ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : scene 1
คุณผู้อ่านเคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่า ทำไมผู้ชายคนนี้
 
(Zai Zai)
ถึงได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้
(ซิงหยู)
ทั้ง ๆ ที่ เธอก็แสนจะเฉิ่มเชย และ หน้าตาก็ธรรมด๊า ธรรมดา
คืองี้ค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า
---- flash back ----
Inter high school
( อ่านว่า : อิงเต๋อ ไฮสคูล จ้ะ )
ห้องประชุม อาจารย์ใหญ่ :
“ อาจารย์ สีเสินหยาง    พวกเราผิดหวังต่อพฤติกรรมของคุณเป็นอย่างมาก ทั้งที่เราก็คาดหวังเอาไว้ว่าคุณจะทำหน้าที่เป็นอาจารย์ ด้วยสำนึก และจรรยาบรรณ ที่ถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดี”      อาจารย์ใหญ่ขยับแว่นตากรอบดำ กล่าวตำหนิ อาจารย์สาวที่นั่งร้องไห้กระซิกอยู่ที่ปลายโต๊ะประชุม
ภายในห้อง มิได้มีเพียงอาจารย์ใหญ่ แต่อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย รวมทั้งบอร์ดบริหารต่างก็นั่งล้อมรอบอยู่ด้วย วาระการประชุมครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องซีเรียสและเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
“ ทางเราไม่สามารถพูดคำใดได้ นอกจาก  ...  เสียใจ ที่ต้องไล่คุณออก “
สิ้นคำสั่งตัดสินประหาร อาจารย์สาว ( หน้าตาสวยทีเดียว ) ก็ปิดหน้าร้องไห้ วิ่งออกไปจากห้องประชุม
------------------------------------------------
ทางเดินสู่ห้องประชุม คณะกรรมการนักเรียน :
ร่างน้อย ๆ ร่างหนึ่งกำลังแบกเอกสารการประชุม โซเซไปมา
“ สวัสดีตอนเช้าค่ะ ประธานนักเรียน .. วันนี้ก็ขยันอีกแล้วนะคะ”  เด็กนักเรียนที่เดินผ่าน กล่าวทักทาย
“ สวัสดีค่ะ “ คนโดนทักพยายามเอียงหน้าออกมาตอบรับคำทักทาย  แม้มันจะลำบากมากก็ตามที
แล้วคนที่เดินผ่านมาอีก ก็กล่าวทักอีก ทำให้ซิงหยูต้องทุลักทุเลเอี้ยวหน้าซ้ายทีขวาที......ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ทุกคนกำลังแกล้งเธออย่างสนุกสนาน
“ ยายประธานนักเรียนนี่ตลกจังนะ .. โดนแกล้งอยู่ทุกวันไม่ยักกะรู้ตัวอีก “
“ จะว่าไปแล้ว... ทำไมยายนี่  ถึงได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนรุ่นนี้กันนะ “
“ ก็คงเป็นเพราะว่า      ยายนี่เป็นนักเรียนหัวกระทิ ขนาดได้อันดับ 1 ทุกปี ตั้งแต่ปี 1 ม.ต้น จนกระทั่งปี 3  ม. ปลาย , ได้รางวัลชนะเลิศประกวดกลอนโบราณวรรณคดีญี่ปุ่น , แถมยังเคยเป็นยุวทูตวัฒนธรรม    ยังไม่นับรวมที่เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปประกวดนู่นนี่อีกหลายร้อยแปดรายการนะ เธอว่าคุณสมบัติแค่นี้    ยายนี่ควรจะได้นั่งแท่นเป็นประธานนักเรียนหรือเปล่าล่ะ “
ผู้ถามพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ก็ไม่วาย       
“ แต่แหม     มันอดไม่ได้นี่    ก็ถ้าคิดถึงประธานนักเรียน  มันก็ต้องผู้ชาย  ..  หล่อ , เทห์, สมาร์ท ..  เย็นชานิด ๆ เคร่งขรึมหน่อย ๆ
คนที่แค่ปรายตามองก็สามารถทำให้พวกเราหลอมละลายได้ ไม่ใช่หรือไง .. อย่างเช่น .
“ คุณชายโจวเจวี้ยหมิน !!! “
( อุทานชื่อ ชายหนุ่มที่ฮอตที่สุดในโรงเรียน โดยไม่ได้นัดหมาย )
------------------------------------------------------------------------------------------
                                                                                ปึ้ก !
“ โอ๊ะ !”
เพราะถูกใครคนหนึ่งชนเข้าให้อย่างจัง กองเอกสารเท่าภูเขาสูงจึงกระเด็นฟุ้งกระจัดกระจาย
“ แย่แล้ว .เอกสาร !!!!”    ซิงหยูอุทาน    พลางตาลีตาเหลือกเก็บกองกระดาษดังกล่าว  (เป็นจังหวะเดียวกันกับแว่นตาหนาเตอะที่ขาถ่างจนแทบจะเกี่ยวใบหูไม่ได้ หล่นตกลงมา )
                                                                              กร๊อบ !!!
