ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หนีตาย
“เฮ้ย เมื่อกี้ได้ยินเสียอะไรรึป่าววะ” บุญพูด
    “เสียงมาจากบริเวณงานว่ะไปดูกัน” แดนพูด
    “ไม่ๆ เค้าว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่นอน มันอาจจะเป็นโจรมาบุกปล้นโรงเรียนก็ได้ แล้วไอ้เสียงเมื่อกี้มันก็น่าจะเป็นเสียงปืน” นุกเสนอความเห็น
    “มึงมันบ้า ไม่ใช่นิยายนะโว้ย มึงกลัวก็บอกมาเหอะ” บุญพูด พร้อมกับตบหัวนุก
    “เฮ้ย อย่าทะเลาะกันดิ” แซมเข้ามาห้าม ก่อนที่ทั้งสองคนจะทะเลาะกันไปมากกว่านี้
    “ได้ๆ แต่ว่ากูจะไปดู ใครจะไปก็ไปด้วยกัน ถ้าใครขี้ขลาดตาขาวก็อยู่นี่ แล้วว่างๆก็ไปหาผ้าถุงมาใส่ซะนะ” บุญตัดสินใจจะไปในบริเวณงาน
    “ไปๆ” แดน แจ็ค ภู ขอไปกับบุญ “เฮ้ยแล้วมึงล่ะไอ้แซม ไอ้วิน ไอ้จุล มึงก็ขี้ขลาดเหมือนกันหรือวะ” ภูถามเพื่อนที่เหลือ
    ในตอนนี้เพื่อนๆในกลุ่มเริ่มมีความเห็นไม่ตรงกันแล้ว แบ่งเป็น 2 พวก โยที่พวกหนึ่งนั้นจะออกไปดูในบริเวณงานซึ่งก็มี บุญ แดน แจ็ค และภู ส่วนอีกพวกหนึ่งที่เพื่อนหาว่าเป็นพวกขี้ขลาดตาขาวไม่ขอออกไปดูในงานก็มี นุก แซม เควิน และจุล
                  ในบริเวณงาน ซึ่งตอนนี้ถูกพวกชายถืออาวุธจำนวน 16 คน ยึดไว้แล้ว และได้จับทุกคนที่อยู่ที่นั่นเป็นตัวประกันเพื่อเป็นการต่อรองเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาในนี้ พวกคนกลุ่มนี้ต้องการอะไรกันแน่ ไม่มีใครรู้ และในที่สุดหัวหน้ากลุ่มของพวกโจรก็ใช้ห้องประชาสัมพันธ์ พูดเจรจากับตำรวจ
                  “สวัสดี ไอ้พวกหน้าโง่ทุกคน ตอนนี้พวกเราได้ยึดที่นี่ไว้หมดแล้ว ขอให้พวกตำรวจหรือทหารที่คิดจะมาช่วยหรือคิดจะมาจับพวกเรา พวกมึงหยุดคิดซะ เพราะถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเมื่อไร ไอ้พวกตัวประกันพวกนี้ตายทั้งหมด พวกเราไม่ได้ขู่เท่านั้น เราจะทำจริงๆ เราจะให้ดูตัวอย่างซักคนนึง เฮ้ย! แสดงให้ไอ้พวกหน้าโง่พวกนี้ดูหน่อยว่าเราพูดเล่นหรือพูดจริง” หัวหน้ากลุ่มโจรออกมาประกาศเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ และทั้งยังสั่งให้ลูกน้องไปจับ อาจารย์นเรณกับอาจารย์วิวัฒนา มามัดไว้ที่เสาธง  ปังๆๆๆๆ ทันใดนั้นเองพวกโจรก็กระหน่ำยิงM16 มาที่ตัวอาจารย์ทั้ง2 จนเสียชีวิตทันที
                    “เห็นแล้วนะไอ้พวกโง่ กูไม่ได้ขู่ ถ้าคิดจะต่อสู้ล่ะก็ ตัวประกันตายหมดแย่ ลูกใครหลานใครก็ไม่เว้น ฮ่าๆๆๆ”
                      ทางด้านพวกบุญ ซึ่งแอบดูเหตุการณ์อยู่ข้างห้องประชาสัมพันธ์ และได้เห็นทุกอย่างก็พากันหวาดกลัวและพยายามที่จะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น และทันใดนั้นเองก็มีพวกโจรเห็นพวกของบุญ
                      “เฮ้ย! พวกมึงหยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่งั้นกูยิงไส้แตก”
                      “เวรแล้วมึงเชื่อไอ้นุกแต่แรกก็ดีวะ” แจ็คพูด
                      “พวกมึงบ่นหาไรกันวะ” พวกโจรถาม
