I Love You, Blah blah blah >>> ฉันรักเธอเท่าฟ้านะคนดี - นิยาย I Love You, Blah blah blah >>> ฉันรักเธอเท่าฟ้านะคนดี : Dek-D.com - Writer
×

    I Love You, Blah blah blah >>> ฉันรักเธอเท่าฟ้านะคนดี

    มัณฑนากรสาวสุดไฮเปอร์หลงรักช่างภาพหนุ่มสุดหล่อมาดเนี๊ยบตั้งแต่แรกพบกันในนิตยสาร (?) แต่ไม่มีทางเลยที่เธอจะสมหวังในความรัก ถ้าไม่ใช่เพราะพรหมลิขิตนำพาให้เขาย้ายเข้ามาอยู่ข้างบ้านเธอ งานนี้ถ้าจะมีลุ้น!

    ผู้เข้าชมรวม

    122

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    122

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 ส.ค. 51 / 21:53 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    I Love You, Blah blah blah >>> ฉันรักเธอเท่าฟ้านะคนดี : ตอนที่ 1

    ณ หมู่บ้านนิเวศน์หรรษา หรือ หมู่บ้าน ลูกกวาด ของเด็กๆ อันประกอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสหลากหลายเฉดสีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของหมู่แมกไม้นานาพรรณบนอาณาเขตพื้นที่กว้างขวาง มีระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัยสะดวกสบายครบครันเหมาะสมกับสถานภาพทางการเงินของผู้อยู่อาศัยที่ค่อนข้างมีอันจะกิน
    ในเวลานี้เป็นเวลาเช้าตรู่ของวันจันทร์ที่อากาศแจ่มใส เสียงนกกาบินมาขับขานค่อนไปทางโหวกเหวกโวยวายบ้าง แต่ก็มีลมเย็นๆพัดผ่านมาชวนให้น่านอนต่ออีกสักงีบสองงีบ แต่ในบ้านบางหลังเจ้าของบ้านก็เริ่มทยอยตื่นนอนออกมารดน้ำต้นไม้หน้าบ้านของตนกันบ้างแล้ว บางหลังที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ก็จูงมือกันเดินออกไปใส่บาตรที่หน้าบ้าน บางหลังที่มีลูกมีหลานก็เริ่มส่งเสียงดังรบกวนการนอนของเพื่อนบ้านไปตามประสาคนที่ต้องจับปูใส่กระด้งพาเด็กๆไปส่งโรงเรียน
    ตื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!! เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นบ้านสีชมพู บอกคนที่กำลังนอนขดคุดคู้อยู่ภายในผ้านวมผืนหนานุ่มให้รู้ว่าได้เวลาตื่นของเธอแล้ว
    หญิงสาวโงหัวอันกระเซอะกระเซิงของเธอขึ้นจากหมอนมาด้วยท่าทางที่งัวเงีย หลังจากที่ต้องปั่นงานจนดึกจนดื่นเพิ่งจะล้มตัวลงนอนไปได้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ทว่าเธอก็ยังมีรอยยิ้มที่สดใสให้กับคนรักของเธอเสมอ
    อรุณสวัสดิ์ค่ะที่ร้ากกกก~~ (=____=)~Z เธอส่งยิ้มสวยสยองทักทายยามเช้าไปให้คนรักของเธอเหมือนเช่นเคย พร้อมทั้งชูสองนิ้วเก็กท่าให้เขาถ่ายภาพเหมือนทุกๆวัน
    สวภาพ คือ ช่างภาพมืออาชีพฝีมือดีที่กำลังโดดเด่นเป็นที่จับตามองมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องด้วยเขากวาดรางวัลช่างภาพดีเด่นมาแล้วหลายต่อหลายรางวัล ประกอบกับใบหน้าที่หล่อเหลาเกินหน้าเกินตาดารานักแสดงชายหรือนายแบบบางคนไปมาก มันจึงทำให้เขากลายเป็นช่างภาพหนุ่มเนื้อหอมที่สาวๆทั่วทั้งเมืองหลงใหลใฝ่ฝันอยากได้เขามาเป็นคนรู้ใจ  
    ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน หญิงสาวมีความรู้สึกประทับใจเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเขาผ่านนิตยสาร The Secret ที่เพื่อนสาวคนสนิทของเธอทำงานอยู่ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็พยายามติดตามผลงานของเขามาโดยตลอด แม้จะมีโอกาสเอื้ออำนวยให้พบกันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ต้องมีเหตุขัดข้องบางประการที่ทำให้เธอและเขาไม่ได้พบเจอกันสักที จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเขาได้จัดนิทรรศการแสดงภาพถ่ายและเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมประมูลหารายได้ช่วยเหลือมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ซึ่งหญิงสาวได้มีโอกาสไปร่วมงานนั้นด้วย(ความบังเอิญ) มันจึงทำให้เธอและเขา ได้พบเจอกัน และเขาก็สร้างความประทับใจให้เธอเป็นอย่างมากจนเธออดไม่ได้ที่จะเก็บเขาติดไม้ติดมือกลับมาแนะนำให้คนทางบ้านได้รู้จักกับเขาอย่างใกล้ชิด แม้สมาชิกในบ้านจะพยายามทักท้วงด้วยวาจาและสีหน้าแบบปูเลี่ยนแล้วก็ตามที แต่เธอก็ไม่ฟัง ยืนกรานที่จะพาเขาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอให้ได้ จนในที่สุดทุกคนในบ้านก็ต้องยอมแพ้ให้กับความดื้อรั้นของเธอ เขาจึงเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้านสีชมพูนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
    อากาศข้างนอกสดชื่นดีนะคะ ออกไปสูดอากาศกันไหม ...ไม่ไปหรอคะ ก็ได้ ตามใจคุณก็แล้วกันค่ะ เธอเอ่ยปากชวนคนรักของเธอออกไปสูดอากาศยามเช้าที่ริมระเบียงห้อง แต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะขยับเดินตามเธอออกไป เพียงแต่ยืนยิ้มกว้างและถ่ายภาพของเขาต่อไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขวางความเป็นส่วนตัวของเขาแต่อย่างใด หญิงสาวจึงเดินยิ้มร่าออกไปสูดอากาศที่ริมระเบียงห้องเพียงลำพัง
    บรรยากาศยามเช้าที่แสนบริสุทธิ์ทำให้อารมณ์ของเธอปลอดโปร่ง ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงานหนักของเธอเมื่อคืนวานหายไปเป็นปลิดทิ้ง เสียงนกเสียงกาและหมู่มวลผีเสื้อแมลงปอที่บินหยอกล้อกับดอกไม้ที่สวนหน้าบ้านของเธอสร้างสุนทรียภาพให้แก่จิตใจของเธอได้เป็นอย่างดี 
    ยกเว้นเจ้าตัวประหลาดหน้าตาอัปลักษณ์หนวดเครารุงรังที่นั่งโชว์ล่องก้นถมยาสีฟันใส่แปลงดอกกุหลาบที่แสนรักของเธอนั่นแหละที่ทำให้เธอหัวเสียแบบสุดๆ!  (O[ ]O)!!!^
    ไอ้พี่บ้า! ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าถมยาสีฟันใส่แปลงกุหลาบของฉัน! พี่ทำแบบนี้อยากตายรึไงฮ้า!! หญิงสาวตวาดแว้ดใส่พี่ชายตัวแสบของเธอทันทีที่เหลือบไปเห็นเขากำลังประทุษร้ายถมยาสีฟันเจือน้ำลายบูดใส่แปลงกุหลาบสุดที่รักของเธอ
    แหม ตื่นเช้าจริงนะไอ้น้องรัก พี่นึกว่าแกยังไม่ตื่นซะอีก พี่ชายของเธอส่งยิ้มแหยที่แลเห็นแต่ฟองยาสีฟันขาวมาให้เธอที่ยืนส่งสายตาอาฆาตแค้นไปให้เขาอย่างเอาเป็นเอาตาย บรรยากาศรายรอบจึงเหมือนมีประกายไปแห่งศึกสายเลือดปะทุเดือดขึ้นน้อยๆ แต่โชคดีที่ว่าเพื่อนบ้านที่เป็นคุณหมอพ่อหม้ายลูกติดสุดหล่อของพวกเขาเดินออกมาหย่าศึกได้ทันเวลาพอดิบพอดี
