ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    mindmate

    ลำดับตอนที่ #46 : I have died , everyday

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 393
      3
      5 ม.ค. 59

    43

    ผมรู้สึกวางใจว่าโชว์ของเราจะรอดก็ตอนได้ยินคอร์ดแรกจากซี

    มันต้องมีความสามารถพิเศษในการขจัดความรู้สึกแย่อะไรทั้งหมดออกไปก่อนขึ้นเวทีแน่ๆ เพราะแม้ตอนที่มันนั่งอยู่ข้างผม มันจะสั่นไปหมดขนาดไหน แต่เสียงกีตาร์ก็ทำให้ผมรู้ว่ามันเรียกสติคืนมาได้ระดับหนึ่งแล้ว

    ผมโยกหัวตามทำนองกีตาร์โปร่งของซี ก่อนที่จะถึงจังหวะที่ผมต้องออกไป

    เอาล่ะ!

    ไปสนุกกันเถอะ

    สวัสดีคร้าบบบบพร้อมไหว้แบบจริงจังหนึ่งที

    ท่ามกลางเวลาต้องอยู่คนเดียว... ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าไปลึกๆและร้องเพลงออกมาตามทำนองเพลง ความมหัศจรรย์ของการโชว์บนเวทีคือ คนข้างล่างเวทีเป็นแบตเตอรี่ของเรา คอยชาร์ตแบตให้กับเรา ยิ่งทุกคนสนุกตาม เราก็จะยิ่งสนุกไปด้วย

    หากเวลาวนย้อนคืนกลับมา นาฬิกาบนฟ้านั้นมืดดับ แทบลิบตา เธอก็หายไปที่ใด เธออยู่บนทางเท้าที่ขีดไว้ เธอจากฉันไป ร้องไปเรื่อยๆมันก็ถึงจุดที่เป็นbreakสั้นๆ

    สวัสดีแทนเอเลนด้วยนะ นึกว่าจะไม่ได้มาแล้วซะอีกเสียงกรี๊ดดังขึ้นมาหลังจากผมพูดจบ ตอนผมอยู่ม.4เราเคยมาเล่นที่นี้กันทีหนึ่งแล้วครับ ตอนนั้นคิมร้องนำ ส่วนผมเล่นกีตาร์โปร่ง ตอนนั้นก็สนุกจะแย่แล้วอ่ะ ตอนนี้ต้องดีกว่านั้นดิเนอะ

    มองเธอเดินจากฉันไป อยู่บนทางที่ขีดไว้ หากตัวฉันเดินออกไป...จับมือเธอ ถือว่าทำได้ดีแล้วแหละ สำหรับเพลงแรก

    ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาเสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง ผมถึงกับหลุดยิ้มออกมาเลย

    ขอบคุณนะครับบบ ไม่รู้จะมีใครจำได้รึเปล่า แต่พวกผมเคยมาตอนตัวแค่นี้พร้อมกับทำท่าเทียบมือบริเวณหัวไหล่ตัวเอง ตอนนี้ไม่ได้ตัวแค่นั้นแล้วนะครับก่อนที่เสียงกรี๊ดจะดังขึ้นอีกครั้ง

    วันนี้เรามีสมาชิกใหม่ที่อยากจะแนะนำให้รู้จักนะครับคราวนี้เสียงกรี๊ดดังมากจนผมชะงัก

    รู้จักเหรอ

    รู้!

    รู้จริงดิ ชื่ออะไร

    ซีรัส!!ผมหันขวับไปที่ซีทันที ซีมันก็ดูตกใจไม่ต่างจากผมซะเท่าไหร่ ก่อนที่มันจะขำออกมา

    กรี๊ดดดดด!!และนี้คือรีแอคชั่นของคนทั้งหอประชุม กลายเป็นผมเองที่ขำออกมาบ้าง

    ยังไงก็ฝากดูแลมันด้วยนะ

    ได้!!!ไม่รู้ทำไมถึงพูดไปแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันตลกอ่ะ ซียังคงยิ้มอยู่และมันก็เลื่อนมือมาเกาหัวตัวเองแก้เก้อนิดหนึ่ง เขินเลยสิมึง ผมเลิกคิดที่จะแกล้งซีเมื่อเห็นว่ายิ่งมันเขินเสียงกรี๊ดก็ยิ่งดังขึ้น

    เนื่องในวันนี้เป็นหนึ่งในวันสำคัญของแอลลี่นะ เราก็มีอีเว้นท์เล็กๆให้เล่นกันผมพึ่งรู้จากเทียนว่าวันนี้เป็นวันก่อตั้งแอลลี่เมื่อหลายปีที่แล้วด้วย

    เพลงต่อไป คือเพลงคู่กรณีของyes’sir daysนะครับ อีเว้นท์ของเราง่ายๆ คือผมจะร้องเพลงนี้โดยที่ให้โทรหาคนที่คุณแอบชอบได้ แล้วเราจะร้องเพลงนี้ให้เขาฟัง...พร้อมๆกันเสียงกรี๊ดดังขึ้นมาอีก ผมใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่ง ถึงจะแสดงท่าทีชิลขนาดไหน แต่ผมก็ห่วงเหมือนกันนะว่าจะไม่มีคนเล่นด้วย ไม่เล่นนี้แป้กเลยครับ

    ไหนใครกล้าบ้าง ส่งโทรศัพท์มาเลยครับ!เรื่องของเรื่องคือผมบังเอิญเปิดเจอวงklearเล่นอีเว้นท์นี้ครับเลยอยากทำตามบ้าง

