ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    mindmate

    ลำดับตอนที่ #22 : English Camp (?)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 586
      7
      17 ต.ค. 58

    22

    ก่อนที่พี่จะแจกกุญแจและให้ทุกคนเอาของไปเก็บ พี่จะแบ่งกลุ่มให้ก่อนนะครับฮัลโหลลลลจันทบุรี หลังจากบากบั่นนั่งรถทัวร์กันมาร่วม4ชั่วโมง พวกเราก็มาถึงที่หมายที่จังหวัดจันทบุรีกันแบบปลอดภัย ครบถ้วน32ประการ ตอนนี้ผมเลยให้น้องๆทุกคนรับกระเป๋าและกอดมันเอาไว้ก่อนเพราะผมจะแบ่งกลุ่มก่อนครับ

    น้องที่ป้ายสีเดียวกันรวมกลุ่มกันเลยครับแน่นอนว่าผมได้ยินเสียงโอดครวญจากน้องๆดังออกมาทันทีที่ผมพูดจบ แต่ทุกคนก็ยอมลุกขึ้นไปหาชาวป้ายสีเดียวกันตามที่ผมสั่ง

    ครบล่ะนะ มีใครยังหาสีตัวเองไม่เจอบ้างผมรอให้น้องสักคนยกมือขึ้นมา แต่เมื่อไม่มีผมเลยพูดต่อ

    มีทั้งหมด5สีนะ ตอนนี้สีล่ะ6คน มีม่วง น้ำเงิน แดง ส้ม เหลือง แต่ล่ะสีจะมีพี่ที่คุมต่างกัน เดี๋ยวพี่จะบอกว่าพี่คนไหนคุมสีไหนบ้าง โอเคนะครับ

    ครับ/ค่ะ

    สีแดงงงงง พี่....พี่...พี่รูทนะครับ ร่วมด้วยพี่นิวนะไอ้รูทกับนิว ม.4 เป็นคนดูแลสีนี้ครับ ตอนแรกพวกเราเลือกกันไม่ถูกว่าใครจะคุมสีไหน สุดท้ายเลยแก้ปัญหาด้วยการจับสลาก พี่2คนต่อน้อง1สี ส่วนพี่ที่เหลือก็เป็นฝ่ายซัพพอร์ต ฝ่ายกิจกรรมอะไรไปครับ

    สีส้มม พี่เฟรมกับพี่ฟ่านะไอ้ฟ่ากับไอ้เฟรมแอคติ้งกอดคอกันแบบน่าหมั้นไส้สุดๆ ตอนจับสลากได้นี้พวกมันพูดเยาะชาวบ้านเขาเต็มที่ แถมยังบอกด้วยว่าขอแสดงความเสียใจกับทุกคนด้วย สีส้มชนะชัวร์

    สีเหลืองงง พี่ยะกับพี่แม็กซ์นะไอ้ยะได้น้องแม็กซ์นี้โครตน่าอิจฉาครับ สั่งอะไรทำหมดแล้วทำได้ด้วยไงประเด็น

    สีน้ำเงินนนน พี่บอสกับพี่เมฆนะไอ้บอสกับเมฆ ม.5 ไอ้เมฆนี้ก็สายเดียวกับพวกไอ้นอร์ธ ไอ้กัม ไอ้เกมส์นั้นแหละ แล้วนี้ผมบอกไปรึยังว่าผมเด้งไอ้กัมกับไอ้เกมส์ไปเป็นน้องค่าย หลังจากคิดๆดูแล้วให้มันมาเป็นพี่ค่ายก็คงไม่ช่วยอะไรสักเท่าไหร่

    ผมพึ่งสังเกตว่านอกจากซีก็มีไอ้เต้อีกคนที่อยู่สีน้ำเงิน ลงล็อคพอดีเลยดิ แต่พอมองหน้าไอ้ซีที่โครตจะเซ็งแล้วผมก็พอจะเก็ต

    มันคงคิดว่าผมจะเป็นพี่ดูแลสีมันอ่ะดิ

    ก็ผมชอบสีน้ำเงินพอดี

    แต่มึงคิดผิดว่ะ

    ส่วนสีสุดท้าย สีม่วง ก็พี่เองกับพี่นอร์ธนะได้นอร์ธก็ยังดีนะครับ

    พี่ๆแต่ล่ะสีจะคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆนะ เราจะเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ ถ้าสีไหนมากสุดก็ชนะไป แต่ถ้าสีไหนน้อยสุด ก็โดนลงโทษตามระเบียบนะครับน้องๆพยักหน้าเข้าใจ

    โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ให้พี่รูทมาแจกกุญแจห้องพักและก็แยกย้ายไปพักผ่อนได้นะครับ เจอกันเที่ยงที่ห้องอาหาร

     

    ผมเอากระเป๋าไปวางไว้ที่ห้องพัก ก่อนจะเดินออกมาดูรอบๆ

    ที่พักของเราเป็นค่ายทหารครับ เห็นเขาว่ามางั้นนะ เรื่องที่พักกับอาหารนี้ผมขอให้โรงเรียนที่จันทบุรีช่วยดูแลให้ ซึ่งที่พักที่เขาติดต่อให้ก็ถึงว่าโอเคนะครับ เพราะเป็นค่ายทหารก็เลยดูสะอาดดี ห้องพักมี 2 ขนาด คือ ห้องใหญ่จะมีเตียงนอนเป็นสิบเตียงเลยครับ ถ้าห้องเล็กก็ครึ่งหนึ่ง ประมาณ5เตียง ในแต่ล่ะห้องก็จะมีห้องน้ำอีก3-4ห้อง

    ที่สำคัญคือมันอยู่ติดกับทะเลครับ แบบเดินออกมาจากบ้านพักเดินอ้อมมาข้างหลังก็เจอทะเลเลย ตอนนี้ผมก็เดินอยู่ริมทะเลเนี่ย และด้วยความที่เป็นค่ายทหารเลยไม่มีคนพลุกพล่านเหมือนทะเลทั่วๆไป อย่างตอนนี้ผมก็เห็นมีแต่พวกเราและน้องๆในค่ายเท่านั้นครับ บ้างก็ถ่ายรูปบ้างก็จับกลุ่มคุยกัน

