ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    f4 dark II

    ลำดับตอนที่ #5 : …….Scene 4- 5

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 47


    Scene 4



    “นายคิดว่ามันเป็นอะไร ”       ซุยมองภาพเสก็ตสามมิติรูปผลึกแก้วสีดำสนิท  บนจอคอมพิวเตอร์



    ริว :    นั่งคลิกเมาท์  เพื่อหาคำตอบจากโลกไซเบอร์ที่กว้างขวางและไม่มีอาณาเขตจำกัดกั้น    



    แล้วภาพวาดโบราณ   ที่ร่างไว้คร่าว ๆ ก็ปรากฎ ( มันเป็นภาพถ่ายจากหนังสือที่เก่าคร่ำและฉีกขาด )    มีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาอาราบิกโบราณกำกับไว้

                         “ เปลือกแห่งการจองจำ  นาน 1 กัลป์ได้ปริออก  ... พร้อมกับการไชโยโห่ร้องของเหล่าอมนุษย์ ด้วยเหตุแห่งผู้ปกครองเผ่าพันธ์ได้ ถือกำเนิด     ”  

    ข้อความสั้น ๆ ในหนังสือ 1 หน้าที่ถูกกระชากฉีดขาด ...... มันคือ   Misty Myth   หนังสือต้องห้ามในอดีตกาลที่ถูกเผาทำลาย



    “ มันหมายความว่ายังไง…..สิ่งนั้นมันเป็น  เปลือก  ?  ”   ซุยขมวดคิ้วมุ่น ...  คำตอบที่คลุมเครือเช่นนี้ไม่ได้สร้างความกระจ่าง  แต่ยิ่งสร้างความหงุดหงิดในใจ

    “ และที่ฉันไม่เข้าใจที่สุด  ...  ทำไมเราต้องมาตามหากาลี  เหมือนกับควานหาเข็มที่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของมหาสมุทรแบบนี้....  ทั้งที่ให้พวกเรามาจุติ ,  แต่กลับไม่รู้เรื่องบ้าอะไรของกาลีเลยสักอย่าง  ”



    “ เพราะร่างของมนุษย์มีข้อจำกัด  ไม่อาจบรรจุความทรงจำที่มากมายของพวกเราได้  ...  แม้แต่ส่วนที่น้อยนิดก็ยังถูกกลบฝังไว้ในมโนสำนึก   ยากต่อการขุดคุ้ย”      ริวอธิบายเนิบ ๆ  



    สิ่งเดียวที่ตราติดในความทรงจำของเขา  คือ  คำทำนายถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

    ในขณะที่ซุยตราตรึงกับภาพของ  ตึกรามบ้านช่องที่เคยเจริญรุ่งเรือง  และอาณาจักรของมนุษย์ที่ล่มสลายในอดีต

    ----------------------------------------

    ด้านไค :



    เขากำลังเดินสำรวจในสนามกีฬาเก่า   มองปริศนาซากอาคารที่เผาไหม้  

    เมื่อมาหยุดยืนที่อาณาเขตวงกลม ( แต่ผลึกสีดำหายไปหมดแล้ว )……ไคหลับตาลง  ยื่นมือออกมาข้างหน้า  แล้วคลื่นพลังลึกลับบางอย่างที่ยังคงหลงเหลือ ก็ก่อตัวเป็นกลุ่มควันอย่างเงียบ ๆ…….มันม้วนตัวแล้วไหลลงบนมือของไค



    “ อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ”    ไคครางต่ำในลำคอ  รับรู้ถึงพลังที่อาบไล้ไปทั่วร่าง  เป็นพลังอันอบอุ่น

    เขารู้ดีว่านี่เป็นเพียงส่วนน้อยนิด  หากเทียบกับพลังที่เกิดขึ้นในวันนั้น…….แล้ว    ดวงตาสีม่วงของไคเปิดขึ้น ริมฝีปากหยักขึ้นน้อย ๆ   ,  เขาจ้องมองไปยังโรงเรียน



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~



    มืดมิดเหลือเกิน….ที่นี่มันที่ไหนกัน ?…. แล้วทำไมเธอจึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี   ( มิกะพยายามทบทวน   พยายามเพ่งตาไปในความมืด   พยายามจะก้าวขาออกเดินแต่มันก็ไร้ประโยชน์ )   ร่างของเธอไม่มีอยู่จริง….มันว่างเปล่า  มิกะรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นวัตถุอุ่นนุ่ม ไร้รูปทรง รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเพียงนิวเคลียสหนึ่งเท่านั้น  !!



