจึงอธิบายเพียงแค่ว่า

     

                    ลูกค้าคนนั้นเป็นลูกค้าประจำกับร้านเราตั้งแต่เปิดร้านใหม่ๆ  ส่วนใหญ่เขาจะสั่งให้ไปส่งที่ห้องมากกว่า  พนักงานเก่าๆในร้านเลยไม่ค่อยรู้จัก  เมนูที่สั่งก็เป็นเมนูพิเศษสำหรับเขาคนเดียว

     

                    ผมจำหน้าเขาได้แล้วครับ  คราวต่อไปจะไม่ให้พลาดเด็ดขาด

     

                    ดีมาก  เพราะปกติพี่แชยอนที่นายมาทำงานแทนจะเป็นคนเอาออเดอร์ไปส่งให้เขา  เขาไปต่างประเทศก่อนที่พี่แชยอนจะคลอด  ดังนั้นเมื่อเขากลับมาแล้ว  นายต้องทำหน้าที่แทนพี่แชยอนนะ

     

                    ครับ

     

                    นายจ้างที่เคยร่วมงานกับทงเฮรักและเอ็นดูเขาก็ตรงนี้ล่ะ  ในพจนานุกรมของชายหนุ่มตัวเล็กๆคนนี้ไม่เคยมีคำว่าไม่ให้กับผู้ว่าจ้าง  ขอเพียงไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรมอีทงเฮก็พร้อมทำตามคำสั่งทุกอย่าง

     

                    ดังนั้น  ถึงจะเป็นคนที่ทงเฮรู้สึกเกลียดเข้าไส้  แต่เขาก็จะไปส่งบริการให้ถึงบ้านด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนที่มีให้กับลูกค้าคนอื่นๆอย่างเท่าเทียม

     

     

     

     

     

     

                    หยดเหงื่อซึมชื้นภายใต้ไรผมสีน้ำตาลอ่อนเส้นละเอียด  ผุดพรายบนปลายจมูกรั้นที่เร่งโกยอากาศเข้าปอด  เนื้อแก้มนุ่มขึ้นสีโลหิตผุดผาด  ทั้งเพราะเหนื่อย  ทั้งเพราะโมโหในความบอบบางราวกับหญิงสาวแช่มช้อยของตนเอง

     

                    สถานที่ก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไร  หากอีทงเฮกลับหอบแฮ่กคล้ายข้ามเขาพระสุเมรุมาก็ไม่ปาน  ถึงจะขยันสักเพียงใดร่างกายที่มีข้อจำกัดนี้ก็มีร้องประท้วงโอดครวญออกมาบ้าง  เรื่องแพ้แดดนี่ล่ะที่เป็นจุดอ่อนสุดๆของชายหนุ่มหน้ามนคนตัวบาง  แบบว่าก็ไม่ได้พาลหรอกนะ  แค่นึกโมโหเงาะป่าไฮโซที่ไม่ยอมเดินฝ่าแดดมากินที่ร้านดีๆต่างหาก

     

                    นายเงาะป่าหัวรังนก!  จะฆ่ากันให้ตายหรือไง!

     

                    ตึกสูงเสียดก้อนเมฆ  ใหญ่โตและสวยงามราวกับวิมานสวรรค์แห่งนี้ชายหนุ่มผ่านตาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  หากไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เข้าไปเหยียบย่ำความหรูหราจนต้องตะแคงเท้าเดินด้วยกลัวละอองฝุ่นจะเปื้อนพื้นขัดมันวับสะท้อนภาพเงาราวกับส่องกระจก

     

                ให้ตายเถอะอีทงเฮ  ถึงไม่ได้ซักรองเท้าแต่อย่างน้อยเมื่อเช้าก็น่าจะอาบน้ำนะ...

