คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่5 ไม่ชาชิน. . แม้เจ็บจนชินชา. . _
ขอให้แน่ใจว่าอ่านตอนที่แล้วมาจบแล้วจริงๆ ก่อนอ่านตอนต่อไป
เพราะไรเตอร์ชอบตอนนี้มาก~ ขอบคุณครับ^^
. . . .
. . .
ตอบคห.38 [แอบสปอยด์] ที่ลงครั้งที่แล้วยังแค่ครึ่งตอนเอง
ถ้าคิมฮีของผมไม่มีLove Storyเลย จะให้เป็นตัวละครหลักทำไมหละครับ
. .
.
<< I’m Kyu Hyun >>
ผมเฝ้าบอกกับตัวเองเสมอว่า. . ‘เมื่อไรที่คิบอมกลับมา ผมจะเป็นคนเดินจากไป’
ผมคงทนไม่ได้ที่จะทำให้พี่ทงเฮเจ็บ ผมใช่มือลูบแผลบนหน้าตัวเอง พลางคิดถึงสิ่งที่ต้องเจอ
เมื่อพี่ลีทึกรู้เรื่องนี้เข้า มันไม่คุ้มเลยกับการถูกพี่ลีทึกด่าจนหูชาเพราะกรีดหน้าตัวเอง
โดยที่มันไม่สามารถทำให้เข้าใจความเจ็บปวดของผู้เป็นที่รักได้ ไหนๆก็ต้องโดนด่าอยู่แล้ว
ผมน่าจะทำอะไรที่มากกว่านี้ มากพอที่จะทำให้ผมเข้าใจความเจ็บปวดของพี่ทงเฮได้
ซึ่งนั้นคงมีเพียง การ‘เลิกยุ้งเกี่ยวกับเค้า’เท่านั้น และผมทำไม่ได้. . ผมเจ็บแปลบที่หัวใจ
เมื่อเห็นพี่ทงเฮเดินลงมาพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ผมลุกจากโซฟาตั้งใจจะเดินเข้าไป
ประครองมานั่ง แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่สั่นเครือจากคนที่รัก
“หยุดอยู่นั้นหละ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน” . . ผมสังเกตเห็นโทรศัพท์ในมือเค้า นั้นมันคงเป็น
อย่างที่ผมคิดจริงๆ เมื่อครู่. . ตอนที่ผมเข้าไปในห้องของพี่ทงเฮกับพี่ลีทึก พี่เค้าคงจะคุย
กับคิบอมอยู่ แล้วตอนนี้คิบอมก็คงจะยังอยู่ในสาย “คยู. . ขอโทษนะ
ขอโทษที่ฉันทำเหมือนรักนาย ขอโทษที่ทำให้นายเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก” น้ำตาของเค้าเอ่อล้น
อีกครั้งแม้เค้าจะพึ่งเช็ดมันไปก็ตาม “ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ต้องขอโทษผมหรอก”
ผมก้าวเข้าไปหาเค้าช้าๆ “หึ.แต่นี้. . จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว. . ที่นายต้องเจ็บ” พี่ทงเฮพูด
พร้อมๆกับเดินถอยหลังห่างออกไป “นาย. . ลืมเรื่องของเราซะเถอะ” พี่ทงเฮหยุดเดิน
เค้ามองหน้าผม พยามเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อกลั้นน้ำตา “พี่. .” ผมเม้มปากเน้น
อยากดึงเค้าเข้ามากอดแทบใจจะขาด อยากปลอบโยนเค้าอย่างที่เคยทำ. . แต่ก็กลัวว่า
เค้าจะสะบัดตัวหนีไป “ฉันอยากให้เรา. . เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม” แม้ผมจะเตรียมใจไว้แล้ว
แต่ก็ยังไม่พร้อมกับคำว่า‘ลา’ . . “เหมือนเดิม? . . พี่ต้องการแบบนั้นจริงหรอ?” ผมถามออกไป
ตอกย้ำความเจ็บให้ตัวเอง “ . . . ” ไม่มีคำตอบจากพี่ทงเฮ มันทำให้ผมอดคิดเข้าข้างตัวเอง
ไม่ได้ว่า. . ใจจริงแล้ว ‘พี่ทงเฮไม่อยากเลิกกับผม’ . . “ถ้างั้น. . ให้ผมรักพี่เหมือนเดิมได้ไหม?”