                      “ไม่มีไรคับ”
                      “เฮ้ย! เดี๋ยวเอาตัวพวกมันไปให้หัวหน้านะ กูคิดว่ามันต้องมีเด็กหลงเหลืออยู่ในนี้อีกแน่ๆเลย กูจะออกไปตามล่าพวกมัน มากับกู 2 คน” โจรคนหนึ่งออกคำสั่ง
                    ทางด้านพวกนุกซึ่งตอนนี้ก็เห็นเหตุการทั้งหมดเช่นกัน จึงพากันวิ่งหนีไปหาที่ซ่อนที่ปลอดภัยที่สุด
                    “เฮ้ย เอาไงดีวะ ถ้ามันเห็นพวกเรานะ มีหลังตายกันหมดแน่”นุกพูด
                    “ก็หนีสิวะ ถามโง่ๆ” จุลพูด
                    “แล้วเพื่อนๆเราล่ะ” แซมถาม
                    “เอาน่าหาที่ซ่อนก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธีมาช่วยพวกมัน ตามมาเราจะซ่อนในเรือนเพาะชำกันนะ เค้าเคยโดนเรียนมาซ่อนตรงนี้ประจำ ไม่เคยมีใครจับได้” นุกเสนอความเห็น พร้อมกับพาเพื่อนไปซ่อนในเรือนเพาะชำ ซึ่งในนี้มืดมากและจะสกปรก แต่ยังไงพวกเค้าก็ต้องซ่อนตัวอยู่ในนี้ ดีกว่าออกไปเผชิญกับความตายข้างนอก
                      “เฮ้ย! ใครมีโทรศัพท์บ้าง โทรบอกตำรวจที ไอ้จุลมึงมีนี่” เควินพูด
                      “เหอะๆ ตังหมดว่ะ”
                      “แล้วจะพกมาให้หนักทำไมวะ แล้วแกล่ะแซม”
                      “อยู่ตรงไอ้แดนน่ะ”
                      “อะไรวะ แล้วทีนี้เราจะทำยังไงกันวะ” เควินตะโกนด้วยความโมโห
                      “มึงจะดังทำไมวะ ใจเย็นๆสิ” นุกพูดปลอบ
                      “แล้วมึงจะให้เรารอความตายอยู่ในนี้หรือไงวะ”
                    “ใครบอกว่าเราจะอยู่ในนี้ตลอด เราต้องสู้กับมัน เราจะไม่ปล่อยให้มันฆ่าพวกเราฝ่ายเดียว เราก็จะฆ่าพวกมันเหมือนกัน” นุกเสนอความเห็น
                    “ไอ้บ้า มันไม่ใช่นิยายที่มึงชอบอ่าน นี่มันเรื่องจริง มันมีอาวุธ ส่วนเราไม่มีอะไรเลย มึงอย่าไปคิดอะไรที่มันปลอบใจตัวเองมากได้มั๊ย ขอร้อง” จุลเริ่มหัวเสีย
                    “ใครบอกว่าเราไม่มีอะไร ลืมไปแล้วรึไงวะ เรามีสมอง เราฉลาดกว่ามัน”
                    “แกรู้ได้ไงว่ามันก็ไม่ฉลาด” แซมถาม
                      “ก็เออสิ ถ้ามันฉลาดมันคงไปเป็นหมอ เป็นวิศวะกันแล้ว ไม่มาเป็นโจรแบบนี้หรอก แล้วอีกอย่างนะพวกนายก็ดูรอบๆตัวเราสิ นี่มันเรือนเพาะชำ มีทั้งมีดทั้งจอบทั้งเสียม ทีนี้เรามีพอรึยัง” นุกพูด
                      “ฮ่าๆๆๆๆ”เควินหัวเราะ
                      “บ้าไปแล้วเหรอวินคนกำลังเครียดนะโว๊ย” จุลเริ่มหัวเสียอีกครั้ง
                      ไม่แปลกหรอกที่เควินจะหัวเราะ เพราะวินรู้ดีว่าที่นุกพูดนั้นเป็นแค่การปลอบใจและให้กำลังใจเพื่อน ซึ่งนุกเป็นคนที่พูดปลอบใจ ให้กำลังใจคนอื่นเก่งมาก ซึ่งก็มีแต่วินเท่านั้นที่อ่านความรู้สึกและความคิดทุกอย่างของนุกออกหมด แต่วินก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะถึงวินรู้ว่าที่นุกพูดเป็นเพียงการให้กำลังใจ แต่วินก็เริ่มมีกำลังใจที่จะสู้จากคำพูดของนุกเช่นกัน
