ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยานำดวง (Re-up มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #32 : ผู้ชายของเฉิด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.64K
      9
      28 มี.ค. 64

    งานเลี้ยงฉลองดำเนินไปอย่างแช่มชื่น อาหารเลิศรส ดนตรีไพเราะ…เพราะหนุนดวงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียง จึงผสมผสานเพลงแร็พ ฮิปฮอป กับเพลงรักจังหวะสบายๆ ได้อย่างลงตัว เพื่อเอาใจทั้งพี่ชายและคนสูงวัยอย่างแม่และคุณลุงอาจ บวกกับเสียงหัวเราะพูดคุยอย่างเป็นกันเองของทุกคน บรรยากาศจึงอบอวลไปด้วยความสุข 

    คนที่มีความสุขมากกว่าใคร และไม่ปิดบังใครๆ ว่ากำลังมีความสุข ก็คือนำดวงนี่แหละ ชายหนุ่มเดินถือแก้วไวน์เดินขอบคุณทุกคนหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ คุณลุง น้องๆ รวมถึงพนักงานในบริษัทที่มีโอกาสได้อยู่ร่วมงานเลี้ยงฉลองอย่างกะทันหันในค่ำคืนนี้ นำดวงทำท่าราวกับเจ้าบ่าวกำลังพาเจ้าสาวเดินขอบคุณแขกเหรื่อ เสียแต่ว่าเจ้าสาวของเขาไม่ยอมลุกมาเดินเคียงข้าง ปล่อยให้เขาเดินยิ้มแก้มพองอยู่คนเดียวนี่แหละ

    อ่อนช้อยยังนั่งอยู่ข้างคุณนวลระวี พูดคุยสัพเพเหระกับทุกคนในโต๊ะ วันจดทะเบียนสมรสของเธอ นำดวงเลือกวันมะรืนนี้ จะได้มีเวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งวันไม่ฉุกละหุก โดยสำนักงานเขตที่ชายหนุ่มตัดสินใจเลือกมาแต่แรก คือเขตสัมพันธวงศ์

    “จดทะเบียนเสร็จ แม่อยากให้ลูกอ่อนย้ายมาอยู่กับลูกนำที่นี่ ลูกอ่อนคิดว่ายังไงจ๊ะ?” คุณนวลระวีถามอ่อนช้อยในตอนหนึ่ง “สำหรับฤกษ์แต่งงานนั้น ลุงอาจบอกว่าปีนี้ไม่มีฤกษ์เหมาะ งานแต่งของลูกจึงถูกเลื่อนออกไปก่อน โดยวันที่ดีที่สุดคือต้นปีหน้า น่าจะเป็นวันเดียวกับลูกเหนือลูกข้าว”

    “อ่อนแล้วแต่คุณแม่ค่ะ”

    อ่อนช้อยตอบ ขณะที่นำดวงซึ่งเพิ่งกลับจากการ “ทักทายแขกเหรื่อ” รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ ทันได้ยินคำพูดของมารดาพอดี ชายหนุ่มก็แทบจะงับความตื่นเต้นของตัวเองไม่ได้ รีบถามอ่อนช้อยขึ้นทันที

    “ตกลงน้องอ่อนจะย้ายมาอยู่กับพี่นำจริงๆ ใช่ไหมครับ?”

    อ่อนช้อยยังไม่ทันตอบ เหนือดวงก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

    “น้องอ่อนจะมาอยู่กับพี่นำได้ยังไง ในเมื่อตึกของพี่ก็…” 

    เหนือดวงแกล้งพูดขัดคอพี่ชายในเรื่องเดิมอีกรอบหนึ่ง ชายหนุ่มหันหน้ากวาดตามองขวาสลับซ้าย ทำสีหน้าสีตาขนลุกขนพอง 

    “ตึกของพี่นำเพิ่งจะดูสะอาดสะอ้านก็วันนี้เองไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวรอดูอีกวันสองวันสิ ต้องกลับไปเละเทะเหมือนเดิมแน่ๆ”

