ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Scene 3-4
บนรถลัมเบอร์กินีสีขาวเปิดประทุน.........
มีแต่ความเงียบกริบ......เสี่ยวโย่วนั่งตัวลีบในเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เขาถอดคลุมไว้ให้ ..
แล้วเขาก็พูดขึ้น ด้วยสีหน้าที่ไม่ยิ้มแย้ม ติดจะซีเรียสด้วยซ้ำ
“ เธอมาเดินทำอะไรค่ำ ๆ มืด ๆ แบบนี้....เสี่ยวโย่ว.....”
“ เอ่อ...คือ.....เอ่อ....” เสี่ยวโย่วไม่กล้าบอกเขาเรื่องงานพิเศษ
“ เอาล่ะ.....ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก......ฉันไม่ได้อยากสนใจเรื่องของเธอนักหรอก.....เอ้า.....ใส่ซะ......จะได้ไม่ตกเป็นข่าวกับฉัน.....”ซีเหมินหยิบหมวกปีกกว้างแปะบนหัวของเธอ
หมวกนี่คงเป็นของผู้หญิงอีกคนของคุณชายซีเหมินกระมัง กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ฉุนจัดลอยมาแตะจมูกของเสี่ยวโย่ว .แววตาของเสี่ยวโย่วอ่อนเศร้าลงเล็กน้อย
เสี่ยวโย่วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของซีเหมิน....ใบหน้าที่เธอแอบหลงรักมาตลอดตั้งแต่เยาว์วัย.......
เสี่ยวโย่วมองริมฝีปากของเขา.......ไม่มีรอยยิ้มจากเขาดังเช่นในอดีตอีกต่อไป....
เมื่อไหร่กันนะที่รอยยิ้มชวนฝันนั้นได้จางหายไปจากใบหน้าของเขา......เธอจะมีโอกาสได้เห็นมันอีกไหมนะ
เสี่ยวโย่วอดคิดถึงวันเก่า ๆ ไม่ได้........วันที่เขาและเธอออกไปวิ่งเล่นในสวนดอกไม้ที่บ้านพักตากอากาศหลังนั้น
มีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม......เขาและเธอเสมือนเงาตามตัวกันและกันตั้งแต่เด็ก.........ที่ไหนมีซีเหมินที่นั่นก็ต้องมีเสี่ยวโย่ว
-----flash back----
เด็กชายวัย 10 ขวบ นอนแผ่หลากลางทุ่งดอกหญ้าหลังบ้าน ดวงตาหลับพริ้ม อย่างมีความสุข
แล้วดอกหญ้าปอยหนึ่ง ก็แหย่บนจมูกโด่งสวยของเด็กชาย
ซีเหมินย่นจมูก ปัดสิ่งแปลกปลอม ........แต่ก็ยังนอนต่อไป
ดอกหญ้าปอยเดิม กลับมาก่อกวนอีกครั้ง......
” ฮิ ๆ ๆ ๆ......” เสียงน่ารักของเด็กหญิง
“ ฮึ้ย....!......” ในที่สุดเด็กชายก็ตื่นขึ้น แต่ว่าแสงแดดที่แยงตาของเขาทำให้เขาลืมตาไม่ได้ง่ายนัก
แต่ในที่สุดเขาก็ทำได้ มองเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่ปีนมานั่งบนอกของเขายิ้มแป้นแร้นให้
“ เย้.....พี่ชายตื่นแล้ว.......” ไม่พูดเปล่าขย่มตัวไปมา จนซีเหมินรู้สึกจุก
“ เอาล่ะ .......เอาล่ะจ้ะเสี่ยวโย่วพี่ตื่นแล้ว......ทีนี้ลงไปจากอกพี่ซะทีได้ไหม”
เด็กหญิงปีนจากอกของเด็กชายอย่างว่าง่าย พลางฉุดมือของเขาอย่างกระตือรือร้น
“ จะพาพี่ไปไหน.......” ซีเหมินเดินลากขาเอื่อย ๆ ตามแรงฉุดของเด็กสาวตัวน้อย
“ พี่ชายอยู่ตรงนี้ก่อนนะ......”
เด็กหญิงวิ่งจุ๊ด ๆ........ไปหยิบมงกุฏดอกไม้ที่วางแอบเอาไว้ เธอเอามันสวมหัวอันหนึ่ง แล้ววิ่งกลับมาหาเขา
ซีเหมินมองเด็กหญิงที่วิ่งหัวเราะคิกคัก ในชุดผ้าชีฟองพองฟูสีชมพูใส..... เขารักน้องสาวคนนี้เหลือเกิน......น้องสาวที่เขาบังเอิญเก็บได้ข้างทาง
“ พี่ชาย ๆ.....” เด็กหญิงกระตุกมือของเขา
“ ว่าไงจ๊ะ.......” เด็กชายทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ อย่างเอาใจ
“ เสี่ยวโย่วรักพี่ชาย.......” เด็กหญิงวางมงกุฏดอกไม้ไว้บนหัวของเขา
“ พี่ชายก็รักเสี่ยวโย่วจ้ะ........น้องสาวน่ารักแบบนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้ว”
“ ไม่ใช่ ๆ.......เสี่ยวโย่วไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น......” เด็กหญิงส่ายหัวดิกหน้างอเง้า
“ เสี่ยวโย่วรักพี่ชาย....แบบ....แบบอะไรนะ.....แบบว่าที่ต้องแต่งงานกันน่ะ .”
