ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    mindmate

    ลำดับตอนที่ #36 : เธอเธอออีกแล้ว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 491
      4
      27 พ.ย. 58

    36

              “พรุ่งนี้เทียนไปช่วยพี่ซื้อของนะ”

              “อื้มมมม” ผมขานตอบเทียนไปและหันมาตักข้าวเข้าปากต่อ

              “ฟังอยู่ใช่ไหมเนี่ย” เทียนคงจะไม่ได้ยินเลยเดินเข้ามาหาเลยครับ

              “ตอบไปแล้วนะ”

              “ตอบให้มันดังๆหน่อยเคียว ห่วงกินรึเกิน” จ้าๆ นานๆเข้าเทียนก็เริ่มบ่นผมเป็นแม่ขึ้นทุกวัน อาจจะเพราะเราเจอกันทุกวันด้วยแหละ ทุกวันจริงๆครับ เธอแวะมาหาผมที่โรงเรียนแทบจะทุกวัน ถ้าวันไหนที่เธอติดธุระมาไม่ได้จริงๆเธอก็จะงอแงให้ผมไปหาครับ ส่วนมากก็ที่ร้านของพี่ฟ้า พี่ฟ้าพึ่งเปิดร้านจริงจังเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คนเข้าเยอะมากกกก ไม่แปลกหรอกครับ ผมว่ามันน่านั่งสุดๆเลย

              ยิ่งเปิดร้านแล้วเธอยิ่งแวะมาแถวนี้บ่อยขึ้นครับ รวมถึงขึ้นมาที่ห้องผมบ่อยขึ้นด้วย ช่วงแรกๆผมก็ไม่อยากให้เธอขึ้นมาที่ห้องผมหรอกครับ มันจะดูไม่ดีต่อตัวเธอเอง แต่แน่นอนว่าคนแบบเทียน... เธอไม่สนหรอกครับ สุดท้ายก็แวะขึ้นมาห้องผมบ่อยสุดๆ บางทีก็ทำอาหารให้กินด้วย แบบครั้งนี้

              ผมมันพวกทำอาหารไม่เป็นอยู่แล้วครับ เธอมาทำให้กิน ก็ดีเหมือนกัน

              ถามว่าเทียนกับซีใครทำอร่อยกว่ากันเหรอ...

              อย่าถามเลยครับ เดี๋ยวดราม่า

              เอาเป็นว่าผมกินได้ทั้งคู่ดีกว่า

              “จะว่าไปไม่ค่อยได้เจอซีเลยเนอะ” ไม่ใช่แค่เทียนหรอกครับที่ไม่ค่อยได้เจอซี ผมด้วย ห้องอยู่ติดกันแค่นี้แต่กลับไม่ได้เจอกันสักทีครับ

              “คิดถึงมันรึไง” ผมแกล้งหยอกเทียน แต่เธอกลับยิ้มบางๆส่งมาให้ผม

              “อย่าหึงดิ” ผมกลอกตาใส่เธอ เราสนิทกันมากกกกจนไม่ต้องมาวางมาดเกรงใจอะไรกันแล้วครับ

              “เกลียดดดด” ไม่พูดเปล่า เธอยังคว่ำปากใส่ผมอีกตั้งหาก

              “นี้จะกลับกี่โมง”

              “ไล่?” ผมเบ้หน้าใส่เธอ เป็นเรื่องที่รู้กันครับว่าผมไม่ได้ไล่ แค่ถามไหมล่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพอถามแบบนี้ผู้หญิงถึงต้องเข้าใจว่าไล่

              “ล้อเล่นนน อีกแปบหนึ่ง รอเคียวกินอิ่มก่อน”

              “หูยยยย อิ่มแล้วเนี่ย กลับได้ล่ะ” อันนี้ต่างหากครับที่เรียกว่าไล่

              “เลวมาก” ผมขำ

              “งั้นเทียนไปล่ะนะ ของสดในตู้มันใกล้หมดแล้วอ่ะ ไว้เราไปซื้อกันเนอะ”

              “เอาดิ ให้ไปส่งเปล่า”

              “ไม่ต้องงง มาเองได้ก็ต้องกลับเองได้ดิ”

              “เคคค เจอพี่ฟ้าแล้วไลน์มาบอกด้วยนะ”

              “ค่ะ” เธอยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนที่จะหยิบกระเป๋า หันมาโบกมือลาผม และเดินออกไป

              อยู่กับเทียนแล้วสบายใจดีนะ เธอเป็นผู้หญิงแมนๆเลยอ่ะ ฮ่าๆ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะพูดไม่ดีออกไป แค่พูดออกมาตรงๆ อย่าโกหก แค่นั้นก็พอ

              แต่พอเทียนทักขึ้นมา ผมก็พึ่งมานึกนี้แหละว่าผมได้คุยกับไอ้ซีแบบตัวจริงๆ นอกจากในโทรศัพท์บ้างรึเปล่า ว่าแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหามันอีกครั้ง

              อื้ม

              อยู่ไหนวะ

              ห้อง

              ดูหนังกันป่ะผมพึ่งได้รายชื่อหนังสนุกๆมาครับ ช่วงนี้นั่งว่างๆก็ดูแต่หนังตลอด

              ก็ได้นะ แต่มึงอยู่ดึกได้เหรอมีบ้างที่ผมต้องรีบนอนเพราะตอนเช้าต้องไปรับเทียน บางทีเธอก็อยากให้ผมไปช่วยซื้อของหรือทำงานอะไรบ้าง

              ได้ดิ

              แม่มึงไม่อยู่เหรอเทียนกลายเป็นแม่ผมโดยชอบธรรมแล้วครับ

              เออ พรุ่งนี้เขาไปช่วยพี่ซื้อของอ่ะ

              อ้อ... เดี๋ยวกูเข้าไปล่ะกัน แล้วนี้มึงกินข้าวยัง ให้เอาไปให้เปล่า

              กูกินแล้ว เทียนทำไว้ให้อ่ะ

              อ่าๆสัมผัสได้ถึงความนอยด์ออกมาจากน้ำเสียงเลยอ่ะ

              เร็วๆนะมึงซีมันตอบกลับมาว่าอื้ม และมันก็เงียบไป คงรอให้ผมวางสาย นี้เป็นอีกเรื่องที่ผมพึ่งค้นพบ