ซิงหยูมองอย่างไม่เชื่อสายตา  ...  แว่นตาอันเก่าที่เปรียบเสมือนชีวิตของเธอ    บัดนี้ !  มันอยู่ภายใต้รองเท้าหนังBORSARINO ของใครบางคน 
ซิงหยูไล่สายตาไปตามกางเกงขายาว
--- ถึงจะเป็นเฉดสีเดียวกันกับเครื่องแบบนักเรียน  แต่ว่า...มันก็ต้องเป็นของ paul frank แน่ ๆ !!    ก็ลายสัญลักษณ์ในเนื้อผ้าจาง ๆ นั่นไง
(ไล่สายตาขึ้นไปยังเอวเข็มขัดหนัง)    จอจิโอคอเล็คชั่นใหม่ !!    และไหล่ผึ่งผายนั้นช่างเข้ากับเสื้อฝ้ายเนื้อพริ้ว  เป็นผู้ชายที่ใส่เสื้อของแซงชั่นได้เนี้ยบอย่างไม่มีที่ติจริง ๆ ----
แต่ว่า ?  ทำไมเธอถึงเห็นด้านหลังของเขา ค่อย ๆ ห่างจนกระทั่งเห็นมันเป็นภาพ กราฟฟิกชั่น กัน ???
“ เดี๋ยวก่อน !    นายคนนั้นน่ะ ทำไมมารยาททรามอย่างนี้ ชนคนอื่นเขาแล้ว ขอโทษไม่เป็นหรือไง”      ซิงหยูเท้าเอว    เป็นครั้งแรกในรอบปีที่เธอโมโหเดือด ( ก็แว่นตาที่เปรียบเสมือนกับชีวิตของเธอ เสียหาย . และ ณ เวลานี้เธอไม่มีเงินพอที่จะซื้ออันใหม่เสียด้วยน่ะสิ )
เด็กหนุ่ม  ( เอ ? หรือจะเป็นชายหนุ่ม ?  ก็หุ่นที่สูงเฉียด ๆ 175 นั่น ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่ เด็ก ม. ต้น เอาเสียเลย )
เขาหันกลับมา มองซิงหยูตั้งแต่หัวจรดเท้า . แต่ไม่มีทีท่าว่าจะเอ่ยคำขอโทษใด ๆ
ซิงหยูเดือดปุด 
--------  หนอยเป็นแค่เด็ก ม.ต้น . กล้าดีมามองรุ่นพี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยเชียวเรอะ ----------
ซิงหยูควานหาสมุดตัดคะแนนความประพฤติ    “ รายงานตัวมาซิ นายชื่ออะไร อยู่ชั้นปีไหน . ฉันจะหักคะแนนนาย 10 แต้ม โทษฐานทำข้าวของผู้อื่นเสียหาย แถมยังไร้-- “
                                                         
                                                              ฟึ่บ !
ไม่ทันที่จะพูดจบ ร่างบาง ๆก็ถูกรวบเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง . ซิงหยูได้เบิกตาโตด้วยความตกใจ ..และแล้ว .
จุ๊บ !             First kiss ของสาวน้อยมัธยมปลายก็ถูกขโมย  !!
“ สินบนสูงขนาดนี้ หวังว่าคงจะพอใจนะ “ น้ำเสียงเย็นชา แบบหยิ่งกระซิบอยู่ที่ริมหู ก่อนที่ร่างนั้นจะลับหายไป
------------------------------------------------------------------------------------------
ห้องประชุม คณะกรรมการนักเรียน :
หัวข้อประชุม  :  แบบไม่เป็นทางการ
ผู้เข้าประชุม  :  อาจารย์ใหญ่ อาจารย์ในทีมผู้บริหารชุดเล็ก และ ประธานนักเรียน
“ เป็นที่รู้กันว่าทางบอร์ดบริหารได้ทำการไล่อาจารย์สีเสินหยางออกไป ด้วยสาเหตุความประพฤติไม่เหมาะสมกับหน้าที่ .. ทางผู้บอร์ดผู้บริหารใหญ่จึงได้ทำการพิจารณาผู้ที่จะไปดูแล คุณหนูโจวเจวี้ยหมินคนใหม่ .        หลิว ซิงหยู    ครูรู้มาว่าต้นตระกูลเธอเป็นผู้ดูแลชั้นยอดให้กับราชนิกุลมากมาย    อีกทั้งเธอก็เคยได้รับใบประกาศนียบัตรทั้งเด็กอ่อน เด็กเล็ก มาตั้งแต่ชั้นประถม . ไม่นับรวมที่บ้านเธอเปิดบริษัทรับจัดการดูแลคนดังต่าง ๆ ( ถึงแม้ว่าตอนนี้กิจการมันจะย่ำแย่เต็มทีก็เถอะ ) . ด้วยเหตุผลนี้ ทางบอร์ดบริหารจึงมีมติให้เธอเป็นคนดูแลส่วนตัวให้กับ คุณหนูโจวเจี้ยหมิน .. แล้วเรื่องค่าเล่าเรียนที่เธอค้างมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอีกต่อไป .. เธอจะขัดข้องไหม “
“ . “
“ เอาล่ะ . เป็นอันว่าตกลงตามนี้นะ .. ใครมีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า “
ไม่มีใครพูดอะไรต่อ นอกจากเสียงกระซิบกระซาบงึมงำ .. ครูใหญ่เห็นดังนั้นจึงจัดการปิดการประชุม
“ โธ่ น่าเสียดายหนูซิงหยูนะ . ทั้ง ๆ ที่เป็นเด็กดีมากแท้ ๆ . แถมเรียนเก่งมากเสียด้วย ถูกให้ไปดูแลคุณหนูโจวอย่างนี้ไม่ช้าก็ต้องโดนไล่ออกอีกคนแน่ ..”