ผมถามพร้อมยื่นปากกากับกระดาษที่มีข้อความว่า ‘พี่เขียนมาเถอะ ผมรู้ว่าคิบอมฟังอยู่’
พี่ทงเฮวางโทรศัพท์ลงบนโซฟาเบาๆ “ทำแบบนั้น มันยิ่งทำให้ทุกคนเจ็บเปล่าๆ”
เค้าตอบพร้อมยื่นกระดาษคืนให้ผมแล้วหยิบโทรศัพท์คืน ขณะที่ผมกำลังอ่านขอความนั้น
ริมฝีปากนุ่มละมุนประกบลงที่ปากผม ไออุ่นแผ่ซานอยู่ข้างใน แผ่นกระดาษหลุดออกจากมือ
เพียงไม่ถึงนาที. . เค้าผลักออกจากตัวผมแล้ววิ่งขึ้นห้องไป เหลือไว้เพียงผมกับข้อความสั้นๆ
ในกระดาษ ข้อความที่เขียนว่า. . “ลาก่อน”
<< I’m Hee Chul >>
ผมเดินไปเดินมาในบ้านอย่างไร้จุดหมาย ไม่บ่อยนักที่ผมจะก้าวเดินออกจากห้อง
ของตัวเองหากไม่ใช้เวลาทำงาน แต่ผมต้องไปซื้อของให้ฮีบอมกิน ผมจึงเดินไปทั่วๆบ้าน
เพื่อหาคนออกไปเป็นเพื่อน แต่ตอนนี้ผมกำลังนอนแผ่อยู่บนเตียงของซองมิน “ซองมินอ๊า~
ทำไมนายดูมีความสุขกว่าฉันอีกหละเนี๊ยะ~?!” ผมพูดกับรูปของซองมินที่วางอยู่หัวเตียง
“เฮอ~” ผมถอนหายใจกับตัวเองแล้วเหลือบไปเห็นสมุดสีชมพูเล่มเล็กๆ 2 เล่มซ้อนกันอยู่
ข้างรูปนั้น “อะไรหละเนี๊ย~?” ผมหยิบมันขึ้นมาดูเพราะความอยากรู้อยากเห็น
“ ‘สัญญารัก 13 ข้อ เยมิน’ กับ ‘ผ่านไปในแต่ละวันของซองมิน’หรอ?” ผมพลิกอ่านทีละเล่ม
เริ่มจาก. . ไอ้สัญญา 13 ข้ออะไรนั้นก่อนละกัน “ข้อแรก. . ‘ตามใจ’ จากพี่เยซอง. .
ข้อสอง. . ‘ดูแล . . เอาใจใส่’ จากเรียวอุค - -” ผมอ่านไปเรื่อยๆ. . อ๊า~ นี้ของผมนี้
“ข้อเจ็ด ‘ให้เวลาส่วนตัว’ จากพี่ฮีชอล[- -” พี่ฮีชอลอา~ ถ้าพี่เยซองใช่ข้อนี้อ้างเวลาเบื่อผม
ผมก็แย่สิT๐T] . . ” - - เอ~? ผมตอบแบบนั้นหรอ?~ ผมก็จำไม่ได้แล้วหละ “หึ.”
