คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : หนุนดวง มาทำไม?
หนุนดวงก้าวเท้าตรงไปยังม้านั่งที่นานมานั่งเมื่อเช้า ก่อนที่เขาจะนั่งลงตรงตำแหน่งที่เธอนั่ง ชายหนุ่มเงยหน้ามองร่มเงาต้นไม้ครู่หนึ่ง ขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายครุ่นคิด
ยายตัวแสบไปไหนแล้วนะ หรือโกรธที่เขาปฏิเสธ ก็เลยร้องไห้กลับบ้านไปแล้ว
มุมปากของหนุนดวงยกขึ้นเบาบาง ขณะหยิบโทรโทรศัพท์มือถือออกมา จากนั้นเลื่อนหาเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกดโทรออก
ปลายสายคือพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ลานจอดรถ
“สวัสดีครับ ผมหนุนดวงพูด”
ชายหนุ่มกรอกเสียงไปตามสาย ขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ตอบกลับมาด้วยความนอบน้อม
“ครับคุณหนุนดวง มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?”
“คือ…พอจะเช็คให้ผมหน่อยได้ไหมครับว่า รถนานมาออกไปจากลานจอดรถหรือยัง?”
“รถนานมา?” พนักงานรักษาความปลอดภัยส่งเสียงมาตามสาย “เอ่อ ขอโทษครับคุณหนุนดวง รถนานมาคือรถอะไรครับ? คุณหนุนดวงหมายถึงรถที่มาจอดนานแล้วอย่างนั้นหรือเปล่าครับ?”
“คือผมหมายถึงเจ้าของรถชื่อนานมา”
หนุนดวงตอบ ขณะที่ปลายสายก็ทวนคำ แต่น้ำเสียงเหมือนงงงันยิ่งกว่าเก่า
“อ้อ…เจ้าของรถชื่อนานมา…เอ่อ…แล้วไม่ทราบว่าคุณนานมาขับรถอะไรครับ เดี๋ยวผมไปเช็คที่ลานจอดรถให้”
“ขับรถ เอ่อ…”
นั่นสิ…นานมาขับรถอะไรนะ เขาเองก็ไม่รู้เสียด้วยสิ
หนุนดวงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยตัดบท
“ช่างเถอะ ขอบคุณมากนะครับ”
ชายหนุ่มกดวางสาย แล้วลุกจากม้านั่ง ปากได้รูปบิดขึ้นน้อยๆ ขณะพึมพำกับตัวเองอย่างพาลพาโลว่า
“ยายเด็กแสบ มาขอเป็นแฟนทั้งที แล้วทำไมไม่บอกด้วยว่าขับรถอะไรมา…เบอร์โทรอะไรก็ไม่บอก แล้วแบบนี้จะเช็คได้ยังไงว่ากลับไปหรือยัง”
หนุนดวงหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกลับไปที่ระเบียง แล้วเดินเข้าบ้านด้วยความหงุดหงิด
ฉากในโรงสีระหว่างนางเอกกับสองนางอิจฉา เสร็จสิ้นลงท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้องของทีมงานและผู้กำกับฯ เพราะนักแสดงทั้งสามต่างรับส่งบทได้อย่างสมจริง มีผิดพลาดอยู่แค่สองครั้ง ตอนที่พิมพิสาเผลอร้องกรี๊ดออกมาเพราะเห็นสายตาของเคียงข้าว และร้องกรี๊ดอีกครั้งตอนเคียงข้าวหันหน้ามา ทำเอาพิมพิสาหวาดผวาจนล้มหงายไปในกองข้าวเปลือก จนผู้กำกับฯ ต้องให้พิมพิสาพักตั้งสติ เพราะรู้สึกว่านางเอกจะหวาดกลัวนางอิจฉาเกินกว่าที่บทโทรทัศน์ได้เขียนเอาไว้
เมื่อผู้กำกับฯ สั่งคัท นานมาก็คว้ากระเป๋าผุดลุกขึ้นยืนทันที เนื่องจากเธอเองก็ทนไม่ไหวเช่นกัน ที่เห็นเฉิดฉายปรับเปลี่ยนสีหน้าท่าทางของตัวเองไปมายิ่งกว่านักแสดงหน้าฉาก หญิงสาวก้าวเดินไปหาเคียงข้าวที่กวักมือส่งยิ้มให้เธอ ขณะที่คุณนวลระวีมีเรื่องสำคัญต้องร่วมประชุมกับผู้กำกับฯ และทีมงาน จึงวานให้เคียงข้าวช่วยดูแลนานมา
“น้องนานต้องรอนานเลย เบื่อไหมคะ?”
