ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยานำดวง (Re-up มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #36 : ลากหัวใคร?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.92K
      12
      31 มี.ค. 64

    เฉิดฉายมองหน้าพิมพิสา พยายามระงับความไม่พอใจเอาไว้อย่างยากลำบาก แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง 

    ข่าวเปิดตัวละครเรื่องข้าวเคียงเหนือ เฉิดฉายได้ดูซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยรอบ นอกจากเป้ากางเกงตุงใหญ่ของนำดวงที่เธอสนใจชนิดมองตาไม่กะพริบแล้ว เธอยังได้เห็นกับตาตัวเอง ได้ยินกับหู ตอนที่สามหนุ่มพี่น้องให้สัมภาษณ์นักข่าวในเรื่อง “แอบหลงรักนางเอกในเรื่อง” ซึ่งก็หมายถึงพิมพิสา…นังคุณหนูรองไม่เต็มบาทนี่แหละ ที่มโนไปเองว่าลูกชายของคุณนวลระวีแอบหลงรัก แต่พิมพิสาบอกเธอว่า คุณนวลระวีสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาเอง เพราะต้องการโปรโมทละคร

    เฉิดฉายไม่รู้หรอกว่าความจริงคืออะไร เพราะที่เธอให้ความสนใจมากที่สุดก็คือคุณนำดวงคนเดียวเท่านั้น

    ในงานแถลงข่าวคืนนั้น คุณนวลระวียืนอยู่ท่ามกลางลูกชายทั้งสามคน คุณเหนือดวงยืนอยู่เคียงข้างนังเคียงข้าว ชายหนุ่มเซอร์ไพรส์นักข่าวทุกคนด้วยการบอกว่าเขาจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เขาอย่างแน่นอนที่แอบหลงรักพิมพิสา โดยเหนือดวงให้สัมภาษณ์ว่า

    “ผมอยากจะบอกพี่ๆ น้องๆ นักข่าวทุกคนว่า ผมจดทะเบียนสมรสแล้ว ผมรักเมียของผมคนเดียว ถ้าทุกคนไม่เชื่อลองไปแอบถามพนักงานในบริษัทดูก็ได้ จะรู้ว่าผมรักเมีย หลงเมีย และกลัวเมียมากขนาดไหน เพราะฉะนั้นอย่าถามว่าผมแอบหลงรักใครอีกเลยนะครับ เดี๋ยวผมเสียหาย…เอ๊ย!  เดี๋ยวน้องข้าวเอาไม้ตีหัว ไม่ให้ผมนอนด้วย  ผมคงแย่แน่ๆ คุณแม่ยิ่งอยากจะอุ้มหลานเร็วๆ อยู่ด้วย…เพราะฉะนั้น ผมขอสาบานว่า ผมมาเล่นละครเรื่องข้าวเคียงเหนือ ไม่ใช่เพราะผมแอบหลงรักนางเอกแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะผมขาดนางอิจฉาไม่ได้ต่างหาก”

    คำตอบของเหนือดวง ทำเอานักข่าวทุกคนต่างเป่าปากปรบมือ ขณะที่ชายหนุ่มหลังจากพูดจบแล้ว ก็ยิ้มแป้น โค้งศีรษะให้กับนักข่าวแบบทีเล่นทีจริงแล้ว จากนั้นจึงหันไปมองพี่ชายคนโต 

    “ส่วนพี่นำ…”

    นำดวงไม่รอให้น้องชายได้พูด ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน 

    “ไม่ใช่ผมด้วยเหมือนกันครับ ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว พี่ๆ น้องๆ นักข่าวลองไปถามใครในบริษัทดูก็ได้ จะรู้ว่าผมรักแฟน หลงแฟน และกลัวแฟนมากขนาดไหน เพราะฉะนั้นอย่าพูดเรื่องนี้อีกเลยนะครับ เดี๋ยวน้องอ่อน…เอ่อ  เดี๋ยวแฟนผมเอาไม้ตีหัว ไม่ให้ผมนอนด้วย…เอ๊ย!  ไม่ยอมแต่งงานด้วย ผมคงแย่แน่ๆ คุณแม่ยิ่งอยากจะให้ผมเป็นฝั่งเป็นฝาเร็วๆ อยู่ด้วย”

    คำตอบของคุณนำดวง เรียกเสียงหัวเราะจากนักข่าวทุกคนด้วยเช่นกัน ทว่าเฉิดฉายที่ดูคลิปข่าวถึงกับขบฟันแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว…เปล่า เธอไม่ได้โกรธคุณนำดวงหรอก แต่โกรธเกลียดนังอ่อนช้อยพี่สาวตัวดีที่ยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ ชายหนุ่ม แล้วหยิกต้นแขนของเขาทำตัวราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของนี่แหละ มันช่างขัดหูขัดตาของเธอเสียเหลือเกิน

    แรด!

