ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My [Boy] Friend You're My Only Girl

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่3 ค่าย? _

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 57


    << I'm   Han Gang>>

          ที่นี้คือโรงแรมอันดับ 1 ใจกลางกรุงโซล ห้องสีขาวตกแต่งด้วยริบบินสีทองและปูพรม

    สีแดงทำให้ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าค่ายที่ผมสังกัดอยู่มันไร้วิสัยทัศน์ขนาดไหน ไมค์นับสิบจ่อ

    รอมาทางโต๊ะตรงกลางเวที “ฮัน ฮึก ฮึก ฮันคิดอีกทีเถอะนะ ฮึก” ผู้จัดการสาวสวยใสไร้สมอง

    เกาะแขนผมแน่นจนเสื้อสูทผมยับ ทำให้ไอ้สูทไร้รสนิยมที่ผมถูกบังคับให้ใส่ดูแย่ลงกว่าเดิม

    ผมดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมอย่างเหนียวแน่นของเธอพร้อมบอกลาอย่างสุภาพ

    “วันนี้ผมหลุดพ้นจากคุณแล้วครับ ผู้จัดการจอง”  พูดจบผมก็เก้าออกจากม่านสีทองแล้วตรงไป

    ยังโต๊ะกลางเวทีนั้น แต่ยังไม่ทันเดินถึงก็มีเสียงนักข่าวจากด้านล่างดังขึ้นมาก่อน “คุณฮันคะ

    คุณจะหมดสัญญาวันนี้แล้วใช่ไหมคะ”  เสียงนักข่าวคนนึงแว่วเข้ามาในหูผม ผมจัดเจงนั่งลง

    ให้พร้อมก่อนจะตอบ “ถูกต้องแล้วครับ” ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้มอย่างอัตโนมัติ ผมมองหาคน

    คนนึง และในที่สุดก็พบเค้านั่งอยู่แถวหลังสุด เค้าดูโดดเด่น มีออร์ร่าจึงหาไม่ยากนัก

     “แล้วข่าวลือที่บอกว่าคุณไม่ต่อสัญญากับค่ายวีนัทแล้วจริงเท็จยังไงคะ” เสียงนักข่าวคนเดิม?

    หรือคนใหม่? ยังไงก็ช่างเถอะ เสียงนักข่าวยังถามผมต่อ ตอนนี้สมาธิผมไม่ได้อยู่กับการให้

    สัมภาษณ์สักเท่าไร “จริงครับ” ผมตอบอย่างไม่แยแสผู้จัดการสาวของผมที่ร้องไห้อ้วนวอน

    ให้ผมต่อสัญญามาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ผมเบื่อคุณผู้จัดการคนสวยที่ได้แต่อ่อยผมไปวันๆ

    รับงานมาให้ผม แบบไม่มีการคัดเลือกใดๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถของผมแล้ว ผู้หญิง

    คนนั้นไม่มีทางทำให้ผมดังได้แน่นอน “แล้วเหตุผลละคะ” นักข่าวยังอยากรู้ไม่หยุดผมจึงต้อง

    ตอบออกไปด้วยรอยยิ้มแบบนักแสดง “ผมคิดว่าศักยภาพของผมกับสิ่งค่ายต้องการไม่ตรงกัน

    ครับ ผมต้องการที่ที่ผมจะแสดงสิ่งที่มีได้เต็มที่กว่านี้” ผมมองเจ้าของคำพูดนั้น พลางนึกย้อน

    กลับไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเริ่มสัมภาษณ์

          “สวัสดีครับคุณฮันกยอง” เสียงหวานดังมาจากด้านหลังของผมให้ขณะที่ผมพยาม

    กล่อมให้ผู้จัดการส่วนตัวของผมที่กำลังจะกลายเป็นอดีตผู้จัดการส่วนตัวผมหยุดร้องไห้

    เมื่อหันกลับก็เจอชายที่ผมได้ยินชื่อเสียงมาเนินนาน “ยินดีที่ได้พบครับคุณฮยอกแจ” ผม

    ยื้นมือให้เค้าจับเป็นการทักทายแต่เค้าไม่มองมันสักนิด “คุณคงทราบว่าผมมาทำอะไร”

    เค้ายิ้มอย่างมีความหมายให้ผม ใช่ ผมรู้ “ผมรอคุณอยู่ ผมเฝ้ามองคุณปั้นให้นักแสดงกิ๊กก๊อง

    อย่างทงเฮขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการ และยังปั้นให้เค้ากลายเป็นนักร้องดาวรุ่งในช่วงข้ามคืน”

