ตอนที่ 2 : บทที่ 1 (40%)

บทที่ 1
หน้าห้องดับจิตของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอันดับต้นๆ ของเมืองไทยแห่งหนึ่ง โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม (Rolls-Royce Phantom) สีดำขลับวิ่งมาจอดเทียบยังหน้าตึก ชายฉกรรจ์สวมชุดสูทสีดำสองคนรีบลงจากรถแล้วหันกลับไปเปิดประตูหลังให้ผู้เป็นนายอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักร่างสูงสง่าล่ำบึกของบรรณ มัณตะธารา ก็ก้าวออกมาจากพาหนะสุดหรูราคาเฉียดหกสิบล้านบาท ทันทีที่รองเท้าหนังเงาวับทั้งสองข้างเหยียบย่ำลงบนพื้นฟุตบาท สายลมอ่อนๆ พร้อมกับกลิ่นหอมบางอย่างก็พัดผ่านวูบมา ทำเอาบุรุษผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในแถบทะเลอันดามันถึงกับหัวใจกระตุกไหว ริมฝีปากหยักได้รูปเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงราวกับเจ้าตัวกำลังสะกดกั้นความรู้สึกบ้างอย่างเอาไว้ ดวงตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้กรอบแว่นสีดำหากใครได้เห็นยามนี้มันแดงก่ำเต็มไปด้วยความเครียดแค้นและความเสียใจปนอยู่
“บรรณ…”
เสียงเรียกทำให้บรรณหันไปมอง ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับเอกวัตรมาถึงตัว โดยมีนายตำรวจอีกสองคนยืนอยู่ด้านหลัง
“ฉันอยากเจอยัยพัด” เสียงทุ้มที่เปล่งออกมานั้นแฝงไว้ซึ่งความเจ็บปวดอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ทำเอาเอกวัตรลอบถอนหายใจเบาๆ อย่างหนักใจไม่น้อย เพราะหลังจากวันนี้เป็นต้นไปคนที่ทำกับพัดชาคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่
“ศพยัยพัดอยู่ในห้องดับจิต” เอกวัตรเดินนำเพื่อนเข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่ประจำห้องเดินออกมาต้อนรับและพาไปที่ช่องเก็บร่างของพัดชา บรรณมองป้ายชื่อที่ติดอยู่ในช่องเล็กๆ ด้วยประตากายแข็งกร้าว มือหนาจับที่เปิดและกำไว้แน่นก่อนจะค่อยๆ ดึงออกมาช้าๆ เอกวัตรเห็นรอยนูนของกรามแกร่งที่ปรากฏขึ้นก็รู้ว่าเพื่อนรักเจ็บปวดมากแค่ไหนกับการสูญเสียน้องสาวสุดรักไปอย่างกะทันหันแบบนี้
“ถ้าเธอบอกพี่สักคำ พี่จะไม่ให้เธอต้องโดดเดี่ยวแบบนี้พัด” คนเป็นพี่มองหน้าซีดขาวของน้องสาว ขณะกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
“น้องพัดไปสบายแล้วนะ” เอกวัตรวางมือลงบนบ่ากว้างของเพื่อนรักและบีบแรงๆ อย่างให้กำลังใจ “แต่ยัยพัดได้มอบของล้ำค่าไว้ให้ นั่นก็คือหลานชายของนาย”
“ตอนนี้หลานฉันอยู่กับใคร” บรรณถามหลังจากที่เลื่อนศพของน้องสาวเข้าไปเก็บในช่องเย็นตามเดิม
“ฉันให้แม่ช่วยเลี้ยง ตาหนูเลี้ยงง่ายไม่งอแงเลย ถ้านายอยากจะรับไปวันนี้ก็ได้นะ” เอกวัตรพูดตามคำบอกเล่าของมารดา