“ ก็นั่นน่ะสิ เด็กเก่ง ๆ อย่างนี้ .น่าเสียดายนะเธอ .. ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไม ท่านเจ้าของโรงเรียนถึงไม่ให้คุณชายโจวไปเรียนที่อื่นเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็ได้ .. อย่างนี้ ส่งผู้ดูแลผู้เพียบพร้อมกี่คนต่อกี่คนไป ก็มีอันต้องโดนไล่ออกหมด .. ไม่อยากคำนวณเล้ย กว่าคุณหนูโจวจะเรียนจบ ม. ปลาย เราต้องเสียบุคลากรไปอีกเท่าไหร่ “
“ ก็น่านน่ะสิ ” ครูอีกคนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันมาหาซิงหยู
“ ซิงหยู ฟังครูให้ดีนะจ๊ะ .. ถ้าหนูอยากเรียนให้จบล่ะก็ อย่าเผลอใจไปให้คุณชายโจวเลยเชียวนะ ครูรู้ดีว่ามันออกจะเป็นเรื่องยากมากสักหน่อย . แต่ว่าถ้าเธออยากรอดพ้นจากปีศาจน้อยนั่นล่ะก็ อย่าเผลอใจเป็นอันขาด เข้าใจไหม “
สั่งสอนกันจนมั่นใจแล้ว อาจารย์ทั้งสองคนก็เดินออกไป .. โดยไม่รู้เลยว่า ซิงหยูที่นั่งเอ๋อ เบลออยู่ ไม่ได้รับรู้เรื่องราวใด ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่อันใหม่ หรือคำตักเตือน
ก็เพราะว่า เธอยังอยู่ในอาการช็อค ที่โดนจูบเมื่อเช้าอยู่น่ะสิ !!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องเรียน :
“ อะไรนะ !?  เธอจำเรื่องที่โดนเรียกเข้าประชุมเมื่อเช้าไม่ได้เลย ! . เป็นไปได้ไง ? ปกติเธอเป็นคนที่รับผิดชอบนี่ซิงหยู “
เพื่อนที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนมองซิงหยูด้วยความแปลกใจ
“ เอ้อ . ก็ มัน “      ไม่รู้จะบอกใครได้ไง ว่าช็อคที่โดนจูบ ตอนเข้าประชุมเลยไม่รู้ว่าประชุมเรื่องอะไร
“ แย่จัง . เมื่อเช้าก็มีเธอเป็นนักเรียนไปเข้าห้องประชุมคนเดียวเสียด้วย . แล้วนี่ถ้าเป็นเรื่องด่วนถึงสภานักเรียนล่ะ “
“ ก็ . เอ่อ ขอโทษ “ หน้าสลดด้วยรู้สึกผิด
“ ช่างเถอะ ๆ . เดี๋ยวไปถามอาจารย์ที่ร่วมเข้าประชุมก็ได้ .เออ  นี่ซิงหยู เธอได้ข่าวบ้างหรือเปล่า เรื่องคุณหนูโจวรูปหล่อน่ะ “
“ คุณหนูโจว ?? “
“ ก็ใช่น่ะสิ .. ว่ากันว่าเป็นลูกชายคนสุดท้องของเจ้าของโรงเรียนนี้นะ . พึ่งจะย้ายเข้ามาเรียนใหม่กลางคันเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง เขาว่าหล่อเหมือนเจ้าชายน้อย ๆ เลยล่ะ .. แต่ว่าเพราะร่างกายอ่อนแอ ก็เลยไม่ค่อยได้เข้าเรียน มีเรือนเรียนส่วนตัวด้วย ก็อาคารหลังใหม่ที่สร้างอยู่ด้านหลังเรือนกระจกเมื่อปีที่แล้วไง “
“ งั้นเหรอ ..ไม่รู้หรอก “      ซิงหยูส่ายหัว พลางควักหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะ เธอโดนเพื่อนว่าที่ไม่รู้จักใส่ใจกับข่าวคราวในโรงเรียน ทั้ง ๆ ที่เป็นประธานนักเรียนแท้ ๆ
แล้วอาจารย์คณิตศาสตร์ ที่จะสอนชั่วโมงแรกก็เดินเข้ามา
“ นักเรียนเปิดสมุด เราจะมาเฉลยการบ้านที่ครูสั่งไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วกันนะ . เอาล่ะ โจทก์ข้อ 1 ใครจะเป็นคนออกมาเฉลยบ้าง “
ซิงหยู ก้าวออกมา
“ เอ๋ !! .. ซิงหยู เธอมาทำอะไรที่ห้องนี่ ???? “
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาคารเรียนโจวเจวี้ยหมิน :
“ ห้องนั้นมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ “  ซิงหยูกระชับกระเป๋าใบใหญ่ของตัวเองให้ถนัด .. บัดนี้ใบหน้าของเธอมีเหงื่อเกาะพราว
หลังจากที่เดินสะเปะสะปะ (เนื่องจากไม่มีแว่นตา) จากอาคารเรียน ม.ปลายปี 3 ตัดโรงยิม  , อาคารเพาะชำ , และ เรือนกระจกปลูกต้นไม้มาได้ .. เธอก็มาถึงอาคารเรียนหลังใหม่ อาคารเรียนโจวเจวี้ยหมิน :
“ ทำไมฉันต้องมารับหน้าที่ดูแลเด็กด้วยนะ..ทั้ง ๆที่ปีนี้ก็เป็นปีที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างหนักเสียด้วยสิ” 
ซิงหยูบ่นพึมพำ .. แต่ว่าพอนึกถึงเงื่อนไขที่เธอจะได้ เธอก็ต้องถอนหายใจ
จริงสิ เพราะที่บ้านค้างค่าเล่าเรียนมา 2 ปีแล้ว . ถึงเธอจะเป็นนักเรียนดีเด่น และได้รับทุนการศึกษา แต่ว่ามันก็ยังไม่พอกับค่าเล่าเรียนที่แพงหูฉี่ของโรงเรียนนี้อยู่ดี .. ก็โรงเรียนนี้น่ะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนอันเป็นสังคมของบรรดาลูกคุณหนูผู้ดีเข้ามาร่ำเรียนกัน .. ที่จริงเธอไม่ได้อยากเรียนโรงเรียนนี้เท่าไหร่หรอก แต่เป็นเพราะว่าพ่อกับแม่เธอน่ะสิ
พ่อ :  “ เพราะตระกูลเรา สืบเชื้อสายของผู้รับใช้ราชนิกุลสูงศักดิ์ และ คนดัง .. และได้รับการศึกษาเทียบเคียงกับนายท่านเหล่านั้นมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นจึงนับเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ .. แกต้องเรียนที่โรงเรียน Inter แห่งนี้แหละ “
“ จริงด้วยค่ะคุณ .. อีกอย่าง ถ้าได้เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ บางทีลูกเราอาจสามารถหา นายท่าน มาช่วยกิจการที่กำลังซบเซาของเราก็ได้ “ แม่ของเธอกล่าวอย่างมีความหวัง  ( หมายเหตุ นายท่าน = ลูกค้า , บ้านนี้จะไม่เรียกลูกค้าเพราะถือว่าจะเป็นการลบหลู่ผู้มีพระคุณ )
  ก็ด้วยเหตุผลงี่เง่านี้แหละ .. เธอจึงต้องมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คิดแล้วก็เหนื่อยใจ .. ทำไมตระกูลของเธอถึงไม่ทำอาชีพอย่างอื่นนะ ให้ตายเถอะ .