    ไม่มีเลยเหรอออผมเดินไปทางซ้ายทีทางขวาที ได้ยินเสียงกีตาร์คลอเบาๆมาจากซี เดี๋ยวนี้มันเก่งจะแย่แล้วครับ

    ไม่เอาจริงๆเหรอก่อนที่สายตาผมจะหันไปสบกับไอ้พายที่ยืนอยู่ทางด้านขวาของเวที ผมโบกมือทักมันโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันก็ยกมือขึ้นมาโบกกลับพร้อมกับยกนิ้วโป้งส่งให้ผม ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆพาย จริงๆมันก็ไม่ได้ตัวเล็กอะไรมากหรอกครับ เตี้ยกว่าพายแค่นิดหน่อยเท่านั้นแต่เจ้าตัวดันผอมซะเหลือเกินนี้อ่ะสิ ภีมยิ้มกลับมาให้ผมเมื่อเห็นผมยิ้มให้มัน

    ให้คิดอีกที ไม่เอาเหรอผมถามซ้ำพร้อมกับจ้องหน้าพายไปด้วย พายเลิกลั่กขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องคีพลุคไว้ครับ ก่อนที่มันจะลอบส่ายหน้าใส่ผม

    ชงให้ขนาดนี้ยังป๊อดอีก

    ผมเลิกสนใจไอ้พายก่อนที่จะวิ่งไปหน้าเวทีเหมือนปกติ และก็นั้น! มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาหาผมแล้ว สุดท้ายก็ไม่แป้ก เย้!

    ชื่ออะไรครับผมรีบวิ่งเข้าไปสัมภาษณ์เขาทันที เดี๋ยวเขาเปลี่ยนใจนะครับ

    ฟางค่ะฟางตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม และสายตาผมก็ดันเลื่อนไปเห็นดาวหนึ่งดวงบนเสื้อเธอ แสดงว่าม.4สินะ

    กดโทรออกเลยๆเสียงวี้ดวิ้วดังขึ้นมานิดหน่อยเมื่อผมบอกฟางแบบนั้น ส่วนฟางนี้ หน้าแดงไปแล้วเรียบร้อย ก่อนที่เธอจะกดโทรออก และส่งโทรศัพท์มาให้ผม ผมกดเปิดลำโพงและเอาไมค์จ่อไว้อีกที รอไม่นานก็มีคนกดรับ

    สวัสดีครับ พอดีน้องฟางเขามีเรื่องอยากฝากให้เราบอกอ่ะปลายสายดูจะงงๆเพราะเขาตอบกลับมาเบาๆว่า อื้ม ก่อนที่ทำนองเพลงคู่กรณีจะดังขึ้น

    มันหวั่นไหวทุกทีกับรอยยิ้มเธอ ทำเอาเผลอทุกทีที่สบสายตา อยากทักทายอยากพูดจา แต่ไม่กล้าพอเลยสักที ลองกลับไปค้นตำรา ลองปรึกษาใครๆ เผื่อจะมีทางใดให้เธอนั้นหันมา ผมร้องเพลงไปด้วยและต้องคอยพะวงมองว่าปลายสายจะวางสายรึยัง ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กดวางสายไปครับ

    ก็ไม่รู้จริงๆว่าทุกครั้งที่สบตา เธอจะมีอาการอย่างฉันไหม ช่วยบอกทีได้ไหม อยากจะรู้ว่าในหัวใจ เธอจะคิดตรงกันหรือไม่ เพราะฉันก็ไม่แน่ใจ กับท่าทีที่เธอส่งมา ช่วยบอกทีได้ไหม บอกให้รู้ความจริงข้างใน ส่งสัญญาณว่าเธอนั้นเองก็มีใจ ให้มันชัดเจนกันไป ถ้าเธอคิดตรงกัน เธอก็ช่วยมาเคลียร์กับฉันที หลังจากจบท่อนฮุคปลายสายก็วางสายไปเลย

    วางสายไปแล้วอ่ะผมขำก่อนที่ทุกคนในหอประชุมจะแอบบ่นอุบออกมาและผมก็ส่งโทรศัพท์คืนให้น้องฟาง

    อย่าลืมไปเคลียร์กับเขานะฟางพยักหน้ารับ ทั้งๆที่หน้าแดงจนลามไปถึงหูแล้ว น่ารักดีนะครับ ผมเดินกลับมาที่จุดเดิม วางไมค์ไว้บนขาไมค์และเริ่มลีดกีตาร์ในช่วงโซโล่

    ช่วยบอกทีได้ไหม อยากจะรู้ว่าในหัวใจ เธอจะคิดตรงกันหรือไม่ เพราะฉันก็ไม่แน่ใจกับท่าทีที่เธอส่งมา ในท่อนนี้ผมเปลี่ยนให้เป็นช่วงที่ทุกคนตบมือตามจังหวะแทน ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือ มันเลยออกมาดีเกินคาดมากๆ

    ช่วยบอกทีได้ไหม บอกให้รู้ความจริงข้างใน ส่งสัญญาณว่าเธอนั้นเองก็มีใจ ให้มันชัดเจนกันไป ถ้าเธอคิดตรงกันเธอก็ช่วยมาเคลียร์กับฉันที ก่อนที่จะกลับมาเล่นดนตรีบู้มมมทีเดียวแล้วก็จบ

    ท่อนสุดท้ายของเพลงคู่กรณีที่ผมร้องเป็นจังหวะที่น้องฟางแทรกผู้คนออกจากหอประชุมไป

    คงต้องไปเคลียร์กับเขาแล้วสินะ

    เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วนะทุกคนพูดก็พูดเถอะพึ่งสองเพลงแต่ผมเหนื่อยจนเหงื่อไหลเหมือนไปตากฝนมายังไงอย่างนั้น ไหนจะเสียงที่เริ่มแหบๆนิดๆแล้วด้วย

