ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    mindmate

    ลำดับตอนที่ #42 : alen

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 414
      4
      19 ธ.ค. 58

    41

    ผมกับซีเราเหมือนเป็นวงกลมสองวงที่จะมีส่วนที่อินเตอร์เซคกันอยู่นอกจากนั้นก็เป็นโลกของตัวเอง ในบางครั้งเราก็เหมือนอยู่คนล่ะโลกกันมากๆจนบริเวณที่อินเตอร์เซคกันมีแค่นิดเดียว ส่วนบางครั้งก็เหมือนบริเวณที่อินเตอร์เซคมีเยอะมากจนเราแทบจะไม่มีเวลาของตัวเอง มีแต่เวลาที่ใช้ด้วยกันเท่านั้น ผมโอเคที่มันเป็นแบบนี้ คนเราต้องมีเวลาที่อยู่ด้วยกันและอยู่คนเดียวอยู่แล้ว

    แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนบริเวณที่เราเกี่ยวกันไว้มันน้อยมากจนแทบจะไม่มีอยู่แล้ว

    นี้มึงอยู่บ้านกูจริงป่ะเนี่ย!

    ผมจำไม่ได้ว่าเราเริ่มแยกกันกลับบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอแยกแล้วก็ไม่ได้กลับพร้อมกันอีกเลย ผมมักจะกลับบ้านเย็นกว่าซีมากเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะผมไม่เข้าใจว่าจะรีบกลับทำไม ต่างกับซีที่พอเลิกปุ๊บก็กลับบ้านปั๊บ

    นั้นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่ได้เจอมัน

    อีกเหตุผลคือ ทั้งผมและมันต่างก็วุ่นกับงานของตัวเอง บางวันผมก็เอาข้าวขึ้นไปกินบนห้อง หรือไม่ก็ลงมากินก่อนเวลา

    ทำให้ไม่ได้เจอกันอีก

    จนผมเริ่มตงิดๆแล้วว่ามันยังอยู่ในบ้านผมจริงๆใช่ไหม ไม่ได้เหลือแต่ชื่อแล้วใช่ป่ะ

    กลับเร็วจังเลยนะคะคุณเคียวส่งผลให้วันนี้ผมรีบกลับบ้านเป็นพิเศษ

    อยากกลับบ้านเร็วๆบ้างนะครับผมตอบพี่แก้มกลับไป

    น่าจะกลับเร็วๆบ่อยๆนะคะ แบบคุณซีไงผมสะดุดไปกับชื่อของบุคคลที่สามที่พี่แก้มกล่าวถึง

    ซีกลับมาแล้วเหรอครับ

    ค่ะ พึ่งกลับมายังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี้เอง กลับมาก็ขึ้นห้องไปเลย

    อ้ออออผมหันกลับมาเดินขึ้นห้อง แวะไปดูหน่อยล่ะกันว่ามันยังมีชีวิตอยู่จริงๆ

    ผมแวะไปที่ห้องตัวเองเพื่อวางกระเป๋าและเปลี่ยนเสื้อก่อนที่จะตรงไปที่ห้องซี

    ผมไม่ได้เคาะประตู ผมจะเคาะประตูบ้านตัวเองทำไมจริงไหม

    เสียงกีตาร์เป็นอย่างแรกที่ผมได้ยิน ผมพอจะปลงกับความเยอะของซีได้แล้ว กีตาร์เหมือนเป็นอวัยวะที่33ของมัน ว่างก็หยิบขึ้นมาเล่นตลอด โชคดีหน่อยที่กีตาร์ที่ซีเล่นไม่ใช่กีตาร์ที่ผมเล่นบ่อยๆ กีตาร์ตัวที่ผมเล่นเป็นกีตาร์ที่ผมยอมจ่ายมากที่สุด เพื่อดีไซน์และสีของมันที่ผมเป็นคนออกแบบทั้งหมด เรียกว่าสั่งทำนั้นแหละ สีจะออกโทนดาร์กๆแต่ไม่ใช่สีดำนะครับ ออกเป็นสีกรมท่ามากกว่า

    ผมรักมากเลยลูกผม

    ส่วนกีตาร์ที่ซีเล่น เป็นกีตาร์ตัวที่มันหยิบมาจากห้องซ้อมวันนั้นแหละ เป็นสีบรอนซ์อ่อนๆ กีตาร์ตัวนี้เป็นตัวที่คิมซื้อให้ผม ด้วยเหตุผลที่ มันชอบสี แต่มึงซื้อให้กูไหมล่ะ

    ซีมักจะนั่งซ้อมกีตาร์อยู่ที่ระเบียง ร่วมถึงวันนี้ด้วย ผมเดินเข้าไปหามันและยืนรอให้มันเล่นจนจบ

    ก่อนที่จะตบมือ

    ซีไม่ได้หันกลับมามองผมด้วยซ้ำ มันเพียงแค่ตบที่พื้นข้างๆตัวมันเท่านั้น ผมเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆมัน

    เล่นได้แล้วนี้ว้าจากที่ฟังเมื่อกี้มันมีพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะ

    ไม่อ่ะ ยังไม่เท่ามึงเลย

    มึงจะมาเทียบกูทำไมมมมมผมเล่นมาตั้งนานแล้วนี้ครับ

    มึงเป็นไอดอลกูไงผมกลอกตาใส่มัน ซีมันขำนิดหน่อยก่อนที่จะเริ่มเกาทำนองเพลง คู่กรณี ของYes’sir days เพลงในรีเควสนะครับเพลงนี้

