ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My [Boy] Friend You're My Only Girl

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่5 ดื้อรั้น _

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 57


    << I'm   Hyuk Jae >>

          ผมกระซิบตาช้าๆ2-3ครั้งเพื่อปรับรับแสงที่จะเข้ามา ภายในห้องที่ผมตื่นขึ้น. . เป็นห้อง

    เรียบๆที่ไม่มีอะไรตกแต่งมากนัก มีแค่เตียง ทีวีที่มีแต่รายการแปลกๆ ตู้เย็น และตู้ขายของที่ตั้ง

    ไว้ข้างๆกัน มันก็แค่ม่านรูดทั่วไปที่ต่อให้ตกแต่งดียังไงจุดประสงค์ก็มีไว้แค่นอน ผมดันตัวเอง

    ลุกขึ้นนั่งช้าๆโดยไม่ได้สนใจเลี้ยวไปมองคนที่น้องหลับอยู่ข้างๆเลย ก่อนจะเอื้อมตัวไป

    ควานหากางเกงที่ใส่เมื่อคืน กางเกงสเลคสีดำตกอยู่ข้างเตียงนั้นเอง ผมควานหาบุหรี่ของ

    ตัวเอง ก่อนนำไฟแช็ครูปโครมอันสวยที่มันประดับอยู่ข้างเตียงมาจุด อันที่จึงผมก็พึ่งนึกขึ้นได้

    เมื่อกี้นี่เองว่ามันอยู่ตรงนั้น.  . “อื้ม~” คนข้างๆผมทำเสียงงัวเงียก่อนพาดแขนมาโอบรอบเอว

    ผมไว้ ผมลูบหัวเค้าเบาๆครั้งนึงแล้วยกแขนเค้าออกจากตัว ผมห่มผ้าให้เค้าก่อนลุกออกไปเก็บ

    เสื่อผ้าแล้วจัดเจงอาบน้ำแต่งตัวรวมถึงเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้เค้าเหมือนอย่างเคย. . ใช่

    เหมือนอย่างเคยมีเซ็กกันแล้ววันรุ่งขึ้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันนานมาแล้วสำหรับ

    ครั้งแรกของเรา. . ตอนนั้นผมคงคิดไปเองว่ามันคือความรัก เค้าของผมแต่งงานในระหว่างที่เรา

    กำลังมีอะไรกันและผมก็ไม่ได้ตอบอะไรไป ผมไม่คิดว่าผมคู่ควรกับเค้า ตอนนั้นผมเป็นแค่

    เด็กฝึกที่เตรียมจะเดบิวต์ละครเรื่องแรกในบทน้องชายแสนซื่อของนางเอกที่โดนนางร้าย

    หลอกใช้ให้ทำลายความรักของพี่สาวตัวเอง ตอนนั้นตัวผมในชีวิตจริงก็แสนซื่อเหมือนกับบทที่

    ได้รับ หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าควรตอบตกลงแต่งงานกับท่านประทาน ผมคิดคำตอบที่ดูดี

    เพื่อบอกเค้าว่า “ผมตกลงจะแต่งงานกับคุณทันทีที่ผมมีชื่อเสียงติดระดับท๊อป ระหว่างนี้

    เราคบกันเป็นแฟนไปก่อนก็ได้” แต่แล้วฝันเฟื้องของผมก็สลายลง ผมเข้าไปในห้องทำงานเค้า

    และเห็นเค้ากำลังขอแต่งงานกับเลขาสาวสวยของเค้าในขณะทีกำลังมีเซ็กกับเธอบนโต๊ะ

    ทำงาน 555555 มันน่าขำ เค้ามีอะไรกับหลายๆคนรอบตัวเค้าและขอคนเหล่านั้นแต่งงาน

    เพื่อให้คนพวกนั้นอยู่รับใช้เค้าตลอดไป ผมทำใจได้อย่างรวดเร็วแต่ยังคงมีเซ็กกับเค้าเรื่อยๆ

