คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : new school , new begin
18
ผมว่าผมมาโรงเรียนเช้าบ่อย จนเริ่มชินแล้วเนี่ย
ถามว่าวันนี้ผมมาเช้าทำไม คำตอบคือ
คุณชายซีต้องขึ้นเวทีครับ เลยต้องมาเตรียมตัวแต่เช้า แนะนำตัวว่าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการอะไรประมาณนี้
และซีก็ไม่ยอมมาเช้าคนเดียวไง เลยไปลากผมมาด้วย
อย่าพึ่งคิดว่าเสาร์-อาทิตย์ ผมอยู่กับมันตลอดนะครับ
เพราะไม่ขนาดน้านนนน
วันเสาร์ซีมันไปหาเพื่อน ผมก็นั่งๆนอนๆอยู่ที่ห้อง
ส่วนวันอาทิตย์ทั้งผมและมันอยู่ในห้องของตัวเองจนเย็นๆมันชวนออกไปเดินถนนคนเดินด้วยกัน
และมันก็มาปลุกผมวันจันทร์ แค่นี้เองครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย
แต่จะว่าชินก็ไม่ใช่นะ ก็ง่วงอยู่ดี
แวะไปนอนที่ห้องชมรมดีกว่า
ผมที่ตัดสินใจว่าจะไปนอนต่อที่ห้องชมรมกำลังจะก้าวขาไปทางห้องชมรมล่ะครับจนมีคนสะกิดขึ้นมาก่อน
“ไหนว่ารีบไปเตรียมตัว” ผมมากับซีก็จริง
แต่พอมาถึงมันก็บอกว่าต้องรีบไปเตรียมตัวเลยแยกไปก่อน แต่อยู่ๆก็วิ่งกลับมาแล้วหอบใส่ผมเฉย
“ลืมให้” มันว่างั้น ก่อนที่จะหยิบอะไรสักอย่างจากกระเป๋ากางเกงส่งให้ผม
อมยิ้ม...
“ขอบใจ ไปเตรียมตัวไป”
“เคคค อย่าลืมดูกูนะ”
“มึงไม่บอก
เขาก็บังคับให้เด็กทั้งโรงเรียนดูอยู่แล้วมั้ยยังไงดี”
ก็มันขึ้นเวทีตอนเข้าแถวนี้ครับ จะไม่เห็นได้ไง
“เอาน่า ไปล่ะ”
มันตบบ่าผมส่งท้ายก่อนที่จะวิ่งกลับไปทางเดิม
เหลือแค่ผมกับอมยิ้ม
แดกแม่งเลยล่ะกัน
“เคียวววววว”
“อะไร” หน้าผมดูพร้อมเสวนาเหรอ สรุปผมไม่ได้ไปนอนที่ห้องชมรมหรอกครับ
แต่มานอนที่ห้องโฮมรูมแทน แล้วโครตคิดผิด เพราะพึ่งทิ้งตัวนอนได้ไม่ถึง10นาที
ไอ้ยะก็โผล่มาเลยครับ ผมแอคติ้งหน้าเหวี่ยงใส่มันเต็มที่ กูง่วงครับเพื่อน
“สายกูบอกมาว่า...”
“เดี๋ยวๆ มึงมีสายด้วย?” ใครวะ
“มันก็ต้องมีกันบ้างงงง แต่ไม่ได้ประเด็นมั้ย”
เออแหะ
“แล้วมีไร” หน้าตาตื่นเชียวเนี่ย
“สายกูบอกมาว่า มึงมาโรงเรียนกับไอ้ซี จริง?
เท็จ?” ต้องเริ่มสืบล่ะนะว่าสายของไอ้ยะนี้แม่งใคร
“มึงไม่ตอบนี้คือจริง?!” ตกใจมากไหมเนี่ยยย
“กูเคยพูดไปแล้วไม่ใช่ไงว่าซีมันอยู่ตึกขาว
มาพร้อมกันมันแปลกตรงไหน?”