    อรุณสวัสดิ์ครับคุณคร้าวคุณเคื้อ ทำอะไรกันอยู่ครับ
    อ้าว หมอลันธน์ คุณมาได้จังหวะพอดีเลยครับ ผมกับยัยเคื้อกำลังคุยกันอยู่เลยว่าเย็นนี้จะทำกับข้าวกินกันเองที่บ้านหรือจะไปขอข้าวที่บ้านของคุณกินฟรีดี อะคร้าวกล่าวขึ้นอย่างคนมีอารมณ์ขัน ผิดกับน้องสาวที่ยืนส่งยิ้มหน้าชาตามประสาคนมียางอาย แต่ก็ไม่วายส่งสายตาขู่อาฆาตไปทางพี่ชายของเธอเป็นระยะๆ
    ปิลันธน์หัวเราะขบขัน เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเขาเสียมากกว่าที่จะต้องพูดประโยคนั้น เนื่องด้วยเขานั้นมักงานยุ่งเป็นประจำ จนบ่อยครั้งต้องฝากลูกสาววัยหกขวบเศษไว้ให้คนที่บ้านสีชมพูช่วยดูแล
    กินที่บ้านหนูเปก็ได้ค่ะ ถ้าคุณพ่อไม่กลับมาทำอาหาร หนูเปจะทำให้คุณอาสองควาย*ทานเองนะคะ เด็กหญิงเปศลาเอ่ยปากด้วยความไร้เดียงสา แต่ทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองทันทีที่ได้ยินชื่อที่เธอใช้เรียกคุณอาเพื่อนบ้านทั้งสองคน
    (หมายเหตุ>>> คุณอาสองควาย ของเด็กหญิงเปศลา ก็คือ อะคร้าว และ อะเคื้อ นั่นเอง^^^)
    หนูเป ทำไมเรียกคุณอาทั้งสองคนอย่างนี้ล่ะคะ ไม่น่ารักเลยนะคะ  ไหนบอกคุณพ่อซิคะว่าใครสอนให้หนูพูดแบบนี้
    ขนมค่ะ เด็กหญิงเปศลาแหงนหน้ามองผู้เป็นพ่อตาแป๋วๆ
    ได้สิคะ คุณพ่อจะซื้อขนมให้หนูนะคะ แต่หนูเปต้องบอกคุณพ่อมาก่อนนะคะว่าใครสอนหนูพูดแบบนี้
    ขนมค่ะ เด็กหญิงเปศลาตอบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอชี้ไปที่บานประตูที่เปิดอ้าออก ทำให้เด็กชายวัยหกขวบที่เพิ่งก้าวเดินออกมาตกใจยืนตัวแข็งทื่อทันทีที่สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เขา
    มองทำไม~!! ไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง! คนหล่อตัวเท่าเมี่ยงถามเสียงกวน ก่อนที่จะสาวเท้าเดินหน้าเชิดออกมา
    เจ้าขนม!!
    เจ้าคร้าว!! เด็กชายขนมขึ้นเสียงสูงตามผู้เป็นพ่อของเขาทันที ก่อนที่จะแบมือออกมาตรงหน้า ตังค์ไปโรงเรียนล่ะป๊า เร็วเข้า คุณครูจะมารับแล้วนะ
    อะคร้าวส่ายหน้าแบบเบื่อระอาและไม่รู้จะว่าอะไรกับเจ้าลูกชายตัวแสบของเขา รีบล้วงกระเป๋าเอาธนบัตใบละยี่สิบออกมาให้ลูกชายทันที
    โห~ เท่าเดิมอีกแหละ เมื่อไหร่จะขึ้นค่าขนมให้ค้มซักทีล่ะ เดี๋ยวนี้น้ำมันแพงนะป๊า ค่าขนมหน้าโรงเรียนขึ้นราคาหมดแล้ว
    โอ้โห... เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าน้ำมันขึ้นราคาเดือดร้อนไปถึงเด็กอนุบาลสองด้วยแฮะ^ คิดแล้วปิลันธน์ก็รีบควักเงินใส่กระเป๋าให้ลูกสาวเพิ่มห้าบาททันที แน่นอนว่าสายตาที่ว่องไวของเด็กชายขนมต้องมองเห็น
    อายอาหมอเขามั้ยล่ะป๊า รายนั้นเขาไม่เห็นต้องรอให้หนูเปบอกให้ขึ้นค่าขนมให้เลยนะ รีบควักให้เองเลยเห็นมั้ยเล่า
    เออๆๆ ป๊าเพิ่มให้อีกห้าบาทพอใจมั้ยล่ะ เท่ากับหนูเปเลยนะ
    ก็แค่นี้แหละ ว่าแล้วเด็กชายขนมก็กระดิกนิ้วรอรับค่าขนมดิ๊กๆทันที 
    ขนม เย็นนี้อาจะไปบ้านคุณอาศุษิร ขนมจะให้อาแวะไปรับที่โรงเรียนมั้ย อะเคื้อร้องถามหลานชายสุดที่รักลงมาจากริมระเบียงด้านบน