    ไม่เอา!ผมยิ้มให้เสียงโวยวายนั้น

    เอาน่า ยังไงเราก็มาสนุกกับเพลงสุดท้ายให้เต็มที่ก็ได้เนอะถึงแม้ทุกคนจะดูไม่พอใจแต่ก็ยอมพยักหน้าและส่งเสียงกรี๊ดกลับมาอยู่ดี

    ผมเริ่มดีดนิ้วและเสียงกีตาร์จากซีก็รับจังหวะนั้นของผม

    ฉันกลัวฝนตก ฉันกลัวฟ้าร้อง ฉันกลัวรถติดเป็นเวลานาน ฉันกลัวความมืด ฉันกลัวความเหงา ฉันกลัวตื่นเช้าไม่เจอใครเลย การอยู่คนเดียวฟุ้งซ่านจะตาย จนเธอเข้ามาตอนที่ซีรู้ว่าผมต้องร้องเพลงนี้ มันขำเป็นบ้าเป็นหลังกับท่อน ฉันกลัวความมืด แถมยังบอกผมว่าไม่ต้องบิ้วเลยอ่ะดิ ผมนี้อยากจะยกกีตาร์ที่เล่นอยู่ฟาดหัวแม่งสักทีจริงๆ

    แต่ก็ไม่ได้ทำหรอกครับ สงสารกีตาร์

    เธอมาได้ทันเวลาพอดีอย่างกับรู้ใจ เธอมาได้ตรงเวลาพอดีอย่างกับนัดกันไว้ มาทันเวลาที่ฉันคิดถึงสักคนก็กลายเป็นเธอ เธอช่วยชีวิตฉันไว้พอดี มาถึงเพลงนี้ไม่ใช่ฟีลที่จะมายืนร้องหล่อๆแล้วครับเพราะผมกำลังโดดไปโดดมา เต้นยุกยิกอะไรของตัวเองไปเรื่อยตามเพลง

    มีเธอทำอะไรมันก็ดี คือเธอที่คอยปกป้องฉัน กลางคืนกลางวันก็ยิ้มได้ทั้งวัน เป็นอะไรที่เธอนะรู้ทัน เป็นอะไรที่เธอนะเข้าใจ ได้มีเธอแบบนี้ ไม่มีเรื่องไหนที่ต้องกลัว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ท่อนนี้ผมดันหันไปมองหน้าซีก่อนที่จะร้อง ทำให้ทุกคนในหอประชุมพร้อมใจกันกรี๊ดขึ้นมาอีกรอบ ผมเลยต้องทำเป็นเนียนๆมองทุกคนและหันกลับมาที่คนดูเหมือนเดิม

    เผลอไปหน่อยเดียวเองนะ

    ทุกอย่างที่ทำให้ผมสนุกสุดๆก็หนีไปพ้นคนดูที่เต้นตามไปด้วยนี้แหละ เห็นเทียนยืนเต้นกับเพื่อนอยู่ด้านหน้าเวที เต้นกันแบบไม่มีมาดอะไรทั้งนั้น

    ผิดก็อาจจะผิดนิดหนึ่ง แต่ก็คงไม่ถึงโหดร้าย ไม่ได้อันตราย ไม่ได้หัวใจวายล่ะกัน ก็เคยโดนคนทำให้เจ็บ ก็เคยโดนคนทำเจ้าชู้ ชูบีดับบีดู ชูบีดับบีดูทุกวัน ต่อด้วยเพลงคนเจ้าชู้ทันที

    ไม่ได้จะมาประชดประชันอะไร แค่เพียงอยากลองตามใจฉัน ขอลองมีใครstockในใจบ้างล่ะกัน เป็นไงเป็นกันจะลองให้ได้รู้

    เตรียมตัวรับมือให้ทัน พวกคนเจ้าชู้ ต่อไปจะ! เสียงคนดูตอบกลับมาว่า ชูบีดับบีดู มันอาจจะดูไม่มีอะไรนะ แต่ช่วยentertainคนได้เยอะเลยแหละ

    เพราะเคยโดนทำอะไรอย่างนั้น มันเลยฝั่งใจ มีใครเข้ามาจะเก็บ จะเก็บเป็นcollectionไว้ เผื่อวันใดฉันอยากจะรักจริงสักคน จะกลับไปเป็นคน ที่รักเดียวใจเดียว

    ครั้งสุดท้าย!

    เตรียมตัวรับมือให้ทันพวกคนเจ้าชู้ ต่อไปจะชูบีดับบีดูบ้างล่ะกัน เพราะเคยโดนทำอะไรแบบนั้น มันเลยฝั่งใจ มีใครเข้ามาจะเก็บ จะเก็บเป็นcollectionไว้ เผื่อวันใดฉันอยากจะรักจริงสักคน จะกลับไปเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว

    จะกลับไปเป็นคน! เสียงของคนดูยังตอบกลับมาว่า ที่รักเดียวใจเดียว

    ขอบคุณนะคร้าบ! ไว้เจอกันอีกนะพวกเรารวมตัวกัน ก่อนที่จะจับมือและโค้งคำนับเป็นครั้งสุดท้าย

     

    โครตเหนื่อย!ไอ้ยะเป็นคนแรกที่บ่นออกมา จริงๆถ้าปกติมันก็คงจะเป็นผมนั้นแหละ แต่ตอนนี้ผมกินน้ำอยู่ครับ กินเหมือนจะไม่ได้กินน้ำอีกแล้วชีวิตนี้