“มันแปลกตรงที่ไอ้ซีมาเช้ามาก แล้วมึงยอมมาด้วย”
ยอมใจให้ความช่างสังเกตเลยครับ
“กูถามจริง คบกันหรอวะ”
“เฮ้ยป่าวววววว” เปล่าจริงๆนะครับ
มันยังไม่ได้ขอนี้ (เดี๋ยว...) ถึงแม้มันจะเกินความเป็นเพื่อนไปแล้ว
แต่ก็ยังไม่ได้คบกันแบบนั้นซะหน่อย
“ก็ถ้าคบกันแล้วมึงไม่บอก ได้เจอดีแน่”
ผมไม่ได้คิดจะปิดบังพวกมันหรอกครับ แค่รอให้อะไรๆมันชัดเจนมากกว่านี้อีกหน่อย
สุดท้ายผมเลยพยักหน้ารับๆไอ้ยะไป ยังไงก็ตั้งใจจะบอกอยู่แล้วแหละนา
“จะว่าไป ยังไม่เคยเห็นเด็กแลกเปลี่ยนจาก บ.ค.
เลยป่ะ” เพื่อนในห้องเริ่มมากันบ้างแล้วครับ
พอคนเริ่มมาก็มีคนเปิดประเด็นคุยกันเลย
“นั้นดิ เห็นว่าตัวซ่าของบ.ค.เลยนะ”
ผมที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กแลกเปลี่ยนจากบ.ค.เลยทำได้เพียงแค่มองไอ้ยะตะโกนคุยกับเพื่อนในห้องเท่านั้น
(ทำไมมันไม่เดินไปคุยกันใกล้ๆวะ)
“จริงป่ะ งั้นปีนี้ก็พีคทั้งคู่เลยดิ
คนหนึ่งก็เด็กกิจกรรมของม.ส. อีกคนก็ตัวซ่าจากบ.ค.”
“ไอ้คนนิ่งๆจากม.ส.นี้เด็กกิจกรรมเลยเหรอวะ”
“เออดิ นี้ถ้ามึงอยากรู้อะไร
มึงถามไอ้ซีได้เลยนะ” เพื่อนเวร กูอุตสาห์นั่งเฉยๆแล้วโยนมาที่กูทำไมมมม
“เกี่ยวเหี้ยไรกับกู”
“ซีรู้จักกับเด็กที่มาจากม.ส.ด้วยหรอ”
“โอ้ยยยย ไปอยู่ไหนมา ไม่ใช่แค่รู้จักนะ”
สุดท้ายผมเลยต้องลุกขึ้นมาตบหัวไอ้ยะไปหนึ่งที
“เงียบๆมั่งก็ได้นะ”
“เฮ้ยๆ ทำไมวะ”
ที่นี้เพื่อนทั้งห้องที่ตอนแรกดูไม่สนใจอะไรมากถึงกับหันมาสนใจกันหมดเลยครับ
โอ้ยยยยยพวกขี้เสือก
“เจ้าตัวเขาไม่ให้บอกวะ” จบประโยคนั้นของไอ้ยะ
กระดาษ ยางลบ อะไรเล็กๆน้อยๆก็ถูกประเคนใส่ไอ้ยะผ่านทางการโยนทันที
ข้อหาที่เกริ่นมาแล้วพูดไม่จบ แต่ถ้าแม่งยังดึงดันจะพูดให้จบนี้คงไม่ได้โดนแค่ปาของใส่
เพราะจะโดนผมฆาตกรรมแทนเนี่ย
“เฟรมมาสายยยยย” พอไอ้เฟรมเดินเข้ามาในห้อง
ผมกับไอ้ยะก็พร้อมใจกันแหกปากใส่แม่ง
“สายห่าไร พวกมึงมาเช้าเกิน อ่ะนี้ มึงเก็บที”
ผมรับซีดีมาจากไอ้เฟรม
ดูหน้าปกแล้วก็เป็นรายงานที่ไอ้รูทบอกว่าจะเป็นคนเบิร์นลงแผ่นครับ
“ทำไมอยู่ที่มึงวะ รูทเป็นคนเบิร์นไม่ใช่”
“เออ แต่กูเจอมันก่อนขึ้นตึกอ่ะ
มันบอกว่าจะไปหาอะไรแดกเลยฝากกูเอาขึ้นมา มันบอกกูด้วยนะว่างานเสร็จช้าเพราะคนบางคนไม่ส่งเพลงมา”
ผมนี้ว้า...