    ตอแหล!

    สร้างภาพ!

    เฉิดฉายจำไม่ได้ว่า เธอก่นด่าบรรพบุรุษฝั่งแม่ของนังอ่อนช้อยไปกี่สิบกี่ร้อยรอบ ถึงสามารถระงับความโกรธเกรี้ยวของตัวเองลงได้ กระทั่งลืมสนใจคำตอบของหนุนดวงลูกชายคนรองของคุณนวลระวีด้วยซ้ำว่าเขาตอบนักข่าวไปว่ายังไง

    ทว่าตั้งแต่ดูคลิปข่าวคลิปนั้น เฉิดฉายก็สาบานกับตัวเองว่า จะไม่มีวันให้นังอ่อนช้อยได้ลงเอยกับคุณนำดวงเด็ดขาด ในเมื่อนังพี่สาวอยู่ต่ำกว่าเธอมาตั้งแต่เกิด แล้วจะยอมให้มันเชิดหน้าชูคออยู่เหนือกว่าเธอได้ยังไง

    ไม่มีทาง!

    เฉิดฉายยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เลยไม่ได้มองเห็นสายตาของพิมพิสาที่ปรายมองมาด้วยความเวทนาแวบหนึ่ง ก่อนที่นางเอกสาวจะยื่นมือแตะบ่าบอบบางของผู้จัดการส่วนตัว แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมเมตตา

    “เราไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาแกไปห้องทำงานของคุณนวลระวี ไม่แน่ว่าแกอาจได้เจอนังอ่อนที่นั่นก็ได้”

    พิมพิสาพูดจบก็พาเรือนร่างบอบบางในชุดสีขาวลายดอกโบตั๋น เดินกรีดกรายนำหน้าทุกคนผ่านทางเดินซุ้มดอกไม้ แสงแดดยามเช้าส่องกระทบหวีเสียบรูปผีเสื้อโบยบินดูงดงามราวกับอยู่ในอุทยานหลวง เฉิดฉายในชุดสีน้ำตาลมีสูทคลุมทับสมกับเป็นผู้จัดการมืออาชีพเดินตามหลัง มือหนึ่งของเฉิดฉายถือกระเช้าดอกไม้ที่พิมพิสานำมามอบให้คุณนวลระวี เป็นการขอโทษที่เข้ากองล่าช้า ขณะที่อีกมือของเธอถือแฟ้มใส่บทละครของนางเอกสาว 

    ที่เดินตามหลังมาคือนางพวงครามในชุดกรุยกรายสีเขียวอ่อน มีระบายตั้งแต่คอและแขน รวมถึงขากางเกงที่ยาวระพื้นก็มีระบายอีกเช่นกัน หญิงร่างผอมเชิดหน้าวางท่าเหมือนฮองเฮาเจ้าเสน่ห์ โดยมีนางโฉมเฉลาพาร่างอวบอ้วนของตัวเองหิ้วกระเช้าผลไม้เดินอยู่ข้างๆ เหมือนคนรับใช้คนสนิทของฮองเฮา

     

    ขณะที่พิมพิสากำลังพา “ชาวคณะ” เดินกรีดกรายไปที่ออฟฟิศของคุณนวลระวี เลขาฯ สาวของคุณนวลระวีกลับถูกนำดวงซึ่งอยู่สวมเสื้อผ้าสีธาตุทองผสมธาตุดินทั้งตัว พาออกจากออฟฟิศไปที่ตึกตัดต่อ 

