ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียเหนือเมฆ (Re-up มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #20 : พี่เหนือก็อยู่ด้วยทั้งคน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.7K
      35
      8 ก.พ. 64

    เคียงข้าวตกตะลึงกับสิ่งที่เหนือดวงทำ ที่จริงคำว่าตกตะลึงดูจะน้อยเกินไป ใช้คำว่า “ช็อค” น่าจะตรงมากกว่า

    หญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า ปากอ้าค้าง สมองขาวโพลน ถึงแม้เมื่อก่อนเธอจะเคยโดนเหนือดวงจับมือของเธอให้ลูบไล้ไอ้ช่อนยักษ์ท่าทางไม่รักดีตัวนี้ของเขามาแล้ว แต่นั่นก็แค่การสัมผัสจากภายนอก มีกางเกงของชายหนุ่มกางกั้นอยู่ ความรู้สึกจึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการได้เห็น “มัน” จะจะอย่างนี้

    ที่สำคัญ ดันมองเห็นมันในระยะประชิดเสียด้วย!

    แน่ล่ะ…ก็เพราะไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งขยับขามายืนข้างเตียง ด้วยความหวังดีที่จะได้ส่งยาให้เหนือดวงอย่างสะดวก ไม่ได้คิดเลยว่าจะทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป ไม่นึกว่าอีตาบ้านี่จะใจกล้าหน้าด้าน…ปลดปล่อยไอ้ช่อนสารเลวให้ออกมารับยาแทน!

    ลามกจกเปรต!

    บัดสีบัดเถลิง!

    รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!

    ชักจะหยามกันเกินไปแล้ว!

    แบบนี้ยอมไม่ได้!

    ยอมไม่ได้จริงๆ!

    ……...

    ว่าแต่ยอมไม่ได้แล้วจะทำยังไงดี?

     

    เคียงข้าวเบนสายตาออกจากไอ้ช่อนยักษ์ของเหนือดวงโดยอัตโนมัติ แต่ถึงจะทำอย่างนั้นมันก็สายไปแล้วจริงๆ เพราะตอนที่ชายหนุ่มกระดกก้นยกสะโพก ตอนนั้นเคียงข้าวก็ยังยืนมองด้วยความสงสัย แกมอยากรู้ด้วยความโง่งม ว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่ จนกระทั่งชายหนุ่มใช้สองมือรูดกางเกงออกจากตัวนั่นแหละ หญิงสาวถึงได้สติ จากนั้นก็ได้แต่ตกตะลึงเพราะคาดไม่ถึง 

    ด้วยเหตุนี้ เมื่อไอ้ช่อนสารเลวของเขาแสดงตัวออกมา มันจึงเตะตาของเธอเข้าเต็มๆ!

    ที่สำคัญ ไอ้ช่อนยักษ์ไร้ยางอายตัวนี้ ก็ไม่ได้แสดงตัวออกมาแบบกำลังหลับไหล…เหมือนเจ้านายของมันที่กำลังนอนทำท่าใกล้ตายเสียด้วย  แต่มันเด้งผึงออกมาราวกับกลัวว่าตัวเองจะไม่เด่น แสดงให้เห็นว่าไอ้ช่อนยักษ์น่าตายตัวนี้ มัน “แข็งตัว” รอท่ามาแล้วตั้งแต่แรก!

    แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวนาทีที่เธอ “บังเอิญ” มองโดยไม่ตั้งใจ แต่เคียงข้าวกลับมองเห็นชัดเจนถึงลำตัวยาวใหญ่ของมัน…ส่วนหัวบานๆ สีชมพูของมัน…ไข่แฝดกระเปาะใหญ่ที่ห้อยอยู่ใต้ลำตัวของมัน…หรือแม้แต่ขนดกดำที่ขึ้นอยู่รายรอบตัวมัน…ก็ยังติดอยู่จนเต็มสองตาของเธอจนตอนนี้

    บ้าที่สุด!

    “แค่พี่เหนือขอให้ทายาให้ ทำไมน้องข้าวต้องทำท่าเขินอายแบบนั้นด้วยล่ะครับ?”

