ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Idol fall in love

    ลำดับตอนที่ #7 : scene 9

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 47


    scene 9



    ---สตูดิโอ--



    ซีเหมินและเสี่ยวโย่วอยู่ตามลำพังในห้องแต่งตัว ไม่มีใครพูดถึงสิ่งใด บรรยากาศที่เงียบเชียบชวนให้เสี่ยวโย่วรู้สึกอึดอัด… เหตุการณ์เมื่อครู่ถึงเสี่ยวโย่วจะรู้สึกดีใจอยู่นิด ๆ ที่คุณชายอุตส่าห์ช่วยปกป้องเธอ แต่ว่าพอนึกดูดี ๆ แล้วเสี่ยวโย่วก็รู้สึกละอายใจ ที่ตัวเองกลายเป็นต้นเหตุให้คุณชายมีปัญหากับผู้ร่วมงาน ….มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากมีข่าวออกไปว่า คุณชายซีเหมินเลิกถ่ายโฆษณาเพราะปกป้องคนใช้ภายในบ้าน

    และประเด็นคงจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่า …. หากข่าวนี้ได้ยินถึงหูของฝ่ายนั้นเข้าล่ะก็มันคงไม่ใช่เรื่องเล็กยิบย่อยอีกต่อไป เพราะฝ่ายนั้นคงใช้ข่าวนี้เล่นงานคุณชายซีเหมินของเธออย่างหนักเป็นแน่

    เธอยอมไม่ได้เด็ดขาด !!



    “ คุณชายซีเหมินคะ เสี่ยวโย่วเล่นฉากนั้นได้นะคะ….เสี่ยวโย่วน่ะ --



    “ หยุดพูดเสี่ยวโย่ว” ซีเหมินพูดเกือบเป็นตะคอก เขาหันมาหาเธอหลังจากเอาแต่เพ่งมองกระจกเบื้องหน้าอยู่เป็นนาน

    “ ฉันไม่อยากให้เธอถ่ายแล้ว … ไปใส่เสื้อผ้าซะ”



    “ แต่”

    “ ไม่ได้ที่ฉันสั่งหรือไงเสี่ยวโย่ว …. ไปใส่เสื้อผ้า” ประโยคนี้เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเฉียบขาด ถึงเสี่ยวโย่วอยากจะแย้งเขา แต่เธอก็รู้ดีว่าน้ำเสียงเช่นนี้เธอทำได้อย่างเดียวคือปฏิบัติตาม



    “ ค่ะ” เสี่ยวโย่วจำใจตอบรับด้วยน้ำเสียงอุบอิบ หันหลังเพื่อจะเดินไปเปิดประตู แต่ว่าเธอก็ถูกซีเหมินฉวยข้อมือเอาไว้เสียก่อน



    “ เธอจะออกไปไหน”

    “ ไปเอาเสื้อผ้าค่ะ”

    “ ออกไปทั้งชุดบ้า ๆ เนี่ยเหรอ “ซีเหมินมองเสี่ยวโย่วตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าด้วยความหงุดหงิดใจ

    “ ก็…เอ่อ ...” เสี่ยวโย่วเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง

    “ บ้าชะมัด !” ซีเหมินสบถ ก่อนจะเดินไปกระชากประตูเพื่อสั่งบอดี้การ์ด ให้ไปเอาเสื้อมาให้เสี่ยวโย่ว



    ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีเสี่ยวโย่วก็ได้ชุดของเธอคืน



    เมื่อได้มาแล้ว เสี่ยวโย่วก็ได้แต่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้ว่าควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงไหน … ห้องนี้เป็นเพียงห้องโล่ง ๆ ที่ไม่มีฉากกั้น หรือที่กำบังตาใด ๆ เลย …. อาจเป็นเพราะว่าห้องนี้ถูกจัดให้เป็น สถานที่ส่วนตัว ของคุณชายซีเหมินอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีของจำพวกนั้นมาสร้างความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีก



    “ เปลี่ยนเสื้อผ้าสิเสี่ยวโย่ว จะได้กลับบ้าน ” ซีเหมินสั่งด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ก่อนจะกระแทกร่างลงนั่งบนเก้าอี้หน้ากระจกตัวเดิม ความคิดที่หมกมุ่นบางอย่างทำให้เขาไม่ได้สนใจสีหน้าลำบากใจของเสี่ยวโย่ว



    เสี่ยวโย่วพยักหน้ารับ เธอไม่เคยขัดใจซีเหมิน ถึงจะรู้สึกกระดาก ๆ อยู่บ้างที่ต้องถอดเสื้อผ้าต่อหน้าคุณชาย

    แต่ถ้ามาคิดดูแล้วก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นร่างเปลือยของเธอมาก่อนเสียเมื่อไหร่ เพราะตอนเด็ก ๆ เธอมักจะอาบน้ำกับ ‘พี่ชาย’ คนนี้อยู่เกือบทุกวัน….. แม้กระทั่งตอนนี้เขาเองก็คงไม่มีวันรู้สึกอะไรกับร่างเล็ก ๆ กระจ้อยร่อยไม่ต่างอะไรกับเด็กประถมของเธอหรอก …..



    คิดได้ดังนั้นแล้ว เสี่ยวโย่วจึงตัดสินใจหันหลังให้ซีเหมิน ค่อย ๆ ปลดเสื้อคลุมสีขาวออก เพื่อจะเอื้อมมือไปหยิบซับใน และ กระโปรงสีฟ้าขึ้นมาสวม



    ในขณะนั้นเอง ที่ซีเหมินพึ่งจะดึงตัวเองออกมาจากความคิดที่หมกมุ่นบางอย่างได้ เขาจึงมองมายังเสี่ยวโย่ว

    … และนั่นนับเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่ง !!