    เด็กชายขนมเหลือบมองอาสาวของเขาด้วยหางตา แล้วครุ่นคิด ตามศรัทธาละกันฮะ 
    สิ้นเสียงตอบกวนๆของเด็กชายขนมเสียงแตรรถรับส่งสีเหลืองของโรงเรียนก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าประตูบ้านพร้อมๆกับเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆบนรถ แล้วคุณครูสาวหน้าตาท่าทางใจดีที่เปิดประตูรถเดินลงมารับเด็กชายขนมกับเด็กหญิงเปศลาถึงหน้าประตูบ้านทันที
    อะคร้าวไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปเอาแคตตาล็อคเครื่องสำอางในบ้านออกมาขายตรงกับคุณครูสาวของลูกชายทันที และแน่นอนว่าหน้าตาของพ่อหม้ายพราวเสน่ห์อย่างเขาต้องเพิ่มยอดขายให้กับตนเองได้ เมื่อคุณครูสาวตกหลุมพรางสั่งซื้อเครื่องสำอางค์มาเสียชุดใหญ่ช่วยให้เขาปิดการขายได้อย่างสวยงาม
    พี่ใครวะ ทำมาหากินเก่งจริงๆ อะเคื้อว่า ก่อนที่หลานชายของเธอจะร้องเรียกแล้วโบกมือลา
    อาเคื้อ ค้มไปนะ! ว่าแล้วสองอาหลานก็ส่งจูบแหวกอากาศมาให้แก่กัน แล้วหลานชายก็สะพายกระเป๋าวิ่งออกจากบ้านไปกระตุกแขนผู้เป็นพ่อของเขา ป๊า ค้มจะไปแล้ว จูจุ๊บค้มก่อนเร็วเข้า! ผู้เป็นพ่อจึงต้องจำใจหยุดโปรยเสน่ห์ใส่คุณครูสาวลงชั่วคราวแล้วก้มลงมาให้ลูกชายจูบลา ก่อนจะส่งเขาขึ้นรถรับส่งไป
    แหม เจ้านี่มันจูบเก่งขึ้นทุกวันๆแฮะ เลือดนักรักของฉันมันแรงดีจริงๆ อะคร้าวว่าอย่างภูมิใจ ว่าแล้วก็คิดถึงเมียโว้ย! เขาร้องตะโกนออกมา ก่อนที่จะหยุดชะงักเมื่อหันไปสบตาขู่อาฆาตภาคสองของน้องสาว
    หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!! อย่าคิดหนีเป็นอันขาด ฉันกับพี่มีเรื่องต้องเคลียร์กัน!   ว่าแล้วอะเคื้อก็วิ่งหายกลับเข้าห้องของเธอไป แน่นอนว่าเธอต้องตรงไปที่บันไดเพื่อวิ่งลงมาจัดการกับเขาที่ประทุษร้ายแปลงดอกกุหลาบที่เธอบรรจงปลูกไว้เพราะเป็นดอกไม้ที่คนรักของเธอชื่นชอบมากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าอะคร้าวฉลาดพอที่จะไม่หยุดรอเธออยู่ตรงนั้น เขารีบใส่ตีนหมาโกยแน่บออกจากบ้านพร้อมแปรงสีฟันตัวต้นเหตุทันที
    อ้าว คุณคร้าวจะรีบไปไหนล่ะครับ ตกลงว่าเย็นนี้...
    ชู่ว~~~!!  ถ้าเย็นนี้หมออยากเลี้ยงข้าวผมหมออย่าบอกยัยเคื้อนะครับว่าผมไปทางไหน อะคร้าวว่าแล้วรีบวิ่งหนีตายไปทางบ้านสีฟ้าที่ปิดประกาศขายไว้ตั้งแต่เมื่อสองอาทิตย์ก่อนทันที จากนั้นเสียงโหวกเหวกโวยวายของอะเคื้อก็ดังไล่หลังตามเขาออกมา
    คุณเคื้อ จะรีบไปไหนครับ! ปิลันธน์ที่โกหกไม่ค่อยเก่งถึงกับเหงื่อแตกพลั่กทันทีที่เอ่ยถามเพื่อช่วยถ่วงเวลาให้อะคร้าวหนี
    ไปฆ่าพี่คร้าวค่ะ หมอลันธน์เห็นมั้ยคะว่าพี่คร้าวหนีไปทางไหน อะเคื้อแวะเข้าไปถามพลางกวาดสายตาที่เหี้ยมโหดมองไปรอบๆสวนหน้าบ้าน
    ม..ไม่รู้ไม่เห็นครับ^ ปิลันธน์รีบปฏิเสธข้นทันควัน ในมือของเขานั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตื่นเต้นเสียยิ่งกว่ารู้ข่าวว่าภรรยาตั้งท้องเสียอีก
    จริงหรอคะ! อะเคื้อหริ่วตามองอย่างไม่เชื่อ เพิ่มความกดดันให้ปิลันธน์ยิ่งตึงเครียด
    ครับ! จริงๆครับ!!
