ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:SNSD] Just you say...(Yuri) SeoSic ft.YoonTae&YulFany

    ลำดับตอนที่ #9 : [CH.6] Just 'Love' isn't enough (100%) -edit เรียบร้อย-

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 56


     

     

     

    Just “Love” isn’t enough

     

     

    “ช่วงนี้พี่ไม่ว่างจริงๆขอโทษนะคะฟานี่” ปลายสายตอบเสียงอ่อนแต่ฟังดูท่าทางร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ทิฟฟานี่ฟังแล้วก็ต้องถอนใจที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิมหลายอาทิตย์แล้วที่ซูยองเป็นเช่นนี้

     

    ละเลยสิ่งที่เรียกว่าความรัก

     

    “ค่ะไม่เป็นไรหรอก” ทิฟฟานี่เองก็ทำเหมือนเดิมเช่นกัน

    ปลายนิ้วกดวางสายจากคนรักแล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงขนาดใหญ่ น้อยใจเหลือเกินที่ความรักระหว่างเธอกับซูยองไม่เหมือนเมื่อก่อนเวลาที่เคยมีมันหายไป

    ทิฟฟานี่รู้สึกน้อยใจซูยองบ่อยๆ จนต้องระบายสิ่งเหล่านั้นให้ยูริฟังอยู่หลายครั้งหลายหน แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะรำคาญกันเลยแม้แต่น้อย นั่นยิ่งทำให้เธอสบายใจมากขึ้นไปอีกที่ได้คุยกับยูริ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าจอมตามตื๊อที่คอยจีบจองเจสสิก้าจะน่ารักนิสัยดีได้ถึงเพียงนี้

    ครืดดด

    ผู้จัดการหมีสาวหยิบมือถือข้างๆ ตัวมาดูแล้วก็ต้องยิ้มกว้าง ลืมอารมณ์น้อยใจซูยองที่มีอยู่เมื่อครู่นี้ไปจนหมดเพียงแค่ควอนยูริส่งข้อความมาเท่านั้นเอง

     

    พรุ่งนี้ยูลว่าง
              ไปเที่ยวกันมั้ยคะ?
             
    22.03 sent by Yul

     

    เห็นอย่างนั้นทิฟฟานี่ก็ไม่รอช้าที่จะตอบตกลงกลับไปในทันทีโดยไม่คิดพิจารณาอะไรผ่านสมองเลยแม้แต่น้อย เพราะนานมากแล้วที่ทิฟฟานี่ไม่ได้ใช้เวลาว่างไปเที่ยวเล่นไร้สาระ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคนชวนคือควอนยูริ

     

    การที่เธอเริ่มรู้สึกดีกับคนอื่นนอกจากซูยอง

    “อย่างนี้เรียกว่านอกใจรึเปล่านะ พูดกับตัวเองด้วยเสียงที่แผ่วเบาก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาน้อยๆทิฟฟานี่ไม่คิดว่าตัวเองผิดหรอก!

    ใช่ควอนยูริก็ไม่คิดว่าตัวเองผิดเช่นกัน เพราะชเวซูยองไม่ดูแลคนรักของตนให้ดีมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนรักกับเพื่อนสนิทจะหันมารักกันเอง

    ใครจะปล่อยให้ผู้หญิงในอุดมคติหลุดลอยไปล่ะ?

     

    “แต่แบบนี้ยังไม่เรียกว่ารัก” ดาราสาวหน้าคมถอนหายใจเบาๆ ขณะที่กำลังรอข้อความตอบกลับจากทิฟฟานี่ สำหรับเธอตอนนี้มันเป็นเหมือนกับความชอบความหลงก็แค่นั้น

     

    ได้เลย!
              ไปเที่ยวกันนะคะ!!
              22.07 sent by fanybear

     

    รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นเมื่อเห็นข้อความจากผู้จัดการหมีสาวตอบกลับมา หัวใจที่เริ่มเต้นผิดจังหวะความสุขเล็กๆ แบบไม่มีเหตุผล ที่ทำให้ร่างกายอุ่นวาบเมื่อเป็นแบบนี้ควอนยูริก็คงไม่อาจจะปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดอยู่ได้อีกแล้ว

    “อยากดูแล

     

     

     

    “ซอคะ”

    “หื้มมม?”

