คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Secrecy -8-
-8-
ในค่ำคืนที่เงียบสงบบนถนนไร้ซึ่งผู้คนเพราะดึกมากแล้วส่วนใหญ่มักจะเข้านอนกันในวันทำงานอันน่าเบื่อต่างจากซองกยูที่ใบหน้าเต็มใบด้วยรอยยิ้ม ใช่...เขากำลังมีความสุขที่สุด เมื่อนึกว่ามีใครซักคนรอเขาตอนที่กลับจากที่ทำงานอันเหน็ดเหนื่อยมีรอยยิ้มที่สดใสและกำลังใจให้กันไม่ว่าปัญหาที่กองอยู่ตรงหน้าตอนนี้จะเลวร้ายขนาดไหนขอแค่นัมอูฮยอนยังอยู่กับเขาแค่นั้นก็พอแล้ว…
รถยนต์หรูคันสีดำจอดสนิทตรงบ้านหลังเล็กในแถบชนบทสถานที่ๆซองกยูคิดว่าร่างบางยังอยู่...อยู่เคียงข้างเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม
"อูฮยอน พี่กลับมาแล้วนะ"
ภายในบ้านที่เงียบสงัดไม่มีแม้แต่แสงไฟแต่ในใจของร่างสูงยังมีความหวังอยู่เสมอแม้ไฟในใจจะเริ่มลิบหลี่ตามความมืดภายในบ้านแล้วก็ตาม
อูฮยอน อาจจะหลับไปแล้วก็ได้...
ร่างสูงพาตัวเองเข้ามายังห้องนอนแต่กลับว่างเปล่า...พอๆกับใจเขาตอนนี้ ทุกอย่างมันเร็วไปจนเกินเขาจะรับไหว เมื่อนึกได้ว่าเมื่อคืนได้นอนกอดกับใครและเรามีความสุขกันมากแค่ไหน
อา...เจ็บจนร้องไม่ออกมันเป็นอย่างนี้สินะ นัมอูฮยอนทำไมนายชอบปั่นหัวพี่อยู่เรื่อย ชอบทำให้พี่คิดว่านาย...รักพี่เหมือนที่พี่รักนาย
ไร้ซึ่งเสียงต่างๆร่างสูงเดินมานั่งยังโซฟาอย่างเหม่อลอย ดวงตาเรียวแดงก่ำเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำที่กลั่นมาจากความเจ็บปวด เขาคิดว่าความเจ็บเหล่านี้เาชินชาไปแล้วแต่เปล่าเลย ซองกยูยังมีความรู้สึกและยังรักนัมอูฮยอนมากเหลือเกิน
กี่ครั้งแล้วนะ...ที่นายจากพี่ไปแบบนี้ พี่เหนื่อยแล้วอูฮยอน...พี่เหนื่อยแล้วจริงๆ
ต่อจากนี้จะไม่มีคิมซองกยูคนโง่เง่าที่รักนัมอูฮยอนอีกแล้ว พอกันที
.
.
.
.
.
ร่างบางของนัมอูฮยอนกอดเข่าตัวเองอยู่ในห้องนอนสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าบ้านของตน แต่ทำไมถึงไม่รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับบ้านที่จากมานะ หรือเพราะบ้านหลังนี้ไม่มีพี่กิวอยู่ อูฮยอนรู้ว่าตนเองโง่เขลาเพียงไหนถึงได้ทำให้คนที่รักที่สุดเจ็บช้ำซ้ำๆ ทั้งในตอนที่จำไม่ได้และในตอนที่จำได้นัมอูฮยอนก็เป็นเพียงคนไร้ค่าที่ทำร้ายซองกยูอย่าไม่น่าให้อภัย และคงจะดีมากถ้าอีกฝ่ายโกรธเกลียดเขาเรื่องทุกอย่างจะได้จบ
เพราะคนอย่างนัมอูฮยอนไม่คู่ควรกับคิมซองกยูหรอก
รวมถึงปัญหาในตระกูลนัมร่างบางจะเป็นคนแบกไว้ทั้งหมดเอง ให้มันจบที่เขาและปล่อยให้คิมซองกยูมีชีวิตที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น...ชีวิตที่ไม่มีนัมอูฮยอนตัวถ่วงคนนี้
"ฮึ เมื่อไหร่แกจะเลิกร้องไห้ซักที ตาบวมอย่างนี้จะถ่ายรูปพรีเว้ดดิ้งได้ยังไงรีบจัดการตัวเองเดี๋ยวนี้" น้ำเสียงพี่ชายของนัมอูฮยอนที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้ององน้องเอ่ยขึ้น
"พี่ต้องการขายฉันไม่ใช่เหรอ หึ ไม่เห็นต้องพิธีรีตองอะไรเลย ส่งฉันเข้าห้องหอไปเลยซะก็จบ"
"ฉันแค่ให้แกไปแต่งงานกับฮงคยูไม่ได้ให้ไปขายตัว แกโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้แต่งงานอย่างดีมีคนเลี้ยงดูแกในอนาคตน่ะ"
"อย่ามาพูดให้ดูดีหน่อยเลย พี่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าฉันเป็นสินค้าที่ใช้หนี้ให้ตระกูลเพราะพี่มันเอาไปเล่นพนันจนหมดตัว!"