    แล้วทำไมหมอลันธน์ต้องขึ้นเสียงเหมือนคนโกหกด้วยล่ะคะ มันน่าสงสัยจริงๆ อะเคื้อพยายามจับพิรุธ แต่ปิลันธน์ก็ยังคงเก็บซ่อนอาการตื่นกลัวความลับจะแตกได้อย่างมิดชิด
    จริงๆนะครับ! ค..คือเมื่อครู่ผมมัวแต่ส่งหนูเปขึ้นรถอยู่น่ะครับเลยไม่ทันได้สังเกตว่าคุณคร้าววิ่งหนีไปทางไหน ปิลันธ์แก้ต่าง
    ก็แล้วไปค่ะ แต่อย่าให้ฉันรู้นะคะว่าหมอลันธน์ร่วมมือให้พี่คร้าวหลบหนี แหม เจ็บใจนัก จับไม่ได้ให้มันรู้ไป ฮึ่ม! อะเคื้อกัดฟันกรอดๆด้วยความแค้นใจพร้อมกับกระชับไม้เบสบอลในมือของเธอไว้เสียจนแน่น ก่อนจะปรี่เข้าไปจัดการทำความสะอาดแปลงดอกกุหลาบของเธอทันที
    ปิลันธน์จึงถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วเดินเข้าไปย่อตัวลงนั่งใกล้ๆเธอ ดูคุณเคื้อจะหวงแปลงดอกกุหลาบแปลงนี้มากเลยนะครับ ตอนเห็นครั้งแรกผมก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่มันไม่ใช่แปลงดอกกุหลาบสีอื่นๆที่ผู้หญิงเขาชอบกัน
    อะเคื้อเหลือบมองหน้าปิลันธน์ด้วยความสงสัย แล้วเผยรอยยิ้มบางๆออกมา แล้วกุหลาบสีอะไรล่ะคะที่ผู้หญิงเขาชอบกุหลาบ
    ก็สีขาว สีแดง หรือไม่ก็สีชมพูยังไงล่ะครับ แต่ผมไม่ค่อยเห็นผู้หญิงคนไหนชอบกุหลาบสีเหลืองเหมือนคุณเคื้อมาก่อนเลยครับ
    บางทีผู้หญิงพวกนั้นอาจจะชอบกุหลาบสีเหลืองก็ได้นะคะ แต่ไม่แสดงออก 
    คำพูดของอะเคื้อเรียกเสียงหัวเราะของปิลันธน์ได้ในทันที เขาว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนอารมณ์ขัน มีความคิดไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป แม้ความคิดของเธอออกจะประหลาดนิดๆ แต่เหตุผลของเธอนี่สิน่าสนใจ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามถึงเหตุผลของเธอ ว่าแต่คุณเคื้อบอกผมได้มั้ยครับว่าทำไมคุณเคื้อถึงชอบดอกกุหลาบสีเหลือง
    ก็ไม่มีอะไรมากมายหรอกค่ะ ที่ฉันชอบก็เพราะมันเป็นสัญลักษณ์วันเอดส์โลกน่ะค่ะ
    ???
    แหะๆ~ ฉันล้อเล่นค่ะ ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้ชอบดอกไม้ชนิดไหนหรือดอกไม้สีไหนทั้งนั้นแหละค่ะ แต่ที่ปลูกไว้ก็เพราะมันเป็นดอกไม้ที่คุณสวภาพชอบก็เท่านั้นเองค่ะ อะเคื้อยิ้มกว้างออกมาทันทีที่กล่าวถึงคนรักของเธอ
    ในขณะที่ปิลันธน์เลิกคิ้วสูง อดทึ่งในความรักที่ยิ่งใหญ่ของเธอไม่ได้ คุณสวภาพ ช่างภาพชื่อดังที่เป็นแฟนกับคุณเพาพะงา นางแบบที่ชอบถ่ายแบบเซ็กซี่ลงปฏิทินเหล้าคนนั้นใช่มั้ยครับ
    ฉึก! คำพูดทิ่มแทงจิตใจทำให้อะเคื้อหน้าบูดเป็นหมีกินผึ้ง พรวนดินด้วยท่วงท่าสุดโหดทันที
    ค..คุณเคื้อครับ ผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่าครับ
    เปล่านี่คะ (TT^TT) อะเคื้อยิ้มทั้งน้ำตา 
    อ้าว ถ้าผมไม่ได้พูดอะไรผิดแล้วคุณเคื้อร้องไห้ทำไมล่ะครับ? เฮ้อ...ไม่น่าเลยเรา ทั้งๆที่คุณเติมเคยเตือนแล้วแท้ๆว่าห้ามพูดเรื่องนี้ให้คุณเคื้อได้ยิน ปิลันธน์รู้สึกผิดอย่างมากที่ทำให้ผู้หญิงดีๆ (แต่สติไม่ดี) อย่างอะเคื้อต้องเสียใจ
    ผมขอโทษนะครับ ผมไม่คิดว่าคุณเคื้อจะชอบคุณคนนั้นเขามากมายขนาดนี้
    ใครบอกหมอลันธน์กันคะว่าเคื้อชอบเขา ความจริงเคื้อคลั่งเขามากๆเลยต่างหากล่ะคะ เธอแย้ง
    ครับ เรื่องนั้นผมก็พอรู้... ปิลันธ์ต้องก้มหน้ายอมรับฟังเธอร่ายอีกยาวนาน
    แล้วสวรรค์ก็เข้าข้างผู้ชายที่เริ่มขี้หูเปียกอย่างปิลันธน์ เมื่อจู่ๆอะคร้าวก็วิ่งหน้าตาตื่นกลับมาราวกับคนที่ถูกผีหลอกตอนเช้า ดวงตาของเขาฉายแววตื่นตระหนกตกใจเกินกว่าจะคาดเดาได้ว่าเขาวิ่งหนีอะเคื้อไปพบเจอสิ่งใดมา
    ไอ้เคื้อ!! อะคร้าวร้องตะโกนเรียกน้องสาวของเขาด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ
    ทันทีที่ได้ยินเสียงของพี่ชายตัวแสบ อะเคื้อก็กระชับไว้เบสบอลแน่นทันที กลับมาก็ดีแล้ว ตายซะเถอะ! ไม่รอช้า เธอรีบวิ่งกรวดเอาไม้เบสบอลไปไล่ตีพี่ชายของเธออย่างไม่หยั่งทันที
    เดี๋ยวสิวะ! ฟังพี่ก่อนสิวะ!! โอ๊ย!! มันเจ็บนะโว้ย!! ไอ้เคื้อหยุดก่อน!! เจ็บ!!!
