คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Secrecy -1-
-1-
จากวันนั้นก็ผ่านมาหกวันแล้วร่างบางไม่เข้าใจผู้ชายนัยตาคมชื่อคิมซองกยูคนนั้นเลย จับเขามาขังกันในห้องสี่เหลี่ยมคอยให้ข้าวน้ำเมื่อถึงเวลาราวกับนกในกรงทอง อูฮยอนไม่รู้จุดประสงค์ของผู้ชายคนนั้นสักนิดจับตัวเขามาเรียกค่าไถ่ก็ไม่ใช่ เพราะดูจากสภาพแวดล้อมของห้องนี้แล้วกว้างขวางหรูหราพื้นปูด้วยหินอ่อนสีเทาและผนังสีครีมสบายตา ถึงร่างบางจะไม่เคยเห็นหน้าตาของบ้านหลังนี้แบบเต็มเนื่องจากตอนเข้ามาโดนปิดตาไว้แต่ก็รู้สึกได้ว่าบ้านหลังนี้ต้องใหญ่น่าดูหรืออาจพูดได้ว่าเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางป่า
ด้วยเหตุนี้ทำให้นึกถึงเหตุผลของการลักพาตัวไม่ได้ หรือจะให้เราเป็นตัวต่อรองกับพี่ชายเ่รื่องธุรกิจ? ก็อาจจะใช่...เพราะนอกจากนั้นอูฮยอนก็นึกไม่ออกแล้วจริงๆความทรงจำในเกาหลีของอูฮยอนนั้นเลือนลางเหลือเกินคนในเกาหลีมีเพียงสองคนที่รู้จักคือพี่ชายและคนรัก ส่วนพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อแปดปีก่อนอูฮยอนเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยและเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ส่วนพี่ชายบอกกับเขาว่าครอบครัวเราอาศัยอยู่อเมริกามาตั้งแต่อูฮยอนเกิด วันนั้นที่เกิดเหตุทุกคนกำลังเดินทางไปหาพี่ชายที่ทำธุรกิจโรงแรมสาขาเกาหลีของพ่อ แต่ก็ไม่แน่...พี่ชายอาจจะพูดไม่หมดมันต้องมีอะไรแน่ๆ
ร่างบางนอนอยู่บนเตียงอย่างหมดหวังเพราะข้อมือโดนเชือกเส้นหนาพันติดกับหัวเตียงจนเริ่มเกิดรอยช้ำจากการที่ร่างบางบิดไปมาทั้งวัน เฮ้อ พรุ่งนี้แล้วสินะ...สิ่งที่ฝันเอาไว้หวังจะให้เป็นจริงกลับพังทลายลงอูฮยอนอดคิดถึงคนรักไม่ได้ ฮงคยู….ป่านนี้คงตามหาเขาไปทั่ว จะมีใครรู้ไหมว่าอูฮยอนอยู่ที่นี่แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบ้านหลังนี้อยู่ส่วนไหนของเกาหลี
“แม่บ้านบอกว่านายไม่ยอมกินข้าว ทำไมไม่กิน” น้ำเสียงเย็นชาจากคนที่ลักพาตัวอูฮยอนมาดังขึ้นที่หน้าประตู สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าไม่พอใจ
“แล้วทำไมต้องกินล่ะ นายอยากให้ฉันทรมานไม่ใช่รึไง นายคงจะมีความสุขมากสินะที่เห็นฉันเป็นแบบนี้บอกไว้ก่อนเลยพี่ชายฉันกับฮงคยูไม่เอานายไว้แน่”
…..
…..