    “เดี๋ยวนี้หัดตอบแบบนี้เหรอ!” เจสสิก้าไม่พูดเปล่า มือเรียวเล็กนั้นยังหยิกสีข้างของคนอายุน้อยกว่าไปพร้อมๆ กันจนอีกฝ่ายร้องโอดโอย

    “เจ็บค่ะเจ็บ T T” เด็กตัวโตรีบคว้าตัวร่างบอบบางเข้ามากอดออดอ้อนออเซาะในทันใด ปากก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าสวยๆ นั้นอย่างเอาอกเอาใจซะจนเจสสิก้าต้องยอมแพ้ให้กับความน่ารัก

    วันนี้เป็นวันหยุดที่เวลาของเจสสิก้าและซอฮยอนตรงกันพอดีทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะตามปกติแล้วจะได้อยู่ด้วยกันก็เฉพาะตอนกลางคืนก่อนนอนหรือสไกป์กันบ้างคลายความคิดถึง ดังนั้นในวันที่ได้ใช้เวลาด้วยกันมากมายขนาดนี้พวกเธอจึงตัดสินใจอยู่ด้วยกันที่บ้านของเจสสิก้า

    “พี่อยากปลูกต้นไม้ค่ะ” เจสสิก้าโอบกอดรอบเอวคอดของซอฮยอนแล้วเอาคางเกยไหล่มนไว้ ซอฮยอนมองแล้วก็อดคิดไม่ได้เหมือนลูกแมวไม่มีผิดเพี้ยน

    “ที่ไหนดีคะ ใกล้ๆ ม้านั่งหน้าบ้านมั้ย?” ซอฮยอนเสนอความคิด

     “ก็ดีค่ะ” ดาราสาวสวยยิ้มดีใจเป็นเด็กๆ ก่อนจะกดปลายจมูกลงบนแก้มนุ่มของซอฮยอนแล้วสูดหายใจเข้าอย่างแรงแรงซะจนเจ้าของแก้มชื่นใจได้ทั้งวัน

    “ไปดูพันธุ์ต้นกล้ากันมั้ยคะ?”

    “ไม่ค่ะ เดี๋ยวพี่จะปลูกเอง”

    “อ้าวแล้วชวนทำไม”

    “หลอกให้เด็กอยากปลูกค่ะ” มันน่าจับฟัดมั้ยล่ะกวนกันแบบนี้

    ซอฮยอนพ่นลมเป่าหน้าม้าตัวเองอย่างเซ็งๆ เพราะคำตอบที่ได้รับไม่เป็นตามที่ตัวเองคาดคิดไว้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอหงุดหงิดอะไร มันเป็นเพียงการหยอกล้อของคนที่รักกันก็เท่านั้น

    “ซอคะ

    “คะพี่สิก้า?” ร่างสูงโปร่งตอบรับพร้อมรอยยิ้ม มือเรียวก็บรรจงจัดผมของคนรักให้เข้าที่เข้าทาง เจสสิก้ามองการกระทำของอีกฝ่ายแล้วก็ต้องเม้มริมฝีปากแน่น

    ความรักยังอยู่ในการกระทำเพียงอย่างเดียวเช่นเคย

     

     

    เจสสิก้าเป็นผู้ถูกสร้าง

    สมองของเธอถูกปลูกฝังว่าเป็นเด็กกำพร้าโดยมีพ่อและแม่ของทิฟฟานี่เป็นผู้อุปการะ ความทรงจำทุกอย่างที่มีอยู่เพิ่งจะเริ่มต้นเมื่อตอนม.ต้นปีสุดท้ายทำไมถึงได้เริ่มตอนนั้นน่ะเหรอ?

