ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secrecy (Gyuwoo)

    ลำดับตอนที่ #11 : Secrecy -10- End

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 580
      4
      22 พ.ค. 58

    -10-


    End



    อูฮยอนลืมตาขึ้นมาในกลางดึกบรรยากาศรอบตัวมืดสงัดจนไม่รู้ว่านี่คือที่ไหนแต่ที่แจ่มชัดที่สุดคงเป็นเสียงลมหายใจของคนที่อยู่ข้างกายกับอ้อมแขนที่เกี่ยวเอวของตนไว้ ร่างบางกลับมาใจเต้นแรงอีกครั้งในหัวพยายามคิดถึงสิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตอนที่ตนกำลังจะถูกสามีในนามนั่นกับเพื่อนๆ...ว่าแล้วก็อดจุกไม่ได้น้ำตาที่เหือดแห้งไปกลับมาเต็มดวงตาหวานอีกครั้ง



    แม้แต่ชีวิตอย่างอูฮยอนยังไม่มีค่าเลย...แล้วคนที่นอนข้างกันล่ะจะคิดยังไง ที่มาช่วยเพราะสงสารหรือเพราะยังรักกันอยู่ร่างบางไม่รู้แต่ถ้าเป็นอย่างแรก อูฮยอนก็ไม่ควรมาอยู่ที่นี่ในอ้อมกอดนี้



    ร่างบางค่อยๆจับแขนแกร่งออกอย่าางเบามือและค่อยๆขยับร่างตนลงไปแม้ว่าจะเจ็บปวดจากรอยฟกช้ำที่โดนฮงคยูทำร้ายก็ตาม แต่ตนคิดว่าต้องไปจากที่นี่ซองกยูดีเกินไปไม่ควรมาอยู่กับคนที่มีแต่ทุกข์อย่างอูฮยอน



    เท้าเล็กสัมผัสกับพื้นหินที่เย็นจัด อูฮยอนกำลังจะจากไปอีกครั้งถ้าไม่มีอ้อมแขนแกร่งเกี่ยวรั้งไว้ซะก่อน

    ร่างบางที่กำลังลุกขึ้นจึงกลับไปอยู่บนเตียงอีกครั้งด้วยแรงจากด้านหลัง



    “จะไปไหนอีก”



    “คือ...ขอบคุณมากนะฮะที่คุณช่วยผม” ทำไมนะคำว่าคุณจากร่างบางถึงทำให้เจ็บแปลบขนาดนี้



    “อ่าฮะ แล้วนายจะไปไหน นายยังมีที่ให้ไปอีกด้วยเหรอ” ร่างบางจุกกับคำพูดของซองกยู ใช่สิ เขามันไม่มีค่า แม้แต่ที่จะให้อยู่อาศัยยังไม่มีเลย



    “….ผมจะกลับบ้าน”



    “กลับไปให้พวกมันทำร้ายอีกน่ะเหรอ...ไม่ให้ไป”



    อูฮยอนรู้สึกถึงอ้อมแขนที่กระชับแน่นขึ้น คำว่าไม่ให้ไปของร่างสูงนั้นทำเอาขาอูฮยอนก้าวไม่ออกซะงั้น ใจกลับเต้นแรงขึ้นๆ



    “ไม่ให้ฮยอนไปไหนทั้งนั้น พี่ไม่สนแล้วว่านายจะทำพี่เจ็บมากแค่ไหนแต่อย่าร้องไห้ อย่าเก็บความเศร้าไว้คนเดียวอีกเลยนะ แบ่งมาให้พี่ๆจะช่วยรับมันเอง”



    สิ้นคำพูดของซองกยูร่างบางก็ตัวสั่นเทิ่ม เสียงสะอื้นและของเหลวใสที่หยดลงบนแขนแกร่งนั้นยืนยันได้ดีว่าร่างบางต้องโดเดี่ยวและแบกรับอะไรมากมายเกินตัวขนาดไหน



    “อย่าหนีพี่ไปอีก อยู่กับพี่นะ อยู่ในบ้านของเราทิ้งอดีตที่ไม่ดีเอาไว้แค่ตรงนี้แล้วมาเริ่มต้นใหม่กันเถอะ”