“เพลงหรอ... เคียวมึงทำป่ะ”
มึงจะพูดขึ้นมาทำไมไอ้ยะ
“เออ”
“แล้วมึงไม่ได้ส่งให้มันหรอ?”
“กูส่งนะ แต่กูส่งตอนเกือบตี2อ่ะ”
“สาสส สมควรโดนแม่งแซะ
แล้วมึงทำไรอยู่วะจนเกือบตี2”
“ดูหนังอ่ะ” ก็ดูหนังจริงๆนะ ไอ้ยะกับไอ้เฟรมพยักหน้ากลับมาแบบเข้าใจ
(ถ้ามันถามต่อ ผมคงไปต่อไม่ถูก)
เรานั่งคุยเรื่องนู่นนี้นั้นกันจนรูทขึ้นมา
และพอไอ้รูทมันมาถึง มันก็ตั้งใจหลิ่วตาใส่ผมแบบโครตมีอะไร
ไอ้เฟรมถึงกับถามขึ้นมาเลยครับว่ามีไรป่าว ไอ้เหี้ยรูททททท
แต่มันก็ยังช่วยแก้ต่างให้ผมว่าไม่มีไร กวนตีนผมเฉยๆ (ขอบใจมาก)
และตอนนี้ก็ได้เวลาลงไปเข้าแถวที่สนามแล้ว
“ซีขึ้นเวทีป่ะ”
“อ่าฮะ”
“ก็ว่า ไมมึงมาเช้า” ผมว่าบนหน้าผากผมคงมีคำว่าจ้าๆแปะอยู่แน่เลย
ผมว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ
“ซีมันเป็นไรป่ะวะ” ขนาดไอ้รูทยังดูออกเลยเนี่ย
“คงเป็นมั้ง” ซีที่รับช่อดอกไม้จากผ.อ.ยังคงยิ้มให้ผ.อ.และหันไปยิ้มให้กล้องต่อ
ถ้าคนอื่นมองก็คงปกติ แต่สำหรับผมมันไม่ปกติ มันเป็นยิ้มที่โครตประดิษฐ์อ่ะ
ปกติซีมันเป็นคนที่ยิ้มเก่งนะ ยิ้มเก่งมากกว่าพูดด้วยซ้ำ มันมักจะแจกยิ้มทักทายก่อนเสมอ
แต่วันนี้ ไม่ใช่สิ ตอนนี้ มันดูเหมือนมีอะไรในใจ ทำให้ยิ้มของมันออกมาเป็นแบบนั้น
แต่อะไรล่ะ ตอนแยกกับผมยังดีๆอยู่เลย
“ไอ้คนที่แลกเปลี่ยนจากบ.ค.นี้ใช่คนที่ชื่อป๊อปป่ะ”
“ป๊อปไหนของมึงวะ”
ผมไม่เห็นจะคุ้นหน้ามันตรงไหนเลย แต่ไอ้ยะนี้แอดวานส์จนรู้ชื่อเฉยเลยครับ
“ป๊อปที่เคยมาเล่นบาสกับพวกเราอ่ะ”
“เราเคยเล่นบาสกับบ.ค.ด้วยหรอวะ”
“เคยดิ 3เดือนที่แล้วป่ะ”
โอ้โหระยะเวลานานมาก ผมจะจำได้มั้ย
ผมโบกมือปัดๆให้ยะเป็นเชิงว่าผมจำไม่ได้และไม่มีทางจำได้ครับ เพราะไม่รู้ว่าเคยจำได้รึเปล่าด้วยซ้ำเนี่ย
ผมรอจนเข้าแถวเสร็จ กำลังจะเดินไปถามไอ้หน้าตายที่คุยกับครูอยู่ว่าเป็นอะไรรึเปล่า
แต่ยังไม่ทันแทรกตัวไปหาเลยครับ เสียงไอ้แว่นก็ดังขัดทุกอย่างในหัวผมขึ้นมาก่อน
“ทุกคน สอบคณิตเพิ่มคาบแรกนะ”
“ห๊ะ!!” สอบอะไรวะเนี่ยยยยย
