ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : scene 7
ห้อง VIP :
โจวเจวี้ยหมินมองร่างแสร้งไร้สติ บนเตียงน้ำ อย่างเย็นชา...
Bitch
เขาน่าจะรู้ตั้งแต่แรก ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากกลุ่มนางฟ้า..... ฉาบหน้าสวยใส ไร้เดียงสา แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ต่างกันทั้งนั้น
โจวเจวี้ยหมินหลับตา ขบกรามจนขึ้นสันนูน.... รู้สึกโมโหตัวเองที่รู้สึกผิดต่อหล่อนจนตัดสินใจว่าจะย้ายที่เรียนไม่อยากให้หล่อนต้องลำบากใจในการดูแลเขา.... เพราะใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของหล่อนหลอกลวงให้เขานึกว่าทำความผิดกับผู้หญิงที่บริสุทธิ์จริง ๆ.... และที่น่าเจ็บใจมากไปกว่านั้น คือ เขารู้สึกพึงพอใจที่จะจูบหล่อน และ สัมผัสหล่อน
ทั้ง ๆ ที่เขาจะรู้สึกรังเกียจสัมผัสของผู้หญิงจนจวนเจียนจะอ้วกทุกครั้ง.....จริงอยู่ที่เขาผ่านผู้หญิงของซางเจวี่ยมานับไม่ถ้วน แต่ซางเจวี่ยก็สอนวิธีที่จะหาความสุขจากร่างกายผู้หญิงโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสหรือแตะต้องร่างกายที่เขารังเกียจเอาไว้....
แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ ให้ตายเถอะนอกจากจะไม่รังเกียจหล่อน เขายังปรารถนาที่จะแตะต้องหล่อนเองด้วยซ้ำไป....
โจวเจวี้ยหมินลุกยืนขึ้นอย่างหัวเสีย  เดินย่างสามขุมไปยังร่างที่เขาโยนทิ้งเอาไว้หลังจากอุ้มหล่อนเข้ามาเมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ....  อันที่จริงครั้งแรกที่เขาเห็นหล่อน เขานึกว่าหล่อนจะมาตามเขา..... แต่พอเห็นหล่อนเดินไปหามาม่าซังที่เป็นผู้คอยจัดคิวให้กับพนักงาน
และหล่อนเดินขึ้นบันไดของแขกชั้น VIP เขาจึงเดาได้ว่าหล่อนคงมาทำงานพิเศษอย่างที่เด็ก ๆ ใจแตกเดี๋ยวนี้ชอบทำ....ความรู้สึกตอนนั้นคือโกรธมาก เขารู้สึกเหมือนกับไอ้งั่งที่ถูกหลอก กลายเป็นเหยื่อของกลุ่มนางฟ้าดังเช่นในอดีต...เขาต้องการแก้แค้น
โจวเจวี้ยหมินกระแทกร่างลงนั่งข้าง ๆ เธอ    ตั้งใจจะกระชากเธอขึ้นมา ให้เลิกเล่นละครตบตาเขา....แต่ทว่าเมื่อเขาเห็นหล่อนชัด ๆ  ความรู้สึกอ่อนโยนก็เกิดขึ้นในหัวใจ.... ใบหน้าหลับไหลไร้เดียงสา เกินกว่าจะคิดได้ว่าหล่อนแสร้งหลับอยู่.... ยังจะลมหายใจที่สม่ำเสมอ....แพรขนตาที่ถูกตกแต่งแนบสนิทไปกับแก้มอิ่ม มันขยับหยุกหยิก ก่อนจะกระพริบปริบและเบิกกว้าง  ???!!
โครม !