    เชี่ยเคียว! ไม่แบ่งกูบ้างเลยอ้าวมึงรออยู่เหรอ

    โทษๆผมหันไปบอกไอ้เฟรมแบบไม่จริงจังนัก เพราะผมก็ยังคงดื่มน้ำจนหมดขวดอยู่ดี

    ไอ้สัด... ซี! ส่งน้ำมาให้กูขวดหนึ่งเมื่อเห็นว่าผมดื่มจนหมด เฟรมเลยหันไปสั่งซีแทน ซีโยนน้ำขวดหนึ่งให้เฟรมและหันมาโยนอีกขวดให้ผม

    รู้ใจจริงๆ

    เหนื่อยแต่สนุกนะ กูเป็นคีย์บอร์ดจริงจังเลยดีป่ะวะหลังจากพวกเราทุกคนเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ รูทมันถึงได้พูดขึ้นมา

    จริงจังพ่อมึงดิ มึงเล่นผิดโน้ตด้วย กูได้ยินนะผมตอบแม่งกลับไปทันที

    โหยยยย ก็กูเจ็บมืออ่ะมันว่าก่อนที่จะทำท่าเหมือนเจ็บมือนักหนา มันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วครับผมรู้

    สำออยตลอดไอ้ยะเข้ามาสมทบด้วย

    แต่มึงเล่นดีนะซีพวกผมหันไปด่าไอ้รูทกันนิดหน่อย ก่อนที่ผมจะหันไปชมซี ซีที่ขำกับท่าทางของพวกผมก็ยิ้มร่าออกมา

    จริงดิ

    เออ เวลาแค่นี้ ทำได้ขนาดนี้ เก่งจะแย่ซียิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อผมย้ำ

    ถูก! กูตกใจมากอ่ะ ชูชกเลยจริงเฟรมหันไปยกนิ้วโป้งให้ซี

    เอาไอ้ซีมาเล่นกีตาร์จริงจังไหม แล้วไล่มือกีตาร์คนที่แล้วออกตามด้วยยะ ซึ่งไอ้มือกีตาร์คนที่แล้วก็ไม่ได้นั่งเฉยๆให้โดนถูกพาดพิงเพราะมันส่งหมัดงามๆไปต่อยแขนไอ้ยะหนึ่งที

    ไม่เกี่ยวกับกูไหมล่ะ แต่มึงเล่นดีจริงท้ายประโยครูทหันไปชมซี

    พวกผมหันมาพูดกันถึงเรื่องภาพบรรยากาศ อะไรที่เตะตาเตะใจมากที่สุดในโชว์เมื่อกี้ ระหว่างรอให้คนในหอประชุมออกไปและเราค่อยขึ้นไปเก็บของ

    ก๊อกๆๆ

    ก่อนที่พวกเราจะหันไปที่ประตูพร้อมกันด้วยความที่ผมอยู่ติดประตูที่สุดเลยต้องยอมแบกร่างไปเปิดประตูแต่โดยดี

    เคียว! เก่งจังเทียนโผเข้ากอดผมทันทีที่เปิดประตูออกไป ผมเองยังไม่ทันเห็นหน้าเธอชัดๆเลยครับ

    ขอบคุณนาาาเธอไม่ได้กอดผมนาน กอดสักพักก็ผละออกดันผมเข้าไปในห้องและจัดแจงปิดประตูเองเสร็จสรรพ

    ทุกคนก็เก่งมากเลยนะ แล้วซี! ดังใหญ่ล่ะนะแกสรรพนามที่เปลี่ยนไปเป็นตัวบอกได้อย่างดีว่าเทียนกับซีสนิทกันขนาดไหน ถ้าถามว่ามากขนาดไหนเหรอ นอกจากผม ก็มีซีนี้แหละครับที่เทียนมักจะโทรไปหา ไลน์ไปเม้าท์ หรือชวนออกไปเที่ยวด้วยกันก็ออกบ่อย แต่ด้วยความที่ถ้าไปด้วยกัน3คน มันคงจะน่าอึดอัดใจไม่น้อยสำหรับซี มันเลยจะหาเรื่องปฏิเสธทุกครั้ง

    แฟนคลับนี้ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลยอ่ะ ระวังตัวไว้นะเทียนเดินเข้าไปแซวซีนิดหน่อย ซึ่งไอ้ซีก็ขำออกมา

    ผุดเป็นเห็ดเลยเหรอ แต่ฝนยังไม่ตกเลยนะเทียนกลอกตาออกมา และไม่ใช่แค่เทียนนะ ผมเองก็กลอกตาไปด้วย

    บอกว่าถ้าไม่มั่นใจอย่าเล่นไงมุขพวกเนี่ยคราวนี้พวกเราทุกคนขำออกมาทันที ไอ้ซีเล่นมุขแป้กจริงครับ ต้องปรับปรุงแบบโครตด่วน

    ก๊อกๆๆ

    ผมขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีก ผมจึงต้องหันหลังกลับไปเปิดประตูอีกครั้ง

    ซีล่ะนั้นเป็นประโยคแรกที่เธอพูดกับผม ผมเปิดประตูให้กว้างขึ้นและถอยออกมานิดหนึ่งเพื่อให้คนในห้องเห็นว่าใครมา ก่อนที่ซีจะยอมลุกขึ้นมาหาแต่โดยดี มันพยักหน้าให้ผมกลับเข้าไปนั่งเป็นเชิงว่ามันจะคุยกับวันวานเอง