    นี่! อย่าหนีนะไอ้พี่บ้า!!
    ไม่หนีแกก็ตีฉันตายสิวะ แล้วถ้าฉันตายแกก็ต้องอดรู้แน่ว่าฉันวิ่งไปเจอใครมา!
    span style="font-size: 14pt; line-height: 115%">ถ้างั้นก็รีบบอกมาก่อนที่พี่จะตายก็แล้วกัน นี่แน่! อะเคื้อยังคงไม่ยอมลามือให้พี่ชายของเธอวิ่งหนีไปได้เป็นรอบที่สอง 
    โธ่โว้ย!! ถ้าแกไม่หยุดไล่ตีฉันนะ ฉันจะไม่ให้แกเล่นกับลูกฉันแล้วนะโว้ย!! อะคร้าวขู่ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะได้ผลชั่วคราวเมื่อน้องสาวจอมโหดของเขาหยุดพักเหนื่อย
    แฮ่กๆ~ ก็ได้ ฉันให้โอกาสพี่พูดสิบวินาทีระหว่างที่ฉันพักเหนื่อย เริ่มได้!
    ฉันขอแค่ห้าวินาทีก็พอ อะคร้าวต่อรอง
    ถ้างั้นตอนนี้มันก็ผ่านไปสองวินาทีแล้วล่ะ อะเคื้อนับถอยหลังในใจ ทำให้พี่ชายของเธอเริ่มไม่พอใจ
    อะไรวะ!
    พี่จะพูดหรือไม่พูด ไม่พูดฉันจะวิ่งไล่พี่ต่อแล้วนะ!
    เออๆๆ พูดก็ได้วะ แต่แกต้องสัญญาก่อนว่าแกจะเลิกไล่ตีฉัน
    อะเคื้อมีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจรับข้อเสนอของพี่ชายด้วยเธอนั้นเหนื่อยและขี้เกียจวิ่งไล่เขาเป็นเด็กๆแล้ว (เพิ่งคิดได้เนอะ^) ก็ได้ ถ้างั้นพี่ก็รีบๆเล่ามาเลย
    ผมว่าคุณคร้าวคงไม่ต้องเล่าแล้วมั้งครับ คนที่คุณคร้าวว่าวิ่งหนีคุณเคื้อไปพบมาเขาเดินมาโน่นแล้วล่ะครับ ปิลันธน์ว่าด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงไม่แพ้กับอะคร้าวที่วิ่งหน้าตาตื่นมาส่งข่าวในตอนนั้นเลย 
    ในตอนแรกอะเคื้อก็รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยกับสีหน้าและท่าทางของเขา แต่เมื่อมองตามสายตาของเขาไปกลับเป็นตัวเธอเองที่ทำให้ทุกคนแปลกใจกับท่าทีของตัวเธอ
    ม..ไม่...จ...จริงใช่มั้ย??? (OoO)??? อะเคื้อเปรยกับตัวเองราวกับคนที่เสียสติเพราะธุรกิจล้มละลาย
    เมื่อจู่ๆผู้ชายที่เธอตื่นขึ้นมาส่งยิ้มให้ทุกเช้า ผู้ชายที่เธอชูสองนิ้วเก็กท่าให้เขาถ่ายภาพอยู่ทุกวันก็กระโดดออกมาจากโปสเตอร์ขนาดใหญ่บนฝาผนังห้องของเธอ แล้วยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าเธอตัวเป็นๆแบบนี้ ตบตัวเองก็แล้ว หยิกตัวเองก็แล้ว ขยี้ตาจนลูกตาแทบจะหลุดกระเด็นออกมาจากเบ้าก็แล้วเขาก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ หนำซ้ำยังส่งยิ้มให้กับเธออีกด้วย
    บัดนี้โลกของหญิงสาวหมุนคว้าง ร่างกายของเธอเบาหวิวราวกับปุยนุ่นที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ท้องไส้ปั่นป่วนราวกับผีเสื้อนับร้อยๆตัวพร้อมใจกันบินมาจัดงานพร็อมอยู่ในท้องของเธอ ใบหน้าร้อนผ่าวๆเหมือนคนมีไข้ขึ้นสูงยังไงยังงั้น
    สวัสดีครับ ผมชื่อสวภาพ ผมกับน้องสาวของผม เธอชื่อสวรรยา พวกเราจะย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านสีฟ้าหลังข้างๆในวันนี้ครับ ผมเลยอยากมาทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านอย่างพวกคุณ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ช่างภาพหนุ่มหล่อกล่าวแนะนำตัวก่อนที่จะยื่นมือออกไปตรงหน้าปิลันธน์
    ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมปิลันธน์ครับ จะเรียกผมว่าหมอลันธน์เหมือนคนอื่นๆก็ได้นะครับ ผมอยู่กับลูกสาวสองคนที่บ้านหลังสีเขียวหลังถัดไปนี่เองครับ ลูกสาวของผมชื่อหนูเป อายุหกขวบเศษ นี่ก็เพิ่งส่งแกไปโรงเรียนเมื่อสักครู่นี้เองน่ะครับ ปิลันธน์กล่าวแนะนำตัวแล้วยื่นมือไปสัมผัสกับช่างภาพคนดังด้วยความตื่นเต้น แต่เขาก็พอจะมีสติอยู่กับเนื้อกับตัวอยู่บ้าง
    ส่วนอะคร้าวนั้นเอาแต่สะบัดหน้าอย่างแรง ก่อนจะรีบเช็ดมือของเขากับกางเกงนอนที่สวมใส่อยู่เตรียมจะยื่นไปสัมผัสมือกับคนดังอยู่แล้ว แต่จู่ๆอะเคื้อก็ออกอาการเลือดกำเดากระฉูดออกมา รีบวิ่งหนีเข้าบ้านไปเสียก่อน ทำให้เขาต้องรีบวิ่งตามเข้าไปดูแลเธอ   ท่ามกลางความงุนงงของเพื่อนบ้านคนใหม่อย่างสวภาพที่กำลังเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป
    ยัยคนนี้ท่าทางจะไม่เต็มแฮะสวภาพคิดในใจ ซึ่งปิลันธน์พอจะอ่านสายตาที่สงสัยของเพื่อนบ้านคนใหม่ออกจะรีบพูดแก้ต่างแทนเจ้าของบ้านสีชมพูทันที 
    คนพี่ชายคือคุณอะคร้าวครับ ทำอาชีพขายตรง เขาเป็นคนสบายๆ สนุกสนาน บางทีอาจดูคล้ายคนสติไม่ดี แต่คบได้ครับ ส่วนคนน้องคือคุณอะเคื้อ เป็นมัณฑนากรที่เก่งคนนึงเลยล่ะครับ นิสัยก็คล้ายๆกับพี่ชาย ทั้งสองคนเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ พวกเขามีน้ำใจนะครับ เพื่อนบ้านที่นี่พึ่งพาอาศัยสองคนพี่น้องนี้ได้เสมอเลยล่ะครับ อ้อ! แล้วก็ยังมีน้องขนมลูกชายของคุณอะคร้าวอีกคนด้วยครับ เขาเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวผมเอง
    ครับ สวภาพตอบรับเพียงสั้นๆ ดวงตาของเขาฉายแวววิตกเล็กน้อย กังวลว่าเขาจะย้ายบ้านหนีเรื่องวุ่นวายของเพื่อนบ้านจอมสอดรู้สอดเห็นมาเจอเรื่องปวดหัวกับเพื่อนบ้านไม่สติเต็มเต็งแทน มีด้วยหรือคนแบบนี้? แค่เจอคนดังก็ถึงกับตื่นเต้นตกใจจนเลือดกำเดากระฉูดไหลออกมา แต่ก็เอาเถอะ... ยังไงก็คงดีกว่าโดนเพื่อนบ้านคนเก่าเก็บข้อมูลของเขากับคนรักไปขายข่าวให้หนังสือพิมพ์ก็แล้วกัน
    คุณหมอลันธน์ขา~~~ จู่ๆเสียงอ่อนเสียงหวานของคุณนายเจ้าของบ้านสีส้มก็ดังแทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงสนทนาของปิลันธน์และสวภาพ
    ปิลันธน์สูดหายใจลึกเข้าเต็มปอดแล้วหันไปถามเพื่อนบ้านของเขาทันที ครับคุณนกน้อย มีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ
    แหม ก็ต้องมีสิคะ ว่าแต่คุณหมอลันธน์กำลังจะออกไปทำงานใช่มั้ยเอ่ย สกุณีเจื้อยแจ้วนัยน์ตาหวานฉ่ำ /span>
    คุณนกน้อย เธอเป็นสาวโสดอายุเฉียดๆเลขสี่ มีนิสัยมัธยัสถ์และรอบรู้ไปหมดทุกเรื่อง (น้องๆกูเกิลเลยก็ว่าได้) เธออาศัยอยู่ที่บ้านสีส้มกับคนรับใช้ที่ชื่อจิ๋วแจ๋ว มักจะมาพึ่งพาอาศัยปิลันธ์ให้ช่วยซ่อมโน่นซ่อมนี่ให้ฟรีๆเสมอ และครั้งนี้ที่เธอเรียกหาปิลันธ์ก็อาจจะเป็นเรื่องเดิมๆ
