คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Secrecy -4-
-4-
ในห้องนอนสีเทาขนาดใหญ่เตียงขนาดคิงไซด์มุมห้องสีน้ำเข้มมีร่างบางของนัมอูฮยอนที่ใส่ชุดนอนสีขาวตัดกับสีผ้าห่มที่ร่างบางจับขึ้นมาปกปิดร่างกายด้วยความระแวง แต่สำหรับซองกยูที่ยืนมองอยู่อีกมุมตรงข้ามกลับรู้สึกเหมือนลูกแมวขู่เสียมากกว่า ถ้านัมอูฮยอนทำให้ใครซักคนกลัวได้เห็นทีคงถึงวันโลกแตกล่ะมั้ง ร่างหนาเริ่มก้าวเท้ามุ่งตรงไปยังร่างบางแต่กลับมีเสียงตะโกนขู่ดังขึ้นทันที
“หยุดอยู่ตรงนั้นนะ ร่างสูงชะงัก”
“ห้ามเข้าใกล้ฉันเกินสองเมตรเด็ดขาด”
“แล้วถ้าฉันไม่หยุดล่ะ” ร่างสูงยกคิ้วข้างหนึ่งเชิงถามอีกฝ่ายพร้อมกับก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าต่อ
“หยุด หยุดอยู่นั้นฉันบอกให้หยุดไงเล่า”
ซองกยูมีสีหน้าเบื่อหน่ายกับคำพูดของอีกฝ่ายเสียเหลือเกินตลอดสามวันที่ผ่านทุกอย่างสบายสำหรับเขาในการดูแลร่างบางเพราะอีกฝ่ายยังไม่ฟื้นหน่ะสิ แน่นอนว่าตอนหลับไม่ดื้อ ไม่เถียงก็ดีมีเพียงสิ่งเดียวที่เป็นข้อเสียคือความเหงาไงล่ะ เมื่อไม่มีคนพูดมากคอยเถียงต่อปากต่อคำเอาแต่หลับโลกของซองกยูก็หม่นลงทันที คิดแล้วก็อดโทษตัวเองไม่ได้ที่ทำให้ร่างบางต้องเจ็บปวดเพราะเขา
“เฮ้อ นายคิดว่าตัวเองดูดีขนาดนั้นเลยรึไง”
“ดีไม่ดี คืนนั้นนายก็จะ..จะ” ร่างบางหน้าร้อนวูบขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ก็ใครทำให้คิดเล่า
“จะอะไร? วันนั้นฉันแค่จะทำโทษนายแค่นั้นแล้วดูสภาพนายตอนนี้สิยังจะเล่นตัวอีกเหรอ หืม” เมื่อร่างบางได้ยินเหตุผลของร่างหนาว่าที่ทำไปเป็นแค่การลงโทษ อาการเจ็บแปลบที่อกก็เกิดขึ้น
“ฉั..ฉัน”
นัมอูฮยอนตอนนี้ก็งงอาการของตัวเอง และก้มลงมองสภาพตนที่ผิวพรรณตามตัวมีแต่รอยรักสีแดงที่เริ่มจางไปทั่วทั้งตัวตั้งแต่ข้างแก้มจนถึงหน้าท้องราบยังดีที่มีชุดนอนปกปิดอยู่ไม่งั้นคงจะรู้สึกแปลกๆกับสายตาคมที่มองมาไม่น้อย ขาข้างซ้ายเหลือเพียงแต่รอยช้ำนิดหน่อย