    ฮัลโหลลลลผมคงจะมองวิวต่อไปอีกสักพักใหญ่ๆถ้าไม่มีผู้หญิงตาโตคนหนึ่งโผล่เข้ามาในทัศนวิสัยการมองเห็นของผมซะก่อน

    เคียวป่ะเธอเปลี่ยนจากยืนอยู่ข้างหลังผมแล้วโผล่หัวเข้ามาเป็นกระโดดมาอยู่หน้าผมแทน เฮ้ยนี้จะพลังงานเหลือไปป่ะเนี่ย

    อ่าฮะ

    นี้จำเราได้ป่ะเดี๋ยว... เคยรู้จักกันด้วยเรอะ แต่เสียงคุ้นๆนะ

    ลูกตาล?”

    ป้๊งป่อง! จำได้ด้วยอ่ะลูกตาลเป็นคนจากโรงเรียนของจันทบุรี ที่รับหน้าที่ติดต่องานกับผม หลังจากโทรคุยกัน3-4ครั้ง ผมก็พอจะจำเสียงเธอได้ แต่เอาจริงผมก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นผญ.ตาโต พลังงานเหลือตลอดเวลา ร่าเริง ยิ้มเก่ง อัธยาศัยดี แล้วยังจะแก้มป่องๆนั้นอีก โดยรวมคือเธอเป็นผญ.ที่น่ารักคนหนึ่งเลยแหละครับ

    ไหนว่าจะมาเย็นๆตามกำหนดการถือว่าพวกผมมาถึงที่พักเร็วกว่านิดหน่อย พอโทรถามเธอ เธอก็บอกว่าคงรวมน้องออกมาได้ตอนเย็นๆ พวกผมให้ทางนี้รับอาสาสมัครอีก10คน ส่วนพวกตัวพีคอย่างลูกตาลกับเพื่อนของลูกตาลอีก2คน ผมนับรวมอยู่ในพี่ค่าย20แล้วครับ สรุปยอดอาสาสมัครเข้าค่ายตอนนี้ของเราก็คือน้องค่าย40 พี่ค่าย20

    มันออกมาได้ก่อนอ่ะ เลยแวะมาก่อนเธอยังคงพูดพร้อมๆกับรอยยิ้ม

    นี้ร้อนม่ะ เข้าข้างในเหอะผมมัวแต่คุยกับตาลจนลืมสังเกตว่าแดดเริ่มร้อนอีกแล้ว จนเธอทักเนี่ยแหละ

    พวกเราเตรียมข้าวเที่ยงไว้ล่ะนะ ให้น้องมากินได้เลยจริงๆไม่ต้องบอกก็ดูไอ้พวกนี้พร้อมกินล่ะครับ เพราะผมเห็นพวกมันยืนอออยู่หน้าประตูห้องอาหารแล้วเรียบร้อย

    อาหารของเราเหรอพี่?” ผมที่งงๆอยู่โดนไอ้กัมลากแขนไปถามครับ

    คิดว่านะ

    เฮ้ยยยย ดีอ่ะ กินได้ยัง

    เอาดิ กินเลยเขาก็เตรียมไว้ให้เรากินอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ

     

    เป็นไง อาบน้ำเรียบร้อย สบายตัวยังงงผมได้ยินเสียงยะจากห้องมีทติ้งดังแว่วๆมา ส่วนตัวผมนี้พึ่งได้กินข้าวครับ (มื้อเย็นนะ) พวกผมใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับกิจกรรมwalk rallyนิดหน่อย นี้ผมรู้สึกเหมือนมาค่ายenglish campมากกว่าค่ายอนุรักษ์ธรรมชาติล่ะ แต่เพราะว่าเราตกลงกับเจ้าหน้าที่ไว้ว่าจะไปปลูกป่าพรุ่งนี้ ก็ต้องพรุ่งนี้ครับ วันนี้เลยหากิจกรรมอะไรมาเล่นฆ่าเวลาไปก่อน แล้วwalk rallyก็ไม่เลวนัก

    เพราะมัวแต่คุมฐานเนี่ยเลยยังไม่ได้กินข้าวเลย

    กินข้าวให้อร่อยนะจ๊ะพี่เคียว

    จาาาผมส่ายหัวปลงๆให้ตาลที่แวะมาเอาของที่ห้องอาหารและรีบวิ่งออกไป ทั้งหมดในห้องอาหารนี้มีแค่ผมกับอาหารเท่านั้นครับ

    เดี๋ยวถ้ากินเสร็จก็คงต้องกลับไปดำเนินรายการต่อตามเดิม

    ทุกคนนน ตบมือรับพี่เขาหน่อยเร็วววผมมองแรงใส่ไอ้ยะตอนที่มันสั่งให้น้องตบมือตอนผมเดินเข้ามา ตบทำเผือกไรล่า

    งั้นให้พี่เคียวเขามาอธิบายเกมส์ล่ะกันเนอะผมเลิกคิ้วใส่มัน เดี๋ยวๆเกมส์ไร แล้วทำไมมึงไม่พูด

    สำนวนๆแต่ก็ต้องขอบคุณที่มันยังอุตสาห์กระซิบบอกชื่อเกมส์ผมตอนที่ส่งไมค์ให้

    เกมส์นี้ เป็นเกมส์ใบ้คำนะ แต่ถ้าแค่ใบ้คำมันก็เบสิกไปช่ะ พี่เลยจะให้ส่งตัวแทนมา หยิบลูกโป่งขึ้นมาและจิ้มให้แตกเพราะคำศัพท์อยู่ในลูกโป่ง แล้วก็วาดรูป แค่นั้นแหละหน้าทุกคนดูเข้าใจ ผมเลยพูดต่อ