    ซีทำดีมากเลยนะ ยินดีด้วยกับการขึ้นเวทีครั้งแรกผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเทียนแต่สายตายังจับจ้องที่วานอยู่ ไม่รู้ดิ สังหรใจแปลกๆ ว่าเธอไม่ได้มาดี แม้เธอจะมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อโตก็ตาม

    ขอบคุณนะซีรับช่อดอกไม้มาจากวาน มันยิ้ม แต่มองแค่แวบเดียวก็มองออกแล้วว่ายิ้มแค่ปาก

    จริงๆ เราจะมาเคลียร์นะวานเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูลง

    เรื่องอะไรอ่ะซีถามกลับไป ส่วนผมก็นั่งหลังตรงขึ้น บอกแล้วว่าสังหรใจแปลกๆ

    ซีหายไปเลยอ่ะ จะให้เราทำยังไงเหรอ

    “...” ซีเงียบไป จากมุมที่ผมนั่งอยู่ อาจจะเห็นเสี้ยวหน้าซีแค่นิดเดียว แต่ผมก็รู้เลยล่ะว่าที่มันเงียบเพราะมันกำลังหาเหตุผลดีๆที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นอยู่

    ทั้งๆที่ทุกอย่างมันคงจะดีไปซะหมดไม่ได้หรอก

    ซีมันก็น่าจะรู้ดีแก่ใจแหละ

    อย่าเงียบดิ! ซีอยากให้เราทำอะไร เปลี่ยนตรงไหนก็พูดดิวะคิ้วผมกระตุกทันทีที่วานผลักไหล่ซี

    ใจเย็นดิวานซียังคงสเตปเอาน้ำเย็นเข้าลูบเหมือนเดิม

    เย็นยังไงไหววะ อยู่ๆซีก็ทำเหมือนเราไม่มีตัวตนอ่ะ ทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องระหว่างเรา ซีทำแบบนี้ได้ไงวะ! เห็นเราเป็นอะไรอ่ะวันวานยังคงผลักซีอย่างต่อเนื่อง ผมยังคงนั่งมองอยู่เฉยๆ รู้สึกว่าอยากให้ซีเคลียร์มากกว่านี้ด้วยตัวเองซะก่อน

    เรื่องระหว่างเรามันหมายความว่ายังไงวาน ในเมื่อ...มันไม่เคยมีอะไรเลยผมเผลอใช้ลิ้นดันเขี้ยวเล่นในกรณีที่อยู่ในเหตุการณ์อะไรสักอย่างที่เดือดๆ ผมจะเผลอทำแบบนี้ทุกครั้ง

    ซีพูดแบบนี้ได้ไงอ่ะ! ซีจะไม่รับผิดชอบเราเหรออะดรีนาลีนในร่างผมพลุ่งพล่านก็ตอนนี้ เพราะวานไม่ใช่แค่ผลักซีแต่เธอกำลังใช้กำปั้นเล็กๆทุบซีอย่างแรง รู้ตัวอีกที ผมก็เข้าไปกระชิดตัวซีและคว้ากำปั้นเล็กๆนั้นไว้แล้ว

    ใจเย็นๆก่อนได้ป่ะวาน ซีมันเคยพูดเหรอว่าซีกับวานคบกันอ่ะวันวานกำลังร้องไห้ ผมไม่แน่ใจว่าเธอร้องไห้เพราะเสียใจหรือเพราะโกรธมากๆกันแน่ ผมไม่ใช่คนใจเย็นแบบซี ถ้าผมเข้ามาร่วมวงแล้วเนี่ย มันไม่มีทางเย็นลงแน่นอน มีแต่จะเดือดขึ้นๆ

    แล้วก็ระเบิด

    อย่าเสือกดิ

    เพี๊ยะ!

    แกพูดว่าอะไรนะความคิดที่ว่าจะตอบวานกลับยังไงให้เจ็บแสบหายไปจากหัวผมทันที เพราะอยู่ๆเทียนก็เข้ามาดึงผมออกและตบหน้าวานเข้าอย่างจัง ผมชะงักไปเลย แต่อย่างน้อยสัญชาตญาณในตัวก็ยังมีมากพอที่จะคว้าแขนเทียนเอาไว้

    ใจเย็นๆกลายเป็นผมต้องพูดคำนี้ซ้ำใส่เทียน

    แกตบฉันเหรอเทียน!ทันทีที่วานหาสติเจอ เธอก็ตวาดใส่เทียน จนซีที่อยู่ใกล้ๆต้องคว้าแขนวานไว้บ้าง

    เออ! จะทำไมเทียนเหมือนสติหลุดไปแล้ว เธอไม่ฟังผมหรือใครอีก เทียนสะบัดแขนผมจนหลุดและพุ่งใส่วานอีกครั้ง

    เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นผู้หญิงตบกันใกล้ขนาดนี้

    เพี๊ยะ!

    เสียงตบครั้งนี้ดังมาจากมือวาน ความรู้สึกที่ว่าเราอาจจะหยุดเหตุชุลมุนครั้งนี้ได้ในหัวผมปลิวไปจนหมด เพราะนอกจากเทียนจะไม่ยอม เธอยังไม่ออมแรงอีกด้วย

    เพี๊ยะ!!