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ อูฮยอน!!"
"ไม่หยุด มีความเลวอะไรอีกมั้ยที่ฉันยังไม่รู้ ฉันมันโง่เองที่หลงเชื่อว่าพี่ตัวเองดี หลังจากจบงานแต่งงานนี้ถือว่าฉันทำหน้าที่ให้ตระกูลนัมไปแล้ว ทุกอย่างสิ้นสุดอย่ามาเรียกร้องอะไรจากฉันอีกพี่อูมิน"
ร่างบางใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตามือเล็กปาดออกอย่างไม่ใสใจก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
.
.
.
.
.
"คุณซองกยูคะ นี่จดหมายค่ะ" เลขายื่นซองจดหมายหลายฉบับลงบนโต๊ะทำงานซองกยูที่นั่งจิบกาแฟก่อนจะส่งสัญญาณให้เลขาออกจากห้องได้
มือเรียวเปิดซองจดหมายทีละฉบับส่วนใหญ่จะเป็นธุรกรรมทั่วไปหรือไม่ก็บัตรเชิญไปยังงานต่างๆจนกระทั่งใบเกือบสุดท้าย ร่างหนาชะงักเมื่อเห็นอักษรย่อสองตัวที่อยู่บนหน้าซอง...ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นงานอะไร ซองกยูยิ้มให้ตัวเองอย่างขมขื่นก่อนจะโยนซองจดหมายนั้นลงถังขยะ
ทุกอย่างจบลงตั้งแต่ร่างบางเลือกก้าวเดินออกจากบ้านหลังนั้นแล้ว และคนแพ้อย่างเขาไม่ควรไปแสดงตัวในวันแต่งงานของใคร
ซองกยูหยิบเอกสารงานต่างๆมาวิเคราะ์อีกครั้งเพื่อเตรียมประชุม ตอนนี้เวลาทั้งหมดเขาทุ่มให้งานเพื่อตัวเขาและผู้มีบุณคุณของเขาเท่านั้นที่กำลังป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลไปเมื่อสี่วันก่อน
ติ๊ดดด ติ๊ดดดด
เสียงโทรศัพท์ทำงานดังขึ้นทำให้ร่างหนาเงยหน้าขึ้นจากงานเพื่อรับโทรศัพท์
"ฮัลโหล ว่าไงครับ"
"คุณซองกยูคะ คุณท่านโทรมาค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะโอนสายให้นะคะ"
"โอเค"
ตู้ดด
"ฮัลโหล ซองกยูหรอลูก"
"ครับ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ ขอโทษจริงๆนะครับที่ไม่มีเวลาไปหาท่านเลย"
"ไม่เป็นไร นี่ก็ใกล้เทศกาลแล้วห้างของเราคงยุ่งวุ่นวาย ฉันเองสิต้องขอโทษที่ทำให้ชีวิตของซองกยูวุ่นวายไปหมด"
"ไม่หรอกครับผมเต็มใจ"
"เอ่อ ถ้าเต็มใจจริงๆช่วยพ่ออีกอย่างได้ไหมซองกยู"
"อะไรเหรอครับ?"
"งานแต่งงานของฮงคยูช่วยไปแทนพ่อได้ไหม มันจะแลน่าเกลียดน่ะถ้าเราไม่ไปแสดงความยินดีกับเขากัน"
…..
"พ่อรู้ว่าลูกงานยุ่งแต่ถือซะว่าเป็นคำขอร้องแล้วกันนะ ซองกยู"
"ได้สิครับ"
"ขอบใจมากๆนะซองกยู"
หลังจากที่วางสายไปแล้วร่างหนาทำได้เพียงถอนหายใจ ตอนนั้นเขาอยากเอาตัวไปเกี่ยวข้องกับอีกฝ่ายดันทำราวกับว่าหนีกัน แต่เมื่อเขาหยุดที่จะตามทำไมกลับกลายเป็นฝ่ายเขาที่โดนไล่ตามไปได้เสียหล่ะ ในเมื่อหนีไม่ได้เขาก็ควรเตรียมรับมือความเจ็บปวดที่จะมาถึง
.
.
.
.
.