     

    เพราะ ผู้สร้าง ของเจสสิก้าคือคิมแทยอน

     

    ฟังดูแปลกแต่แทยอนสามารถสร้างทุกอย่างที่ตนเองต้องการได้ดั่งใจไม่มีใครรู้เรื่องนี้ยกเว้นตัวแทยอนเองและคนในครอบครัว แทยอนเพิ่งจะมารู้ว่าตัวเองประหลาดก็ตอนที่สร้างดินสอสีให้ซอฮยอนทำงานเนี่ยแหละแต่ในตอนนั้นซอฮยอนก็ไม่ได้ประหลาดใจนักหรอกนะ

    “ทำอะไรของเธอน่ะคิมแทยอน!!!” ทิฟฟานี่ล่ะอยากจะกรีดร้องเสียจริงเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กแบกผู้หญิงแปลกหน้าที่กำลังหมดสติจากไหนไม่รู้มาหาเธอถึงหน้าห้องนี่แทยอนแบกคนที่มีขนาดตัวใกล้เคียงกันขึ้นมาชั้น 9 ได้เนี่ยนะ!?

    “ขอโทษฉันก็แค่เผลอ” แทยอนพูดไปก็ก้มหน้าไปด้วยความรู้สึกผิดเพราะคุณเพื่อนหมีขาวมองหน้าเธอเขม็งราวกับว่าเธอไปฆ่าใครมายังไงยังงั้น ทิฟฟานี่ส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนที่จะช่วยแทยอนพาร่างหญิงสาวอีกคนเข้ามานอนพักบนโซฟาในห้องอย่างยากลำบากแหม ถึงจะเหมือนหมีก็บอบบางนะ!

    “เธอรู้ใช่มั้ยแทยอน” ทิฟฟานี่พูดขึ้นขณะที่กำลังห่มผ้าให้กับคนหมดสติ ตาก็ช้อนมองตัวปัญหาคาดคั้นเอาคำตอบ

    “รู้สิ”

     

    ผู้สร้าง ที่สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาไม่อาจ สร้าง อะไรได้อีก

     

    ทิฟฟานี่ฮวังหรือฮวังมิยองเป็นหนึ่งในผู้ที่ล่วงรู้พลังผิดธรรมชาติของคนตระกูลซอแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือแทยอนเป็นบุตรบุญธรรมที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดเป็น ผู้สร้าง ได้อย่างไร

    แทยอนกุมขมับบ่นพึมพำกับตัวเองไม่หยุดจนทิฟฟานี่เหนื่อยใจแต่ก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าแทยอนกำลังดีใจกับผลงานของตัวเองอยู่ลึกๆ

    เพราะแทยอนอยากมีเพื่อน

     

    อาจจะไร้สาระเกินไปในความคิดของใครหลายคนแต่ทิฟฟานี่เข้าใจความรู้สึกของแทยอนได้ดีแม้ว่าจะไม่เคยตกอยู่ในสถานภาพเดียวกันก็ตาม

    “ฉันจัดการเอง” สิ้นเสียง แทยอนก็เงยหน้ามองทิฟฟานี่ด้วยสายตางุนงง

    “เธอหมายความว่าไง?”

    “ฉันจะให้แด๊ดดี้กับหม่ามี๊รับอุปการะผู้หญิงคนนี้ไว้ไง ไม่คิดเหรอว่าถ้าทางบ้านเธอรู้เรื่องที่สร้างอะไรขึ้นมาโดยพลการแล้วจะไม่เอาเรื่องจนถึงตายน่ะ”

    ” แทยอนเงียบและเริ่มคิดถึงน้องสาวต่างสายเลือด

    “อย่าแม้แต่จะคิดถึงซอฮยอนเชียวนะแท” ทิฟฟานี่รีบพูดห้ามปรามไม่ให้แทยอนได้คิดอะไรที่มันเลยเถิดมากไปกว่านี้

    “แทยอนฟังฉันนะ” มือเรียวตบบ่าคนตัวเล็กกว่าเบาๆ แล้วพูดต่อ

    “ซอฮยอนจะต้องไม่รู้เรื่องนี้”

     