              ซีไม่เคยวางสายผมก่อน

              ทำไมผมดูเป็นคนเลวทันที แต่จริงๆครับ มันมักจะรอจนกว่าผมจะวางไป ยกเว้นก็แค่ตอนที่ผมหลับนั้นแหละ อันนั้นผมลุกขึ้นมาวางสายไม่ได้ไง

              มึงผมรู้ว่ามันยังฟังอยู่  

              ว่า?เห็นป่ะละ

              เอาขนมมาด้วยนะ ที่เจ้ส่งมาให้อ่ะ

              เคน้ำเสียงครั้งสุดท้ายของซีทำให้ผมวางสายได้อย่างสบายใจมากขึ้น มันไม่ได้บอกผมเรื่องนี้ครับ เรื่องที่เจ้กัสส่งขนมมาให้ เธอฝึกทำขนมใหม่ๆเยอะแยะเลย คงใกล้เปิดร้านกาแฟเต็มที ที่ผมรู้ก็เพราะว่าเจ้เธอไลน์มาบอก การที่ผมพูดเรื่องนี้กับมันก็หมายความว่า

              ผมไม่ได้สนใจมันน้อยลงเลย

     

              ผมนั่งๆนอนๆรอซีอยู่สักพักมันก็เปิดประตูเข้ามา มันหันมามองผมนิดหน่อยและเดินเลยเอาของไปไว้ในห้องครัว

              “คืนนี้นอนนี้เนอะ” ผมพูดทันทีที่ซีมันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม

              “ได้” ผมยิ้มกว้างให้มันและหันมาสนใจกับหนังที่จะดูแทน

              “เรื่องนี้มึงดูยัง” ผมหันไปถามมัน

              “ยัง”

              “ดูนะ”

              “เอาดิ” ผมไม่รอช้า กดเพลย์ทันที เรานั่งดูหนังกันเงียบๆไปสักพัก

              “ซื้อชั้นมาใหม่เหรอวะ” ผมหันไปมองมัน และมันก็กำลังจ้องชั้นวางของที่ผมพึ่งไปถอยมาไม่นาน

              “เออ ชั้นที่แล้วหนังสือมันเต็มหมดแล้วอ่ะ” อย่าพึ่งตกใจ หน้าแบบนี้ก็อ่านหนังสือเหมือนกันนะ

              “ไปมาเมื่อไหร่อ่ะ”

              “3วันเองมั้ง เทียนชวนไปซื้อโต๊ะอ่ะ แล้วกูนึกขึ้นได้ว่าอยากได้ชั้นพอดี เลยซื้อมาด้วย”

              “...กูไม่เห็นรู้เลยเนอะ” ผมกดpauseหนังและหันมาคุยกับซีดีๆ ปกติมันก็แบบนี้ครับ ซีมักจะงอนผมเรื่องล้านแปด ความจริงคือผมรู้แค่ไม่ถึงครึ่ง ส่วนมากมันจะงอนและหายของมันเองแค่ผมทักไปคุยหรือง้องแง้งใส่มันนิดหน่อย แต่ครั้งนี้คงจะใหญ่อยู่ระดับหนึ่งเลยแหละ มันถึงยังได้ตึงๆใส่ผมอยู่

              “โทษที กูรีบๆไปอ่ะ”

              “อืม” โอเค ผมอาจต้องงัดมุกอะไรมาง้อมันมากกว่านี้ ซีมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด ทั้งผมและมันไม่ใช่พวกติดโทรศัพท์อะไรขนาดนั้นครับ สำหรับผมโทรศัพท์จะไม่สำคัญเลยถ้าไม่มีทวิตเตอร์กับเพลงให้ฟัง สำหรับซีก็คือเอาไว้ติดต่องานบ้าง เพราะแบบนั้นถ้าผมกับมันอยู่ด้วยกัน เราแทบจะไม่แตะโทรศัพท์เลย ใครมีอะไรต้องโทรมาเท่านั้นครับ และการที่มันหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่น ก็แปลได้ง่ายๆ ว่ามันไม่โอเค

              ผมไม่ได้ตั้งใจจะมอง แต่สายตามันหันไปเห็นแชทที่มันกำลังจะตอบพอดี

              “กูไม่คิดว่ามึงยังติดต่อเขาอยู่” รูปโปรไฟล์และชื่อของคนๆนั้น ทำให้ผมรู้ว่ามันกำลังจะพิมพ์ตอบวาน

              “คุยเฉยๆอ่ะ”

              “กูเข้าใจว่าวันนั้นมึงให้เมลล์นะ ไม่ใช่ไลน์”

              “ให้เมลล์ไง แต่ไม่รู้เขาไปเอาไลน์กูมาจากไหน”

              “กูไม่เห็นรู้เลยเนอะ” ผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาคำพูดมันมาประชดมัน แต่มันหลุดปากไปแล้วครับ พอผมตอบไปแบบนั้นซีมันก็กดล็อคโทรศัพท์และหันมามองหน้าผมตรงๆ

              “มันไม่มีอะไรไง กูเลยไม่ได้บอก”

              “กูก็ไม่มีอะไรเหมือนกันอ่ะ”

              “ไม่มีอะไร แค่เจอกันทุกวัน มาหาถึงห้อง ไปซื้อของด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน แค่นั้นเองเนอะ”

              “อย่างน้อยเพื่อนกูทุกคนก็อยู่ ไม่ได้แอบคุยกันสองคนป่ะวะ”

              “กูไม่ได้แอบคุย มึงจะเอาไปดูเลยไหมล่ะ” เราไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของกันและกัน คนเรามันต้องมีอะไรที่อยากให้ตัวเองรู้แค่คนเดียวอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องเช็คโทรศัพท์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

              “ไม่ต้องหรอก กูคงย้อนอ่านไม่หมด” ซีมันแลบลิ้นเลียปากนิดหน่อย มันคงฉุนผมขึ้นมาบ้างแล้วแหละ แน่นอน ผมก็ฉุนมัน

              “ไม่ต้องดูแล้วมั้ง หนังเนี่ย” ถ้ามึงคิดแล้วได้แค่นี้เนี่ยนะ

              “นั้นดิ ตอนนี้กูเริ่มอยากดูมวยมากกว่าล่ะ”

