ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KnB FanFiction]..Until now..[AkaKuroC]

    ลำดับตอนที่ #6 : Night -03-

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 351
      6
      27 ก.พ. 60


     

    ติดตามข่าวสารและการอัพเดทได้ที่

    : FB Page : 
    LinaAndHitorijanai

     

     

     

     

    -03-

     

     

     

     

     

    เธอคิดมาตลอดว่าทัตสึยะเป็นคนไม่มีหัวใจ

     

    การที่ยิ้มให้ใครต่อใคร หรือ ใจดีกับทุกคน

    เป็นเพียงหน้ากาก... ละครบทหนึ่งที่คนคนนั้นเล่นก็เท่านั้นเอง

    ทั้งจูบ ทั้งเซ็กส์

    ไม่ว่าจะกับใครก็ได้ทั้งนั้น

     

    ไม่ยึดติด

    ไม่ผูกมัด ไม่หยุดนิ่ง

     

    ยกเว้นเพียงเธอ....

    เธอคนเดียวที่เจ้าของดวงตางดงามแฝงความเศร้าเร้นลึกนั่นไม่เคยแตะต้องเลย

    มือเรียวยาววางบนศีรษะอย่างอ่อนโยน

    รอยยิ้มจางๆ เจือความเอ็นดูชัดคลี่บนใบหน้านั้นเสมอ

    'น้องสาว'

    คำคำเดียวหยุดทุกความสัมพันธ์

    คำคำเดียวหยุดเวลาที่ดำเนินมาถึงปัจจุบัน

    เราสองคน

    ยังเป็นเช่นวันนั้น..... วันที่เราเจอกันครั้งแรก

    'พี่น้อง'

    ไม่มากหรือน้อยไปกว่านี้

    ... ฝนตก ...

    เสียงของเม็ดฝนที่ตกกระทบแผ่นกระเบื้องและผ้าใบเหนือศีรษะดังเป็นเสียงเปาะเเปะ

    คางามิ ไทกะยืนเงียบ เธอก้มหน้าลงมองฝ่าเท้าด้วยลักษณะคอตกคล้ายตุ๊กตาโดนตัดสายรั้งศีรษะ

    หยดน้ำกลั่นจากปอยผมยาวสีแดงเข้มลงกับพื้นทีละนิด จนกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดย่อม

    ใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในเงานั้น

    … ว่างเปล่าอย่างน่าใจหาย …

    … ฝน …

    ตกลงมานานเท่าไหร่แล้วกันนะ?

     

     

    การดูตัวเป็นสิ่งที่ ‘คางามิ’ ไม่คิดฝันมาก่อนว่าตัวเองจะทำได้ เธอรู้ดีว่าที่ว่างในใจไม่เหลือให้ใครอีกแล้ว นอกจาก ‘พี่ชายบุญธรรม’ คนนั้น

    หากด้วยความจำเป็นบางอย่างก็ทำให้เธอต้องมานั่งอยู่ในห้องรับรองหรูหราแบบญี่ปุ่นของโรงแรมห้าดาวในชุดกิโมโนสวยงามที่อาศัยผู้อื่นคอยจัดแต่งให้

     

    แน่ล่ะ...

    ขนาดอยู่ญี่ปุ่นมาเกือบหกปีแล้ว จะภาษาพูดคุยทั่วไปหรือการอ่านเขียนคันจิเธอก็ยังร่อแร่ นับประสาอะไรกับการแต่งกายด้วยชุดแบบดั้งเดิมที่ไม่คุ้นชิน

    เส้นผมสีแดงยาวตรงปอยผมด้านหน้ามีสีดำสนิทแซมเล็กน้อยถูกรวบตึง ปิ่นปักผมอันงามที่เสียบประดับไว้มีอัญมณีและสร้อยเงินทิ้งระย้าเป็นประกายโดดเด่นรับกับแสงไฟ

     

    ไม่รู้ด้วยอุปทานไปเองหรือจะอะไรก็ตามที

    ตลอดทางเดินสองข้าง ตั้งแต่ล็อบบี้หรือกระทั่งในห้องนี้

    เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง

    ทุกอย่างล้วนมีสีแดงเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นที่สุดเสมอ