“ครูไม่ได้บอกนะแว่น”
“ครูพึ่งโทรมาบอกเราเมื่อกี้เอง” ครูครับ
หน้าผมดูทำได้รึไง แล้วทำไมต้องมาสอบวิชาที่ผมโง่ที่สุดด้วย ฮืออออ
“แว่นนนนน”
ผมกำลังจะหันไปโวยวายใส่แว่นแต่พอเห็นเพื่อนในห้องกำลังรุมกันเขย่าและโวยวายใส่มันแล้วก็สงสารครับ
เอาไงต่อล่ะ ยิ่งโง่ๆอยู่
แต่ผมก็อยากคุยกับซีก่อนนะ
ซียังคงคุยกับครูคนนู่นคนนี้ส่งท้ายด้วยการถูกลากไปถ่ายรูปรวม เอาไงดีวะ
“เราติวให้ได้แปปนึงนะ”
แว่นพยายามจะแก้ไขสถานการณ์อย่างน่าสงสาร แต่ติวหน่อยก็ดีกว่าไม่ติวอ่ะนะ
ส่วนไอ้ซี...ไว้ก่อนล่ะกัน
เป็นการสอบที่บันเทิงมากครับ ลอกกันเป็นลูกโซ่เลย
ไอ้แว่นที่โดนเพื่อนโวยวายใส่ต้องทำโพยให้พวกผมลอกครับ แล้วผมเนี่ย
ดันไปนั่งอยู่ซะหลังห้อง กว่าโพยจะมาถึงผมก็ลอกไอ้เฟรมจบเกือบเสร็จล่ะ (พวกผม3คนนั้นแหละที่ลอกไอ้เฟรม)
พอโพยมาถึง ผมก็ถามไอ้เฟรมว่ามั่นใจมั้ย เสือกตอบว่ามั่นใจไง ผมก็เลยส่งเลย
แม้ออกมาตรวจคำตอบกับเพื่อนแล้วไม่เห็นจะเหมือนกับที่ผมตอบสักเท่าไร
แต่ก็ชั่งมันครับ อย่าไปซีเรียสมาก (ซีเรียสไปก็แก้อะไรไม่ได้แล้วไง)
“ซี!!” ผมโบกมือปอยๆให้ซีตอนที่เห็นมันเดินเข้ามาในโรงอาหาร
(มาแดกข้าวในโรงอาหารสักที) แล้วมันก็หันมายิ้มให้ผม
ดูเหมือนมันจะกลับมายิ้มแบบที่เป็นมันแล้วนะ
“มาๆเด็กใหม่มึงนั่งนี้” โต๊ะผมนี้มีคนนับสิบครับ
โต๊ะจะต่อกันยาว3โต๊ะ ทั้ง3โต๊ะก็มีแต่เพื่อนๆกันทั้งนั้น
ทั้งเพื่อนในห้อง น้องในชมรม เพื่อนห้องอื่น เรียกได้ว่าโครตโวกเวกเลย
และถึงแม้โต๊ะจะเต็มจนแทบนั่งตักกันอยู่ล่ะ พวกมันก็พยายามขยับๆให้ไอ้ซีนั่งข้างผมจนได้ครับ
(ผมเป็นคนเรียกมาไง)
“ขอบใจ” มันนั่งลงข้างๆผมและแจกยิ้มให้เพื่อนๆรอบๆตามสไตล์มันนั้นแหละ
“มึงชื่อไรนะ” ไอ้พายห้อง14 ตัวฮาอีกตัวหนึ่งอ้าปากทักไอ้ซีขึ้นมาก่อนเลยครับ
“ซีรัส เรียกซีก็ได้”
“ซีรัสที่เป็นชื่อเมฆป่ะ”
แล้วไอ้แว่นก็แทรกมาเลยครับ
“แว่นนนน มึงจะมาความรู้อะไรเล่า”
เรียกเสียงฮาจากพวกผมได้ดีเลยครับ
“ก่อนที่มึงจะนั่งอยู่โต๊ะนี้ได้