    ครั้งนี้แหละที่ผมรู้สึกว่าคงยืนมองให้ทุกอย่างแตกหักไปมากกว่านี้ไม่ได้ ผมพุ่งเข้าไปคว้าเอวเทียนไว้และลากออกมาให้ห่างจากวาน รวมถึงซีก็ทำกับวานเหมือนกัน

    ปล่อยนะเคียว! ยัยนี้มันต้องโดนตบถึงจะตาสว่าง!!ถึงจะยังคงอยู่ในอ้อมแขนผม แต่เทียนก็เอาแต่ดิ้นและยังคงด่าวานแบบไม่ลดละ

    ใครกันแน่ที่ควรโดนตบให้ตาสว่าง! ไม่ใช่แกหรอกเหรอ!วันวานก็ไม่ได้หวาดกลัวเทียนสักนิด เธอยังคงดิ้นและเถียงกลับมา

    อยากได้เขาจนตัวสั่น ต้องตั้งกระทู้ตามหา ต้องเอาของไปให้ ต้องเอาร่างไปสังเวยเขา แล้วเขาเคยมองแกบ้างไหม!หัวคิ้วที่กระตุกของผมขมวดเข้ามากันทันทีที่วันวานพูดออกมาแบบนั้น เพราะผมรู้ดีว่า

    เทียนไม่ได้เป็นแบบนั้น

    แล้วมันต่างจากคนที่เอาเงินฟาดหัวเขาตรงไหน!เทียนดูจะไม่สะทกสะท้านมากนักและยังคงด่าวานกลับไป

    ต่างสิ! อย่างน้อยฉันก็ดูออก ไม่ได้หลงหัวปักหัวปำแบบแกวานสะบัดออกจากอ้อมแขนซีจนสำเร็จ เธอย่างสามขุมเข้ามาหาเทียน

    ฉันจะบอกอะไรให้นะเทียนหอม ที่เขาไม่เอาแกอ่ะ... ก็เพราะว่ามันไม่ชอบผู้หญิงไง! พวกมันเป็นเกย์ได้ยินไหม!!

    เพี๊ยะ!

    ด้วยความที่เทียนหยุดดิ้นไปสักพักแล้ว ผมถึงเผลอผ่อนแรงที่กอดเธอไว้ ทำให้เมื่อเทียนออกแรงสะบัด ผมก็หยุดออกจากเธออย่างง่ายดาย เทียนไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่ตบหน้าวานเข้าไปอีกฉากหนึ่งเท่านั้น

    ส่วนเหตุผลที่ทำไมเขาไม่เอาแก ทั้งๆที่แกแทบจะเอาตัวเองถวายพานให้เขาอยู่แล้วเนี่ย ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ...เทียนเลื่อนมือไปบีบแก้มวานและบังคับให้หันมามองหน้าเธอ

    เพราะแกมันต่ำเกินไปไงวันวาน

     

    เจ็บ!

    ทีตอนตบกันไม่เห็นจะบ่นเลยอ่ะผมยังคงใช้ที่ประคบเย็น ประคบที่แก้มบวมๆของเทียนด้วยแรงระดับเดิมอยู่

    ก็ตอนนั้นมันขึ้นอ่ะ! ดูปากยัยนั้นดิ น่าตบจะตายและเทียนก็ยังคงเถียงผมคำไม่ตกฟากเหมือนเดิม แม้เธอจะเถียงผมแบบนี้ตั้งแต่แอลลี่จนตอนนี้เราอยู่ห้องชมรมผมที่ศ.ล.แล้วก็ตาม

    ไหนว่าเป็นพันธมิตรกัน ไม่ตบกันไงหลังจากเทียนและวานเปิดฉากตบกันไปสักพักใหญ่ๆ ประธานนักเรียนของแอลลี่ที่ได้ยินเสียงโหวกเหวกก็เข้ามาเห็น ซึ่งนั้นส่งผลให้เทียนกับวานแยกออกจากกันโดยอัตโนมัติ เหมือนประธานนักเรียนคนนี้จะโหดมาก จนไล่คนออกจากโรงเรียนมาหลายคนแล้ว พวกเธอก็คงไม่อยากเสี่ยงนั้นแหละ

    และเพราะทั้งคู่สภาพเยินไม่ต่างกัน ประธานนักเรียนเลยบอกให้แยกย้ายกันไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยเรื่องบทลงโทษกันวันหลัง ตอนแรกผมนึกว่าเทียนจะแยกไปกับเพื่อนเลย เพราะทั้งเพื่อนเทียนและเพื่อนวานมากันพร้อมหน้าและเขม่นกันเต็มที่ต่อหน้าประธานเลยด้วยซ้ำ พอผมบอกเทียนว่าขอกลับก่อน เทียนกลับขอตามมาด้วยซะงั้น ผมเลยปล่อยเลยตามเลย

    เป็นพันธมิตรกัน ก็ยกเลิกได้ คราวนี้ล่ะ จะได้ตบกันจริงๆจังๆสักที ให้มันรู้กันไปเลยว่าใครแน่กว่าผมส่ายหัวหน่ายๆคืนไปให้เธอและยัดที่ประคบเย็นใส่มือเธอ

    ระวังประธานด้วยล่ะกัน คนอะไรน่ากลัวเบอร์นั้นขนาดผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วยเลยก็ต้องยอมรับแหละว่าเผลอกลัวประธานของแอลลี่อยู่เหมือนกัน

    ผมหันมาหยิบกีตาร์ขึ้นมาเช็ด พวกเราทุกคนดูจะสงบปากสงบคำกว่าปกติอีกร้อยเท่า เพราะทุกคนเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเก็บของ คงไม่รู้จะพูดอะไรด้วยล่ะมั้ง ก่อนที่สายตาผมจะหันไปเห็นซีที่เช็ดกีตาร์เงียบๆอยู่บนโซฟาที่ไม่ไกลจากผมนัก ผมเลื่อนเท้าไปเขี่ยมันนิดหน่อย ซีสะดุ้ง มันคงกำลังคิดอะไรอยู่ และหันมาเลิกคิ้วใส่ผม