     

    สิ่งที่น่าประหลาดคือมันไม่ได้ทำให้ดูจัดจ้านแต่อย่างใด

    หากเป็นสีแดงที่เยือกเย็นและเคร่งขรึม ราวกับสีสันของเหล็กกล้าที่ร้อนระอุ สำหรับรอค้อนตีลงมาเพื่อการขึ้นรูปใบดาบ

     

    ญาติผู้ใหญ่ฝั่งเธอมีเพียงคนเดียวคือป้าที่จัดแจงทุกอย่างให้เสร็จสรรพ ทั้งที่จะพ่อแม่หรือคุณปู่เองก็อนุญาตให้เธอใช้ชีวิตตามใจชอบมาตลอดแท้ๆ

     

    ตั้งแต่เลือกกลับมาญี่ปุ่นเองคนเดียว กระทั่งการเรียน กิจกรรมชมรม ไม่เคยบังคับแต่อย่างใด

    นึกสงสัยถึงสาเหตุขึ้นมาตะหงิดๆ ใบหน้าเนียนสวยที่ถูกตกแต่งมาอย่างดีจึงค่อนไปทางเบ้ปากเหยเก จบดูตัวไร้สาระตามใจผู้ใหญ่นี้ จะออกไปซื้อรองเท้าบาส ท้าพวกที่เล่นสตรีทให้สาแก่ใจไปเลย!

     

    แล้วก็... โทรไปหาทัตสึยะสักครั้ง

    พอคิดถึงตรงนี้ คางามิค้นพบว่าตัวเองไม่ได้ติดต่อหา 'พี่ชายคนนั้นโดยตรงมานานมากแล้ว อย่างมากก็แค่การส่งข้อความในโทรศัพท์เคลื่อนที่

     

    ทัตสึยะคงยุ่งกับการเริ่มงาน

    ปีหน้าก็คงตาเธอแล้ว แต่นอกจากบาสและทำอาหาร

    คางามิ ไทกะยังนึกไม่ออกเลยว่าตนจะทำอะไรต่อไปในอนาคต

    เธอรักการเล่นบาส มีความสุขกับการทำอาหารอร่อยๆ ให้คนสำคัญ

    นัยน์ตาสีแดงหลุบต่ำ จ้องมองภาพสะท้อนใบหน้าตัวเองในเงาน้ำ

     

    “เธอก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เลิกเล่นเป็นพี่น้องกับเจ้านั้นสักทีเถอะ”

    คุณป้าที่จู่ๆ โผล่หน้ามาแบบไม่บอกกล่าวต่อว่า เล่นเอาไม่รู้จะโต้ตอบกับการมาถึงนี้ยังไง

    “และสภาพความเป็นอยู่ ไหนจะการแต่งตัวนี่อีก ละเลยลูกหลานกันเกินไปแล้ว ทั้งพ่อเธอทั้งพ่อฉัน”

     

    หญิงสาวร่างสูงเพรียวและมีกล้ามเนื้อสมส่วนสวยสมกับเป็นนักกีฬาระดับประเทศ สวมใส่เพียงเสื้อแขนกุดสีขาวพอดีตัวและกางเกงยีนส์ขาสั้นทะมัดทะแมงเข้ารูป ที่ดูไม่เรียบร้อยนัก เพราะหน้าอกหน้าใจและทรวดทรงองค์เอวที่เนื้อนมไข้ล้นเกินมาตรฐานสาวทั่วไปหลายขุม

     

    และขณะที่คางามิ ไทกะยืนอึ้ง ทั้งในมือยังถือขวดนมสดคาปาก อีกข้างเช็ดเรือนผมที่เพิ่งสระชะงักไปพร้อมกัน

    ถ้อยคำตำหนิเหล่านั้นแทงใจและส่งผลให้ไร้ข้อโต้เถียงจนต้องมาจบที่พิธีดูตัวเช่นนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของที่บ้านเฟื่องฟูเอาการ เห็นว่าทางคู่ดูตัวเป็นตระกูลผู้ดีที่ควบคุมเครือข่ายการเงินและอยากย้ายมาลงทุนในธุรกิจด้านนี้