“ อือ คุณชายน้อยคะ ยะ .อย่าค่ะ “
----- เสียงแปลก ๆ นี่มันอะไร ??  -----
“ อ๊าาาาาาาาาาาาาา .คุณชายขา .. คุณชาย . “ เสียงครางสูงอย่างเปี่ยมสุข เล็ดลอดผ่านประตูบานหนึ่ง
ซิงหยูขยับเข้าไปใกล้ ..และแล้วยังกับฉากที่จัดเอาไว้ประตูบานนั้นถูกลมพัดเบา ๆ .. ไอ้ที่เคยคาแย้มอยู่ ก็เลยเปิดอ้าให้ประจักษ์แก่สายตา
                      แม้จะเห็นเป็นเงาราง ๆ . แต่ซิงหยูก็แน่ใจว่า ชายหญิงคู่นั้นต้องไม่มีเสื้อผ้าติดกายอยู่แน่ ๆ
“ คุณชายมองอะไรคะ ?”    หญิงสาวมองใบหน้าที่เฉยเมยของคู่รักด้วยดวงตาฉ่ำหวาน ก่อนที่จะเบนหน้ามาตามสายตาเย็นชาของเขา
“ อ๊ายยยยยยยยย !!!  ยายบ้า !  ดูอะไรของแกน่ะ ..  ออกไป๊!!!”      ออกปากไล่พลางเขวี้ยงหมอนฉลุลายของลาซแซงค์มายังซิงหยู
ซิงหยูที่ยังยืนอ้าปากค้างอยู่ด้วยความตกใจ  รีบฉุดสติ ก้มหน้าก้มตา เดินหลบออกมาแทบไม่ทัน
---- ของจริงเหรอนั่น  .. พวกเขาทำอย่างว่ากันจริง ๆ เหรอ ?!!!----
ซิงหยูยืนเอ๋ออยู่หลังบานประตู  ...  แม้ว่าเธอจะไม่เห็นกิริยา เพราะพวกเขาอยู่ที่โซฟาไกลสุดห้อง
.....แต่ว่า ....  ผิวเนื้อเปล่าเปลือยราง ๆ ,  รวมทั้ง  !@$%
                                                 
                                                ---พวกเขาต้องทำอย่างว่านั่นจริง ๆ !!---
หน้าแดงไปจนจรดปลายหู ...เอามือปิดตา  ... อยากจะลบไอ้ภาพเหล่านั้นทิ้งไปเสียให้หมด
“ โรคจิตหรือเธอน่ะ  ถึงได้มาแอบดูใครเขามีอะไรกัน “  เสียงเย็นชา ติดจะหยิ่ง ๆ . ทำไม เธอจึงรู้สึกคุ้นหูจริงนะ ??
“ นาย !!!!”      ชี้หน้าแบบจำเงาราง ๆ บนใบหน้าได้ .. ความทรงจำเมื่อเช้า ไหลกลับมา แล้วซิงหยูก็เดือดปุด ๆ
“ ตาเด็กบ้า .. ลามก  ..  ออกไปให้พ้นจากที่นี่เลยนะ กล้าดียังไงมาทำอะไรทุเรศ ๆ บนอาคารเรียนของคุณหนูโจวเจวี้ยหมิน . เห็นเป็นอาคารหลังใหญ่ เลยเอาผู้หญิงมามั่วล่ะสิ ... มานี่เลย    คราวนี้ฉันจะต้องจดชื่อ ตัดคะแนนความประพฤตินายให้ได้ .. แบบนี้มันต้องไล่ออกสถานเดียว มานี่ซิ ชื่ออะไร ? ”  ว่าแล้วก็กระชากคอเสื้อ โน้มอกเข้ามาใกล้ ๆ
                                    ป้ายชื่อ --( สกุล )  โจว
                                                  ( นาม )  เจวี้ยหมิน
                                                                        โจว เจวี้ยหมิน !!!!!!          
“ เหยยยยยยยยยย !!!!  “    (อุทานพลางถอยกรูดไปติดผนังโดยไม่รู้ตัว )
“ ครับ ..ผมชื่อ โจว เจวี้ยหมิน “ มีรอยยิ้มน้อย ๆ เกือบจะเป็นเย้ยอยู่บนริมฝีปากสีชมพูสดนั้น ..