    …..ช่วยด้วย !….ชะ…..ช่วยด้วย !!….   



    อ๊ากกกกกกกกกกกก  !…..ผลุ!    ผลุ !  ผลุ!    ….     เสียงที่ทุกข์ทรมาน และเสียงประทุของบางสิ่งบางอย่างดังสลับกันจนไม่รู้ว่าเสียงใด เป็นเสียงใด



    ช่วยด้วย ! !     สิ้นสุดเสียงร้อง ก้อนเนื้อที่มีน้ำเมือกไหลเยิ้มก็ทะลุทะลวงไปทุกแห่งในความมืด .. มันแตกกระจายและแทรกซึมไปทุกที่ ……แล้ว…..     มันก็เบียดเสียดเข้ามาในตัวเธอ !!  



                                                               “ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ”

    มิกะแผดเสียงกรีดร้องอย่างตกใจ ,   เธอตื่นขึ้น   แสงสว่างจ้าสาดตาจนเธอปรับภาพแทบไม่ทัน…..แล้วจึงเห็นว่าทั่วทั้งห้องเรียนจับตามองเธอเป็นจุดเดียวอย่างสนใจ

                                                                         ……นี่เธอฝันร้ายตอนกลางวัน !!.....



    “ ไฮบาระ  มิกะ “  เสียงครูวิชากายวิภาค  เรียกชื่อเธอ  

    “ กล้ามากนะที่หลับในวิชาของฉัน… งั้นเย็นนี้เธอก็อยู่ทำความสะอาดห้องวิทยาศาสตร์ด้วยก็แล้วกัน”   สั่งเสียงเฉียบก่อนเก็บตำราออกจากห้องไป  



    “ ค่ะ ”     มิกะตอบรับเสียงอ่อย  แล้วเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก ดังมาจากกลุ่มเพื่อนนักเรียนหญิงที่นั่งใกล้ ๆ



                                         มายุมิ  ผู้ได้รับฉายา sweet prince  ป้องปากหัวเราะด้วยจริตน่ารัก

    “ ฉันปล่าวหัวเราะเธอนะ  มิกะ “      รีบแก้ตัวเมื่อเห็นมิกะมองมา …  จริง ๆ แล้วหล่อนพึ่งจะนินทามิกะอย่างสนุกปากเมื่อตะกี้อยู่เลย  



    มิกะเลิกสนใจ  เธอไม่อยากใส่ใจกับมายุมิแล้ว…..เมื่อก่อนเธอนึกอยากอยู่กลุ่มเดียวกับมายุมิ  เพราะหล่อนเป็นคนสวยน่ารัก  และเป็นที่ popular มาก ๆ ……  มิกะยอมเป็นผู้ติดตามของมายุมิ   แต่ก็ถูกแกล้งอยู่เสมอ  



        มายุมิมีวิธีแกล้งที่แนบเนียนและไม่ทำให้เธอดูเป็นนางร้ายในสายตาใคร ๆ …..   ในทางตรงกันข้าม   คนที่ถูกมายุมิแกล้งจะกลับกลาย เป็นตัวตลก  เป็นตัวโจ๊กสาธารณะที่มีแต่คนหัวเราะเยาะเข้าใส่ ,  อย่างคราวทำความสะอาดห้องวิทยาศาสตร์  และเธออยู่กลุ่มเดียวกับมายุมิ…..มายุมิแกล้งใช้ให้เธอทำนู่นทำนี่จนหัวปั่น  จนกระทั่งมิกะก็หมดความอดทน  ,  เธอตวาดใส่มายุมิเป็นครั้งแรก

    “ เลิกทำตัวเป็นเจ้าหญิงสักทีได้ไหม  มายุมิ ….ถ้าเธอไม่ทำอะไรด้วยตัวเองซะบ้าง  เธอจะทำอะไรไม่เป็นเลยนะ“  



