ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Scene 13
Scene 13
เสี่ยวโย่วยืนอยู่หน้ากระจก จ้องมองใบหน้าที่มีใฝเม็ดบางใต้ดวงตา เธอกำลังรู้สึกเป็นกังวล
--- คุณชายซีเหมินจะเป็นยังไงบ้างนะ ?---
หลังจากที่เขาพาเธอมาส่งที่บ้าน เขาก็ขับรถออกไปอีก . เสี่ยวโย่วมองดูนาฬิกามันเป็นเวลาเกือบตีสอง
ที่จริงนี่ไม่ใช่เวลาที่ผิดปกติสำหรับคุณชายซีเหมิน แต่สิ่งที่ทำให้เธอเป็นกังวล คือ . แววตาของเขา
แววตาฉายแววปวดร้าว คับแค้น . และ เศร้า ?!!
--- ทำไมคุณชายถึงมองเธอด้วยแววตาแบบนั้นนะ ? ---
++++++++++++++++++++++++++
อึก อึก อึ๊ก ! ( เป็นเสียงสะอึกเนื่องจากการกระดกน้ำสีอำพันไม่บันยะบันยังของซีเหมิน )
ซีเหมินดื่มจนกระทั่งเหล้าหมดขวด แล้วจึงทิ้งตัวลงนอนบนสนามหญ้าที่เปียกชื้น เขาไม่สนใจเสื้อเชิ้ตราคาแพงที่เริ่มแนบลู่ติดกาย
ณ ขณะนี้ ภาพของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กำลังลอยวนเวียนวุ่นวายอยู่ในหัวสมอง .
เธอเป็นเด็กหญิงที่งดงามยิ่งนัก เส้นผมของเธอดกหนาและดำขลับ แก้มของเธอเป็นสีแดงเรื่อ ริมฝีปากของเธอเป็นสีกุหลาบ และเมื่อเธอยิ้ม ก็ดังราวกับว่าเธอสามารถทำให้ดวงดาวเปล่งแสงได้ในเวลากลางวัน . เธอคือ
เสี่ยวโย่วของเขา
--- พี่ชายคะ พี่ชาย . เสี่ยวโย่วรักพี่ชายที่สุดเลย โตขึ้นเสี่ยวโย่วจะแต่งงานกับพี่ชายนะคะ ---
เป็นประโยคสัญญาด้วยความไร้เดียงสา ซีเหมินยิ้ม เขารู้ว่ามันเป็นสัญญาแบบเด็ก ๆ เสี่ยวโย่วแค่อยากแสดงให้เห็นว่า เธอรักพี่ชายอย่างเขามามายเพียงใด
ความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ . ซีเหมินพยายามทบทวน
8 ขวบ .. เรื่องราวทุกอย่างเริ่มต้นตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 8 ขวบ
ในวันที่เขาต้องไปฝังศพ ของผู้ที่เป็น “ พ่อ และ แม่ “
วันนั้นซีเหมินเบื่อหน่ายกับความวุ่นวาย และการใส่หน้ากากของบรรดาญาติ ๆ เขายอมให้ลุงเฉินคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์เดินตามมาเพียงคนเดียว
“ รอให้พวกเขากลับไปหมด แล้วฉันถึงจะกลับ “ เด็กน้อยสั่งผู้ติดตามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ผู้สูงวัยกว่าพยักหน้ารับ เขาลอบมองคุณชายซีเหมิน แม้วัยของเจ้านายน้อยยังเยาว์ แต่บุคลิกและความเย็นชาของเขาไม่ต่างอะไรกับผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ
คุณชายซีเหมินเป็นเด็กเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจา อาจเป็นเพราะว่าเขาถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวมาเกือบตลอด ความโดดเดี่ยว และความอ้างว้าง ได้หล่อหลอมบุคลิกเย็นชาและเข้าไม่ถึงให้กับเขา
แต่ว่า เด็ก ก็ยังเป็นเด็ก การที่ต้องสูญเสียบุพการีด้วยวัยเพียงแค่นี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวด
“ นายรอฉันอยู่ตรงนี้แหละ “ เด็กชายสั่งเฉินยวี่ซิง เขาเดินขึ้นไปยังเนินดินเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่
เด็กชายเดินอ้อมจนกระทั่งถึงด้านหลังของต้นไม้ เมื่อเห็นว่าลับตาคนแล้ว เขาจึงยอมปล่อยให้น้ำตาแห่งความอาลัยไหลทะลักออกมา
“ พ่อครับ แม่ครับ ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน “
“ พ่อครับ แม่ครับ . ทำไมถึงไม่พาผมไปด้วย . ไหนคุณพ่อกับคุณแม่สัญญากับผมว่าหลังจากเดินทางครั้งนี้ผมจะไม่เหงาอีกต่อไปไง . ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่รักษาสัญญา “ ซีเหมินร้องไห้ เขาไม่สามารถกลั้นก้อนสะอื้นที่ลำเลียงผ่านลำคอของเขาอีกต่อไปได้ ไหล่ที่เคยผึ่งผายองอาจอยู่เป็นนิจ งอคุ้ม
ณ เวลานี้ เแม้ว่าซีเหมินจะต้องการอ้อมแขนของใครสักคน เพื่อปลอบประโลมความทุกข์ระทมที่ท่วมท้นอยู่ในจิตใจ .. แต่เขาก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ จริงอยู่ว่ามีญาติมากมายพร้อมจะเสนอตัวเพื่อปลอบโยน แต่พวกนั้นทำไปก็เพราะสิ่งตอบแทนที่หวังจะได้จากเขามากกว่า . และซีเหมินไม่ต้องการอ้อมแขนที่จอมปลอมเหล่านั้น
“ โอ๋..โอ๋ อย่าร้องไห้ “ อ้อมแขนน้อย ๆ สีน้ำนมพยายามโอบปลอบเด็กชายที่ตัวใหญ่กว่า ดูท่าหล่อนยังไม่รู้ประสาเสียด้วยซ้ำ
“ อย่าร้องไห้ ให้ตุ๊กตา อย่าร้องไห้ “ เด็กหญิงยัดตุ๊กตาหมีที่เคยเป็นสีขาว ( เพราะตอนนี้สีของมันขมุกขมัว จนไม่เหลือเค้าสีเดิม ) ให้แก่ซีเหมิน แล้วก็พยายามกอดเขาอีกที
“ เธอเป็นใคร ? “ ซีเหมินตัวแข็ง มองร่างเด็กหญิงวัยสองขวบด้วยความระแวง
เด็กหญิงมองตาแป๋ว แล้วเลียนแบบคำพูดของเด็กชาย “ เธอ เป็น เสี่ยวโย่ว “ ว่าแล้วก็เดินเตาะแตะ ไปล้มตัวจุ้มปุ้กนั่งเล่นถอนดอกหญ้าที่เดิม ( หมดความสนใจในตัวเพื่อนใหม่โดยปริยาย )
“ มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ “ ถามเสียงแข็ง ๆ แต่ยอมเดินตามมานั่งข้าง ๆ ในมือถือตุ๊กตาหมีที่พึ่งได้เป็นของขวัญตามมาด้วย