    แต่คำศัพท์ธีมสำนวนนะ

    โหยยยยยยยคราวนี้เสียงโหยหวนมาเต็มที่ครับ ผมทำเป็นหูทวนลมก่อนที่จะพูดต่อ

    ทีมที่ตอบได้ทีมแรกจะได้20คะแนน ลดลงทีมล่ะ5คะแนน ทีมสุดท้ายก็ไม่ได้คะแนน เก็ต?” น้องตะโกนตอบกลับมาว่าเก็ต

    ทีมที่ได้น้อยสุดจะโดนลงโทษ โดยทีมที่ได้เยอะสุดจะสั่งอะไรคนแพ้ก็ได้ผมยิ้มออกมา บทลงโทษในหัวนี้มีเป็นล้านเลยครับ ขอให้ชนะเถอะ

    ถ้าไม่มีอะไรสงสัย ก็ส่งตัวแทนออกมาได้เลยครับ

    ในที่สุดผมก็เข้าใจคำว่าขำจนท้องแข็ง เพราะตั้งแต่เริ่มเกมส์นี้ผมยังขำไม่หยุดเลยครับ ตั้งแต่สีเหลืองส่งไอ้กัมออกมาเล่น แล้วดันเป็นรอบเดียวกับสีแดงส่งไอ้เกมส์ออกมาเล่น มันไฝว้กันจนเกือบตัดพี่ตัดน้องกันล่ะครับ และแต่ล่ะคนนี้ก็สกิลการวาดรูปต่ำมาก ขนาดผมเป็นคนเลือกสำนวนยังงงเลยครับว่ามันใบ้สำนวนไหน แล้วยังจะพวกสาวๆที่กรี๊ดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงลูกโป่งแตก อาจจะดูชุลมุนวุ่นวายไปหน่อย แต่มันก็ฮาดีครับ

    พี่จะประกาศคะแนนนะผมให้หน้าที่นับคะแนนเป็นของบอสกับฟ่า เพราะถึงพวกมันจะคุมสีเหมือนกันแต่มันก็ยังคงดูเป็นคนที่ยุติธรรมที่สุดในพี่ค่ายอยู่ดี

    ที่1คือ....ขอเถอะที่1เนี่ย อยากลงโทษชาวบ้านเขา

    สีส้มครับโอ้โห พวกสีส้มวิ่งแปะมือ กอดกันใหญ่ ส่วนพี่ที่คุมสีอย่างไอ้เฟรมและไอ้ฟ่า ก็ยืดกันใหญ่เลยครับ หมั้นไส้จริงๆ

    ที่2 สีน้ำเงินนะ

    ที่3 สีแดงเดี๋ยวๆสีม่วงไปไหนแล้ว...

    ที่4 สี....ผมเริ่มรำคาญไอ้ยะล่ะครับ บิ้วจริงเว้ย บอกมาเลยว่าสีม่วง (จุดนี้ที่4ก็ยอมครับ ขอแค่ไม่ใช่ที่โหล่)

    สี... สีเหลืองนะ แสดงว่าสีม่วงได้ที่โหล่นะเฮ้ยยยยยยยยยย ผมกับนอร์ธเหมือนถูกแช่แข็งเลยครับ เห็นน้องมันตอบเอาๆนี้ผิดเรอะ ทำไมมมม

    ไหนขอดูหน้าพี่ที่คุมสีหน่อยดิ้เพราะไอ้เฟรมมันชนะไง เลยกวนตีนได้เต็มที่ เตรียมใจไว้เถอะ ไม่ได้มีเกมส์เดียวซะหน่อยยยย

    “ลงโทษไรดี” ส่วนไอ้ฟ่าก็ทำเป็นถามความคิดเห็นน้องในทีมมันครับ แหมๆ

    “คิดไม่ออกไม่ต้องลงโทษก็ได้นะ” ยิ่งคนชนะเป็นไอ้เฟรมกับไอ้ฟ่านี้ยิ่งเซ็งเลยครับโหยยยย

    “เฮ้ยๆ คนแพ้อยู่เงียบๆได้ป่ะ” เกลียดดดดด

    “ร้องเพลงๆ” ผมเห็นน้องคนหนึ่งในทีมสีส้มยกมือบอก ร้องเพลงเรอะ...

    “อย่าๆ” แต่ไม่ทันล่ะครับ ถึงไอ้เฟรมมันจะขัดขึ้นมาแต่โชคดีที่ในห้องมีทติ้งรูมนี้มีกีตาร์วางอยู่ ผมเลยยกกีตาร์มาถือรอเลยครับ

    “ไม่ได้ๆ สั่งแล้วก็สั่งเลยดิ” นี้กูถือกีต้าร์รอแล้วเนี่ย

    “เอางั้นเหรอ” ไอ้เฟรมดูจะเสียดายที่ได้สั่งอะไรที่ง่ายเกินไป หึหึ ช่วยไม่ได้นะเพื่อน และคราวหน้านี้คงไม่มีล่ะด้วยไง

     

    “เพลงไรดีนอร์ธ” สุดท้ายผมกับนอร์ธก็ต้องร้องเพลงเป็นการทำโทษ ในระหว่างที่ผมรอไอ้นอร์ธเลือกเพลงผมก็นั่งปรับสายกีตาร์ไปพลางๆ แต่เพราะมันไม่มีเครื่องปรับสายครับเลยปรับให้มันฟังดูไม่น่าเกลียดก็พอ ผมก็ไม่ได้เซียนปรับสายขนาดนั้นด้วย

    “กูก็ไม่ได้เล่นมานานล่ะเหมือนกันแหะ” ผมถูมือไปมา กีตาร์นี้ไม่ได้จับมาสักพักใหญ่ๆล่ะครับ ดีที่นิ้วมันด้านแล้วด้านเลย แต่จะจับคอร์ดทันไหมนี้ต้องลุ้นกันหน่อยล่ะ

    “โอ้โหระดับพี่เคียวล่ะ กีตาร์นี้แทบจะเป็นอวัยวะส่วนที่33อยู่แล้ววว”