 
(Zai Zai)
ถึงได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้
(ซิงหยู)
ทั้ง ๆ ที่ เธอก็แสนจะเฉิ่มเชย และ หน้าตาก็ธรรมด๊า ธรรมดา
คืองี้ค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า
---- flash back ----
Inter high school
( อ่านว่า : อิงเต๋อ ไฮสคูล จ้ะ )
ห้องประชุม อาจารย์ใหญ่ :
“ อาจารย์ สีเสินหยาง    พวกเราผิดหวังต่อพฤติกรรมของคุณเป็นอย่างมาก ทั้งที่เราก็คาดหวังเอาไว้ว่าคุณจะทำหน้าที่เป็นอาจารย์ ด้วยสำนึก และจรรยาบรรณ ที่ถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดี”      อาจารย์ใหญ่ขยับแว่นตากรอบดำ กล่าวตำหนิ อาจารย์สาวที่นั่งร้องไห้กระซิกอยู่ที่ปลายโต๊ะประชุม
ภายในห้อง มิได้มีเพียงอาจารย์ใหญ่ แต่อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย รวมทั้งบอร์ดบริหารต่างก็นั่งล้อมรอบอยู่ด้วย วาระการประชุมครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องซีเรียสและเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
“ ทางเราไม่สามารถพูดคำใดได้ นอกจาก  ...  เสียใจ ที่ต้องไล่คุณออก “
สิ้นคำสั่งตัดสินประหาร อาจารย์สาว ( หน้าตาสวยทีเดียว ) ก็ปิดหน้าร้องไห้ วิ่งออกไปจากห้องประชุม
------------------------------------------------
ทางเดินสู่ห้องประชุม คณะกรรมการนักเรียน :
ร่างน้อย ๆ ร่างหนึ่งกำลังแบกเอกสารการประชุม โซเซไปมา
“ สวัสดีตอนเช้าค่ะ ประธานนักเรียน .. วันนี้ก็ขยันอีกแล้วนะคะ”  เด็กนักเรียนที่เดินผ่าน กล่าวทักทาย
“ สวัสดีค่ะ “ คนโดนทักพยายามเอียงหน้าออกมาตอบรับคำทักทาย  แม้มันจะลำบากมากก็ตามที
แล้วคนที่เดินผ่านมาอีก ก็กล่าวทักอีก ทำให้ซิงหยูต้องทุลักทุเลเอี้ยวหน้าซ้ายทีขวาที......ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ทุกคนกำลังแกล้งเธออย่างสนุกสนาน
“ ยายประธานนักเรียนนี่ตลกจังนะ .. โดนแกล้งอยู่ทุกวันไม่ยักกะรู้ตัวอีก “
“ จะว่าไปแล้ว... ทำไมยายนี่  ถึงได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนรุ่นนี้กันนะ “
“ ก็คงเป็นเพราะว่า      ยายนี่เป็นนักเรียนหัวกระทิ ขนาดได้อันดับ 1 ทุกปี ตั้งแต่ปี 1 ม.ต้น จนกระทั่งปี 3  ม. ปลาย , ได้รางวัลชนะเลิศประกวดกลอนโบราณวรรณคดีญี่ปุ่น , แถมยังเคยเป็นยุวทูตวัฒนธรรม    ยังไม่นับรวมที่เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปประกวดนู่นนี่อีกหลายร้อยแปดรายการนะ เธอว่าคุณสมบัติแค่นี้    ยายนี่ควรจะได้นั่งแท่นเป็นประธานนักเรียนหรือเปล่าล่ะ “
ผู้ถามพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ก็ไม่วาย       
“ แต่แหม     มันอดไม่ได้นี่    ก็ถ้าคิดถึงประธานนักเรียน  มันก็ต้องผู้ชาย  ..  หล่อ , เทห์, สมาร์ท ..  เย็นชานิด ๆ เคร่งขรึมหน่อย ๆ
คนที่แค่ปรายตามองก็สามารถทำให้พวกเราหลอมละลายได้ ไม่ใช่หรือไง .. อย่างเช่น .
“ คุณชายโจวเจวี้ยหมิน !!! “
( อุทานชื่อ ชายหนุ่มที่ฮอตที่สุดในโรงเรียน โดยไม่ได้นัดหมาย )
------------------------------------------------------------------------------------------
                                                                                ปึ้ก !
“ โอ๊ะ !”
เพราะถูกใครคนหนึ่งชนเข้าให้อย่างจัง กองเอกสารเท่าภูเขาสูงจึงกระเด็นฟุ้งกระจัดกระจาย
“ แย่แล้ว .เอกสาร !!!!”    ซิงหยูอุทาน    พลางตาลีตาเหลือกเก็บกองกระดาษดังกล่าว  (เป็นจังหวะเดียวกันกับแว่นตาหนาเตอะที่ขาถ่างจนแทบจะเกี่ยวใบหูไม่ได้ หล่นตกลงมา )
                                                                              กร๊อบ !!!
ซิงหยูมองอย่างไม่เชื่อสายตา  ...  แว่นตาอันเก่าที่เปรียบเสมือนชีวิตของเธอ    บัดนี้ !  มันอยู่ภายใต้รองเท้าหนังBORSARINO ของใครบางคน 
ซิงหยูไล่สายตาไปตามกางเกงขายาว
--- ถึงจะเป็นเฉดสีเดียวกันกับเครื่องแบบนักเรียน  แต่ว่า...มันก็ต้องเป็นของ paul frank แน่ ๆ !!    ก็ลายสัญลักษณ์ในเนื้อผ้าจาง ๆ นั่นไง
(ไล่สายตาขึ้นไปยังเอวเข็มขัดหนัง)    จอจิโอคอเล็คชั่นใหม่ !!    และไหล่ผึ่งผายนั้นช่างเข้ากับเสื้อฝ้ายเนื้อพริ้ว  เป็นผู้ชายที่ใส่เสื้อของแซงชั่นได้เนี้ยบอย่างไม่มีที่ติจริง ๆ ----
แต่ว่า ?  ทำไมเธอถึงเห็นด้านหลังของเขา ค่อย ๆ ห่างจนกระทั่งเห็นมันเป็นภาพ กราฟฟิกชั่น กัน ???