     

                    เขากระซิบกับตัวเอง

     

                    สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับครับ

     

                    พนักงานต้อนรับร่างอวบมีสีหน้าไม่ยินดีเหมือนคำที่กล่าว  เขามองกายภาพทั่วไปของทงเฮหัวจดเท้า  ด้วยสายตาแบบที่ทำให้ชายหนุ่มสัญญากับตัวเองว่าต่อไปจะอาบน้ำก่อนมาทำงานทุกวัน

     

                    เอ่อ  ผมเอาของมาส่งห้อง 129

     

                    ขอบัตรประชาชนเพื่อทำการลงทะเบียนและแสกนนิ้วมือครับ

     

                หวา...งั้นน้ำแข็งก็ง่อยตายละลายหมดสิ!

     

                    โชคดีที่ผู้จัดการเดินผ่านมาพอดี  เขาเห็นทงเฮยืนอึกอักก็รีบเข้ามาไกล่เกลี่ยให้  เพราะมองขาดว่าเป็นพนักงานของร้านซีซันคาเฟทีเรียซึ่งบริหารงานโดยคิมฮีชอล  หรือจะให้พูดอีกทีก็คือร้านกาแฟลูกชายเจ้าของคอนโดมิเนียมสุดหรูแห่งนี้นี่เอง

     

                    นี่กุญแจห้อง 129 ครับ  เข้าไปในห้องได้เลยนะครับไม่ต้องกดอินเตอร์โฟน

     

                    คีย์การ์ดถูกยื่นยัดเข้าในมือพนักงานร้านกาแฟตัวบาง  ที่ต่อมาโดนดุนดันขึ้นลิฟท์ไปอย่างไม่รู้เหนือใต้  ผู้จัดการกดปุ่มหมายเลขชั้นที่เขาควรจะไปให้  พอประตูเปิดทงเฮก็เดินออกมาจากลิฟท์อย่างงงๆ ผ่านบานประตูหลายชั้นที่หาเครื่องแสกนคีย์การ์ดได้โดยบังเอิญ  ก่อนจะเข้าไปในห้องด้วยสภาพที่ห่างไกลจากรอยยิ้มบริการซึ่งเคยมีเสมอเมื่ออยู่ในซีซั่นคาเฟทีเรีย

     

                    อ่า...ขอรบกวนหน่อยนะครับ  จากซีซันคาเฟทีเรียครับ

     

                    เงียบสงัด  เป็นสิ่งที่บรรยายถึงทุกอย่างในห้องนี้ได้ดีที่สุด

     

                    เฟอร์นิเจอร์เรียบๆสีน้ำทะเลวางอย่างเหงาๆดูโดดเดี่ยวภายในอาณาบริเวณกว้างขวาง  ไม่มีกลิ่นอายของการพักอาศัย  ราวกับลูกค้าหัวยุ่งคนเมื่อวานไม่เคยมีตัวตนอยู่ในบ้านของเขาเอง

     

                    ทงเฮเดินเข้าไปด้านในอีก  เขาพยายามส่งเสียงเรียกให้เจ้าของห้องรู้ตัว  แต่ก็ไร้สรรพเสียงใดตอบกลับ

     

                    หากเมื่อเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจล่ะก็คนหน้าหวานจึงแว่วยินเสียงก๊อกแก๊กก๊อกแก๊กที่ประตูระเบียง  ลำแสงอุ่นอ่อนเรืองรองสาดส่องล้อเล่นกับสายลมลอดเข้ามาจากช่องทางนั้น  บนรอยพลิ้วปลิวของผ้าม่านบางเบาที่สั่นไหวปักตรึงเงาเค้าร่างหนึ่งยืนตระหง่านอยู่

     

                    ชายหนุ่มหัวยุ่งแก้มป่อง!

