คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : นานมา...มาทำอะไร?
“อ้อ ได้ค่ะ” เคียงข้าวตอบยิ้มๆ ก่อนหันไปพูดกับนานมา “น้องนานอยู่กับพี่หนุนแป๊บหนึ่งนะคะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา”
“ได้ค่ะพี่ข้าว”
นานมาตอบกลับ ก่อนมองส่งเคียงข้าวจนเดินเข้าไปในห้องคอสตูม จากนั้นเธอก็หันมามองหนุนดวง และพบว่าชายหนุ่มมองดูเธออยู่ก่อนแล้ว
“พี่หนุนมาที่นี่ทำไมคะ?”
“น้องนานมาที่นี่ทำไมครับ?”
นานมากับหนุนดวงพูดขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็รอให้อีกฝ่ายเป็นคนตอบ แต่กลับไม่มีใครตอบใครก่อน นานมาทำหน้าเบื่อหน่ายเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้หินอ่อนที่อยู่ข้างตึก ซึ่งหนุนดวงก็ก้าวเท้าตามไปติดๆ
ชายหนุ่มทนไม่ไหวที่เห็นนานมาทำท่านิ่งเฉย สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“นี่พี่ถามน้องนานอยู่นะ ทำไมน้องนานไม่ตอบพี่?”
“นานก็ถามพี่หนุนเหมือนกัน ทำไมพี่หนุนไม่ตอบนานล่ะคะ?”
“ก็…ก็พี่บอกแล้วไงว่าพี่มาหาแม่”
“อ้อ” นานมาพยักหน้าไปแกนๆ “นานก็มาหาพี่ข้าว”
“แล้วทำไมน้องนานต้องมาหาน้องข้าวด้วย จะบอกอะไรน้องข้าวหรือเปล่า?”
“บอกอะไรพี่ข้าว หมายถึงบอกอะไรคะ?”
นานมาถามด้วยความไม่เข้าใจ ขณะที่หนุนดวงอึกอักครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวางมาดตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ก็อย่างเช่นมาบอกน้องข้าวว่า...วันนี้น้องนานมาขอพี่เป็นแฟนไง?”
“อ้อ” ดวงตาดำขลับของนานมาประสานสายตากับหนุนดวง ก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาอย่างขอไปที “พี่หนุนกลัวเหรอคะ?”
“กลัวอะไร?”
“ก็กลัวนานบอกพี่ข้าวไงล่ะ” หญิงสาวตอบ ก่อนย้อนถาม “หรือกลัวว่านานจะไม่บอกคะ?”
“ทำไมพี่ต้องกลัวด้วยล่ะ”
หนุนดวงทำปากยื่น ขณะที่นานมาก็ทำปากเบะทันทีเช่นกัน
“ก็ถ้าไม่กลัว แล้วทำไมพี่หนุนจะต้องตามนานมาที่นี่ด้วย”
“พี่ตามน้องนานตอนไหนกัน ก็พี่บอกแล้วไงว่าพี่มีธุระมาคุยกับแม่”
“ถ้าพี่หนุนมาหาป้านวล พี่หนุนก็ไปหาป้านวลสิคะ จะมาอยู่กับนานตรงนี้ทำไม?”
“ก็น้องข้าวบอกว่าแม่ประชุมอยู่”
“ตอนนี้อาจประชุมเสร็จแล้วก็ได้นะคะ”
“แต่พี่จะต้องไปกินข้าวกับน้องเหนือนี่นา”
“แล้วธุระเรื่องงานกับป้านวลละคะ?”
“ก็น้องข้าวบอกว่าแม่ประชุมอยู่”
“ตอนนี้อาจประชุมเสร็จแล้วก็ได้”
“แต่พี่ต้องไปกินข้าวกับน้องเหนือ”
ฯลฯ
ขณะที่หนุนดวงกับนานมา กำลังเถียงกันโดยไม่มีใครยอมใคร พิมพิสากับคณะก็กำลังเดินมาที่ห้องคอสตูม
นางเอกสาวในชุดสาวบ้านนาสีทึบทึมกระดำกระด่าง อยู่ในอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ถึงขนาดต้องให้เฉิดฉายและนางพวงครามช่วยหิ้วปีกคนละข้าง ขณะที่นางโฉมเฉลานอกจากต้องหิ้วกระเป๋าของทุกคนแล้ว นางยังต้องใช้พัดคอยโบกพัดให้พิมพิสา ที่มีทีท่าเหมือนพร้อมจะขาดใจตายได้ทุกขณะ
การต้องเข้าฉากกับเคียงข้าวซึ่งเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง บวกด้วยคุณนวลระวีที่เป็นแม่สามีของอีกฝ่าย…ทั้งที่จริงแล้วควรจะเป็นแม่สามีของเธอ ทำให้พิมพิสารู้สึกว่าการเข้าฉากถ่ายทำละครแต่ละซีนนั้น ไม่ต่างอะไรเลยกับตัวเธอเป็นทหารอเมริกัน ที่ถูกรัฐบาลส่งไปทำสงครามในตะวันออกกลาง
นับตั้งแต่ถูกเคียงข้าวกับอ่อนช้อย “รุมรังแก” ก็เหมือนได้ทิ้งเมล็ดพันธุ์แห่งความหวาดกลัวเอาไว้ในใจของพิมพิสา ถึงแม้ดาราสาวจะบอกตัวเองว่าเธอคือคุณหนูรองที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ผู้มีความเฉลียวฉลาดและเข้มแข็งอยู่ในตัว แต่พอมาเจอกับนังเคียงข้าว ได้เห็นสายตาถมึงทึงเหมือนผีปอบของมัน เห็นหน้าตาบิดเบี้ยวและท่าทางที่เงื้อมือจะปรี่เข้ามาตบของมัน พิมพิสาก็ถึงกับสติแตก เผลอโยนกระจาดในมือทิ้ง แล้วกรีดร้องลนลานก้าวเท้าถอยหลังจนล้มคว่ำในกองข้าวเปลือกไปถึงสองรอบ
ผู้กำกับการแสดงบอกว่า เธอแสดงอาการหวาดผวาได้ดี แต่ออกแอ็คติ้งเล่นใหญ่มากเกินไป เพราะแคแร็คเตอร์ของนางเอกอย่างขวัญข้าวนั้น มีแค่ความหม่นเศร้าอยู่ในใจอย่างลึกเร้น ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าทางหวาดกลัว จนถึงกับต้องร้องกรี๊ดออกมาก็ได้
ได้ยินที่ผู้กำกับฯ พูด พิมพิสาก็ได้แต่ก่นด่าบรรพบุรุษของผู้กำกับฯ
ใครบอกว่าเธอกำลังแสดงอาการหวาดกลัวกันยะ แต่เธอกลัวโดยไม่ต้องแสดงต่างหาก…นี่ดีแค่ไหนที่ไม่เยี่ยวแตกกลางกองข้าวเปลือกให้อับอายขายขี้หน้า!
พิมพิสาปล่อยให้เฉิดฉายกับนางพวงครามหิ้วปีกประคองไปทีละก้าว ขณะที่ในใจก็ก่นด่าบรรพบุรุษสามสิบสองรุ่นของนังเคียงข้าวไปด้วย แต่เมื่อเลี้ยวมุมอาคารเพื่อตรงไปยังห้องคอสตูม พิมพิสาก็ต้องเบิกตากลมโตกับภาพที่เห็น
นั่นนังนานมามาที่นี่ทำไม?
แล้วมันมาทำอะไรกับคุณหนุนดวง?
|
|
ความคิดเห็น