“ เดี๋ยวก่อน !    นายคนนั้นน่ะ ทำไมมารยาททรามอย่างนี้ ชนคนอื่นเขาแล้ว ขอโทษไม่เป็นหรือไง”      ซิงหยูเท้าเอว    เป็นครั้งแรกในรอบปีที่เธอโมโหเดือด ( ก็แว่นตาที่เปรียบเสมือนกับชีวิตของเธอ เสียหาย . และ ณ เวลานี้เธอไม่มีเงินพอที่จะซื้ออันใหม่เสียด้วยน่ะสิ )
เด็กหนุ่ม  ( เอ ? หรือจะเป็นชายหนุ่ม ?  ก็หุ่นที่สูงเฉียด ๆ 175 นั่น ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่ เด็ก ม. ต้น เอาเสียเลย )
เขาหันกลับมา มองซิงหยูตั้งแต่หัวจรดเท้า . แต่ไม่มีทีท่าว่าจะเอ่ยคำขอโทษใด ๆ
ซิงหยูเดือดปุด 
--------  หนอยเป็นแค่เด็ก ม.ต้น . กล้าดีมามองรุ่นพี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยเชียวเรอะ ----------
ซิงหยูควานหาสมุดตัดคะแนนความประพฤติ    “ รายงานตัวมาซิ นายชื่ออะไร อยู่ชั้นปีไหน . ฉันจะหักคะแนนนาย 10 แต้ม โทษฐานทำข้าวของผู้อื่นเสียหาย แถมยังไร้-- “
                                                         
                                                              ฟึ่บ !
ไม่ทันที่จะพูดจบ ร่างบาง ๆก็ถูกรวบเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง . ซิงหยูได้เบิกตาโตด้วยความตกใจ ..และแล้ว .
จุ๊บ !             First kiss ของสาวน้อยมัธยมปลายก็ถูกขโมย  !!
“ สินบนสูงขนาดนี้ หวังว่าคงจะพอใจนะ “ น้ำเสียงเย็นชา แบบหยิ่งกระซิบอยู่ที่ริมหู ก่อนที่ร่างนั้นจะลับหายไป
------------------------------------------------------------------------------------------
ห้องประชุม คณะกรรมการนักเรียน :
หัวข้อประชุม  :  แบบไม่เป็นทางการ
ผู้เข้าประชุม  :  อาจารย์ใหญ่ อาจารย์ในทีมผู้บริหารชุดเล็ก และ ประธานนักเรียน
“ เป็นที่รู้กันว่าทางบอร์ดบริหารได้ทำการไล่อาจารย์สีเสินหยางออกไป ด้วยสาเหตุความประพฤติไม่เหมาะสมกับหน้าที่ .. ทางผู้บอร์ดผู้บริหารใหญ่จึงได้ทำการพิจารณาผู้ที่จะไปดูแล คุณหนูโจวเจวี้ยหมินคนใหม่ .        หลิว ซิงหยู    ครูรู้มาว่าต้นตระกูลเธอเป็นผู้ดูแลชั้นยอดให้กับราชนิกุลมากมาย    อีกทั้งเธอก็เคยได้รับใบประกาศนียบัตรทั้งเด็กอ่อน เด็กเล็ก มาตั้งแต่ชั้นประถม . ไม่นับรวมที่บ้านเธอเปิดบริษัทรับจัดการดูแลคนดังต่าง ๆ ( ถึงแม้ว่าตอนนี้กิจการมันจะย่ำแย่เต็มทีก็เถอะ ) . ด้วยเหตุผลนี้ ทางบอร์ดบริหารจึงมีมติให้เธอเป็นคนดูแลส่วนตัวให้กับ คุณหนูโจวเจี้ยหมิน .. แล้วเรื่องค่าเล่าเรียนที่เธอค้างมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอีกต่อไป .. เธอจะขัดข้องไหม “
“ . “
“ เอาล่ะ . เป็นอันว่าตกลงตามนี้นะ .. ใครมีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า “
ไม่มีใครพูดอะไรต่อ นอกจากเสียงกระซิบกระซาบงึมงำ .. ครูใหญ่เห็นดังนั้นจึงจัดการปิดการประชุม
“ โธ่ น่าเสียดายหนูซิงหยูนะ . ทั้ง ๆ ที่เป็นเด็กดีมากแท้ ๆ . แถมเรียนเก่งมากเสียด้วย ถูกให้ไปดูแลคุณหนูโจวอย่างนี้ไม่ช้าก็ต้องโดนไล่ออกอีกคนแน่ ..”