    การดูตัวเป็นแค่ฉากหน้าเท่านั้น

    ความสำคัญของวันนี้คือการพบปะเพื่อตกลงธุรกิจตั้งหาก เธอแค่มาเป็นตัวประกอบในพิธีเพื่อให้ดูว่าเป็นการดองกันของตระกูลใหญ่

     

    เสียงบานประตูโบชิเลื่อนเปิด ตามด้วยเสียงฝีเท้าของใครอีกสองสามคน

    และคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอีกฝั่งของโต๊ะ เป็นคนที่เธอไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมาอยู่ตรงนี้

    'อาคาชิ เซย์จูโร่'

    ตลอดระยะเวลาเวลาการพูดคุยและรัยประทานอาหารของทั้งสองฝ่าย หญิงสาวผมแดงได้แต่จ้องเขม็งไปที่คู่ดูตัวในวันนี้ ซึ่งปฏิบัติตัวได้ไร้ที่ติสมบูรณ์แบบ สร้างความพอใจให้กับญาติผู้ใหญ่ของเธอมาก

     

    แต่คางามิก็ยังคงเงียบ แม้จะมีมือเหี่ยวย่นของป้าข้างตัว สะกิดให้เข้าสู่บทสนทนา แต่หญิงสาวก็ทำแค่ถามคำตอบคำ

    ไม่ไว้ใจ...

    ขนาดเธอไม่ใช่คนหัวไวหรือฉลาดเฉลียวอะไรยังรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติที่อีกฝ่ายจะทำ

    อาคาชิ เซย์จูโร่มีตัวเลือกมากมายที่ดาหน้าไปเกยถึงแทบเท้าเจ้าตัว กระนั้นชายหนุ่มก็ปฏิเสธผู้หญิงมานับไม่ถ้วน

    ลือกันว่าเจ้าตัวมีคู่หมั้นคู่หมายหรือคนรักลับๆ ที่ทางบ้านจัดหาไว้อยู่แล้ว รอเวลาที่เหมาะสมจึงเปิดเผยตัว

    เรื่องซุบซิบนินทาพวกนี้ของโปรดสาวๆ ส่วนใหญ่นักแหละ ยกเว้นเธอกับ 'คุโรโกะทีไม่อินังขังขอบกับเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่

    และเพราะเป็นเพื่อนกับ 'คุโรโกะเธอถึงได้รู้เท่าทันว่าคนตรงหน้าต้องวางแผนอะไรไว้แน่นอน

    ข่าวลือที่กล่าวถึงคนของ 'อาคาชิ เซย์จูโร่เป็นจริงแค่ครึ่งเดียว

    ... อีกครึ่งนั่นไม่จริงเลย

     

    คุโรโกะคือคนที่ห่างไกลกับการเป็นคนรักลับๆ ของอาคาชิที่สุด

    คุโรโกะ เท็ตสึยะเป็นหญิงสาวรูปร่างกลางๆ การเรียนและกิจกรรมชมรมไม่มีอะไรโดดเด่น ทั้งยังไม่ได้อยู่ในตระกูลชั้นสูงอะไร

    ใบหน้าสวยหวานกับดวงตากลมโตสีอ่อนที่น่าจะเป็นจุดเด่นก็โดนบุคลิกจืดจางและนิสัยไม่ค่อยพูด ทำให้ตัวตนรางเลือนเข้าไปใหญ่

    คุณสมบัติของว่าที่นายหญิงตระกูลอาคาชิที่คนมักพรรณาถึงคือ

    หญิงสาวตระกูลผู้ดี ผู้เพียบพร้อมไปด้วยกิริยามารยาทที่สง่างาม การศึกษาชั้นเลิศและรูปร่างหน้าตางดงามไร้ที่ติ

     

    ในตอนนั้น ...

