ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secrecy (Gyuwoo)

    ลำดับตอนที่ #10 : Secrecy -9-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 461
      2
      18 พ.ค. 58

    -9-




    รถแท๊กซี่จอดลงหน้าโรงพยาบาลเด็กหนุ่มร่างบางลงมาจากรถ แผ่นหลังบางนั้นช่างห่อเหี่ยวพอๆกับสีหน้าตอนนี้อิดโรยราวกับไม่มีความสุข ต่างจากข่าวงานแต่งที่ลงในหนังสือพิมพ์เมื่อสามสัปดาห์ก่อน นัมอูฮยอนกระชับแว่นตาดำให้เข้าที่เพื่อปิดบังดวงตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้ สองาเล็กเดินไปยังโรงพยาบาลเพื่อหาใครบางคน...คนที่จะช่วยยืดเวลาให้สิ่งเลวร้ายไม่แตะต้องตนได้



    “คุณจาง สวัสดีครับ”



    “อ้าว คุณนัมเชิญด้านในเลยครับ” หมอหนุ่มที่กำลังคุยเอกสารกับพยาบาลเมื่อเห็นร่างบางจึงรีบพาเข้าไปยังห้องตรวจ เขาคิดว่าเป็นที่ๆสะดวกในการคุยถึงเรื่องนี้



    “คุณนัมมาหาผมมีธุระอะไรครับ หรือว่าคุณนัมป่วยถึงมาให้ผมรักษา”



    “เอ่อ...คือ ผมอยากจะมารบกวนคุณเรื่องยาน่ะครับ”



    คำว่า ยา ทำให้หมอหนุ่มรู้ได้ทันทีถึงสิ่งที่ร่างบางกำลังจะพูดถึง หมอหนุ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด



    “คุณใช้ยาตัวนั้นกับเขาไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ คุณนัม” เขาที่คุณหมอหมายถึงคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของร่างบางผู้ซึ่งไม่รู้และไม่ควรล่วงรู้กับความลับนี้



    “ครับ...ที่คุณหมอให้ไปผมใช้กับเขาหมดแล้ว ผมจะขอเพิ่มอีกได้ไหมครับ” ร่างบางพูดราวกับอ้อนวอน



    “ผมคงต้องขอโทษด้วยครับ ยานอนหลับพวกนี้ถ้ากินติดต่อกันนานเกินผมจะเกิดผลเสียต่อคนกิน และด้วยจรรยาบรรณผมคงจะให้คุณอีกต่อไปไม่ได้”



    สิ้นคำพูดหมอหนุ่มร่างบางก็นิ่งไปราวกับใช้ความคิด ภายใต้แว่นดำที่ปกปิดดวงตาหวานหมอหนุ่มรู้ดีว่าซ่อนน้ำตาไว้ แต่จะให้เขาทำอย่างไรล่ะ ทุกวันนี้ราวกับคนน้ำท่วมปากเขาสงสารร่างบางตรงหน้าจริงๆที่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว เคยมีคำถามผุดขึ้นมาในตอนแรกว่าลาดไหล่ที่บอบบางเช่นนัมอูฮยอนจะรองรับความทุกข์นี้ได้ขนาดไหนกัน มาจนวันนี้เขารู้แล้วว่าถึงภายนอกจะรับได้แต่ในจิตใจคงแหลกสลายไปแล้ว เขาต้องทำอะไรซักอย่างอีกครั้งเพื่อช่วยนัมอูฮยอนและเรียกสติเพื่อนเขาให้คืนกลับมา



    “….งั้นผมต้องขอบคุณ คุณหมอจางมากนะครับที่ช่วยผมขอตัวก่อน” ร่างบางฝืนยิ้มออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป



    “เดี๋ยวก่อนครับคุณนัม เอ่อ คือรู้จักคุณคิมซงวานไหมครับ”



    “คุณพ่อของคุณซองกยูใช่มั้ยครับ”