    ถ้าใครสักคนต้องการ. . ทำไมหน่ะหรอ? เพราะผมชอบมันหน่ะสิ ผมยอมรับว่าค่อนข้าง

    หมกหมุ่นกับเรื่องเซ็ก และมันก็ดีมากเมื่อเราได้ทำมันกับคนที่เราไม่ต้อกังวลทั้งเรื่องโรคและ

    เรื่องท้อง เอาหละ ผมทิ้งทงเฮไว้กับปากเหยี่ยวปากกามานานเกินพอแล้ว ถึงเรื่องของคยูที่ผม

    ให้นักสืบสืบมามันจะไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้หรอกว่าเค้าจะไม่ข่มขื่นน้องชาย

    ตัวน้อยของผม ผมดูเวลาจากมือถือที่บอกว่ามันเลยเที่ยงคืนมาแล้วนิดหน่อยตอนที่ผมกลับมา

    ถึงบ้าน “อ้าว! ทำไมคยูมานอนอยู่นี้หละ” ผมค่อนข้างตกใจเพราะภาพที่เห็นคือดงเฮกำลัง

    นั่งเล่นมือถืออยู่บนพื้นข้างๆโซฟาโดยที่มีคยูหลับอยู่บนนั้น “คือ. . ผมเผลอหลับบนโซฟา

    แล้วดูเหมือนคยูจะเช็คตัวให้ผมตอนที่ผมหลับอยู่” ทงเฮมองไปนำสายตาผมไปที่กะละมังข้างๆ

    ตัวเค้า  “แต่คยูคงเผลอหลับไปตอนที่นั่งเฝ้าไข้ผมอยู่. . ตอนที่ผมตื่นมาเห็นผมเลยลากเค้า

    ขึ้นไปนอนบนโซฟาแล้วก็เฝ้าเค้าบ้าง” เค้ายิ้ม? ทงเฮดูมีความสุข โอเคผมจะยอมให้เรื่องมัน

    ผ่านไปอย่างนี้สักพักก็ได้ ผมไม่ว่าอะไรหรอกถ้าทงเฮจะเกิดตกหลุมรักคยูขึ้นมาจริงๆ เพราะอีก

    ไม่กี่วันพวกเค้าก็ต้องแยกจากกันแล้ว ทงเฮเค้ามีความฝัน มีความทะเยอทะยานมากพอจะไม่

    ทิ้งทุกอย่างแล้วตามคยูไปตอนนี้แน่นอน แล้วถ้าวันไหนที่น้อยชายผู้อ่อนต่อโลกของผมดั

    นเลือกความรักมากกว่างานเมื่อไหร่ ผมนี่แหละที่จะทำลายมันให้ย่อยยับเอง “หึ” ผมพ่นหายใจ

    มันดีไม่น้อยเลยจริงๆที่ทงเฮจะมีความรักบ้างเพราะมันทำให้บทบาทของเค้าทั้งในการแสดง

    และร้องเพลงมันกว้างขึ้น เข้าถึงอารมณ์มากขึ้น “นายยิ้มอะไร” เด็กน้อยของผมทำหน้าเหวี่ยง

    กลบเกลื่อน ผมว่าเค้ารู้อยู่เต็มอกแล้วแหละว่าผมหัวเราะอะไร แต่ผมจะทำให้เค้าแน่ใจขึ้นอีก

    หน่อย ผมเดินเข้าไปนั่งข้างเค้าแล้วบอกถึงความเอ็นดู “คืนนี้พวกนายนอนด้วยกันก็ได้นะ

    ฉันอนุญาติ” ทงเฮหน้าแดงกล่ำ ยกมือชี้หน้าผมค้างในอากาศแล้วทำปากผงาบๆเหมือนอยาก

    พูดอะไรบ้างอย่าง แต่ผมทนเขินแทนเค้าไม่ได้จริงๆ เลยลุกขึ้นกึ่งดึงกึ่งลากเค้าออกไปจากที่ๆ