(โจวเจวี้ยหมินหงายหลังตกเตียงน้ำลงไป ด้วยแรงผลักสุดแรงเกิดของซิงหยู )
“ยายบ้า !    ทำอะไรของเธอ ” พยุงตัวลุกขึ้นมาได้  โจวเจวี้ยหมินก็ตวาดอย่างมีอารมณ์
“ คุณหนูโจวเจวี้ยหมิน ??... ทำไมถึงเป็นคุณไปได้ล่ะ ?  ”
“ พูดอะไรของเธอ ”
ซิงหยูมองหน้าโจวเจวี้ยหมิน นึกไม่ออกว่าเธอหลุดพ้นมาจากแขกลามกได้อย่างไร ... บางทีคงเป็นเขาที่มาช่วยเธอเอาไว้เหมือนคราวที่แล้ว    แต่ตอนนี้เธอไม่นึกมีอารมณ์อยากขอบคุณเขา ..  จะว่าไป  ก็เป็นเพราะเขาน่ะแหละที่ทำให้เธอต้องมาเผชิญเหตุการณ์แบบนี้
“ ช่างเถอะค่ะ... ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะพูดกับคุณหนู”
“ เรื่องสำคัญ ? (หรี่สายตามอง)... นี่เธอจะบอกว่าที่เข้ามาในนี้ก็เพื่อจะมาหาฉันอย่างนั้นหรือ “
“ ก็ใช่น่ะสิ..... แล้วคิดว่าฉันจะเข้ามาในร้านบ้า ๆ นี่ทำไมกันล่ะ”  เผลอตวาดแหวอย่างมีอารมณ์
“............”  โจวเจวี้ยหมินกอดอก    ก้าวถอยหลังไปยืนพิงโซฟาปลายเตียงโดยไม่พูดอะไร... และนั่นยิ่งทำให้ซิงหยูรู้สึกอึดอัด 
ก็ชุดของเธอมันดูได้เสียที่ไหน  ...ถึงสายตาของเขาจะไม่ลามกจาบจ้วง ติดจะนิ่งเฉยและเย็นชา แต่ถึงอย่างนั้นซิงหยูก็ยังรู้สึกประหม่าอาย
“ เอ้อ...ดิฉันว่าเราควรเปลี่ยนที่คุยกันดีกว่านะคะ ที่แบบนี้มันไม่ค่อยจะดี” ว่าแล้วก็ก้าวลงจากเตียง หันซ้ายหันขวาหาประตูทางออก
“ พูดมา”
“ คะ ?..”
“ เรื่องสำคัญของเธอไงล่ะ.... ถึงขนาดแต่งตัวแบบนั้นเพื่อตามหาฉัน ... ฉันอยากฟังมัน”
ซิงหยูลังเล  ที่จริงเธออยากคุยในภาวะที่อึดอัดน้อยกว่านี้..... แต่ว่า หากเขาสนใจที่จะฟังมัน    โอกาสในการโน้มน้าวให้เขาเห็นถึงเหตุผลก็คงจะง่ายขึ้น..... อีกอย่างเขาคงไม่สนใจผู้หญิงรูปร่างแบน ๆ อย่างเธอหรอก
“ เรื่องเรียนน่ะค่ะ..... ได้โปรดกลับไปเรียนต่อที่โรงเรียนด้วยเถอะนะคะ”    พูดพลางก้มหัวเป็นเชิงขอร้อง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็ยังคงเห็นเขาจ้องอยู่เช่นเดิม  ไม่มีท่าทีที่จะตอบรับหรือปฎิเสธแต่อย่างใด     
“ ปลดฉันจากตำแหน่งผู้ดูแล      แต่กรุณากลับไปเรียนต่อด้วยเถอะค่ะ ... คุณหนูมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของโรงเรียนนะคะ...
ทางบอร์ดบริหาร  เพราะคิดจะยุบโรงเรียนเพื่อทำโรงพยาบาลจึงหาทางมาโดยตลอด  .. แต่เป็นเพราะคุณหนู ทางโรงเรียนถึงยังสามารถยืดเวลาอยู่ได้ .... และถ้าโรงเรียนมีเวลามากพอ--”
“ ทำไมฉันต้องฟังคำขอร้องของเธอด้วย “
“ เอ๋ ?!!”
“ ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอขอร้อง.... กลับไปเรียนต่อ ....  เธอลองบอกประโยชน์ที่ฉันจะได้มาสิ ” ถามด้วยใบหน้าเฉยชา ขณะตวัดขาก้าวข้ามพนักเก้าอี้โซฟาเพื่อนั่งลง
---หนอย !  ตาเด็กบ้านี่ ฉันคิดได้อย่างไรนะว่าหมอนี่จะอ่อนโยน และ มีความเข้าอกเข้าใจในความเดือดร้อนของคนอื่น ----
ซิงหยูสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ .... เธอเคยรับมือกับเด็กดื้อมาตั้งมากมาย กะแค่เด็กเอาแต่ใจที่บังเอิญตัวสูงใหญ่กว่าเธอเท่านั้นเอง
ซิงหยูพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ
“ ถ้าคุณชายกลับไป  ก็เป็นผลดีกับตัวคุณชายเองไม่ใช่หรือคะ ...  ถึงคุณชายจะหัวดี , เรียนเก่ง  แต่ว่า... ถ้าไม่จบตามระบอบการศึกษา  ก็ใช่ว่าจะสามารถไปเรียนต่อที่ไหนได้  ..และการศึกษาใต้หวันก็ก็มีทีมตรวจสอบ TPE ที่เข้มงวดเรื่องระยะเวลาการเข้าเรียน แม้แต่เป็นโรงเรียนของพ่อก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อเวลาการเข้าเรียนได้นะคะ ”  ซิงหยูยิ้มให้อย่างเป็นต่อ
“ ก็อย่างที่เธอบอกนั่นแหละ  ฉันจะไปเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน การกลับไปของฉันต่างหากที่สร้างประโยชน์ให้กับโรงเรียน
ดังนั้น  ฉันไม่เห็นว่าทำไมฉันถึงจะต้องกลับไป ”
ซิงหยูกำมือแน่น พยายามจะสะกัดอารมณ์โกรธที่พุ่งถึงขีดสุด....เธอเดินจ้ำอ้อมเก้าอี้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา
“ ทำไมคุณชายถึงเป็นเด็กอย่างนี้  คิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเอง โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของคนอื่นบ้างเลยหรือไง”
โจวเจวี้ยหมินยืดตัวขึ้นยืน  พร้อมกลับก้มมองลงมา , สีหน้าราบเรียบเย็นชา 
“ ใช่ ”
“ นาย !!”
“ แค่นี้ใช่ไหมเรื่องสำคัญของเธอ....งั้นก็กลับไปได้แล้ว “
ซิงหยูมองหน้าโจวเจวี้ยหมินอย่างโมโห  ก่อนจะจ้ำมุ่งไปยังประตู แต่แล้ว
--- ครูต้องฝากความหวังไว้ด้วยนะ อันที่จริงเรื่องแบบนี้ครูก็ไม่สมควรให้เด็กที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเธอเข้ามารับผิดชอบ...แต่ว่าหากโรงเรียนนี้ถูกยุบจริง ๆ ล่ะก็ สถานเลี้ยงเด็กอ่อนกำพร้าที่ถูกเกื้อกูลจากที่นี่ก็จะถูกยุบตามไปด้วย...เธอคงเคยได้ยินชื่อสถานอุปถัมภ์ เทียนเปียวนะ ---
ซิงหยูหลับตา
แน่นอนเธอรู้สึกสถานเลี้ยงเด็กอ่อนกำพร้านั้นเป็นอย่างดี    แต่เธอไม่นึกว่าสถานอุปถัมภ์แห่งนั้นจะมีความเกี่ยวโยงใกล้ชิดกับโรงเรียนของเธอ.....  และเธอไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า    ที่เรื่องราวทั้งหมดลามปามใหญ่โตถึงขั้นนี้ส่วนหนึงมีสาเหตุจากตัวเธอเอง..... ความรู้สึกต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น  ทำให้เธอหันกลับมาหาโจวเจวี้ยหมินอีกครั้ง
“ ถ้าคุณหนูโจวเจวี้ยหมินยอมกลับไปเรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนั้นล่ะก็.....ขอเพียงแต่คุณหนูเอ่ยปากมาว่าต้องการอะไร ดิฉันจะทำให้ทุกอย่างค่ะ”
โจวเจวี้ยหมินหันหลังกลับมา .... ไม่มีร่องรอยความรู้สึกใด ๆ
“ ตกลง”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หน้า S&M PUB
ซิงหยูในชุดเสื้อโค้ทตัวโคร่งยืนอยู่  มีบอดี้การ์ดร่างยักษ์ยืนขนาบข้าง..... แล้วลีมูซีนคันยาวก็ขับมาเทียบ คนขับรับเดินอ้อมมาเปิดประตูให้.... เธอก้าวขึ้นรถไป
ในขณะที่นั่งอยู่ในรถ ซิงหยูก็ยกนิ้วมือของเธอขึ้นดู และเบะปากเล็ก ๆ นึกอยากร้องไห้....
---- นี่เธอยอมแปะโป้งทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรบนกระดาษปล่าว กับเขาได้อย่างไร.... แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับเอาชีวิตไปฝากไว้กับเขาน่ะสิ ----
โดยไม่รู้ตัว..... จากแสงไฟที่กระพริบอยู่ด้านหลัง เป็นแสงไฟจากแฟลชกล้องถ่ายรูปลึกลับกล้องหนึ่ง !!!