“ อือม..จ้ะ แต่งก็แต่ง แต่ว่าเสี่ยวโย่วต้องโตเป็นสาวก่อนนะพี่ไม่ชอบผู้หญิงไม่มีหน้าอก” ซีเหมินตอบส่งเดชไป
“ ก็ได้ค่ะ......งั้นก็มาจุมพิตสัญญากันนะคะ”
“ จ้ะ...” ซีเหมินส่งยิ้มขี้เล่นแพรวพราว พลางจุ๊บเบา ๆ ที่แก้มของเด็กหญิง
นั่นเป็นเหตุการณ์เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ตอนที่เธอและเขายังเป็นเด็กอยู่ เด็กเกินกว่าที่จะรู้จักคำว่า “ฐานะ และ ชนชั้น “
“ มองอะไรเสี่ยวโย่ว.......” เขาชักหน้าสีหน้าบึ้งตึงใส่เธออีกแล้ว
“ ปละ.....เปล่าค่ะ.....คุณชายซีเหมิน”
“ เอ้า......ลงไปได้แล้ว......จะนั่งอยู่ในรถนี่ทั้งคืนหรือไง......” ซีเหมินเอื้อมมือไปเปิดประตูฝั่งของเธอให้
“ เอ่อ.....ค่ะ....คุณชายซีเหมิน......” พูดพลางพยายามปลดสายเบลต์อย่างลนลาน .....การได้อยู่ใกล้ ๆ เขาทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นส่ำ ..เสี่ยวโย่วหมุนซ้ายหมุนขวา แต่ว่าก็หาที่ปลดล็อคไม่ยักเจอ !!! ..
ซีเหมินส่ายหัวรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เอื้อมมือมายังที่นั่งอีกฝั่ง เพื่อช่วยเธอปลดล็อค ร่างกายของหญิงชายทั้งคู่ชิดใกล้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความชิดใกล้นั้นมันใกล้ซะจนเธอได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมประจำตัวของเขา ......
ความชิดใกล้นั้นมันใกล้ซะจนลมหายใจของเขาเป่ารดแก้มใสของเธอ
“ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณชายซีเหมินสักที” เขาปลดล็อคให้แล้ว ก็หันมาสั่งเธอต่อ
“ ค่ะ คุณชาย เอ่อ...คุณซีเหมิน..”
เสี่ยวโย่วก้มหน้างุดเดิน ลงไปสู่เรือนเล็กที่เป็นที่อาศัยของคนรับใช้ ..!!??
++++++++++++++++++++
--- สำนักงานใหญ่ TVB ---
“ คุณชายซู่หลงไม่น่าทำอย่างนั้นต่อนักข่าวนะ ..เพราะถึงยังไงทางเราก็เป็นดารา ที่ต้องพึ่งพาสื่อในการประชาสัมพันธ์ “ เจ๊ไฉติง ใบหน้าเคร่งเครียด เธอต้องเจอภาวะกดดันอีกคำรบใหญ่เป็นแน่
ซู่หลง ไม่พูดอะไรเพียงแต่เบือนใบหน้าออกไปนอกหน้าต่าง
ยูจิมอง ซู่หลงก็รู้ดีว่า เพื่อนของเขาพยายามข่มอารมณ์ที่เดือดปุดอย่างเต็มความสามารถ สำหรับคนอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจอย่างซู่หลง ปฏิกิริยาที่นิ่งเงียบนี้ ถือว่ายังดี
“ เอาล่ะ เจ๊ก็แค่อยากจะขอว่า ต่อจากนี้ไปคงต้องพวกคุณชายระมัดระวังกับข่าว พิเศษ อย่าให้มีเรื่องราวที่จะทำให้ทางนั้นเอาไปทำข่าวได้ก็แล้วกันนะคะ “ เจ๊ไฉพูดพลางมองดูท่าทีของคุณชายแต่ละคน
“ สำหรับเรื่องละคร คงต้องพักเอาไว้ก่อน ที่ถ่ายไปบ้างแล้วก็คงต้องลบทิ้ง “
พอพูดมาถึงตอนนี้ ซู่หลงก็หันขวับมาด้วยใบหน้าไม่พอใจ “ เจ๊ ว่ายังไงนะ ที่เราถ่ายไปเกือบ 10 % เจ๊จะลบทิ้ง !!! “
“ก็ ทางผู้ใหญ่เขาต้องการให้เปลี่ยนทีมตัวประกอบใหม่แทบทั้งหมด ตัวรองก็ด้วย ที่จริงแล้วตัวหลักที่คงเหลือก็มีแค่กลุ่ม โรมิโอเท่านั้น .. สาเหตุก็เพราะข่าวที่คุณชายเป็น เกย์ มันแรงเสียจนทางสปอนเซอร์เขาหวั่นใจ “ เจ๊ไฉพยายามอธิบาย
“ เหตุผลงี่เง่าสิ้นดี “ ซู่หลงตะคอก
“ เอาน่า ใจเย็น ๆ สิ ซู่หลง ทางเจ๊ไฉก็คงพยายามเต็มที่แล้วล่ะน่ะ . ใช่ไหมครับ“ เจี้ยนหาวนั่นเองที่เข้ามาไกล่เกลี่ย หลังจากวางหูโทรศัพท์นัดเดทกับสาวใหญ่ไปแล้ว .