มือเรียวถือบัตรเชิญเพื่อเข้าไปยังในงานพร้อมกับกระชับสูทสีขาวให้เข้าทาง ธีมงานแต่งวันนี้คือสีขาวกลิ่นของดอกลิลลี่อบอวลไปทั้งงาน ซองกยูหยุดมองภาพของทั้งคู่สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสายตาบ่งบอกถึงความสมเพช ไม่ใช่ทั้งสองแต่เป็นเขาคนที่พยายามฝืนเส้นทางโชคชะตามาหลายครั้ง แม้ในตอนที่ราวกับหมดหวังเมื่อร่างบางจำตนไม่ได้แต่ความหวังกลับถูกเติมเต็มอีกครั้งด้วยคนๆเดียวกันและก็เจ็บปวดเพราะคนๆเดียว นัมอูฮยอน
พี่มันน่าสมเพชจริงๆ แต่ต่อไปจากนี้ทุกอย่างจะเป็นอดีตจะไม่มีนัมอูฮยอนของคิมซองกยูอีกต่อไปแล้ว
"อ่าว นายก็มาด้วยเหรอ นึกว่าจะเอาแต่นั่งทำงานซะอีก" น้ำเสียงเย้ยหยันของอูมินทำให้ร่างหนาหันหลังไปมองทางต้นเสียงที่ไม่มาแค่คนเดียวแต่มีคู่บ่าวสาวเดินเคียงคู่อีกต่างหาก
ซองกยูใจกระตุกวูบเมื่อได้เห็นร่างบางในชุดสีขาวแต่ก็ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าอะไรนอกจากทำหน้าเรียบนิ่งและมองไปทางสามคนอย่างเย็นชา
"ทำไมฉันจะไม่มาล่ะ งานแบบนี้ฉันคงพลาดไม่ได้หรอก ยินดีด้วยนะ"
คำลงท้ายร่างหนาจงใจส่งให้ร่างบางได้รับรู้โดยไม่หันไปมองอีกฝ่ายเลยราวกับเมินเฉยต่อกัน ทำให้ร่างบางได้แต่ยิ้มฝืนๆทั้งที่ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว
"ขอบคุณที่คุณซองกยูมาร่วมงานของเรานะครับ ถือว่าเป็นเกียรติมากๆเพราะอูฮยอนคงจะเสียใจถ้า ‘พี่ชาย’ ที่สนิทไม่ได้มา" ฮงคยูจงใจเน้นน้ำเสียงพร้อมกับโอบรอบเอวร่างบางให้อีกฝ่ายหงุดหงิด
"หึ คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ดีไม่ดีถ้าไม่มีผมในงานอาจจะรื่นเริงกว่านี้ก็ได้" เสียงสั่นจากโทรศัพท์ทำให้ซองกยูต้องกดอ่านข้อความก่อนจะเงยหน้ามามองเจ้าภาพที่ทำสีหน้าไม่พอใจ
"งานผมยุ่งมาก ขอโทษด้วยที่มาแสดงความยินดีได้เพียงแค่นี้ผมขอตัว….อ้อ สำหรับผมในฐานะพี่ชายคนสนิทอยากจะฝากบอกว่าน้องชายคนสนิทของผมอาจมีรอยตำหนิบ้าง แต่ก็ขอบคุณนะครับที่จะคอยดูแลเขาต่อจากนี้ รักกันให้นานๆนะครับ"
ร่างหนายิ้มมุมปากให้เจ้าบ่าวของงานที่กำลังสงสัยเรื่องรอยตำหนิของร่างบาง ซองกยูเดินจากกันไปแล้วเหลือเพียงพี่ชายและฮงคยูที่หงุดหงิดรวมถึงร่างบางองนัมอูฮยอนที่หน้าชา ดวงตาหวานเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสที่หยดลงมาอย่างห้ามไม่ได้ อูฮยอนรู้ว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดจบสิ้นลงตรงนี้และอีกฝ่ายโกรธกันมากแค่ไหนแต่ก็ดีแล้ว
ยิ่งเกลียดก็ยิ่งดีเพราะสิ่งที่เขาทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดมานานและถึงเวลาที่จะชดเชยให้เสียที
และแล้วก็ถึงเวลาอันแสนเกลียดนัมอูฮยอนที่นั่งอยู่บนเตียงนอนขนาดคิงไซต์ของโรงแรมสถานที่ๆเป็นดั่งห้องหอเพื่อรอคนรักที่กำลังอาบน้ำอยู่ น่าขำซะจริง...จนถึงตอนนี้ก็ยังอดคิดถึงใครอีกคนไม่ได้ ดวงตาเรียวที่มองกันนั้นยังติดตรึงอยู่ในหัวยากที่จะสลัดออก
