คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : คุณนวลระวีให้โอกาส
“เอ่อ คือ…คือว่า…”
พิมพิสากำลังนึกหาคำแก้ตัว แต่เสียงเย็นชาของอ่อนช้อยดังขึ้นมาเสียก่อน
“คุณนวลระวีกับคุณเหนือดวงบอกว่า เห็นแก่ที่น้องพิมยังเด็ก ทำอะไรลงไปจึงอาจไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง และเห็นแก่คุณแม่ของน้องพิมที่แก่มากแล้ว อาจเกิดความเลอะเลือนไปชั่วขณะ เรื่องนี้คุณนวลระวีกับคุณเหนือดวงจะยกโทษให้ แต่ถ้าน้องพิมกับทางคุณแม่ไม่อยากหยุด ยังต้องการจะเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆ คุณนวลระวีแนะนำให้น้องพิมกับคุณแม่ไปแจ้งความให้เป็นลายลักษณ์อักษรก่อน เราจะได้นำกฎหมายมาสรุปเรื่องนี้ เพื่อความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย”
พิมพิสานิ่งอึ้งตะลึงงันกับการเปิดเรื่องคุยของอ่อนช้อย หญิงสาวอ้าปากแล้วหุบอยู่ครู่ใหญ่ กว่าจะได้สติ ละล่ำละลักตอบ
“เอ่อ…ไม่ค่ะ…พี่อ่อนช้อย น้องพิมขอรบกวนพี่อ่อนช้อย ช่วยแจ้งคุณนวลระวีกับคุณเหนือดวงด้วยนะคะ ว่าเรื่องนี้เป็นความเลอะเลือนของคุณแม่น้องพิมเอง…น้องพิมต้องกราบขออภัยจริงๆ ค่ะ ความจริงน้องพิมอยากจะเข้าไปกราบขออภัยต่อคุณนวลระวี และคุณเหนือดวงด้วยตัวเองด้วยซ้ำ…คุณแม่ก็เหมือนกันค่ะ…อีกอย่างคือ…จริงๆ แล้วคลิปนั่นก็ไม่รู้คลิปของใคร”
“อ้าว ก็คุณแม่ของน้องพิมบอกว่า คลิปนั่นเป็นคลิปของคุณเหนือดวงไม่ใช่หรือคะ? ตอนนั้นคุณแม่ของน้องพิมยังบอกอีกว่า น้องพิมถูกคุณเหนือดวงขืนใจตอนไปร่วมงานการกุศลที่จังหวัดแห่งหนึ่ง ทั้งที่จริงแล้วงานวันนั้น คุณเหนือดวงแค่ไปรับคุณนวลระวีที่เป็นกรรมการจัดงาน แต่ไม่ได้นอนค้าง”
“ไม่…ไม่ใช่ค่ะ พี่อ่อนช้อยคะ น้องพิมสาบานได้เลยว่าคุณแม่ของน้องพิมเข้าใจผิดจริงๆ ค่ะ” พิมพิสาแก้ตัวจนลิ้นแทบพันกัน “คุณแม่ของน้องพิมท่านแก่มากแล้ว ก็เลยเลอะเลือนอย่างที่คุณนวลระวีว่าน่ะค่ะ”
แม้กำลังอยู่ในสถานการณ์การแก้ตัว แต่พิมพิสาก็ยังไม่วายที่จะหันมาจิกปากเน้นย้ำคำว่า “เลอะเลือน” ใส่หน้านางพวงครามหนักๆ เหมือนใช้โอกาสนี้ด่าแม่ตัวเองที่ด่าเธอมากมายเมื่อครู่ก่อน
“จริงหรือคะ?”