ผมยิ้มกับตัวเองแล้วอ่านต่อ “ข้อสิบสาม ‘รัก!!~’ ผมเอง - -” ผมอึ้งในคำตอบ
“แค่รักหนะหรอ? . . นายคิดอะไรของนาย!” ผมหัวเสียอย่างไม่มีเหตุผล
“ทำไมพักนี้เจ้ากระต่ายดูมีความสุขซะจริง” ผมบ่นกับตัวเอง ปาหนังสือลงบนเตียง
“แต่ก็ดี. . ฉันชอบน้องชายช่างจ้อมากกว่าน้องชายเจ้าน้ำตาหละนะ” ผมมองตามหนังสือ
ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง “หึ.” แล้วผมก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงหน้าซองมินตอนที่วิ่งไปหา
คนนู้นทีคนนี้ที เพื่อให้ช่วยคิดสัญญานั้น ว่าแล้วก็หยิบขึ้นมาอ่านอีกสักรอบ
- - . . '*Sorry Sorry Sorry Sorry เน กา เน กา เน กา - -*' ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ
‘พี่ครับ ผม. . ควรจะให้โอกาสทงเฮอีกไหม?’ ปลายสายเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“คิบอมหรอ? เกิดอะไรขึ้นกับพวกนายหรือไง?” ผมถามน้องชายอย่างเป็นห่วง
หลังจากนั้นเค้าก็เล่าทุกอย่างให้ผมฟัง “อืม~ แล้วนายจะทำยังไงต่อหละ?” ผมเริ่มลุกขึ้น
จากเตียง แล้วเดินวนรอบบ้านอีกครั้ง ‘ยังไม่รู้เลยครับ ผมถึงโทรไปปรึกษาพี่ไง’ คิบอม
ตอบกลับมา ‘ถ้าเป็นพี่จะทำยังไงครับ’ เค้าถามอย่างเชื่อใจผม ผมรู้ดี. . ไม่ว่าผมจะบอก
ให้เค้าเลือกทางไหน. . เค้าก็คงทำเพราะเชื่อใจในสิ่งที่ผมคิดและบอกเค้าออกไป
“แล้วนายคิดยังไงหละ? นายยังรับได้ไหม? แล้วนายจะยังรักเค้าเหมือนเดิมหรือเปล่า?”
ผมพูดออกไปเพื่อเตือนสติให้เค้าถามใจตัวเองอีกที “ - - - ” เงียบกันทั้งคู่ ผมรอคำตอบ
อยู่อึดใจหนึ่งแล้วพูดต่อ “นายเจ็บไหม?” - - ผมได้ยินเสียงบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบาย
ออกมาได้ แต่ผมคิดว่า. . คงเป็นเสียงกลั้นน้ำตาของคิบอม ก่อนจะให้คำตอบตัวเองและผมได้
‘ครับพี่ ผมเจ็บมากเลย. . การหักหลังคือสิ่งที่ผมเกลียดและกลัวที่สุด ผมจึงไว้ใจและเชื่อใจ
ทงเฮมาตลอด’ น้องชายที่รักของผมพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นครือ ‘แต่เค้ากลับทำแบบนั้น. .
ผม. . ผมไม่รู้จะทำยังไงดี’ เสียงเศร้าๆของคิบอมทำเอาผมพูดอะไรต่อแทบไม่ออก
ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับวงของเรานะ ทั้งที่ปกติก็มีความสุขกันดี “ฉันเข้าใจ. .
ว่านายรักทงเฮมาก แล้วก็ไว้ใจเค้ามากด้วย” ผมพูดกับน้องชาย พลางคิดว่าถ้าพวกเค้า
ได้คุยกันตรงๆก็คงดี “แล้วฉันก็รู้นะ ว่าทงเฮเค้าก็รักนายมาก. . ถ้านายยังรักเค้าอยู่
นายก็ควรจะดูแลเค้านะ อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก” . . อีกครั้ง . . ผมได้ยินเสียงกลั้นน้ำตา
จากคนที่มักถูกเรียกว่าเจ้าชายน้ำแข็ง “พี่คงพูดได้แค่นี้ . . เอาหละ! นายบอกว่า 2คนนั้นอยู่ที่นี้
ใช่ไหม? งั้นฉันขอไปหาคยูก่อนนะ บาย~” - - ‘อ๊ะ! เดี๊ยวพี่- -’ คิบอมห้าม แต่ไม่ทันแล้ว
ผมกดวางไปแล้ว ผมเดินลงไปข้างล่างแต่ไม่เจอคยู ผมจึงนั่งลงบนโซฟา ~รอ~
เผื่อใครสักคนจะลงมา. . อาจเป็นคยูหรือทงเฮ เอ~ หรืออาจมีใครอีก . . ‘*ปัง!*’
เสียงของประตูที่กระแทกกับกำแพงทำเอาผมสะดุ้ง ใครบางคนกำลังจะวิ่งขึ้นไปชั้นบน
“เดี๊ยวก่อน!” ผมวิ่งไปขว้าวแขนเค้าเอาไว้ ใบหน้าที่หันกลับมาคือน้องชายที่แสนร่าเริงของผม
แต่ตอนนี้. . มีเพียงน้ำตานองเต็มหน้าอยู่แทนที่รอยยิ้มสดใส “ซองมิน! นายเป็นอะไรหนะ?”