    ขณะที่เคียงข้าวกำลังหันรีหันขวาง ทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น เสียงของเหนือดวงก็ดังขึ้นราวกับแสร้งตัดพ้อ หญิงสาวเม้มปากปรายตาไปมองชายหนุ่ม โดยพยายามเลี่ยงที่จะไม่มองไอ้ช่อนสารเลว ที่เหมือนเห็นมันกำลัง “ผงกหัว” อยากทักทายอยู่ไหวๆ ตรงปลายตา

    “น้องข้าวไม่เห็นต้องอายเลย…น้องข้าวจะอายทำไม ในเมื่อน้องข้าวไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย พี่เหนือก็อยู่ที่นี่ด้วยทั้งคน”

    หือ? 

    ไม่ต้องอายเพราะพี่เหนือก็อยู่ด้วยทั้งคน…

    พูดแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?

    เคียงข้าวปวดหัวจี้ดขึ้นมาทันที รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนชายหนุ่มปั่นหัว โมโหจนควันเริ่มใกล้ออกหู 

    ก็เพราะแกอยู่ที่นี่ด้วยทั้งคนนี่แหละค่ะ อีพี่เหนือ…ฉันถึงอาย…แน่จริงก็ถอดไอ้ช่อนยักษ์วางไว้ตรงนี้ แล้วก็ออกไปยืนรอข้างนอกก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวทายาให้เสร็จเมื่อไหร่ แล้วจะเรียกให้กลับมาเอา!

     

    ขณะที่เคียงข้าวกำลังหันรีหันขวาง  โมโหจนหน้าแดงก่ำ  แต่ทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น เหนือดวงที่นอนทำท่าอ่อนระโหยโรยแรง เหมือนคนหมดเรี่ยวสิ้นแรงใกล้ขาดใจตาย…แต่ไอ้ช่อนยักษ์ยังคงตั้งโด่…ก็พยายามกลั้นเสียงหัวเราะด้วยความขบขันเมื่อเห็นท่าทางของเธอ

    นึกแล้วก็ขำจริงๆ นะ

    เหนือดวงคิด

    ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะได้เห็นท่าทางแบบนี้ของเคียงข้าว หญิงสาวที่เคยถามว่า เขายังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า 

    เหนือดวงยังจำได้ดีถึงดวงตาดำขลับเป็นประกายวับวาว  บ่งบอกถึงความเฉลียวฉลาดทันคน นั่งประสานสายตากับเขาแน่วนิ่ง  ทำท่าทางเคร่งเครียดจริงจัง ราวกับว่าถ้าไม่ได้คำตอบจากเขาแล้ว เธอจะนอนตายตาไม่หลับ

    ทั้งที่วันนั้น  เป็นวันแรกที่เขากับเธอได้เจอกันแท้ๆ 

    เหนือดวงยังจำได้ดีถึงดวงตาดำขลับเป็นประกายกระจ่างสุกใส คิ้วโก่งธรรมชาติ จมูกได้รูป และปากสีชมพูสด ซึ่งเผยอออกน้อยๆ จนเห็นฟันขาวสะอาดของเธอ วงหน้าเรียว ผิวขาวเนียน แต่ไร้ซึ่งเครื่องสำอางใดๆ บนใบหน้า แม้แต่ผมดำขลับยาวระบ่า ก็เหมือนไม่ได้เสียเวลาเพื่อจัดแต่งทรง

    วันแรกที่ได้เห็นตัวจริงเคียงข้าว เหนือดวงยอมรับว่าเขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น

    แต่แน่นอนว่า วันนั้น…เขายังไม่ได้รัก…

    ส่วนวันนี้เขา…

    เขาควรจะบอกความรู้สึกของตัวเองได้หรือยัง?

    เพราะเขามีแม่เป็นดาราชื่อดัง จากนั้นผันตัวมาเป็นผู้จัดละคร ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่เล็กจนโต เหนือดวงจึงใช้ชีวิตท่ามกลางเหล่าดาราที่มีชื่อเสียง เมื่อเรียนจบมาเป็นคนเขียนบทโทรทัศน์ ก็ถือได้ว่าเป็นคนในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวคนหนึ่ง การได้พบปะเจอะเจอกับดารานักแสดง จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ว่าดาราระดับไหน เหนือดวงก็พบเห็นมาหมดแล้ว 