    ผมนั่งฟังดนตรีสักพักก่อนที่จะเริ่มร้อง

    มันหวั่นไหวทุกทีกับรอยยิ้มเธอ ทำเอาเผลอทุกทีที่สบสายตา อยากทักทาย อยากพูดจา แต่ไม่กล้าพอเลยสักที ลองกลับไปค้นตำรา ลองปรึกษาใครๆ เผื่อจะมีทางใดให้เธอนั้นหันมา ก็ไม่รู้จริงๆว่าทุกครั้งที่สบตา เธอจะมีอาการเหมือนฉันไหม

    “...ช่วยบอกทีได้ไหม อยากจะรู้ว่าในหัวใจ เธอจะคิดตรงกันหรือไม่ เพราะชั้นก็ไม่แน่ใจ กับทางทีที่เธอส่งมา ช่วยบอกทีได้ไหม บอกให้รู้ความจริงข้างใน ส่งสัญญาณว่าเธอนั้นเองก็มีใจ ให้มันชัดเจนกันไป ถ้าเธอคิดตรงกัน เธอก็ช่วยมาเคลียร์กับฉันที

    ผมร้องเพลงไปเรื่อยๆจนจบท่อนฮุคจึงหยุดและหันไปตบมือชุดใหญ่ให้ซี ซีมันทำท่าโค้งนิดหน่อยคืนมาให้ผม

    เจ๋งเหมือนกันนี้มึงเวลาไม่กี่วันสามารถทำให้ซีเล่นเพลงหนึ่งจนจบได้ อาจจะยังจับคอร์ดไม่ค่อยคล่อง ติดจะเพี้ยนอยู่นิดหน่อย แต่ผมว่าก็โอเคแหละ

    การที่มันเล่นได้ขนาดนี้

    เป็นสัญลักษณ์ของคนที่ทุ่มเทกับอะไรสักอย่างมากๆ

    นี้มันผมตอนม.ต้นชัดๆอ่ะ

    เพลงนี้ก็พอเล่นได้นะ แต่ทางม้าลายกับเมดเลย์นี้...มันพูดแค่นั้นแล้วก็ส่ายหัวอย่างปลงๆ

    บอกให้ค่อยๆเล่นไปปปป ไหนมึงงงตรงไหน เดี๋ยวกูเล่นให้ดูเราจัดการเรื่องเพลลิสต์เรียบร้อย เริ่มด้วยทางม้าลายของskipit ทอร์กนิดหน่อย ต่อด้วยคู่กรณีของyes’sir days เล่นไม่จบเพลงหรอกครับ ตั้งแต่ท่อนแรกถึงฮุคมากกว่า จะมีก็แต่คู่กรณีนี้แหละที่ร้องยาวหน่อย เพราะอย่างที่บอก มันมีคนรีเควสมานี้ครับ จบด้วยเมดเลย์เพลงทันเวลาพอดีกับคนเจ้าชู้ ที่ไอ้เฟรมบังคับรึเกินว่ายังไงก็ต้องมี มันคงอยากเห็นหน้าผมตอนร้องสองเพลงนี้ แล้วก็จบ

    ทาดาาาา

    ซีส่งกีตาร์มาให้ผมเพื่อให้ผมเล่นให้ดู ผมจับกีตาร์ให้มั่นก่อนหันไปมองมัน ซึ่งกำลังหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายคลิป

    เอาทางม้าลายก่อนผมพยักหน้ารับ เคาะกีตาร์ให้จังหวะกับตัวเองก่อนที่จะเริ่มเล่น

    ท่ามกลางเวลาต้องอยู่คนเดียว ไม่เหลียวมองใครกับใจฉัน อยากมีสักคนที่อยู่ปะปน ร่วมกับฉัน คือเธอในวันนั้น บอกกับเธอก่อนครั้งเราเจอกันบ่อยจัง ทุกครั้งเรารอข้ามทางนั้นด้วยกัน ยังเสียดายอยู่เลย เธอไม่รู้อะไรในใจฉัน แต่ฉันหวังสักวัน

    “...มองไปรอบกายกลิ่นอายของเวลา ที่หมุนเร็วไม่รอฉัน มองไปรอบตัว สิ่งที่ฉันกลัวการจะแย่ไปกับสิ่งนั้น มองเธอเดินจากฉันไป อยู่บนทางที่ขีดไว้ หากตัวฉันเดินออกไป จับมือเธอ

    ทางม้าลายจะมีท่อนอินโทรกีตาร์ก่อนที่เครื่องดนตรีอื่นจะเข้ามาช่วยค่อนข้างนาน ดังนั้นซีมันเลยยังเล่นไม่ได้ แต่ผมคิดว่าถ้ามันซ้อมหนักขนาดนี้เดี๋ยวมันก็เล่นได้แหละ

    ผมพยายามจะเล่นให้ง่ายที่สุดและสนุกที่สุด เผื่อตอนที่ซีเอาไปซ้อมจะได้คิดว่ามันง่ายขึ้นมาหน่อย (จริงๆคงไม่ช่วยอะไร) และระหว่างที่ร้องผมก็มองหน้ามันไปด้วย

    เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมเลือก และผมรู้ด้วยว่ามันคงเล่นกีตาร์โปร่งได้ยากที่สุด ต่างจากคู่กรณีที่จะเน้นกีตาร์ไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ถามว่าทำไมผมไม่เปลี่ยนเพลง

    ก็ผมชอบเพลงนี้อ่ะ

    เอาน่าาา ผมรู้ว่าซีทำได้

    ผมเล่นจนจบ รอจนซีกดปิดกล้องและตบมือให้ผม ผมถึงได้เลียนแบบท่าโค้งของมัน

    เจ๋งสัส อยากทำได้บ้างงงงผมส่งกีตาร์คืนให้มัน

    เอาไปซ้อมนะหน้ามันลดจนเหลือสองนิ้วแล้วตอนนี้

    มึงทำได้อยู่แล้วววว อย่าพึ่งท้อดิผมตบบ่าให้กำลังใจมันนิดหน่อยและลุกขึ้นยืน

    กูไปล่ะ มีอะไรไปถามได้

    เค

    แล้วก็ซี

    ว่า?”