ไจ่ไจ๋มองดูหน้าเจ๊ไฉที่มีความลำบากใจ . เขารู้ดีว่า เจ๊ไฉเองก็คงไม่ได้นิ่งนอนใจกับคำสั่งนั้นเหมือนกัน คงจะโต้แย้งไปแล้วด้วยซ้ำ และคงไม่เป็นผล . ถึงเจ๊ไฉจะเป็นบอสใหญ่คนหนึ่งใน TVB แต่ก็ไม่ได้กุมอำนาจเด็ดขาดในการบริหารงาน .. แม้จะเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเจ๊ไฉมีความสารมารถพิเศษในการปั้นดารา มีมุมมองใหม่ ๆ สำหรับศิลปด้านบันเทิงโดยเฉพาะศาสตร์ของการละคร จนอาจเรียกได้ว่าเป็นปรจารย์ของศาสตร์ทางนี้ก็ว่าได้ แต่ว่าความสามารถแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจบันเทิงของ TVB เจริญรุดหน้าไปได้ ทีมผู้บริหาร และ การตลาดจึงมักเข้ามามีบทบาทในการกำหนดแนวทางการทำงานของ ศิลปินในค่าย อย่างมาก
“ ทางผู้ใหญ่ให้เราเปิดแผนโปรโมท ละครใหม่ทั้งหมด เพื่อจะดึงดูดความสนใจของผู้ชม แล้วก็ให้สปอนเซอร์มั่นใจมากขึ้น .. โดยจะให้จัดแคสติ้งทีมนักแสดงหน้าใหม่ เข้ามารับบทที่เหลือ . ในระหว่างนี้ “ เจ๊ไฉทิ้งช่วงละเอาไว้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขาพูดแทน
“ พวกคุณชายต้องไปถ่ายโฆษณา อัดเสียง ซ้อมเต้น แจกลายเซ็นต์ และ ฯลฯ . ( หญิงสาวร่างเล็กขยับแว่นตาอ่านตารางงานที่ยาวเป็นหางว่าวอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงง่าย ๆ )
“ โอ้โห . เจ๊ไฉ ทำไมตารางงานมันโหดอย่างนี้ล่ะ นี่มันยิ่งกว่าเมื่อ4 เดือนก่อนอีกนะ “ เจี้ยนหาวโวยวาย นึกวิตกเวลาที่จะสูญหายจนไม่ได้เดทกับสาว ๆ
“ ไม่ต้องวิตกหรอกค่ะคุณชาย งานที่อ่านมาส่วนใหญ่จะแยกกันทำถ้าเฉลี่ย 5 คน แล้วก็มีอยู่ไม่กี่ 10 งานเท่านั้นเอง “ เป็นคำอธิบายง่าย ๆ จากใบหน้าที่นิ่งเฉยของคนที่เป็น ‘ ผู้จัดการ ‘
“ ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ว่า ซีเหมินน่ะ .( เจี้ยนหาวมองดูเพื่อนที่นอนหลับเป็นตายอยู่บนโซฟา ) .