    ร่างบางหันหน้ามากอดร่างสูงไว้แน่นใบหน้าหวานซบลงที่แผ่นอกของอีกฝ่ายและตอบรับด้วยเสียงที่อู้อี้ ทำเอาซองกยูอดขำไม่ได้จมูกสันได้รูปก้มลงไปยังศีรษะทุยของอีกฝ่าย ทั้งสองคนต่างเคยเจอเรื่องไม่ดีมามากมาย และมันจะจบลงวันนี้คืนนี้ วันแห่งการเริ่มต้นใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

    .

    .

    .

    .

    .

    “พี่กยูเสื้อตัวนี้สวยมากเลยเนอะ” มือบางกระตุกชายเสื้อสูทร่างสูงให้หยุดดู แต่เมื่อซองกยูหันไปมองเสื้อคู่รักที่อูฮยอนชี้ก็ถึงกับต้องเบ้หน้า



    “ไรอ่ะ ฮยอนว่าออกจะน่ารัก วันนี้เรามาเดตกันนะและพี่กยูต้องฟังฮยอนสิ ไปๆดูเสื้อกันเถอะฮะ”



    ร่างบางจูงมือเรียวสวยเข้าไปในร้าน เสื้อคู่รูปปลาฉลามน่ารักถูกทาบลงบนตัวของร่างสูงที่ใส่สูทสีดำหรูพร้อมกับร่างบางที่หันหน้าเข้าหากระจกเลือกเสื้ออย่างตั้งใจ จากตอนแรกที่ซองกยูออกจะหงุดหงิดนิดที่ต้องมาใส่อะไรเป็นเด็ก แต่ก็ดีไม่น้อยที่ได้เห็นรอยยิ้มและความเอาใจใส่ของร่างบาง ถ้าอูฮยอนจะกลับมาสดใสแบบนี้เขายอมใส่เสื้อคู่ปลาฉลามนี่ให้ลูกน้องแซวเล่นทั้งวันเลยก็ย่อมได้



    “พี่กยูว่าไงฮะ สีแดงก็สวย หรือสีน้ำเงินดีนะ...อืม เราไปลองเปลี่ยนดูกันดีกว่าฮะ ถ้าเปลี่ยนสีแดงเสร็จแล้วเรามาเจอกันตรงกระจกบานนี้นะฮะ”



    “หืม ได้ไงล่ะเราเป็นคู่รักกันก็ต้องเปลี่ยนห้องเดียวกันสิฮยอน”



    “ค คู่รักคนอื่นเค้ายังแยกกันเปลี่ยนได้เลย” สิ้นเสียงซองกยูจึงโน้มตัวไปกระซิบบางอย่างที่ทำให้แก้มใสกลายเป็นสีชมพูเปล่งปลั่ง



    “แต่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ หรือฮยอนอยากให้พี่รื้อฟื้นที่นี่ ตรงนี้ล่ะ”

    .

    .

    .

    .

    .

    อูฮยอนที่เดินออกมาจากร้านเสื้อคู่รักหน้าหงิกต่างจากร่างสูงที่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ทั้งสองคนออกมาในเสื้อแขนยาวสีแดงลายหมีพู ทำไมถึงเปลี่ยนลายน่ะเหรอ? เพราะร่างบางที่โดนแทะเล็มในห้องเสื้อเต็มไปด้วยรอยแดงจนต้องเปลี่ยนเป็นเสื้อแขนยาวลายหมีพูที่ร่างสูงบอกว่าชอบ ทั้งๆที่ตอนนี้อากาศร้อนน่ะสิ!!!!