              “เป็นความคิดที่ดีนะ” ถ้าไม่คิดถึงผลที่จะตามมา ผมคงต่อยหน้าแม่งไปแล้ว แต่สายตาของมันทำให้ผมหยุดตัวเองไว้ก่อน นอกจากอารมณ์ฉุนเฉียวสายตาของซีกำลังบอกผมว่ามันกำลังน้อยใจขนาดไหน

              ผมพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ปกติถ้าผมโกรธ ซีจะพยายามทำตัวเย็น แต่ทำไมในตอนที่มันโกรธ ผมถึงได้โกรธไปด้วย

              “จูบกูหน่อยดิ” ซีมันนิ่งไปเลย มันคงไม่คิดว่าผมจะพูดแบบนี้ ผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับ แค่รู้สึกอย่างนั้นเฉยๆ

    ขอบคุณที่มันไม่ได้โกรธผมมากจนเมินผม มันเพียงแค่เลื่อนมือมาลูบหัวผมเบาๆรั้งลงไปจับต้นคอผมไว้และโน้มตัวเข้ามากดจูบที่ริมฝีปากผม

              “กูไม่ได้จะไม่บอก ขอโทษจริงๆ” จูบนี้เป็นอีกอย่างที่ทำแล้วช่วยดึงความรู้สึกแย่ๆต่างๆให้ออกไปได้ดีเลยนะ เมื่อซีผละออกจากผม ผมก็บอกมันตรงๆ ผมไม่เคยคิดว่าการพูดขอโทษหรือขอบคุณมันเป็นคำที่พูดยาก ถ้ามันสมควรที่จะพูด ก็พูดเถอะครับ

              "มันไม่มีอะไรจริงๆนะ กูกับวานอ่ะ”

              “เออ กูเชื่อมึงอยู่แล้ว” ซีมันดึงผมเข้าไปกอดและเกยคางไว้บนไหล่ผม ผมเลยลูบหัวมันไปมา ฟีลเหมือนเล่นกับลูกหมาครับ ประมาณนั้น

              “กูต้องไปถ่ายละครเวทีให้แอลลี่ แล้ววานเป็นนางเอก มึงจะว่าไรป่ะวะ”  

              “กูจะว่าไรมึงอ่ะ กูพูดอยู่ว่ากูเชื่อมึงงงง” ซีมันคลายกอดเพื่อมองว่าผมทำหน้าแบบไหนอยู่

              “กูไม่เคยคิดอะไรกับเขามากกว่าเพื่อนเลย ไม่อยากไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนด้วยซ้ำ มันมีแต่ที่ต้องไป ที่ต้องทำเท่านั้นอ่ะ” ผมพยักหน้างึกๆใส่

              “มึงรู้ใช่ป่ะ วานเขา...”

              “เป็นเพื่อนกับเกรซ” ซีมันทำท่าถูกต้องใส่ผม มันคงคิดอยู่แล้วว่าผมรู้

              “กูเลยไม่อยากจะไปสุงสิงอะไรกับเธอมากเกินไปอยู่แล้วอ่ะ”

              “มึงยังชอบเกรซอยู่ป่ะเนี่ย”

              “จะบ้าเหรอ!” ผมแกล้งมันเล่นเฉยๆครับ

              “ถ้าเจอเกรซคือกูอยู่กับวานอ่ะ แม่งโครตอึดอัด” เทียนเคยบอกผมว่ากลุ่มนั้นน่ากลัวครับ ผมเริ่มเชื่อนิดๆล่ะ

              “แต่ช่างแม่งเหอะ เดี๋ยวจบงานนี้ก็คงไม่ค่อยเจอล่ะ”

              “สู้ๆล่ะกันมึง” ซีมันยิ้ม

              “ขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”

              “ว่ามาดิ”

              “ถ้าจะไปไหน จะทำอะไรกับเทียน บอกกูบ้างได้ไหม” โอ้โหหหหความตัดพ้อมาเต็ม ผมหลุดยิ้มกับความเด็กน้อยของมัน

              “จ้า ต่อไปจะรายงานตลอดเลย มึงด้วยนะ” ซีมันพยักหน้าคืนมาให้

              “แต่กูไม่คิดว่ามึงจะคิดเล็กคิดน้อยมากมายอะไรขนาดนี้นะ ติดใจอะไรก็ถามดิวะ สะสมไว้เยอะๆรอวันระเบิดรึไง”

              “เปล่าเว้ย กูแค่รู้สึกขึ้นมาว่า... เทียนเขาเจอมึงบ่อยกว่ากูอีกเนอะ”

              “แล้วมึงหายหัวไปไหนมา” มันหายไปจริงๆครับ จากที่ปกติจะแวะมาหากลับกลายเป็นว่าไม่มา ผมก็นึกว่ามันงานยุ่งหรืออะไรแบบนั้น และเทียนก็มาหาผมทุกวันด้วยเลยกลายเป็นผมเจอเทียนมากกว่าซีไปซะแล้ว

              “มึงไม่เคยพูดสักหน่อยว่าอยากเจอกู” ซีมันพูดงึมงำเบาๆแต่แน่นอนว่าผมได้ยิน และผมก็ตบหัวมันไปหนึ่งที มึงนี้แม่ง

              “กูอยากเจอมึง ที่นี้จะมาหาได้ยัง” ซียิ้มจนเห็นรอยบุ๋มของลักยิ้มที่แก้มข้างขวาของมัน

              “เขินอ่ะ รู้สึกเหมือนโดนจีบเลย” เท่านั้นแหละ ผมก็หมดอารมณ์มุ้งมิ้งทันที

        

              ฮัลโหลเคียววว

              ว่างายยยยเทียนยังคงทักทายผมด้วยเสียงระดับนี้ตลอด

              วันนี้ไปกินไอติมที่สยามกันเปล่าที่สยามจะมีร้านประจำที่ผมไปกินตลอดอยู่ ผมกับเทียนเคยไปกินด้วยกันอยู่ครั้งสองครั้ง

              เอาดิ

              เคคค งั้นเดี๋ยวเรารอที่สยามนะ เคียวถึงแล้วโทรมาล่ะกัน

              อ่าๆปกติเธอจะมาหาคนที่ศ.ล.ก่อนแล้วเราก็ไปพร้อมกัน แค่ครั้งนี้เธออาจจะขี้เกียจก็ได้เนอะ