    นี้แหละสิ่งที่ผมต้องการ ผมต้องการใครสักคนที่มองออกว่าผมมีความสามารถอะไรและทำให้

    ก้อนอิฐเล็กๆในร่างกายผมส่องประกายเหมือนเพรชที่ได้รับการเจียระไน “หึ งั้นคุณก็ตกลงที่

    จะย้ายมาอยู่กับค่ายเรา ผมจะจัดการหาผู้จัดการที่จะดูแลคุณให้ทันทีที่คุณเซ็นสัญญากับเรา”

    คำพูดนั้นทำเอาหัวใจที่พ่องโตของผมระเบิดแตกออก “หมายความว่าไง คุณไม่ได้จะเป็น

    ผู้จัดการให้ผมหรอ” สีหน้าของผมคงร้อยร้นอย่างปิดไม่อยู่จนทำให้ฮยอกแจยิ้มออกมา

    อย่างผู้ชนะ ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเค้าถึงมาเจรจากับผมเองถ้าไม่ได้ต้องการเป็นผู้จัการ

    ส่วนตัวผม “คุณครับ คุณเซ็นสัญญากับค่าย และค่ายจะดูแลคุณ” ใบหน้ายิ้มเยาะของเค้า

    ทำผมเริ่มโกรธ ผมมองดูรอบตัว ที่นี้มันค่ายของผม อยางน้อยตอนนี้ก็ยังเป็นค่ายวีนัทที่ผม

    สังกัดอยู่ เค้ามาทำแบบนี้กับผมในที่ของผมได้ยังไง “ส่วนตัวผมเอง. .” เค้าเว้นจังหวะ

    หรอเค้าแค่จะแกล้งดูอาการของผมว่าผต้องการร่วมงานกับเค้าจริงหรือเปล่า? “ผมมีหน้าที่

    เป็นผู้จัดการส่วนตัวของทงเฮและยังเป็นรองประธานบอร์ดบริหารของเชวกรุ๊ป คุณไว้ใจ

    ผมเถอะ ผมจะหาคนที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดในการดูแลคุณให้เอง” รอยยิ้มของเค้า

    ทำให้ผมดูเป็นเด็กเล็กที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่ตราบใดที่ผมยังไม่เซ็นสัญญาก็เท่ากับว่า

    ผมยังถือไพ่เหนือกว่า “ผมจะไม่เซ็นสัญญาอะไรทั้งนั้น ถ้าผมไม่ได้คุณมาเป็นผู้จัดการ”. . .

          คำตอบในตอนนั้นของเค้ายังคงทำให้ผมอยู่ไม่สุขแม้แต่ในขณะที่ให้สัมภาษณ์อยู่

    “แล้วมีใครติดต่อเข้ามาหรือยังครับ” นักข่าวอีกคนแทรกเข้ามาในห้วงความคิดผม

    “มีครับ” ผมส่งยิ้มให้ฮยอกแจพลางคิดถึงคำพูดที่เค้าตอบกลับมา “ผมคิดว่าศักยภาพของคุณ

    มีมากว่านี้ และเราต้องการทำให้คุณสามารถแสดงสิ่งที่มีได้เต็มที่. . กว่าที่วีนัทเคยทำให้คุณ”

    “และคุณเลือกหรือยังคะ ว่าคุณจะเริ่มต้นใหม่กับค่ายไหน” เป็นคำถามที่ตรงประเด็นที่สุด

    ที่นักข่าวถามผมในวันนี้ และผมก็จะตอบอย่างตรงประเด็นเช่นกัน “ผมตัดสินใจแล้วว่า. . ”

    ผมทิ้งข่วงให้ฮยอกแจได้ยินชัดๆ เค้ายังคงนิ่งมองผมอย่างที่ทำมาตลอดตั้งแต่เริ่มการ

    ให้สัมภาษณ์ “ผมจะยังไม่ต่อสัญญากับค่ายไหนในตอนนี้ครับ”

     

     

     

     

    << I'm   Hyuk Jae >>

         

          ผมเกือบจะหัวเราะออกมาตอนที่ได้ยินคำนั้น มันเป็นไปตามที่ผมกับท่านประธานคิดทุก

    ประการ ผมรู้ว่าคนอย่างฮันกยองโหยหาความสำเร็จจะการให้ความสามารถที่แท้จริงไม่ใช่แค่

    หน้าตา และผู้จัดการส่วนตัวที่บังเอิญโชคดีได้คนมากความสามารถอย่างเค้ามาดูแลก็ดันเป็น