โจวเจวี้ยหมินมองร่างแสร้งไร้สติ บนเตียงน้ำ อย่างเย็นชา...
Bitch
เขาน่าจะรู้ตั้งแต่แรก ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากกลุ่มนางฟ้า..... ฉาบหน้าสวยใส ไร้เดียงสา แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ต่างกันทั้งนั้น
โจวเจวี้ยหมินหลับตา ขบกรามจนขึ้นสันนูน.... รู้สึกโมโหตัวเองที่รู้สึกผิดต่อหล่อนจนตัดสินใจว่าจะย้ายที่เรียนไม่อยากให้หล่อนต้องลำบากใจในการดูแลเขา.... เพราะใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของหล่อนหลอกลวงให้เขานึกว่าทำความผิดกับผู้หญิงที่บริสุทธิ์จริง ๆ.... และที่น่าเจ็บใจมากไปกว่านั้น คือ เขารู้สึกพึงพอใจที่จะจูบหล่อน และ สัมผัสหล่อน
ทั้ง ๆ ที่เขาจะรู้สึกรังเกียจสัมผัสของผู้หญิงจนจวนเจียนจะอ้วกทุกครั้ง.....จริงอยู่ที่เขาผ่านผู้หญิงของซางเจวี่ยมานับไม่ถ้วน แต่ซางเจวี่ยก็สอนวิธีที่จะหาความสุขจากร่างกายผู้หญิงโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสหรือแตะต้องร่างกายที่เขารังเกียจเอาไว้....
แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ ให้ตายเถอะนอกจากจะไม่รังเกียจหล่อน เขายังปรารถนาที่จะแตะต้องหล่อนเองด้วยซ้ำไป....
โจวเจวี้ยหมินลุกยืนขึ้นอย่างหัวเสีย  เดินย่างสามขุมไปยังร่างที่เขาโยนทิ้งเอาไว้หลังจากอุ้มหล่อนเข้ามาเมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ....  อันที่จริงครั้งแรกที่เขาเห็นหล่อน เขานึกว่าหล่อนจะมาตามเขา..... แต่พอเห็นหล่อนเดินไปหามาม่าซังที่เป็นผู้คอยจัดคิวให้กับพนักงาน
และหล่อนเดินขึ้นบันไดของแขกชั้น VIP เขาจึงเดาได้ว่าหล่อนคงมาทำงานพิเศษอย่างที่เด็ก ๆ ใจแตกเดี๋ยวนี้ชอบทำ....ความรู้สึกตอนนั้นคือโกรธมาก เขารู้สึกเหมือนกับไอ้งั่งที่ถูกหลอก กลายเป็นเหยื่อของกลุ่มนางฟ้าดังเช่นในอดีต...เขาต้องการแก้แค้น
โจวเจวี้ยหมินกระแทกร่างลงนั่งข้าง ๆ เธอ    ตั้งใจจะกระชากเธอขึ้นมา ให้เลิกเล่นละครตบตาเขา....แต่ทว่าเมื่อเขาเห็นหล่อนชัด ๆ  ความรู้สึกอ่อนโยนก็เกิดขึ้นในหัวใจ.... ใบหน้าหลับไหลไร้เดียงสา เกินกว่าจะคิดได้ว่าหล่อนแสร้งหลับอยู่.... ยังจะลมหายใจที่สม่ำเสมอ....แพรขนตาที่ถูกตกแต่งแนบสนิทไปกับแก้มอิ่ม มันขยับหยุกหยิก ก่อนจะกระพริบปริบและเบิกกว้าง  ???!!
โครม !
