ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : scene 2
scene 2
“ คุณหนูโจวเจวี้ยหมิน...... คนนี้คือ หลิว ซิงหยู นับจากวันนี้ไป เธอจะเป็นผู้ดูแลคนใหม่ของคุณชายครับ ” อาจารย์ใหญ่เอ่ยแนะนำอย่างเป็นทางการ
ไจ่ไจ๋ เพียงแต่ปรายตามอง ในขณะที่เดินไปนั่งตรงโต๊ะเปียนโนสีดำ
“ อาจารย์สีเสินหยางถูกไล่ออกแล้วสินะ .. “
“ ครับ.... “
“ คำสั่งของคุณพ่อหรือ “
“ เปล่าครับ..... แต่เป็นเพราะบอร์ดบริหารลงมติเห็นตรงกันว่า อาจารย์สีเสินหยางมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม .และหากข่าวนี้รั่วไหลไป ก็อาจทำให้โรงเรียนของเราเสียชื่อเสียงได้ “
“ แล้วคิดว่า.....เด็กผู้หญิงคนนี้จะดูแลฉันได้หรือไง “ ปรายสายตาเย็นชา ขณะที่เล่นเปียนโนเสียงแผ่วพลิ้ว .ไม่รู้ว่าซิงหยูคิดไปเองหรือเปล่า เพราะดูเหมือนว่าอาจารย์ใหญ่ จะมีแววตาวิตกอยู่ไม่น้อย
“ ผมไม่คิดว่าคุณเหม่ยเหมยจะมีลูกชายที่หัวใจเย็นชา....สามารถทำร้ายเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้หรอกครับ “ อาจารย์ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะเดินออกไป
ด้านซิงหยูซี่งไม่เข้าใจในบทสนทนาได้แต่ยืนนิ่ง..... มองคนที่เรียกเธอว่า เด็กผู้หญิงคนนี้ อย่างสนใจ
ถึงเขาจะอ่อนกว่าเธอมาก แต่กิริยาที่เย็นชา สุขุม ก็ทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่.... และมีรังสีอำนาจบางอย่างที่ชวนให้คนเข้าใกล้รู้สึกครั่นคร้ามในท่าทีเย็นชาเหล่านั้น
ความคิดตอนแรก ๆ ที่คิดว่า...... เขาเป็นเพียง เด็กบ้าปีศาจขโมยจูบ เปลี่ยนไป
ก็ท่วงทำนองอ่อนหวานของเปียนโนนั้น.... มันให้ความรู้สึกว่าเขาช่างเป็นผู้ชายที่ sensitive และ อ่อนไหว เสียเหลือเกิน
บางทีเด็กผู้ชายคนนี้ คงต้องการ การดูแลเอาใจใส่ มากกว่าที่ใคร ๆ จะคาดคิดก็เป็นได้
“ มองอะไร.. หรือว่า.....อยากได้จูบจากฉันอีก “ น้ำเสียงราบเรียบเย็นชา รวมทั้งสายตาดูถูกนั้น ฉุดภวังค์ของซิงหยูออกมาจากห้วงคิด
--- ตาเด็กบ้า หนอย ! ทั้ง ๆ ที่กำลังนึกสงสารอยู่เชียว ---
“ มองเด็กบ้า ปิศาจขโมยจูบ อยู่มั้งคะ “ ความโกรธทำให้ซิงหยูต่อปากต่อคำอย่างยั้งคิด
“ เด็กบ้า ปีศาจขโมยจูบ งั้นหรือ... “
เจอสายตาที่หรี่ลง อย่างพิจารณา....ซิงหยูก็จำใจต้องเดินหน้าต่อไป ก็เผลอตัวไปว่าเขาเสียแล้วนี่....อีกอย่างขืนปล่อยให้เขาข่มเธอได้ ชีวิตผู้ดูแลคนใหม่ของคุณหนูโจวเจวี้ยหมิน ก็คงมีปัญหาไม่น้อยแน่....ยังไงซะเธอก็ต้องแสดงให้เห็นว่า เขาจะไม่สามารถมีอิทธิพลต่อเธอ
“ เอาเป็นว่า เรื่องนั้น...... พี่จะไม่ถือสาเธอก็แล้วกัน .... แต่ต่อจากนี้ไป เธอต้องทำความเข้าใจเสียใหม่..... อย่างที่อาจารย์แนะนำ ไม่ว่าเธอจะยอมรับพี่หรือไม่.... แต่ว่านับจากวันนี้พี่จะมาดูแลเธอ ทั้งวิชาที่เธอขาดเรียน พี่จะติวเธอให้ทันเพื่อน ๆ ร่วมชั้นเอง....รวมทั้งการสอบเข้าชั้น ม.ปลาย ด้วย.... อ้อ สำหรับวิชาพละที่เธอไม่เข้าชั่วโมงเรียนเลย ต่อจากนี้ไปขอแค่ไปนั่งเพื่อการมีส่วนร่วมก็น่าจะใช้ได้แล้ว...”