    อย่าหักโหม

     

    ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะละลาย

    อากาศร้อนมากกกกกกก

    ร้อนแบบอบอ้าว เป็นร้อนที่แย่ที่สุดล่ะสำหรับผม ร้อนจนผมทนเรียนในห้องไม่ได้และโดดไปนอนที่ห้องชมรมอยู่สองคาบ (บวกกับความขี้เกียจนิดหน่อย) ผมเคยบอกรึยัง ว่าผมเป็นไมเกรน และไอ้โรคนี้แหละที่ทำให้ผมเซนซิทีฟกับอากาศร้อนเป็นพิเศษ ไมเกรนขึ้นทุกครั้งคือเพราะอากาศร้อนหมดเลยอ่ะ นี้ผมต้องทำยังไง ย้ายประเทศไหม

    ผมเคยไมเกรนขึ้นหนักสุดจนมองไม่เห็นอะไร พูดไม่รู้เรื่อง อาเจียนแล้วอาเจียนอีก อันนั้นคือที่สุดแล้ว รู้สึกเกลียดสภาพตัวเองตอนนั้นมาก ขนาดฉีดยา นอนพักก็ยังมึนหัวแบบตึบๆอยู่สองสามวันเลยอ่ะ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทรมาณตัวเองแบบนั้นขึ้นอีก ถ้าผมรู้สึกมึนๆหัว ตาเบลอๆ ผมก็จะชิ่งเปิดแอร์หรือไม่ก็อาบน้ำก่อนเลย

    ประวัติศาสตร์ครูไม่เข้า อังกฤษก็ไม่มีไร รู้งี้กูโดดนานแล้วเฟรมกับรูทพึ่งเปิดประตูเข้ามา เมื่อมาถึงรูทก็รายงานทันที สองคาบที่แล้วผมโดดกับยะครับ ไอ้ผมอ่ะบอกว่าปวดหัว ส่วนไอ้ยะนี้บอกว่าปวดท้อง (แม่งตอแหลมันบอกผม มันแค่อยากหาเรื่องโดดเฉยๆ)

    ไอ้คนตอแหลปวดท้องนี้ไปไหนแล้ววะไอ้เฟรมหันมาถามผม เมื่อเห็นผมนั่งมึนๆอยู่ใต้แอร์

    นอนผมชี้ไปทางโซฟาตรงมุมห้อง ดูมันสิ นี้ถ้าผมไมเกรนขึ้นจริงๆผมก็คงนอนตายอยู่ตรงนี้จนกว่าเฟรมกับรูทจะเข้ามาเจอศพนั้นแหละ

    แล้วมึงใกล้ตายยังเมื่อเจอยะ เฟรมก็หันมาถามผมแทน

    ใกล้ล่ะผมตอบมันกลับไปตรงๆ รู้สึกขมับนี้ดิ้นยิกๆเลย ผมอาบน้ำไม่ได้ มันเลยยังคงมีอาการอยู่

    เดี๋ยวก็หายร้อนแล้วมั้ง กูว่าฝนน่าจะตกรูทเข้ามาเสริม มันผลักๆให้ไอ้ยะขดตัวนิดหน่อย เพราะมันจะนั่ง

    ฝนจะตกเหรอวะผมพึมพำ ก็ว่าทำไมอากาศร้อนอบอ้าวแปลกๆ

    เออมึงเรื่องมือกีตาร์คนใหม่นี้ไปถึงไหนแล้ววะเฟรมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม (ตรงผมแอร์ลงพอดีครับ)

    มันเล่นคู่กรณีได้แล้วแหละ แต่ติดจะขัดๆนิดหน่อย มันกังวลมากจนออกมาทางกีตาร์เลยเฟรมพยักหน้า ซีต้องฝึกเล่นกีตาร์ให้ได้ภายในเวลาที่จำกัด แถมยังต้องเล่นตั้งหลายเพลง และต้องขึ้นโชว์อีกตั้งหาก ยิ่งคนคิดมากแบบซีแล้วยิ่งไปใหญ่

    มึงก็ปลอบๆมันหน่อยดิวะ ใช้ร่างกายอ่ะผมถีบมันทันที ถึงกูจะปวดหัวแต่ก็ยังมีแรงฆ่ามึงนะ

    กูว่าตอนนี้มันน่าจะเล่นมาทันเวลาพอดีกับคนเจ้าชู้ได้แล้วแหละมั้งจากล่าสุดที่ผมเจอมันก็ตั้งแต่ต้นอาทิตย์แล้ว เหมือนเข้าไปหาแปบหนึ่งแล้วก็กลับมาโลกเดิมอีก และไอ้ซีเองก็คงจะวุ่นวายกับกีตาร์จนไม่มีเวลาแวะมาหาผมเท่าไหร่ ผมต้องไปหามันมากกว่า แต่ที่ยังไม่ได้ไปไม่ใช่ว่าจะคีพลุคอะไรหรอกครับ แค่ผมอยากให้มันซ้อมให้เต็มที่มากกว่า