ผมอุทานอย่างตกใจ เจ้าน้องบ้านั้นกัดฟันแน่นก่อนตอบว่า. . “พี่ครับ. . ผมจะเลิกกับพี่เยซอง”
คำพูดที่พูดออกมาทั้งน้ำตานั้นทำให้ผมช็อคไปช่วงขณะ “หนะ. . นายว่าไงนะ?!” ผมพูด
ติดๆขัดๆ ยังควบคุมตัวเองได้ไม่ดีเท่าไร “ผมจะเลิกกับเค้า ~ฮือ~ ผมจะไม่ทนอีกแล้ว”
น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายของชายตรงหน้าผม ทำเอาสิ่งที่เรียกว่าหัวใจของผมแทบสลาย
อีกครั้ง การที่คนที่เรารักไปรักใครมันเจ็บมากนะ แต่เมื่อเห็นเค้าเจ็บ. . เราก็กลับเจ็บยิ่งกว่า. .
โดยปกตินิสัยของผม ทุกคนคงคิดว่า ‘ผมคงมีความสุข ถ้าคนที่รักเลิกกับแฟน’
แต่นั้นไม่ใช่เลย. . ผมเจ็บ! เจ็บมากที่เห็นน้ำตาของซองมิน ระหว่างกำลังฟังเรื่องที่ซองมิน
ต้องเจอในวันนี้ หัวใจของผมมันกรีดร้อง มันทำให้ผมกลับไปนึกถึงความเจ็บในครั้งที่ซองมิน
บอกรักเยซองอีกครั้ง . . ในวันนั้นซองมินเข้ามาปรึกษาผมด้วยความไว้ใจ - - “พี่ครับ
พี่ว่าจะมีอะไรทำให้พี่เยซองเลิกชอบเรียวอุคได้บ้างไหม?” เค้าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่มีทางหรอก~” ผมพูดจากใจจริงพลางโบกมือแสดงท่าทางถึงความเป็นไปไม่ได้
“ ‘ไม่’เลยงั้นหรอ?” ซองมินถามย้ำอีกครั้งพลางทำหน้าเศร้าๆ ผมลูบหัวน้องชายเบาๆ
แล้วพูดต่อ “ทำไมนายถามแบบนี้หละ? ขนาดรู้ทั้งรู้ว่าเรียวอุคชอบทงเฮเค้ายังไม่มีท่าที
จะเลิกชอบเรียวอุคเลย. . หรือว่า. .- -” ผมกลืนคำพูดนั้นลงคอ เพราะความคิดที่ผลุดขึ้นมา
เมื่อกี้นี้มันร้ายแรงเกินกว่าที่ผมจะพูดออกมาได้ “แล้ว. . ถ้าผมบอกว่าชอบเค้าหละ
พี่เยซองจะเลิกรักเรียวอุคได้หรือเปล่า?” ซองมินหลบตาผม ก้มหน้าที่แดงกล้ำด้วยคำพูด
ของตัวเอง “ไม่ได้หรอก!” ผมตะโกนลั่นจนคนรอบข้างหันมามองเป็นตาเดียว แล้วพูดต่อ
ด้วยเสียงที่เบาลง “ถ้าฉันบอกว่าชอบนาย นายจะคบกับฉันแทนเยซองได้ไหมหละ?”
ผมรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ “. . ผม . .” ซองมินอ้ำอึ้ง มองซ้ายทีขวาทีเพราะทำตัวไม่ถูก
“แต่พี่ไม่ได้ชอบผมนี่” ซองมินตอบไม่ตรงคำถามแล้วเดินจากไป เวลาผ่านไป. .