    ร่างสูงมองคนที่เดินนำหน้าแต่ปากขมุบขมิบไปเรื่อยๆด้วยความเอ็นดู จริงๆเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอกนะ แต่ถ้าคุณได้เห็นเรือนร่างของคนรักแล้วคุณจะอดไม่แกล้งไหวเหรอครับ? ส่วนเสื้อนั่นก็เหมือนตกลงกันครึ่งทาง...อูฮยอนชอบสีแดงส่วนผมชอบหมีพูถือว่าผมไม่ผิดแน่นอน :)



    “ฮยอนอยากกินอะไรมั้ย”



    “ไม่หิว อยากเดินไปเรื่อยๆไม่อยากแวะอะไรแล้ว”



    “ว้า...จริงเหรอ อุตส่าจะพาเข้าร้านไอศกรีมซะหน่อยแต่ฮยอนยังไม่หิวนี่เนอะ งั้นเดินต่อไปก็ได้”แผ่นหลังเล็กชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองร่างสูงตาแป๋ว



    “เราไปกินไอศกรีมแล้วค่อยเดินต่อก็ได้ เนอะๆๆ” ร่างบางเกี่ยวแขนซองกยูก่อนจะเอาหน้าแนบกับไหล่แกร่งอย่างออดอ้อน



    โตแล้วแต่ยังเหมือนเด็กที่ขี้งอน ขี้อ้อน และเลี้ยงง่ายแล้วอย่างนี้คนอย่างคิมซองกยูจะไปไหนรอดล่ะ



    เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงทำให้ต้องบอกให้ร่างบางเข้าไปสั่งไอศกรีมก่อน ซองกยูกดรับสายคุณพ่อบุญธรรมของเขาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มก่อนรอยยิ้มจะค่อยๆหายไปในไม่ช้า



    “สวัสดีครับท่าน”



    “ทำอะไรอยู่หรอลูก”



    “เอ่อ...ออกมาข้างนอกน่ะครับ อีกซักพักก็จะกลับออฟฟิตแล้วครับ”



    “ไม่ใช่ว่าอยู่กับนัมอูฮยอนหรอกนะ” ซองกยูขมวดคิ้วก่อนจะหันหลังให้ร้านเพื่อไม่ให้ร่างบางที่มองมาเห็น



    “ลูกน่าจะรู้แก่ใจดีว่าอะไรผิดถูก พ่ออยากให้ลูกอยู่ห่างจากอูฮยอนซะคนจะได้ไม่เข้าใจลูกผิด”


    “ผมคงพูดอะไรได้ไม่มาก แต่ผมอยากให้ท่านเชื่อในตัวผมและผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังครับ ฝากบอกคนที่เข้าใจผิดด้วยนะครับว่าผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายอูฮยอนอีก”



    ซองกยูตัดสายไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดนี่คงถึงเวลาที่จะสะสางเรื่องทั้งหมดเสียที เพื่อทุกอย่างจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ ร่างสูงโทรไปหาใครอีกคนเพื่อพูดคุยก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเพื่อหาร่างบาง



    “คุยงานเหรอฮะ หน้าเครียดเชียว” นิ้วป้อมเอื้อมไปจิ้มปมคิ้วที่ขมวดกันของร่างสูง ทำเอาซองกยูขำไม่ได้ไม่ว่าจะเวลาไหนคนตรงหน้าก็ทำให้เค้ายิ้มได้เสมอและอดไม่ได้ที่จะถามอะไรบางอย่าง



    “อืม..ฮยอนเชื่อใจพี่มั้ย”



    “เชื่อสิฮะ”



    “แล้วถ้าพี่ทำอะไรไม่ดี ฮยอนจะยังอยู่กับพี่มั้ย” ร่างบางมองอีกฝ่ายนิ่งๆอย่างใช้ความคิดก่อนจะเอื้อมมือไปผสานมือเรียวของอีกฝ่าย



    “ฮยอนรักพี่กยู ไม่ว่าพี่จะดีหรือไม่มันจะยังคงเดิมไม่เปลี่ยนไปฮะ” ทั้งแววตาและน้ำเสียงของร่างบางส่งมาถึงหัวใจอย่าเต็มเปี่ยม และอดไม่ได้ที่จะแกล้งร่างบางบ้าง



    “ ไม่เชื่อหรอก ฮยอนชอบบอกว่ารักพี่แล้วก็จากพี่ไปทุกครั้งเลย ”