    ไม่นานนักทิฟฟานี่ก็จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเสร็จสรรพไร้ปัญหาใดๆ และพา เจสสิก้าจอง หรือ จองซูยอน เข้าเรียนที่โรงเรียนเดียวกันโดยไม่ลืมแนะนำให้ซอฮยอนรู้จัก

    “เอ่อ พี่จองซูยอนค่ะร เรียกเจสสิก้าก็ได้” เจสสิก้าก้มหน้าพูดเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าขึ้นสีชมพูอ่อนเมื่อซอฮยอนสบตากับเธอแล้วมีอาการที่คล้ายกัน

    แค่เด็กม.1 มีเสน่ห์ขนาดนี้เชียวหรือ?

    “ซอจูฮยอนค่ะพี่สิก้า” เด็กสาวที่ตัวเล็กกว่าเล็กน้อยพูดไปพลางก็เกาแก้มไปพลางเพื่อระงับความเขินอายแต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย

     

    นี่หรือเปล่าที่เรียกว่ารักแรกพบ…?

     

     
     

    ซอฮยอนอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงวันแรกที่ได้พบกับเจสสิก้า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ดีๆ ก็นึกถึงขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะเธอนั่งเล่นนอนเล่นอยู่คนเดียวเลยคิดนั่นคิดนี่ฟุ้งซ่านไปเรื่อยระหว่างรอเจสสิก้าประทินโฉมอาบน้ำแต่งตัว

    จะว่าไปเธอต้องรอเจสสิก้าอาบน้ำทุกตอนเลยรึเปล่านะ?

    “ตอนนี้กี่โมงแล้วคะซอ?” ร่างบางเดินกลับเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กในมือ ก่อนที่จะเดินมายื่นมันให้ซอฮยอน ส่วนสายตาก็ออดอ้อนซะ

    “สองทุ่มกว่าค่ะ” ยิ้มจนแก้มแทบปริกับความน่ารักของคนอายุมากกว่า ซอฮยอนยันตัวลุกขึ้นนั่งที่ขอบเตียง รวบตัวอีกคนมานั่งคร่อมตัก คว้าผ้าขนหนูมาจากมือบางได้ก็เริ่มเช็ดผมที่เปียกชื้นให้เบาๆ อย่างทะนุถนอม

    คนบนตักได้แต่ยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก โอบกอดรอบคอเด็กตัวสูงไว้หลวมๆ ก่อนจะจุ๊บที่ปลายจมูกทำแบบนี้ฆ่ากันเลยเถอะ!!

    “ซอคะ”

    “คะ?” ซอฮยอนตอบไปแบบงงๆ เมื่อเจสสิก้าเอนตัวลงมาซบไหล่ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากมาย มือก็ยังคงเช็ดผมให้อีกคนเรื่อยๆ จนเกือบแห้ง

    “บอกรักมันยากมากหรือเปล่าคะ…?” เลื่อนวงแขนลงมากอดรอบเอวคนอายุน้อยกว่า ในใจแอบหวั่นอยู่บ้างว่าซอฮยอนจะมองเธอเป็นผู้หญิงงี่เง่า

    ซอฮยอนหลุดขำแล้วหอมแก้มคนในอ้อมแขนฟอดใหญ่นึกว่าเป็นอะไรซะอีก ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ไม่รู้ว่าเจสสิก้าจะคิดมากไปไหนต่อไหนแล้วคงกลัวว่าเธอจะมองไม่ดีแน่ๆ

    “พี่สิก้า” ได้ยินอีกคนเรียกเจสสิก้าก็ผละออกมาส่งสายตาถามเป็นเชิงว่าเรียกทำไม

    ยังไม่ทันที่เจสสิก้าจะเอ่ยถามอะไรต่อ ริมฝีปากอุ่นนุ่มของซอฮยอนก็ทาบทับลงมาบนริมฝีปากสัมผัสอุ่นละมุนละไม ลิ้นร้อนที่บรรจงละเลียดละเมียดเชยชิมความหอมหวานในโพรงปากอย่างนุ่มนวลไร้ซึ่งการจาบจ้วงและแรงอารมณ์แต่อย่างใด ทุกการกระทำนั้นแทบหลอมละลายทั้งร่างกายและหัวใจ