ฮันเกิงที่พึ่งจัดอาหารเสร็จมาเรียกทุกคนไปกินข้าว ผมเลือกนั่งตรงข้ามซองมินที่มีอาการ
แปลกๆตลอดมื้ออาหาร เค้ารีบกินและจัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็วจนกินเสร็จเป็นคนแรก
ขณะที่ทุกคนยังนั่งกินไปเล่นไปกันอย่างสนุกสนานที่โต๊ะกินข้าว ซองมินที่เก็บจานข้าว
ของตัวเองเสร็จแล้วกลับมานั่งที่ที่นั่ง “พี่ฮีชอลไม่ค่อยกินเลยนะครับ” ชินดงที่นั่งอยู่ข้างๆผม
พูดขึ้นทำท่าทางเป็นห่วง “ฉันกินไม่ค่อยลงหนะ” ผมพูดด้วยความสัจจริง ตายังคงมองดู
ซองมินที่เอาแต่บ่นพรึมพรำฟังไม่รู้เรื่อง “งั้น. .” ชินดงมองที่จานข้าวผมอย่างไม่วางตา
“ถ้านายจะกินก็เอาไปเถอะ” ผมตอบกลับท่าทางที่ชินดงแสดงออก เค้ายิ้มร่าแล้วยกจานข้าว
ไปวางหน้าตัวเอง อาการกระวนกระวาย หน้าแดงเป็นพักๆของซองมิน มันทำให้ผมกินอะไร
ไม่ค่อยจะลง รู้สึกปั่นป่วนในช่องท้อง หัวใจเต้นแรง “นายคงไม่ทำอย่างนั้นใช่ไหมซองมิน?~”
ผมพูดกับตัวเองเบาๆ มือกุมที่ท้องอย่างกังวน “พี่เยซองครับ!~” ซองมินตะโกนขึ้นพร้อมกับ
ดันตัวเองให้ลุกจากโต๊ะ “มีอะไรหรอ?” เยซองแข็งค้างอยู่ในท่าที่คงบาดใจซองมินไม่น้อย
มือหนึ่งโอบหลังเรียวอุคพลางทำท่าจะป้อน แต่ซองมินกลับเดินตรงไปหาเยซองอย่างไม่รีรอ
ท่ามกลางเสียงฮือฮาของสมาชิกครบวง เยซองคลายตัวออกจากท่านั้นแล้วลุกขึ้นเผชิญหน้า
กับซองมิน “พี่เยซองครับ” ซองมินพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง “ครับ!” เยซอง
ตอบกลับไปเหมือนทหารรับคำสั่งทำหน้าจริงจังตามซองมิน ทำเอาคนอื่นๆหัวเราะกันท้องแข็ง
“ผม. . ชอบพี่ครับ” ซองมินพูดต่อด้วยท่าทางเขินอาย ทำให้ใบหน้าของแต่ละคนที่ฟังอยู่
แสดงความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเยซองและเรียวอุค “ผะ. . พะ. .พี่หรอ?”
เยซองพูดติดๆขัดๆพลางชี้นิ้วไปที่ตัวเอง ซองมินพยักหน้ารับช้าๆหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม
“แล้วคยูหละ?” เยซองมองผู้ที่ตนเอ่ยชื่อ “เราเป็นพี่น้องกันครับ!!!~” ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน
โดยอัตโนมัติ คอของผมแห้งผ่า หัวใจเต้นแรงเหมือนจะกระโดดออกมา “งั้น. .
นายจะคบกับพี่ไหม?” ตอนนี้ซาลาเปา 2 ลูกบนหน้าเยซองแดงกล้ำไม่ต่างจากซองมิน
“อย่านะซองมิน อย่าตอบนะ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ “คะ. . ครับ” ~สิ้นเสียงนั้น ผมเดินออก
จากห้องครัว แล้วขึ้นไปร้องไห้กับฮีบอม ความรู้สึกนี้ของผม. . คงมีแค่ฮีบอมเท่านั้นที่รับฟัง. .