    ร่างสูงแกล้งพูดและทำถ้าจะปล่อยมือจากร่างบางที่กำลังหน้าเหวออย่างเดาทางซองกยูไม่ถูก รีบดึงมืออีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะโน้มตัวทาบริมฝีปากอิ่มลงบนแก้มซ้ายของร่างสูง ทำเอาซองกยูถึงกับอึ้ง



    “ ฮยอนขอโทษจริงๆฮะ...ต่อจากนี้จะไม่หนี ไม่ดื้อ ไม่ซนแล้วอีกแล้วหายโกรธกันนะฮะ”



    ร่างสูงเอานิ้วมือข้างที่ยังว่างจากการเกาะกุมมาแตะที่ริมฝีปากตนเองเหมือนเป็นสัญญาณให้ร่างบางรับรู้ ‘ถ้าฮยอนจุ๊บพี่ตรงนี้จะยกโทษให้’



    ร่างบางหน้าแดงอีกครั้งหัวทุยส่ายไปมาจนผมหน้าม้าแตก ซองกยูจะทำเป็นผิดหวังและจะชักมือออกจากมือเล็กอีกครั้ง แต่จู่ๆริมฝีปากอิ่มนุ่มก็มาแตะลงบนริมฝีปากตนเพียงนิดๆก่อนทำท่าจะผละออกแต่ร่างสูงที่เร็วกว่าจับท้ายทอยอีกฝ่ายไว้ก่อนจะไล้ชิมริมฝีปากล่างอย่างเย้ายวนลิ้นสากค่อยๆไล้ริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้าราวกับขนมหวานและแทรกเข้าไปข้างในโพรงปากอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำเอาร่างบางไร้เรี่ยวแรงยอมให้คนตรงหน้าเอาเปรียบตนต่อไป



    “ อ ไอศกรีมบานาน่าช็อกโก้ ม มาเสริฟแล้วค่ะ” ร่างบางได้สติรีบผละออกจากกันก่อนจะก้มหัวงุดจนคางชิดอก ต่างจากอีกคนที่หัวเราะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น



    “ ขอบคุณครับ” เมื่อพนักงานเสริฟที่หน้าแดงอย่างเขินแทนจากไป ร่างบางก็เลยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างคาดโทษ



    “ พี่กยูอ่ะ!”



    “ อะไร จะโกรธพี่เหรอ เอ..ว่าแต่เมื่อกี้ใครกันนะหน้าเคลิ้มเชียว ไม่เห็นต้อวอายเลยคนเยอะแยะ”



    “ ย๊า คิมซองกยู”



    ทั้งสองคนมีรอยยิ้มให้กัน ก่อนร่างบางจะกินไอศกรีมต่ออย่างเขินอาย รีบกินรีบไปดีกว่าแค่นี้อูฮยอนก็เขินจะแย่อยู่แล้ว!

    .

    .

    .

    .

    .

    ในบริษัทเออาร์กรุ๊ปซึ่งเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ในการส่งออกของตระกูลฮงคยู แต่กลับซ่อนความลับบางอย่างไว้ในชั้นใต้ดินล่างสุดของบริษัทที่กลายเป็นแหล่งมั่วสุมของการพนันแบบเต็มรูปแบบ ผู้คนหลายระดับชั้นตั้งแต่นักธุรกิจชื่อดังไปจนถึงบุคคลธรรมดา ฮงคยูเป็นคนหัวธรุกิจอะไรที่สร้างกำไรและผลประโยชน์ให้กับเขาๆจะทำทุกอย่าง เช่นเดียวกันกับอะไรที่ทำให้เขาเสียผลประโยชน์เขาก็พร้อมจะกำจัดเสมอ



    “ นี่ฉันเป็นพี่เขยแกนะเว่ย แค่เอาเงินมาให้ฉันเล่นวันนี้ซักแสนจะเป็นไรวะ ”