    “ใช่ครับ ท่านป่วยและรักษาตัวอยู่ที่นี่ ท่านอยากเห็นคนรักของคุณฮงกยูลูกชายเพื่อนรักมานานแล้วน่ะครับ วันงานแต่งก็ไม่มีโอกาสได้ไปยังไงรบกวนคุณช่วยไปหาท่านซักครั้งได้มั้ยครับ”



    “ได้ครับ”



    “ท่านอยู่ที่ตึกในห้องวีไอพีชั้นสิบสี่ ห้อง1401 ครับ”



    “ขอบคุณครับ ผมขอตัวก่อนนะครับคุณหมอจาง”



    เมื่อร่างบางเดินไปจนสุดสายตาแล้ว หมอหนุ่มรีบโทรไปหาเพื่อนรักที่กำลังบ้างานด้วยแผนการบางอย่าง



    ‘มีไรว่ามา’



    ‘มึงนี่เวลาเป็นเงินเป็นทองจริงจริ๊ง เพื่อนโทรมาหาดูแม่งพูดเข้า’



    ‘ก็จริงนี่หว่า กูงานยุ่ง’



    ‘ตอนนี้เอ็งพอมีเวลาว่างมั้ยวะ’



    ‘ทำไม มึงจะชวนกูไปไหนอีก’



    ‘พ่อเอ็งถามหาลูกรักที่ไม่เคยมาหาเลยตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลน่ะ’



    ‘พ่อกูรู้ว่ากูยุ่ง กูก็โทรหาเค้าทุกวัน’



    ‘เฮ้ออ แล้วแต่มึงแล้วกัน ไอ้ลูกบังเกิดเกล้า’ เป็นทีของหมอจางบ้างที่ชิ่งตัดสายทิ้ง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าหมอหนุ่มที่รู้ถึงนิสัยเพื่อนรักดี ลงทุนถึงขนาดนี้แล้วลงเอยกันซักทีเถอะ!!

    .

    .

    .

    .

    .

    เพราะปากที่ทำหน้าที่แทนสมอง ร่างบางถึงได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องผู้ป่วยหมายเลข1401 มือเล็กจับกระเช้าที่ซื้อมาฝากคนป่วยไว้แน่น แม้จะมาเยี่ยมคนที่ได้ชื่อว่าคิมซงวานแต่ในใจกลับกระตุกเมื่อนึกถึงลูกชายของเขา หวังว่าอูฮยอนจะไม่เจอกับคิมซองกยูตอนนี้เพราะความอ่อนแอในตัวมีเยอะเกินไปคงไม่ดีที่จะให้อีกฝ่ายเห็นรวมถึงร่างบางยังรับไม่ได้กับสายตาเย็นชาที่มองมา



    ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อไล่ความฟุ้งซ่านก่อนจะจับไปที่ลูกบิดประตู แต่แล้วร่างบางก็ต้องตกใจเมื่อมีมือใหญ่เรียวสวยของใครอีกคนทาบจับลูกบิดเช่นกัน ทำให้มือทั้งสองฝ่ายสัมผัสกันโดยไม่ตั้งใจถึงไม่ได้มองหน้าแต่นัมอูฮยอนจำได้ขึ้นใจว่าเป็นมือของใคร ร่างบางรีบชักมือกลับก่อนจะก้มหน้าเดินกลับไปยังลิฟต์ แต่ก็ไม่เร็วเท่าร่างสูงของคิมซองกยูที่คว้าข้อมือเอาไว้



    “เดี๋ยวก่อน จะมาเยี่ยมท่านไม่ใช่เหรอ ก็เข้าไปสิ” น้ำเสียงที่เย็นชาทำให้ร่างบางต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอีกครั้งเพื่อไล่ก้อนน้ำตาที่จุกอก



    “ครับ…”



    “อ้าวว่าไงลูกชายมาเยี่ยมพ่อเหรอลูก แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ”



    “ครับท่าน เอ่อ นี่นัมอูฮยอน...คนรักของฮงคยูครับ” สองคำที่เอ่ยถึงสถานะทำให้ทั้งสองคนต้องเก็บความรู้สึกเจ็บอยู่ในใจเพื่อไม่ให้คิมซงวานได้รับรู้