    “หน็อยแน่ เจ้าน้องเหนือ” นำดวงทำท่าจะกระโจนเข้าหาน้องชาย “รอดูพรุ่งนี้ก่อนเถอะ พี่จะรีโนเวทตึกใหม่ทั้งหลังเลย เอาให้ทุกคนจำสภาพเดิมไม่ได้ หาทางเข้าตึกกันไม่ถูกเลยทีเดียว”

    นำดวงเสียงดัง เหนือดวงก็เสียงดัง ขณะที่หนุนดวงพูดแทรกพี่ชายน้องชายบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนคุณนวลระวี เคียงข้าวและอ่อนช้อย มองดูสามหนุ่มทะเลาะถกเถียงราวกับเป็นเด็กด้วยรอยยิ้ม 

    นายอาจหาญนั่งดื่มเบียร์ พลางมองดูหลานชายหลานสะใภ้ด้วยความชื่นบาน 

    แน่นอนแล้วว่านำดวงกับเหนือดวงคงจัดงานแต่งงานพร้อมกัน นั่นทำให้ชายชราเต็มไปด้วยความสุข ปีนี้พระพรหมท่านคงว่าง จึงกำหนดให้หลานชายสองคนของเขาได้พบเนื้อคู่และครองคู่กัน แต่ที่นายอาจหาญรอลุ้นมากที่สุดกลับเป็นหนุนดวง หลานชายคนกลางผู้มีบุคลิกวางเฉย เฉื่อยชา เนิบนาบ พูดน้อย ชายหนุ่มเคยประกาศว่าตัวเองไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อน ทว่าตามพื้นดวงแล้วหนุนดวงจะต้องพบรักในปีนี้ ในสถานที่แปลกประหลาดที่ทุกคนล้วนคาดไม่ถึง ดูท่าแล้วแม่หนูนวลอาจต้องจัดงานแต่งงานให้ลูกชายทั้งสามในวันเดียวกันก็เป็นได้

    เอ…ว่าแต่ธาตุประจำตัวของหลานชายคนกลาง มันคือธาตุอะไรนะ?

    นายอาจหาญนิ่งคิด ขณะยกเบียร์ขึ้นจิบด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

     

    ขณะที่งานเลี้ยงของนำดวง กำลังดำเนินไปด้วยความชื่นมื่นอบอวลเต็มไปด้วยความสุขของทุกคนนั้น ในห้องติดรั้วด้านหลังของบ้านพิมพิสา เฉิดฉายกำลังยืนมองเสื้อผ้าหกเจ็ดชุดที่วางแผ่อยู่บนเตียงด้วยสายตาครุ่นคิด 

    พรุ่งนี้เธอควรจะสวมเสื้อผ้าแบบไหนดี ในการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของนังคุณหนูรองไม่เต็มบาท

    เฉิดฉายเดินวนไปมา ขณะพิจารณาเสื้อผ้าแต่ละชุดอย่างเคร่งเครียดจริงจัง มีทั้งเสื้อกระโปรงเข้าชุด เสื้อกระโปรงแยกชิ้น มีทั้งสั้นทั้งยาว มีเสื้อและกางเกง หลากสีหลากทรงหลายแบบ ก่อนที่เธอจะจับแต่ละชุดพลิกจากด้านหน้าเป็นแผ่ด้านหลัง จากนั้นยืนมองอีกรอบหนึ่ง ไม่รวมที่ยกแนบกับลำตัว แล้วหันซ้ายหันขวาขณะมองตัวเองผ่านกระจกเงา ซึ่งเธอทำแบบนี้มานานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว

    เสื้อผ้าทั้งหมดเป็นของพิมพิสาที่ไม่ใส่แล้ว ด้วยตกแฟชั่นเพราะซื้อมาหลายปี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูใหม่เอี่ยม เพราะบางชุดนางเอกสาวใส่เพียงครั้งเดียว และบางชุดก็ยังไม่ได้ใส่เลยสักครั้ง แม้แต่ป้ายราคาก็ยังมีติดอยู่