“ ก็นั่นน่ะสิ เด็กเก่ง ๆ อย่างนี้ .น่าเสียดายนะเธอ .. ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไม ท่านเจ้าของโรงเรียนถึงไม่ให้คุณชายโจวไปเรียนที่อื่นเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็ได้ .. อย่างนี้ ส่งผู้ดูแลผู้เพียบพร้อมกี่คนต่อกี่คนไป ก็มีอันต้องโดนไล่ออกหมด .. ไม่อยากคำนวณเล้ย กว่าคุณหนูโจวจะเรียนจบ ม. ปลาย เราต้องเสียบุคลากรไปอีกเท่าไหร่ “
“ ก็น่านน่ะสิ ” ครูอีกคนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันมาหาซิงหยู
“ ซิงหยู ฟังครูให้ดีนะจ๊ะ .. ถ้าหนูอยากเรียนให้จบล่ะก็ อย่าเผลอใจไปให้คุณชายโจวเลยเชียวนะ ครูรู้ดีว่ามันออกจะเป็นเรื่องยากมากสักหน่อย . แต่ว่าถ้าเธออยากรอดพ้นจากปีศาจน้อยนั่นล่ะก็ อย่าเผลอใจเป็นอันขาด เข้าใจไหม “
สั่งสอนกันจนมั่นใจแล้ว อาจารย์ทั้งสองคนก็เดินออกไป .. โดยไม่รู้เลยว่า ซิงหยูที่นั่งเอ๋อ เบลออยู่ ไม่ได้รับรู้เรื่องราวใด ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่อันใหม่ หรือคำตักเตือน
ก็เพราะว่า เธอยังอยู่ในอาการช็อค ที่โดนจูบเมื่อเช้าอยู่น่ะสิ !!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องเรียน :
“ อะไรนะ !?  เธอจำเรื่องที่โดนเรียกเข้าประชุมเมื่อเช้าไม่ได้เลย ! . เป็นไปได้ไง ? ปกติเธอเป็นคนที่รับผิดชอบนี่ซิงหยู “
เพื่อนที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนมองซิงหยูด้วยความแปลกใจ
“ เอ้อ . ก็ มัน “      ไม่รู้จะบอกใครได้ไง ว่าช็อคที่โดนจูบ ตอนเข้าประชุมเลยไม่รู้ว่าประชุมเรื่องอะไร
“ แย่จัง . เมื่อเช้าก็มีเธอเป็นนักเรียนไปเข้าห้องประชุมคนเดียวเสียด้วย . แล้วนี่ถ้าเป็นเรื่องด่วนถึงสภานักเรียนล่ะ “
“ ก็ . เอ่อ ขอโทษ “ หน้าสลดด้วยรู้สึกผิด
“ ช่างเถอะ ๆ . เดี๋ยวไปถามอาจารย์ที่ร่วมเข้าประชุมก็ได้ .เออ  นี่ซิงหยู เธอได้ข่าวบ้างหรือเปล่า เรื่องคุณหนูโจวรูปหล่อน่ะ “
“ คุณหนูโจว ?? “
“ ก็ใช่น่ะสิ .. ว่ากันว่าเป็นลูกชายคนสุดท้องของเจ้าของโรงเรียนนี้นะ . พึ่งจะย้ายเข้ามาเรียนใหม่กลางคันเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง เขาว่าหล่อเหมือนเจ้าชายน้อย ๆ เลยล่ะ .. แต่ว่าเพราะร่างกายอ่อนแอ ก็เลยไม่ค่อยได้เข้าเรียน มีเรือนเรียนส่วนตัวด้วย ก็อาคารหลังใหม่ที่สร้างอยู่ด้านหลังเรือนกระจกเมื่อปีที่แล้วไง “
“ งั้นเหรอ ..ไม่รู้หรอก “      ซิงหยูส่ายหัว พลางควักหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะ เธอโดนเพื่อนว่าที่ไม่รู้จักใส่ใจกับข่าวคราวในโรงเรียน ทั้ง ๆ ที่เป็นประธานนักเรียนแท้ ๆ
แล้วอาจารย์คณิตศาสตร์ ที่จะสอนชั่วโมงแรกก็เดินเข้ามา
“ นักเรียนเปิดสมุด เราจะมาเฉลยการบ้านที่ครูสั่งไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วกันนะ . เอาล่ะ โจทก์ข้อ 1 ใครจะเป็นคนออกมาเฉลยบ้าง “
ซิงหยู ก้าวออกมา
“ เอ๋ !! .. ซิงหยู เธอมาทำอะไรที่ห้องนี่ ???? “
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาคารเรียนโจวเจวี้ยหมิน :
“ ห้องนั้นมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ “  ซิงหยูกระชับกระเป๋าใบใหญ่ของตัวเองให้ถนัด .. บัดนี้ใบหน้าของเธอมีเหงื่อเกาะพราว
หลังจากที่เดินสะเปะสะปะ (เนื่องจากไม่มีแว่นตา) จากอาคารเรียน ม.ปลายปี 3 ตัดโรงยิม  , อาคารเพาะชำ , และ เรือนกระจกปลูกต้นไม้มาได้ .. เธอก็มาถึงอาคารเรียนหลังใหม่ อาคารเรียนโจวเจวี้ยหมิน :
“ ทำไมฉันต้องมารับหน้าที่ดูแลเด็กด้วยนะ..ทั้ง ๆที่ปีนี้ก็เป็นปีที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างหนักเสียด้วยสิ” 
ซิงหยูบ่นพึมพำ .. แต่ว่าพอนึกถึงเงื่อนไขที่เธอจะได้ เธอก็ต้องถอนหายใจ
จริงสิ เพราะที่บ้านค้างค่าเล่าเรียนมา 2 ปีแล้ว . ถึงเธอจะเป็นนักเรียนดีเด่น และได้รับทุนการศึกษา แต่ว่ามันก็ยังไม่พอกับค่าเล่าเรียนที่แพงหูฉี่ของโรงเรียนนี้อยู่ดี .. ก็โรงเรียนนี้น่ะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนอันเป็นสังคมของบรรดาลูกคุณหนูผู้ดีเข้ามาร่ำเรียนกัน .. ที่จริงเธอไม่ได้อยากเรียนโรงเรียนนี้เท่าไหร่หรอก แต่เป็นเพราะว่าพ่อกับแม่เธอน่ะสิ
พ่อ :  “ เพราะตระกูลเรา สืบเชื้อสายของผู้รับใช้ราชนิกุลสูงศักดิ์ และ คนดัง .. และได้รับการศึกษาเทียบเคียงกับนายท่านเหล่านั้นมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นจึงนับเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ .. แกต้องเรียนที่โรงเรียน Inter แห่งนี้แหละ “
“ จริงด้วยค่ะคุณ .. อีกอย่าง ถ้าได้เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ บางทีลูกเราอาจสามารถหา นายท่าน มาช่วยกิจการที่กำลังซบเซาของเราก็ได้ “ แม่ของเธอกล่าวอย่างมีความหวัง  ( หมายเหตุ นายท่าน = ลูกค้า , บ้านนี้จะไม่เรียกลูกค้าเพราะถือว่าจะเป็นการลบหลู่ผู้มีพระคุณ )
  ก็ด้วยเหตุผลงี่เง่านี้แหละ .. เธอจึงต้องมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คิดแล้วก็เหนื่อยใจ .. ทำไมตระกูลของเธอถึงไม่ทำอาชีพอย่างอื่นนะ ให้ตายเถอะ .