              “พวกมึงกูไปสยามนะ” หันไปตะโกนบอกเพื่อนนิดหน่อย ก่อนที่จะไปผมก็ไม่ลืมที่จะไลน์ไปหาคุณชาย

    Kw :

    กูไปกินติมกับเทียนนะ

    Cc :

    เค กูต้องไปซื้อของเป็นเพื่อนเทียนด้วย

              ผมอ่านข้อความที่ซีกลับมา ไม่ได้คิดว่าจะตอบหรอกครับ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋า ข้อความก็ดังขึ้นมาอีก

    Cc :

    เดี๋ยวเย็นนี้ไปหา

    Kw :

    เจอกัน

              เอาล่ะสยามรอเราอยู่

     

              ผมแทรกตัวผ่านผู้คนในBTSสักพักก็ถึงสยาม ยิ่งตอนเลิกเรียนคนยิ่งเยอะครับ จะตาย พอมาถึงผมก็ไลน์ไปบอกเทียน เธอบอกว่าเธอรออยู่ที่ร้านแล้ว ผมเลยมุ่งไปที่ร้านทันที เพียงไม่นานผมก็มาถึงร้าน แต่กลับไม่อยากจะก้าวขาเข้าไปในร้านเลย

              เทียนเธอพาเพื่อนมาด้วย

              ทำไมไม่บอกก่อนนนน

              ผมมองเทียนกับเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนที่กำลังคุยอะไรกันสักอย่าง และแล้วเทียนก็หันมาเห็นผม เธอโบกมือให้ผมนิดหน่อย เอาว่ะ

              “เคียวนั่งนี้ดิ” ผมนั่งลงข้างๆเทียน

              “นี้เพื่อนเทียน เต้ยกับแพรว” เต้ยเป็นผู้หญิงขาว เสี้ยวจีนนิดๆเพราะเธอตาตี่ ตัดหน้าม้า แพรวนี้ต่างจากเต้ยเลยครับ เป็นคนตาโตมากกก และก็ดัดฟันด้วย

              “ทำตัวตามสบายนะเคียว ไม่ต้องเกร็ง” เต้ยพูดออกมาและหันไปหัวเราะคิกคักกับแพรว เอาเถอะครับเอาที่สบายใจ

              “อย่า แกล้ง เคียว” เทียนจิกตาใส่เพื่อนนิดหน่อย

              “แม่หวงว่ะแก” แพรวพูดแซวเทียนขึ้นมาอีก ผมขำนิดหน่อย ก่อนที่จะหันไปสั่งไอติมกับพี่พนักงาน

    มันก็จริงที่ผมไม่ได้อ่อนขนาดที่คุยกับผู้หญิงอะไรไม่ได้ขนาดนั้น แต่การคุยกับผู้หญิงทั้งกลุ่มก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างยากสำหรับผม ดังนั้นผมเลยเพียงแค่นั่งฟังเทียนคุยกับเพื่อน ส่วนตัวเองก็นั่งกินไอติมไปเรื่อยๆ

    แล้วนี้แกจะไปไหนต่อย่ะยัยเทียนเต้ยถามขึ้น เราเช็คบิลเรียบร้อยแล้ว

    พาเคียวไปซื้อของอ่ะของอะไรวะ... แต่ผมก็ไม่ได้จะใจร้ายกับเธอขนาดถามออกไปหรอกครับ

    งั้นฝากเทียนด้วยนะเคียว เรากลับก่อนนะเต้ยและแพรวหันมาโบกมือลาผม และแยกออกไปก่อน

    เหลือเพียงผมกับเทียนที่ยังไม่ปริปากพูดกันสักคำ

    เราไปซื้อของสดกันป่ะเธอหันมาชวน ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่เดินนำไปก่อน

    โกรธป่ะเนี่ย

    หื้ม เรื่องไร

    ที่เราพามาหาเพื่อนเรา...

    งงๆนิดหน่อยผมขำแห้งๆคืนเทียนไป

    ขอโทษนะ คือพวกนางกำลังพยายามจะส่งเราให้ชายคนหนึ่งแต่เราไม่เล่นด้วยไง บอกว่าคุยกับเคียวอยู่ พวกนางก็ไม่เชื่อ เลยต้องพาเคียวมายืนยันเนี่ยเรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง

    ไม่เป็นไรหรอก เข้าใจๆเทียนยิ้มร่าเมื่อผมตอบแบบนั้น และเธอก็หันมาพูดเรื่องของที่ต้องซื้อ

    เทียนแต่ยังไงผมว่าเราก็ต้องพูดให้เคลียร์นะ

    ว่า?”

    เราเป็นเพื่อนกันใช่ป่ะ...รู้สึกแย่มาก แต่ผมอยากพูดเคลียร์ๆไปก่อนที่อะไรๆมันจะถล้ำลึกไปมากกว่านี้ครับ

    “...อืมเทียนเธอนิ่งไปนานมาก ก่อนที่จะตอบผม

    ขอโทษนะผมให้เธอมากที่สุดได้แค่นี้จริงๆ

    บ้า ขอโทษทำไม เราก็แค่ดีไม่พอคนที่เคียวชอบ ทำให้เคียวหันมาชอบเราไม่ได้ ไม่ใช่ความผิดเคียวสักนิด

    เทียน... ไม่เอาดิ

    เฮ้ยไม่ต้องคิดมาก หนักกว่านี้ก็เจอมาล่ะ แค่นี้เราไม่ท้อง่ายๆหรอกผมรู้ว่าเธอโกหก

    แต่ผมไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรให้เธอรู้สึกดี จึงเลือกที่จะเงียบแทน บางครั้งความเงียบมันก็ช่วยอะไรได้มากกว่าที่คิดนะครับ

    กินแคนดี้ป่ะผมหันไปถามเทียน เพราะเมื่อกี้เราพึ่งเดินผ่านร้านลูกอมที่เทียนชอบมากมาครับ เทียนเลิกก้มหน้าก้มตาเดินแล้วหันมายิ้มหวานใส่ผม

    นี้ง้อป่ะผมอึกอักไปนิดหน่อย คือต้องตอบว่าไรอ่ะ ถ้าตอบว่าเปล่าก็ใจร้ายไป ถ้าตอบว่าใช่มันก็ดูเหมือนที่ผมพูดไปมันไม่มีผลอะไรเลย