    เขาจ้องมองแผ่นหลังเปลือยเปล่า ของเสี่ยวโย่วด้วยความรวดร้าว…. ผิวขาวของเสี่ยวโย่วนั้นนวลเนียนละมุนตา และปราศจากซึ่งไฝฝ้าใด ๆ ซีเหมินแทบจะรับประกันได้ว่าเสี่ยวโย่วมีแผ่นหลังที่สวยงามที่สุดยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ…. ถ้าจะไม่เป็นเพราะรอยแผลเป็นเบื้องใต้ปีกไหล่ด้านซ้ายของเธอ !!



    +++++++++++++++++++++++++++++







    “ นั่นคุณจะไปไหน คุณซิงหยู “ ตากล้องคนเดิมตะโกนโหวกเหวกเมื่อเห็นซิงหยูกำลังจะเดินขึ้นรถตู้

    “ ไหนคุณบอกว่าจะหานายแบบมาให้ผมยังไงล่ะ “



    “ เดี๋ยวนายแบบ ก็จะเดินทางมาถึงค่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันจำเป็นต้อง--”

    “ ไม่ได้ !... ทำอย่างนี้คิดจะทิ้งความรับผิดชอบน่ะสิ นิ่ คุณซิงหยูถ้าคุณไม่มีปัญญาหานายแบบมาให้ผมตั้งแต่แรกก็บอกกันมา ทำอย่างนี้พวกผมเสียเวลากันนะ ….. ถ้าว่างก็หัดประเมิณการทำงานของตัวเองเสียบ้างว่ามันห่วยขนาดไหน ….. “



    ซิงหยูได้แต่ยืนอึ้ง คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถุกต่อว่าด้วยวาจาที่รุนแรงเช่นนั้น

    การที่เธอถูกประจาน ถึงการทำงาน ‘ ที่ไร้ประสิทธิภาพ ‘ ทำให้ใบหน้าที่ปกติเคยเรียบเฉยเย็นชามีสีสันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้



    “ พูดถึงขนาดนั้น ผู้จัดการของผมก็แย่สิครับ “ น้ำเสียงทุ้มนุ้มเอ่ยขึ้น

    เป็น ไจ่ไจ๋ นั่นเอง เขาเดินเข้ามาพลางถอดแว่นตาดำออกแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ ที่ริมฝีปาก

    แต่เพียงแค่นั้นก็มากเกินพอแล้ว ที่จะดึงดูดสายตาทุกคู่ให้เบนความสนใจมายังเขา

    “ คุณซิงหยูน่ะ ไม่ผิดหรอกครับ…. ถ้าจะผิดก็ตรงที่ผมมาช้าเองต่างหาก ยังไงก็ต้อขอโทษด้วยนะครับ “ ยังไม่วาย ไจ่ไจ๋ ยังคงโปรยยิ้มมีเสน่ห์ให้กับตากล้องอีกครั้งหนึ่ง



    ตากล้องผู้นั้นถึงกับชะงักงันไป ด้วยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนที่จะได้เจอ ‘ รอยยิ้ม พิฆาต ‘ ดังค่ำร่ำลือที่ถูกโจษขานมานานในวงการ หากเมื่อเขาถอนสติได้จึงรีบหันไปสั่งทีมงาน ให้จัดแสงเตรียมไฟอย่างเร็วไว เป็นการกลบเกลื่อนความวูบไหวที่มีให้ต่อชายผู้นี้



    ในขณะเดียวกันด้านซิงหยู ถึงเธอจะนึกดีใจที่ในที่สุดเขาก็มาถึงสักที

    แต่ว่าเมื่อเธอได้สบตาสีควันบุหรี่(ใส่คอนแทคเลนส์ ) ของไจ่ไจ๋ หัวใจของเธอก็เต้นตูมตามหนักขึ้น

    เขาเดินทอดน่องมาหาเธออย่างช้า ๆ ร่างกายของเธอเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติ เหมือนกับกวางน้อยที่มีสัญชาตญาณตอบรับการจู่โจมของนักล่า



    ใช่แล้ว !... ไจ่ไจ๋ สำหรับเธอก็ไม่ต่างอะไรไปกับสิงโตเจ้าป่าที่ใส่ชุดแมวคิตตี้พรางตัวเอาเสียเลย

    เธอรู้ว่า ภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลาและรอยยิ้มไร้เดียงสานี้ ยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เจ้าเล่ห์ เอาแต่ใจ และ เป็นวายร้าย !! อย่างชนิดหาตัวจับยากซ่อนอยู่



    “ ซิงหยู….. งานนี้ต้องมีของแลกเปลี่ยนให้ผมนะ “ มันเป็นเพียงเสียงกระซิบกระซาบที่ไจ่ไจ๋พูดประชิดริมหู เพื่อให้ซิงหยูได้ยินเพียงคนเดียวเท่านั้น



    ซิงหยูเสียวสะท้าน หายใจแทบไม่ออก ความนัยของ ‘ สิ่งแลกเปลี่ยน ‘ ดังก้องอยู่ในหัวสมอง

    เธอรีบคิดหาทางหนีทีไล่ในทันที เพราะยังจำได้ดีถึง สิ่งแลกเปลี่ยนครั้งก่อน … วันนั้นนับเป็นสิ่งสาหัสสากรรจ์ของเธอมากเลยทีเดียว



    “ คุณซิงหยูครับ !... แล้วผมต้องทำอะไรบ้าง “ เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อบาดใจ เด็กใหม่ในความควบคุมของซิงหยูนั่นเอง

    ++++++++++++++++++++++++++++







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×