เพราะมัวแต่ประเมินสภาพตนเองเลยไม่ได้มองร่างหนาที่เดินเข้ามาใกล้เตียงในระยะประชิดอย่างรวดเร็วพร้อมกับเอามือช้อนร่างบางที่ดูเหมือนจะบางสมชื่อ ทำไมตัวจะเบาได้ขนาดนี้หรือเพราะคิมซองกยูทำให้ร่างบางในอ้อมกอดตรอมใจเมื่อต้องอยู่ด้วยกัน
“ปล่อยนะโว้ย บอกให้ปล่อยๆๆๆ” ร่างบางที่เริ่มมีแรงก็ออกอาการพยศขึ้นทันทีที่ร่างหนาอุ้มขึ้น
“ได้ จะปล่อยตรงนี้แหละ” ร่างหนาที่รำคาญปนเอ็นดูเสียงประท้วง เกิดอยากแกล้งจึงทำท่าจะปล่อยอีกฝ่ายลงกระทันหันสู่พื้นหินอ่อน
“เห้ย อย่าปล่อยนะ” ร่างบางที่จะถูกปล่อยทิ้งลงพื้นตกใจ สองแขนเล็กคว้าบ่าร่างหนาเพื่อยึดเกาะทันทีพรางหลับตาด้วยความกลัว
“ก็ไหนบอกว่าให้ปล่อยไง” ร่างหนายื่นหน้าเข้าไปใกล้คนในอ้อมกอดมากยิ่งขึ้น ถ้าไม่ติดว่าร่างบางกำลังกลัวจะตกอยู่ละก็คงจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเร็วแรงของคนชอบแกล้งอย่างชัดเจน
“ไม่ต้องแล้ว จะพาไปไหนก็ไปเร็วเข้า”
ซองกยูมุ่งหน้าไปที่ประตูห้องน้ำก่อนจะใช้เท้าเปิดประตูออกมาอย่างไม่สะดวกจากการอุ้มร่างบาง จากนั้นก็พาร่างบางไปยังขอบอ่างอาบน้ำเพื่อให้อีกคนนั่ง
“ส่งเสร็จแล้วก็ไปสิยืนจ้องหน้าอยู่ทำไม” ร่างบางที่พูดอย่างถือสิทธิ์
“นายยังเจ็บขาอยู่ ถ้าเกิดอาบน้ำอยู่แล้วล้มขึ้นมาอีกจะทำยังไง” เขาอดเป็นห่วงร่างบางไม่ได้ถึงขาใกล้จะหายดีแล้วแต่เขารู้นิสัยดีว่าร่างบางซุ่มซ่ามขนาดไหน
“แล้วนายจะยืนดูฉันอาบน้ำหรือไง ไอ้โรคจิต”
“หวังว่านายคงยังไม่ลืมเมื่อคืนก่อนนะ จะให้ฉันยืนเฝ้านายตรงนี้หรือจะให้ฉันลงไปอาบกับนายด้วยนัมอูฮยอน” ดูเหมือนคำขู่จะได้ผลเมื่อแก้มอูฮยอนเริ่มแดงขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อหลายคืนก่อน
‘ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยแก้ผ้าให้ใครเห็นนอกจากพ่อแม่ แต่ดันต้องมาแก้ผ้าให้ไอ้โรคจิตนี่ดูเนี่ยนะ’
“จะนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง….สอง…”.