    เสียงของอูมินพูดขึ้นอย่างหัวเสีย หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเขามือตกลงเยอะเล่นเสียไปหลายวอนและเขาเสียมากเกินกว่าจะเสียแล้ว รวมถึงบริษัทองตระกูลนัมที่มีเหลือเพียงชื่อหลังตากเขาโอนให้กับร้องเขยอย่างฮงคยูไปหมดแล้ว ตอนนี้เขาแค่ต้องเล่นพนันต่อไปจนกว่าจะได้กลับคืนมาบ้าง



    “ แล้วแกมีอะไรมาแลกเปลี่ยนฉันอีกล่ะ ถ้าไม่มีก็โน่นประตูออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก”



    “ โถ่โว่ย ไอ้…” ยังไม่ทันปริปากใดใด การ์ดน่ากลัวสองคนก็ทำถ้าเอาเรื่องทำให้อูมินได้แต่สบถ



    “ มึงอยากได้อะไร กูก็ให้หมดแล้วไงทั้งน้องทั้งบริษัทอย่ามาหัวการค้ากับกู ไอ้ฮงคยู”



    “ หึ ได้น้องมึงงั้นเหรอห๊ะ! กูไปตรวจร่างกายมาเขาบอกกูได้รับสารจากยานอนหลับมาเป็นระยะเวลานาน มึงคิดว่าใครจะทำได้ถ้าไม่ใช่น้องมึง”



    “อูฮยอนเนี่ยนะ ”



    “ เออ สรุปกูยังไม่ได้น้องมึง กำไรก็ยังไม่ได้คืนมีแต่เสียกับเสียแม่ง”



    “ มึงหมายความว่ายังไง มึงจะเอากำไรอะไรจากน้องกู!”



    “ ก็เอาไปขายเอาทุนคืนสิวะไอ้โง่ สงสารน้องมึงจริงๆที่มีพี่โง่ๆอย่างมึง”



    “ ไอ้สวะเอ้ย กูให้น้องแต่งงานกับมึงไม่ใช่ให้มึงเอาน้องกูไปขายต่อ ไอ้ระยำ!!! ”



    สิ้นเสียงอูมินทำถ้าจะกระโจนเข้ามาหาเรื่องฮงคยูแต่ก็ถูกการ์ดยันออกห่างอย่างรวดเร็ว ทำให้อูมินล้มลงกระแทกพื้นด้วยความเจ็บปวด



    “คนอย่างมึงสมควรแล้วที่จะไม่เหลืออะไรเลย ทั้งน้อง ทั้งสมบัติ สมเพชว่ะ ถุ๊ย ”ฮงคยูถุยน้ำลายลงพื้นที่อูมินนอนอยู่ก่อนจะให้การ์ดลากออกไป



    “ ไอ้ชั่วซักวันกูจะเอาคืนมึง ไอ้สวะ!! ”



    แต่จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างนอกที่ทำให้คนเล่นพนันข้างในวงแตก วิ่งหาทางหนีกัน นั่นคือเสียงประกาศจากตำรวจ



    การ์ดที่จับอูมินอยู่ต่างพากันปล่อยและหันไปมองเจ้านายตนอย่างรอคำสั่ง ฮงคยูตกใจเพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งยัดเงินใต้โต๊ะให้กับสถานีแถวนี้ ทำไมทุกอย่างกลับพลิกแผนแต่ไม่ทันแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบสิบนาย พากันวิ่งมายังห้องทำงานในบ่อนของเขาพร้อมหมายศาลและอาวุธ



    “ เราต้องขอเชิญตัวคุณฮงคยูเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับ ”



    ฮงคยูหน้าซีดเผือด ก่อนจะมองเห็นหนึ่งในกลุ่มตำรวจนั้น และไม่ต้องเดาเขาก็รู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของใคร เมื่อซองกยูสบตากับฮงคยูและอูมินด้วยรอยยิ้มอย่างมีชัย

    .

    .

    .

    .

    .