    “เว่อร์ไปล่ะมึง หาเพลงไป” ก่อนที่จะถูกดึงตัวมาอยู่ชมรมจิตอาสา ผมอยู่ชมรมดนตรีของโรงเรียนมาครับ ช่วงม.ต้นนี้คลั่งดนตรีมาก จำได้ว่าคลั่งขนาดที่กลับไปเล่นเปียโนที่แม่ซื้อมาตั้งไว้กลางบ้านเลย ผมเล่นมันครั้งแรกตอนเด็กๆเลยครับ อนุบาล ประถมอะไรเถือกๆนั้นเลย เพราะแม่ผมนี้อยากให้ลูกเล่นเปียโนมากเลยจับผมไปเรียน แต่เรียนได้ไม่นานผมก็ขี้เกียจครับ งอแงจนแม่ต้องยอมให้ออก พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเหมือนชีวิตมันต้องติ่งอะไรสักอย่างอ่ะ บางคนก็ศิลปินเกาหลี ศิลปินตะวันตก หรือดารา เน็ตไอดอลอะไรแบบนี้ ส่วนผมนี้ก็ดนตรีครับ ดนตรีเท่านั้น ไม่เกี่ยงว่าดนตรีประเภทไหน ถ้าว่างผมก็เอามาเล่นหมด

    และผู้ชายที่เล่นกีตาร์ได้ในสมัยนั้นนี้โครตเท่ ผมเลยเสียเวลากับกีตาร์ไปเยอะสุด เคยฝึกจับคอร์ดและตีคอร์ดเป็นวันๆ เลือดนี้ซึมเลยครับ แต่ก็ไม่หยุดนะ ยังคงลองผิดลองถูกกันไป

    ผลลัพธ์ของมันก็โอเคอยู่นะครับ แม้จะไม่ได้ผ่านมาจุดนี้ง่ายๆแต่ผมก็เล่นกีตาร์ได้ระดับหนึ่ง บวกกับเครื่องดนตรีอย่างอื่นอีกไม่มากไม่น้อย อย่างน้อยๆเราก็ได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ และตอนเห็นช่อง ความสามารถพิเศษ ก็ไม่ต้องนั่งนึกนานด้วย

    Greenlightไหมพี่ ไม่ยากไปด้วย” Greenlightของ5 second of summer เป็นเพลงที่ผมเคยแกะคอร์ดอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเรื่องจับคอร์ดไม่น่ายาก และตัวเพลงเองมันก็ไม่ได้ร้องยากมากๆอะไร ดังนั้นผมเลยพยักหน้าตกลง แต่ขอเวลานึกคอร์ดแปป

     

    ผมรู้สึกเหมือนได้ซ้อมไม่ถึง5นาที เพราะเตรียมคร่าวๆเสร็จไอ้ยะก็เรียกให้ขึ้นไปร้องบนเวทีล่ะครับ เอาไงเอากันวะ the show must go onครับ

    “ขอบคุณคร้าบบบบ” ผมขอบคุณเสียงตบมือ ก่อนที่จะนั่งขัดสมาธิให้ถนัดที่สุดและวางกีตาร์ไว้บนตัก

    “ไม่ได้เล่นกีตาร์มาสักพักแล้ว และกีตาร์นี้ก็ไม่มีเครื่องปรับสาย เสียงมันอาจจะเพี้ยนๆไปหน่อย แถมยังมีเวลาซ้อมแค่นั้นด้วย ถ้าเพี้ยนห้ามว่านะ”

    “คร้าบ/ค่า” ผมขำ เมื่อน้องๆให้ความร่วมมือและตั้งใจฟังกันสุดๆ พอหันไปมองข้างๆก็เห็นพวกพี่ค่ายก็ตั้งตารอฟังเหมือนกัน อ้าวกดดันเฉยเลยเนี่ย เอาน่า เราทำได้ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆจัดไมค์ให้ตรงกับปากและหันไปมองไอ้นอร์ธที่นั่งอยู่บนกลองคาฮองว่ามันพร้อมรึยัง พอมันพยักหน้า ผมก็หันกลับมาและเริ่มเกากีตาร์

     

    It started with a picture,

    มันเริ่มจากรูปภาพ

    Those messages you sent to me,

    เหล่าข้อความที่คุณส่งถึงฉัน

    You're like the perfect mixture,

    คุณเป็นเหมือนกับการผสมที่ลงตัว

    Of Megan Fox and Katy,

    ของเมแกน ฟอร์ก และเคที่

    It's such a sick obsession,

    มันเหมือนกับความหลงใหลที่แย่ๆ

    And now you’re got the best of me,

    และตอนนี้คุณคือที่สุดของฉัน

    I’ve got the worst intentions,

    ฉันมีความตั้งใจที่เลวร้าย

    So call me over set me free,

    ดังนั้นบอกฉันเถอะนะ ปลดปล่อยฉันที

    I can give you what you want,

    ฉันสามารถให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ

     It's taking me over,

    มันทำให้ฉันพ่ายแพ้

    I don’t wanna play this game no more,

    ฉันไม่อยากจะเล่นเกมส์นี้อีกแล้ว

    All you gotta do is tell me right now,

    ทุกสิ่งที่คุณต้องทำคือบอกฉันเดี๋ยวนี้

    You want me right now, come on,

    บอกว่าคุณต้องการฉันตอนนี้ เร็วเข้าสิ

    Give me the green light,

    ให้ไฟเขียวกับฉันเถอะ

    We could have all night,

    เราสามารถมีได้ทั้งคืนเลยนะ

    If you just say the word,

    แค่คุณพูดคำๆนั้น

    Tell me it’s alright,

    บอกฉันสิว่ามันไม่เป็นไร

    Give me the green light,

    ให้ไฟเขียวกับฉัน 

     