“ ที่พูดอย่างนั่นน่ะ.....แน่ใจแล้วหรือ “
“ หา......”
“ ก็เธอน่ะ.... รู้ตัวหรือเปล่า ว่าที่จะติวให้ฉัน ไม่ใช่แค่เนื้อหา ม.ต้น.....แต่เป็นเนื้อหา ม.ปลายทั้งหมดด้วย เพราะพ่อฉันต้องการให้ฉันสอบเข้า มหาวิทยาลัยแพทย์ที่บอสตัน “
“ ว่าไงนะ !! “
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องอาจารย์ใหญ่ :
“ ไม่ผิดหรอก.....เทอมหน้าที่จะมาถึง คุณชายต้องเตรียมตัวไปสอบมหาวิทยาลัยแพทย์ที่บอสตัน “
“ แต่ว่า....ถ้าถึงขนาดนั้น หนูคงมีความสามารถไม่พอที่จะดูแลคุณหนูโจวเจวี้ยหมินหรอกค่ะ “
“ เรื่องนั้น ... มันก็จริง แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอกซิงหยู คุณหนูโจวเจวี้ยหมินน่ะมีทีมครูสอนพิเศษเพื่อการนั้นแล้ว....ปัญหามันอยู่ที่ตอนนี้ต้องทำให้คุณหนูเรียนหลักสูตรของ ม.ต้น ให้จบ และสามารถสอบเทียบชั้น ม.ปลายให้ได้เสียก่อน....ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของเธอ....คุณหนูโจวน่ะเป็นเด็กหัวดีมากนะ ติดอยู่ที่ว่าเวลาเรียนไม่พอเท่านั้น “
“ แต่ว่า .... “
“ ครูรู้ว่ามันอาจเป็นเรื่องลำบาก...... แต่ว่านอกจากเธอแล้วครูก็หมดปัญญาไปพึ่งใครจริง ๆ ...ถือเสียว่าทำเพื่อโรงเรียนเถอะนะ “
โดนขอร้องจากอาจารย์ใหญ่ขนาดนั้น ซิงหยูก็ได้แต่ใจอ่อน
แค่คิดถึงภาระอันหนักหน่วง ก็ต้องถอนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย...... ตาเด็กบ้าปีศาจขโมยจูบนั่น ดูท่าแล้วก็คงไม่ยอมเข้าเรียนตามปกติเหมือนชาวบ้านเขาแน่ ๆ...... ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเธอต้องปันเวลาว่างทั้งหมด และบางครั้งอาจต้องโดดเรียนไปเพื่อสอนเขาด้วยน่ะสินะ....เฮ้อ
เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น.....ซิงหยูปัดความคิดที่วุ่นวายทิ้ง.... ยังไงซะพรุ่งนี้ก็ค่อยมาหาวิธีกันใหม่ก็แล้วกัน
ซิงหยูเดินเอื่อย ๆ มาตามทางเดิน ..... แล้วก็พึ่งรู้ตัวว่าบางอย่างผิดปกติไป
กระเป๋านักเรียน !!!......