    ร่างบางนั่งลงบนโซฟาห้องโถงคฤหาสน์อย่างเหม่อลอย ตีหนึ่งแล้วยังไร้วี่แววของพี่ชายคนรักแม้เขาจะสั่งไว้แล้วก็เถอะว่าให้เข้านอนก่อนแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ร่างบางในชุดนอนสีฟ้าลายสติชจึงต้องมานั่งตาแข็งรออยู่อย่างนี้ไงล่ะ มือเล็กเอื้อมไปหยิบรีโมทเพื่อกดเปลี่ยนช่องหาอะไรดูฆ่าเวลาแต่แล้วก็ต้องสะดุดกับข่าวด่วนที่ลงจออยู่ในขนาดนี้



    ขณะนี้เวลาหนึ่งนาฬิกาสถานีตำรวจได้จับกุมนายฮงคยูทายาทนักธุรกิจชื่อดัง รวมถึงนายนัมอูมินเจ้าของธุกิจอสังหา ในข้อหาเปิดแหล่งมั่วสุมการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้จับนักพนันที่หนีได้มากมายถึงห้าสิบคน…



    “ พี่อูมิน!! ” ร่างบางตกใจที่เห็นภาพพี่ชายตนรวมถึงสามีในนามอยู่ในเนื้อหาข่าวนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ยิ่งเป็นห่วงที่สุดคือภาพครักตาตี่ที่ยืนท้าวเอวอยู่กับตำรวจด้วยเนี่ยสิ



    ไหนบอกติดประชุมแล้วไปโผล่อยู่ที่นั่นได้ยังไง



    ร่างบางที่กำลังใช้ความคิดจึงไม่ทันสังเกตว่าคนรักตาตี่นั้นกลับมาแล้วโดยการย่องเบามาอยู่ด้านหลัง ก่อนจะกระโจนลงไปที่โซฟาตะครุบร่างบางให้สะดุ้งเล่น และระดมหอมแก้มใสจนเกือบช้ำ



    “ โอ้ย ออกไปก่อนพี่กยูตัวหนัก ” ร่างบางพยายามดันอีกฝ่ายที่ทาบทับอยู่ให้ออกห่าง



    “ ไม่เอา ไหนดูซิวันนี้ฮยอนใส่ชุดนอนน่ารักตัวหอมรอพี่อย่างนี้ พี่ไม่ปล่อยหรอก ”



    “ แต่เราต้องคุยกันก่อนเรื่องในข่าวนั่น เกิดอะไรขึ้น?  ”



    ร่างสูงที่ไม่แสดงอารมณ์หยิบรีโมทที่ตกพื้นเพื่อกดปิดโทรทัศน์และหันหน้ามาเผชิญกับร่างบางที่สีหน้าเครียดรอคำตอบจากอีกฝ่าย



    “ พี่ก็แค่...อยากให้เรื่องทุกอย่างจบ ถ้าเรื่องที่พี่ทำให้อูมินถูกจับพี่ต้องขอโทษด้วยแต่พี่รักเรามากรู้มั้ย พี่อยากให้เรื่องทุกอย่างจบและอูฮยอนสบายใจ พี่.. ”



    “ ผมเข้าใจฮะ ถ้าเป็นผมๆก็จะทำเหมือนกัน ” ร่างบางเอามือแนบหน้าของคนรักอย่างปลอบประโลม



    “ ขอบคุณที่เชื่อใจและเข้าใจพี่นะฮยอน ” ซองกยูโน้มตัวเข้าไปหมายจะจูบอีกฝ่ายแต่นิ้วเล็กกลับแตะห้มกันไว้ซะก่อน



    “ เดี๋ยวๆ ฮะ เรายังคุยไม่เสร็จเลย พรุ่งนี้พาผมไปหาพี่อูมินหน่อยได้มั้ยฮะ ”



    “ ได้สิ คุยจบแล้วเนอะ ” ร่างสูงตัดบทโน้มตัวลงมาจูบอีกฝ่ายอย่ารุกเร้า



    “ อื้อ...เดี๋ยวฮะ คือผมมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอก ” ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างขัดใจจะมีเรื่องอะไรอีกงั้นเหรอ



    “ คือ...จริงๆแล้วหลังจากที่ผมแต่งงานในนามกับฮงคยูผมก็ เอ่อ...ไม่ได้มีอะไรกับเข้าลึกซึ้งเลยนะฮะ ”ร่างบางหลบสายตาจากร่างสูงที่มองมา