“ อือ คุณชายน้อยคะ ยะ .อย่าค่ะ “
----- เสียงแปลก ๆ นี่มันอะไร ??  -----
“ อ๊าาาาาาาาาาาาาา .คุณชายขา .. คุณชาย . “ เสียงครางสูงอย่างเปี่ยมสุข เล็ดลอดผ่านประตูบานหนึ่ง
ซิงหยูขยับเข้าไปใกล้ ..และแล้วยังกับฉากที่จัดเอาไว้ประตูบานนั้นถูกลมพัดเบา ๆ .. ไอ้ที่เคยคาแย้มอยู่ ก็เลยเปิดอ้าให้ประจักษ์แก่สายตา
                      แม้จะเห็นเป็นเงาราง ๆ . แต่ซิงหยูก็แน่ใจว่า ชายหญิงคู่นั้นต้องไม่มีเสื้อผ้าติดกายอยู่แน่ ๆ
“ คุณชายมองอะไรคะ ?”    หญิงสาวมองใบหน้าที่เฉยเมยของคู่รักด้วยดวงตาฉ่ำหวาน ก่อนที่จะเบนหน้ามาตามสายตาเย็นชาของเขา
“ อ๊ายยยยยยยยย !!!  ยายบ้า !  ดูอะไรของแกน่ะ ..  ออกไป๊!!!”      ออกปากไล่พลางเขวี้ยงหมอนฉลุลายของลาซแซงค์มายังซิงหยู
ซิงหยูที่ยังยืนอ้าปากค้างอยู่ด้วยความตกใจ  รีบฉุดสติ ก้มหน้าก้มตา เดินหลบออกมาแทบไม่ทัน
---- ของจริงเหรอนั่น  .. พวกเขาทำอย่างว่ากันจริง ๆ เหรอ ?!!!----
ซิงหยูยืนเอ๋ออยู่หลังบานประตู  ...  แม้ว่าเธอจะไม่เห็นกิริยา เพราะพวกเขาอยู่ที่โซฟาไกลสุดห้อง
.....แต่ว่า ....  ผิวเนื้อเปล่าเปลือยราง ๆ ,  รวมทั้ง  !@$%
                                                 
                                                ---พวกเขาต้องทำอย่างว่านั่นจริง ๆ !!---
หน้าแดงไปจนจรดปลายหู ...เอามือปิดตา  ... อยากจะลบไอ้ภาพเหล่านั้นทิ้งไปเสียให้หมด
“ โรคจิตหรือเธอน่ะ  ถึงได้มาแอบดูใครเขามีอะไรกัน “  เสียงเย็นชา ติดจะหยิ่ง ๆ . ทำไม เธอจึงรู้สึกคุ้นหูจริงนะ ??
“ นาย !!!!”      ชี้หน้าแบบจำเงาราง ๆ บนใบหน้าได้ .. ความทรงจำเมื่อเช้า ไหลกลับมา แล้วซิงหยูก็เดือดปุด ๆ
“ ตาเด็กบ้า .. ลามก  ..  ออกไปให้พ้นจากที่นี่เลยนะ กล้าดียังไงมาทำอะไรทุเรศ ๆ บนอาคารเรียนของคุณหนูโจวเจวี้ยหมิน . เห็นเป็นอาคารหลังใหญ่ เลยเอาผู้หญิงมามั่วล่ะสิ ... มานี่เลย    คราวนี้ฉันจะต้องจดชื่อ ตัดคะแนนความประพฤตินายให้ได้ .. แบบนี้มันต้องไล่ออกสถานเดียว มานี่ซิ ชื่ออะไร ? ”  ว่าแล้วก็กระชากคอเสื้อ โน้มอกเข้ามาใกล้ ๆ
                                    ป้ายชื่อ --( สกุล )  โจว
                                                  ( นาม )  เจวี้ยหมิน
                                                                        โจว เจวี้ยหมิน !!!!!!          
“ เหยยยยยยยยยย !!!!  “    (อุทานพลางถอยกรูดไปติดผนังโดยไม่รู้ตัว )
“ ครับ ..ผมชื่อ โจว เจวี้ยหมิน “ มีรอยยิ้มน้อย ๆ เกือบจะเป็นเย้ยอยู่บนริมฝีปากสีชมพูสดนั้น ..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น