    เฉิดฉายใฝ่ฝันอยากเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอสนใจเรื่องแฟชั่นมาโดยตลอด ติดตามดูการแต่งตัวของนางเอกนักแสดงที่มีชื่อเสียงไม่เคยขาด พอมาอยู่บ้านพิมพิสาก็เห็นนิตยสารแฟชั่นดาราวางอยู่เป็นตั้ง เธอจึงชอบหยิบมาเปิดดู พร้อมทั้งจินตนาการว่า ถ้าตัวเองสวมใส่จะออกมาเป็นอย่างไร และไม่ว่าจะพิจารณาจากมุมไหน เฉิดฉายก็อดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า เธอมีความสวยพอๆ หรือมากกว่าบรรดานางเอกนางแบบในนิตยสารแทบทั้งหมด

    การได้ดูแฟชั่นเสื้อผ้าในนิตยสาร ถือเป็นความโปรดปรานอย่างยิ่งของเฉิดฉาย เพราะช่วยทำให้ฝันในใจของเธอไม่มอดดับ หลายครั้งหญิงสาวคิดว่าความชอบของตัวเองนั้น ยังดีกว่าพิมพิสาที่ชอบอ่านนิยายจีนโบราณมากมายหลายเท่า การอ่านนิยายเล่มหนา ตัวหนังสือเป็นพืด กว่าจะจบแต่ละเรื่องก็ต้องอ่านเป็นสิบๆ เล่ม หนำซ้ำพออ่านจบแล้วยังกลายเป็นบ้าไม่เต็มบาทไม่เต็มเต็งอีก ช่างเป็นความชอบที่หาประโยชน์ไม่ได้และน่าหวาดหวั่นเสียเหลือเกิน

    เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขัดความคิดของเฉิดฉาย เธอหันหน้าไปดู ก็พบแม่ของตัวเองเดินเข้าห้องมาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

    “อีพวงมันโกงไพ่แม่ ดูซิ เสียเงินไปตั้งเกือบสองพัน”

    นางโฉมเฉลาบ่นไม่หยุด แต่พอมองเห็นดวงตาของลูกสาววาวโรจน์ นางก็รีบแก้ตัว

    “โชคดีที่แม่ไม่ต้องจ่าย เพราะให้มันหักเงินเดือนเอา แต่อีพวงมันความจำปลาทอง กว่าจะถึงสิ้นเดือนมันก็ลืมแล้วล่ะว่าแม่ติดเงินมันอยู่ ว่าแต่ลูกเฉิดทำอะไรอยู่หรือจ๊ะ กำลังเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่พรุ่งนี้ใช่ไหม…อุ๊ยตาย สวยทุกชุดเลย ลูกเฉิดคนสวยของแม่จะใส่ชุดไหนดีจ๊ะเนี่ย”

    นางโฉมเฉลาถนัดในการเอาอกเอาใจลูกสาวอย่างยิ่ง เพียงนางถามไถ่ด้วยคำพูดหวานหูไม่กี่คำ เดินมาจับๆ ลูบๆ เสื้อผ้าที่วางแผ่อยู่บนเตียง ความโกรธของเฉิดฉายก็จางหายราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หญิงสาวยกชุดเสื้อกระโปรงสีน้ำตาลอ่อน กับสีชมพูสลับเหลืองขึ้นมาแนบลำตัว พลางเอ่ยถามแม่อย่างขอความเห็น

    “เฉิดคิดไม่ตกว่าควรจะใส่เสื้อผ้าชุดไหนดี…สีน้ำตาลก็แสนเรียบหรู ส่วนสีชมพูก็ดูอ่อนหวาน” 

    หญิงสาวมีสีหน้าลำบากใจ ขณะมองเสื้อผ้าที่สองมือกำลังถืออยู่ 

    “เฉิดเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ ว่าควรใส่เสื้อผ้าสีไหนในวันพรุ่งนี้…ถ้าใส่สีอ่อนหวาน ก็กลัวจะดูไม่น่าเชื่อถือกับการเป็นผู้จัดการส่วนตัว แต่ถ้าใส่แบบเคร่งขรึม ก็กลัวจะแก่เกินไป เดี๋ยวไม่เป็นที่ประทับใจของคุณนำดวง”

    “แม่ว่าเรื่องนี้ไม่เห็นยากเลย”

    นางโฉมเฉลาพูดขึ้น ทำเอาเฉิดฉายต้องเลิกคิ้วเรียวขึ้นสูงอย่างแปลกใจ

    “ยังไงคะแม่?”