      ตัวเพลงมันเป็นเพลงเข้าใจง่ายและยังพอเรียกให้โยกตัวตามได้บ้าง (เราต้องเล่นเวอชั่นacoustic) ผมเลยรู้สึกว่าทุกๆคนในที่นี้ให้ความร่วมมือสุดๆ ส่งผลให้ผมเริ่มผ่อนคลายและขอปล่อยตัวไปกับเสียงดนตรีสักพักนะ

     

    “พี่เคียวร้องเพลงเพราะจัง”

    “ขอบคุณนะคร้าบบ ไปนอนได้แล้วเรานะ” ผมกำลังเก็บของอยู่ตอนที่น้องผู้หญิงกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาชมผม พอผมบอกให้ไปนอนพวกเธอก็ยิ้มและรีบวิ่งไปเลย

    “ว่างๆพี่สอนผมเล่นกีตาร์บ้างดิ” คราวนี้เป็นน้องม.4ที่กูเฮ้วๆคนหนึ่ง

    “เอาดิ แต่ตอนนี้ไปนอนได้ล่ะ” หลังจากที่โชว์ร้องเพลงกับไอ้นอร์ธจบ ผมก็ปล่อยให้น้องๆไปนอนครับ ซึ่งก่อนจะออกจากมีทติ้งรูมก็มีน้องๆบางคนแวะเข้ามาชมว่าเล่นกีตาร์เก่งบ้างล่ะ ร้องเพลงเพราะบ้างล่ะ

    ผมนี้ทำตัวไม่ถูกเลย ไม่ใช่ว่าไม่เคยโดนชมหรอกนะ แต่โดนชมกี่ครั้งมันก็ไม่ชินครับ นี้ผมก็ยังเขินๆอยู่นิดหน่อยเลยเนี่ย

    “ร้องเพลงเพราะนักนะ” นั้นไง ยังไม่ทันไร ตาลที่ผมเห็นรอจังหวะอยู่นานพอได้จังหวะก็เข้าชาร์ตมาแซวผมเลยครับ

    “ประชดป่ะเนี่ย”

    “พูดจริงงง นี้นักร้องระดับมืออาชีพเลยนะ” เห็นตาโตๆนั้นใส่ฟีลลิ่งเต็มที่ล่ะผมก็ขำครับ เธอดูเป็นคนซื่อๆไม่มีพิษมีภัยดีแหะ

    “เว่อร์ล่ะเว่อร์”

    “อ้าววว พูดจริงนะ โคฟเวอร์เพลงลงยูทูปได้เลยเนี่ย”

    “ก็โคฟอยู่นะ” เปิดชาแนลกัน4คนนั้นแหละครับ แน่นอนว่าถ้าผมบ้าดนตรีช่วงม.ต้น ไอ้รูท เฟรม ยะ ก็ต้องบ้าด้วย บ้ากันจนถึงขั้นตั้งวงดนตรี โคฟเวอร์เพลงลงยูทูปไรงี้เลยนะ แต่ช่วงนี้วุ่นๆเลยไม่ค่อยได้โคฟเพลงเลย เพราะแบบนี้ไอ้เฟรมมันเลยค้านตอนที่เสนอให้ลงโทษผมโดยการให้ร้องเพลง เพราะมันไม่ใช่การลงโทษครับ ผมร้องบ่อยๆอยู่แล้ว

    “จริงป่ะเนี่ยยย ไหนเอาช่องมาดิ” ไม่ว่าเปล่าเธอยังยื่นโทรศัพท์มาให้ผมเสร็จสรรพอีก ผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจากรับมาพิมพ์หาให้เธอ

    “อ่ะ ไปนอนได้ล่ะ” ตาลเช็คว่าผมพิมพ์ให้จริงๆรึเปล่าอีกที

    “เคคค ใจมาก พรุ่งนี้เจอกัน” ผมพยักหน้ารับ และหันมาเก็บอุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายลงกล่อง

    “พี่เคียววววววววววววว คืนนี้พี่เคียวอยู่ยามได้ไหมอ่ะ” ผมหันกลับมาเจอน้องแม็กซ์กำลังวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเลยครับ

    “ได้ดิ รอบไหนอ่ะ”

    3ทุ่มถึงเที่ยงคืนอ่ะครับ กับพี่รูท”

    “ได้เลยแม็กซ์” 3ทุ่มถึงเที่ยงคืนมันก็ไม่ดึกมากนะ ผมรออาบน้ำทีเดียวตอนเที่ยงคืนเลยได้ไหม อาบเร็วเดี๋ยวหลับอีก... ซกมกไปป่ะเนี่ย

     

    คิดไว้ว่าจะไม่อาบน้ำก็ไม่ได้ดั่งใจครับ เพราะโดนไอ้รูทบ่น มันบ่นว่าถ้าผมไม่อาบก็ไปหาคนอื่นมาเฝ้ายามแทนมันเลย มันพูดมางี้ ผมเลยยอมอาบ และตอนนี้ก็กำลังเดินตรวจดูรอบๆอยู่ ขอบคุณที่ที่นี้ไม่หวงค่าไฟเพราะตั้งแต่เดินสำรวจมาก็เห็นไฟตลอดแนวเลย ถ้ามืดๆนี้ผมก็คงมาเดินอย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ

    “มึง!