    “สวัสดีครับท่าน ผมเสียมารยาทมากที่ไม่ได้มาหาท่านเลย”



    “ไม่หรอก หนูนี่น่ารักจริงๆสมแล้วที่ฮงคยูเลือกหนู ขอให้รักกันยืนยาวมีความสุขมากๆต่อจากนี้นะหนู”



    ร่างบางยิ้มรับฝืดพอๆกับร่างสูงที่เดินไปหยิบนิตยสารมาอ่านเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวด ร่างบางคุยกับคิมซงวานซักพักก่อนจะขอตัว ไม่มีคำเอ่ยบอกลาหรือสนทนาใดๆระหว่างคิมซองกยูและนัมอูฮยอน ราวกับต่างคนต่างอยู่อีกฝ่ายไม่มีตัวตน



    ‘ฮัลโหล มีอะไรฮะ’ ร่างบางเดินออกจากโรงพยาบาลและกดรับโทรศัพท์อย่างเลื่อนลอย



    ‘อูฮยอนวันนี้พี่มีปาร์ตี้ที่ผับxxx อูฮยอนต้องมาด้วยนะพี่จะเปิดตัวเมียที่น่ารักของพี่’



    ‘หึ ได้สิฮะ แล้วเจอกัน’



    ร่างบางตัดสายทิ้งอย่างรวดเร็ว วินาทีนี่ร่างบางไม่รู้จะพึ่งใครปัญหาที่เจอมันไม่เหลือทางออกเลย หรือว่าชะตากำหนดมาแบบนี้ที่เขาจะต้องเสียตัวให้คนที่ไม่ได้รักอย่างฮงคยู ร่างบางตัดสินใจแล้วเมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆ อูฮยอนจะจบชีวิตที่เลวร้ายของตัวเอง

    .

    .

    .

    .

    .

    ณ.ผับxxx



    เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม กลิ่นบุหรี่และของมึนเมาทำให้ร่างบางรู้สึกวิงเวียน สองมือหนาของฮงกยูสามีของเขากำลังโอบกอดเอวบางพร้อมกับลูบไล้ต่อหน้าบรรดาเพื่อนๆอย่างไร้มารยาท พอๆกับเพื่อนๆฮงคยูที่มองมายังร่างบางอย่างหื่นกระหาย แม้ร่างบางจะแต่งตัวมิดชิดสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้นัมอูฮยอนอยากหนีไปให้ไกลๆ



    “อูฮยอนไม่ดื่มหน่อยเหรอ เดี๋ยวไม่สนุกนะ” ฮงคยูยื่นแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันมาให้พร้อมกับคำพูดที่

    ชวนทำให้สงสัย ร่างบางทำได้แต่เบือนหน้าหนี



    “ผมไม่ดื่ม”



    “เถอะน่า...เดี๋ยวฉันพานายกลับเอง ดื่มเถอะซักนิดก็ยังดี” ร่างบางมองแก้วน้ำสลับกับฮงคยูอย่างลังก่อนหยิบแก้วนั้นขึ้นมาจิบ



    “ต้องอย่างนี้สิ ดื่มอีกๆ”



    มือหนาดันก้นแก้วเพื่อให้ร่างบางดื่มจนหมด และเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอยู่ในสายตาของคิมซองกยูทั้งหมดแต่กลับทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งสบถพร้อมกับดื่มน้ำสีอำพันไปเรื่อยๆ เขาขำในโชคชะตาตัวเองทำไมยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ? ถ้าเจอแบบนี้แล้วเมื่อไหร่กันที่เขาจะตัดใจจากอีกฝ่ายได้หรือมันจะไม่มีวันนั้น เพราะสายสัมพันธ์ที่เขาถักทอให้อีกฝ่ายนั้นนานเกินจะแก้ แต่ตอนนี้เขาทนไม่ได้จริงๆที่เห็นร่างบางโดนลวนลามด้วยน้ำมือฮงคยูและสายตาจากบรรดาเพื่อนๆของมัน



