คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [CH.4] Sips the night (100%) edit แก้คำผิดเรียบร้อย
Sips the night…
แทยอนพ่นลมหายใจเป่าหน้าม้าตัวเองด้วยความไม่สบอารมณ์ที่อยู่ๆ น้องสาวสุดที่รักก็เดินออกจากบ้านไปแบบไม่บอกไม่กล่าว มือเล็กนั้นก็ยกแก้วเหล้ากระดกเอาๆ จนยุนอาใจหายไม่น้อย…ไม่ได้คิดจะมอมหรอกนะ เพียงแต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าหน้าใสๆ อย่างแทยอนจะคอแข็งได้ปานนี้
“ยุนว่าพี่ดื่มเยอะแล้วนะ”
“ยังหรอกค่ะ แค่นี้สบายมาก” แทยอนหันมาส่งยิ้มให้แล้วนั่งดูทีวีต่อ แค่นี้เธอจะเมาได้ยังไงกันในเมื่อตัวเธอเป็นสาวสังคมที่ชอบสังสรรค์ปาร์ตี้เฮฮาเป็นชีวิตจิตใจ
“เจ็ดแก้วแล้วนะคะพี่แท” ยุนอายังคงไม่เลิกท้วง แม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าแทยอนชอบดื่มมากแค่ไหนแต่ก็ไม่อยากให้มันมากเกินไป…แทยอนไม่รู้ตัวหรอกว่าตอนที่ตัวเองเมาน่ะ…
น่าปล้ำสุดๆ !
“แค่เจ็ดแก้วเอง น่านะ…ไหนๆ ก็ฉลองให้พี่ทั้งทีนี่คะ” ไม่พูดเปล่ามือเล็กนั้นก็กระดกเหล้าที่เหลือในแก้วจนหมดแล้วลุกไปผสมใหม่อีกจนยุนอานับแทบไม่ทัน
สาวนิเทศมากพรสวรรค์ได้แต่นั่งมองรุ่นพี่ในคณะแล้วบ่นงึมงำกับตัวเองเบาๆ ตาใสๆ จ้องมองสาวร่างเล็กดื่มเหล้าราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่าที่ผ่านคอแล้วไม่รู้สึกร้อนผ่าวอะไรเลย ถึงจะคอแข็งมากปานใดก็ตามร่างกายคนเรามันก็มีขีดจำกัดกันบ้างดื่มไปเรื่อยๆ ยังไงก็ต้องเมาอยู่ดี
และแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่ยุนอาได้คาดการณ์ไว้ ผ่านไปได้ไม่นานแทยอนก็เมา…ออกอาการเมาไม่รู้เรื่องจนต้องแบกพาไปที่ห้องนอนเพื่อให้คนเมาพักผ่อนได้สบายสักหน่อย
ยุนอาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เช็ดไปตามใบหน้าขึ้นสีระเรื่ออย่างเบามือด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมา นั่งลงที่ขอบเตียงแล้วก็เพ่งพินิจพิจารณาหน้าหวานๆ นั้นอย่างละเอียด…
ไม่เข้าใจซอฮยอนเลยว่าทำไมถึงไม่หวั่นไหวกับพี่สาวของตัวเองบ้างทั้งที่แทยอนออกจะติดซอฮยอนแจซะขนาดนั้น ทั้งขี้อ้อน เอาแต่ใจ แง่งอนน่ารักๆ…ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ถ้าเธอเป็นซอฮยอน…แทยอนต้องไม่พ้นเธอแน่ๆ!