    “ลูกเฉิดก็เอาไปทั้งสองชุดเลยสิจ๊ะ” นางโฉมเฉลาพูดด้วยท่วงท่าแสนฉลาด” พรุ่งนี้อีพิมต้องถ่ายละครทั้งวัน ใครจะไปรู้ว่าจะเสร็จตอนไหน เพราะฉะนั้นลูกเฉิดก็ใส่ชุดหนึ่งไป พอตกบ่ายก็ค่อยเปลี่ยนอีกชุดหนึ่ง พอคุณนำดวงเห็นก็จะได้มองว่าลูกเฉิดของแม่เป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา หวานก็ได้ เคร่งขรึมเอางานเอาการก็เป็น แบบนี้จะไม่หลงรักลูกเฉิดของแม่ได้ยังไงจ๊ะ”

    “จริงด้วย เฉิดลืมนึกไปเลย ขอบคุณแม่มากนะคะ”

    เฉิดฉายยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะนำเสื้อผ้าทั้งหมดเก็บกลับเข้าตู้ เหลือเพียงชุดสีน้ำตาลกับสีชมพูเท่านั้นที่แขวนเอาไว้ในราวด้านนอก เพราะกลัวว่าเสื้อผ้าจะยับ ไม่ลืมที่จะเอ่ยปากชมแม่ตัวเองที่สามารถหาทางออกที่ดีแบบนี้ให้เธอได้

    เฉิดฉายไม่รู้ว่าความจริงแล้วนางโฉมเฉลาไม่ได้คิดเอง แต่นางพวงครามต่างหากที่หลุดปากบอกเธอว่า พรุ่งนี้พิมพิสาน่าจะถ่ายละครทั้งวัน เผลอๆ อาจมีนักข่าวแวะไปทำข่าวที่กองละครด้วย นางพวงครามจึงตั้งใจจะเตรียมชุดไปเปลี่ยนสองชุด ได้แก่ชุดแนวฮองเฮาหนึ่ง และชุดแนวไทเฮาอีกหนึ่ง นางโฉมเฉลาจึงเอาเรื่องนี้มาดัดแปลงบอกเฉิดฉายได้อย่างถูกจังหวะ

    เมื่อจัดการเรื่องเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย เฉิดฉายก็สบายใจจนร้องเพลงออกมาเบาๆ ขณะถือโทรศัพท์มือถือเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว พร้อมกันนั้นก็นึกถึงเรื่องที่เธอเพิ่งบอกแม่ว่าอยากทำให้คุณนำดวงประทับใจ

    เรื่องที่เธออยากได้นำดวงมาเป็นของตัวเองนั้น เฉิดฉายได้บอกให้นางโฉมเฉลารับรู้เรียบร้อยแล้ว ที่ผ่านมาหญิงสาวไม่เคยปกปิดเรื่องส่วนตัวต่อคนเป็นแม่ เธอเคยมีผู้ชายมาติดพันกี่คน เคยมีความสัมพันธ์กับใครไปบ้าง เฉิดฉายบอกนางโฉมเฉลาหมดทุกอย่าง ถึงแม้ผู้ชายพวกนั้นจะหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ แก่ชราคราวพ่อ พุงพลุ้ย ฟันยื่น หัวล้าน ให้เงินเธอแค่หลักร้อยหลักพันก็ตามที 