    งั้นก็เหลือทางม้าลาย... เพราะมึงเลย เปลี่ยนเพลงไหมไอ้เฟรมหันมาโบ้ยผมทันที

    แหมมมม ตอนเลือกก็โอเคด้วยกัน พอมันเล่นไม่ได้เสือกมาว่ากูคนเดียวเลยนะ

    แต่เพลงนั้นก็ยากจริงๆนะสำหรับมือใหม่ แบบโครตๆอย่างนั้น มึงจะไม่เปลี่ยนเพลงจริงๆเหรอวะผมคิดเรื่องนี้วนไปวนมารอบที่ร้อยแล้ว แต่ผมไม่อยากบอกซีว่าจะเปลี่ยนเพลงให้ มันเหมือนบอกให้ซียอมแพ้

    มึงคิดยังไงก็บอกล่ะกันพอเห็นผมคิดสักพักเฟรมมันถึงได้พูดต่อ

    เอาจริงๆ กูว่ามันเจ๋งนะไอ้รูทเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน ผมรู้ว่ามันฟังอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว

    พึ่งจับกีตาร์ครั้งแรกก็ต้องเล่นให้ได้ ไหนจะเรื่องเวลาที่ไปกดดันอีก ต้องย้ายไปอยู่บ้านมึง คนในบ้านมึงน่ากลัวจะตาย แล้วตอนนี้เล่นได้3เพลงแล้ว โครตพรสวรรค์

    คนบ้านกูน่ากลัวตรงไหนวะ?” ไอ้ประโยคอื่นไม่ติดใจเลย ติดใจประโยคนี้เนี่ย

    กูยังจำได้อยู่เลยว่ากูเริ่มเล่นกลองจริงๆจังๆตอนที่มึงบ้ากีตาร์มากๆกูอยากหาอะไรเล่นบ้าง แล้วมึงตอนนั้นก็อกหักกับกีตาร์โครตหลายล้านรอบต่อวันไอ้รูทไม่ตอบ ไอ้เฟรมเลยพูดเรื่องอื่นแทรกขึ้นมาแทน ทำไมพวกมึงจะสามัคคีกันขนาดนี้

    มึงโครตเครียด โครตจริงจัง แล้วไอ้ซีนี้จะมากกว่ามึงขนาดไหนวะรูทพูดต่อ

    สุดๆอ่ะ

    แล้วมึงทำอะไรบ้างผมเลิกคิ้วใส่ประโยคนั้นของรูท

    กูจำได้ว่ากูปลอบมึงเรื่องนี้วันล่ะเป็นสิบครั้ง คอยบอกไม่ให้มึงเลิกเล่น คอยชม คอยนั่งฟังมึงบ่น แล้วมึงอ่ะ ทำอะไรให้ซีบ้าง

    กูก็บอกให้มันใจเย็นๆนะ มันเก่งอยู่แล้ว

    “...แต่ว่าแม่งชอบหักโหม เกินไปผมพูดจนจบ

    แล้วมึงทำอะไรบ้างประโยคเดิม แต่เฟรมเป็นคนพูดแทน

    ยัง... กูว่าจะรอดูก่อน

    จะรอดูถึงเมื่อไหร่วะนั้นสิ...

    วันนี้แหละ กูกลับบ้านก่อนนะผมพูดจบก็ผุดลุกขึ้นและพุ่งตัวออกจากห้องทันที ผมรู้ว่าซีมันฝืน มันพยายามมากที่สุด หักโหมโครตๆ และผมไม่รู้ว่าการที่มันหักโหมมันส่งผลอะไรให้มันบ้าง แต่ผมมั่นใจอย่างหนึ่ง...

    มันต้องส่งผลแน่ๆอยู่แล้ว

     

    ผมเสียเวลาไปกับการรอให้ฝนซา ฝนตกหนักมากจนผมเลือกที่จะเดินกลับไปที่ห้องชมรมเพื่อลากไอ้รูทให้มาส่งผมที ถ้ากลับรถเมล์ต้องตายแน่เลยอ่ะ

    รูทต้องขับรถอย่างเอื่อยที่สุดเพื่อระวังอุบัติเหตุต่างๆ เมื่อมันขับมาถึงบ้านผม ผมก็ขอบคุณมันจากใจ และวิ่งฝ่าฝนเข้าไปในบ้าน

    ซีกลับมารึยังครับผมถามพี่แก้มก่อนที่จะรับผ้าขนหนูจากเธอซะอีก

    กลับมาสักครู่แล้วค่ะผมรับผ้ามาเช็ดผมลวกๆ

    มันมีท่าทีแปลกๆไหมครับพี่แก้มชะงักไปนิดหน่อย

    ก็มีนะคะ ดูนิ่งๆ พี่ชวนคุยก็ตอบคำสองคำ

    ขอบคุณนะครับผมยื่นผ้าคืนให้พี่แก้มและวิ่งขึ้นไปชั้นบน

    มันคงท้อเต็มทีแล้วอ่ะ

    ผมไม่ได้แวะไปห้องตัวเองก่อนอย่างที่ปกติจะทำ ผมอยากรีบเจอซีให้เร็วที่สุด ผมสัมผัสได้จริงๆนะว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ

    ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง และเจอซีนั่งอยู่ที่ระเบียง ที่เดิมของมัน

    ในตอนฝนตกเนี่ยนะ?