“ฮึ่ย หันหลังไปสิ”
ร่างหนาหันหลังให้อีกฝ่ายแล้วอมยิ้มนิดๆที่ยังสามารถเอาชนะคนดื้อรั้นอย่างนัมอูฮยอนได้เสมอ ซักพักเมื่อได้ยินเสียงของน้ำในอ่างที่แสดงว่าร่างบางอยู่ในอ่างเรียบร้อยแล้วร่างหนาจึงหันกลับมามองไปยังร่างบางที่เป็นเงาเลือนลางจากการที่มือเล็กเอื้อมมือไปปิดม่านใสเพื่อกันสายตาคมที่จ้องมองมา
“ฉันให้เวลานายห้านาที รีบๆล่ะ”
ตอนนี้สติอูฮยอนกระเจิงไปหมด เสียงหัวใจเต้นแรงเร็วเมื่อคิดว่าทุกการกระทำในตอนนี้อยู่ภายใต้สายตาถึงแม้อูฮยอนจะมองไม่ชัดแต่ก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายจ้องมองมาที่ร่างกายตนอย่างแน่นอน
‘พี่กิวทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ยอมอาบน้ำกับฮยอนแล้วล่ะ โกรธฮยอนเหรอ’ แววตาใสซื่อของน้องชายอายุสิบสองขวบมองคนเป็นพี่ชายด้วยความไม่เข้าใจ
‘ฮยอนเริ่มโตแล้วนะ พี่ไปอาบน้ำกับนายไม่ได้แล้ว’ ซองกยูถอนหายใจแรง เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงให้น้องต่างสายเลือดเข้าใจ
‘ทำไมล่ะ ขนาดพี่อูมินยังอาบกับฮยอนได้เลย’
‘ก็เพราะนั่นเป็นพี่อูมินไงล่ะ เฮ้อ’
‘ฮยอนรู้ตั้งแต่พี่กยูไปเรียนมหาวิทยาลัย ก็เบื่อฮยอนไม่มีเวลาให้ฮยอนเหมือนเดิม’ น้องชายแบะปากเมื่อนึกถึงการกระทำของพี่ จมูกรั้นเริ่มเป็นสีแดงสร้างความหนักใจให้พี่ชายเป็นอย่างมาก
‘ไปห้องพี่ ไปอาบน้ำกันก็ได้’ ซองกยูแพ้ทางน้องชายคนนี้ทุกครั้งรวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และสาเหตุที่ต้องให้ไปห้องเขาก็เพราะว่าในตึกใหญ่น่ะถ้ามีคนเห็นจะดูไม่ดีน่ะสิ (?)
‘เย้ ฮยอนรักพี่กิวที่สุดเลย’
‘ชู่ว เบาเสียงหน่อยตามพี่มา’ น้องชายรีบปิดปากเพราะกลัวเสียงหัวเราะด้วยความดีใจจะลอดออกมาสองขาน้อยเดินตามพี่ชายไป
ร่างบางลืมตาขึ้นมาในอ้อมกอดของซองกยู จู่ๆ หน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาซะงั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนอนสงบนิ่งและแขนพาดอยู่บนเอวของอูฮยอน พอๆกับความวาบหวามกับความฝันเมื่อครู่
‘ถ้านั่นเป็นความทรงจำวัยเยาว์ไม่ใช่ความฝัน งั้นนอกจากครอบครัวแล้วยังมีพี่กิวคนนั้นเคยเห็นร่างกายเรางั้นเหรอ?’
ร่างบางเขินเกินจะบรรยาย แต่เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้ร่างหนาหลับอยู่และร่างกายของตนก็เป็นอิสระจากสิ่งพันทนาการอูฮยอนเริ่มหาทางหนีไปจากที่นี่อีกครั้ง สองมือเล็กค่อยๆยกแขนแกร่งขึ้นมาอย่างเบามือแล้วยกไปให้พ้นทางก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง
ขาสองข้างค่อยก้าวออกไปตรงประตูอย่างช้าๆ ในใจลุ้นให้ประตูตรงหน้าไม่ได้ล็อกไว้พร้อมกับเอื้อมมือเล็กไปจับลูกบิดประตูจนประตูเปิดออก ร่างบางดีใจมากที่ประตูไม่ได้ล้อกไว้แต่ทันใดนั่นก็มีเสียงจากตรงเตียงพูดขึ้น ทำให้นัมอูฮยอนชาวาบไปทั้งตัว
“อูฮยอนจะไปไหน”