ดูท่าจะไม่ได้ฟังเรื่องที่พูดมาเลยนะ “
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ย่านแหล่งแฟชันและช็อปปิ้งชื่อดัง
“ ขอบคุณนะคะ “ สาวพนักงานในร้านตัดผม ยิ้มหวานให้กับแขกที่พึ่งตัดผมเสร็จใหม่ ๆ
เด็กหนุ่มผิวคล้ำเข้ม เพียงแต่ยิ้มตอบ แค่ครึ่งยิ้ม แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้สาว ๆ ถึงกับหัวใจสลายกันเป็นทิวแถบ
ทุกก้าวที่เขาเดินผ่านจะทำให้ผู้หญิงเป็นลม เป็นหย่อม ๆ
เขามองซ้ายมองขวา จับผมที่พึ่งตัดเสร็จใหม่ ๆ อย่างไม่มั่นใจ
“ เสียดายชะมัดเลย อุตส่าห์ไว้มาตั้งนาน . แต่ว่าเพื่อสิ่งนั้นก็ต้องยอมล่ะนะ “ บ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อย
“ พลั่ก..! ..( เขาชนเข้ากับใครคนหนึ่ง) .โอ๊ะ ! ( ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งล้มในวงแขน)
“ คุณ ! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ! “ เด็กหนุ่มหน้าถอดสี เขย่าร่างที่เป็นลมสลบในวงแขน
---- ในความคิดเด็กหนุ่ม -----
ตายล่ะ ..ทำยังไงดี เดินชนคนตาย ฉันจะมีความผิดหรือเปล่า ฉันต้องเสียเงินช่วยงานศพเขาใช่ไหม
ไม่ได้ ! .ในภาวะที่ฉันจนกรอบขนาดนี้ ฉันจะไม่ยอมสูญเสียเงินแม้แต่เก๊เดียว
ทำยังไงดี ? ..ทำยังไงดี ? .หนีดีไหมเนี่ย .แต่ว่าจะปล่อยให้เขาตายได้ยังไง ถึงยังไงเราก็เป็นมนุษย์ร่วมโลกผู้มีศีลธรรม .. แต่ว่า ถ้าเป็นคนดี แล้วต้องติดคุก แถมเป็นคนคุกที่จนที่สุดในโลกเสียด้วย .
ช้าน จาทามยาง--- งาย !
“ คุณ .เป็นอะไรหรือเปล่า “ หญิงสาวคนหนึ่งสะกิดเข้าที่สีข้างของเด็กหนุ่ม หน้าตาของเธอนิ่งสนิทและเฉยชา
อีกทั้งแววตาที่มองมาเฉย ๆ แบบไร้อารมณ์นั้น มักจะกดดันให้ผู้ถูกมองทำอะไรไม่ถูกเสมอ
“ ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้ฆ่าใครตาย เขา .เขา คือ เขามาเดินมาตายในแขนฉันเอง ..” ปฎิเสธเป็นพัลวัน
“ เอ่อ .-_- \" .ถ้าหมายถึงผู้หญิงคนนั้น เขาไม่ได้ตายหรอก
เขาวิ่งไปนู่นแล้ว . รู้สึกว่าเขาจะขโมยกระเป๋าตังค์ของคุณไปด้วย “
“ ว่า---อา---ราย---น้า “ ( นั่งแปะ ..ช็อคสุดขีด !! เพราะนั่นเป็นเงินงวดสุดท้ายที่เขามีอยู่ ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอม ทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าใบนั้น )
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ร้านกาแฟ .
“ ยังงั้นเหรอ ..ทั้งหมดเป็นเงินทั้งหมดที่เธอมีอยู่ตอนนี้สินะ “
เด็กหนุ่มพยักหน้า น้ำตาปริ่มที่หน่วยตา
หญิงสาวมองใบหน้าของเขา เธอยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก ..เข้าล็อคของเธอพอดีเลยทีเดียว
“ ถ้าอย่างนั้น ก็คงจะง่ายขึ้น .. นี่ค่ะ “ ยื่นนามบัตรให้เด็กหนุ่ม
“ ผู้จัดการศิลปิน พิเศษ TVB “
“ ค่ะ ..ทางเรามีโปรเจกต์จะเปิดกล้องละครตัวใหม่ แม้ว่าทางเราจะเปิดแคสติ้งเพื่อหาตัวแสดงไปหลายรอบแล้ว แต่ว่ายังหาตัวแสดงที่เหมาะสมไม่ได้ . โปรเจกต์นี้เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ และทางผู้ใหญ่ก็อยากให้มันสมบูรณ์พร้อม จึงต้องพิถีพิถันกันจนถึงที่สุด .. ฉันคิดว่าบางทีคุณอาจสนใจ “ หญิงสาวพูดจาเป็นทางการด้วยใบหน้าที่ราบเรียบเช่นเคย
เด็กหนุ่มมองใบหน้าของหญิงสาว ใบหน้าที่จริงจังนั้น คงไม่ใช่แก็งค์ต้มตุ๋นหรอกล่วงเป็นแน่
---- ในความคิดของเด็กหนุ่ม ---
ถ้าเป็นแล้วยังไงล่ะ ถึงยังไงเราก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่
เขาว่าวงการนี้ค่าตอบแทนสูงมาก ถ้าผู้หญิงคนนี้พูดจริงล่ะก็ มันหมายถึง ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วก็ค่าเทอม ของเราเลยเชียวนะ
แต่ว่า ..ตั้งแต่เด็กฉันเล่นละครได้ห่วยอย่าบอกใคร ได้แสดงทีไรก็ได้รับบทเป็นต้นไม้ ใบหญ้าทุกที
“ ว่ายังไง สนใจหรือเปล่า “
“ ตกลง “ พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
หญิงสาวยิ้มพึงพอใจ
“ แต่ว่าตอนนี้คุณมีเงินให้ผมยืมก่อนได้ไหม “ แบมือมาตรงหน้า ในยามนี้ คำว่าศักดิ์ศรีใช้ไม่ได้ผลกับเขาแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มีแต่ความเงียบกริบ......เสี่ยวโย่วนั่งตัวลีบในเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เขาถอดคลุมไว้ให้ ..