“ทางสามียัยพัดว่ายังไงบ้างวัตร” บรรณถามเรื่องน้องเขยที่เคยเห็นหน้ากันเพียงครั้งเดียว เพราะตั้งแต่น้องสาวตัดสินใจอยู่กินกับสามี เขาก็ไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวอีกเลย จะมีเพียงโทร.ถามข่าวคราวสารทุกข์สุขดิบกันเท่านั้น จนกระทั่งสองเดือนก่อนได้ยินพัดชาพูดเป็นนัยว่าอยากกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งเขาเองก็พร้อมจะไปรับทันที แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเกิดเรื่องสุดเศร้าขึ้นเสียก่อน
“ไม่มีการติดต่อใดๆ กลับมาเลย ทั้งๆ ที่ฉันให้คนไปบอกแล้วว่าพัดเสียชีวิต แม่ฝ่ายสามีก็ออกงานสังคมตามปกติราวกับว่าไม่รับรู้เรื่องของพัดกับลูก”
“ไอ้สารเลวนั่น มันเป็นสามีแบบไหนกัน” บรรณกดเสียงต่ำจนน่ากลัว “ฉันอยากรู้ผลการสอบสวนและผลชันสูตรโดยด่วน”
“ไปคุยกันในรถดีกว่า” เอกวัตรมองเจ้าหน้าที่แล้วพาบรรณเดินออกจากห้อง บรรณมองเสี้ยวหน้าเคร่งขรึมของเพื่อนก็รู้ว่าการตายของน้องสาวต้องมีอะไรมากกว่าถูกลอบยิง
“นี่คือผลการสอบสวน” เอกวัตรยื่นเอกสารให้หลังจากเข้ามานั่งในโรลส์-รอยซ์ แฟนทอม “พัดถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดจุดสามแปดหนึ่งนัด ตอนที่ฉันไปเจอ พัดก็อ่อนแรงเต็มทีและไม่ยอมบอกอะไรเลย บอกแค่ว่าขอให้ความลับตายไปพร้อมกับแก ตอนนี้ฉันให้คนเก็บกล้องวงจรปิดตั้งแต่โรงพยาบาลและตามเส้นทางที่คนร้ายหนี อีกสองสามวันน่าจะได้เรื่อง”
“พัดถูกฆาตกรรม!” บรรณสรุป ขณะมือกำเอกสารแน่น
“ใช่ ฉันตั้งไว้มีแค่ประเด็นเดียวคือเรื่องชู้สาว เพราะยัยพัดไม่เคยมีศัตรูที่ไหน” เอกวัตรบอกข่าวใหม่ที่เพิ่งรับรายงานเมื่อเช้า ทำเอาคิ้วหนาของคนฟังขมวดเข้าหากัน
“คุณหญิงอมรรัตน์แม่ของนายพศินปล่อยข่าวว่าลูกชายจะหมั้นกับคุณหนูไฮโซคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่ยัยพัดกำลังตั้งท้องหลานของตัวเอง”
“มันเลวกันทั้งตระกูล ฉันไม่ปล่อยเรื่องนี้เงียบไปเฉยๆ แน่ ใครที่ทำให้ยัยพัดต้องมีอันเป็นไป พวกมันต้องชดใช้ด้วยชีวิตเช่นกัน” บรรณบอกเสียงเรียบๆ ทว่าสุดสะพรึงยิ่งนัก จนเอกวัตรได้แต่กลัวแทนคนที่ทำ
“จะทำอะไรก็รอบคอบหน่อยนะ ถ้ามีคนแจ้งความจับนาย ฉันก็คงต้องทำตามหน้าที่” เอกวัตรเตือนสติเพื่อนรัก แต่มั่นใจว่าคนอย่างบรรณไม่มีทางทิ้งหลักฐานไว้แน่นอน
“ขอบใจที่เตือน ฉันจะทำให้พวกมันเจ็บมากกว่าฉันพันเท่า!” เสียงทุ้มประกาศกร้าวด้วยเพลิงแค้นที่อัดแน่นอยู่ในอกราวกับภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ และวินาทีนั้นเองก็มีรถเก๋งคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดใกล้ๆ สายตาคมกริบตวัดมองอย่างรวดเร็วเพราะรู้ดีว่าเจ้าของรถคันนั้นคือใคร
พศินรีบเปิดประตูรถลงมาหาร่างสูงใหญ่อันน่าเกรงขามที่ก้าวออกมาจากรถเช่นเดียวกัน
“สวัสดีครับคุณบรรณ” คนเป็นน้องเขยยกมือขึ้นไหว้ แต่บรรณไม่คิดจะรับไหว้ มีเพียงแค่ปรายตามองใบหน้าหม่นคล้ำของพศินไม่วางตา
“ขอบใจที่ยังจำพี่เมียอย่างฉันได้”