    เลิก คิด มากผมอ้าปากพะงาบๆส่งไปแบบนั้น ความรู้สึกผิดโครตๆจากซีกระจายออกมาทุกส่วนของร่างกายมันจนปิดไม่มิด เชื่อผมเถอะว่ามันต้องคิดว่าเหตุผลที่ทำให้เทียนกับวานตบกันเพราะมันแน่ๆ

    ซีพยักหน้ารับ และฝืนยิ้มบางๆส่งมาให้ผม ถึงแม้จะมองออกว่าฝืน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ยิ้มเลยนั้นแหละนะ

    เคียวผมหันกลับไปที่เทียน เทียนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ประคบเย็นท่าเดิม จ้องมองที่พื้นเหมือนเดิม เหมือนเธอสตาฟตัวเองไว้แบบนั้นอย่างนั้นแหละ

    ว่าไงผมถามกลับไป อาจจะเห็นไม่ชัดเท่าซี แต่ผมก็รู้สึกแหละว่าเทียนเองก็รู้สึกผิด

    ขอโทษนะ

    ขอโทษทำไม

    ก็เราทำวันที่ควรจะดีของเคียวพัง

    ไม่เป็นไรหรอก อย่าไปคิดมากผมบอกปัดทันที ไม่อยากให้ใครต้องมารู้สึกผิดและคิดมากอีกแล้ว

    ไหนๆเราก็ทำพังแล้วอ่ะ ให้มันแหลกไปเลยล่ะกันเนอะ...ผมขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเข้าใจกับประโยคนั้นของเธอเท่าไหร่

    เราขอถามอะไรตรงๆอย่างหนึ่งได้ไหมเทียนยอมเงยหน้ามามองผมและเดินตรงเข้ามาหาผม

    ได้ดิผมตอบกลับไป เทียนยิ้มบางๆคืนมาให้ เลื่อนมือมาจับมือผมไว้ และใช้สองมือเล็กๆของเธอตะลอมจับฝ่ามือข้างนั้นของผมไว้ ก่อนที่จะจรดริมฝีปากลงที่หลังมือผม รู้สึกเหมือนถูกแช่แข็งเลย โครตแพ้อ่ะไอ้การทำอะไรแบบนี้

    และคนเดียวที่เคยทำก็คือ

    ซี

    เคียวเคยบอกเราว่า...มีคนที่ชอบอยู่แล้ว ตอนนี้ยังชอบอยู่ไหมผมเงียบ อยู่ๆก็หาเสียงตัวเองไม่เจอ ทำได้เพียงมองหน้าเทียนนิ่งๆเท่านั้น

    คงชอบอยู่สินะ หรือไม่ก็...คงจะรักไปแล้วเสียงที่เคยแข็งแรงของเทียน มันกลับสั่นมากจนผมที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืน ผมไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี จะกอดปลอบ จะพูดอะไรดีๆสักอย่างก็ทำไม่ได้

    ห่วยชะมัด

    คนๆนั้นที่เคียวบอกเทียน...เทียนยังคงสบตากับผมอยู่

    คือซีใช่ไหมผมหลบตาจากสายตาเทียนทันที ในหัวกำลังตีกันยุ่งว่าจะทำยังไงดี ควรตอบยังไง แล้วควรทำตัวยังไง ทุกอย่างมันดูยากไปหมด ทั้งๆที่มันเคยง่ายมากแท้ๆ

    จะบ้าเหรอเทียน จะไปใช่เราได้ไงจนเสียงซีดังแทรกความคิดในหัวผมขึ้นมา

    ใช่ผมไม่รู้ว่าอะไรสั่งการให้พูดแทรกซีออกไปแบบนั้น แต่ผมโกหกเทียนไม่ได้ ผมหลอกเธอไม่ได้

    อีกแค่ครั้งเดียวก็ไม่ได้

    ขอบคุณที่พูดตรงๆนะคราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงที่สั่น ผมเลื่อนสายตาขึ้นมาสบตากับเทียนอีกครั้ง ก่อนที่น้ำตาใสๆจะไหลออกมาจากตาสวยๆนั้น

    เทียนไม่ใช่คนขี้แง เธอแทบจะไม่ร้องไห้เลยไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ที่หนักหน่วงเกินกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะรับได้ขนาดไหน แต่ครั้งนี้เธอร้องไห้ เธอร้องไห้เพราะผม

    เพราะผม...

    เคียวรู้ไหม มันแย่สุดตรงไหน... มันแย่ตรงที่เรารู้มาตลอด เราเอาแต่หลอกตัวเองเว้ย ว่าไม่ใช่หรอก ไม่มีทาง เราพูดคำนี้กับตัวเองกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้อ่ะเสียงของเทียนขาดหายไปบ้างบางช่วงเพราะเธอเอาแต่ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ

    เรารักเคียวนะ เคียวรู้ใช่ไหมถึงแม้จะรู้ว่านั้นไม่ใช่ประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบสักเท่าไหร่ แต่ผมก็ยังเลือกที่จะพยักหน้ารับ

    เราทำดีกับเคียวทุกอย่าง ทำมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้วเคียว ไม่รู้ว่ามันพอไหม... แต่เคียวเลือกเราเถอะนะเทียนบีบมือผมแน่นขึ้น เธอร้องไห้จนสั่นไปทั้งตัว แต่เธอก็ยังคงปาดน้ำตาลวกๆและพูดต่อ