ร่างบางวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตลืมอาการขาเจ็บทั้งสิ้นไปจนหมด สองขาวิ่งไปตามทางเดินที่มืดสนิทผ่านห้องต่างๆเป็นสิบห้องเพื่อหาทางไปยังชั้นล่าง ร่างบางมองไปยังข้างหลังได้ยินเพียงเสียงของร่างหนาเท่านั้นแต่ขาสองข้างเริ่มหมดแรงอูฮยอนจึงเลี้ยวขวาเข้าห้องๆหนึ่งที่ไม่ได้ล็อกประตู
เมื่อเข้าไปข้างในได้แล้วร่างบางรับกดล็อคหลังบอบบางพิงประตูบานนั้นอย่างหมดแรงพรางหายใจหอบอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงตะโกนตามหาของร่างหนาแล้วและเนื่องจากภายในห้องนี้มืดสนิทอูฮยอนจึงคลำตามทางจนไปเจอเข้ากับไฟฉาย ร่างบางไม่รีรอรีบเปิดนำทางให้ตนแต่ก็ต้องอึ้งเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ในห้อง
รูปภาพขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากมายราวกับแกลอรี่มีอยู่จนเต็มห้อง มุมห้องมีโต๊ะยาววางสิ่งของมากมายและร่างบางจะไม่ตกใจเลยถ้าคนในรูปและสิ่งของเหล่านั้นไม่ใช่ตน มือเล็กถือไฟฉายเดินไปดูรูปของตนในอิริยาบทต่างๆตั้งแต่ยังตัวเล็กแก้มยุ้ยยิ้มหวานให้กล้อง ไปจนถึงตอนที่อูฮยอนไปเรียนต่อต่างประเทศในรูปอูฮยอนกำลังให้อาหารกับโฮมเลส และภาพสุดท้ายคือตอนที่คุยอยู่กับใครคนหนึ่งแต่ภาพกับถ่ายเพีบงแค่อูฮยอนและถ้าจะให้ทายคงเป็นฮงคยูคนที่ถูกตัดออกจากภาพนี้
‘หรือพี่กิวในความฝันของฉันคือนายซองกยู?’
ทันใดนั้นร่างบางก็สะดุ้งขึ้นเพราะตกใจจากอ้อมกอดด้านหลังที่ร่างหนาใช้แขนแกร่งทั้งสองข้างรัดเอวบางไว้แน่น
“ฉันนึกว่านายจะหนีฉันไปไกลแล้วซะอีก ร่างหนาหอบหายใจแรงจากการวิ่งตามหาร่างบางจนทั่ว”
“นายเป็นใครกันแน่คิมซองกยู”
“ฉันยินดีตอบนายทุกคำถาม แต่…”
……..
“อูฮยอน...อย่าหนีกันไปอีกเลยนะ”
“นายจับฉันมาเพราะอะไรซองกยู” ร่างบางหันตัวมาเผชิญหน้า
“เพราะฉันอยากให้นายจำฉันได้ไงล่ะ”
“นายเป็นใคร”
“พี่กิว คิมซองกยูของนายไง”
……….
“พี่กิวที่เคยเป็นทุกอย่างสำหรับนาย รวมถึงจูบแรกด้วย”
“ไม่จริงจูบแรกของฉันคือฮงคย….”
ไร้เสียงใดๆจากร่างบางเมื่อริมฝีปากของร่างสูงช่วงชิงลมหายใจด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากบางค่อยๆขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มด้านล่างเพื่อแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันกับลิ้นนุ่มชื้นที่อยู่ภายใน อูฮยอนที่อยู่ในอาการมึนงงไร้การต่อต้านทั้งสิ้นมือเล็กที่อยู่บนอกของร่างหนาเริ่มเคลื่อนไปเกี่ยวคออีกฝ่ายให้แนบแน่นขึ้น อาจเป็นเพราะบรรยากาศ ลมหายใจ หรือลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาตักตวงความหวาน ทำให้นัมอูฮยอนไม่ขัดขืนอีกฝ่าย
“และฉันต้องการให้นายจำความทรงจำของเราได้ไงล่ะ นัมอูฮยอน”
to be contunue….
Talk: ไม่รู้ว่าจุใจคนอ่านมั้ย ปั่นเสร็จก็ลงเลยการบ้านหนังสือยังกองอยู่ที่เดิม555555 ยังเดาอารมณ์ตัวเองไม่ได้ว่าจะอัพอีกวันไหน เครียดจากหนังสือเมื่อไหร่ก็มาลงฟิคค่ะ555 ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ
ความคิดเห็น