ดันลืมกระเป๋าไว้ที่นั่นเสียได้....ซิงหยูรีบหันหลังกลับ ต้องรีบไปเอา ก่อนที่รั้วโรงเรียนจะปิด......
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ ดันหลงทางอีกแล้ว .... ถ้าไม่เป็นเพราะ ตาคุณหนูนั่นทำแว่นตาฉันพังล่ะก็ ฉันก็คงไม่ต้องลำบากถึงขนาดนี้หรอก ..“ ซิงหยูบ่นกระปอดกระแปด ในขณะที่กำลังแหวกพุ่มไม้เพื่อจะเข้าไปยังอาคารโจวเจวี้ยหมิน...
แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงบ่นของใครบางคน
“ฉันจะทำอย่างไรดีนะ นี่ถ้านายท่านรู้เรื่องเข้าล่ะก็ .....ฉันมีหวังกระเด็นออกจากงานขับรถนี่แน่ ๆ “ ชายสูงวัยในชุดคนขับรถ ยืนขมวดคิ้วมุ่น ข้างรถคาร์ดิแล็คสีดำสนิท
“ มีอะไรเหรอคะลุง “
“ ก็คุณชายโจวเจวี้ยหมินน่ะสิ .... สั่งให้ผมกลับไปก่อน แล้วก็ไม่ต้องรับเธอกลับบ้านอีก......ถึงที่บ้านนั้นนายท่านจะไม่ค่อยอยู่ก็เถอะนะ แต่ว่าถ้ารู้ว่าลูกชายไม่ยอมกลับไปนอนที่คฤหาสน์เลยสักวันล่ะก็.....( เริ่มเหลือบตามาดูคู่สนทนาที่มองตาแป๋วมองอย่างสนอกสนใจ )...ว่าแต่คุณหนูเป็นใครเนี่ย...“
“ แหะ ๆ.... ชื่อ ซิงหยู ค่ะ .เป็นพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่”
“ พี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ ??? “
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ อ๋อ อย่างนั้นหรือครับ...... เพราะคุณสีเสินหยางโดนไล่ออกไปแล้วนั่นเอง “
“ ค่ะ....อันที่จริงหนูก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรมากไปกว่านี้หรอกนะคะ...แต่ว่า เด็กคนนั้นน่ะ...เอ้อ...หนูหมายถึง คุณหนูโจวเจวี้ยหมินน่ะค่ะ ดูเหมือนว่าเขากำลังเหงาอยู่นะคะ “
เกาเซียะโหย่ว มองหน้าเด็กผู้หญิงด้วยความแปลกใจ.... ถึงใบหน้านั้นจะดูอ่อนวัยอยู่มากนัก แถมยังเป็นผู้ที่เคยเจอคุณชายวันนี้เป็นวันแรกเสียด้วย.....แต่ว่า เธอกลับสามารถมองเห็นสิ่งที่ผู้ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้นจะสังเกตเห็นได้ในตัวคุณชาย.... อะไรบางอย่างบอกกับเขาว่า เด็กผู้หญิงคนนี้นี่แหละ คือคนที่จะกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลคนสำคัญ
“ ครับ.....เธอน่ะน่าสงสารนะครับ ถึงจะแสดงท่าทีที่เย็นชา แต่ก็คงเหงามากอย่างที่คุณว่าจริง ๆ.... ก็ตั้งแต่เด็กแล้วที่ต้องอยู่คฤหาสน์หลังนั้นเพียงลำพัง ถึงจะมีญาติพี่น้องมากมาย แต่ว่าเพราะว่าเป็นลูกชายคนโปรด จึงโดนขเม่นจากบรรดาพี่ ๆ ต่างแม่....คุณท่านเองแม้จะรักลูกชายคนนี้มาก แต่เพราะโตมาในครอบครัวนักธุรกิจที่เย็นชา ที่มีปัญหาเรื่องการแสดงออกในเรื่องความรัก..... ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกคู่นี้จึงเหมือนจะห่างเหินเสียเหลือเกิน “
“ อือม....เพราะอย่างนี้นี่เอง “ ซิงหยูพยักหน้าหงึกหงัก อย่างเข้าใจ
“ ต่อไป คุณหนู ก็คงต้องมีหน้าที่ดูแลคุณหนูโจวเจวี้ยหมิน.....ผมอยากขอร้องให้ใส่ใจดูแลเธอให้มากๆ..... คุณหนูโจวเจวี้ยหมินน่ะถ้ามีกิริยาที่ไม่ดีต่อคุณหนูล่ะก็ ได้โปรดเข้าใจเธอด้วยนะครับ....”