     

                    แม้จะมองจากด้านหลัง  ทงเฮก็สามารถจำทรงผมที่แสนจะมีเอกลักษณ์สีดำฟูฟ่องนั้นได้  ร่างหนายืนบิขนมปังให้กับฝูงนกพิราบตัวอวบอ้วนที่ดูเชื่องชินกับเขาดี  อีกมือถือหนังสือปกภาษาอังกฤษเล่มหนาแทรกนิ้วตรงหน้าที่คงจะอ่านค้างไว้  เสี้ยวหน้าด้านข้างที่แม้จะไม่ยิ้มก็ดูอ่อนโยนสะท้อนหัวใจที่ละมุนละไมออกมาทั้งหมด

     

                    พอชายหนุ่มขยับเท้าก้าวเข้าไป  ราวกับจะทำลายอาณาเขตของดินแดนต้องห้ามนั้น  ฝูงนกพิราบพร้อมใจกระพรือปีกโผบิน  คงเหลือทิ้งไว้เพียงกลีบปีกฟองฟูบางเบาลอยละล่องหยอกเย้าเคล้าสายลมเอื่อยคล้ายกับฉากสวยงามในหนังแนวแฟนตาซีอลังการงานสร้าง

     

                    วงหน้าเนียนอิ่มตวัดหันมามองผู้มาเยือน  ผิวสีน้ำผึ้งอาบแสงจ้าของพระอาทิตย์เปล่งรัศมีเรืองรองดุจไพลินเลอค่า  รูปคางคมคายและบริเวณเหนือริมฝีปากเกลี้ยงใสเนียนเกลา  ป่าดงดิบที่เคยขึ้นรกครึ้มคงถูกแผ้วถางไปเมื่อเช้า  ที่เคยคิดว่าคนๆนี้โกนหนวดเคราแล้วเข้าเค้าโกดมีนัม  ตอนนี้ทงเฮรู้แล้วว่าเมื่อหมดงานร้านกาแฟเขาคงพอจะไปสมัครเป็นแมวมองตาแหลมได้สบาย

     

                    “toffee nut late decaf double syrup  จากซีซั่นคาเฟทีเรียครับ

     

                    รอยยิ้มบริการฉีกกว้าง  หากความเกลียดอย่างไรก็ยังคงเกลียดอย่างนั้น

     

                    ดวงตาคมเรียวยังจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากบางซึ่งพูดจาแย้มยิ้มเหมือนเมื่อวาน  เขาทำสีหน้าเหมือนกับไม่เข้าใจสิ่งที่ทงเฮพูด

     

                เฮ้ๆ  ฉันจำหน้าเจ้าคนที่ทำให้ฉันโดนคุณคิมด่าได้หรอกน่า  อย่ามาทำไขสือว่าฉันส่งผิดห้องนะ  เจ้าเงาะป่า

     

                    ออเดอร์ที่สั่งครับ

     

                    คราวนี้ไม่พูดเปล่า  จับมือข้างที่ไม่ได้ถือหนังสือมารับเครื่องดื่มเย็นฉ่ำไปถือไว้

     

                    ร่างหนายกขึ้นจรดริมฝีปากละเลียดจิบ  นัยน์ตายังสะท้อนกลีบปากฉ่ำราวแอปเปิ้ลสุกของพนักงานร้านกาแฟ  จ้องมองคล้ายกับไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ

     

                    ลำคอของเขาขยับขณะกลืนกินกาแฟรสเยี่ยม  ก่อนจะวางมันไว้บนโต๊ะ  แล้วเปิดหนังสือเล่มหนานั้นยื่นมาเบื้องหน้าคนตัวเล็ก  ชี้นิ้วไปยังคำศัพท์ที่ต้องการ

     

                    ‘thank you’

     

                    ถึงจะสอบตกวิชาภาษาต่างประเทศแต่ทงเฮก็เข้าใจความหมายของถ้อยคำนี้

     

                    แต๊ง...กิ้ว...  ขอบ...คุณ...

     

                    ดวงตาที่ยังหลุบต่ำมองการขยับไหวของริมฝีปากทงเฮเปลี่ยนเป็นหยีโค้ง  รอยยิ้มก่อร่างสร้างตัวขึ้นช้าๆจนเห็นแนวฟันเรียงแถวสีขาวสะอาดน่ามอง 

     

    เขายิ้มแล้ว...

     

                รอยยิ้มของเขาราวกับจะเปลี่ยนโลกไปทั้งใบ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×