    มายุมิทำหน้าเหรอตกใจ   รับปากเสียงอ่อย พร้อมกับกล่าวคำว่า    ‘ขอโทษ’      

    แต่ยังไม่ทันสิ้นคำ   มายุมิก็แกล้งขัดขา  จนมิกะเซถลาไปยังตู้บ่มเชื้อรา….… แน่นอนทั่วทั้งร่างกายของมิกะเต็มไปด้วยเชื้อราที่บ่มเพาะเอาไว้



    จากนั้นเป็นต้นมา  เธอก็ได้รับฉายาน่าขยะแขยงว่า   ‘ยายเชื้อรา’

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    Scene 5

    มีนักเรียนหลายคนแอบมุงดูเหตุการณ์ของ  ชาย-หญิง คู่หนึ่งที่กำลังสนทนากันอยู่ตรงสุดทางเดิน



    “ อุ๊ยตาย  นายนั่น…..กล้าเกินไปหรือเปล่า  สะเออะเอาหน้าอย่างนั้นมายื่นจดหมายรักให้มายุมิเนี่ยนะ “



    “ อื้อนั่นน่ะสิ  มายุมิน่าสงสารนะ…..ถึงอยากจะปฏิเสธ  แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายไม่เสียใจได้ยังไง  …. มายุมิน่ะรักษาน้ำใจคนเสียด้วยน่ะสิ “

    ในสายตาของใครต่อใคร  มายุมิช่างเป็นนางเอกที่แสนดีซะจริง ๆ



    ด้านมายุมิ :

    “ ขอความกรุณารับไว้ด้วยนะครับ “  ชายหนุ่มสิวเขรอะ ยื่นซองจดหมายไปเบื้องหน้า



    “ อะไรกันเนี่ย  ไคซาว่า…..ฉันไม่นึกหรอกนะว่าเธอจะไม่เจียมตัวขนาดนี้ “  มายุมิพูดยิ้มหวาน แต่วาจากลับเชือดเฉือน



    “ วะ….ว่าไงนะครับ “  ชายหนุ่มเริ่มหน้าเจื่อน  แต่ไคซาว่าก็คิดว่าคงฟังผิดไปแน่ ๆ  

    ----ก็คุณมายุมิน่ะ  แสนจะอ่อนหวาน แล้วก็ใจดีนี่นา----



    “ ฉันว่าคนอย่างนายไม่เจียมกะลาหัว   หน้าตาก็ห่วย  …. กล้าดียังไงเอาจดหมายรักเส็งเคร็งนี่มายื่นให้ฉัน   คนอื่นจะมองฉันยังไงถ้าฉันรับจดหมายของนาย “  โดนเข้าไปเต็มชุด  ไคซาว่าผงะ



    “ มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ ที่พูดถึงขนาดนั้นน่ะ “ มิกะที่บังเอิญผ่านมาได้ยิน ทนไม่ได้



    “ อ๊ะ!  นึกว่าใคร  มิกะเองเหรอ…. ทำไมล่ะ  หรือว่าเธอแอบชอบไคซาว่าอยู่ ?....ฉันขอโทษนะ ที่ต้องปฏิเสธความรู้สึกของไคซาว่าแล้วก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย “  เจตนาพูดประโยคสุดท้ายเสียงดัง  พลางก้มหัวให้มิกะเป็นเชิงขอโทษ    



    ดังนั้นถ้ามองจากสายตาคนภายนอก มายุมิก็ได้ shot นางเอกผู้น่าสงสารไปอีกแล้วเต็ม ๆ ......  มิกะกัดฟันกรอด มองไปยังกลุ่มคนที่จับกลุ่มมองกันตาแป๋ว

    “ ใครบอกเธอกันฮะ  ว่าฉันชอบไคซาว่า….. อย่างฉันจะไปชอบไคซาว่าได้ยังไง !! “  แล้วมิกะก็ชะงัก  เมื่อนึกขึ้นได้ว่าการที่เธอตะโกนเช่นนั้น ก็เท่ากับเป็นการซ้ำเติมไคซาว่า

    “ ดะ.....เดี๋ยว !  ไคซาว่า  ฉัน  !~“          



    มิกะขอโทษไคซาว่าไม่ทัน   เพราะเขาวิ่งออกไปจากที่แห่งนั้นเสียแล้ว



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×