    เค้าอยู่ “ไปเลยไป” ผมเหวี่ยงตัวเค้าเบาๆให้ออกไปจากเขตแดนที่เค้านั่งฝั่งรากอยู่ “ไปไหน”

    ทงเฮทำหน้างงมองไปที่คยูเหมือนจะหาคำตอบได้ แต่คนที่จะให้คำตอบได้มันผมนี่! “ไปนอน

    กับคยูไง ไป๊! เดี๋ยวส่งเจ้าบ่าวตามไปให้” ผมพูดพลางใช้เท้าเขี่ยทงเฮอย่างสุภาพ ขอย้ำว่านี่

    สุภาพมาจริงๆนะถ้าเทียบกับอาการเขินจนน่าหมั่นไส้ของหมอนี่ “อะไรเล่า ไม่เอาหรอก”

    ผมแตะส่งเจ้าเด็กซึนนี่อีกที ทำไมมันดื้อด้านแบบนี้นะ “แล้วไง จะให้คยูนอกโซฟาทุกคืนเลย

    หรือไง หรือนายคิดว่าตัวเองน่าปล่ำมากนักห๊ะ!” ทงเฮอ้าปากค้างอีกทีด้วยหน้าที่ยังคงแดงอยู่

    ก่อนจะแม่มปากแน่นแล้วหันไปมองผู้ที่ถูกพาดผิง “ก็ได้” ทงเฮตอบเสียงอ่อยก้มมองพื้นอยู่

    สักนึงแต่ผมไม่สนใจหรอก ผมหัวเราะกับความน่ารักของทงเฮผู้เปรียบเหมือนน้องชายแท้ๆ

    ของผมแล้วเดินเข้าห้องตัวเองไปแต่ก็เห็นด้วยหางตาว่าทงเฮสะกิดคยูให้เดินตามทั้งที่ดูเหมือน

    ละเมอเข้าห้องไป พอเข้าห้องไปก็เจอมือถืออีกเครื่องของผมที่พึ่งเปิดใช้งานว่างอยู่หน้าคอม

    ผมเปิดมันไว้เพื่อแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ช่วงนี้เป็นขาขึ้นของผม มีทั้งผู้หญิงผู้ชายมาจีบ

    ผมเต็มไปหมด ผมเลยกะว่าจะลองดูใจกับใครสักคนแก้เบื่อ ถึงตอนนี้ผมจะยังเลือกไม่ได้ว่า

    จะให้โอกาสหรือทำลายโอกาสของใครดี แต่ที่แน่ๆถ้าต่อไปนี้จะมีใครมาจีบผม . . ผมก็จะให้

    เบอร์นี้ไป มันน่ารำคาญมากนะที่มีคนอื่นโทรเข้ามาเวลาผมกำลังทำงานอยู่ แล้วตอนนี้ผมก็

    สะสางเด็กๆชุดเก่าของผมเรียบร้อยแล้วหล่ะ ถึงเวลาเริ่มใหม่สักที ผมหยิบมันขึ้นมาดู ในนั้นมี

    ทั้งเฟส ทั้งIG ทั้งทวิตเตอร์และแอฟโซเชี่ยวอื่นๆที่ผมล๊อคอินด้วยแอดเค้าว์ใหม่ที่ผมเปิดขึ้น

    ด้วยการณ์นี้โดยเฉพาะ ผมหยิบมันมานั่งดูรูปที่คนพวกนั้นส่งมาให้ผม เห็นได้ชัดเลยว่ามี

    หลายคนที่เข้ามาหาผมเพราะต้องการให้ผมพาเข้าวงการ หึ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก “เอ๊ะ!