ร่างบางเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบบางอย่างออกมา...บางอย่างที่จะถ่วงเวลาได้ไม่ม่ากแต่ก็ยังดีเพราะนัมอูฮยอนไม่อยากเป็นของใครทั้งนั้นนอกจากคิมซองกยู ร่างบางเทสิ่งนั้นลงไปในแก้วแชมเปญเพื่อรอให้อีกฝ่ายมาดื่ม และวันอันแสนเหนื่อยล้านี่จะได้จบลงซักที
ติ๊ดดด ติ๊ดดดด
"ฮัลโหล มีไรว่ามางานยุ่ง" ซองกยูที่กำลังถือเอกสารกองโตทำได้เพียงเอาโทรศัพท์เหน็บไว้ที่ไหล่ถามเพื่อนสนิทจางดงอูที่หายไปซะนาน
"เออ กูก็ยุ่งเหมือนกัน...ว่าแต่มึงปล่อยคุณอูฮยอนให้หลุดมือไปได้ไงวะ"
"ถ้ามึงโทรมาเพราะเรื่องนี้กูจะวางสายเดี๋ยวนี้แหละ"
"เฮ้ย เดี๋ยวๆ จริงๆมันก็ไม่เชิงเกี่ยวหรอก"
"คุณซองกยูคะ อีกห้านาทีประชุมจะเริ่มนะคะ" เสียงเลขาที่พูดขัดจังหวะยิ่งทำให้ซองกยูยิ่งต้องรีบเร่งเตรียมตัว
มีอะไรว่ามาเร็วๆ กูไม่อยากไปประชุมสาย
"คือ วันก่อนคุณอูฮยอนมาหากูเว่ย เพื่อขอยาDiazepame"
"แล้วไง มึงช่วยอธิบายอะไรให้กูเข้าใจง่ายๆหน่อยเร็วๆ" ร่างหนาขมวดคิ้วเ้าหาหกัยอย่างเสียไม่ได้ เพื่อนคนนี้จะทำให้เขาเข้าประชุมสาย
"ก็หมายความว่าคุณอูฮยอนมาขอให้ข้าสั่งยานอนหลับน่ะสิวะ เค้าอาจมีความเครียดอะไ…"
"พอๆ เค้าก็คงดีใจจนเนื้อเต้นมั้งที่จะได้แต่งงานกับคนที่รัก มึงนี่ทำให้กูเสียเวลาจริงๆ"
"เอ็งไม่คิดว่ามันแปลกเหรอวะคนจะมีความสุขที่ไหนจะมาอยานอนหลับในสีหน้าอมทุกข์น่ะ"
ตู้ดๆๆๆๆๆ
"เฮ้ย ไอ้กยู มึงกล้าวางสายกูเหรอวะ"
หมอหนุ่มจางดงอูทำได้เพียงแค่ถอนหายใจสองวันก่อนงานแต่งงานอันเลื่องลือจะเกิดขึ้น นัมอูฮยอนว่าที่เจ้าสาวคนที่เขาจำได้ดีว่าเคยนอนป่วยอยู่บนเตียงของเพื่อนสนิทเขา ใบหน้าหวานมีสีหน้าหมองหม่นอูฮยอนจำคุณหมอจางดงอูได้และคิดว่าไม่มีจะสั่งยาแบบนี้ห้ได้นอกจากจะรู้จัก เมื่อร่างบางได้ยาที่อยู่ในกำมือแล้วก็ไม่ลืมที่จะกำชับหมอดงอู
'คุณดงอูฮะ ได้โปรดถือว่าผมขอร้องเรื่องนี้อย่าบอกคุณซองกยูนะฮะ'
หมอหนุ่มทำเป็นรับปากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมาบอกให้ซองกยูรับรู้ ไม่แน่การแต่งงานในครั้งนี้อาจไม่ใช่ความยินยอมของนัมอูฮยอนก็ได้ และถ้าเดาไม่ผิดตอนนี้นัมอูฮยอนอาจอยู่ในภาวะลำบากแต่เขาเป็นเพียงคนนอกเท่านั้นหวังไว้อย่างเดียวว่าสิ่งที่เขาพูดไปจะทำให้ซองกยูคิดอะไรได้บ้างนะ
To be continue…
Talk: เรามาต่อแล้วค่ะ ดราม่าไม่ใช่งานถนัดเราเลยจริงๆกว่าจะจบแต่ละตอนเล่นทำเราปาดเหงื่อและเรารู้ว่ายังมีอีกหลายจุดที่ต้องแก้ไข อีกไม่น่าเกินสองตอนก็จะจบแล้วค่ะขอบคุณทุกคนที่อ่านฟิคของเราและก็ขอบคุณกำลังใจจากคอมเม้นล่วงหน้านะคะ เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะหรือพูดคุยกับเราได้ที่ #ficsecrecy นะคะ^^
ความคิดเห็น