    แล้วเป้าหมายใหม่ในครั้งนี้คือคุณนำดวง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแฟนหนุ่มของอ่อนช้อย เธอยิ่งอยากเอาชนะจนแทบทนไม่ไหว ไม่รวมที่นำดวงเป็นลูกชายคนโตของคุณนวลระวี มีทั้งชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติ วันก่อนเธอเปิดอินเทอร์เน็ตค้นหาข่าวของเขา ก็พบภาพและวิดีโอของชายหนุ่มในวันแถลงข่าวเปิดตัวละครเรื่องข้าวเคียงเหนือ เฉิดฉายถึงกับใบหน้าร้อนผ่าว นั่งดูข่าวและเซฟรูปภาพของนำดวงเก็บเอาไว้แทบทั้งหมด

    สรุปว่าคุณนำดวงไม่ได้มีเพียงชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติเท่านั้น ทว่าชายหนุ่มผู้นี้ยังมีรูปสมบัติอีกด้วย เขามีเรือนร่างสูงใหญ่ราวกับฝรั่ง ใบหน้าหล่อเหลาออกแนวแบดบอยนิดๆ ตัดผมทรงสกินเฮดติดหนังศีรษะยิ่งขับให้เห็นถึงความไม่สนใจโลก ผิวพรรณขาวจัดตัดด้วยรอยสักหลากหลายสี ที่โผล่พ้นแขนเสื้อและลำคอ ดูเหมือนขบถหน้าหล่อแนวยากูซ่าหนุ่ม ทั้งคิ้วเรียวคม ทั้งดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ทอประกายเจิดจ้า แพขนตาหนา จมูกโด่งได้รูป ปากบางสีชมพูตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็ถูกใจเธอทุกอย่าง

    เพียงแค่เห็นรูปภาพของชายหนุ่ม เฉิดฉายก็บอกตัวเองได้ทันทีว่า ผู้ชายคนนี้แหละคือคนที่สวรรค์ส่งมาให้เธอ!

    เฉิดฉายย้ำกับตัวเอง ก่อนที่วูบหนึ่งนั้นเธอจะรู้สึกคุ้นหน้านำดวงอย่างประหลาด ราวกับเคยพบเจอชายหนุ่มมาก่อน แต่เมื่อย้อนคิดอีกหลายรอบหลายครั้ง เธอก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเคยเจอเขามาก่อนจริงหรือเปล่า

    แต่ถ้าไม่เคยเจอ แล้วทำไมเธอถึงคุ้นหน้าเขาเหลือเกิน 

    จะว่านำดวงเคยไปเที่ยวหมู่บ้านเขาตะคร้อ หรือเคยไปเล่นพนันตอนที่เธอทำงานในบ่อน ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือคุณนวลระวีเคยใช้หมู่บ้านเขาตะคร้อเป็นฉากในละคร แต่เมื่อเธอค้นหาข้อมูลละครต่างๆ ที่บริษัทคุณนวลระวีผลิต ก็ไม่มีเรื่องไหนใช้ฉากเขาตะคร้อเลยแม้แต่เรื่องเดียว แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรู้สึกอยู่นั่นเองว่าเคยพบหน้านำดวงมาก่อนจริงๆ

    คิดไปคิดมา เฉิดฉายก็สรุปกับตัวเองว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ สงสัยเป็นเพราะนำดวงเป็นเนื้อคู่ของเธอนั่นแหละ ไม่ใช่อะไรอื่นอีกแน่ๆ

    เฉิดฉายบอกตัวเองอย่างอิ่มเอมใจ ก่อนตัดความสงสัยทิ้ง แล้วกลับมาสนใจกับภาพถ่ายของนำดวงในอินเทอร์เน็ตต่อ โดยเฉพาะภาพและวิดีโอตอนสัมภาษณ์ชายหนุ่มในวันแถลงข่าวเปิดตัวละครนั้น เฉิดฉายเปิดดูซ้ำไปซ้ำมาไม่มีเบื่อ