เสี่ยวโย่วเงยหน้ามองเพื่อนใหม่แต่ไม่ได้สนใจ ( เสี่ยวโย่วยังเป็นเด็ก ดังนั้นความสนใจจึงสั้นมาก )
“ พ่อ แม่ เธออยู่ไหน “
“ มาม๊าเหรอ มาม๊าอยู่สวรรค์ ” นิ้วเล็ก ๆ ของเด็กน้อยชี้ไปยังสุสาน สถานที่ ซี่งพ่อแม่ของเขาพึ่งจะถูกฝังลงไปไม่นาน
“ ตายแล้ว หาแทบตาย ยายหนูเสี่ยวโย่ว มาอยู่ที่นี่เอง อุ๊ย คุณชายซีเหมิน “ ผู้มาใหม่อุทานตกใจเมื่อเห็นว่าตรงนั้นมิได้มีเพียงแต่หนูน้อยเสี่ยวโย่ว ( หล่อนค่อย ๆ ยอบกายนั่งลง)
ซิเหมินยืดตัวลุกขึ้น เสมองไปทางอื่นไม่อยากให้คนใช้เห็นน้ำตาของเขา
“ เด็กคนนี้เป็นลูกเธอเหรอ “
“ ปละ ปล่าว เจ้าค่ะ ( รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน ) .. แกเป็นลูกของเสี่ยวเหมย เจ้าค่ะ อะ ..เอ่อ คือ “ มีสีหน้าลำบากใจ ไม่รู้จะอธิบายกับนายน้อยอย่างไร
“ เสี่ยวเหมย ? . คนใช้ที่ประสบอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ฉันน่ะหรือ “
“ เจ้าค่ะ “
“ แล้วพ่อของเด็กคนนี้ล่ะ “
“ ไม่มีขอรับ “ เป็นเฉินยวี่ซิงนั่นเองที่ตอบคำถามนี้
“ งั้น เด็กคนนี้ ก็ กำพร้า ?? “
“ ขอรับ “
ซีเหมินมองหน้าด้านข้างของเด็กหญิงเสี่ยวโย่ว . ความรู้สึกผูกพันบางอย่างก่อเกิดขึ้นในหัวใจอย่างรวดเร็วและรุนแรง !!
“ งั้น เขาจะเป็นของฉัน . เขาจะเป็นน้องสาวของฉัน “ ซีเหมินประกาศกร้าวทำให้คนรับใช้ทั้งสองมองตากันด้วยความตกตะลึง
เสี่ยวโย่วยืนอยู่หน้ากระจก จ้องมองใบหน้าที่มีใฝเม็ดบางใต้ดวงตา เธอกำลังรู้สึกเป็นกังวล
--- คุณชายซีเหมินจะเป็นยังไงบ้างนะ ?---
หลังจากที่เขาพาเธอมาส่งที่บ้าน เขาก็ขับรถออกไปอีก . เสี่ยวโย่วมองดูนาฬิกามันเป็นเวลาเกือบตีสอง
ที่จริงนี่ไม่ใช่เวลาที่ผิดปกติสำหรับคุณชายซีเหมิน แต่สิ่งที่ทำให้เธอเป็นกังวล คือ . แววตาของเขา
แววตาฉายแววปวดร้าว คับแค้น . และ เศร้า ?!!
--- ทำไมคุณชายถึงมองเธอด้วยแววตาแบบนั้นนะ ? ---
++++++++++++++++++++++++++
อึก อึก อึ๊ก ! ( เป็นเสียงสะอึกเนื่องจากการกระดกน้ำสีอำพันไม่บันยะบันยังของซีเหมิน )
ซีเหมินดื่มจนกระทั่งเหล้าหมดขวด แล้วจึงทิ้งตัวลงนอนบนสนามหญ้าที่เปียกชื้น เขาไม่สนใจเสื้อเชิ้ตราคาแพงที่เริ่มแนบลู่ติดกาย
ณ ขณะนี้ ภาพของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กำลังลอยวนเวียนวุ่นวายอยู่ในหัวสมอง .