    “แม่งเอ้ย” ร่างสูงสบถอีกครั้งมือเห็นว่ามือของฮงคยูกำลังสอดเข้าไปในเสื้อของร่างบางที่กำลังคอพับเพราะแอลกอฮอล



    อูฮยอนรู้สุกเวียนหัวไปหมดราวกับโลกหมุนดวงตาหวานปรือปรับดฟกัสไม่ค่อยได้ แต่รับรู้ถึงฝ่ามือหนาที่กำลังสอดเข้ามาจับเนื้อเนียนในร่มผ้า




    .อืมม ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน...นะฮะ. ร่างบางผละออกก่อนจะค่อยๆเดินเวไปมาอาศัยจับผนังไปเรื่อยๆจนมาถึงห้องน้ำ ร่างบางเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างหน้าให้สร่างเมาแต่สายตากลับไปเห็นคิมซองกยูที่อยู่ด้านหลัง



    นี่เขาคิดถึงจนหลอนขนาดนี้เลยหรือ อา...เพราะเมาแน่ๆเลยอูฮยอนเค้าจะมาอยู่ตรงหน้าแกได้ยังไง



    ร่างบางกำลังเดินเซไปมาเพื่อออกจากห้องน้ำแห่งนี้แต่กลับมีมือเรียวของคิมซองกยูจับเอาไว้ก่อนจะกระชากร่างบางกระแทกกับผนัง



    “หึ ตั้งแต่แต่งงานไปนายยังไม่ทักฉันเลย ลืมผัวเก่าของนายไปแล้วรึไงห๊ะ”



    “อะ..ปล่อยนะ” ร่างบางก้มหน้าพร้อมกับบิดแขนตนให้พ้นจากอีกฝ่าย



    “ชอบให้คนมาลวนนักใช่มั้ย หึ ลืมฉันง่ายขนาดนี้คงเพราะได้ผัวใหม่มาหลายคนแล้วล่ะสิ”



    “ม..ไม่ ปล่อยนะ” ร่างบางที่เวียนหัวไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในตอนนี้ สติที่เหลืออยู่ไม่มากทำให้น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลลงมาจากดวงตาหวาน



    “อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาไปหน่อยเลย นายมันก็แค่คนหลอกลวง”



    “ด่าพอใจรึยัง! ถ้าพอแล้วก็ปล่อยฉันจะได้กลับไปหาสามีซักที “



    ร่างบางทนรับความเจ็บปวดจากคำพูดอีกฝ่ายไม่ไหวจึงพูดตัดบท แต่กลับกลายเป็นเพิ่มเชื้อไฟให้อีกฝ่ายโมโหมากขึ้นคิมซองกยูกระชากร่างบางเข้าไปยังห้องน้ำก่อนจะล็อกประตูและทาบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว



    ฮื้อ..แฮ่ก อืม ร่างบางยังไม่ทันได้หายใจ ร่างสูบก็ทาบทับลงมาช่วงชิงลมหายใจไปอีกครั้งลิ้นหนากวัดไปทั่วโพรงปากหวานเพื่อช่วงชิงความหอมหวานและแอลกอฮอลจางๆจากร่างบาง



    สัมผัสที่ร่างบางโหยหามาตลอดเพื่อบรรเทาความเศร้าที่มีอยู่ในใจตอนนี้ ร่างบางตอบรับอีกฝ่ายมือเล็กค่อยๆเคลื่อนไปทาบแผ่นหลังแกร่งก่อนจะเคลื่อนมายังต้นคอ สัมผัสที่ร้อนแรงจาบจ้วงเริ่มกลายเป็นความอ่อนหวานมาแทนที่ ร่างสูงเลื่อนไปยังลำคอขาวเพื่อทำรอยรักมือเรียวสอดเข้าไปใต้เสื้อเพื่อลบสัมผัสของฮงคยูให้หมดไป...ลบงั้นเหรอ? นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ ร่างหนาผละออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อพิจารณาร่างบางที่ดวงตาคลอหน่วยไปด้วยน้ำใสแววตาบ่งบอกถึงความต้องการชัดเจน รวมถึงแผ่นอกบางที่หายใจแรงราวกับรอให้เขาสัมผัสต่อ



    “หึ ร่าน…”



    ร่างสูงเค้นยิ้มสมเพชให้อูฮยอนก่อนจะเปิดประตูออกไป ทิ้งไว้เพียงความสับสนของอูฮยอนกับเหตุการณืที่เกิดขึ้น ร่างบางทรุดลงกับพื้นน้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่



    “ร่างกายฉันเป็นของนาย...ของนายเท่านั้น ซองกยู”

    .