“- - พี่ - -” และตอนนี้. . ความเจ็บเหมือนถูกมีดกรีดที่หัวใจกำลังมากลับมาอีกแล้ว
น้ำตาของชายตรงหน้าผม. . ทำให้ส่วนลึกของใจคนที่ถูกมองว่าร่าเริงกรีดร้องได้อีกครั้งแล้ว
“พี่ฮีชอล!~” เจ้าคนที่ว่าตะหวาดใส่ “ห๊ะ!” ผมสะดุ้ง ดึงตัวเองกลับมาในเวลาของปัจจุบัน
“ตกลงพี่ได้ฟังผมไหมเนี๊ย?~” ซองมินเคืองผมอย่างเห็นได้ชัด “ฟังสิ แล้วนายกลับมาที่นี้
ได้ไงหละ?” ผมถามเจ้ากระต่ายอย่างข้องใจ “ก็เดินมาเรื่อยๆ แล้วก็มาโผล่แถวนี้แหละ”
เค้าตอบ ทำหน้าหงุดหงิดทั้งที่ยังมีน้าตาคลออยู่เลย ‘ตกลงมันเดินมั่วใช่ไหม?’
ผมถามกับตัวเองในใจ “งั้นก็แปลว่าเยซองตั้งใจพานายกลับมาหนะสิ แล้วเค้าไปอยู่ไหนหละ?
ฉันยังไม่เจอเค้าเลย” ผมพูดพลางมองหาเจ้าตัวต้นเหตุ เจ้าคนที่ทำให้ซองมินร้องไห้
“ผมจะไปรู้หรอ ไม่ใช่เรื่องของผมซะหน่อย!” ซองมินตะหวาดใส่ผมอีกครั้ง พร้อมปาดน้ำตา
ให้หายไปจากใบหน้า “ทำไมนายถึงชอบโวยวายจังเลยห๊ะ?!” ผมบ่นอย่างระอาแล้วดึงซองมิน
เข้ามากอดด้วยความเจ็บปวด “นายอย่าร้องไห้อีกเลยนะ” ผมพูดต่อพลางกลั้นน้ำตาเอาไว้
“ฉันอยากให้นายกลับมาเป็นน้องชายที่ร่าเริงของฉันเหมือนเดิมได้ไหม? ลืมเยซองซะเถอะนะ”
ผมลูบหัวน้องชายที่อยู่ในอ้อมกอด อยากพูดออกไปว่า ‘รัก’. . แต่ก็ต้องเก็บมันเอาไว้
เพราะผมไม่อาจฉวยโอกาสในเวลาที่ซองมินอ่อนแอขโมยหัวใจของเค้าไป
ไม่อยากให้ซองมินทำแบบเดียวกับที่ทงเฮทำกับคยู เพราะมันจะทำให้ทุกคนเจ็บปวด
ทั้งเยซอง. . ซองมิน. . และผมเอง
<< I’m Kyu Hyun >>
เมื่อไม่นานนักก่อนหน้านี้ ผมวิ่งตามพี่ทงเฮมาที่ห้องแล้วชะลอความเร็วลงก่อนจะถึง
หน้าห้องนั้น มือเรียวๆกำลังจะเคาะลงที่บานประตู แต่ก็ต้องชะงักลง เมื่อหูเจ้ากรรมดันไปได้ยิน
เสียงร้องไห้ฟูมฟายชองพี่ทงเฮเข้า มันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก และไม่ว่าเพราะอะไร. .
ผมนั่งหลังพิงกำแพงอยู่หน้าห้องนี้มาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว ‘*ปัง*’ เสียงประตูที่กระแทก
เปิดออกมาอย่างรีบร้อน พี่ทงเฮชำเลืองมองผมนิดนึ่งแล้ววิ่งออกไปเหมือนกับมองไม่เห็น
“พี่คงไม่เคยรักผมเลยสินะ? ผมเป็นได้แค่คนแก้เหงาของพี่ใช่ไหม?” ผมพูดกับตัวเอง
ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าความรักที่พี่ทงเฮมีให้ผม มันเทียบไม่ได้เลยกับความรักที่เค้า 2 คนมีให้กัน
ผมเดินลงบันไดไปช้าๆ เห็นเพียงพี่ฮีชอลกำลังลูบหัวซองมินที่นอนอยู่บนโซฟา
“เกิดอะไรขึ้นครับ?!” ผมถามเมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่าง “ไม่มีอะไรหรอก นายออกไปซื้อของ
เป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” ว่าแล้วพี่ฮีชอลก็ผลักตัวออกจากซองมินแล้วเดินนำผมออกไป
“เอ้า! ฮีชอล คยู” พี่ลีทึกที่เดินสวนมาทักทายเมื่อเห็นเรา “นี่กำลังจะไปไหนกันหนะ?”