    คุณนกน้อยมีอะไรครับ ท่อน้ำตันหรือว่าหลอดไฟขาดรึเปล่าครับ 
    เปล่าหรอกค่ะ แต่นกน้อยอยากจะขอติดรถคุณหมอลันธน์ไปลงที่ตลาดน่ะค่ะ เป็นทางผ่านพอดีใช่มั้ยคะนกน้อยรู้
    ครับ แต่ผมคงจะออกไปช่วงบ่ายแล้วน่ะครับ พอดีว่าวันนี้คุณเคื้อเธอไม่ค่อยสบาย ผมเลยกะว่าจะอยู่ดูอาการให้เธอก่อนน่ะครับ
    ไม่สบาย! คุณเคื้อนี่นะคะไม่สบาย ร้อยวันพันพี่ไม่เห็นเธอจะเคยป่วยนี่คะ เอ... ป่วยการเมืองรึเปล่าน่ะ นกน้อยตั้งข้อสันนิษฐานด้วยความแปลกใจ
    คุณอะเคื้อเธอป่วยจริงๆครับ เมื่อครู่นี้เลือดกำเดาของเธอไหลเต็มเสื้อไปหมดเลยล่ะครับ สวภาพช่วยปิลันธน์พูดอีกแรง นกน้อยจึงได้โอกาสถามไถ่ทำความรู้จักกับเขา
    เอ... คุณเป็นใครคะ เพื่อนคุณหมอลันธน์รึเปล่า นกน้อยรู้สึกคุ้นหน้าคุณจังเลยค่ะ
    ผมชื่อสวภาพครับ น้องสาวของผมชื่อสวรรยา เราเพิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังสีฟ้าวันนี้วันแรกครับ
    หรอคะ แล้วไหนล่ะคะน้องสาวของคุณ ไหนคะๆ นกน้อยสอดส่ายสายตามองหาสวรรยาเสียยกใหญ่ แต่ก็ไม่พบ
    เธอจะเข้ามาตอนเย็นครับ เพราะตอนนี้ติดถ่ายละครอยู่
    ติดถ่ายละคร! กรี๊ด! อย่าบอกนะคะว่าน้องสาวของคุณเป็นดารา!!
    ครับ เธอเป็นนักแสดงตัวประกอบ บางทีคุณอาจจะเคยเห็นเธอทางโทรทัศน์แล้ว สวภาพตอบอย่างไม่คิดจะปิดบัง แต่ปิลันธน์เห็นว่าเรื่องบางเรื่องกับผู้หญิงคนนี้ปิดบังไว้บ้างก็คงจะดี เขาจึงรีบกล่าวดักไว้
    คุณสวภาพเองก็เป็นช่างภาพชื่อดัง คุณนกน้อยคงเข้าใจใช่มั้ยครับว่าคนดังมักรักความเป็นส่วนตัว
    สวภาพแปลกใจเล็กน้อยกับท่าทีของปิลันธน์ แต่จากการมองอย่างประเมินสถานการณ์แล้ว เขาคิดว่าปิลันธน์กำลังหวังดี
    แหม คุณหมอลันธน์พูดเหมือนนกน้อยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านไปได้นะคะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ นกน้อยไม่เก็บข้อมูลคนดังไปขายให้พวกนักข่าวหรอกค่ะ อย่างมากก็แค่ประดับความรู้
    นั่นสิครับ ผมก็ว่าคุณนกน้อยไม่ใช่คนอย่างนั้น นกน้อยหัวเราะชอบใจที่ถูกผู้ชายที่ตนแอบปิ๊งมานานตั้งแต่ภรรยาของเขายังไม่ตายจนกระทั่งภรรยาของเขาตายแล้วก็ยังปิ๊งอยู่ชมเข้าซึ่งๆหน้า ในขณะที่ปิลันธน์หันไปสบตาสวภาพอย่างส่งสัญญาณเตือนภัยให้กับเขา ซึ่งเขาก็รับรู้ได้ในทันที
    ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ รู้สึกว่าบ้านยังจัดไม่ค่อยเรียบร้อย คงต้องไปดูซะหน่อย สวภาพของตัวกลับไป
    แล้วเมื่อค่ำถ้าว่างก็เชิญได้นะครับ บ้านสีชมพูยินดีต้อนรับครับ ปิลันธน์กล่าวเชิญราวกับเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งการกระทำเช่นนี้มีหรือที่ใครจะดูไม่ออกว่าเขาคิดอะไรรู้สึกยังไงกับเพศตรงข้ามที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เว้นเสียแต่เจ้าตัวเธอนั่นแหละที่(แกล้ง)ไม่รู้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น