    ละครเรื่องข้าวเคียงเหนือเป็นละครย้อนอดีต แฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครจึงย้อนไปยังสมัยคุณแม่คุณพ่อยังสาว ผู้หญิงจะนุ่งมินิสเกิร์ตสีสันสดใส มีลวดลายดอกไม้หรือลายเรขาคณิตบนลายผ้า ผมตีกระบัง ดัดลอน ม้วนก้นหอยตรงข้างแก้ม แต่งหน้าจัด ติดขนตาเป็นซี่สองชั้น มีผ้าสีสดคาดศีรษะ เครื่องประดับมีต่างหูดอกไม้บาน สร้อยคอมุกครบครัน ส่วนผู้ชายจะสวมเสื้อเชิ้ตไซส์พอดีตัว รวมทั้งกางเกงผ้ารัดรูปขาบาน

    ด้วยความสนใจต่อนำดวง ทำให้เฉิดฉายพิจารณามองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังมองใบหน้าหล่อเหลาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เธอก็เลื่อนสายตาลงต่ำ ผ่านเรือนร่างสูงใหญ่ ก่อนหยุดสายตาอยู่ตรงเป้ากางเกงของชายหนุ่ม

    ในวันแถลงข่าวเปิดตัวละคร นำดวงแต่งตัวย้อนอดีตตามธีมงาน สมกับที่รับบทบาทเป็นนักแสดงรับเชิญร่วมกับน้องชายทั้งสองคน ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตรัดรูปพอดีตัว แน่นอนว่ากางเกงผ้าขาบานของเขาก็พอดีตัวจนเรียกได้ว่าคับแน่นเช่นเดียวกัน

    สิ่งที่เฉิดฉายมองเห็นคือเป้ากางเกงของนำดวงที่อวบอูม ตุงแน่น มีอยู่ภาพหนึ่งที่นักข่าวถ่ายรูปของเขาจากด้านข้าง เธอแทบหยุดหายใจเมื่อมองเห็นตรงใต้เข็มขัดนั้นโหนกนูนราวกับใส่กระจับนักมวย ยิ่งพอขยายรูปดูแล้ว เฉิดฉายถึงกับมือสั่นเทา สามารถเดาได้ไม่ยากว่าภายใต้กางเกงที่รัดแน่นนั้น มีอาวุธยาวใหญ่ขนาดไหนขดตัวอยู่

    แม้เฉิดฉายจะมีอายุเพิ่งเลยยี่สิบมาสองปีกว่า แต่เธอเคยนอนกับผู้ชายมาแล้วหลายคน ตั้งแต่อายุสิบแปดที่เริ่มทำงานในบ่อน ออกจากบ้านไปเช่าห้องอยู่เอง ตั้งแต่ตอนนั้นหญิงสาวก็เรียนรู้วิธีหาเงินโดยการใช้ร่างกายเข้าแลกแล้ว เสียแต่ว่าผู้ชายทั้งหมดที่เธอเคยนอนด้วยนั้น ไม่มีใครหล่อเหลาเท่านำดวงเลยสักคน 

    ไม่สิ…อย่าว่าแต่หล่อเท่าเลย แค่เสี้ยวของเสี้ยวเดียวของนำดวง ก็ยังเทียบไม่ติด 

    เฉิดฉายจำได้ดีว่า ตอนที่เธอใช้ปลายนิ้วขยายรูปของนำดวง เพื่อดูเป้ากางเกงของชายหนุ่มชัดๆ แล้วเมื่อเห็นห่อหมกก้อนใหญ่อยู่ตรงหว่างขาของเขา เธอถึงกับมือสั่น รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบ ยิ่งเมื่อจินตนาการว่าชายหนุ่มเข้ามาตระกองกอดรัดรึงตัวเธอไว้แน่นในอ้อมแขน ค่อยๆ พรมจูบ แล้วถอดเสื้อผ้าของเธอออกจากตัว จากนั้นก็มอบความรักให้เธออย่างเปรมปรีดิ์ตลอดทั้งคืน เธอก็ทนไม่ไหวอีก

    เฉิดฉายหายใจหอบขณะนอนแผ่แอ่นตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ เป็นอีกครั้งหนึ่งแล้วที่หญิงสาวช่วยตัวเอง ขณะจินตนาการถึงภาพการร่วมสัมพันธ์อันร้อนแรงของเธอกับนำดวง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×