    ซีผมเรียกมัน แต่เหมือนซีจะไม่ได้ยิน เพราะมันยังคงถอดสายตาไปเบื้องหน้าอยู่อย่างนั้น เห็นแบบนั้นผมจึงเลิกคิดที่จะเรียกมันและเดินเข้าไปหามันแทน

    กลับเร็วจังซีหันมาคุยกับผมเมื่อผมเลื่อนมือไปแตะไหล่มัน ถึงได้รู้ว่ามันใส่หูฟังอยู่

    เปียกฝนเหรอวะผมไม่แน่ใจว่ามันเปียกอยู่แล้วหรือพึ่งมาเปียกตอนนั่งตรงนี้ แต่มันดูเปียกเกินกว่าจะแค่โดนละอองฝนเท่านั้น เปียกจนผมเปียกไปหมด รวมถึงชุดที่มันใส่อยู่ด้วย ขนาดวันนี้มันจะใส่ชุดพละก็ยังมองออกเลยว่ามันเปียกขนาดไหน

    อื้อ ก็ฝนตกหนักขนาดนี้

    จากโรงเรียนเหรอ

    อ่าฮะ

    เชี่ย แล้วมานั่งอยู่ทำไมวะ ไปอาบน้ำดิไปพูดเปล่า ผมยังฉุดแขนมันให้ลุกขึ้นด้วย ถ้าผมพูดเฉยๆมันไม่มีทางฟังอยู่แล้วครับ

    แปบหนึ่งแต่มันขืนตัวเองไว้

    ตลกเหรอซี อย่าไข้ขึ้นตายอยู่ตรงนี้รึไง

    แปบเดียวววว ขอฟังเพลงนี้ก่อนผมกลอกตากับความดื้อของมัน เพราะนอกจากจะไม่ฟังผมแล้ว มันยังหยิบหูฟังที่ดึงออกไปแล้วเมื่อกี้มาใส่หูใหม่อีกตั้งหาก

    นั่งเป็นเพื่อนก่อนเห็นมันเมินผมแบบนั้น ผมเลยตั้งใจจะกลับห้องตัวเอง เออดี หนาวตายไปเลย จะติดก็แต่มันจับข้อมือผมไว้นี้แหละ

    จะให้อยู่เป็นเพื่อนก็ไปอาบน้ำผมเริ่มต่อรองกับมัน แต่ขึ้นชื่อว่า สาริศ วรกิจเมธา ถ้าจะฟังก็ฟัง ไม่ฟังก็ไม่ฟัง แล้วถ้าคิดจะดื้อขึ้นมาเนี่ย ใครก็ห้ามไม่ได้จริงๆ

    ซีมันออกแรงฉุดผมให้ลงไปนั่งข้างๆมัน ด้วยความที่ผมไม่ทันตั้งตัวบวกกับความที่มันก็แรงเยอะอยู่ ผมเลยไปล้มแหมะอยู่ข้างๆมันทันที

    เพลงเดียวมันว่างั้น ผมเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งให้มันดีๆเพื่อรอซี

    ฝนยังคงตกอยู่ แม้จะไม่หนักเหมือนตอนแรกแล้วแต่ก็ถือว่ายังหนักอยู่ระดับหนึ่ง ละอองฝนจากข้างนอกจึงพัดมาถูกเราอยู่บ้างพอให้ขนลุกนิดหน่อย แต่ผมก็เปียกอยู่แล้วนี้ครับ เปียกอีกนิดหนึ่งคงไม่เป็นไร

    เสียงเพลงที่เล็ดรอดออกมาจากหูฟังของซีทำให้ผมรู้ว่ามันฟังเพลง ทางม้าลาย อยู่ มันคงยังเล่นไม่ได้สินะ... มือข้างขวาของมันยังคงจับมือผมอยู่

    ผมนั่งฟังเสียงเพลงที่เบาแสนเบานั้นไปด้วยและมองเม็ดฝนที่สาดลงมาไปด้วย

    “...มองเธอเดินจากฉันไป อยู่บนทางที่ขีดไว้ หากตัวฉันเดินออกไป จับมือเธอเสียงเพลงจบไปแล้วแต่เรายังไม่ขยับไปไหน ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะลุกและลากมันไปอาบน้ำ ซีก็ขยับมาพิงไหล่ผม ผมชะงัก สัมผัสได้เลยว่าตัวมันกำลังร้อน แต่จะให้ผมลุกหนีมันก็ยังไงอยู่ พอเห็นว่าผมไม่ได้ว่าอะไรมันเลยเปลี่ยนจากพิงไหล่ผมเป็นดึงผมให้หันไปหามันและซบหน้าลงกับไหล่ผม ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงเลื่อนมือไปลูบหัวมัน

    มีอะไรบอกกูได้นะซีมันแปลก แปลกจนรู้สึกได้ โดยปกติมันไม่ใช่คนเก็บอะไรไว้ในใจได้มากเท่าไหร่อยู่แล้ว ไม่ว่ามันรู้สึกอะไรจะแสดงออกมาทางต่างๆทันที และครั้งนี้ก็ด้วย ผมสัมผัสได้ว่ามันคิดมากเรื่องอะไรอยู่ มันแค่ไม่พูดออกมาเท่านั้น

    “...” มันไม่ได้ตอบแต่เลื่อนมือมากอดเอวผมและกระชับให้แน่นขึ้นเท่านั้น

    ผมไม่คิดจะคาดคั้นให้มันบอก มันอาจจะเป็นเรื่องที่บอกไม่ได้ และผมก็เข้าใจดี

    กูให้มึงอีก10นาที กูไม่อยากมีแฟนเป็นเตาไฟตัวมันร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เล่นเดินตากฝนเข้าบ้าน พอเข้าบ้านแล้วแทนที่จะรีบอาบน้ำ ก็มานั่งตากฝนที่ระเบียงอีก ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วด้วยเนี่ย

    ผมให้10นาทีกับมันจริงๆ เพราะผมไม่ได้พูด ไม่ได้บ่นอะไรออกมา ปล่อยให้มันซบไปแบบนั้นแหละ