TO BE CONTINUE
    “เสียงมาจากบริเวณงานว่ะไปดูกัน” แดนพูด
    “ไม่ๆ เค้าว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่นอน มันอาจจะเป็นโจรมาบุกปล้นโรงเรียนก็ได้ แล้วไอ้เสียงเมื่อกี้มันก็น่าจะเป็นเสียงปืน” นุกเสนอความเห็น
    “มึงมันบ้า ไม่ใช่นิยายนะโว้ย มึงกลัวก็บอกมาเหอะ” บุญพูด พร้อมกับตบหัวนุก
    “เฮ้ย อย่าทะเลาะกันดิ” แซมเข้ามาห้าม ก่อนที่ทั้งสองคนจะทะเลาะกันไปมากกว่านี้
    “ได้ๆ แต่ว่ากูจะไปดู ใครจะไปก็ไปด้วยกัน ถ้าใครขี้ขลาดตาขาวก็อยู่นี่ แล้วว่างๆก็ไปหาผ้าถุงมาใส่ซะนะ” บุญตัดสินใจจะไปในบริเวณงาน
    “ไปๆ” แดน แจ็ค ภู ขอไปกับบุญ “เฮ้ยแล้วมึงล่ะไอ้แซม ไอ้วิน ไอ้จุล มึงก็ขี้ขลาดเหมือนกันหรือวะ” ภูถามเพื่อนที่เหลือ
    ในตอนนี้เพื่อนๆในกลุ่มเริ่มมีความเห็นไม่ตรงกันแล้ว แบ่งเป็น 2 พวก โยที่พวกหนึ่งนั้นจะออกไปดูในบริเวณงานซึ่งก็มี บุญ แดน แจ็ค และภู ส่วนอีกพวกหนึ่งที่เพื่อนหาว่าเป็นพวกขี้ขลาดตาขาวไม่ขอออกไปดูในงานก็มี นุก แซม เควิน และจุล
                  ในบริเวณงาน ซึ่งตอนนี้ถูกพวกชายถืออาวุธจำนวน 16 คน ยึดไว้แล้ว และได้จับทุกคนที่อยู่ที่นั่นเป็นตัวประกันเพื่อเป็นการต่อรองเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาในนี้ พวกคนกลุ่มนี้ต้องการอะไรกันแน่ ไม่มีใครรู้ และในที่สุดหัวหน้ากลุ่มของพวกโจรก็ใช้ห้องประชาสัมพันธ์ พูดเจรจากับตำรวจ
                  “สวัสดี ไอ้พวกหน้าโง่ทุกคน ตอนนี้พวกเราได้ยึดที่นี่ไว้หมดแล้ว ขอให้พวกตำรวจหรือทหารที่คิดจะมาช่วยหรือคิดจะมาจับพวกเรา พวกมึงหยุดคิดซะ เพราะถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเมื่อไร ไอ้พวกตัวประกันพวกนี้ตายทั้งหมด พวกเราไม่ได้ขู่เท่านั้น เราจะทำจริงๆ เราจะให้ดูตัวอย่างซักคนนึง เฮ้ย! แสดงให้ไอ้พวกหน้าโง่พวกนี้ดูหน่อยว่าเราพูดเล่นหรือพูดจริง” หัวหน้ากลุ่มโจรออกมาประกาศเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ และทั้งยังสั่งให้ลูกน้องไปจับ อาจารย์นเรณกับอาจารย์วิวัฒนา มามัดไว้ที่เสาธง  ปังๆๆๆๆ ทันใดนั้นเองพวกโจรก็กระหน่ำยิงM16 มาที่ตัวอาจารย์ทั้ง2 จนเสียชีวิตทันที
                    “เห็นแล้วนะไอ้พวกโง่ กูไม่ได้ขู่ ถ้าคิดจะต่อสู้ล่ะก็ ตัวประกันตายหมดแย่ ลูกใครหลานใครก็ไม่เว้น ฮ่าๆๆๆ”
                      ทางด้านพวกบุญ ซึ่งแอบดูเหตุการณ์อยู่ข้างห้องประชาสัมพันธ์ และได้เห็นทุกอย่างก็พากันหวาดกลัวและพยายามที่จะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น และทันใดนั้นเองก็มีพวกโจรเห็นพวกของบุญ
                      “เฮ้ย! พวกมึงหยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่งั้นกูยิงไส้แตก”
                      “เวรแล้วมึงเชื่อไอ้นุกแต่แรกก็ดีวะ” แจ็คพูด
                      “พวกมึงบ่นหาไรกันวะ” พวกโจรถาม
                      “ไม่มีไรคับ”