    ซอฮยอนค่อยๆ ผละริมฝีปากออกแล้วกดจูบแผ่วเบาอีกครั้ง

    “รู้สึกอะไรมั้ยคะ?” เด็กตัวโตพูดเสียงนุ่มพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

    “ฉันรักเธอ” เจสสิก้าตอบขอบตาเริ่มมีน้ำตารื้นเพราะความสุขในใจ สุขมากจนอยากจะร้องไห้ออกมาเธอรู้ดีว่าซอฮยอนจะพูดอะไรต่อ

    “ใช่ค่ะจูฮยอนรักซูยอน” ซอฮยอนกระชับอ้อมกอดแล้วจูบซับน้ำตาให้เจสสิก้า

    “พี่สิก้าคะ”

    …?”

    “ฉันรักเธอ” ซอฮยอนพูดอีกครั้งแต่มันช่างแผ่วเบาเหลือเกิน ริมฝีปากร้อนที่ค่อยๆ กดจูบลงมาบนต้นคอขาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำเอาเจสสิก้าเคลิบเคลิ้มและเปิดทางให้อย่างเต็มใจ




    ---ตัด NC ออกค่ะ---


     

    “เหนื่อย” ดาราสาวดันไหล่อีกคนออกเพราะเดิมทีก็หายใจจะไม่ทันอยู่แล้ว สายตาอ่อนระโหยโรยแรงจ้องมองคนรักอย่างออดอ้อน ซอฮยอนเห็นอย่างนั้นจึงพาเจสสิก้าให้นอนสบายๆ บนเตียง

    วันนี้เป็นอะไรกันนะช่างอ้อนจริงๆ

     

    “รักนะคะ” ซอฮยอนพูดเสียงหวานเอาอกเอาใจร่างบอบบางในอ้อมกอดแล้วจุ๊บเบาๆ ที่ปลายจมูกอย่างแสนรัก

    “รักที่สุดค่ะ” เจสสิก้าตอบพร้อมหลับตาพริ้มรับสัมผัสอุ่น ซอฮยอนยิ้มแล้วเอื้อมมือปิดไฟเพื่อเข้านอนและให้คนรักได้พักผ่อน

    ร่างบางซุกหน้ากับอกอุ่นเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทราในใจก็คิดว่าไม่น่าเชื่อเลยที่แค่การบอกรักจากคนที่รักมันจะทำให้มีความสุขมากมายถึงเพียงนี้

    เธอไม่สามารถขาดคนๆ นี้ในชีวิตไปได้อีกแล้ว

     

    เจสสิก้ารักซอฮยอนมากเหลือเกิน

     

     

    “อยากไปเที่ยวมั้ย?”

    “ห๊ะ?” แทยอนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่เลยแฮะนี่ยุนอากำลังชวนเธอไปเที่ยวงั้นเหรอ? เห็นร้อยวันพันปีไม่เคยจะชวน

    “อยากเที่ยวเองมากกว่าสิไม่ว่า” พูดอย่างรู้ทันแล้วยักคิ้วใส่รุ่นน้อง

    “ยุนรู้ว่าพี่แทก็อยากเที่ยว”

    ไอ้นี่มันดันรู้ทันมากกว่าหนึ่งก้าวทุกทีเลยเว้ยเฮ้ย

    “ยุนอยากไปไหนล่ะคะ?”

    “ยุนตามใจพี่แทค่ะ” ว่าแล้วก็แกล้งทำตาใสปิ๊งๆ แอ๊บเคะแตกใส่จนแทยอนอดไม่ได้ที่จะฟาดแรงๆ สักทีด้วยความหมั่นเขี้ยว

    “งั้นไม่ต้องไป!