    “เป็นโรคหรออออ” ถึงจะไม่มืดสนิทแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีอะไรโผล่มาเฉยๆได้นะ ผมมองไอ้ซียืนกุมท้องขำผมตกใจจนอยากจะถีบให้มันลงไปนอนเล่นบนพื้นสักที อยู่ๆมันก็เข้ามาทักงี้ผมก็ต้องตกใจไหมล่ะ เมื่อกี้ตกใจจนเผลอปล่อยไฟฉายทิ้งเลย

    “มึงตกใจตลกอ่ะ”

    “สัส แล้วนี้มึงออกมาทำไร ทำไมไม่อยู่ในห้อง” ผมไล่ต้อนน้องๆทุกคนเข้าห้องเรียบร้อยและไปเช็คที่ห้องแล้วด้วยครับ นั้นหมายความว่าไอ้ซีต้องอยู่ในห้องและนอนได้แล้ว

    “กูยังไม่ง่วง นี้พึ่ง3ทุ่มเองนะ”

    3ทุ่มแล้วไง ยังไงมึงก็ต้องนอน”

    “กูช่วยมึงตรวจตราได้นะ”

    “ไม่ต้อง กูทำเองได้”

    “กูช่วยมึงถือของได้ด้วย”

    “แค่ไฟฉายกูถือเองได้”

    “กูช่วยพัดให้มึงได้”

    “อากาศเย็นขนาดนี้มึงจะพัดหาอะไรล่ะ”

    “โหยเคียวววว กูอยากอยู่ด้วยอ่ะ”

    “ไม่ต้องงง มึงกลับห้องไปเลย”

    “อยู่เป็นเพื่อนไง ไม่เอาหรอ”

    “รูทอยู่เป็นเพื่อนกูแล้ว”

    “นะนะนะนะนะ” มันคงเห็นว่าเถียงกับผมคงไม่ชนะเลยเปลี่ยนมาอ้อนแทน ถ้าเป็นผู้หญิงเห็นคงจะละลายไปตามๆกัน แต่สำหรับผมนี้ซีมันอ้อนมากครับ... อ้อนเท้า

    “พอออ กูกลัวแล้ว”

    “สัส กูอุตสาห์แบ๊ว” แล้วมึงจะแบ๊วทำไมเนี่ย ใครขอออ

    “อย่าทำอีกนะมึง” แอบสยองนิดๆ

    “สัส ฮ่าๆ ผู้หญิงคนอื่นใจอ่อนหมดเลยนะ ทำไมมึงไม่ใจอ่อนบ้าง”

    “เสียใจด้วยนะที่ใช้กับกูไม่ได้ผล”

    “ได้ผลดิ เพราะยังไงกูก็จะอยู่เป็นเพื่อนมึง จนมึงเข้านอน” โอเค มันเหมือนไม่ได้ฟังผมเลย ดังนั้นผมเลยปล่อยเลยตามเลยครับ เอาไงเอากันล่ะกัน

     

    มึงหิวป่ะผมยังคงเดินตรวจรอบๆต่อไป เพิ่มเติมคือไอ้ซีครับ และประโยคนี้คือร้อยล่ะเก้าสิบมันหิวชัวร์

    มึงหิวใช่ม่ะแล้วมันก็พยักหน้าคืนมาให้ นั้นไง ผมบอกล่ะ

    ไอ้เฟรมเอามาม่าคัพมานะ กินป่ะ

    จริงดิ กินนนนสุดท้ายผมกับซีก็เดินตรวจจนครบ และมุ่งหน้าไปหามาม่าคัพที่ห้อง (พัก) ผมกัน

     

    เฮ้ยๆ นั้นมันยังไม่ถึง3นาทีเลยนะถึงนาทีรึยังเถอะ

    ใครเขารอให้ถึง3นาทีกันเล่า นาทีเดียวก็กินได้แล้วแล้วมันก็จัดการตักมาม่าเข้าปาก

    เราเข้าไปเอามาม่าในห้องผม และรอน้ำเดือดแปปนึง (ซีบอกว่าน้ำไม่ร้อนมากดีแล้วครับ จะได้ไม่ลวกปาก ผมเลยแล้วแต่มันล่ะกัน) หลังจากใส่น้ำร้อนเรียบร้อย เราก็ย้ายมานั่งกินกันหน้าห้องครับ จะกินทั้งๆที่พวกมันนอนอยู่ก็จะยังไงอยู่ใช่ไหมล่ะ แล้วมาม่าแนวซีนี้ใส่น้ำตาลด้วยครับ มันบอกว่ามันติดรสหวานมาก แล้วมาม่าใส่น้ำตาลก็อร่อยดี ผมเลยแล้วแต่มันอีกครั้งหนึ่ง

    อากาศตอนกลางคืนมันค่อนข้างจะเย็นเหมือนกันนะครับ นี้ผมก็คิดอยู่ว่าย้อนกลับไปเอาผ้าห่มในห้องดีไหม แต่พอคิดไปคิดมา ก็ขี้เกียจลุกครับ... ผมเลยพยายามดึงความสนใจตัวเองจากอากาศหนาวเป็นกวาดสายตามองนู้นมองนี้ไปรอบๆก่อนที่จะสะดุดที่ศาลาไม้ริมหาด ที่พนันได้ว่าก่อนที่เราจะเข้าไปเอามาม่า มันปิดอยู่ แล้วทำไม... ตอนนี้มันเปิด

    ก่อนเราเข้าไปเอามาม่า ศาลามันเปิดไฟป่ะวะ

    อิดอู่ (ปิดอยู่)น้ำเสียงอุดมไปด้วยของในปากสุดๆ

    แล้วทำไมตอนนี้มันเปิดวะแล้วทำไมผมหลอนๆ

    ก็มีคนเปิดไงขอบคุณที่ยอมกลืนลงไปก่อนตอบกูนะ

    ใครวะ

    มึงเฝ้ายามกับใครล่ะรูท... ผมเพ่งสายตามองว่าใครอยู่ในศาลา และก็เห็นเสื้อเหลืองๆของไอ้รูทแว่บๆ ก็คงมันแหละ เดี๋ยวนะ แล้วนั้นมันอยู่กับใคร

    รูทกับใครวะ

    เหมี่ยวมั้งเหมี่ยวหรือมะเหมี่ยว เป็นเพื่อนกับตาลครับ เธอมักจะคอยช่วยเรื่องสวัสดิการ ดูแลคนป่วย หรือแผนกคอยช่วยเหลืออะไรแบบนี้ครับ เธอเป็นอีกคนที่ได้เป็นพี่ค่าย