มึงต้องตอบคำถามพวกกูก่อนข้อหนึ่ง มันเป็นกฎ” กฎเหี้ยอะไรของเมิงงงง พึ่งตั้งเมื่อกี้ชัวร์
“มาๆกูขอถาม” แล้วมึงจะเสือกทำไมเนี่ยรูทททท
“พวกมึง กูไปซื้อขนมนะ” ยังไงก็ขอเผ่นก่อนล่ะกัน เพื่อความปลอดภัย
“มึงจะรีบไปไหนครับเคียววว
มึงไม่อยู่ฟังคำถามก่อนอ่ะ นี้กูยังไม่ทันถามเลยนะ”
แค่นั้นยังไม่พอแม่งยังลุกขึ้นมากดไหล่ผมให้นั่งลงเหมือนเดิมอีกตั้งหาก
ไอ้เพื่อนเลวววว กูอุตสาห์ไว้ใจมึงนะ
ผมส่งสายตาใส่ไอ้รูทว่าอย่าถามอะไรแผลงๆนะเว้ย
“มึงไม่ต้องส่งซิกเลยไอ้เคียว รูท มึงไม่ต้องห่วง
เดี๋ยวถ้าไอ้เคียวมันโวยวาย พวกกูทีมรูทเอง” คราวนี้ไอ้น้ำห้อง11ที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งพูดขึ้นมาครับ
ดีครับดี ปกป้องแม่งเข้าไป ทำไมไม่มีใครอยู่ข้างกูเลยยย
“เคเว้ย” มันทำท่าโอเคให้เพื่อนรอบโต๊ะ
ก่อนที่จะหันมายิ้มร้ายๆใส่ผม เพื่อนเลวววว เลิกคบ แต่ถ้าเลิกคบนี้คงไม่ใช่เลิกคบแค่ไอ้รูท
แต่อาจจะต้องเลิกคบทั้งกลุ่ม
เพราะตอนนี้ไอ้เฟรมกับไอ้ยะลุกขึ้นซัพพอร์ตไอ้รูทพร้อมด้วยสายตากรุ้มกริ่มนั้นของพวกมันอีก
“มาๆ กูจะถามล่ะ” ทำไมยังไม่ลืมอีกกกกก
“ซี”
“ว่า” ในขณะที่ผมโวยวายและพยายามเลี่ยงเต็มที่ ซีมันเพียงแค่ยิ้มรับ
มึงอย่าไปไว้ใจมัน ไอ้พวกนี้มันเลววว
“มึงอ่ะ ตอนนี้มีคนที่สนใจอยู่ใช่ป่ะ”
คำถามเบสิกมากแต่ผมไม่รู้สึกเบสิกเลยสักนิด อยู่ๆก็รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาซะงั้น
“อื้ม ก็มีคนที่ดูๆกันอยู่อ่ะ”
“ง่อวววววววววววววว”
ตอนนี้ผมไม่อยากเลิกคบกับไอ้รูทล่ะ แต่อยากเลิกคบกับคนตอบคำถามเนี่ยยยย เพราะแทนที่มันจะตอบเฉยๆนิ่งๆ
มันเสือกตอบเสร็จแล้วมองมาทางผม
ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างให้สมาชิกนับสิบชีวิตรอบโต๊ะทั้ง3นี้พร้อมใจกันผิวปาก
ตบมือ และยังไอ้ง่อวๆของพวกแม่งอีก
แล้วทำไมดันเป็นผมว่ะที่ต้องมารับเสียงง่อวจากพวกมันเนี่ย มึงง่อวใส่ไอ้ซีดิ
กูไม่ได้พูดนะ
“เดี๋ยวๆ สรุปพี่2คนมีซัมติงหรอ
ผมก็ว่าแล้วเชียวว่ามันแปลกๆ” แล้วมึงจะขยี้ทำไมเนี่ยไอ้กัมมมมม