เธอเป็นเด็กหญิงที่งดงามยิ่งนัก เส้นผมของเธอดกหนาและดำขลับ แก้มของเธอเป็นสีแดงเรื่อ ริมฝีปากของเธอเป็นสีกุหลาบ และเมื่อเธอยิ้ม ก็ดังราวกับว่าเธอสามารถทำให้ดวงดาวเปล่งแสงได้ในเวลากลางวัน . เธอคือ
เสี่ยวโย่วของเขา
--- พี่ชายคะ พี่ชาย . เสี่ยวโย่วรักพี่ชายที่สุดเลย โตขึ้นเสี่ยวโย่วจะแต่งงานกับพี่ชายนะคะ ---
เป็นประโยคสัญญาด้วยความไร้เดียงสา ซีเหมินยิ้ม เขารู้ว่ามันเป็นสัญญาแบบเด็ก ๆ เสี่ยวโย่วแค่อยากแสดงให้เห็นว่า เธอรักพี่ชายอย่างเขามามายเพียงใด
ความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ . ซีเหมินพยายามทบทวน
8 ขวบ .. เรื่องราวทุกอย่างเริ่มต้นตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 8 ขวบ
ในวันที่เขาต้องไปฝังศพ ของผู้ที่เป็น “ พ่อ และ แม่ “
วันนั้นซีเหมินเบื่อหน่ายกับความวุ่นวาย และการใส่หน้ากากของบรรดาญาติ ๆ เขายอมให้ลุงเฉินคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์เดินตามมาเพียงคนเดียว
“ รอให้พวกเขากลับไปหมด แล้วฉันถึงจะกลับ “ เด็กน้อยสั่งผู้ติดตามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ผู้สูงวัยกว่าพยักหน้ารับ เขาลอบมองคุณชายซีเหมิน แม้วัยของเจ้านายน้อยยังเยาว์ แต่บุคลิกและความเย็นชาของเขาไม่ต่างอะไรกับผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ
คุณชายซีเหมินเป็นเด็กเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจา อาจเป็นเพราะว่าเขาถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวมาเกือบตลอด ความโดดเดี่ยว และความอ้างว้าง ได้หล่อหลอมบุคลิกเย็นชาและเข้าไม่ถึงให้กับเขา
แต่ว่า เด็ก ก็ยังเป็นเด็ก การที่ต้องสูญเสียบุพการีด้วยวัยเพียงแค่นี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวด
“ นายรอฉันอยู่ตรงนี้แหละ “ เด็กชายสั่งเฉินยวี่ซิง เขาเดินขึ้นไปยังเนินดินเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่
เด็กชายเดินอ้อมจนกระทั่งถึงด้านหลังของต้นไม้ เมื่อเห็นว่าลับตาคนแล้ว เขาจึงยอมปล่อยให้น้ำตาแห่งความอาลัยไหลทะลักออกมา
“ พ่อครับ แม่ครับ ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน “
“ พ่อครับ แม่ครับ . ทำไมถึงไม่พาผมไปด้วย . ไหนคุณพ่อกับคุณแม่สัญญากับผมว่าหลังจากเดินทางครั้งนี้ผมจะไม่เหงาอีกต่อไปไง . ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่รักษาสัญญา “ ซีเหมินร้องไห้ เขาไม่สามารถกลั้นก้อนสะอื้นที่ลำเลียงผ่านลำคอของเขาอีกต่อไปได้ ไหล่ที่เคยผึ่งผายองอาจอยู่เป็นนิจ งอคุ้ม