“ เอ๋ !!... “
“ เรื่องผู้หญิงน่ะครับ...... เธอเกลียดผู้หญิงมาก ท่าทีที่เธอแสดงออกน่ะ เป็นเพราะโรคเกลียดผู้หญิง....แต่ถ้าเป็นคุณหนูล่ะก็ ผมว่าเธอคงไม่เกลียดแน่ “
“ ดะ...เดี๋ยว !! . ลุงกำลังเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า เด็กคนนั้นน่ะนะ เป็นโรคเกลียดผู้หญิง แต่ว่าที่หนูเห็นมัน-- “
( นึกถึงร่าง ราง ๆ ของผู้หญิง กับ กิจกรรมที่ฝ้ามัวในห้องตอนนั้น )
“ อะไรหรือครับ ? “ ผู้สูงวัยถามด้วยความสนใจ.....ซิงหยูได้แต่หน้าแดง จะตอบได้ยังไง ว่าคุณชายที่แสนดีของลุงน่ะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ คุณหนูโจวเจวี้ยหมิน...... คนนี้คือ หลิว ซิงหยู นับจากวันนี้ไป เธอจะเป็นผู้ดูแลคนใหม่ของคุณชายครับ ” อาจารย์ใหญ่เอ่ยแนะนำอย่างเป็นทางการ
ไจ่ไจ๋ เพียงแต่ปรายตามอง ในขณะที่เดินไปนั่งตรงโต๊ะเปียนโนสีดำ
“ อาจารย์สีเสินหยางถูกไล่ออกแล้วสินะ .. “
“ ครับ.... “
“ คำสั่งของคุณพ่อหรือ “
“ เปล่าครับ..... แต่เป็นเพราะบอร์ดบริหารลงมติเห็นตรงกันว่า อาจารย์สีเสินหยางมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม .และหากข่าวนี้รั่วไหลไป ก็อาจทำให้โรงเรียนของเราเสียชื่อเสียงได้ “
“ แล้วคิดว่า.....เด็กผู้หญิงคนนี้จะดูแลฉันได้หรือไง “ ปรายสายตาเย็นชา ขณะที่เล่นเปียนโนเสียงแผ่วพลิ้ว .ไม่รู้ว่าซิงหยูคิดไปเองหรือเปล่า เพราะดูเหมือนว่าอาจารย์ใหญ่ จะมีแววตาวิตกอยู่ไม่น้อย
“ ผมไม่คิดว่าคุณเหม่ยเหมยจะมีลูกชายที่หัวใจเย็นชา....สามารถทำร้ายเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้หรอกครับ “ อาจารย์ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะเดินออกไป
ด้านซิงหยูซี่งไม่เข้าใจในบทสนทนาได้แต่ยืนนิ่ง..... มองคนที่เรียกเธอว่า เด็กผู้หญิงคนนี้ อย่างสนใจ