                      “เฮ้ย! เดี๋ยวเอาตัวพวกมันไปให้หัวหน้านะ กูคิดว่ามันต้องมีเด็กหลงเหลืออยู่ในนี้อีกแน่ๆเลย กูจะออกไปตามล่าพวกมัน มากับกู 2 คน” โจรคนหนึ่งออกคำสั่ง
                    ทางด้านพวกนุกซึ่งตอนนี้ก็เห็นเหตุการทั้งหมดเช่นกัน จึงพากันวิ่งหนีไปหาที่ซ่อนที่ปลอดภัยที่สุด
                    “เฮ้ย เอาไงดีวะ ถ้ามันเห็นพวกเรานะ มีหลังตายกันหมดแน่”นุกพูด
                    “ก็หนีสิวะ ถามโง่ๆ” จุลพูด
                    “แล้วเพื่อนๆเราล่ะ” แซมถาม
                    “เอาน่าหาที่ซ่อนก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธีมาช่วยพวกมัน ตามมาเราจะซ่อนในเรือนเพาะชำกันนะ เค้าเคยโดนเรียนมาซ่อนตรงนี้ประจำ ไม่เคยมีใครจับได้” นุกเสนอความเห็น พร้อมกับพาเพื่อนไปซ่อนในเรือนเพาะชำ ซึ่งในนี้มืดมากและจะสกปรก แต่ยังไงพวกเค้าก็ต้องซ่อนตัวอยู่ในนี้ ดีกว่าออกไปเผชิญกับความตายข้างนอก
                      “เฮ้ย! ใครมีโทรศัพท์บ้าง โทรบอกตำรวจที ไอ้จุลมึงมีนี่” เควินพูด
                      “เหอะๆ ตังหมดว่ะ”
                      “แล้วจะพกมาให้หนักทำไมวะ แล้วแกล่ะแซม”
                      “อยู่ตรงไอ้แดนน่ะ”
                      “อะไรวะ แล้วทีนี้เราจะทำยังไงกันวะ” เควินตะโกนด้วยความโมโห
                      “มึงจะดังทำไมวะ ใจเย็นๆสิ” นุกพูดปลอบ
                      “แล้วมึงจะให้เรารอความตายอยู่ในนี้หรือไงวะ”
                    “ใครบอกว่าเราจะอยู่ในนี้ตลอด เราต้องสู้กับมัน เราจะไม่ปล่อยให้มันฆ่าพวกเราฝ่ายเดียว เราก็จะฆ่าพวกมันเหมือนกัน” นุกเสนอความเห็น
                    “ไอ้บ้า มันไม่ใช่นิยายที่มึงชอบอ่าน นี่มันเรื่องจริง มันมีอาวุธ ส่วนเราไม่มีอะไรเลย มึงอย่าไปคิดอะไรที่มันปลอบใจตัวเองมากได้มั๊ย ขอร้อง” จุลเริ่มหัวเสีย
                    “ใครบอกว่าเราไม่มีอะไร ลืมไปแล้วรึไงวะ เรามีสมอง เราฉลาดกว่ามัน”
                    “แกรู้ได้ไงว่ามันก็ไม่ฉลาด” แซมถาม
                      “ก็เออสิ ถ้ามันฉลาดมันคงไปเป็นหมอ เป็นวิศวะกันแล้ว ไม่มาเป็นโจรแบบนี้หรอก แล้วอีกอย่างนะพวกนายก็ดูรอบๆตัวเราสิ นี่มันเรือนเพาะชำ มีทั้งมีดทั้งจอบทั้งเสียม ทีนี้เรามีพอรึยัง” นุกพูด
                      “ฮ่าๆๆๆๆ”เควินหัวเราะ
                      “บ้าไปแล้วเหรอวินคนกำลังเครียดนะโว๊ย” จุลเริ่มหัวเสียอีกครั้ง
                      ไม่แปลกหรอกที่เควินจะหัวเราะ เพราะวินรู้ดีว่าที่นุกพูดนั้นเป็นแค่การปลอบใจและให้กำลังใจเพื่อน ซึ่งนุกเป็นคนที่พูดปลอบใจ ให้กำลังใจคนอื่นเก่งมาก ซึ่งก็มีแต่วินเท่านั้นที่อ่านความรู้สึกและความคิดทุกอย่างของนุกออกหมด แต่วินก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะถึงวินรู้ว่าที่นุกพูดเป็นเพียงการให้กำลังใจ แต่วินก็เริ่มมีกำลังใจที่จะสู้จากคำพูดของนุกเช่นกัน
TO BE CONTINUE
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น