    เหมี่ยวเนี่ยนะแต่มันพีคตรงเธออยู่กับรูท เหมี่ยวกับรูทเนี่ยนะ ผมคิดไม่ถึงเลยเถอะ

    อ่าฮะซีมันยอมเงยหน้าจากมาม่าไปที่ศาลานั้นแทน พอผมหันกลับไปมองตามก็เจอเหมี่ยวจริงๆครับ แม้จะเห็นไม่ชัด แต่ดูจากลักษณะบุคลิกก็คงเป็นเธอนั้นแหละ

    ทำไมเป็นเหมี่ยววะ

    ทำไมอ่ะ ไม่ใช่สเปกไอ้รูทเหรอผมพยักหน้า ถ้าจะมีใครสักคนที่ซีเรียสกับเรื่องสเปกมาก ผมว่าคนๆนั้นก็ต้องเป็นรูทนี้แหละครับ ผู้หญิงแทบทุกคนที่มันคบก็จะมาแนวเดียวกันหมด พวกไม่หวงสวย (แต่สวย) กล้าได้กล้าเสีย ตาโต ปากรูปกระจับ ลุยๆประมาณนี้

    ส่วนมะเหมี่ยวนี้ เหมือนตรงกันข้ามทั้งหมดเลยครับ

    เหมี่ยวอาจจะไม่ใช่สเปกรูท แต่รูทเป็นสเปกเหมี่ยวไงห๊ะ ผมหันกลับมาที่ไอ้ซี หวังให้มันอธิบายอะไรเพิ่มมากขึ้น แต่มันกลับกินมาม่าต่อไปโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น มึงนี้...

    มึงรู้ได้ไง

    โหยยย คิรากร ใครมันจะไม่รู้ ดูจากสายตาก็รู้แล้วไม่รู้จะเกลียดโหยหรือเกลียดที่มันเรียกชื่อจริงก่อนดี

    ขนาดนั้น?” มันพยักหน้ายืนยัน หรือผมไม่ได้สังเกตนะ ไม่ได้คิดเลยแหละว่าเหมี่ยวจะสนใจรูท ผมคงจะต้องลองสังเกตดูบ้างแล้วแหละ

    อร่อยมากป่ะวะว่าจะไม่ทักล่ะนะ แต่ทุกครั้งที่หันมามันก็กินแบบเอร็ดอร่อยทุกที เลยอดทักไม่ได้

    อร่อยยยย กินป่ะผมส่ายหัว แต่ผมคงลืมไปว่านี้คือสาริศนะครับ มันเคยฟังผมที่ไหน

    เพราะตอนนี้มันกำลังพยายามจะยัดมาม่าใส่ปากผมให้ได้

    จนแล้วจนรอดผมก็หลบส้อมมาม่าที่โจมตีผมอยู่นี้ไม่ได้ แล้วยอมกินมันเข้าไปแต่โดยดี

    ร้อนนนนนแล้วทำไมมึงไม่บอกก่อนล่ะว่ามันร้อน (นี้ขนาดต้มน้ำแปปเดียว)

    ซีมันเลื่อนขวดน้ำมาช่วยชีวิตผมไว้ได้ทัน และเริ่มจัดการม้วนมาม่าก่อนที่จะใส่ช้อนไว้ หลังจากนั้นมันก็เป่าครับ ผมพอจะรู้แล้วว่าชะตามาม่าช้อนนี้มันจะมาจบที่ใคร

    “มึงร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะ” ผมนั่งกินมาม่าที่ซีป้อนให้ไปเรื่อยๆ อยู่ๆมันก็พูดเรื่องที่ผมร้องเพลงขึ้นมาครับ

    “ขอบใจนะ” มันชมนี้ครับ ผมก็ต้องขอบใจ

    “กูพึ่งรู้ ว่าร้องเพราะขนาดนั้น”

    “โอ้โหหหห ก็ไม่ขนาดนั้น”

    “ไม่เคียว กูพูดจริงๆ กูเสียดายที่พึ่งได้มาฟังมึงร้อง แถมมึงยังร้องให้ทุกคนฟังอีก”

    “นอยด์?” ขี้ใจน้อยเหมือนกันนะเนี่ยยย

    “ไม่เชิง กูแค่เสียดาย ที่รู้พร้อมๆกับคนอื่น”

    “จะคิดมากทำไมวะ กูก็ไม่ได้คิดจะปิดอะไรมึงอยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ๆให้กูพูดออกมาเฉยๆมันก็แปลกๆป่ะวะ” แปลกมากเลยแหละ

    “อื้ม ก็เข้าใจแหละ” ถึงมันจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ยังเห็นออร่าความน้อยใจออกมาจากตัวมันอยู่ดี

    “อย่าคิดมากกก ไว้กูฟังบ่อยๆเลย” ผมเลื่อนมือไปยีหัวมัน และพอผมพูดแบบนั้นมันก็หันมายิ้มกว้างให้ผม หายน้อยใจแล้วใช่ไหมแบบนี้

    “สัญญา?” แล้วยื่นนิ้วก้อยนี้อะไร เกี่ยวก้อยมันเก่าแล้วววว

    “เอออออ” แต่ผมก็ดันยอมเกี่ยวก้อยกับมันซะงั้น

     

    ผมนั่งกินมาม่าตามที่ซีป้อนช้อนแล้วช้อนเล่า จนเริ่มอิ่มแล้วเนี่ย ก่อนที่จะมีอย่างอื่นมาดึงความสนใจของผม เพราะตอนนี้ไอ้รูทมันเดินมานั่งข้างๆซีแล้วครับ

    ไงเพื่อนนนนก็ว่าจะไม่ล้อล่ะนะ แต่นิดเดียวคงไม่เป็นไรมั้ง เหมือนรูทมันรู้ว่าผมจะแซว มันเลยทำเป็นเมินครับ

    ไปนั่งคุยกันตรงนู้นนี้พอใจล่ะเหรอ

    ก็ดีกว่านั่งจีบกันตรงนี้อ่ะนะที่นี้ดันตอบเว้ย แถมยังตั้งใจหลิ่วตาในผมสุดๆ ไอ้เพื่อนเวร...