“ผมขอโทษที่ดูแลพัดไม่ดีจนเธอต้อง…” ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นก็ต้องเงียบเพราะมีก้อนเหนียวๆ วิ่งขึ้นไปจุกที่ลำคอ บรรณแสยะยิ้มหยันๆ แล้วเดินมาใกล้ พศินรีบถอยหลังออกห่างอย่างกลัวๆ แต่ก็ไม่ทัน เพราะถูกบรรณกระชากคอเสื้อเข้าหาตัว และมองไปที่รถของพศินเห็นผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งนั่งอยู่ ถ้าจะให้เขาเดาคงเป็นคุณหญิงอมรรัตร์
“เก็บคำขอโทษไว้ไปบอกพัดที่ยมโลกก็แล้วกัน” พูดจบผู้ที่ทรงอิทธิพลและน่ากลัวยิ่งกว่ายมทูตก็ใช้กำปั้นหนักๆ ชกเข้าที่หน้าของพศินจนเลือดไหลกลบปาก ก่อนจะขยับเข้าไปหมายจะซ้ำอีกสักหมัดสองหมัด แต่ก็ถูกเอกวัตรถลาเข้ามาจับตัวเอาไว้เสียก่อน
“อย่าบรรณ…”
คุณหญิงอมรรตน์เห็นลูกชายถูกทำร้ายก็รีบเปิดประตูลงมาดู
“แกเป็นใครถึงมาชกลูกชายฉันแบบนี้” หญิงสูงวัยประคองบุตรชายไว้ขณะสายตามองบรรณอย่างไม่พอใจ “หรือแกเป็นผัวใหม่นังพัด”
“แม่...หยุดเถอะ” พศินหันไปปรามมารดา แต่ดูเหมือนคุณหญิงอมรรัตน์จะไม่รู้อะไรเอาเสียเลย
“แม่ไม่หยุด นังนั่นมันสวมเขาให้แก และผู้ชายคนนี้คงจะเป็นผัวของมันและเป็นพ่อของลูกมัน” คุณหญิงอมรัตน์เรียกจิกหัวจนบรรณทนไม่ไหวตรงปรี่ไปหา
“บรรณหยุด…” แต่เอกวัตรเข้าไปขวางไว้ หญิงสูงวัยเห็นท่าทางบรรณเหมือนหมาบ้าก็มองด้วยสายตาเหยียดหยาม
“สันดานไพร่ นี่คงขโมยรถเจ้านายมาล่ะสิ พวกขี้ข้าอยากทำตัวเป็นผู้ดี”
“แม่…” พศินเรียกมารดาเสียงสั่นเพราะสีหน้าของบรรณเข้มจนแดงจัด “คุณบรรณไม่ทำอย่างนั่นหรอก” ชายหนุ่มแก้ต่างให้ภรรยาไม่เต็มเสียงนัก เพราะรู้ว่ามารดาไม่ชอบพัดชาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“มันตายแล้ว แกยังโง่แก้ต่างให้อีกเหรอ เมื่อไหร่แกจะตาสว่างสักทีพศินว่านังนั่นไม่คู่ควรกับแก” คุณหญิงอมรรัตน์ตีบุตรชายแรงๆ บรรณสุดจะทนไหว หยิบปืนเก็บเสียงออกมาแล้วเล็งปลายกระบอกไปยังสองแม่ลูก
“ไปให้พ้นหน้าฉัน และอย่ามายุ่งเกี่ยวกับยัยพัดอีก ไป๊!” บรรณตวาดลั่น สองแม่ลูกผวาเข้าหากันอย่างหวาดกลัว เอกวัตรขยับตัวและภาวนาให้เพื่อนรักใจเย็นๆ
“แต่ผม…” พศินพยายามจะอธิบายต่อ หากพอเห็นสายตาแข็งกร้าวของอีกฝ่ายก็สั่นเป็นเจ้าเข้า
“ไม่ต้องไปต่อปากต่อคำคนแบบนี้ ไปกลับ ถ้ามันไม่มีญาติมารับศพก็ให้มันเป็นศพอนาถาต่อไป” คุณหญิงอมรรัตน์บังคับบุตรชายไปที่รถและขับออกไป
“สารเลว พวกมึงไม่ตายดีแน่” บรรณสบถอย่างโมโห ขณะมองตามท้ายรถของสองแม่ลูกคู่นั้นตาไม่กะพริบ “เจตต์ ฉันต้องการรู้เรื่องของครอบครัวนี้อย่างละเอียด” คนเป็นนายหันมาสั่งงานกับลูกน้อง เจตต์ก้มศีรษะรับคำแล้วรีบไปจัดการทันที
“แรกๆ ฉันตั้งใจจะห้ามแกนะบรรณ แต่พอเห็นท่าทีคุณหญิงนั่น ฉันสนับสนุนเต็มที่ แต่แกต้องรอบคอบให้มากๆ ส่วนเรื่องคนร้ายฉันจะจัดการเอง”
“ขอบใจมากวัตร” บรรณเอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนรัก จากนั้นทั้งสองก็ทำเรื่องขอรับศพของพัดชาไปบำเพ็ญกุศล
แม้ร่างของพัดจะเหลือเพียงเถ้าธุลี หากแรงแค้นในใจของบรรณยิ่งทบทวีเป็นหลายเท่า และรอวันที่จะเอาคืนคนที่ทำร้ายน้องสาวเขาอย่างสาสม!
ผลงานเรื่องอื่นๆ