    คางามิกลอกตาสามทีกับความพร่ำเพ้อของเพื่อนร่วมคลาส ส่วนคุโรโกะก็นั่งดูดวานิลลาเชคเงียบๆ ไม่พูดขัดคนอื่นแต่อย่างใด

    หญิงสาวอดมองเพื่อนสนิทไม่ได้

    ถ้าจะมีคนที่รู้จักอาคาชิมากกว่าใครก็ต้องเป็นคุโรโกะนี่แหละ

    จริงสิ! เห็นว่าคุโรโกะซังเคยอยู่ชมรมบาสเทย์โคมาก่อนนี่ ท่านอาคาชิสมัยนั้นเป็นไงอะ เล่าให้ฟังหน่อยสิ!

    เรียกได้ว่าถามถูกคนหรือจะพูดว่าเหยียบเจอตอเข้าพอดีดีล่ะ?

    หญิงสาวร่างเล็กวางแก้ววานิลลาเชคในมือลงกับโต๊ะ นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับคนที่กำลังจะพูดถึง

    อาคาชิคุงเป็นคนเก่ง และเป็นกัปตันที่ใส่ใจสมาชิกในชมรมมากค่ะ

     

    เสียงวี้ดว้ายจินตนาการภาพ 'ท่านอาคาชิสมัยมัธยมต้นว่าจะเพอร์เฟคแค่ไหน ไม่เพียงแค่เป็นกัปตันชมรมสมัยมัธยมต้น

    เมื่อขึ้นมัธยมปลายนอกจากตำแหน่งกัปตันชมรมบาสแล้ว เจ้าตัวยังเป็นประธานนักเรียนของราคุซัน

    คางามินึกสงสัยขึ้นมาว่า 'อะไรทำให้คนที่แตกต่างราวกับอยู่คนละโลกมีความสัมพันธ์กันแบบนั้น และมาลงเอยเป็นคนรักกันได้

    'ไม่ได้เป็นคนรักกันค่ะ ฉันกับอาคาชิคุงแค่ต่างคนต่างต้องการในสิ่งที่อีกฝ่ายให้ได้เท่านั้น'

    ไฟกะพริบวูบหนึ่ง ข้อความในมือถือข้างตัวเด้งขึ้นมา

    ... แต่ไม่มีใครสนใจ           

     

    นัยน์ตาสีแดงมองหญิงสาวผมสีอ่อนที่ดูเผินๆ เหมือนจะโดนรุมล้อมตามคำถามจากสาวๆ ที่มากขึ้นทุกที ใครๆ ก็อยากรู้เรื่อง 'ท่านอาคาชิล่ะนะ หากในมือที่วางบนหน้าขาที่ใต้โต๊ะ กลับยังสามารถพิมพ์ข้อความมาหาเธอได้

    แบ่งสมาธิได้อย่างดีเลิศจริงๆ

    คางามิคิด และขณะที่กำลังกังวลว่าคุโรโกะจะโดนรั้งตัวไว้ ยันโดนลากไปต่อที่อื่นมั้ย

    หญิงสาวก็ขอแยกตัวมาอย่างแนบเนียนและสุภาพ ท่ามกลางเสียงเสียดมเสียดายของสาวๆ คนอื่น

    ไปกันเถอะค่ะ คางามิซัง

    เสียงหวานและนุ่มนวลเอ่ย แต่ในใบหน้าที่เรียบเฉยเสมอ เธอกลับเห็นร่องรอยความดีใจบางเบา

    นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนเหลือบมองเครื่องมือสื่อสารที่ประคองไว้ด้วยสองมือ ปลายนิ้วจรดกดโต้ตอบบทสนทนาที่กำลังดำเนินอยู่อย่างรวดเร็ว

     

    สิ่งที่คาดไม่ถึงของใครหลายคน คือ หญิงสาวที่ไร้ตัวตนคนนี้ กลับเป็นผู้ครอบครองคนที่ห่างไกลที่สุด

     

    จักรพรรดิแดงไร้พ่ายผู้นั้น

     

    บนถนนยามเย็น ปราศจากผู้คนสัญจร รถลีมูซีนสีดำสนิทที่ติดฟิล์มมืดมิดทุกด้านจอดเทียบข้างทางเท้า