แล้วเขาก็พูดขึ้น ด้วยสีหน้าที่ไม่ยิ้มแย้ม ติดจะซีเรียสด้วยซ้ำ
“ เธอมาเดินทำอะไรค่ำ ๆ มืด ๆ แบบนี้....เสี่ยวโย่ว.....”
“ เอ่อ...คือ.....เอ่อ....” เสี่ยวโย่วไม่กล้าบอกเขาเรื่องงานพิเศษ
“ เอาล่ะ.....ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก......ฉันไม่ได้อยากสนใจเรื่องของเธอนักหรอก.....เอ้า.....ใส่ซะ......จะได้ไม่ตกเป็นข่าวกับฉัน.....”ซีเหมินหยิบหมวกปีกกว้างแปะบนหัวของเธอ
หมวกนี่คงเป็นของผู้หญิงอีกคนของคุณชายซีเหมินกระมัง กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ฉุนจัดลอยมาแตะจมูกของเสี่ยวโย่ว .แววตาของเสี่ยวโย่วอ่อนเศร้าลงเล็กน้อย
เสี่ยวโย่วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของซีเหมิน....ใบหน้าที่เธอแอบหลงรักมาตลอดตั้งแต่เยาว์วัย.......
เสี่ยวโย่วมองริมฝีปากของเขา.......ไม่มีรอยยิ้มจากเขาดังเช่นในอดีตอีกต่อไป....
เมื่อไหร่กันนะที่รอยยิ้มชวนฝันนั้นได้จางหายไปจากใบหน้าของเขา......เธอจะมีโอกาสได้เห็นมันอีกไหมนะ
เสี่ยวโย่วอดคิดถึงวันเก่า ๆ ไม่ได้........วันที่เขาและเธอออกไปวิ่งเล่นในสวนดอกไม้ที่บ้านพักตากอากาศหลังนั้น
มีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม......เขาและเธอเสมือนเงาตามตัวกันและกันตั้งแต่เด็ก.........ที่ไหนมีซีเหมินที่นั่นก็ต้องมีเสี่ยวโย่ว
-----flash back----
เด็กชายวัย 10 ขวบ นอนแผ่หลากลางทุ่งดอกหญ้าหลังบ้าน ดวงตาหลับพริ้ม อย่างมีความสุข
แล้วดอกหญ้าปอยหนึ่ง ก็แหย่บนจมูกโด่งสวยของเด็กชาย
ซีเหมินย่นจมูก ปัดสิ่งแปลกปลอม ........แต่ก็ยังนอนต่อไป
ดอกหญ้าปอยเดิม กลับมาก่อกวนอีกครั้ง......
” ฮิ ๆ ๆ ๆ......” เสียงน่ารักของเด็กหญิง
“ ฮึ้ย....!......” ในที่สุดเด็กชายก็ตื่นขึ้น แต่ว่าแสงแดดที่แยงตาของเขาทำให้เขาลืมตาไม่ได้ง่ายนัก
แต่ในที่สุดเขาก็ทำได้ มองเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่ปีนมานั่งบนอกของเขายิ้มแป้นแร้นให้
“ เย้.....พี่ชายตื่นแล้ว.......” ไม่พูดเปล่าขย่มตัวไปมา จนซีเหมินรู้สึกจุก
“ เอาล่ะ .......เอาล่ะจ้ะเสี่ยวโย่วพี่ตื่นแล้ว......ทีนี้ลงไปจากอกพี่ซะทีได้ไหม”
เด็กหญิงปีนจากอกของเด็กชายอย่างว่าง่าย พลางฉุดมือของเขาอย่างกระตือรือร้น
“ จะพาพี่ไปไหน.......” ซีเหมินเดินลากขาเอื่อย ๆ ตามแรงฉุดของเด็กสาวตัวน้อย
“ พี่ชายอยู่ตรงนี้ก่อนนะ......”
เด็กหญิงวิ่งจุ๊ด ๆ........ไปหยิบมงกุฏดอกไม้ที่วางแอบเอาไว้ เธอเอามันสวมหัวอันหนึ่ง แล้ววิ่งกลับมาหาเขา
ซีเหมินมองเด็กหญิงที่วิ่งหัวเราะคิกคัก ในชุดผ้าชีฟองพองฟูสีชมพูใส..... เขารักน้องสาวคนนี้เหลือเกิน......น้องสาวที่เขาบังเอิญเก็บได้ข้างทาง
“ พี่ชาย ๆ.....” เด็กหญิงกระตุกมือของเขา
“ ว่าไงจ๊ะ.......” เด็กชายทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ อย่างเอาใจ
“ เสี่ยวโย่วรักพี่ชาย.......” เด็กหญิงวางมงกุฏดอกไม้ไว้บนหัวของเขา
“ พี่ชายก็รักเสี่ยวโย่วจ้ะ........น้องสาวน่ารักแบบนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้ว”
“ ไม่ใช่ ๆ.......เสี่ยวโย่วไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น......” เด็กหญิงส่ายหัวดิกหน้างอเง้า
“ เสี่ยวโย่วรักพี่ชาย....แบบ....แบบอะไรนะ.....แบบว่าที่ต้องแต่งงานกันน่ะ .”