    ทีแรกอ่อนช้อยเอ่ยคำปฏิเสธชายหนุ่ม เพราะเธอตั้งใจจะเคลียร์งานต่างๆ ก่อนไปสตูดิโอพร้อมเคียงข้าวและคุณนวลระวี ทว่าเมื่อถูกนำดวงคะยั้นคะยอ หนำซ้ำเขายังอาสาจะเป็นคนบอกแม่และน้องสะใภ้เอง อ่อนช้อยจึงยอมตามใจชายหนุ่ม โดยฝากงานที่ค้างอยู่ให้ผู้ช่วยเป็นคนจัดการให้แทน

    ขณะเดินเคียงข้างกันไปยังตึกตัดต่อ นำดวงก็หันมาบอกเธอด้วยเสียงใสแจ๋ว 

    “พี่นำคุยกับเจ้านามแล้ว มันบอกพี่นำว่า ตึกของเราสามารถรีโนเวทง่ายนิดเดียว ก็แค่ผ่าตึกออกครึ่งหนึ่งเท่านั้นเอง”

    นำดวงใช้คำว่า “ตึกของเรา” อย่างเต็มปากเต็มคำ ขณะที่อ่อนช้อยรู้สึกแปลกใจกับคำว่า “ผ่าตึกออก”

    การผ่าตึกออกครึ่งหนึ่งนี่สามารถเรียกว่า “ง่ายนิดเดียว” ได้อย่างนั้นหรือ?

    “หมายความว่ายังไงคะ?”

    หญิงสาวถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยจริงๆ ขณะที่นำดวงยิ้มแป้น

    “ก็แบ่งให้ห้องตัดต่ออยู่อีกฝั่ง ส่วนเรือนหอของพี่นำกับน้องอ่อนก็แยกอีกฝั่ง ไม่ปะปนกัน เราขึ้นบันไดจากชั้นแรก ก็ไม่ต้องเห็นหน้าไอ้อ๋าไอ้หยวนกับพวกพนักงานชั้นหนึ่งชั้นสองกันแล้ว”

    “แล้วพี่นำไม่ต้องย้ายห้องตัดหรือโรงหนังหรือคะ?”

    อ่อนช้อยถามอีกอย่างสงสัย เพราะในปัจจุบันพื้นที่ชั้นหนึ่งและสองก็ถูกใช้จนเต็มพื้นที่ ทั้งห้องตัดต่อ ทั้งโรงภาพยนตร์ จะแบ่งตึกให้ขึ้นไปยังชั้นสามชั้นสี่โดยไม่ต้องพบใคร ไม่น่าจะใช่เรื่องง่ายอย่างที่ชายหนุ่มพูดออกมาเลย

    แต่นั่นแหละ ในเมื่อนำดวงบอกว่าง่าย มันย่อมเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เพราะชายหนุ่มตอบเธออย่างทันท่วงทีว่า

    “ย้ายก็ย้ายสิ อย่างมากก็ย้ายแค่สามสี่ห้อง ไม่ได้ย้ายทั้งหมดสักหน่อย”

    นำดวงพาอ่อนช้อยมายังตึกตัดต่อ พนักงานทุกคนต่างยกมือไหว้และเอ่ยทักทายหญิงสาวอย่างเป็นกันเอง ปกติก็เคารพและให้เกียรติเธอในฐานะเลขานุการของคุณนวลระวีอยู่แล้ว ตอนนี้ได้รู้อย่างเป็นทางการว่าเธอคือว่าที่ภรรยาของนำดวง กำลังจะจดทะเบียนสมรสกับเจ้านายของพวกเขาในวันพรุ่งนี้ ทุกคนจึงเพิ่มความสุภาพต่ออ่อนช้อยขึ้นอีกหลายระดับ

    “นี่มายืนทำอะไรกัน มีอะไรทำก็รีบไปทำกันสิ มาเสนอหน้ารบกวนเฮียกับอาซ้ออ่อนกันทำไม”

    นำดวงยืดอกพูด ใบหน้าหล่อเหล่าแสดงความภาคภูมิใจโดยไม่ปิดบัง ก่อนถือโอกาสเอื้อมมือหนาไปกุมมือเล็กของอ่อนช้อยต่อหน้าพนักงานทุกคน ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยอมให้ชายหนุ่มเกาะกุมมือบอบบางแต่โดยดี