    ล้อเล่นนน กินดิ เคียวเลี้ยงนะเทียนไม่ได้ปล่อยให้ผมอึกอักนาน เธอคล้องแขนผมและลากผมตรงไปที่ร้านนั้น แต่เดี๋ยวนะ ผมเลี้ยงเหรอ

    ผมปล่อยให้เทียนจิ้มลูกอมรสนี้ทีรสนั้นที สายตาก็ทอดมองออกไปนอกร้าน และนั้น

    ซีกับวาน

    สรุปสองคนนั้นคบกันเหรอผมไม่รู้ว่าเทียนหันมามองตามผมเมื่อไร แต่เธอคงเห็นพอดีว่าผมมองอะไร

    ยังอ่ะ แต่วานน่าจะชอบซี

    ไม่น่าล่ะเคียว ใช่เลยแหละ ยัยนั้นชอบชัวร์ ไม่งั้นจะมาอ่อยทำไมผมไม่ได้ตอบอะไรเพิ่ม แค่ยักไหล่

    ซีนี้จีบใครอยู่ป่ะ

    ไม่รู้มันวางตัวเป็นกลางไปอีก

    ไม่รู้จริงดิ เคียวดูสนิทกับซีมากเลยนะผมไม่ได้ตอบเพราะหันไปจ่ายตังค่าลูกอมให้เธออยู่ เออสุดท้ายผมก็เลี้ยงจริงด้วยว่ะ

    แปลกเหมือนกันนะ ซีกับเคียวอยู่คนล่ะโรงเรียนแต่ทำไมสนิทกันสุดๆเหมือนเคียวกับรูทเลยเนอะเธอยังคงตั้งคำถามต่อไป

    ปกติพวกแลกเปลี่ยนถึงจะสนิทกันขนาดไหน แต่ถ้าจบแล้ว มันก็เหมือนแต่ล่ะคนต้องกลับไปอยู่โลกของตัวเองป่ะ แต่ซีกับเคียวนี้ไม่ใช่ เหมือนสังคมของซีและเคียวเป็นซับเซตกันอยู่ตลอด อะไรประมาณนั้นเลยเธอพูดถึงตรงนี้ก็หยุดและหันมาจ้องหน้าผมแทน

    อยากให้พูดอะไรล่ะผมไม่รู้จริงๆนะ ไม่ได้กวนตีน

    มีซัมติงกันป่ะเนี่ยคราวนี้เป็นผมเองที่นิ่งไป

    ถ้าบอกว่ามีจะโกรธป่ะเทียนนิ่งไป ว่าแต่ทำไมผมถึงได้พูดออกไปตรงๆแบบนั้นวะ

    มุขใช่ป่ะ แป้กมากกกกเธอว่างั้น และโบกมือเซ็งๆใส่ผม ผมไม่ได้จะแก้ข่าวอะไร ให้เธอเข้าใจแบบนี้ก็ดีแล้วครับ

    ถ้าไม่ติดว่าเราเห็นเคียวหว่านเสน่ห์ผู้หญิงกับตา และไหนยังจะมีผู้หญิงเข้ามาจีบและเคียวก็เล่นด้วย นี้ยังไม่รวมเพื่อนในไลน์ที่70%เป็นผู้หญิงนะ เราคงเชื่อไปล่ะผมไม่ได้หว่านเสน่ห์ ขอแก้ข่าวก่อน ผมแค่มองเฉยๆครับ เทียนก็หาว่าผมหว่านเสน่ห์ แถมยังจิกผู้หญิงคนนั้นซะพรุนเลย ผู้หญิงเข้ามาจีบและเล่นด้วยนี้ผมเล่นเอาฮาครับ เขาเข้ามาถามก็ตอบ แค่นั้นนน สุดท้ายเรื่องเพื่อนในไลน์70%เป็นผู้หญิง ประชากรในโลกเรานี้ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเยอะมากเลยนะ เพื่อนผู้หญิงผมจะเยอะก็ไม่แปลกไหมอ่ะ

    โรงเรียนเราจะมีละครเวทีใช่ป่ะเคียว แล้วเทียนได้เล่นเป็นตัวร้าย อะไร๊ หน้าออกจะนางเอกผมฟังเทียนบ่นเรื่องที่โรงเรียนและเดินไปซื้อของไปด้วย ไม่นานเราก็เดินมาถึงแผนกของสด ผมเลื่อนรถเข็นมาเข็นและปล่อยให้เทียนเลือกของไป

    แอปเปิ้ลไปทิ้งไว้หน่อยป่ะ

    เอาดิกินได้หมดแหละครับ จริงๆนะ พอผมตอบแบบนั้นเทียนก็หยิบผลไม้อีก2-3ชนิดใส่รถเข็น ผมเลื่อนรถเข็นตามเทียนไปเรื่อยๆและหางตาผมก็ดันไปเห็นสองคนเดิมที่ผมเห็นตอนแรก ซีหันมาเห็นผม สายตามันแสดงออกชัดเจนว่ามันดีใจมากที่เห็นผมและจะรีบเดินมาหาผม ติดก็แต่วานคว้าแขนมันไว้ ดึงไปควงไว้ และลากมันไปอีกทาง

    อะไรของเธอ

    หมั้นไส้เทียนพูดออกมาดังมาก จนผมหันขวับมาที่เธอ แม้เธอจะทำเหมือนเมื่อกี้เธอแค่พึมพำ แต่ผมรู้ครับว่าเธอตั้งใจ

    ไปหมั้นไส้เขาทำไมเล่า

    ก็ดูนาง ทำเป็นควงแขนซี แฟนก็ไม่ใช่ แล้วยังมีหน้าควงหนีเคียวอีก มั่นมากกกกผมขำ ว่างๆเทียนก็แซะวานเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ

    วานอาจจะไม่เห็นก็ได้

    ตลกเหรอเคียว ใครมันจะไม่เห็น นางตอแหลอ่ะดิ เดี๋ยวก็ตบให้แหลหายซะหรอก

    ไหนบอกว่าเป็นพันธมิตร ไม่ตบกันไง

    เป็นพันธมิตรได้ก็เลิกได้ แหลมากๆมือก็ลั่นเหมือนกันนะผมขำ สังคมน่ากลัวมาก ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงโดนตบจนหน้าหายบวมไม่ทันเลยมั้ง