“จริงค่ะ พักหลังคุณแม่ของน้องพิมท่านหลงๆ ลืมๆ เลอะๆ เลือนๆ ไปมากจริงๆ เมื่อวันก่อนคุณแม่ยังออกไปรอตักบาตรพระตอนหกโมงเย็นเลยค่ะ”
ด้วยความที่กลัวอีกฝ่ายไม่เชื่อ พิมพิสาจึงเติมน้ำเติมเนื้อเกินจริง ขณะที่นางพวงครามซึ่งนั่งฟังอยู่ข้างๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากถลึงตา อ้าปากด่าลูกสาวว่า “อีเฮีย” แบบไม่มีเสียง
“ที่สำคัญ คลิปนั่นมาจากเว็บโป๊ของจีนค่ะ น้องพิมรู้เพราะว่าน้องพิมโหลดมาเอง…เอ๊ย! เพราะว่ามีเพื่อนของเพื่อนคนหนึ่งส่งมาแกล้งน้องพิมน่ะค่ะ”
“อ้อ” เสียงของอ่อนช้อยราบเรียบ “โอเคค่ะ งั้นพี่จะรายงานคุณนวลระวีกับคุณเหนือดวงไปตามนี้”
“น้องพิมขอกราบขอบพระคุณพี่อ่อนช้อยล่วงหน้านะคะ”
พิมพิสาแทบจะกราบไปตามสายโทรศัพท์จริงๆ หญิงสาวรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงกะทันหัน อดคิดไม่ได้ว่าการพูดคุยกับอ่อนช้อย แม้เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่นาที แต่หัวใจของเธอกลับขมึงตึงเครียด ไม่ต่างจากกำลังนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ราวกับสามารถช็อคตายได้ง่ายๆ
ขนาดคุยกับเลขายังเครียดหนักขนาดนี้ ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าเธอต้องคุยกับคุณนวลระวีตัวจริงจะเป็นยังไงบ้าง เพียงแค่คิดพิมพิสาก็รู้สึกขนลุกไปแล้วทั้งตัว
“เรื่องที่สอง…”
เสียงของอ่อนช้อยดังขึ้น พิมพิสาจึงได้สติ กลับมาใช้สมาธิกับเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง
“เอ่อ ค่ะๆ เรื่องที่สองค่ะพี่อ่อนช้อย” หญิงสาวพูดตามราวกับโดนสะกดจิต
“เรื่องที่สอง คุณนวลระวีเห็นข่าวของน้องพิมจากเพจต่างๆ แล้ว”
อ่อนช้อยเกริ่นนำ แล้วหยุดพูด ทำเอาพิมพิสากับนางพวงครามหายใจกระชั้นถี่ ด้วยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ แต่ทั้งคู่ไม่ต้องรอนาน เพราะเพียงไม่กี่อึดใจ เสียงเย็นๆ ของอ่อนช้อยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“เมื่อวานนี้ นักข่าวที่ชื่ออวบอ้วนโทรมาบอกคุณนวลระวีว่า น้องพิมเป็นคนส่งข่าวพวกนั้นไปให้เขาเอง น้องพิมบอกเขาว่า ถ้าหมดสัญญากับทางช่องเดิม น้องพิมจะไม่ต่อสัญญา เนื่องจากน้องพิมได้รับการติดต่อจากคุณนวลระวีให้มาร่วมงานด้วย”
พิมพิสาที่กำลังหายใจติดขัด แทบจะหยุดหายใจไปจริงๆ ใบหน้าสวยของเธอเผือดสี คราวนี้รุนแรงจนหญิงสาวรู้สึกหูอื้อตาลาย นึกหาคำแก้ตัวไม่ถูก…สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงอย่างเดียว คือขุดเอาโคตรเหง้าศักราช และผีบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของอีอวบอ้วนออกมาสาปแช่ง และด่าในใจซ้ำมาซ้ำไปด้วยความแค้น
“คือเรื่องนี้…พิม เอ่อ…”
พิมพิสาอึกอัก พยายามนึกหาคำแก้ตัวที่ดูดีและมีเหตุผลให้กับตัวเอง แต่เธอก็หาไม่ได้
จะให้แก้ตัวว่ายังไงล่ะ ในเมื่ออีนังอวบอ้วนก็ได้ทรยศหักหลัง หอบเอาความจริงทุกอย่างไปบอกคุณนวลระวีหมดแล้ว ถ้าเธอยังแถแก้ตัวหน้าด้านๆ ว่าที่อีกฝ่ายพูดมาไม่ใช่เรื่องจริง เกิดนังอวบอ้วนเอายอดเงินที่เธอโอนให้มาโยนใส่หน้า แล้วเธอจะทำยังไงต่อ?