    ผมอุทานออกมาเพราะมันมีคำร้องขอจากคนๆนึงเด้งขึ้นมาแทบจะพร้อมกันในทุกหน้าเอฟฯ

    ของผม ชื่อของคนที่ส่งมาก็คือ “ฮันกยอง! รู้จักแอคเคาว์นี่ได้ไง?” ‘*ตือ ดือดึดดึ ตือดือดึดดึ*’

    ไม่ทันที่ผมจะหายสงสัยเรื่องฮันก็มีเบอร์ที่ไม่ได้เมมไว้โทรเข้าเครื่องมา ผมเหลือบมองเวลาบน

    หน้าจอ. . ตอนนี้ 3.42 AM “ใครว่ะ?” ผมตั้งคำถามกับตัวเองแต่ถ้าไม่รับ ผมคงไม่มีทางได้

    คำตอบที่ทันใจตัวเอง ผมจึงกดรับอย่างค่อนข้างลังเล ฮัลโล~~~’ เสียงปลายสายทที่สดใส

    เกินเหตุส่งมาก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไรสักอีก “คุณฮัน?” ผมเรียกชื่อคนที่ผมคิดว่าฟังอยู่

    ปลายสาย ครับ คุณฮยอกปลายเสียตอบกลับมาเหมือนอยากกวนโมโหผม “มีอะไร รู้เบอร์นี้

    ได้ยังไง” หมดเวลาที่ผมจะใช้ภาษาสุภาพกับเค้าแล้ว เป็นแค่ลูกนกในกำมือของผมแท้ๆ

    อย่ามาทำเป็นตีเสมอผมหน่อยเลย ผมแค่อยากโทรมาจีบคุณเหมือนคนอื่นๆที่โทรมาเบอร์นี้

    ไม่ได้หรอครับคำตอบของเค้ามันชัดเจนอยู่แล้วว่าเค้ารู้ว่าผมมีเบอร์นี้ไว้เพื่ออะไร แทนที่

    คำตอบของเค้าจะทำให้ผมเขินอย่างที่เค้าตั้งใจมันกลับทำให้ผมโมโหแทน “พูดบ้าอะไร

    แล้วนายไม่คิดจะดูเวลาก่อนโทรมาบ้างหรือไง” ผมเปลี่ยนประเด็นเพราะดูยังไงผมก็คงไม่ได้

    คำตอบจากเค้าอยู่ดี ผมจึงหาทางตัดสาย แต่ก็อีกนั้นแหละ ผมทำอะไรรุนแรงกับเค้ามากไม่ได้

    เพราะเค้ายังเป็นเป้าหมายของบริษัทเราอยู่เอาหน่า คุณยังไม่นอนสักหน่อย  กำลังเหงายู่หรอ

    ถึงไม่นอนสักทีผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าเค้าต้องการอะไร ก็เหมือนพวกที่เข้าหาผมเพราะต้องการ

    ใช้ประโยชน์จากผมนั้นแหละ หึ เล่นด้วยหน่อยก็ได้ แต่ถ้าผมเผลอทำร้ายจิตใจซุปตาร์คนนี้ไป

    ก็คงเป็นเวรกรรมที่เค้าเริ่มเองหละนะ “ฉันตื่นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ของคนบางคนที่โทรมา

    ไม่รู้เวลาต่างหาก” ผมย้ายตัวเองจากหน้าคอมไปนอนเล่นบนเตียง ไหนๆก็แทบไม่ได้พักมา

    ทั้งวันละ คุยเล่นกับว่าที่เด็กใหม่หน่อยคงไม่เป็นไร หึ ผมรู้นะว่าคุณยังไม่ได้นอนสักหน่อย

    ผมเงียบ อมยิ้มในความน่ารักปนกวนโอยของเค้า ดูเค้าจะเตรียมบทเด็กหนุ่มจีบพี่ชายมาได้ดีนะ

    ผมรู้จริงๆนะ ไม่เชื่อก็เปิดหน้าตาออกมาดูสิ ผมเดินอมยิ้มไปเปิดหน้าต่างดูตามที่เค้าบอกโดย

    ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่ทำๆไป แต่พอมองลงไปก็เห็นรถจอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามกับบ้านของผม

    และที่หน้ารถนั้นก็มีฮันกยองยืนผิงรถพร้อมส่งยิ้มมาให้จากตรงนั้น. . .