    นี้ยังเห็นว่าซีโอเคอยู่นะ ถ้าซีอยากไล่นางออกไปเมื่อไหร่ บอกเราได้นะ เดี๋ยวจัดให้

    เธอจะไปทำอะไรเขา

    ทำได้ล่ะกัน อย่าลืมบอกซีนะ รำคาญนางเมื่อไหร่บอกนี้ได้ถ้าผมบอกว่าซีรำอยู่ตอนนี้ เธอจะพุ่งไปแยกมันออกมาเลยไหมอ่ะ

     

    กว่าผมจะกลับถึงหอก็เย็นมากแล้ว ตอนแรกเทียนจะขึ้นมาทำอะไรให้ผมกินด้วย แต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร มันเย็นมากแล้วครับ เธอควรกลับบ้านได้แล้ว แม้เธอจะอิดออดอยู่นิดหน่อย สุดท้ายผมก็บอกเธอว่าจะโทรสั่งมากิน เพื่อความสบายใจว่าผมจะไม่อดข้าวมื้อนี้แน่นอน เธอถึงยอม

    ผมไม่ได้คิดจะโทรสั่งอย่างที่เธอบอกหรอกครับ จะสิ้นเดือนล่ะ ต้องประหยัดตัง แค่ไปซื้อของวันนี้ก็เกินงบไปเยอะแล้วเนี่ย

    อ้าว กำลังจะขึ้นไปผมชะงักมือที่กำลังหยิบแอปเปิ้ลแช่ตู้เย็น เพราะไอ้ซีมันเดินมาแย่งแอปเปิ้ลลูกนั้นและกัดเข้าปากทันที

    หงุดหงิดเหี้ยไรผมคิดไว้ว่าจะจัดของก่อนและถึงจะไปขอฝากท้องที่ห้องซีครับ แต่มันมาอยู่นี้ล่ะ คงไม่ต้องถ่อไปแล้ว

    หน้ากูดูหงุดหงิดเหรอ

    สุดๆ

    กูอึดอัดอ่ะ!!มันกัดแอปเปิ้ลเข้าปากไปอีกคำและแหกปากออกมา

    อะไรของเมิงจะแหกปากช่วยบอกก่อนสิ จะได้ปิดหูทัน

    วันวานมันอธิบายแค่นั้น ยื่นแอปเปิ้ลมาให้ผมกัด ผมหันไปกัดแอปเปิ้ลที่มันส่งให้เข้าปากไปหนึ่งคำ

    ช่วยไม่ได้ป่ะวะ มึงต้องทำงานกับเขาไม่ใช่?

    ไม่อยากทำแล้วอ่ามึงมางอแงใส่กู แล้วกูจะช่วยอะไรได้วะ

    ลองปฏิเสธดูดิ น่าจะได้นะ

    ก็อาจจะได้ ถ้าเป้ไม่รับเงินมาแล้วครึ่งหนึ่ง

    เลิกคบเลยมึง

    ส่วนตัวล่ะหยอดนิดหยอดหน่อยเองแหมกับไอ้เป้นี้ปกป้องจัง

    ยังไม่ได้ทำงาน ได้เงินครึ่งหนึ่งเลยเหรอวะ

    ก็เอออ่ะดิ แปลกๆป่ะ แต่แอลลี่เขาบังคับให้รับเงินก่อนอ่ะ

    เขาบังคับให้มึงทำงานต่อไปต่างหากจบประโยคนั้นของผม ซีมันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    เอาน่า สู้หน่อย เทียนก็แสดงไม่ใช่เหรอไอ้ละครอะไรเนี่ย

    เออ แต่กูแทบไม่ได้คุยกับเทียน อีกนิดกูต้องโดนใส่กุญแจมือคู่กับวานแน่ๆผมเลื่อนมือไปตบบ่ามัน น่าสงสารไปอีก

    เกือบลืม เทียนฝากมาบอกมึงว่า ถ้ารำคาญวันวานเมื่อไหร่ บอกเทียนได้ เธอจะช่วย

    จริง?”

    อื้ม พวกผู้หญิงมีวิธีแก้ปัญหาจริงๆมึง ถ้ามึงไม่ไหวก็ลองบอกเทียนดูหน้าซีหนักใจสุดๆ มันขมวดคิ้วจนคิ้วแทบจะผูกโบว์ได้แล้ว

    จะตบกันป่ะวะ

    ไม่รู้ดิ กูมองไม่ออกหรอกซีมันทำหน้าหนักใจเข้าไปใหญ่

    ถ้าถึงขนาดต้องตบกัน กูก็ไม่อยากบอกเทียนเลยพระเอกรึเกินพ่อคุณ

    แล้วแต่มึงเลยจ๊ะ

    กูไม่คิดว่าจะเจอมึงนะ

    กูก็ไม่คิด

    มึงไปซื้อของกับเทียนแล้วเหมือนแฟนกันเลยเนอะซีมันกินแอปเปิ้ลจนหมดแล้ว

    มึงจะสื่ออะไรเนี่ย

    เปล่า ไม่ได้สื่ออะไรผมหรี่ตาใส่มัน

    เอาความจริงซีมันโยนก้านแอปเปิ้ลลงถังขยะและหันมามองผม

    กูหวงมึงไง

    มึงก็ไปกับวาน

    แล้วมึงหวงกูป่ะล่ะ

    ไม่นะหน้ามันเจื่อนจนเหลือนิ้วเดียวทันทีเมื่อผมตอบแบบนั้น

    หน้ามึงดูไม่ได้เต็มใจอะไร กูจะหวงทำไมซีเหมือนยังไม่พอใจกับคำตอบของผมเท่าไร

    แต่ห่วงมากกว่าและมันก็ยอมยิ้ม จะคีพลุคทำซากอะไร

    กูหิวซีมันไม่ได้ตอบ แค่เดินไปเปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรที่พอจะทำให้ผมกินได้บ้าง

     