    มือเรียวยาวยื่นมาหาคนที่ยืนข้างเธอ

    ผมมารับเท็ตสึยะไปกินข้าวด้วยกัน

    เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจ น่าเกรงขามที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง อ่อนโยนได้จนถึงที่สุด ยามพูดกับคุโรโกะ

     

    หญิงสาวไม่ได้ยักยิ้มอย่างเอียงอายหรือปฏิเสธ

    ทำเพียงแค่ยื่นมือออกไปและก้าวไปหาผู้ชายคนนั้น

     

    เครื่องยนตร์สตาร์ทออกเดินทาง ทิ้งกลุ่มควันไอเสียบางเบาไว้ ก่อนจะจางหายไป

    คุโรโกะกล้าที่จะเสี่ยงและเดิมพันจนได้ที่สิ่งต้องการมาครอง

    ตรงข้ามกับเธอ... ที่เอาแต่ลังเลและหวาดกลัว

     

    หน้าจอค้างอยู่ตรงหน้าสมุดโทรศัพท์

    'ทัตสึยะ'

    เพียงแค่แตะลงไป เธอก็จะได้ยินเสียงและอาจจะได้พบหน้าคนคนนั้นแท้ๆ

    ทัตสึยะไม่เคยปฏิเสธเธอ แต่ก็ไม่เคยก้าวเข้ามาในอาณาเขตของเธอเช่นกัน

     

    ตะกอนความรู้สึกที่ทับถมในใจอย่างช้าๆ

    ระหว่างเราทั้งคู่คล้ายกับมีม่านบางๆ กางกั้นไว้

     

    ... ความรู้สึกของคำว่า 'พี่น้อง' ...

    ไม่เดินหน้า แต่ก็ไม่ถอยหลัง

     

    มือกุมสร้อยเส้นน้อยที่มีแหวนของทัตสึยะ

    ทั้งเธอและทัตสึยะต่างรู้ดีว่าความสัมพันธ์นี้เปราะบางเพียงใด

     

    หากสายใยที่เชื่อมโยงกันขาดไป

    เราทั้งคู่ไม่ได้เป็น 'พี่น้องกันแล้ว...

    แล้วเรา... เป็นอะไรกันเหรอทัตสึยะ?

     

     

    นายเป็นคนสุดท้ายที่ฉันคิดว่าจะเจอที่นี่

    อยู่ตามลำพัง คางามิไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะเปิดปากพูด เมื่อกี้มีคนอยู่เยอะเกินไป เธอไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าพูดออกมาได้มากน้อยแค่ไหน แต่จากที่เห็นมาหลายครั้งหลายครา คู่นี้ดูจะหลีกเลี่ยงการให้คนอื่นล่วงรู้

     

    เธอไม่ได้เป็นห่วงอาคาชิ คนที่เธอกังวลว่าจะได้รับผลกระทบนี้คือคุโรโกะตั้งหาก

     

    กลับกัน เธอเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผมคิดในการดูตัวครั้งนี้

     

    ชายหนุ่มจิบชา ใบหน้าหล่อเหลาคมคายชวนให้ใจสั่นเหยียดยิ้มเย็นชา

    ...กับคนรู้จัก ภาพลักษณ์สูงส่งราวกับเจ้าชายเลือนหายไป มีแต่ความเยือกเย็นและน่างเกรงขามเฉกเช่นจักรพรรดิผู้มีอำนาจในการยัญชาทุกสิ่งเต็มสองมือ

     

    เรามาค่อยๆ คุยกันดีกว่า สักสิบหรือยี่สิบนาที ไม่น้อยเกินไปสำหรับการทำความรู้จักและถูกใจใครสักคน

    คางามิเริ่มอยากทุ่มโต๊ะใส่หัวคนตรงหน้าขึ้นมาตะหงิดๆ

     

    คิดทำบ้าอะไรของนายกันแน่!