“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะพี่”
ไอ้กัมมาแล้วไอ้เกมส์ก็ต้องตามมาครับ แล้วคำถามประมาณว่าไปคบกันเมื่อไหร่
ไปชอบกันตอนไหน เป็นแฟนกันหรอ ก็ถูกประดังประเดเข้ามา
“เฮ้ยๆ มันบอกว่าแค่ดูๆกันอยู่
เป็นแฟนกันที่ไหนเล่า” ขอบคุณที่ช่วยนะรูท แต่มึงช่วยผิดทางมาก
มึงโพล่งออกมาแบบนี้ไอ้บางคนที่ยังงงๆอยู่มันก็รู้เลยดิว่าซีมันหมายถึงผม
ส่วนไอ้คนตอบคำถามที่นั่งข้างผมอยู่นี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาขำกับความชุลมุนวุ่นวาย
โครตไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรทั้งนั้น
“สัส” ผมหันไปด่ามัน
ทิ้งระเบิดแล้วก็ไม่สนใจอะไรเลยนะมึง
“ทำไมอ่ะ กูแค่พูดตามความจริง”
“ง่อวววววววววววววววววววว”
แล้วพอไอ้ซีตอบผมนี้ทุกคนเสือกได้ยิน แล้วไอ้ง่อวๆล็อต2ก็มาอีกครั้ง
พอล่ะพอ
“กูไปซื้อหนมล่ะ” หนีล่ะครับ ไม่ไหวจริง
“อันนี้ด้วยไหมจ๊ะ?” ผมหันกลับไปมองคนที่ยื่นโคอาล่ามาร์ชมาตอนที่ผมกำลังจะจ่ายตัง
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ
“ใช่ครับ”
สุดท้ายผมเลยจ่ายค่าขนมของตัวเองและค่าขนมของซีคนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอกไปด้วย
“โกรธกูป่ะเนี่ย” ผมพยายามแกะห่อขาไก่อยู่เลยไม่ได้คุยกับมัน
แต่เมื่อกี้มันว่าไงนะ โกรธ?
“โกรธเรื่องไรวะ”
“ที่กูตอบ”
“ไม่นะ” ยังไงสักวันพวกมันก็ต้องรู้อยู่แล้วนี้นะ
“ดีล่ะ” มันยิ้มกว้างคืนมาให้ผม ยิ้มหรอ...
“ทีงี้ยิ้มเยอะดีนะ”
“มองออกด้วย?”
ประโยคสนทนามันสั้นลงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่ผมถามก็หมายถึงเรื่องเมื่อเช้านั้นแหละครับ แล้วไอ้ซีก็ดันเข้าใจอีกไง
“อื้ม ไอ้รูทยังดูออกเลย”
“จริงดิ กูพยายามยิ้มเต็มที่ล่ะนะ”
“เพราะมึงพยายามยิ้มอ่ะ กูเลยดูออก”
มันแค่กินขนมของมันต่อไป แต่ผมไม่ปล่อยผ่านหรอกนะเว้ย
“มีเรื่องไรป่ะวะ”
“นิดหน่อยวะ แต่ไม่สำคัญอะไร ชั่งมันเหอะ”
“ชั่งมันเหี้ยอะไร บอกกูไม่ได้?”