    .

    .

    .

    .

    อูฮยอนเดินเวออกมาจากห้องน้ำของเห็นร่างสูงของฮงคยูยืนรออยู่ เขาเข้าไปประคองร่างบางให้เดินไปพร้อมๆกันแต่จุดหมายของฮงคยูไม่ใช่รถกลับเป็นชั้นสามของผับแห่งนี้



    “เราไม่กลับบ้านกันเหรอฮะ”



    “ฉันเห็นนายเดินไม่ไหวแล้วไม่อยากให้ฝืนนอนที่ห้องนี้แหละคืนนี้”



    “แต่..คือผมไหวนะฮะ เรากลับบ้านกันเถอะ”



    “ไม่มีคำว่าแต่ นอนนี่ซะฉันเสียงานจ่ายไปแล้วเข้าไป” ร่างสูงดันแผ่นหลังให้เข้าไปในห้องจนถึงเตียงนอน



    “ง..งั้น ผมนอนแล้วนะฮะ” ร่างบางที่สังหรถึงบางอย่างที่ไม่ดีเริ่มรีบตัดบท



    “ยังนายยังนอนไม่ได้ นายต้องคืนเงินที่ฉันเสียไปจากการซื้อนายมาจากพี่ชายนายก่อน”



    “หมายความว่าไง” สิ้นเสียงร่างบาง ประตูหน้าห้องก็เปิดขึ้นพร้อมกับเพื่อนๆที่มาด้วยกันกับฮงคยูอีกสองคน



    “เรามาสนุกกันเถอะ”



    “ไม่!! ปล่อยนะบอกให้ปล่อย!!” เพื่อนทั้งสองคนพุ่งเข้ามาจับล็อกแขนร่างบาง ก่อนจะกระชากเสื้อผ้าให้พ้นทาง



    “ได้เวลาคืนค่าเสียหายที่พี่ชายนายทำไว้แล้วนัมอูฮยอน!!”



    ร่างบางตัวสั่นเต็มไปด้วยความกลัวมือสากของเพื่อนฮงคยูลูบไล้ร่างบางไปจนทั่ว ฮงคยูก้มลงจูบร่างบางเพื่อปิดเสียงที่ทักท้วง


    อูฮยอนในตอนนี้ไร้สิ้นหนทาง มือขาที่ดิ้นรนเริ่มหยุดลงดวงตาหวานเหม่อลอยคิดถึงใครอีกคน ใครคนทีไม่มีทางรู้ว่าเขากำลังจะโดนข่มขืนอยู่ที่นี่ คิมซองกยู

    .

    .

    .

    .

    .

    ร่างสูงของซองกยูกำลังจะขับรถออกจากที่ผับแต่กลับทำกระเป๋าเงินหาย ร่างสูงยีหัวตัวเองอย่างหัวเสียที่ต้อวเสียเวลาเขาเข้าไปในผับอีกครั้งเพื่อตามหากระเป๋าเงินอยู่นานก่อนจะพบว่ากระเป๋าตนตกอยู่นห้องน้ำและเป็นโชคดีที่ไม่มีคนเห็นแล้วเอาไป



    ซองกยูถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินมาจากห้องน้ำ ร่างสูงเห็นไหล่บางของนัมอูฮยอนเดินขึ้นไปยังชั้นบนของผับโดยมีฮงคยูคอบประคอง