เค้าถามต่อ พี่ฮีชอลชี้นิ้วนับอย่างรวดเร็วแล้วตอบกลับไป “พวกนาย 7 คนไปไหนกันมาห๊ะ!
คิดจะไปเที่ยวกันโดยไม่บอกฉันหรอ!! รู้ไหมว่าฉันไม่มีเพื่อนไปซื้ออาหารให้ฮีบอมเนี๊ย!~”
เสียงที่กราดเกี้ยวของพี่ฮีชอลทำให้ทุกคนหลุดขำอย่างไม่ตั้งใจ “เห็นทำหน้าเครียด
นึกว่ามีเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องอาหารของฮีบอมนี่เอง” พี่ลีทึกตบไหล่พี่ฮีชอลเบาๆ
แล้วทุกคนก็เดินหัวเราะเข้าบ้านไป “นี่พวกนาย! มันไม่ตลกซะหน่อย” พี่ฮีชอลตะโกนไล่หลัง
พร้อมรอยยิ้ม “หึๆ พี่พูดจริงหรอเนียะ?!” ผมหยุดหัวเราะก่อนจะเดินต่อ . . ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ
ระหว่างทางพี่ฮีชอลเล่าเรื่องพี่เยซองกับพี่ซองมินให้ผมฟัง ผมจึงเล่าเรื่องผมกับพี่ทงเฮ
ให้เค้าฟังด้วย “อ๋อ!~ คิบอมก็เล่าให้ฉันฟังเหมือนกัน” นั้นเป็นคำพูดสุดท้ายที่เราคุยกัน
ก่อนจะเข้าบ้านแล้วแยกย้ายกันไปนอน พี่ลีทึก. . ลีดเดอร์ของวงเรา เป็นคนเดียวที่ยังอยู่
ที่โซฟา นั่งรอให้ทุกคนกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย “นายไม่ต้องรอทงเฮนะ
วันนี้เค้าจะอยู่กับคิบอม” พี่ฮีชอลพูดขณะที่เดินสวนกับพี่ลีทึก แม้ว่าเค้าจะพยามพูดเบาๆ
แต่ผมกลับได้ยินคำพูดเหล่านั้นอย่างชัดเจน ผม. . ต้องปล่อยพี่ทงเฮไปซะที ต้องยอมรับ
คำว่า ‘ลาก่อน’ ซักที. .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Kyu Hyun say: มันเจ็บมากจริงๆที่ต้องปล่อยพี่ไป จูบนั้นหมายถึงอะไร?!
พี่ครับ. . บอกลาผมแบบนี้มันทำร้ายผมชัดๆ
ถ้างั้น. . ขอให้นี้เป็นการเจ็บครั้งสุดท้ายนะครับ
ผมจะยอมรับมันให้ได้ เพื่อความสุขของพี่
Hee Chul say: เพราะอะไรกัน. . ทั้งที่คิดอยู่ตลอดเวลาว่าไม่อยากปวดหัวกับความรักของใคร
แต่ฉันกลับต้องมาปวดใจเรื่องความรักของนายกับคนอื่น
ทำไม. . ทำไมไม่เป็นฉัน? ถ้าวันนั้นนายเลือกฉัน
ฉันคงไม่ทำให้นายเจ็บ แบบที่เค้าทำในวันนี้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เม้นแล้วเม้นซ้ำก็ได้นะ
ขอบคุณครับ
ลงรูป!!~ ตอนนี้ชอลมิน[ซินมิน]โผล่มา
แต่ยืนยันครับ ว่านี้เป็นฟิคเยมิน55+
พึ่งนึกได้ ว่าไม่เคยลงคยูมินเลย ลงคืนให้55+
คยูมิน
ซินมิน [ชอลมิน]
อันนี้ไม่เกี่ยว แต่อยากลง
เยมิน!!!~
FARRY' 25
ความคิดเห็น