“ อือม..จ้ะ แต่งก็แต่ง แต่ว่าเสี่ยวโย่วต้องโตเป็นสาวก่อนนะพี่ไม่ชอบผู้หญิงไม่มีหน้าอก” ซีเหมินตอบส่งเดชไป
“ ก็ได้ค่ะ......งั้นก็มาจุมพิตสัญญากันนะคะ”
“ จ้ะ...” ซีเหมินส่งยิ้มขี้เล่นแพรวพราว พลางจุ๊บเบา ๆ ที่แก้มของเด็กหญิง
นั่นเป็นเหตุการณ์เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ตอนที่เธอและเขายังเป็นเด็กอยู่ เด็กเกินกว่าที่จะรู้จักคำว่า “ฐานะ และ ชนชั้น “
“ มองอะไรเสี่ยวโย่ว.......” เขาชักหน้าสีหน้าบึ้งตึงใส่เธออีกแล้ว
“ ปละ.....เปล่าค่ะ.....คุณชายซีเหมิน”
“ เอ้า......ลงไปได้แล้ว......จะนั่งอยู่ในรถนี่ทั้งคืนหรือไง......” ซีเหมินเอื้อมมือไปเปิดประตูฝั่งของเธอให้
“ เอ่อ.....ค่ะ....คุณชายซีเหมิน......” พูดพลางพยายามปลดสายเบลต์อย่างลนลาน .....การได้อยู่ใกล้ ๆ เขาทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นส่ำ ..เสี่ยวโย่วหมุนซ้ายหมุนขวา แต่ว่าก็หาที่ปลดล็อคไม่ยักเจอ !!! ..
ซีเหมินส่ายหัวรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เอื้อมมือมายังที่นั่งอีกฝั่ง เพื่อช่วยเธอปลดล็อค ร่างกายของหญิงชายทั้งคู่ชิดใกล้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความชิดใกล้นั้นมันใกล้ซะจนเธอได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมประจำตัวของเขา ......
ความชิดใกล้นั้นมันใกล้ซะจนลมหายใจของเขาเป่ารดแก้มใสของเธอ
“ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณชายซีเหมินสักที” เขาปลดล็อคให้แล้ว ก็หันมาสั่งเธอต่อ
“ ค่ะ คุณชาย เอ่อ...คุณซีเหมิน..”
เสี่ยวโย่วก้มหน้างุดเดิน ลงไปสู่เรือนเล็กที่เป็นที่อาศัยของคนรับใช้ ..!!??
++++++++++++++++++++
--- สำนักงานใหญ่ TVB ---
“ คุณชายซู่หลงไม่น่าทำอย่างนั้นต่อนักข่าวนะ ..เพราะถึงยังไงทางเราก็เป็นดารา ที่ต้องพึ่งพาสื่อในการประชาสัมพันธ์ “ เจ๊ไฉติง ใบหน้าเคร่งเครียด เธอต้องเจอภาวะกดดันอีกคำรบใหญ่เป็นแน่
ซู่หลง ไม่พูดอะไรเพียงแต่เบือนใบหน้าออกไปนอกหน้าต่าง
ยูจิมอง ซู่หลงก็รู้ดีว่า เพื่อนของเขาพยายามข่มอารมณ์ที่เดือดปุดอย่างเต็มความสามารถ สำหรับคนอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจอย่างซู่หลง ปฏิกิริยาที่นิ่งเงียบนี้ ถือว่ายังดี
“ เอาล่ะ เจ๊ก็แค่อยากจะขอว่า ต่อจากนี้ไปคงต้องพวกคุณชายระมัดระวังกับข่าว พิเศษ อย่าให้มีเรื่องราวที่จะทำให้ทางนั้นเอาไปทำข่าวได้ก็แล้วกันนะคะ “ เจ๊ไฉพูดพลางมองดูท่าทีของคุณชายแต่ละคน
“ สำหรับเรื่องละคร คงต้องพักเอาไว้ก่อน ที่ถ่ายไปบ้างแล้วก็คงต้องลบทิ้ง “
พอพูดมาถึงตอนนี้ ซู่หลงก็หันขวับมาด้วยใบหน้าไม่พอใจ “ เจ๊ ว่ายังไงนะ ที่เราถ่ายไปเกือบ 10 % เจ๊จะลบทิ้ง !!! “
“ก็ ทางผู้ใหญ่เขาต้องการให้เปลี่ยนทีมตัวประกอบใหม่แทบทั้งหมด ตัวรองก็ด้วย ที่จริงแล้วตัวหลักที่คงเหลือก็มีแค่กลุ่ม โรมิโอเท่านั้น .. สาเหตุก็เพราะข่าวที่คุณชายเป็น เกย์ มันแรงเสียจนทางสปอนเซอร์เขาหวั่นใจ “ เจ๊ไฉพยายามอธิบาย
“ เหตุผลงี่เง่าสิ้นดี “ ซู่หลงตะคอก
“ เอาน่า ใจเย็น ๆ สิ ซู่หลง ทางเจ๊ไฉก็คงพยายามเต็มที่แล้วล่ะน่ะ . ใช่ไหมครับ“ เจี้ยนหาวนั่นเองที่เข้ามาไกล่เกลี่ย หลังจากวางหูโทรศัพท์นัดเดทกับสาวใหญ่ไปแล้ว .