ถึงเขาจะอ่อนกว่าเธอมาก แต่กิริยาที่เย็นชา สุขุม ก็ทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่.... และมีรังสีอำนาจบางอย่างที่ชวนให้คนเข้าใกล้รู้สึกครั่นคร้ามในท่าทีเย็นชาเหล่านั้น
ความคิดตอนแรก ๆ ที่คิดว่า...... เขาเป็นเพียง เด็กบ้าปีศาจขโมยจูบ เปลี่ยนไป
ก็ท่วงทำนองอ่อนหวานของเปียนโนนั้น.... มันให้ความรู้สึกว่าเขาช่างเป็นผู้ชายที่ sensitive และ อ่อนไหว เสียเหลือเกิน
บางทีเด็กผู้ชายคนนี้ คงต้องการ การดูแลเอาใจใส่ มากกว่าที่ใคร ๆ จะคาดคิดก็เป็นได้
“ มองอะไร.. หรือว่า.....อยากได้จูบจากฉันอีก “ น้ำเสียงราบเรียบเย็นชา รวมทั้งสายตาดูถูกนั้น ฉุดภวังค์ของซิงหยูออกมาจากห้วงคิด
--- ตาเด็กบ้า หนอย ! ทั้ง ๆ ที่กำลังนึกสงสารอยู่เชียว ---
“ มองเด็กบ้า ปิศาจขโมยจูบ อยู่มั้งคะ “ ความโกรธทำให้ซิงหยูต่อปากต่อคำอย่างยั้งคิด
“ เด็กบ้า ปีศาจขโมยจูบ งั้นหรือ... “
เจอสายตาที่หรี่ลง อย่างพิจารณา....ซิงหยูก็จำใจต้องเดินหน้าต่อไป ก็เผลอตัวไปว่าเขาเสียแล้วนี่....อีกอย่างขืนปล่อยให้เขาข่มเธอได้ ชีวิตผู้ดูแลคนใหม่ของคุณหนูโจวเจวี้ยหมิน ก็คงมีปัญหาไม่น้อยแน่....ยังไงซะเธอก็ต้องแสดงให้เห็นว่า เขาจะไม่สามารถมีอิทธิพลต่อเธอ
“ เอาเป็นว่า เรื่องนั้น...... พี่จะไม่ถือสาเธอก็แล้วกัน .... แต่ต่อจากนี้ไป เธอต้องทำความเข้าใจเสียใหม่..... อย่างที่อาจารย์แนะนำ ไม่ว่าเธอจะยอมรับพี่หรือไม่.... แต่ว่านับจากวันนี้พี่จะมาดูแลเธอ ทั้งวิชาที่เธอขาดเรียน พี่จะติวเธอให้ทันเพื่อน ๆ ร่วมชั้นเอง....รวมทั้งการสอบเข้าชั้น ม.ปลาย ด้วย.... อ้อ สำหรับวิชาพละที่เธอไม่เข้าชั่วโมงเรียนเลย ต่อจากนี้ไปขอแค่ไปนั่งเพื่อการมีส่วนร่วมก็น่าจะใช้ได้แล้ว...”
“ ที่พูดอย่างนั่นน่ะ.....แน่ใจแล้วหรือ “
“ หา......”