    ซีจนรู้สึกได้ว่ามันสักพักแล้วผมจึงทักออกมา แม่งนิ่งมากจนผมเริ่มสงสัยแล้วว่าไข้แดกตายไปแล้วรึเปล่า และมันก็ตอบผมโดยการยอมผงกหัวขึ้นมาแต่โดยดี

    อยากจูบชิพหาย...ผมกระพริบตาปริบๆใส่มัน คือมึงเลิกถามมาสักพักแล้วไหมอ่ะ จะจูบก็จูบดิว่ะ

    กูไม่อยากให้มึงป่วยเหมือนมันรับรู้ได้จากหน้าตาผมเลยพูดต่อมา แต่เดี๋ยวกูว่ากูต้องป่วยตามมึงในไม่ช้านี้แหละ ก็เล่นนั่งตากฝนเป็นเพื่อนขนาดนี้

    งั้นก็รีบหายผมตอบมัน ซึ่งมันก็พยักหน้าเนือยๆกลับมา ดูใกล้น็อคเต็มที่ล่ะผมเลยตั้งใจจะลุกขึ้นและรีบพามันไปอาบน้ำ กินข้าว กินยา นอน แต่ก็อย่างเดิม มันจับมือผมไว้ ผมเลยนั่งรอให้มันพูดเท่านั้น ซีมองมือที่จับกันอยู่ของเราสักพักก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม

    เชื่อกูนะ

    กูเชื่อมึงอยู่แล้ว ผมตอบประโยคนั้นในใจโดยไม่ได้พูดออกไป เพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น ซียิ้มออกมาก่อนที่จะเป็นคนลุกขึ้นยืนและพาผมเข้าไปในห้อง

     

    หลังจากอาบน้ำ ผมกับซีก็ลงไปกินข้าว และพี่แก้มก็จัดยาชุดใหญ่ให้ซี รวมถึงผมด้วย และตอนนี้ผมก็กำลังแยกไปเอาของที่ห้องก่อนที่จะย้ายไปนอนห้องมันวันหนึ่ง ถ้าเกิดมันไข้ขึ้นหนักๆขึ้นมาจะได้มีคนดูแลนะครับ (แม้ผมจะทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากเรียกพี่แก้มก็ตาม)

    ผมหยิบสายชาร์ตและการบ้านที่ต้องลอกและส่งพรุ่งนี้มาถือไว้และเดินตรงไปที่ห้องซี

    มึงควรนอนไหมล่ะผมบ่นทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง ผมคิดว่าจะเห็นภาพมันกำลังเตรียมตัวนอนอะไรแบบนั้น แต่เปล่าเลยครับ มันกำลังเกากีตาร์อยู่

    แปบหนึ่ง

    แปบหนึ่งอีกล่ะผมบ่น แต่ซีเลือกที่จะเมิน ผมเลยปล่อยมันไป ตรงไปวางของบนโต๊ะแทน

    ผมนิ่วหน้านิดหน่อยกับเสียงของกีตาร์ ไม่ใช่เพราะว่าซีเล่นผิดหรือเล่นเพี้ยน แต่เพราะเหตุผลอื่น ผมไม่ได้คิดอะไรอีกเพราะเปลี่ยนเป็นเดินไปหาซีและจับข้อมือข้างซ้ายของมันให้พลิกขึ้น

    กูว่าล่ะ... ผมมองแผลที่นิ้วมัน แผลจากการจับคอร์ดเป็นเวลานานและหนักหน่วง ซึ่งมันไม่ได้มีแค่รอยเดียว แต่มีหลายรอยมาก รวมถึงทุกรอยก็สภาพแย่พอกัน บางรอยมีเลือดซึมๆด้วยซ้ำ ผมรู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ สำหรับมือใหม่มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และผมก็ได้ยินเสียงแปลกๆแบบนี้ตั้งแต่ซีบ้าเล่น2-3วันแรกๆแล้ว ว่าแต่นี้มันกี่วันแล้ววะ

    ไม่เป็นไรหรอกซีมันพยายามชักมือกลับ แต่ครั้งนี้มันทำไม่ได้ดั่งใจ ผมจับข้อมือมันไว้แน่นมาก และหันไปมองมันแบบไม่พอใจด้วย

    ไม่เป็นไรตรงไหนวะเห็นอยู่ว่าเป็น

    ไม่เจ็บเลยจริงๆนะผมส่ายหัวกับความดื้อด้านของมัน หันไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลกล่องเล็กๆที่หัวเตียงออกมา ขึ้นไปนั่งข้างๆมันและดึงมือมันให้ใกล้เข้ามาอีก

    เจ็บบบบแบบนี้ทำบ่น ผมปลายตาไปมองมันที่บ่นนิดหน่อย เพราะตอนนี้ผมกำลังใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบๆบางทีก็ให้มันเฉียดๆไปโดนแผลด้วยความหมั้นไส้ส่วนตัวด้วย

    ผมไม่ได้ทำแผลเก่งอะไร แค่ทำเป็นบ้างนิดหน่อย ตอนมีเรื่องชกต่อยนี้จะไปขอให้พี่แก้มทำแผลให้ก็ยังไงอยู่ ผมเลยต้องทำเอง ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่ล้างแผล ใส่ยา และก็แปะพลาสเตอร์ยาเท่านั้นเอง

    โกรธกูเหรอซีถามขึ้นมา เป็นจังหวะที่ผมแปะพลาสเตอร์ยานิ้วสุดท้ายเสร็จพอดี ถามว่าโกรธไหม เคือนๆมากกว่า ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยวะ ปล่อยให้เจ็บขนาดนี้ได้ไงอ่ะ