ยังไม่รวมที่ว่านังอวบอ้วนเป็นนักข่าวมีชื่อ เป็นเจ้าของเพจดังที่มีคนติดตามนับล้านคน แล้วไหนจะคอนเน็คชั่นเส้นสายระหว่างนักข่าวอีก ขณะที่คุณนวลระวีก็อย่างที่รู้กัน เธอมีอิทธิพลในวงการชนิดล้นฟ้า แล้วไม้ซีกเล็กๆ สวยๆ อย่างพิมพิสา หรือจะกล้าเอาตัวเองไปงัดไม้ซุงท่อนใหญ่พร้อมกันถึงสองท่อน!
ถึงจะเกิดมาสวย แต่พิมพิสาก็ไม่ได้โง่เง่าไร้สมองหรอกนะ ถึงจะเอาคอตัวเองไปวางพาดบนเขียง แล้วก็เรียกทุกคนมามุงดูว่าคอของเธอกับมีดปังตอ และเขียง อะไรจะคมกว่ากัน!
แค่ในปัจจุบัน เธอก็แทบจะมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
พิมพิสารู้สึกอับจนหนทาง โกรธเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้ อยากก่นด่าโชคชะตาฟ้าดินอีกสักรอบสองรอบ แต่รู้ดีว่าตอนนี้ด่าไปก็ไร้ประโยชน์
อ่อนช้อยเองพูดจบก็นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรอีกแม้แต่ครึ่งคำ ราวกับว่าเลขาสาวมีเวลาเหลือเฟือ เลยถือสายรอฟังว่าเธอจะแก้ตัวว่าอย่างไร
ช่วงเวลาอึดอัดเดินผ่านไปอย่างเชื่องช้าและตึงเครียด ก่อนที่พิมพิสาจะพูดขึ้นมาเสียงแผ่ว
“คือน้องพิม…น้องพิมขอโทษค่ะ”
พิมพิสาได้ยินเสียง “หึ” เบาๆ ราวกับอีกฝ่ายกำลังเยาะหยัน
“น้องพิมต้องขอโทษคุณนวลระวีค่ะ ไม่ใช่ขอโทษพี่” เลขานุการสาวบอกปัดเสียงเย็น “เท่ากับตอนนี้พี่คุยกับน้องพิมไปสองเรื่องแล้วนะคะ ตอนนี้ก็เหลืออยู่อีกเรื่องเดียว”
“เอ่อ…ค่ะ…” พิมพิสาตอบรับ
จู่ๆ นางเอกสาวก็รู้สึกว่า ที่อ่อนช้อยโทรหาเธอในวันนี้ เหมือนอีกฝ่ายตั้งใจจะโทรมาด่าเธอโดยเฉพาะ ใจหนึ่งพิมพิสาก็อยากตัดสายทิ้งไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจก็ยังอยากรู้เรื่องที่สามที่อีกฝ่ายยังไม่ได้พูดออกมา
อ่อนช้อยคงไม่ขยันแยกคอนเทนท์ เพื่อด่าเธอติดกันสามเรื่องรวดหรอกกระมัง
พิมพิสานึกภาวนาในใจ ขณะเดียวกันก็รีบใช้สมองครุ่นคิด พยายามนึกว่ายังมีเหตุการณ์อื่นๆ อีกหรือเปล่า ที่เธอเอาชื่อของคุณนวลระวีและครอบครัวไปแอบอ้าง จะได้ทำใจเอาไว้ล่วงหน้า ไม่ต้องมานั่งลุ้นใจหายใจคว่ำว่า เธอจะถูกเลขาเสียงเย็นชาจิกด่าด้วยเรื่องอะไรอีก
“เรื่องที่สาม ต่อเนื่องมาจากเรื่องที่สองค่ะ”
เสียงของอ่อนช้อยปลุกพิมพิสาให้ตื่นจากภวังค์ความฟุ้งซ่าน
“น้องพิมพร้อมจะฟังไหมคะ?”
ถ้าตอบว่ายังไม่พร้อม ขออนุญาตไปรดน้ำมนต์ที่วัดก่อนแล้วจะกลับมาฟัง…จะถือสายรอมั้ยล่ะคะ?