    อาคาชิเปรยตามองอาการหัวเสียของคู่ดูตัวด้วยสายตาอ่านยาก

     

    ทำแบบนี้... ฉันจะมองหน้าคุโรโกะติดได้ยังไง

    รู้ทั้งรู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน ต่อให้เธอไม่ตั้งใจ แต่สถานการณ์แบบนี้ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่

     

    นายน่ะคิดยังไงกับคุโรโกะกันแน่

                    “ไม่ใช่คำถามที่ดีสำหรับการสนทนากับคู่ดูตัวเลย คางามิ ไทกะ”

    เสียงห้วนขึ้นอย่างที่คนความรู้สึกช้าที่สุดเช่นเธอยังรู้สึกได้

                   

    “นายรักคุโรโกะ”

                    หญิงสาวผมแดงกล่าว คราวนี้สังเกตได้เลยว่ามือที่จับถ้วยชาไว้ของอีกฝ่ายกระตุกไหวขึ้นมา หากพริบตาเดียวก็ถูกเกลื่อนด้วยท่าทีสมบูรณ์ของเจ้าตัว

                   

    “ฉันไม่รู้ว่านายคิดจะเล่นเกมอะไรหรอกนะ ถึงท้ายที่สุดมันอาจจะจบลงด้วยดี            แต่ฉันขอเตือนไว้อย่างหนึ่ง”

     

    “ต่อให้เป็นคนเย็นชาที่สุด ยังไงก็เจ็บเป็นทั้งนั้น”

     

     

     

    และไม่คิดจะรักษาภาพพจน์ใดใดที่มีต่อกันทั้งสิ้น

    คางามิ ไทกะ ดึงปิ่นปักที่ตรึงเส้นผมสีแดงซึ่งปลายเป็นสีดำน้อยๆ ไว้ เรือนผมยาวตกลงมาคลอเคลียไหล่ แล้วลุกขึ้นอย่างทุกลักทุเลเพราะไม่ชินกับกิโมโน

                    ก่อนจะใช้ชายแขนเสื้อเช็ดเครื่องสำอางน่ารำคาญออกจนหมด

                    “ลาล่ะนะ”

                    หญิงสาวยืนขึ้นเต็มความสูง แล้วผลักเปิดประตูออกไป โดยไม่สนใจคนที่ยังนั่งอยู่มาแต่น้อย

                   

    อาคาชิยิ้ม... แต่เป็นรอยยิ้มที่มุมปาก

                    ถ้าไม่ใช่แบบนี้...

    ก็ไม่เหมาะจะเป็นหมากในเกมนี้ของเขาหรอกนะ

                   

     

                    ฮิมุโระเห็นสายที่ไม่ได้รับหนึ่งสาย

                    ดวงตาสีดำสนิทมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ปรากฏชื่อของคนคนหนึ่ง

                ไทกะ   

    และเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง มือของ 'ไทกะได้ถูกคว้าไว้โดยมือของชายที่เขาไม่รู้จัก

                    'เลิกยุ่งเกี่ยวกับเด็กคนนั้น คนตัวเปล่าแบบเธอน่ะ... สามารถรับผิดชอบชีวิตทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ของเด็กคนนั้นได้เหรอ'

                    'หยุดใช้ความสัมพันธ์จอมปลอมอย่างคำว่า 'พี่น้องอะไรนั่นมายึดหลานฉันไว้อย่างเห็นแก่ตัวอีกเลย'

    คำพูดของใครคนหนึ่งดังขึ้นในหัว ก่อนจะตามมาด้วยความเงียบงัน

    ในฝั่งตรงข้ามของถนน ใต้ร่มพลาสติกสีใส เขาเห็นสายตาของหญิงสาวคนหนึ่งที่มองไปยังร่างของคนทั้งคู่ที่เขาจ้องมองก่อนหน้านี้

    หญิงสาว เจ้าของเรือนผมสีฟ้าอ่อนตัดสั้นประบ่าและดวงตาสีฟ้าราวกับสายน้ำเช่นเดียวกับสีผม

     

     

     

     

    ร่างเล็กบางยืนท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำด้วยร่มเพียงคันเดียว

     

     

     

     

     

     

    TBC.

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×