    ด้วยความเคืองผมเลยไม่ได้ตอบมันและตั้งท่าจะเดินกลับไปที่โต๊ะเหมือนเดิม

    ขอโทษซีพูดต่อก่อนที่ผมจะได้เดินออกมา

    ขอโทษกูทำไมสุกท้ายผมก็ยอมหันไปคุยกับมัน

    ก็มึงโกรธ

    ขอโทษตัวเองเถอะซีมันนิ่งไป หน้ามันนี้หงอสุดๆ

    ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยวะ

    โหยยยเคียว มันแผลแค่นิดหน่อยผมหรี่ตาใส่มันทันที ผมเห็นอยู่ว่าไม่ใช่แผลนิดหน่อย ยังจะเถียงอีก

    เออๆ แผลไม่นิดหน่อย แต่กูทนได้ มันไม่ได้แย่อะไรมากผมยังคงหรี่ตาใส่มันอยู่

    อาจจะลำบากตอนจับคอร์ดนิดหน่อย แต่ก็โอเคแหละ

    กูขอห้ามมึงเล่นกีตาร์3วัน

    “...ห้ะผมไม่ได้พูดซ้ำแค่เดินออกมาที่โต๊ะเท่านั้น

    มุขใช่ป่ะวะ?”

    จะลองดูป่ะล่ะ

    เดี๋ยวๆมันจะแสดงอีกไม่กี่วันล่ะนะ

    ก็เออ แต่กูห้ามมึงเล่น3วัน

    เคียวววววววเพื่อตัดบทสนทนาและแสดงให้มันเห็นว่าผมพูดจริง ผมถึงหยิบหูฟังมาฟังอย่างไม่สนใจคำแก้ตัวใดๆของซีอีก จนกว่าแผลจะหายผมจะไม่ยอมให้มันเล่นแล้วก็เป็นแผลแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอก ดังนั้นต้องหายก่อนเท่านั้น

    ผมเจ๋งใช่ไหมล่ะ

     

    ตลอดเวลา3วันที่ผมห้ามซีเล่นกีตาร์ มันก็ไม่เล่นจริงนะครับ จะติดก็ตรงที่แม่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งตลอดเวลา

    ผมได้ยินประโยคประมาณว่า ถ้ามึงให้กูซ้อม ตอนนี้กูต้องเล่นได้แล้วแน่เลย หรือ เราคงได้ซ้อมวงกันแล้วเนอะ ติดอยู่อย่างเดียวเนี่ยยยย ประมาณ5ครั้งต่อวัน บางทีผมก็อยากจะตอบๆมันว่า โอเคกูยอมล่ะ แต่พอมาคิดดูแล้ว... ห้ามมันเล่นแหละดีล่ะ

    หลังจากหมดช่วงที่ผมห้าม ซีก็กลับไปซ้อมกีตาร์แบบจริงจังอีกครั้ง ซีไปไหนกีตาร์อยู่นั้น แต่การซ้อมของซีเปลี่ยนไป มันไม่ได้เล่นหักโหมว่าต้องได้ๆเหมือนเมื่อก่อน (คงกลัวโดนผมห้ามเล่นอีก) แต่มันใช้วิธีพยายามเข้าใจเอา ผมรู้สึกเหมือนเป็นติวเตอร์ที่ทำให้เด็กนักเรียนที่สอนมายาวนานจนเข้ามหาลัยที่ชอบได้ อะไรแบบนั้น เพราะพอซีมันเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับกีตาร์ใหม่ มันก็เล่นได้ดีขึ้นทุกวันๆ เก่งขึ้นเรื่อยๆ

    จนตอนนี้มันเล่นทางม้าลายได้แล้ว

    ไม่ใช่แค่ทางม้าลายนะ เพลลิสต์ทุกเพลงมันก็เล่นได้ รวมถึงเพลงอื่นที่เห็นคอร์ดก็เล่นได้ทันที

    ผมเริ่มเชื่อที่รูทบอกว่าซีมันมีพรสวรรค์ขึ้นมาแล้ว ผมว่ามันมีจริงๆนะครับ มันเล่นกีตาร์ได้โปรระดับหนึ่งภายในระยะเวลาไม่กี่อาทิตย์ ไม่เรียกพรสวรรค์แล้วจะเรียกอะไร

    กูเริ่มตื่นเต้นแล้วซีพูดขึ้นมาหลังจากนอนแผ่หลานิ่งๆบนพื้นกันมาสักพัก

    กูด้วยเราพึ่งเลิกซ้อมวงกันเมื่อกี้ ทุกอย่างออกมาดีมากจากที่ผมคิดไว้ตั้งเยอะ ซีเข้ากับเอเลนได้ดีมาก แบบมากๆซะด้วย

    กูกลัวเล่นผิด

    ก็แถๆไปดิ

    กูก็ว่างั้นช่วงนี้เราคุยเรื่องโชว์กันแทบจะตลอดเวลา เหลือเวลาอีกไม่นานเราก็จะไปขึ้นโชว์ที่แอลลี่แล้ว ถามว่าพร้อมไหม ก็พร้อมแล้วนะ เหลือแค่ขึ้นโชว์เท่านั้นเอง

    ติ้ง

    ผมลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงคีย์บอร์ด ไม่รู้ไอ้ซีไปยืนตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันกำลังกดเช็คเสียงไปเรื่อยๆ ผมเลิกสนใจและทิ้งตัวลงนอนต่อ

    “forget all the shooting stars and all the silver moons” เสียงคีย์บอร์ดกับเสียงฮัมเพลงเบาๆของซีดังขึ้น เป็นเนื้อเพลงท่อนหนึ่งของเพลง for him ของ troye sivan ที่ผมชอบมากกกกๆ ผมเป็นคนบังคับให้ซีฟังเองแหละ