    “ อืม เรื่องนั้นพี่รู้มาซักพักแล้วล่ะ สิ้นเสียงร่างสูง ” อูฮยอนรีบหันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย



    “ พี่รู้ได้ไงฮะ ”



    “ ก็ไอ้หมอจางเพื่อนพี่มันบอกพี่หมดแล้วเรื่องยานอนหลับนั่น ขอบคุณที่เป็นของพี่แค่คนเดียวนะครับ ”



    “ บ บ้า...ไม่เอาจะไปนอนแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว ”



    “ โถ่ ไปหาอูมินเมื่อไหร่ก็ได้เถอะ แต่วันนี้พี่ต้องทำโทษเด็กดื้อไม่ยอมนอนซะหน่อยแล้ว ”



    “ ม ไม่เอานะ งื้ออ ”

    .

    .

    .

    .

    .

    ตอนบ่ายของอีกวันร่างบางกับซองกยูมาหาพี่อูมินที่สถานีตำรวจ พี่ชายเขาถูกจับกุมในข้อหาพนันและคดีโกงอีกมากมายทำให้ต้องเตรียมเข้าห้องขังเพื่อสู้คดีกับชั้นศาล



    “ พี่อูมินเป็นยังไงบ้างฮะ ”



    “ คิดว่านอนในคุกมันสบายมั้ยล่ะ หึ ”



    “ ตอนนี้ฮยอนไม่มีเงินมากพอจะประกันตัวพี่ขอโทษด้วยนะฮะ ”



    “ ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องทำมาเป็นห่วงหรอก ” อูมินมีแววตาที่อ่อนลงเยอะต่างจากเมื่อก่อน เพราะเรื่องที่เกิดเมื่อคืนกับเพื่อนสนิทอย่างฮงคยูทำให้เขารู้สึกผิดกับน้องชายอยู่ไม่น้อย



    “ กลับไปกันได้แล้วไป ฉัยอยากอยู่ในคุกแบบเงียบๆ อ้อ...ฝากน้องฉันด้วยนะ ”



    คำหลังถึงแม้จะไม่พูดชื่อแต่ซองกยูก็ยิ้มรับเขาให้อภัยกับทุกสิ่งที่อูมินทำกับเขาไว้หมดแล้วทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อพร้อมจะเดินหน้าต่อไปเคียงข้างอูฮยอน ทั้งสองคนเดินออกมาจากสถานีตำรวจก็พบกับคนที่ไม่อยากจะเห็นหน้าตอนนี้ฮงคยู เหล่าบรรดานักข่าวต่างพากันสัมภาษณ์และสาดแสงแฟรชใส่ฮงคยูที่เดินเลี่ยงขึ้นรถส่วนตัวไปอย่างเงียบๆ



    “ ฮยอนรอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา ” ซองกยูวิ่งตามเข้าไปในรถของฮงคยูอย่างรวดเร็วเพื่อไปเจรจาบางอย่าง



    “ ไงนอนพื้นคุกสบายมั้ย ”



    “ ฉันจะเอาคืนแกอย่างสาสมไอ้กยู ”



    “ นายเพิ่งประกันตัวออกได้ อย่าเสี่ยงหาเรื่องเข้าคุกอีกเพราะฉันเลย ”



    “ อย่างแกจะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ คดีการพนันเล็กๆนั่นฉันให้ทนายจัดการเดี๋ยวเรื่องก็เงียบ ”



    “ แล้วข้อหาโกงและยักยอกทรัพย์บริษัทเคกรุ๊ปของลุงของตัวเองล่ะ คิดว่าจะรอดมั้ย ”



    “ นี่แก!! ”



    “ ฉันสืบมานานแล้วว่ากำไรจากห้างสรรพสินค้าพ่อบุญธรรมฉันหายไปไหนบ้าง แล้วถ้าท่านรู้ว่าหลานสุดที่รักโกงเงินท่านทุกวันจะเป็นไงนะ ”



    “ แกต้องการอะไร ”



    “ เลิกยุ่งกับอูฮยอน โอนบริษัทตระกูลนัมคืนอูฮยอนซะ ”



    !!!