    ผมใช้เวลาทั้งอาทิตย์ไปกับการสอบเก็บคะแนน ทำงานต่างๆ พวกผมเทอม2แล้วนี้ครับ เป็นเรื่องที่รู้กันว่าม.6 เทอม2นี้เข้าเรียนนับครั้งได้ เพื่อความปลอดภัยว่าพวกผมจะมีคะแนนไว้ใช้ตัดเกรด ครูเลยรุมกันสั่งงานจนผมเบลอไปหมด ไหนจะต้องตระเวรสอบรับตรงของมหาลัยต่างๆอีก

    เทียนยังคงแวะมาหาผมอย่างสม่ำเสมอแม้เธอจะมีซ้อมละครทุกเย็นก็ตามที นี้เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของเทียน เธอติดมหาลัยแล้วครับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ของมหาลัยTOP 5ของประเทศ พวกคณะอินเตอร์เนี่ย มันก็ได้เปรียบตรงสอบก่อน ติดก่อนนี้แหละครับ ถามว่าทำไมผมไม่เข้าภาคอินเตอร์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ผมเบื่อภาษาอังกฤษแล้วครับ ผมใช้ชีวิตอยู่กับมันมาตั้งแต่เด็กแล้ว เหมือนกับว่าเมื่อก่อนผมconversationเก่งมาก แต่พอเรียนลึกขึ้น แกรมม่าก็ยากมากขึ้น ผมเลยเริ่มไม่มีความสุขกับการเรียนภาษาอังกฤษเท่าไหร่ล่ะ กลัวเรียนลึกเข้าไปกว่านี้และผมจะเกลียดภาษาอังกฤษจนไม่กล้าพูดอีกด้วย เลยถอนตัวตั้งแต่เนิบๆดีกว่า

    ส่วนซีมันก็ยังคงแวะมาหาผมอยู่ แต่มันจะรอจนกว่าเทียนจะกลับไปก่อน มันถึงจะมา ล่าสุดมันบ่นกับผมว่าเหมือนมันเป็นเมียน้อยผมแล้วครับ

    ผมไม่เคยได้แวะไปดูเทียนซ้อมละคร หรือไปดูซีทำงาน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสไปสักที แต่วันนี้...อยู่ๆเทียนก็ชวนให้ผมไปดู มันไม่มีการบ้านอะไร (ที่ส่งพรุ่งนี้) ด้วยครับ ตอนนี้ผมเลยมายืนอยู่หน้าแอลลี่เรียบร้อย

    ไม่ได้แวะมานานเลยแหะ

    มาเร็วจังงงเทียนกำชับผมอย่างดีว่าถ้าผมมาถึงแล้วให้โทรหาเธอ ห้ามเดินเข้าไปคนเดียวเด็ดขาด ผมก็ไม่เข้าใจหรอกนะ แค่ทำตามที่เธอบอกเฉยๆ

    เทียนวิ่งมาจนประชิดตัวผม แย่งแก้วเป๊ปซี่ในมือผมไปดูดและคล้องแขนผมเข้าไปในโรงเรียน

    นี้เริ่มซ้อมไปยังอ่ะผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอต้องกำชับว่าจะออกมารับผมด้วย ไม่ทำให้เสียเวลาซ้อมหรอกเหรอ

    กำลังจะเริ่มล่ะ รอเคียวไง

    จริงดิ?”

    อ่าฮะ รีบเดินดิ จะได้รีบซ้อมผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจากสาวเท้าให้เร็วขึ้นไปอีก

    ละครเวทีของแอลลี่ซ้อมกันที่หอประชุมใหญ่ของแอลลี่นั้นแหละครับ เมื่อผมเปิดประตูเข้าไป ก็พบกับผู้คนมากหน้าหลายตากำลังเตรียมความพร้อม ผมคิดว่าคนจะน้อยกว่านี้ซะอีก

    เทียนจับให้ผมนั่งลงที่นั่งตรงกลางฮอลล์ และเธอก็วิ่งขึ้นไปบนเวที ไอ้ซีที่ถ่ายรูปอยู่บนเวทีพอหันมาเห็นผม มันก็ลดมือที่ถือกล้องลง กระโดดลงจากเวที และวิ่งเข้ามาหาผมแทน

    นี้มึงทำงานทิ้งๆขว้างๆได้ด้วยเหรอ

    กูถ่ายมานานล่ะ ขอพักบ้างเหอะซีทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผมและแย่งเป๊ปซี่ในมือผมไปกินอีก พวกมึงเอาไปกินให้หมดเลยก็ได้นะ

    ผมนั่งคุยกับซีอยู่ไม่นาน ไฟบนเวทีก็ดับลง คงเริ่มซ้อมกันแล้วสินะ

    เรื่องอะไรวะผมมาดูโดยไม่รู้ว่าเรื่องอะไรด้วยซ้ำอ่ะคิดดู

    เจ้าหญิงนิทรา

    ผมหันไปสนใจการซ้อมเบื้องหน้า แค่ซ้อมต้องอลังการขนาดนี้เลยแหะ

     

    เมื่อการซ้อมจบลง ผมและซีก็ตบมือให้พวกเธอ ไม่รู้ว่าจะตบทำไมเหมือนกัน แค่รู้สึกว่าพวกเธอตั้งใจซ้อมและทำออกมาได้ดีมาก ก็เลยอยากชื่นชมแค่นั้น

    เทียนยืนคุยอะไรสักอย่างกับเพื่อนแต่ยังคงหันมามองผมเป็นระยะๆ

    ซี!อันนี้พีค ตอนแรกวานมองซีอยู่นานมาก แต่ซีก็ทำเป็นเนียนไม่รู้ครับ (ผมรู้ว่ามันรู้ ผมนั่งข้างๆยังรู้เลย) จนแล้วจนรอด เธอก็เรียกซีเลยครับ ซีมันแอบหันมาทำหน้าร้องไห้ใส่ผม สงสารรร แต่จะทำอะไรได้ครับ สุดท้ายซีก็ยอมเดินไปหาวาน

    ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแทน ไม่รู้มีการบ้านอะไรบ้างเนี่ย ผมเข้าแอพนู้นออกแอพนี้อยู่สักพัก ก่อนที่ซีมันจะกลับมานั่งที่เดิม

    แม่มึงว่าไงผมทักโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองมันด้วยซ้ำ ซีไม่ได้ตอบแค่ยื่นขนมอะไรสักอย่างมาป้อนผม ผมที่หิวอยู่พอดีก็ไม่มีคิดอะไรทั้งนั้น งับขนมชิ้นนั้นเข้าปากทันที