    แค่ผู้จัดการมือใหม่ไร้ความสามารถที่ไม่สามารถผลักดันเค้าได้ ฮันกยองมีความสามรถแต่

    ไม่เคยถูกดึงมาใช้ บทที่เค้าได้เล่นมีแต่บทธรรมดาๆที่ออกไปหล่อหน้ากล้องก็เพียงพอ

    ช่างน่าสงสารจริงๆ นั้นหละเหตุผลที่เค้าต้องการทำงานกับผมซึ่งมีดีกรีเป็นถึงผู้จัดการของทงเฮ

    หรืออันที่จริง เป็นคนที่ทำให้เด็กกำพร้าความสามารถเหมือนเป็ดอย่างทงเฮกลายเป็นซุปตาร์

    ได้อย่างรวดเร็วโดยการผลักดันความสามารถที่หลากหลายของทงเฮให้ทุกคนรับรู้ เพราะงั้น. .

    ผมจึงเลือกที่จะไม่ตอบตกลงกับฮันกยองในทันที รอดึงกระแสการย้ายค่ายของเค้าให้ท่วมท้น

    พร้อมเตรียมงานที่เหมาะกับเค้าไว้ค่อยท่า เมื่อไรที่ผมต้องการ เมื่อนั้นแหละที่ผมจะกระดิกนิ้ว

    เรียกเค้าเอง พูดถึงทงเฮแล้ว. . ผมคงต้องรีบกลับไปหานักแสดงที่บังเอิญวันนี้ว่างงานและต้อง

    อยู่กับคยูผู้ไม่น่าไว้ใจแล้วหละ เนื้องจากคนที่ฮันกยองต้องการร่วมงานด้วยมีเพียงผมคนเดียว

    อย่างที่ได้พิสูจน์ไปแล้ว ผมจึงไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ แม้นักข่าวจะถามคำถามไร้สาระอะไรอีก

    ผมก็ไม่ต้องเป็นห่วงนักเพราะฮันกยองที่ไม่ยอมต่อสัญญากับค่ายไหนและไม่ได้เซ็นสัญญากับ

    ชเวกรุ๊ปก็เหมือนนกปีกหักที่ไร้พิษสงกับทงเฮ แต่คยูที่อยู่ๆก็เข้ามาหาและบอกว่าต้องการ

    แต่งงานกับทงเฮนี้สิ! น่ากลัวกว่าเยอะเลย!

      






     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    จบตอน!  



    ตอนนี้ไม่มีเซอร์วิชเลย อย่าพึ่งทิ้งกันน้าาา >.<
    [ได้ข่าวไรเตอร์หายไปปีนึง 
    งุงงิงงุงงิง เค้าไม่ว่างอ่ะตังเองงงงง] 

    ตอนนี้ไรเตอร์กลับมาตามคำเรียกร้องแล้ว!!
    [ใครเรียกร้อง คนเรียกร้องเค้าไม่อยู่รอแกแล้วไรเตอร์!] 555555

    เอาเป็นว่าอดีตของเราลืมๆมันไป มาดูคนของอดีตในเรื่องนี้กันดีกว่าเนอะๆๆๆ




    ตัวละครใหม่ของตอนนี้!!







    อยากให้อิมเมจป๋าดูใสๆ ทำตัวเหมือนเด็กๆ คิดถึงแต่ความรู้สึกตัวเอง



    ปล. เรื่องนี้คิดมานานมาก ก่อนเกิดเรื่องป๋าไม่อยากให้เอาไปโยงกัน
    ที่แต่งต่อเพราะยังไงป๋าก็เป็น SJ สำหรับเราเลยใช้ตัวละครเดิม บทเดิม
    ขอโทษถ้ากระทบความรู้สึกเมนป๋า T^T

    ปล.ล. รู้สึกไหมว่าอยู่จีนแล้วป๋าดูแก่ๆ =3=
    นี้ไม่เกี่ยวกับอายุเลย เพราะพี่ทึกกับเจ๊ดูไม่แก่ 
    เราว่าคอสตูมจีนทำร้าย T^T ป๋าดูดำๆหมองๆแก่ๆ ย้ำว่าแก่ๆ 
    #โดนเมนป๋าตบกลิ้ง 555555

    ยังไงก็ฝากติดตามต่อด้วยน้าาา

    ปล.ล.ล. เข้ามาแก้นิดนึง กำลังแต่งตอนต่อไปอยู่ จะลงวันนี้แน่นอนงับ *^*
    [11-05-2914 2:57AM]




     

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×