พิมพิสานึกประชดในใจ ขณะที่ปากตอบอีกฝ่ายออกไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
“น้องพิมพร้อมค่ะ พี่อ่อนช้อย”
“ถึงแม้สิ่งที่น้องพิมทำไป จะเป็นการโกหก ตลบตะแลง เอาชื่อของคุณนวลระวีไปแอบอ้างเพื่อสร้างเครดิตจอมปลอมให้กับตัวเอง”
โอย สรุปด่าสามเรื่องรวดจริงๆ ด้วย…
พิมพิสาโอดครวญ ทว่าประโยคต่อมาของอ่อนช้อย ก็ทำเอาเธอหูผึ่ง
“อย่างไรก็ตาม คุณนวลระวียอมยกโทษให้กับน้องพิม คิดว่าที่น้องพิมทำไปแบบนั้น อาจเป็นเพราะน้องพิมอยากมาร่วมงานกับคุณนวลระวีจริงๆ …คุณนวลระวีจึงจะให้โอกาสน้องพิมได้เข้ามาเซ็นสัญญาค่ะ”
หือ?!
พิมพิสาตาโต ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน แต่เมื่อหันไปมองหน้าแม่ เธอก็พบว่านางพวงครามในตอนนี้ นอกจากจะตาโตกว่าเธอแล้ว ปากยังอ้ากว้างราวกับสามารถอมลูกเทนนิสได้สองสามลูก
“พี่อ่อนช้อยว่ายังไงนะคะ!”
พิมพิสาถามอีกฝ่ายเสียงดัง แทบไม่อาจระงับความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ได้
“คุณนวลระวีจะให้โอกาสน้องพิมเข้ามาเซ็นสัญญาค่ะ”
เสียงของอ่อนช้อยยังคงเย็นชาดุจเดิม แต่คราวนี้นางเอกสาวกลับรู้สึกว่าเสียงของเลขาช่างไพเราะอ่อนหวาน มากกว่าทุกเสียงที่เธอเคยได้ยินในโลก
“คุณนวลระวีจะให้น้องพิมไปเซ็นสัญญา!” พิมพิสาทวนคำ ดีใจจนปากสั่นมือสั่น “พี่อ่อนช้อยไม่ได้ล้อน้องพิมเล่นใช่ไหมคะ?”
“เรื่องจริงค่ะ” อ่อนช้อยตอบ “และหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว น้องพิมจะได้รับบทนางเอกในละครฟอร์มใหญ่ ที่จะเปิดกล้องในอีกสองเดือนข้างหน้านี้”
พิมพิสากับนางพวงครามดีใจจนยิ้มไม่หุบ แทบอยากลุกขึ้นเต้นแร้งเต้นกา แล้วร้องกรี๊ดๆ ออกมาพร้อมกัน
“แต่…” เสียงของอ่อนช้อยดังขึ้นอีก “แต่น้องพิมจะต้องมาเซ็นสัญญาภายในวันมะรืนนี้เท่านั้นนะคะ”
“มะรืนนี้…วันพุธ”
พิมพิสาทวนคำพลางนับวัน ก่อนที่เธอจะหน้าซีด เอ่ยปากถามอ่อนช้อยด้วยน้ำเสียงเกรงใจ ฟังดูน่าสงสาร
“เอ่อ…พี่อ่อนช้อยคะ ถ้าน้องพิมขออนุญาตไปเซ็นสัญญาในวันพฤหัสฯ จะได้ไหมคะ พอดีสัญญาของน้องพิมจะหมดในวันพุธนี้พอดี ถ้าน้องพิมไปขอยกเลิกสัญญากับทางช่องก่อน น้องพิมคงต้องจ่ายค่ายกเลิกสัญญาประมาณห้าล้าน”
พิมพิสาพูดยังไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ อ่อนช้อยก็พูดตัดบทของเธอ
“ไม่ได้ค่ะ คุณนวลระวีว่างวันพุธนี้วันเดียว ถ้าน้องพิมมาได้คุณนวลระวีก็ยินดีต้อนรับ แต่หากน้องพิมไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ สวัสดีค่ะ”
พูดจบอ่อนช้อยก็ตัดสาย ทิ้งให้พิมพิสากับนางพวงครามนั่งมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น
ความคิดเห็น