    ถ้าเคียวอยากให้เราเปลี่ยนตรงไหน เคียวบอกได้เลยนะ เราจะทำให้ เราทำได้ทุกอย่างเลยนะเคียวผมทำได้เพียงแค่ดึงเทียนเข้ามากอดให้แน่นที่สุด ผมไม่ชอบที่เธออ่อนแอแบบนี้เลย

    เลือกเราเถอะนะเคียว...เทียนกอดตอบผม เธอยังคงร้องไห้ไม่หยุด แต่ก็ไม่มีแม้ท่าทีที่จะผละออกจากอ้อมกอดของผมเลย

    เทียนรักเคียวนะผมสัมผัสได้ถึงริมฝีปากร้อนๆของเทียนที่จรดลงบนไหล่ผม ก่อนที่ผมจะดันตัวเองออกจากเธอ

    ขอโทษไม่มีคำไหนในหัวผม นอกจากคำนี้จริงๆ

    หลังจากที่ผมพูดคำนั้น เทียนก็ผละออกจากผม ถอยหลังห่างจากผม เดินไม่ได้กี่ก้าวเธอก็หยุด และปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้เธอร้องไห้หนักมากจนทรุดลงนั่งกับพื้น สมองสั่งให้ผมวิ่งเข้าไปปลอบเธอ ดึงเธอเข้ามากอด หรือทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่ผมก็ไม่ทำ... ผมยังยืนอยู่ที่เดิม

    ผมไม่มีค่าพอที่จะปลอบโยนเธอหรอก

    ตอนแรกเราคิดว่าจะเป็นเพื่อนกับเคียวได้นะ อย่างน้อยๆได้รู้จักกัน ได้อยู่ในความทรงจำช่วงหนึ่งของเคียวก็มีค่ามากแล้วสำหรับเรา แต่เคียว...มันทำไม่ได้หรอก ไม่มีใครทำได้ทั้งนั้น เราก็ทำไม่ได้

    ไม่ดิ... จริงๆมีที่แย่กว่านั้นอีก เรารู้จักซีไง เรารู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง เรารู้ว่าเขาเป็นคนดีขนาดไหน แล้วเราจะเอาอะไรไปสู้เขาอ่ะ เราจะเอาอะไรไปสู้เขาวะเคียว!เทียนเลื่อนสายตาขึ้นมาสบตาผม สายตาที่ทำให้ผมกัดปากตัวเองจนได้กลิ่นคาวเลือด สายตาที่เจ็บปวด สายตาที่ตอกย้ำว่าเธอรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของผมขนาดไหน

    เจ็บจนชาหนึบไปหมดแล้ว

    ขอให้โชคดีล่ะกันอยู่ๆสายตาพวกนั้นก็หายไปเหมือนเทียนกระชากมันออกไป เหลือเพียงสายตาว่างเปล่าจากเทียนที่ส่งมาให้ผม เธอยืนขึ้น ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องไป

    หลังจากที่เสียงปิดประตูดังขึ้น เรี่ยวแรงทั้งหมดที่ยื้อผมไว้ก็เหมือนจะหมดไปกับเธอคนนั้น ผมทรุดตัวลงนั่ง ปล่อยให้ตาที่ร้อนแทบตาย ระบายความร้อนออกมาในแบบของมัน

    ในรูปแบบของน้ำตา

    ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง ตอนนี้ซีดึงผมเข้าไปกอด ผมไม่รู้ว่ามันมานั่งตรงนี้ตอนไหน รู้เพียงแค่มันกำลังกอดซ้อนหลังผมไว้และกดให้ผมพิงหัวลงกับอกมัน ความอบอุ่นจากร่างกายซี ทำให้ผมไม่ลังเลสักนิดที่จะซุกตัวเข้าหามัน ซีกระชับกอดให้แน่นขึ้น มันเลื่อนมือขึ้นมาลูบหัวผม...เบาๆ ถึงมันจะไม่ได้พูดอะไรออกมา ผมก็รับรู้ได้

    มันกำลังปลอบใจผมอยู่

    ผมทำร้ายทุกคนในโลกได้ แต่ผมไม่มีทางทำร้ายซี

    อันนี้ผมโครตมั่นใจ

    น้ำตาหยุดไหลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมอยากร้องไห้มากกว่านี้ อยากระบายทุกสิ่งที่อัดอั้นในใจออกมา

    ขนาดน้ำตายังไม่ให้ความร่วมมือกับผมเลย

    ถ้ามีใครสักคนที่ควรได้รับบทลงโทษจากการกระทำผิด คนนั้นมันควรเป็นผมป่ะวะ ทำไมผมถึงยังได้สิทธิ์ในอ้อมกอดนี้อยู่ และเทียนล่ะ...

    เร็วเท่าความคิด ผมผลักซีออก

    กูว่ากูอยากอยู่คนเดียวว่ะ






    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    แต่งตอนนี้จบนี้นั่งนวดคิ้วเลย แต่งไปขมวดคิ้วไปอะไรก็ไม่รู้อ่ะ ขนาดตอนอ่านแก้คำผิดก็ยังขมวดคิ้วเลย 5555 เทียนหอมเป็นหนึ่งในตัวละครที่เรารักมากไม่ต่างจากซีเคียวเลย นางเป็นผู้หญิงในแบบที่เราอยากจะเป็น เข้มแข็ง ชอบใครก็บอกก็เข้าหาเลย เกลียดใครก็พูด ใครพูดไม่เข้าหูก็ตบ เป็นคนใช้ชีวิตคุ้มมากจ่ะ 5555 อยู่ๆก็รู้สึกอยากตัดพล็อต กลัวมันยาวเกินไปอ่ะ กลัวทุกคนขี้เกียจอ่าน ฮือออออ
    คอมเม้นต์ๆๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×