“ไม่ใช่ว่าบอกไม่ได้ แต่ไม่อยากบอก”
ไอ้ไม่อยากบอกของมันนี้เล่นเอาผมไปไม่ถูกเลยครับ
“มึงก็แค่พูดออกมา กูอยากรู้”
“ฮ่าๆ มึงอยากรู้แล้วกูต้องบอกด้วย”
ผมควรจะทำยังไงกับไอ้หัวหมอนี้ดี
“ไม่บอกก็ได้ กูมีไรก็ไม่บอกเหมือนกันเนอะแฟร์ๆ”
แล้วผมก็เดินนำมาเลยครับ บอกไม่ได้อะไรวะ ทำไมถึงบอกไม่ได้
“เดี๋ยวดิ อ่ะๆบอกก็ได้” ซีรีบเดินตามมาคว้าแขนผมไว้ครับ
แสดงว่าไอ้เทคนิคเดินหนีนี้successอ่ะดิ
“กู..” มันอึกอักๆที่จะบอกแหะ
หรือมันเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้จริงๆ
“พูดไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะมึง
ไม่เครียดๆ”
“พูดได้ๆ”
“พูดได้ก็พูดมา”
“ไอ้ป๊อปที่เป็นเด็กแลกเปลี่ยนจากบ.ค.อ่ะ”
ผมพยักหน้ารับ ไอ้ป๊อปที่ไอ้ยะพูดเมื่อเช้าคนนั้นสินะ
“มันนั้นแหละที่แย่งเกรซไป” ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
ผมชะงักก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่โดยอัตโนมัติ ผมต้องทำยังไงให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตซีแบบถาวรสักที
“แต่กูไม่ได้คิดอะไรกับเกรซแล้วนะ” พอเห็นมันรีบแก้ต่างออกมา
ผมก็พอจะรู้ล่ะว่าทำไมมันไม่ยอมบอกผมตั้งแต่แรก
“เฮ้ยยยย กูได้ติดใจอะไร ก็แฟนเก่ามึงป่ะวะ”
“แน่ใจนะ”
“เอออออออ
กูติดใจที่ทำไมผู้หญิงคนนี้ยังไม่ออกไปจากชีวิตมึงสักทีมากกว่า”
ผมยังจำความเศร้าของซีตอนนั้นได้ดีเลยล่ะ
“ไม่เป็นไรหรอกมึง ถ้าเขาไม่ได้มาอะไรกับเรา
ก็ชั่งเขาเหอะ” ซีมันคงคิดแบบนั้นจริงๆ ผมถือว่าเป็นเรื่องของมัน
งั้นผมจะเคารพการตัดสินใจของมันล่ะกัน
“เอางั้นช่ะ แต่ถ้าเขามาวุ่นกับมึงอีกอ่ะ กูไม่รับประกันนะว่าจะเฉยๆ” เมื่อผมพูดจบซีมันก็ยิ้มกลับมาให้ก่อนที่จะพยักหน้างึกๆให้ผม เหมือนตุ๊กตาหน้ารถอ่ะ ผมขำก่อนที่จะเลื่อนมือไปยีหัวมัน หมั้นเขี้ยวว่ะ แต่ที่ผมพูดนี้จริงจังนะ ผมคงไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายมันอีกแล้วล่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ง่วงนอนมั่กๆเลยจา แต่ก็ยังฝืนสังขารมาอัพอยู่ เห็นแก่ความขยัน (แค่เรื่องนี้) ของไรท์ ช่วยเม้นต์ด้วยนาจา
ร่างายต้องการคอมเม้นต์คอมเม้นต์ing
รออ่านingนาจาาา...
สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์นะคะ
ความคิดเห็น