เคียงข้าวถามอีกฝ่ายด้วยความเกรงใจ ขณะพานานมาไปห้องคอสตูมเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ไม่เบื่อเลยค่ะ นานดูพี่ข้าวกับป้านวลเพลินมาก พี่ข้าวแสดงเป็นนางอิจฉาได้เก่งจริงๆ แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่ข้าวไม่เคยแสดงละครมาก่อน”
อ้อ…แล้วก็ได้ดูเฉิดฉายแสดงเป็นพี่ข้าว ป้านวล รวมทั้งแสดงเป็นพิมพิสาด้วย นั่นก็แทบไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าจะมีดาราจ้างคนบ้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัว
นานมาคิดด้วยความสยดสยอง ก่อนเอ่ยถามเคียงข้าว
“วันนี้พี่ข้าวยังต้องถ่ายละครอีกไหมคะ?”
“วันนี้ไม่มีคิวแล้วค่ะ เดี๋ยวพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจะพาน้องนานไปหาพี่เหนือ แต่คุณแม่ยังต้องถ่ายฉากในบ่อนต่อกับพ่อเลี้ยงค่ะ”
พ่อเลี้ยงในละคร ก็คือพ่อแท้ๆ ของเคียงข้าวในชีวิตจริง นานมาไม่ได้แปลกใจที่เคียงข้าวสามารถพูดคุยด้วยน้ำเสียงปกติ ทั้งที่ละครเรื่องนี้นำเสนอชีวิตจริงของเคียงข้าวที่พ่อตัวเองทิ้งครอบครัวไปมีเมียน้อย และเมียน้อยกับลูกติดก็คือนางพวงครามกับพิมพิสา ซึ่งในละครพิมพิสามาแสดงเป็นเคียงข้าว ขณะที่เคียงข้าวแสดงเป็นพิมพิสา แต่ภรรยาของพี่เหนือคนนี้สามารถแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้อย่างน่าทึ่ง ไม่เก็บอดีตมาปะปนกับปัจจุบัน
เหตุที่นานนาไม่รู้สึกแปลกใจนั้น เพราะเธอรู้ว่าเคียงข้าวเป็นคนเด็ดขาด มีความเข้มแข็ง แยกแยะถูกผิดได้อย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นลูกสะใภ้ที่คุณนวลระวีโปรดปราน ไม่ต่างจากอ่อนช้อย ภรรยานำดวง
ว่าแต่เธอจะสามารถเป็นคนแบบพี่ข้าวหรือพี่อ่อนได้ไหมนะ?
นานมาถามตัวเองในใจ ขณะก้าวเท้าเดินข้างเคียงข้าวไปยังแผนกคอสตูม แต่เมื่อเลี้ยวหัวมุมอาคาร เธอก็เกือบชนเข้ากับคนคนหนึ่ง
นานมาเงยหน้ามอง พร้อมกับที่เสียงของเคียงข้าวดังขึ้น
“อ้าว สวัสดีค่ะพี่หนุน มาเยี่ยมกองถ่ายหรือคะ?”
ผู้ชายที่เกือบชนเธอคือหนุนดวง
ว่าแต่หนุนดวง เขามาที่นี่ทำไม?
|
|
ความคิดเห็น