     

     

     

    << I'm   Si Won >>

         

          ตอนนี้ผมกำลังเดินทางกลับไปหาสาวน้อยคนนึง เธอเป็นหญิงเกรงและเก่งมาก เป็นทั้ง

    ลูกน้อง เป็นทั้งที่ปรึกษา และอดีตภรรยาของผมด้วย เรายังคงอาศัยด้วยกันอยู่เพราะงั้นผม

    จึงพาใครมาที่บ้านไม่ได้ การที่เราแต่งงานกันครั้งนั้นเป็นการแต่งงานทางธุรกิจเพื่อรวมบริษัท

    ของเราเข้าด้วยกันโดยที่ผมพึ่งมารู้ตัวที่หลังว่าความจริงแล้วบริษัทของเธอกำลังจะล้มละลาย

    ผมกู้ชื่อให้เธอโดยการเทคเอ้าค์ทั้งบริษัทและตัวเธอมาอยู่ในเครื่อของชเวกรุ๊ป แต่ผมไม่โกรธ

    เธอหรอก เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เราไม่เคยคบกันและเธอก็ไม่เคยบอกรักผม

    ตอนนั้นเธอเพียงแค่บอกผมด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่ดูเปราะบางว่า “แต่งงานกันเถอะ ช่วยฉันที”

    และเราก็จัดงานแต่งขึ้นภายใน 5 วัน พร้อมกับประกาศรวมบริษัท เธอมาอยู่ในฐานะรองประธาน

    ก่อนที่ฮยอกจะเข้ามารับหน้าที่นี้ไปเพราะเธอต้องการออกจากวงการ แต่วันนี้. . ผมกลับมาบ้าน

    ที่ไม่ได้อยู่มาเกือบ 2 ปีเพื่อขอให้เธอกลับเข้าวงการ ทันทีที่ผมจอดรถไว้หน้าบ้าน บ้านหลังเดิม

    ที่ดูกว้างเกินไปสำหรับการอยู่คนเดียวก็เปิดไฟขึ้น ตอนนี้เวลาตี 4 นิดๆยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะตื่น

    เธอเปิดประตูออกมารับโดยที่ผมไม่ต้องกดกริ๊งด้วยซ้ำ “สวัสดีค่ะท่านประธาน” รอยยิ้มที่ชินตา

    ส่งออกมาจากผู้หญิงที่กำลังกอดอกเอนตัวผิงขอบประตูบ้านอยู่ “ไม่เจอกันนานเลยนะค่ะ”

    แววตาของเธอยังดูเศร้าเหมือเดิม ไม่ต่างจากวันที่เธอขอผมแต่งงานเลย “ไม่เจอกันนานเลย

    ยูริ” สาวผิวเข้ม นัยต์ตากลมโต ผมสีน้ำตาลเข้มตรงยาวสลวย แม้ไม่เจอกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว

    แต่เธอก็ยังดูเหมือนเดิมไม่มีผิด “จะกลับมาอยู่บ้านแล้วหรอ ไหนว่ายกให้ฉันแล้วไง” เพื่อนรัก

    ตลอดกาลของผมเดินเข้ามาหาพร้อมใช้แขนพาดไล่ผมไว้ “ฉันมาเก็บค่าเช่าบ้านต่างหาก”

    ผมยกแขนเธอออกแล้วเดินนำเข้าบ้านไป ที่นี้ยังเหมือนเดิม ผมคิดถึงมันนิดหน่อยแต่การ

    กินนอนที่บริษัทมันก็สะดวกดี ผมไม่คิดจะหาบ้านใหม่เอาไว้กกคนอื่นหรอกนะ อย่างน้อยก็ยัง

    อยากให้เกรียติอดีตภรรยาผมอยู่ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากันเลยก็ตาม

    “ฉันไม่มีเงินนะ ฉันหมดตัวไปนานแล้ว” ยูริตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใสขัดกับแวดตาหม่นหมอง

    เธอเดินตามเข้ามาแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา การที่เธอเอาเรื่องจริงมาเล่นได้แบบนี้คงเป็นเสน่ห์

    อย่างนึงของเธอ ถ้าผมไม่ได้เป็นเพื่อนเธอมาตั้งแต่เด็กผมคงตกหลุมรักเธอไปแล้ว “หึ

    ก็ทำงานให้ฉันสิ ฉันอยากให้เธอมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ฮันกยอง” ยูริอึ้งไป

    ทำตาโตเท่าไข่หาน “55555 เอาจริงหรอเนี๊ย ใครก็ดูออกว่าตานั้นอยากทำงานกับฮยอก”

    เธอรู้ทันทุกอย่าง รู้ด้วยว่าผมไม่ได้เอาฮันมาในฐานะศิลปินแต่เอาเค้ามาในฐานะศัตรูของทงเฮ

    ที่อาจทำกำไลให้ผมได้ พูดกันตามตรงตอนนี้ค่ายเรามีแค่ดงเฮเท่านั้นที่เป็นนักร้อง มันคงดี

    ไม่น้อยถ้าเราเอาฮันมาเสริมทัพได้ “ตอนนี้เราสามารถกำจัดศัตรูที่อาจคัมแบล็คเพลงชนกับ

    ทงเฮได้แล้ว 1 คน แถมยังได้คนมาสร้างรายได้ช่วงพักของทงเฮด้วย ออกจะดีนี้” ผมบอกยูริ

    พลางเอาไวท์ที่เธอกำลังจะดื่มมาเป็นของตัวเอง “ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ตามใจเค้าหน่อยหละ”

    ยูริยิ้มเหมือนรู้ทันก่อนเดินไปหยิบแก้วไวท์มาอีกใบ แต่ไม่ทันที่ผมจะคิดคำตอบออกเธอก็ตอบ

    แทนผมอย่างรู้ทัน “หลงฮยอกขนาดไม่ยอมให้ชายอื่นเข้าใกล้เลยหรอ” เธอจิบไวท์ด้วยรอยยิ้ม

    ที่ล้อเลียนผมอย่างเห็นได้ชัด ผมพ่นหัวเราะออกมาเพราะอดขำตัวเองไม่ได้ ทำไมผมถึงเลือก

    ฮยอกมากกว่าความก้าวหน้าของว่าที่ศิลปินในสังกัด “นายนี้ทั้งดิ้อทั้งโลภไม่เปลี่ยนเลยนะ”

    ยูริยิ้ม ดูเธอจะเริ่มเมาแล้วหละ “ฉันโชคดีจริงๆที่ไม่รักคนแบบนาย โชคดีจริงๆ 55555

     





     

     


     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    [[มาแก้คำผิด+จุดที่เรียงประโยคงงๆ =w=]] 

     

    ฟิคเรื่องที่แล้วแค่13ตอนจบ แต่รู้สึกว่ามันสั้นจังแหะ T^T

    เรื่องนี้และเรื่องอื่นๆก็เลยคิดว่าน่าจะ20ตอนUp แต่ก็ได้แค่คิดนั้นแหละ 55555




    อัฟรูปเล่นนนนนน














    ย้ำว่า อัฟรูปเล่นจริงๆ รูปเล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องเลยยยยยย 55555





    แล้วอยากรู้กันไหมว่าตอนนี้พี่ชายของหนูด๊องทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไร?

    เดี๋ยวอีกไม่กี่ตอนได้รู้กันจ้าาา



    เดี๋ยวตอนต่อไปเป็นสารบัญเสริมนะ

    จะมีทั้งแขกรับเชิญและความคืบหน้าของเนื้อเรื่องตอนต่อๆไป ^^

     



    แปลนบ้านที่ใช้ในเรื่องนะ


    ในรูปคือบ้านฮยอกกับด๊อง บ้านหลังของเรื่องนี้เอง









    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×