    “..we've been making shades of purple out of red and blue” ซียังคงฮัมเพลงเบาๆและเล่นคีย์บอร์ดไปด้วย ผมพลิกตัวให้นอนหันข้างเพื่อมองซีไปด้วย ก่อนที่ผมจะเอะใจอะไรขึ้นมาได้

    มีโน้ตเพลงนี้ด้วยเหรอวะเพลงมันพึ่งออกไปนานเองครับ แปลกที่โน้ตเพลงที่ไอ้รูทเอามาจะมีโน้ตด้วย

    ไม่มีอ่ะซีหันมาบอกผม

    แล้วมึงเล่นได้ไง

    เล่นมั่วผมลุกขึ้นมานั่งทันที เดี๋ยวๆเล่นมั่วแต่โน้ตตรงมากอ่ะ

    มั่วเหี้ยไรจะเป๊ะขนาดนั้น

    อ้าวตรงเหรอวะผมกระพริบตาปริบๆใส่มัน เพื่อความมั่นใจจึงเดินเข้าไปดูโน้ตที่วางอยู่ และก็พบว่าเป็นเพลงที่เราพึ่งซ้อมกันไป ไม่ใช่เพลงที่ซีพึ่งเล่น

    ซี...มึงพรสวรรค์จริงๆนะ เอาดีทางนี้ป่ะซีมันขำกับประโยคนั้นของผม

    เฮ้ย กูจริงจังนะ

    จริงจังเหี้ยไรแล้วแม่งก็ขำต่อ

    มึงเล่นกีตาร์ได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ พอเริ่มจับทางได้ก็โปรชิพหาย แล้วนี้มึงยังแกะโน้ตคีย์บอร์ดได้เพียงแค่ฟังเพลงอีก

    กูบอกแล้วว่าเคยเล่นตอนเด็กๆก็น่าตกใจอยู่ดีป่ะวะ...

    กูพูดจริงๆนะ เอาดีทางนี้เหอะซียังคงขำออกมาอยู่ ตลกอะไรของเมิงงงง

    มึงลงคลิปโปรโมทยังวะผมส่ายหัว คลิปโปรโมทที่ซีพูดถึงคือคลิปโปรโมทรายการown labelนั้นแหละครับ ถ้าทุกคนยังจำได้ หลังจากตัดต่อเสร็จมาชาติเศษ ก็ได้คิวฉายสักที ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ปล่อยทีเซอร์ไปบ้างแล้วครับและกระแสก็ดีพอสมควร พี่เมษเลยสั่งให้ทุกคนลงคลิปโปรโมทในไอจีอะไรก็ได้ก่อนที่ep.1จะฉายเสาร์นี้ ผมเห็นมาสักพักแล้วแต่ยังไม่รู้จะลงอะไรดี วันเสาร์นี้ที่ฉายep.1พวกเราไปดูด้วยกันด้วยนะครับ โมเม้นต์แบบฮอร์โมนอะไรประมาณนั้นเลย

    ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถามว่าซีถามทำไม มันก็เล่นคีย์บอร์ดทำนองเดิมขึ้นมาอีกครั้ง

    มึงร้องดิผมเก็ตในทันที หยิบกล้องขึ้นมาตั้งให้เห็นตั้งแต่จมูกลงไปเท่านั้น ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับซีโดยเบียดๆเอา และหันไปมองซีที่กำลังเล่นโน้ตคร่าวๆอีกครั้ง

    เอาเลยยยผมเลยหันมากดอัด

    ทำนองอินโทรของเพลงfor himที่ผมฟังเป็นพันๆครั้งแล้วดังขึ้นมา ผมเผลอโยกตัวไปทางซ้ายทีขวาทีด้วยความที่คลั่งไคลเพลงนี้สุดๆ และซีก็ดันทำตามด้วยครับ เลยกลายเป็นเราสองคนนั่งโยกไปโยกมาเป็นเด็กๆอยู่

    “...you don’t have to say I love you to say I love you

    forget all the shooting stars and all the silver moons

    we've been making shades of purple out of red and blue

    sickeningly sweet like honey, don't need money

    all I need is you

    all I need is you

    เรามีเวลาแค่15วินาทีในการร้องเพลงนี้ เราเลยเลือกร้องแค่ท่อนฮุคเท่านั้น หลังจากผมร้องประโยคสุดท้ายจบและรอให้ซีเล่นจบเรียบร้อย มันก็หันมายิ้มให้ผม ยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มๆนั้น

    ยิ้มของมัน ทำให้ผมหลุดยิ้มตามไปด้วย

    ต้องตัดตรงนี้ออกไหมเนี่ย

     

     

     

     

     

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เรากลับมาล้าวววว อัพเลทไปนิดนึงเนอะ (ปกติจะอัพวันศุกร์) กว่าจะแต่งตอนนี้จบได้ทำเอาหอบเลย 555 พรุ่งนี้บ้านเราทำบุญบ้านด้วยยย จะทำบุญเผื่อทุกคนนาจา ส่วนอาทิตย์หน้าเรามีไปสอบ9 วิชาสามัญไม่แน่ใจว่าจะได้อัพวันไหน แต่คิดว่าอาจจะแบกโน้ตบุ๊คไปด้วยเพราะนอกจากอัพต่อก็มีวันคริสมาสต์ด้วย เราต้องอัพespeciallyอีก ก็ต้องขอคิดดูอีกทีก่อนนั้นแหละ

    แต่จะอัพให้เร็วท่สุดที่ทำได้นะคะ

    คอมเม้นต์หน่อยคร้าบ

    (ไปดูฮอร์โมนกัน 555555)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×