    “ทะเลค่ะทะเล!!” ยุนอารีบเอ่ยปากพูดออกไปทันที แทยอนเห็นอย่างนั้นก็แสยะยิ้มอย่างผู้มีชัยมันน่าจับฟัดมั้ยล่ะเด็กแบบนี้

    “ซอน่ะรู้เรื่องของพี่กับสิก้ารึเปล่า”

    “อ่า

    “ที่ถามไม่ใช่เพราะพี่ยังคิดอะไรกับซอนะคะ แต่พี่แค่ถามเพราะอยากรู้ในฐานะพี่สาวคนหนึ่งที่เป็นห่วงน้องสาวก็เท่านั้น

    ให้ตายสิผู้หญิงคนนี้รู้ได้ยังไงกันนะว่าเธอแอบหึงเบาๆ

    “ฮ่าๆคิดเหรอว่าซอจะไม่รู้ ซอมันรู้ตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนนี้ด้วยซ้ำไป”

    “งั้นเหรอ” แทยอนยกยิ้มบางๆนี่เป็นอีกครั้งแล้วที่แทยอนรู้สึกผิดมากถึงมากที่สุดเพราะที่ผ่านมาซอฮยอนไม่มีทีท่าโกรธเคืองอะไรเธอเลยแม้แต่น้อยจนเธออยากจะตบในบางครั้ง

    “พี่แทอย่าคิดมากเลยนะ” ยุนอาพูดเสียงอ่อนพร้อมกับสวมกอดคนตัวเล็กแน่นเป็นการปลอบ

     

    “ซอเองก็ทำหน้าที่ของน้องสาวคนหนึ่งที่เป็นห่วงพี่สาวเหมือนกัน”

     

    แทยอนได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกว้าง ยุนอามักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอเวลาที่เธอนึกโทษโยนความผิดให้ตัวเอง คิดไม่ผิดเลยที่เธอเลือกมอบหัวใจให้อิมยุนอาดูแล

    “ขอบคุณนะคะที่รัก” แทยอนพูดคำสุดท้ายแผ่วเบาราวกับกระซิบแต่มันช่างชัดก้องในใจของยุนอาซะเหลือเกิน ยุนอาเองก็คิดไม่ผิดเช่นกันที่เลือกจะดูแลคิมแทยอนผู้เปราะบาง

    “งั้นเดี๋ยวเราไปจัดของเตรียมเที่ยวกันเถอะที่รัก!” พูดจบยุนอาก็ทำตาปิ๊งๆ อีกครั้ง

    “ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ!!

    “โอ้ยยยยยยย!!!!” ด้วยความหมั่นไส้สุดขีดแทยอนจึงบิดพุงขาวๆ นั้นอย่างแรง ส่วนเหตุการณ์ต่อมาคือการงอนง้อกันของคู่กวางหมา(?)

     

    ซอจูฮยอนน้องสาวสุดที่รักขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง

    ตอนนี้ฉันมั่นใจจริงๆว่าฉันสามารถลืมเธอได้แล้วล่ะ

     

     

    เช้าวันนี้ยูริมารับทิฟฟานี่ไปเที่ยวด้วยกัน ระหว่างที่กำลังขับรถยูริก็แอบลอบมองทิฟฟานี่หลับอยู่ตลอดจนกระทั่งจู่ๆ คุณเธอก็เบิกตาโพลงขึ้นมาซะดื้อๆ

    โครมมม!!

    เออค่ะจูบตูดรถคันอื่นจนได้

     

    “ยูลใจเย็นๆ นะ T T” ทิฟฟานี่รีบปลอบทันทีที่เห็นว่ายูริกำลังอยู่ในสภาวะอึ้งกิมกี่ก็มิปานทำไมเธอถึงรู้สึกว่าตัวเองผิดกันนะ?

    ทิฟฟานี่ปลอบยูริได้สักพักก็เงยหน้าขึ้นมองคู่กรณีช็อคกว่าเดิมค่ะ คนสวยล่ะอยากจะกรี๊ดจริงๆ! Hyundai Sonata รุ่นใหม่สีขาวเลขทะเบียนที่ดูก็รู้ว่าแพงหลุดโลกแพงซะยิ่งกว่าราคารถ(?) ตุ๊กตาเคโรโระครบเซ็ตด้านหลังพระเจ้าเถอะ!!