(โจวเจวี้ยหมินหงายหลังตกเตียงน้ำลงไป ด้วยแรงผลักสุดแรงเกิดของซิงหยู )
“ยายบ้า !    ทำอะไรของเธอ ” พยุงตัวลุกขึ้นมาได้  โจวเจวี้ยหมินก็ตวาดอย่างมีอารมณ์
“ คุณหนูโจวเจวี้ยหมิน ??... ทำไมถึงเป็นคุณไปได้ล่ะ ?  ”
“ พูดอะไรของเธอ ”
ซิงหยูมองหน้าโจวเจวี้ยหมิน นึกไม่ออกว่าเธอหลุดพ้นมาจากแขกลามกได้อย่างไร ... บางทีคงเป็นเขาที่มาช่วยเธอเอาไว้เหมือนคราวที่แล้ว    แต่ตอนนี้เธอไม่นึกมีอารมณ์อยากขอบคุณเขา ..  จะว่าไป  ก็เป็นเพราะเขาน่ะแหละที่ทำให้เธอต้องมาเผชิญเหตุการณ์แบบนี้
“ ช่างเถอะค่ะ... ฉันมีเรื่องสำคัญที่จะพูดกับคุณหนู”
“ เรื่องสำคัญ ? (หรี่สายตามอง)... นี่เธอจะบอกว่าที่เข้ามาในนี้ก็เพื่อจะมาหาฉันอย่างนั้นหรือ “
“ ก็ใช่น่ะสิ..... แล้วคิดว่าฉันจะเข้ามาในร้านบ้า ๆ นี่ทำไมกันล่ะ”  เผลอตวาดแหวอย่างมีอารมณ์
“............”  โจวเจวี้ยหมินกอดอก    ก้าวถอยหลังไปยืนพิงโซฟาปลายเตียงโดยไม่พูดอะไร... และนั่นยิ่งทำให้ซิงหยูรู้สึกอึดอัด 
ก็ชุดของเธอมันดูได้เสียที่ไหน  ...ถึงสายตาของเขาจะไม่ลามกจาบจ้วง ติดจะนิ่งเฉยและเย็นชา แต่ถึงอย่างนั้นซิงหยูก็ยังรู้สึกประหม่าอาย
“ เอ้อ...ดิฉันว่าเราควรเปลี่ยนที่คุยกันดีกว่านะคะ ที่แบบนี้มันไม่ค่อยจะดี” ว่าแล้วก็ก้าวลงจากเตียง หันซ้ายหันขวาหาประตูทางออก
“ พูดมา”
“ คะ ?..”
“ เรื่องสำคัญของเธอไงล่ะ.... ถึงขนาดแต่งตัวแบบนั้นเพื่อตามหาฉัน ... ฉันอยากฟังมัน”
ซิงหยูลังเล  ที่จริงเธออยากคุยในภาวะที่อึดอัดน้อยกว่านี้..... แต่ว่า หากเขาสนใจที่จะฟังมัน    โอกาสในการโน้มน้าวให้เขาเห็นถึงเหตุผลก็คงจะง่ายขึ้น..... อีกอย่างเขาคงไม่สนใจผู้หญิงรูปร่างแบน ๆ อย่างเธอหรอก
“ เรื่องเรียนน่ะค่ะ..... ได้โปรดกลับไปเรียนต่อที่โรงเรียนด้วยเถอะนะคะ”    พูดพลางก้มหัวเป็นเชิงขอร้อง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็ยังคงเห็นเขาจ้องอยู่เช่นเดิม  ไม่มีท่าทีที่จะตอบรับหรือปฎิเสธแต่อย่างใด     
“ ปลดฉันจากตำแหน่งผู้ดูแล      แต่กรุณากลับไปเรียนต่อด้วยเถอะค่ะ ... คุณหนูมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของโรงเรียนนะคะ...
ทางบอร์ดบริหาร  เพราะคิดจะยุบโรงเรียนเพื่อทำโรงพยาบาลจึงหาทางมาโดยตลอด  .. แต่เป็นเพราะคุณหนู ทางโรงเรียนถึงยังสามารถยืดเวลาอยู่ได้ .... และถ้าโรงเรียนมีเวลามากพอ--”
“ ทำไมฉันต้องฟังคำขอร้องของเธอด้วย “
“ เอ๋ ?!!”
“ ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอขอร้อง.... กลับไปเรียนต่อ ....  เธอลองบอกประโยชน์ที่ฉันจะได้มาสิ ” ถามด้วยใบหน้าเฉยชา ขณะตวัดขาก้าวข้ามพนักเก้าอี้โซฟาเพื่อนั่งลง
---หนอย !  ตาเด็กบ้านี่ ฉันคิดได้อย่างไรนะว่าหมอนี่จะอ่อนโยน และ มีความเข้าอกเข้าใจในความเดือดร้อนของคนอื่น ----
ซิงหยูสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ .... เธอเคยรับมือกับเด็กดื้อมาตั้งมากมาย กะแค่เด็กเอาแต่ใจที่บังเอิญตัวสูงใหญ่กว่าเธอเท่านั้นเอง
ซิงหยูพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ
“ ถ้าคุณชายกลับไป  ก็เป็นผลดีกับตัวคุณชายเองไม่ใช่หรือคะ ...  ถึงคุณชายจะหัวดี , เรียนเก่ง  แต่ว่า... ถ้าไม่จบตามระบอบการศึกษา  ก็ใช่ว่าจะสามารถไปเรียนต่อที่ไหนได้  ..และการศึกษาใต้หวันก็ก็มีทีมตรวจสอบ TPE ที่เข้มงวดเรื่องระยะเวลาการเข้าเรียน แม้แต่เป็นโรงเรียนของพ่อก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อเวลาการเข้าเรียนได้นะคะ ”  ซิงหยูยิ้มให้อย่างเป็นต่อ
“ ก็อย่างที่เธอบอกนั่นแหละ  ฉันจะไปเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน การกลับไปของฉันต่างหากที่สร้างประโยชน์ให้กับโรงเรียน
ดังนั้น  ฉันไม่เห็นว่าทำไมฉันถึงจะต้องกลับไป ”
ซิงหยูกำมือแน่น พยายามจะสะกัดอารมณ์โกรธที่พุ่งถึงขีดสุด....เธอเดินจ้ำอ้อมเก้าอี้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา
“ ทำไมคุณชายถึงเป็นเด็กอย่างนี้  คิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเอง โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของคนอื่นบ้างเลยหรือไง”
โจวเจวี้ยหมินยืดตัวขึ้นยืน  พร้อมกลับก้มมองลงมา , สีหน้าราบเรียบเย็นชา 
“ ใช่ ”
“ นาย !!”
“ แค่นี้ใช่ไหมเรื่องสำคัญของเธอ....งั้นก็กลับไปได้แล้ว “
ซิงหยูมองหน้าโจวเจวี้ยหมินอย่างโมโห  ก่อนจะจ้ำมุ่งไปยังประตู แต่แล้ว
--- ครูต้องฝากความหวังไว้ด้วยนะ อันที่จริงเรื่องแบบนี้ครูก็ไม่สมควรให้เด็กที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเธอเข้ามารับผิดชอบ...แต่ว่าหากโรงเรียนนี้ถูกยุบจริง ๆ ล่ะก็ สถานเลี้ยงเด็กอ่อนกำพร้าที่ถูกเกื้อกูลจากที่นี่ก็จะถูกยุบตามไปด้วย...เธอคงเคยได้ยินชื่อสถานอุปถัมภ์ เทียนเปียวนะ ---
ซิงหยูหลับตา
แน่นอนเธอรู้สึกสถานเลี้ยงเด็กอ่อนกำพร้านั้นเป็นอย่างดี    แต่เธอไม่นึกว่าสถานอุปถัมภ์แห่งนั้นจะมีความเกี่ยวโยงใกล้ชิดกับโรงเรียนของเธอ.....  และเธอไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า    ที่เรื่องราวทั้งหมดลามปามใหญ่โตถึงขั้นนี้ส่วนหนึงมีสาเหตุจากตัวเธอเอง..... ความรู้สึกต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น  ทำให้เธอหันกลับมาหาโจวเจวี้ยหมินอีกครั้ง
“ ถ้าคุณหนูโจวเจวี้ยหมินยอมกลับไปเรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนั้นล่ะก็.....ขอเพียงแต่คุณหนูเอ่ยปากมาว่าต้องการอะไร ดิฉันจะทำให้ทุกอย่างค่ะ”
โจวเจวี้ยหมินหันหลังกลับมา .... ไม่มีร่องรอยความรู้สึกใด ๆ
“ ตกลง”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หน้า S&M PUB
ซิงหยูในชุดเสื้อโค้ทตัวโคร่งยืนอยู่  มีบอดี้การ์ดร่างยักษ์ยืนขนาบข้าง..... แล้วลีมูซีนคันยาวก็ขับมาเทียบ คนขับรับเดินอ้อมมาเปิดประตูให้.... เธอก้าวขึ้นรถไป
ในขณะที่นั่งอยู่ในรถ ซิงหยูก็ยกนิ้วมือของเธอขึ้นดู และเบะปากเล็ก ๆ นึกอยากร้องไห้....
---- นี่เธอยอมแปะโป้งทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรบนกระดาษปล่าว กับเขาได้อย่างไร.... แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับเอาชีวิตไปฝากไว้กับเขาน่ะสิ ----
โดยไม่รู้ตัว..... จากแสงไฟที่กระพริบอยู่ด้านหลัง เป็นแสงไฟจากแฟลชกล้องถ่ายรูปลึกลับกล้องหนึ่ง !!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น