“อือออ…ซอฮยอนนน…กลับบ้านได้แล้ว” คนเมาพูดละเมอออกมาพร้อมกับพลิกตัวหันหลังให้กับรุ่นน้องที่กำลังแอบขำกับพฤติกรรมน่ารักๆ นั่น…แม้คนอื่นจะมองยังไงแบบไหนยุนอาก็คิดว่ามันน่ารัก
“เอาแต่พูดถึงเจ้าซอแฮะ…” บ่นกับตัวเองพลางค่อยๆ ขยับตัวลงนอนข้างๆ วงแขนโอบกระชับรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบแน่น มือเรียวลูบผมนุ่มอย่างเบามือ
…
“ฝันดีนะคะคิมแทยอน” พูดจบก็จูบกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนเบาๆ แล้วผล็อยหลับไป
ค่ำคืนนั้น…แทยอนรู้สึกอบอุ่นกว่าที่เคยด้วยอ้อมกอดของอิมยุนอา
รถติด…ฝนตก…อะไรอากาศจะเป็นใจให้ฮวังทิฟฟานี่ได้อยู่กับควอนยูริสองต่อสองปานนี้
นี่ก็ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงแล้วที่รถในท้องถนนใหญ่ค่อยๆ ขยับไปทีล่ะนิด…ถ้าหากเป็นแบบนี้ให้เดินกลับบ้านเองคงจะเร็วซะกว่า
“ฝนมาตกอะไรเอาตอนนี้นะ” ยูริเอนหลังพิงเบาะรถอย่างเหนื่อยหน่าย มือเรียวยกขึ้นมานวดขมับตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานตั้งแต่เช้า ทิฟฟานี่เห็นอย่างนั้นก็เริ่มรู้สึกเกรงใจดาราสาวหล่อไม่น้อยที่อุตส่าห์อาสาจะไปส่งเธอให้ถึงหน้าคอนโด…อันที่จริงให้เพื่อนคนอื่นที่ไม่ใช่เจสสิก้าพาไปส่งมันก็ได้อยู่หรอก แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว…ให้เพื่อนของแฟนไปส่งก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“ไม่แปลกนะคะยูล ก็นี่มันหน้าฝนไม่ใช่เหรอ”
“จริงง่ะ นี่มันเดือนอะไรแล้วเนี่ย” เวรกรรม…นี่หล่อนทำงานจนลืมวันลืมคืนเลยหรือไงยะ
“ยูลเคยดูปฏิทินมั้ย?” ทิฟฟานี่พูดเสียงกลั้วหัวเราะแล้วเล่นเกมในไอโฟนต่อ สายตาก็แอบเหลือบมองยูริที่กำลังหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมากดดูวันเดือนปี
“โอ้…จริงด้วยสิ ลืมไปเลยแฮะ” ยูริยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองแก้เขิน
“ยูลน่าจะหาเวลาพักผ่อนบ้างนะ ทำงานหนักจนลืมเวลาแบบนี้มันไม่ดีเลย”
ยูริได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้เมื่อเห็นว่าผู้จัดการสาวออกแนวแอบดุเธอเบาๆ เท้าเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย น่าแปลกใจจริงๆ…ที่ยูริลืมเจสสิก้าไปซะสนิท ในหัวเริ่มจะมีแต่เรื่องของทิฟฟานี่เข้ามาแทนที่ มันเป็นเพราะอะไรกัน?
หรือจะเป็นรักแรกพบ…?
ก็ไม่ใช่อยู่ดี เพราะยูริรู้จักกับทิฟฟานี่มาก็นานแล้วตั้งแต่ตอนที่รับบทแสดงหนังรักร่วมกับเจสสิก้า ยิ่งคิดยูริก็ยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง…ถ้าจะเป็นแบบนี้ทำไมไม่ชอบทิฟฟานี่ตั้งแต่แรก
บ้าจริง! ทิฟฟานี่เป็นแฟนซูยองนะ!!
“ช่วงนี้สิก้าไม่ค่อยมีงานเหรอคะ?” …ถามเรื่องเจสสิก้าอีกแล้ว?
“ค่ะ เห็นเจ้าตัวว่าจะลดงานให้น้อยลงสักวันสองวัน” ทิฟฟานี่พูดจบก็ก้มหน้าก้มตารัวนิ้วลงบนหน้าจอไอโฟนเช่นเดิมจนยูริแอบสงสัย…มันมีอะไรดีนักหรือ?
“ฟานี่ติดมือถือเหมือนกันนะเนี่ย” ดาราสาวพูดหยอกล้อแล้วตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อเพราะการจราจรบนท้องถนนเริ่มจะคล่องตัวมากขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง
“ชอบเล่นเกมน่ะค่ะ เพื่อนฟานี่เยอะด้วยแหละต้องตอบนั่นนี่กันตลอด”
“มีเพื่อนเพิ่มอีกสักคนคงไม่เป็นไรนะ?”
“เอ๋…?”
“เอ่อ…ลืมๆ มันไปเถอะ” ดาราสาวพูดปัดแทบไม่ทัน อยากจะทึ้งหัวตัวเองวิ่งชนกำแพงซะจริงที่พูดอะไรออกไปแบบนั้น…นั่นมันแฟนเพื่อนนะ!