     

    ทำไมรถของซอฮยอนถึงมาอยู่ที่นี่?

     

    “ยูลขอลงไปดูหน่อยนะ ยังไงยูลก็ต้องรับผิดชอบ” พูดจบยูริก็เดินลงจากรถไปดูท้ายรถคันที่เธอเผลอชนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ส่วนเจ้าของรถก็หายไปไหนไม่รู้เธออยากไปเที่ยวกับทิฟฟานี่แล้ว!

    “ขอร้องล่ะอย่าตีกันนะ” ผู้จัดการหมีสาวได้แต่นั่งภาวนาอยู่ในรถไม่ให้เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้น แต่ของแบบนี้คงห้ามกันไม่ได้

    “ตายจริงคุณยูริอย่าขับรถประมาทเลินเล่อแบบนี้สิคะ”

    “ตรงนี้เขาห้ามจอดไม่ใช่เหรอ?”

    “ฉันมีสิทธิ์จอดเพราะเป็นพื้นที่ของทางบ้านฉันค่ะ”

    “มันเป็นพื้นที่ส่วนกลางนะ!

    “ดูโฉนดที่ดินมั้ยคะ?”

    โอ้คุณพระ! …ทิฟฟานี่ฮวังแทบจะอกแตกตาย สองคนนั้นเอาแต่กัดกันไปกัดกันมาจนปัญหาเกิด นี่ถ้าเจสสิก้าอยู่ด้วยก็คงจะดีกว่านี้

    เดี๋ยวนะ

     

    “สิก้าขอลาพักงานไปเที่ยวกับซอซออยู่ที่นี่

    แล้วเจสสิก้าไปไหน?

     

    “ยัยหมี!” ช่างตายยากตายเย็นเหลือเกินนะ แค่นึกถึงไม่ทันไรก็โผล่มาเสนอหน้าให้เห็นแบบไม่ทันตั้งตัว จะบ้าตาย!

    เจสสิก้ามองเพื่อนสาวงงๆ ก่อนกวาดสายตามองตัวรถที่ทิฟฟานี่นั่งอยู่Porche Cayenne สีดำ เลขทะเบียนที่คุ้นตาแบบนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแฮะ

    “ฟานี่มากับใครน่ะ?”

    “คนที่กำลังกัดกับสามีเธอนั่นไง” ทิฟฟานี่พูดพร้อมกับชี้ไปทางสองเสาไฟฟ้าที่กำลังกัดกันอย่างเผ็ดร้อนได้ใจ เจสสิก้าปรายตามองแล้วก็ต้องยิ้มกริ่มเพราะมันเป็นไปตามที่เธอคาดเดาไว้เกือบเป๊ะ

     

    ซูยองโดนเขี่ยลงถังแน่นอน!

     

    “เคยบอกว่ายูลซื่อบื้อบ้องตื้นไม่ใช่เหรอ?” เจสสิก้ายักคิ้วหยอกล้อเพื่อนสาว

    เพราะซื่อบื้อเนี่ยแหละถึงได้น่ารัก

     

    ดาราสาวพูดคุยกับคุณผู้จัดการเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปทางซอฮยอน  ทิฟฟานี่มองตามไปก็เห็นเจสสิก้าห้ามปรามศึกระหว่างสองยอดเมะได้สำเร็จ แต่ทว่า Honda CR-Z สีแดงแปร๊ดกลับเลียบๆ มาจอดข้างฮุนไดของคนที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มอย่าบอกนะว่า

    “เฮ้น้องสาว เกิดอะไรขึ้นน่ะ” ยุนอาเปิดกระจกรถแล้วยื่นหน้าออกมาถามไถ่เหตุการณ์ ส่วนคนที่อยู่ในรถนั่นก็ไม่ใช่ใครอื่นคิมแทยอน!?

     

     

    นี่มันวันมหาวิบัติอะไรกันเนี่ย!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×