“ ก็เธอน่ะ.... รู้ตัวหรือเปล่า ว่าที่จะติวให้ฉัน ไม่ใช่แค่เนื้อหา ม.ต้น.....แต่เป็นเนื้อหา ม.ปลายทั้งหมดด้วย เพราะพ่อฉันต้องการให้ฉันสอบเข้า มหาวิทยาลัยแพทย์ที่บอสตัน “
“ ว่าไงนะ !! “
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องอาจารย์ใหญ่ :
“ ไม่ผิดหรอก.....เทอมหน้าที่จะมาถึง คุณชายต้องเตรียมตัวไปสอบมหาวิทยาลัยแพทย์ที่บอสตัน “
“ แต่ว่า....ถ้าถึงขนาดนั้น หนูคงมีความสามารถไม่พอที่จะดูแลคุณหนูโจวเจวี้ยหมินหรอกค่ะ “
“ เรื่องนั้น ... มันก็จริง แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอกซิงหยู คุณหนูโจวเจวี้ยหมินน่ะมีทีมครูสอนพิเศษเพื่อการนั้นแล้ว....ปัญหามันอยู่ที่ตอนนี้ต้องทำให้คุณหนูเรียนหลักสูตรของ ม.ต้น ให้จบ และสามารถสอบเทียบชั้น ม.ปลายให้ได้เสียก่อน....ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของเธอ....คุณหนูโจวน่ะเป็นเด็กหัวดีมากนะ ติดอยู่ที่ว่าเวลาเรียนไม่พอเท่านั้น “
“ แต่ว่า .... “
“ ครูรู้ว่ามันอาจเป็นเรื่องลำบาก...... แต่ว่านอกจากเธอแล้วครูก็หมดปัญญาไปพึ่งใครจริง ๆ ...ถือเสียว่าทำเพื่อโรงเรียนเถอะนะ “
โดนขอร้องจากอาจารย์ใหญ่ขนาดนั้น ซิงหยูก็ได้แต่ใจอ่อน
แค่คิดถึงภาระอันหนักหน่วง ก็ต้องถอนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย...... ตาเด็กบ้าปีศาจขโมยจูบนั่น ดูท่าแล้วก็คงไม่ยอมเข้าเรียนตามปกติเหมือนชาวบ้านเขาแน่ ๆ...... ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเธอต้องปันเวลาว่างทั้งหมด และบางครั้งอาจต้องโดดเรียนไปเพื่อสอนเขาด้วยน่ะสินะ....เฮ้อ
เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น.....ซิงหยูปัดความคิดที่วุ่นวายทิ้ง.... ยังไงซะพรุ่งนี้ก็ค่อยมาหาวิธีกันใหม่ก็แล้วกัน
ซิงหยูเดินเอื่อย ๆ มาตามทางเดิน ..... แล้วก็พึ่งรู้ตัวว่าบางอย่างผิดปกติไป
กระเป๋านักเรียน !!!......
ดันลืมกระเป๋าไว้ที่นั่นเสียได้....ซิงหยูรีบหันหลังกลับ ต้องรีบไปเอา ก่อนที่รั้วโรงเรียนจะปิด......
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ ดันหลงทางอีกแล้ว .... ถ้าไม่เป็นเพราะ ตาคุณหนูนั่นทำแว่นตาฉันพังล่ะก็ ฉันก็คงไม่ต้องลำบากถึงขนาดนี้หรอก ..“ ซิงหยูบ่นกระปอดกระแปด ในขณะที่กำลังแหวกพุ่มไม้เพื่อจะเข้าไปยังอาคารโจวเจวี้ยหมิน...
แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงบ่นของใครบางคน
“ฉันจะทำอย่างไรดีนะ นี่ถ้านายท่านรู้เรื่องเข้าล่ะก็ .....ฉันมีหวังกระเด็นออกจากงานขับรถนี่แน่ ๆ “ ชายสูงวัยในชุดคนขับรถ ยืนขมวดคิ้วมุ่น ข้างรถคาร์ดิแล็คสีดำสนิท
“ มีอะไรเหรอคะลุง “
“ ก็คุณชายโจวเจวี้ยหมินน่ะสิ .... สั่งให้ผมกลับไปก่อน แล้วก็ไม่ต้องรับเธอกลับบ้านอีก......ถึงที่บ้านนั้นนายท่านจะไม่ค่อยอยู่ก็เถอะนะ แต่ว่าถ้ารู้ว่าลูกชายไม่ยอมกลับไปนอนที่คฤหาสน์เลยสักวันล่ะก็.....( เริ่มเหลือบตามาดูคู่สนทนาที่มองตาแป๋วมองอย่างสนอกสนใจ )...ว่าแต่คุณหนูเป็นใครเนี่ย...“
“ แหะ ๆ.... ชื่อ ซิงหยู ค่ะ .เป็นพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่”
“ พี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ ??? “
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ อ๋อ อย่างนั้นหรือครับ...... เพราะคุณสีเสินหยางโดนไล่ออกไปแล้วนั่นเอง “
“ ค่ะ....อันที่จริงหนูก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรมากไปกว่านี้หรอกนะคะ...แต่ว่า เด็กคนนั้นน่ะ...เอ้อ...หนูหมายถึง คุณหนูโจวเจวี้ยหมินน่ะค่ะ ดูเหมือนว่าเขากำลังเหงาอยู่นะคะ “
เกาเซียะโหย่ว มองหน้าเด็กผู้หญิงด้วยความแปลกใจ.... ถึงใบหน้านั้นจะดูอ่อนวัยอยู่มากนัก แถมยังเป็นผู้ที่เคยเจอคุณชายวันนี้เป็นวันแรกเสียด้วย.....แต่ว่า เธอกลับสามารถมองเห็นสิ่งที่ผู้ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้นจะสังเกตเห็นได้ในตัวคุณชาย.... อะไรบางอย่างบอกกับเขาว่า เด็กผู้หญิงคนนี้นี่แหละ คือคนที่จะกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลคนสำคัญ
“ ครับ.....เธอน่ะน่าสงสารนะครับ ถึงจะแสดงท่าทีที่เย็นชา แต่ก็คงเหงามากอย่างที่คุณว่าจริง ๆ.... ก็ตั้งแต่เด็กแล้วที่ต้องอยู่คฤหาสน์หลังนั้นเพียงลำพัง ถึงจะมีญาติพี่น้องมากมาย แต่ว่าเพราะว่าเป็นลูกชายคนโปรด จึงโดนขเม่นจากบรรดาพี่ ๆ ต่างแม่....คุณท่านเองแม้จะรักลูกชายคนนี้มาก แต่เพราะโตมาในครอบครัวนักธุรกิจที่เย็นชา ที่มีปัญหาเรื่องการแสดงออกในเรื่องความรัก..... ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกคู่นี้จึงเหมือนจะห่างเหินเสียเหลือเกิน “
“ อือม....เพราะอย่างนี้นี่เอง “ ซิงหยูพยักหน้าหงึกหงัก อย่างเข้าใจ
“ ต่อไป คุณหนู ก็คงต้องมีหน้าที่ดูแลคุณหนูโจวเจวี้ยหมิน.....ผมอยากขอร้องให้ใส่ใจดูแลเธอให้มากๆ..... คุณหนูโจวเจวี้ยหมินน่ะถ้ามีกิริยาที่ไม่ดีต่อคุณหนูล่ะก็ ได้โปรดเข้าใจเธอด้วยนะครับ....”
“ เอ๋ !!... “
“ เรื่องผู้หญิงน่ะครับ...... เธอเกลียดผู้หญิงมาก ท่าทีที่เธอแสดงออกน่ะ เป็นเพราะโรคเกลียดผู้หญิง....แต่ถ้าเป็นคุณหนูล่ะก็ ผมว่าเธอคงไม่เกลียดแน่ “
“ ดะ...เดี๋ยว !! . ลุงกำลังเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า เด็กคนนั้นน่ะนะ เป็นโรคเกลียดผู้หญิง แต่ว่าที่หนูเห็นมัน-- “
( นึกถึงร่าง ราง ๆ ของผู้หญิง กับ กิจกรรมที่ฝ้ามัวในห้องตอนนั้น )
“ อะไรหรือครับ ? “ ผู้สูงวัยถามด้วยความสนใจ.....ซิงหยูได้แต่หน้าแดง จะตอบได้ยังไง ว่าคุณชายที่แสนดีของลุงน่ะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น