    หึ คงไปสนุกกันสินะ ใครๆก็รู้ว่าข้างบนนั้นเป็นม่านรูด



    ซองกยูพยายามเบือนหน้าหนีแต่กลับเห็นพรรคพวกของฮงคยูอีกสองคนเดินตามขึ้นไปด้วย ดูจากสถานการณ์แล้วต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ๆ ใจเขาคิดถึงร่างบางที่เมาไม่ได้สติ ซองกยูจึงรีบขึ้นตามไปอย่างไม่รอช้า



    “ฮึก ฮือออ” ร่างบางที่ร้องไห้จนตัวโยน สองมือถูกตรึงไว้ด้วยผ้าที่หัวเตียง สภาพร่างกายตอนนี้เต็มไปด้วยรอยแดงและไร้เสื้อผ้าปกปิด



    “มัวทำอะไรกันอยู่วะ ลงมือซักทีสิเดี๋ยวกูก็ไม่แบ่งให้พวกมึงซะเลยนี่”



    “แต่พวกกูจ่ายเงินไปแล้ว แหม่ เมียมึงนี่แซ่บเอาการเลยนะเนี่ย” เสียงเพื่อนคนที่หนึ่งพูดขึ้นสายตามองไปยังร่างบางอย่างหื่นกระหาย



    “ตั้งกล้องเสร็จแล้วมึงลงมือก่อนเลย” เพื่อนคนที่สองให้สัญญาณขึ้น ทำให้เพื่อนคนแรกค่อยๆถอดเสื้อตัวเองออก



    “ขอร้องล่ะ อย่าเลย ปล่อยฉันไปเถอะนะ”



    ก๊อก ก๊อก ก๊อก



    เสียงประตูดังขึ้นทำให้ฮงคยูหงุดหงิดก่อนจะเปิดประตูแง้มๆออกมาพบเจ้าของผับที่รวมถึงเจ้าของห้องม่านรูดที่ตนใช้อยู่



    “มีอะไรเหรอครับ”



    “ผมต้องขอโทษด้วย แต่วันนี้มีสายตำรวจกำลังจะมาผมต้องขอให้พวกคุณรีบออกจากห้องเดี๋ยวนี้ครับ!”



    ทุกคนภายในห้องต่างผงะหน้าซีด รีบเก็บข้าวของต่างๆเพื่ออกไปจากห้องนี้ข้างนอกคนเริ่มเดินกันอลม่านเพราะคำตกใจจากคำเตือนของเจ้าของผับ  เพียงไม่นานห้องทั้งห้องก็เหลือแต่ความว่างเปล่าทิ้งไว้แต่เพียงนัมอูฮยอนที่ร้องไห้กอดตัวเองกลมอย่างน่าสงสาร



    ความหนาวเหน็บจากแอร์เย็นที่กระทบผิวของร่างบางที่เปลือยเปล่า เสียงไซเรนของตำรวจเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ทำให้ร่างบางที่เสียขวัญลุกขึ้นเลยแม้แต่น้อยราวกับความเศร้ากักกินหัวใจของนัมอูฮยอนไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่ซักพักก็มีอ้อมกอดที่อบอุ่นที่คุ้นเคยกลับมาแตะต้องกัน ร่างบางหยุดชะงักก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบที่ทำให้หัวใจกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง



    “กลับบ้านเรากันนะ นัมอูฮยอน”






    to be continue….


    talk: เราไม่ได้ตรวจคำผิดเลย5555 รีบปั่นให้กับคนอ่านทุกคนที่รออยู่ เราว่าเรื่องมันออกทะเลไปไกลแล้ว ตอนหน้าก็จะจบแล้วสำหรับฟิคเรื่องนี้ เย่! ถ้าจบแล้วมีใครอยากอ่านตอนสเปเค้าสวีทกันบอกเค้าได้เลยน้าา ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนเกือบสุดท้ายนี้รอเรานานมากๆขอโทษด้วยฮะ เราอ่านทุกข้อความทั้งในเม้นเด็กดีและทวิตเตอร์ ขอบคุณคอมเม้นล่วงหน้าด้วยฮับบบ แล้วเจอกันตอบจบนะ  :)

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×