    ในวงการบันเทิงที่เต็มไปด้วยสาวงามมากมายหลายระดับ ทุกคนล้วนซุกซ่อนความทะเยอทะยานอยากได้ใครมี หาวิธีไต่เต้าเพื่อชื่อเสียงเงินทอง กระทั่งยอมทำอะไรก็ได้ เช่น ขายวิญญาณให้แก่นายทุน ผู้กำกับ รวมถึงคนเกี่ยวข้องที่มีเส้นสาย ซึ่งสามารถผลักดันพวกเธอให้มีชื่อเสียงและเงินทองได้ในอนาคต

    แน่นอนว่าเขาเอง ก็เป็นหนึ่งในผู้คนที่มีเส้นสาย 

    ดาราหญิงระดับนางเอกหรือนางรองที่อยากได้เขาเป็นแฟน ที่ผ่านมานั้นก็มีมากมายหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเพราะรักชอบจริงๆ หรือทำเพื่อผลประโยชน์ก็ตาม

    แต่เหนือดวงไม่เคยใส่ใจดาราเหล่านั้น

    ชายหนุ่มไม่อยากออกไปจากโลกที่สงบสุขของตัวเอง ขณะเดียวกัน ก็มองไม่เห็นว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่ “มีค่าพอ” พอที่เขาจะให้มาอยู่ร่วมโลก

    โลกที่หมุนไปอย่างงดงามเชื่องช้า โลกที่เต็มไปด้วยหนังสือหนังหา และจินตนาการ

    แต่วงการบันเทิงกลับเป็นโลกที่มีสีสันฉูดฉาดเร่าร้อน เป็นโลกแห่งความเลือดเย็น เต็มไปด้วยเสือสิงห์งูพิษ   

    เหนือดวงไม่อยากอาศัยอยู่ในโลกที่ต้องคอยระวังหลังอยู่ตลอดเวลา และไม่อยากพาผู้หญิงจากโลกแบบนั้น มาทำให้โลกของเขาแปดเปื้อน

    นั่นจนกระทั่งเคียงข้าวเดินเข้ามา โดยมีมารดาของเขาเป็นคนพาเธอมาส่ง ทำให้เหนือดวงสัมผัสได้ว่า เขากับเธอต่างมาจากโลกที่ใกล้เคียงกัน 

    แต่ใครจะคิดล่ะว่า ผู้หญิงที่ดูจริงใจไร้เดียงสา จะมาพร้อมคำถามที่ว่า 

    “เขายังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า?”

    น่าเหลือเชื่อจริงๆ!

    เคียงข้าวไม่รู้เลยหรือไงว่า คำถามนั้นมันมีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงและหยาบคายยิ่งนัก รุกรานทำลายความเป็นส่วนตัว…ที่ยิ่งกว่าเรื่องส่วนตัวของเขาเสียอีก ทำเอาเขาตกตะลึง นิ่งอึ้ง ทำหน้าไม่ถูกไปครู่ใหญ่ ต้องเฉไฉอวดตัวเองว่าเขามีลูกช่อนตัวยักษ์ จากนั้นก็ดึงมือของเธอให้มาสัมผัส เป็นการเบี่ยงเบนคำถามที่เธอตั้งใจรอฟังคำตอบ

    นี่ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาพร้อมปลาช่อนตัวใหญ่ แต่ปลาที่มีติดกายคือปลาซิวปลาสร้อย ตัวเล็กจิดริดห้อยติดตัว ก็ไม่รู้เลยว่าตอนนั้น เขาจะเอาอะไรไปอวดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ!

    เพราะฉะนั้น การได้เอาคืนเคียงข้าวบ้าง ได้เห็นเธอทำท่าลนลาน ทำตัวไม่ถูกแบบนี้บ้าง มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ

     

    เหนือดวงพยายามกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น เมื่อตัวสั่น แขนก็สั่น จากนั้นสองขาของเขาก็สั่น และในที่สุด…แม้แต่ที่นอนก็เหมือนจะเริ่มสั่นตามมา

    แน่นอนว่าเมื่อทุกอย่างสั่นถึงขนาดนี้ ลูกช่อนยักษ์ของเขาที่ตั้งตระหง่านท้าลม ก็พลอยสั่นเทิ้มเป็นหอคอยเจอแผ่นดินไหวตามไปด้วย ไม่ต่างอะไรกับอุปาทานหมู่

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×