“ฉันไม่อยากพูดมาก จะกินไหม”
“ไม่กินเอาออกไป แล้วนายก็ไสหัวไปไหนก็ไปฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” ร่างบางหันหน้าเมินร่างหนาไปอีกทางด้วยความอยากเอาชนะ โดยไม่ได้สังเกตเห็นแววตาเจ็บปวดของอีกฝ่ายเลย
‘นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ อูฮยอน’
“ก็ได้ ชอบให้ใช้กำลังใช่มั้ย”
“เฮ้ย จะทำอะไรออกไปนะ” ร่างสูงช้อนตัวร่างบางมาไว้ที่ตัก ใบหน้าคมเข้าไปใกล้ร่างเล็กห่างเพียงแค่ลมหายใจคั่นกัน ทำเอาร่างเล็กหน้าร้อนวูบไปหมด
“จะกินข้าวได้หรือยัง หรืออยากกินอย่างอื่นแทน หืม”
“ม ไม่” ร่างบางเบี่ยงหน้าหลบอีกฝ่าย มือเล็กพยายามผลักอกของร่างหนาให้ไม่ชิดกันเกินไป
“ฉันพูดจริงนะ อูฮยอนอา” แน่นอนว่าการกระทำหลบหลีกของอีกฝ่ายไม่ได้ผล ร่างหนากระซิบที่หูของร่างบางก่อนจะขบเม้มส่วนปลายเพื่อย้ำว่าไม่ได้พูดเล่น
“ก กินแล้วออกไปสิ”
“ไม่ได้ โทษฐานที่ต้องดื้อกินข้าวทั้งอย่างนี้แหละ”
“ใครดื้อฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ออกไป”
จุ๊บ
ร่างสูงหอมแก้มใสพร้อมกับทำหน้ามึน ร่างบางที่กำลังเถียงกันได้แต่มองแบบอึ้งๆ
“ฉันไม่ชอบพูดย้ำนะนัมอูฮยอน กินข้าวซะก่อนที่ฉันจะกินนาย”
ร่างบางที่ตกใจกับการกระทำของร่างสูงรีบหยิบอาหารตรงหน้ามาทานอย่างเงียบๆ ซองกยูมองร่างบางภายใต้สีหน้านิ่งนั้นสายตาคมกลับจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ยอยู่บนตักเขาอย่างเอ็นดู
หลังจากนั้นไม่นานซองกยูออกจากห้องไปแล้วแต่กลับทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ให้กัน ความรู้สึกที่ไม่น่าจะเกิดและอูฮยอนจะหยุดมันได้อย่างไรในเมื่อยังอยู่ที่นี่ กลัวเหลือเกิน...กลัวว่าซักวันความรู้สึกนี้จะทำลายทั้งเขาและคนรัก มีทางเดียวคือต้องหนีร่างบางพยายามแกะเชือกที่มัดเอาไว้หลายวันแล้วข้อมือเริ่มเป็นสีแดงช้ำ
“ทำไมแก้ไม่ออกซักทีนะ เชือกบ้าเอ้ย”
ร่างบางล้มตัวนอนอย่างเหนื่อยล้า ในหัวพยายามนึกถึงวิธีที่จะไปจากห้องแห่งนี้พร้อมกับมองไปยังเชือกเส้นหนามือบางค่อยๆดึงและบิดข้อมือไปมาอาจเป็นเพราะเชือกที่มัดมานานหลายวันแล้วเลยทำให้ข้อมือร่างบางค่อยหลุดออกมาในที่สุด
โอ้ย
ร่างบางเอามือปิดปากตัวเองปิดกลั้นเสียงจากการเจ็บข้อมือก่อนจะเดินไปทางประตู...อย่างที่คิดไว้ประตูล็อค ร่างบางจึงเดินไปทางหน้าต่างแทนเพื่อมองไปยังด้านนอกอย่างระวังตัวอย่างที่คิดบ้านนี้หลังใหญ่และมีป่าล้อมรอบ ตอนนี้อูฮยอนอยู่ชั้นสองด้านล่างไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่เนื่องจากเป็นเวลาค่ำแล้วข้างนอกนั้นจึงมืดสนิทวังเวง แต่กับคนที่พยายามหนีอย่างอูฮยอนก็ไม่มีอะไรที่จะหยุดได้ร่างเล็กก้าวขาออกไปแตะกับพื้นปูนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านเพียงเล็กน้อยอย่างน่าหวาดเสียว ลมจากภายนอกปะทะเข้ามาที่ตัวร่างบาง
‘มาถึงขนาดนี้แล้วจะถอยไม่ได้นะ นัมอูฮยอน สู้ตาย’
ร่างบางค่อยๆกะเถิบตัวไปตามแนวของปูนจนเจอกับต้นเสาใหญ่ที่ติดกับต้นไม้ ร่างบางยื่นมือออกไปเพื่อเกาะกิ่งไม้ยึดหลัก
“หยุดนะอูฮยอน!!!! คุณจะทำอะไรน่ะ”
เฮ้ย!!