ไจ่ไจ๋มองดูหน้าเจ๊ไฉที่มีความลำบากใจ . เขารู้ดีว่า เจ๊ไฉเองก็คงไม่ได้นิ่งนอนใจกับคำสั่งนั้นเหมือนกัน คงจะโต้แย้งไปแล้วด้วยซ้ำ และคงไม่เป็นผล . ถึงเจ๊ไฉจะเป็นบอสใหญ่คนหนึ่งใน TVB แต่ก็ไม่ได้กุมอำนาจเด็ดขาดในการบริหารงาน .. แม้จะเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเจ๊ไฉมีความสารมารถพิเศษในการปั้นดารา มีมุมมองใหม่ ๆ สำหรับศิลปด้านบันเทิงโดยเฉพาะศาสตร์ของการละคร จนอาจเรียกได้ว่าเป็นปรจารย์ของศาสตร์ทางนี้ก็ว่าได้ แต่ว่าความสามารถแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจบันเทิงของ TVB เจริญรุดหน้าไปได้ ทีมผู้บริหาร และ การตลาดจึงมักเข้ามามีบทบาทในการกำหนดแนวทางการทำงานของ ศิลปินในค่าย อย่างมาก
“ ทางผู้ใหญ่ให้เราเปิดแผนโปรโมท ละครใหม่ทั้งหมด เพื่อจะดึงดูดความสนใจของผู้ชม แล้วก็ให้สปอนเซอร์มั่นใจมากขึ้น .. โดยจะให้จัดแคสติ้งทีมนักแสดงหน้าใหม่ เข้ามารับบทที่เหลือ . ในระหว่างนี้ “ เจ๊ไฉทิ้งช่วงละเอาไว้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขาพูดแทน
“ พวกคุณชายต้องไปถ่ายโฆษณา อัดเสียง ซ้อมเต้น แจกลายเซ็นต์ และ ฯลฯ . ( หญิงสาวร่างเล็กขยับแว่นตาอ่านตารางงานที่ยาวเป็นหางว่าวอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงง่าย ๆ )
“ โอ้โห . เจ๊ไฉ ทำไมตารางงานมันโหดอย่างนี้ล่ะ นี่มันยิ่งกว่าเมื่อ4 เดือนก่อนอีกนะ “ เจี้ยนหาวโวยวาย นึกวิตกเวลาที่จะสูญหายจนไม่ได้เดทกับสาว ๆ
“ ไม่ต้องวิตกหรอกค่ะคุณชาย งานที่อ่านมาส่วนใหญ่จะแยกกันทำถ้าเฉลี่ย 5 คน แล้วก็มีอยู่ไม่กี่ 10 งานเท่านั้นเอง “ เป็นคำอธิบายง่าย ๆ จากใบหน้าที่นิ่งเฉยของคนที่เป็น ‘ ผู้จัดการ ‘
“ ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ว่า ซีเหมินน่ะ .( เจี้ยนหาวมองดูเพื่อนที่นอนหลับเป็นตายอยู่บนโซฟา ) .