    “ ฉันต้องการแค่นี้เหมือนเศษเงินแกด้วยซ้ำหวังว่าจะให้กันได้นะ ฉันไปละ ”



    ซองกยูลงจากรถฮงคยูด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ แผนทุกอย่างในวันนี้ถือว่าสมบูรณ์เขาพยายามปกป้องรวมถึงเอาบริษัทตระกูลนัมสิ่งที่อูฮยอนควรได้รับกลับคืนให้ ต่อไปนี้จะมีแต่ความสุขโดยสมบูรณ์



    “ พี่กยูพูดอะไรกับฮงคยูเหรอฮะ ” ร่างบางเมื่อเข้ามาในรถรีบยิงคำถามใส่ร่างสูง



    “ ไม่บอก ” คำพูดนั้นทำเอาร่างบางต้องแก้มพองลมอีกครั้ง



    “ ฮ่าๆ พี่ล้อเล่น อูฮยอนอยากได้บริษัทพ่อแม่คืนมั้ย ”



    “ อยากสิฮะ นั่นเป็นสมบัติเพียงอย่างเดียวที่อยากรักษาไว้ หรือว่า… ”



    “ ใช่แล้ว พี่เอามาคืนให้เราถือเป็นค่าสินสอดดีไหมนะ ”ร่างบางที่กำลังดีใจกลับต้องมาสะดุดเขินอายกับคำพูดหลังประโยคของคนรัก



    “ บ้า พูดอะไรไม่รู้ ”



    “ บ้าแล้วรักมั้ยล่ะ หืม ” ร่างสูงหันหน้ามามองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์



    “ หึ่ย ขับรถมองทางบ้างเดี๋ยวก็ชนหรอก ”



    “ อยากมองที่รักนานๆไง พี่ผิดเหรอ ” ซองกยูเอื้อมมือมาจับมืออีกคนไว้ “ พี่รักฮยอนนะ”



    “ อือ รักพี่กยูเหมือนกัน ”



    “ ห๊ะ ไม่เห็นได้ยินเลยอะไรนะ ” ร่างสูงจอดรถข้างทางเพื่อหยุดฟังคำสำคัญจากปากอีกฝ่าย



    “ จอดทำไมล่ะ ไม่พูดแล้วของดีมีครั้งเดียว ”



    “ จริงเหรอ...ระวังโดนทำโทษนะ ” ซองกยูเข้าไปใกล้ร่างบางจนจมูกชนกันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน



    “ งื้อ รักพี่กยู  ”



    “ พูดอีกสิครับ ”



    “ ร รักพี่กยู รักมากและจะรักตลอดไป พอใจยัง ” ร่างบางที่เขินอายมองหน่าคนรักตรงหน้าอย่างยิ้มๆ



    “ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ ”



    “ อื้อ พี่กยูหยุดเดี๋ยวนี้นะ เมื่อคืนยังไม่พอรึไง งื้ออ ”




    End.




    Talks: จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนแรกเรากะว่าให้เรียนเสร็จอีกสองอาทิตย์จะมาอัพต่อแต่เราไม่อยากให้คนอ่านค้างเนอะเลยเอาตอนจบมาเสิร์ฟซะเลย ตอนพิเศษมีแน่นอนดูจากตอนจบจะเห็นนิสัยของพระเอกที่แท้จริงกันแล้วคงจะยังอยากอ่านตอนพิเศษกันนะคะ5555 อย่าว่าแต่คนอ่านเครียดเลยเราคนแต่งก็ปวดหัวเรื่องนี้ดราม่าเกินกำลังเราเหลือเกิน ขอบคุณทุกคนที่อ่านฟิคของเรามาจนถึงตอนนี้นะคะ ขอบคุณคอมเม้นล่วงหน้าด้วยค่ะ รักคนอ่านทุกคนเจอกันตอนพิเศษนะคะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×