    ฮ่าๆในขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะตอบอะไรเจ็บๆกลับไปดี ไอ้ซีมันก็ดันขำขึ้นมา และหันไปป้อนมาม่าให้รูทครับ และถึงรูทมันจะส่ายหัว ก็ไม่สามารถรอดเงื้อมมือของสาริศไปได้หรอกครับ

    สุดท้ายรูทก็ยอมกินมาม่าที่ซีป้อน

    สรุปยังไงงง จีบกันงี้ผมพยายามมองข้ามไอ้ซีไป เพราะอยากรู้เรื่องเหมี่ยวกับรูทมากกว่าครับ

    จีบบ้าไร ก็คุยกันปกติ

    ตอน4ทุ่มในที่ลับตาคนเนี่ยนะ

    ลับตาคนตรงไหนนน มึงก็เห็น แล้วเขาก็แค่... นอนไม่หลับ

    ถุ้ยยย แล้วมึงเชื่อ?” บอกเด็กประถมมันยังรู้เลยครับว่าผู้หญิงเขาออกมาชวนคุยพร้อมเหตุผลว่านอนไม่หลับนี้หมายความว่าไง

    พยายามเชื่อผมบอกแล้วว่าเด็กประถมยังรู้ รูทจะไม่รู้ได้ไง

    แล้วจะข้ามไปป่ะผมหมายถึงสะพานนะครับ

    มึงคิดว่าไงมันยักไหล่ แน่นอนว่าผมรู้ ผมบอกแล้วว่ารูทมันซีเรียสกับสเปกมาก แล้วในกรณีนี้ก็...

    ดีๆล่ะกันนะมึง

    กูรู้นาาบางทีเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ด้วยการพูดตรงๆหรอกครับ มันคงจะทำร้ายจิตใจเขาเกินไป แต่เราก็มีวิธีอื่นที่จะแสดงให้เธอรู้ อาจจะแสดงออกให้เธอรู้ว่าเราชัดเจนในจุดไหน

    ซียังคงป้อนมาม่าให้ผมคำหนึ่ง รูทคำหนึ่ง และตัวเองคำหนึ่งต่อไป โดยไม่ได้ออกความเห็นอะไร นี้ก็กินมานานล่ะนะ ทำไมยังไม่หมดอีกกก

     

    กูไปปลุกบอสกับฟี่นะรูทมันพูด และลุกขึ้นบิดขี้เกียจนิดหน่อย ตอนนี้เที่ยงคืนล่ะครับ หมดเวรเฝ้ายามของผมกับรูทแล้ว พอนั่งคุยกันไปเรื่อยๆมันก็ไม่นานเท่าไหร่นะ รู้ตัวอีกทีก็หมดเวลาแล้วเนี่ย

    “ไปนอนๆ” ผมไล่ไอ้ซีที่ยืนบิดขี้เกียจอยู่นี้ไปนอน ส่วนตัวเองก็หันหลังกลับเพื่อที่จะเข้าห้องไปนอน (เรานั่งกันหน้าห้องผมพอดี) แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไปในห้องด้วยซ้ำ ซีมันก็คว้าแขนผมไว้ก่อนครับ

    “ว่า?” แล้วก็ไม่พูดอะไร จนผมต้องถามซ้ำเนี่ย แล้วเหมือนคำถามผมจะเข้าทางมันพอดี เพราะมันยิ้มกลับมาให้และยอมพูดแต่โดยดี

    “ฝันดีนะ”

    ประโยคสั้นๆ ที่ไม่รู้ว่าได้ยินมาตั้งกี่สิบครั้งแล้วตั้งแต่เกิดมา ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น

    ทำไมผมยังต้องเขินด้วยเนี่ย







    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    อัพช้ามากกก ขอโทษนะคะ ความจริงคือไรท์แต่งในโทรศัพท์ไว้เยอะๆก่อนแล้วค่อยมาลงคอม ตอนที่22นี้แต่งจบนานมากแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้เปิดคอมสักที เลยแต่งตอน23ต่อไปเลย แล้วค้างไว้ในโทรศัพท์ ปรากฎว่าเอาโทรศัพท์ให้เพื่อนเล่นจ้า แล้วนางทำไฟล์หายหมดเลย... // กรีดร้องอยู่ในใจ ตอนนั้นเราแต่งไปจะสิบหน้าแล้ว ต้องมานั่งเขียนใหม่ เป็นอะไรที่... ทุกอย่างเลยถูกตัดให้สั้นลงไปอีก 5555 ชั่งมันล่ะกัน มันผ่านไปแล้วเนอะ
    แล้วเราก็ขอใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายเรื่องเมจนิดหนึ่ง เราสร้างตัวละครขึ้นมาก่อน เห็นว่าคนไหนดูเหมาะก็ให้เป็นเมจนั้นๆ ในส่วนของเมจเคียวคือเราอยากได้คนดูกวนๆแต่หล่อ 5555 เราเลยได้คนนี้มา และมีอย่างหนึ่งที่เราอยากให้เคียวทำได้ คือร้องเพลงเพราะ แต่เนื่องด้วยเมจที่เราเอามาเขาไม่ได้ร้องเพลงเพราะ (มากมาย) อะไร เราเลยอยากให้ทุกคนจินตนาการเสียงเคียวเป็นพี่นนทรี (Nate Nontree P.) ลองไปเสิร์ชฟังในยูทูปได้ เราชอบเสียงพี่เขามากกก และนี้แหละคือเสียงเคียวที่เราต้องการ 5555
    เขียนทักทายจะยาวกว่านิยายล่ะจ๊ะ 55555 ไปแล้ววววว
    คอมเม้นต์ด้วยนะคะ เย้

    *แวะมาแปะคำแปล เพลงนี้แปลยากอยู่ พี่ว่ามันแปลกๆ 5555 ใช้ความรู้สึกล่ะกันเนอะ แล้วก็แวะมาแปะเพลงให้เลยด้วย ไม่รู้มันฟังได้ไหม วานบอกหน่อยนาาา*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×