ดูท่าจะไม่ได้ฟังเรื่องที่พูดมาเลยนะ “
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ย่านแหล่งแฟชันและช็อปปิ้งชื่อดัง
“ ขอบคุณนะคะ “ สาวพนักงานในร้านตัดผม ยิ้มหวานให้กับแขกที่พึ่งตัดผมเสร็จใหม่ ๆ
เด็กหนุ่มผิวคล้ำเข้ม เพียงแต่ยิ้มตอบ แค่ครึ่งยิ้ม แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้สาว ๆ ถึงกับหัวใจสลายกันเป็นทิวแถบ
ทุกก้าวที่เขาเดินผ่านจะทำให้ผู้หญิงเป็นลม เป็นหย่อม ๆ
เขามองซ้ายมองขวา จับผมที่พึ่งตัดเสร็จใหม่ ๆ อย่างไม่มั่นใจ
“ เสียดายชะมัดเลย อุตส่าห์ไว้มาตั้งนาน . แต่ว่าเพื่อสิ่งนั้นก็ต้องยอมล่ะนะ “ บ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อย
“ พลั่ก..! ..( เขาชนเข้ากับใครคนหนึ่ง) .โอ๊ะ ! ( ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งล้มในวงแขน)
“ คุณ ! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ! “ เด็กหนุ่มหน้าถอดสี เขย่าร่างที่เป็นลมสลบในวงแขน
---- ในความคิดเด็กหนุ่ม -----
ตายล่ะ ..ทำยังไงดี เดินชนคนตาย ฉันจะมีความผิดหรือเปล่า ฉันต้องเสียเงินช่วยงานศพเขาใช่ไหม
ไม่ได้ ! .ในภาวะที่ฉันจนกรอบขนาดนี้ ฉันจะไม่ยอมสูญเสียเงินแม้แต่เก๊เดียว
ทำยังไงดี ? ..ทำยังไงดี ? .หนีดีไหมเนี่ย .แต่ว่าจะปล่อยให้เขาตายได้ยังไง ถึงยังไงเราก็เป็นมนุษย์ร่วมโลกผู้มีศีลธรรม .. แต่ว่า ถ้าเป็นคนดี แล้วต้องติดคุก แถมเป็นคนคุกที่จนที่สุดในโลกเสียด้วย .
ช้าน จาทามยาง--- งาย !
“ คุณ .เป็นอะไรหรือเปล่า “ หญิงสาวคนหนึ่งสะกิดเข้าที่สีข้างของเด็กหนุ่ม หน้าตาของเธอนิ่งสนิทและเฉยชา
อีกทั้งแววตาที่มองมาเฉย ๆ แบบไร้อารมณ์นั้น มักจะกดดันให้ผู้ถูกมองทำอะไรไม่ถูกเสมอ
“ ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้ฆ่าใครตาย เขา .เขา คือ เขามาเดินมาตายในแขนฉันเอง ..” ปฎิเสธเป็นพัลวัน
“ เอ่อ .-_- \" .ถ้าหมายถึงผู้หญิงคนนั้น เขาไม่ได้ตายหรอก
เขาวิ่งไปนู่นแล้ว . รู้สึกว่าเขาจะขโมยกระเป๋าตังค์ของคุณไปด้วย “
“ ว่า---อา---ราย---น้า “ ( นั่งแปะ ..ช็อคสุดขีด !! เพราะนั่นเป็นเงินงวดสุดท้ายที่เขามีอยู่ ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอม ทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าใบนั้น )
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ร้านกาแฟ .
“ ยังงั้นเหรอ ..ทั้งหมดเป็นเงินทั้งหมดที่เธอมีอยู่ตอนนี้สินะ “
เด็กหนุ่มพยักหน้า น้ำตาปริ่มที่หน่วยตา
หญิงสาวมองใบหน้าของเขา เธอยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก ..เข้าล็อคของเธอพอดีเลยทีเดียว
“ ถ้าอย่างนั้น ก็คงจะง่ายขึ้น .. นี่ค่ะ “ ยื่นนามบัตรให้เด็กหนุ่ม
“ ผู้จัดการศิลปิน พิเศษ TVB “
“ ค่ะ ..ทางเรามีโปรเจกต์จะเปิดกล้องละครตัวใหม่ แม้ว่าทางเราจะเปิดแคสติ้งเพื่อหาตัวแสดงไปหลายรอบแล้ว แต่ว่ายังหาตัวแสดงที่เหมาะสมไม่ได้ . โปรเจกต์นี้เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ และทางผู้ใหญ่ก็อยากให้มันสมบูรณ์พร้อม จึงต้องพิถีพิถันกันจนถึงที่สุด .. ฉันคิดว่าบางทีคุณอาจสนใจ “ หญิงสาวพูดจาเป็นทางการด้วยใบหน้าที่ราบเรียบเช่นเคย
เด็กหนุ่มมองใบหน้าของหญิงสาว ใบหน้าที่จริงจังนั้น คงไม่ใช่แก็งค์ต้มตุ๋นหรอกล่วงเป็นแน่
---- ในความคิดของเด็กหนุ่ม ---
ถ้าเป็นแล้วยังไงล่ะ ถึงยังไงเราก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่
เขาว่าวงการนี้ค่าตอบแทนสูงมาก ถ้าผู้หญิงคนนี้พูดจริงล่ะก็ มันหมายถึง ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วก็ค่าเทอม ของเราเลยเชียวนะ
แต่ว่า ..ตั้งแต่เด็กฉันเล่นละครได้ห่วยอย่าบอกใคร ได้แสดงทีไรก็ได้รับบทเป็นต้นไม้ ใบหญ้าทุกที
“ ว่ายังไง สนใจหรือเปล่า “
“ ตกลง “ พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
หญิงสาวยิ้มพึงพอใจ
“ แต่ว่าตอนนี้คุณมีเงินให้ผมยืมก่อนได้ไหม “ แบมือมาตรงหน้า ในยามนี้ คำว่าศักดิ์ศรีใช้ไม่ได้ผลกับเขาแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น