    ถึงแม้นำดวงจะต่อว่าพนักงานแบบนั้น ทว่าในใจของเขากลับบ่นว่า ทำไมเช้านี้พวกพนักงานถึงมาสายนัก โดยเฉพาะไอ้อ๋ากับไอ้หยวนที่ควรจะรีบมาเร็วหน่อย จะได้เห็นเขากับอ่อนช้อยอยู่ด้วยกันตั้งแต่เช้าแบบนี้

    เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยจัดการกับพวกมันทีหลัง…นำดวงคิด ก่อนหันไปยิ้มให้กับอ่อนช้อย

    “ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนน้องอ่อนจะยังไม่เคยขึ้นไปชั้นสาม ชั้นสี่ และชั้นดาดฟ้ามาก่อนใช่ไหม…มา เดี๋ยวพี่นำจะพาน้องอ่อนขึ้นไปดูเอง”

    พูดจบนำดวงก็ไม่รออ่อนช้อยตอบ แต่จับมือเธอพาไปยังบันได แล้วก้าวเดินขึ้นไปพร้อมกัน

     

    “อะไรนะ คุณนวลระวียังไม่มา แล้วอี…เอ๊ย! แล้วพี่อ่อนก็ไม่อยู่เหรอคะ?”

    พิมพิสาถามขึ้นด้วยความหงุดหงิด เมื่อมาถึงออฟฟิศคุณนวลระวีแล้วพบว่ามีแค่ผู้ช่วยของอ่อนช้อยที่ชื่อหมิวนั่งอยู่ในห้องกว้างขวางเพียงแค่คนเดียว

    ความจริงแล้วพิมพิสาไม่อยากเรียกอ่อนช้อยว่า “พี่” เลยแม้แต่น้อย แต่ทำยังไงได้ล่ะ วงการบันเทิงก็แบบนี้แหละ ต้องสวมหน้ากากเข้าหากัน ยิ่งเธอเองเป็นถึงนางเอกแถวหน้า หนำซ้ำยังเพิ่งมีข่าวเสียหาย เพราะฉะนั้นฝืนใจเรียกนังอ่อนช้อยว่า “พี่” ต่อหน้าคนอื่นก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง

    แต่ถึงพิมพิสาจะคิดได้อย่างนั้น ทว่าไม่ใช่ทุกคนจะคิดได้เหมือนเธอ เพราะผู้ช่วยของอ่อนช้อยยังไม่ทันได้ตอบ นางโฉมเฉลาก็พูดแทรกขึ้นมาทันทีด้วยเสียงดังลั่น

    “แล้วอีอ่อนมันอยู่ที่ไหน…ไปลากหัวมันมาซิ ไปบอกมันเดี๋ยวนี้ว่าแม่ของมันมา!”

    คำพูดของนางโฉมเฉลาทำเอาผู้ช่วยหมิวตกใจจนอ้าปากค้าง อย่าว่าแต่ผู้ช่วยเลยที่ตกใจ แม้แต่พิมพิสา เฉิดฉาย รวมทั้งนางพวงคราม ต่างก็ตกใจไม่ต่างกัน

    อีบ้า!

    พิมพิสาก่นด่านางโฉมเฉลาในใจ ก่อนตวัดหน้าเพื่อหันไปตำหนิอีกฝ่าย 

    นางโฉมเฉลาคิดว่าศักดิ์ฐานะแม่เลี้ยงของตัวเองจะเอามาอวดเบ่งที่นี่ได้กระมัง ถึงได้พูดจาเป็นแม่ค้าปากตลาดโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดไว้หน้าใครแบบนี้

    อ้อ…แล้วหน้าใครที่ว่า ก็หน้าของตัวเองนั่นแหละก่อนหน้าของคนอื่น!

    ทว่าพิมพิสายังไม่ทันอ้าปากตำหนิ เสียงเยือกเย็นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาก่อน

    “ลากหัวใคร! แล้วแม่ของใครมาอยู่ที่นี่!”

    น้ำเสียงนั้นดังมาจากประตู ทำให้พิมพิสาและคณะต้องหันไปมองพร้อมกันด้วยความตกใจ ก่อนพบว่าคนที่ยืนอยู่นั้นคือ…

    “คุณนวล”

    “อี…เอ๊ย! พี่ข้าว”

    คำพูดแรกคือพิมพิสากับนางพวงคราม ส่วนคำพูดหลังคือเฉิดฉาย ที่ต่างพูดออกมาพร้อมกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×