ตุบ!!
ร่างบางเสียหลักตกลงมาแต่น่าแปลกทำไมเจ็บไม่เท่าไหร่เลย….
“อูฮยอนเป็นอะไรมั้ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ร่างสูงที่รองรับร่างบางที่ตกลงมาสำรวจอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย ข..ขา”
“ไหนดูหน่อยสิ”
“ไม่ต้องฉันเจ็บนิดหน่อยเดี๋ยวก็หาย”
“งั้นก็ดีแล้ว กลับเข้าบ้านกันเถอะ” ซองกยูถอนหายใจพร้อมกับกอดคนตรงหน้าแน่นราวกับคนในอ้อมกอดจะหายไปอย่างนั้น ทำให้ร่างเล็กรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอีกไม่ได้
‘จับมาทรมานกันไม่ใช่เหรอทำไมต้องมาทำดีเป็นห่วงกันด้วย..’
“ฉันไม่เป็นอะไรมาก ปล่อยได้แล้ว”
ร่างบางพยายามผละออกแต่ไม่เป็นผลเมื่อร่างสูงอุ้มอีกฝ่ายขึ้นพร้อมกับก้าวขามุ่งหน้าไปยังเดินเข้าไปยังคฤหาสน์ผ่านห้องโถงใหญ่ชั้นล่างก่อนจะขึ้นไปยังชั้นสองห้องซ้ายมือเกือบสุดทางเดิน แต่เดี๋ยวก่อน....นี่ไม่ใช่ห้องที่ขังห้องเดิมหนิ
“นายพาฉันมาห้องไหนปล่อยนะ ฉันจะกลับห้องเดิม”
“นายอยากดื้อเองนะ นี่ห้องฉันต่อไปนี้นายต้องนอนห้องนี้แล้วอย่าคิดจะหนีอีกล่ะไม่งั้นเจอดีแน่”
“เจออะไร ตั้งแต่ต้องมาอยู่ที่นี่ก็เจอแต่คนกามแบบนายน่ะแหละ รู้ไว้เลยนะฉันจะหนีทุกครั้งที่มีโอกาส”
“อยู่ที่นี่นายจะเจอแค่คนกามอย่างฉัน แต่ถ้าหนีออกไปฉันไม่รับประกันความปลอดภัยเพราะข้างนอกมีแต่ป่าคงไม่ต้องให้ฉันอธิบายนะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาย อูฮยอน”
“ชิ…” ถึงอูฮยอนจะแสบขนาดไหนตอนนี้ใจไม่กล้าพอหรอก จากที่ได้ไปลองปีนตึกปีนต้นไม้มาแล้วยังพลาด ถ้าจะให้ไปผจญป่าคนเดียวตอนกลางคืนมีหวังคงไม่รอดแน่ๆ
“นายแน่ใจนะว่าขาไม่เป็นอะไร”
“อืม เลิกจับได้แล้วจะนอน” ร่างบางโน้มตัวลงนอนกระชับผ้าห่มและหันหลังให้ร่างหนาที่มองการกระทำนั้นด้วยรอยยิ้มและย้ายตัวเองมานอนโซฟามองร่างบางที่แกล้งหลับใส่กันแล้วนึกขำ ซองกยูไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่มีความสุขแบบนี้จะอยู่อีกนานแค่ไหนขอแค่ร่างบางได้รู้จักคนที่ชื่อ คิมซองกยู ก็เพียงพอแล้ว
to be continue…..
Talks: ตอนแรกมาแล้วรวดเร็วทันใจกันมั้ยค่ะ มีแต่คนสงสารพี่กยูไม่สงสารน้องนัมที่โดนจับกันเลย55 ตอนต่อไปจะรีบปั่นต่อเมื่อมีโอกาสและเวลาว่างค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์มากๆเราอ่านแล้วมีแรงฮึดปั่นต่อเลย5555
ความคิดเห็น