    ก็ไม่ว่าไง เป็นเรื่องปกตินะโอ้โหหหหหนี้ยิ่งกว่าแม่อีก

    ไม่ใช่แค่แม่แล้วมั้ง คงอยากเป็นมากกว่านั้นอ่ะซีมันหันมามองค้อนผม

    เสียดาย แต่พอดีกูมีเมียอยู่แล้วไงมองกูแบบนั้นคือเห้ไร

    หรือบางทีอาจจะมีผัวอยู่แล้วก็ได้ซีมันกลอกตาใส่ผม

    ยอมรับความจริงหน่อยยยยผมยิ้มและอ้าปากช้าๆใส่มันเป็นคำว่า กวน - ตีน

     

    เคียว! เทียนลืมลิปกรอสอ่ะผมหันกลับไปมองเทียน เธอกำลังหาลิปกรอสเจ้าปัญหาในกระเป๋าใบยักษ์ของเธอ

    หาดีแล้วเหรอกระเป๋าใบใหญ่ขนาดนั้นครับ

    หาดีแล้ว เดี๋ยวเทียนกลับไปเอาแปบหนึ่งนะผมคว้าแขนเทียนไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะวิ่งกลับเข้าไปในหอประชุม เราซ้อมกันเสร็จแล้วและผม ซี เทียน ก็จะกลับเลย หลังจากที่นั่งรอเทียนเก็บของนานนนมาก เราก็จะได้กลับกันสักที แต่เธอก็ดันมาลืมลิปกรอสอีกและเชื่อเถอะ ถ้าผมปล่อยเธอเข้าไปหาลิปกรอส เธอจะหายไปนานนนมากเหมือนเดิม

    เดี๋ยวเราไปเอาให้

    เอางั้นเหรอ

    เอางั้นแหละ ลิปกรอสสีไร

    ชมพู ของdiorนะผมพยักหน้ารับ วิ่งกลับเข้ามาในหอประชุมและตรงไปที่ห้องแต่งตัวนักแสดงหลังเวทีทันที หลังเวทีแทบจะไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงวานที่เหมือนเธอกำลังเก็บของอยู่ เธอปลายตาขึ้นมามองผมนิดหน่อย และผมก็ยิ้มคืนไปให้เธอ แต่เธอกลับเมิน ช่างเหอะ ผมไม่ได้สนใจจะทักทายอะไรอยู่ล่ะ

    ผมเดินเข้าไปหาลิปกรอสของเทียน สีชมพูของdior...

    และผมก็เจอปัญหา เพราะมันมีลิปกรอสสีชมพูของdior 2แท่ง แท่งแรกสีชมพูอ่อนอีกแท่งสีชมพูเข้ม จำเป็นต้องทำสีใกล้กันขนาดนี้เพื่ออะไรเนี่ย

    วาน อันไหนลิปกรอสเทียนเหรอและผมก็ไม่มีทางเลือกต้องหันไปถามวาน วานยังคงทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ แต่มีรึที่คนอย่างผมจะยอม ผมเดินอ้อมไปอยู่ตรงหน้าเธอและยื่นลิปกรอส2แท่งให้เธอดู

    อันไหนของเทียนเหรอเธอถอนหายใจใส่ผมเหมือนรำคาญผมเสียเต็มที่ อะไรของเธอวะ ผมยังไม่ได้คุยกับเธอสักคำ แต่อย่างน้อยเธอก็ยอมชี้แท่งสีชมพูอ่อน

    ขอบคุณนะผมพูดขอบคุณเธอตามมารยาท วางลิปกรอสอีกแท่งไว้ที่เดิม และหันหลังกลับเพื่อออกจากห้องนี้

    เคียวผมชะงักเท้าที่กำลังจะก้าว

    เลิกเข้าใกล้ซีได้ป่ะผมหันกลับมามองหน้าเธอ

    เราไม่อยากให้คนอื่นมองว่าคนของเราเป็นเกย์คนของเรา เนี่ยนะ ผมแค้นเสียงหัวเราะกับสรรพนามเรียกซีของวาน

    ผมกับซีเราต่างกัน ถ้าผมไม่ชอบใครคือไม่ชอบ ถ้าเกลียดใครคือเกลียด แตกต่างกับซีที่บางครั้งมันไม่ชอบใครสักคน แต่ต้องเก็บความรู้สึกไว้ ผมร้ายกว่าซีเยอะ จริงๆกับคนทั่วไปผมก็จัดเป็นคนร้ายประเภทหนึ่ง ยิ่งเทียบกับซียิ่งแล้วใหญ่เลย และผมพร้อมจะเลวได้เต็มที่ถ้ามีใครสักคนหาเรื่องผมก่อน

    โดยไม่สนว่าคนนั้นเป็นใคร

    ผมสาวเท้าเข้าไปหาวานช้าๆ ดูเธอจะตกใจนิดหน่อยที่ผมเลือกจะเดินเข้าไปหาเธอแบบนั้น แต่ผมก็ยังคงเดินเข้าไปใกล้ขึ้นๆ จนวานถอยไปจนหลังของเธอชิดกับผนังด้านหลัง ผมยิ้มบางๆส่งไปให้ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเธอ และกระซิบที่ข้างหูของเธอว่า

    เดี๋ยวก็รู้ว่าซีเป็นคนของใคร

    ผมเดินออกมาข้างนอกด้วยท่าทางปกติสุดๆ แต่ผมก็ไม่ได้ทำไรผิดนะ หันไปส่งลิปกรอสคืนให้เทียน แต่ผมก็อดที่จะหันไปมองซีไม่ได้ ซีมันอ่านอะไรสักอย่างในโทรศัพท์และเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า พอมันเงยหน้าขึ้นมาก็สบตากับผมพอดี

    ผมเห็นแววตามันผมก็รู้แล้ว

    วันวานขี้ฟ้อง


     




    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    100%สักทีค่ะพี่ ขอให้สนุกกับการอ่านนะ

    ฝากเรื่องของพายภีมหน่อยยย

    http://my.dek-d.com/lluksanapornn/writer/view.php?id=1410122

    เจอกันเร็วๆนี้นะคะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×