ณ เวลานี้ เแม้ว่าซีเหมินจะต้องการอ้อมแขนของใครสักคน เพื่อปลอบประโลมความทุกข์ระทมที่ท่วมท้นอยู่ในจิตใจ .. แต่เขาก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ จริงอยู่ว่ามีญาติมากมายพร้อมจะเสนอตัวเพื่อปลอบโยน แต่พวกนั้นทำไปก็เพราะสิ่งตอบแทนที่หวังจะได้จากเขามากกว่า . และซีเหมินไม่ต้องการอ้อมแขนที่จอมปลอมเหล่านั้น
“ โอ๋..โอ๋ อย่าร้องไห้ “ อ้อมแขนน้อย ๆ สีน้ำนมพยายามโอบปลอบเด็กชายที่ตัวใหญ่กว่า ดูท่าหล่อนยังไม่รู้ประสาเสียด้วยซ้ำ
“ อย่าร้องไห้ ให้ตุ๊กตา อย่าร้องไห้ “ เด็กหญิงยัดตุ๊กตาหมีที่เคยเป็นสีขาว ( เพราะตอนนี้สีของมันขมุกขมัว จนไม่เหลือเค้าสีเดิม ) ให้แก่ซีเหมิน แล้วก็พยายามกอดเขาอีกที
“ เธอเป็นใคร ? “ ซีเหมินตัวแข็ง มองร่างเด็กหญิงวัยสองขวบด้วยความระแวง
เด็กหญิงมองตาแป๋ว แล้วเลียนแบบคำพูดของเด็กชาย “ เธอ เป็น เสี่ยวโย่ว “ ว่าแล้วก็เดินเตาะแตะ ไปล้มตัวจุ้มปุ้กนั่งเล่นถอนดอกหญ้าที่เดิม ( หมดความสนใจในตัวเพื่อนใหม่โดยปริยาย )
“ มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ “ ถามเสียงแข็ง ๆ แต่ยอมเดินตามมานั่งข้าง ๆ ในมือถือตุ๊กตาหมีที่พึ่งได้เป็นของขวัญตามมาด้วย
เสี่ยวโย่วเงยหน้ามองเพื่อนใหม่แต่ไม่ได้สนใจ ( เสี่ยวโย่วยังเป็นเด็ก ดังนั้นความสนใจจึงสั้นมาก )
“ พ่อ แม่ เธออยู่ไหน “
“ มาม๊าเหรอ มาม๊าอยู่สวรรค์ ” นิ้วเล็ก ๆ ของเด็กน้อยชี้ไปยังสุสาน สถานที่ ซี่งพ่อแม่ของเขาพึ่งจะถูกฝังลงไปไม่นาน
“ ตายแล้ว หาแทบตาย ยายหนูเสี่ยวโย่ว มาอยู่ที่นี่เอง อุ๊ย คุณชายซีเหมิน “ ผู้มาใหม่อุทานตกใจเมื่อเห็นว่าตรงนั้นมิได้มีเพียงแต่หนูน้อยเสี่ยวโย่ว ( หล่อนค่อย ๆ ยอบกายนั่งลง)
ซิเหมินยืดตัวลุกขึ้น เสมองไปทางอื่นไม่อยากให้คนใช้เห็นน้ำตาของเขา
“ เด็กคนนี้เป็นลูกเธอเหรอ “
“ ปละ ปล่าว เจ้าค่ะ ( รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน ) .. แกเป็นลูกของเสี่ยวเหมย เจ้าค่ะ อะ ..เอ่อ คือ “ มีสีหน้าลำบากใจ ไม่รู้จะอธิบายกับนายน้อยอย่างไร
“ เสี่ยวเหมย ? . คนใช้ที่ประสบอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ฉันน่ะหรือ “
“ เจ้าค่ะ “
“ แล้วพ่อของเด็กคนนี้ล่ะ “
“ ไม่มีขอรับ “ เป็นเฉินยวี่ซิงนั่นเองที่ตอบคำถามนี้
“ งั้น เด็กคนนี้ ก็ กำพร้า ?? “
“ ขอรับ “
ซีเหมินมองหน้าด้านข้างของเด็กหญิงเสี่ยวโย่ว . ความรู้สึกผูกพันบางอย่างก่อเกิดขึ้นในหัวใจอย่างรวดเร็วและรุนแรง !!
“ งั้น เขาจะเป็นของฉัน . เขาจะเป็นน้องสาวของฉัน “ ซีเหมินประกาศกร้าวทำให้คนรับใช้ทั้งสองมองตากันด้วยความตกตะลึง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น