เวลาล่วงเลยมาชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงหน้าคอนโดของสาวหมีตายิ้ม ทำเอายูริแอบงงไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นคอนโดของผู้จัดการสาวอย่างทิฟฟานี่ คอนโดที่หรูหราราคากระฉูดเช่นนี้เหมือนจะอยู่ดียิ่งกว่าดาราใหญ่หลายๆ คนซะอีก ผู้หญิงคนนี้เริ่มมีอะไรน่าค้นหาซะแล้วสิ…
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ยูลยินดี” ร่างสูงมองอีกฝ่ายเก็บของกำลังจะเดินลงจากรถคันหรูแต่ก็ต้องชะงักเมื่อทิฟฟานี่หันกลับมา
“fanybear แอดมานะ” ว่าแล้วก็รีบเดินลงจากรถไปทันทีทิ้งให้ยูรินั่งเขินอยู่คนเดียว…นี่เธอกำลังให้ท่าควอนยูริรึเปล่า?
ดาราสาวเจ้าของใบหน้าคมเข้มแอบอมยิ้มขำเล็กๆ มือเรียวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาแอดไลน์ของผู้จัดการหมีในทันที ไม่นึกเลยว่าทิฟฟานี่จะเล่นกับเธอด้วย…
…ขอโทษนะซูยอง
เจสสิก้าแต่งตัวเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง หน้าสวยคมนั้นซุกกับหมอนใบใหญ่ปล่อยให้มันทำหน้าที่ซับน้ำตาที่พากันพร่างพรูออกมาจากดวงตาคมคู่งาม เธอจะโดนเด็กตัวโตนั่นหัวเราะเยาะมั้ยนะ…หัวเราะที่เธอให้ใจไปในเวลาเพียงไม่นานนัก…ให้ไปจนหมดทั้งหัวใจที่มี
ไม่ใช่สิ…
เธอรู้สึก…ว่าหัวใจอยู่ที่ซอฮยอนมานานแล้ว
อยู่กับซอฮยอนมาก่อนที่จะได้พบเจอกัน…
ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจที่ดูท่าทางอีกฝ่ายจะไม่ค่อยอยากพูดอะไร ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากไปกว่านี้…ไม่อยากรักกันทั้งที่เจสสิก้าสัมผัสได้ชัดเจนว่าซอฮยอนรักเธอมากมาย หรือเธอเพียงแค่คิดไปเอง?
แค่ผู้หญิงธรรมดาที่ได้แต่คิดเพ้อฝันข้างเดียวว่าจะได้สมหวังได้รักกับคนที่รัก แต่เจสสิก้าไม่อยากเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา…เธออยากเป็นผู้หญิงที่พิเศษที่สุดสำหรับซอฮยอน
สัมผัสอุ่นจากด้านหลังทำให้เจสสิก้าสะดุ้งเล็กน้อย วงแขนนั้นโอบกระชับร่างบอบบางของเธอไว้ในอ้อมกอดพร้อมกับจูบเบาๆ ที่ใบหูอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมราวกับรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้เสียน้ำตาอย่างไม่สมเหตุสมผลให้ตัวเอง ซอฮยอนไม่ชอบเลยที่เป็นฝ่ายทำให้ผู้หญิงคนนี้เสียใจ
“ร้องไห้ทำไมคะพี่สิก้า” เอ่ยกระซิบถามเสียงแผ่วเบาแล้วพลิกตัวดึงร่างบางเข้ามากอดไว้แนบอกก่อนจะกดจูบอุ่นลงบนหน้าผากมน…ซอฮยอนทำไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ายิ่งแสดงออกถึงความรักมากเท่าไหร่เจสสิก้าก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจมากกว่าเดิม
วงแขนบอบบางค่อยๆ วาดโอบกอดรอบเอวคอดแล้วซบหน้าซุกอกอุ่นของคนที่อายุน้อยกว่าอย่างต้องการจะหาที่พึ่งพิง หากไม่ได้รับคำว่ารัก…เจสสิก้าก็ขอรับความรักทั้งหมดที่เด็กคนนี้มีให้เธอก็แล้วกัน แม้ว่าจะเป็นรักที่ไม่สมบูรณ์แบบเพราะไร้ซึ่งคำพูดแต่เธอจะเป็นคนเติมเต็มส่วนที่เหลือนั้นเอง…
“ไม่ร้องแล้วนะ” พูดเสียงหวานพลางก้มลงจูบซับน้ำตาให้ ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆ ที่หางตาอีกข้าง ซอฮยอนรู้ดีว่าเจสสิก้าร้องไห้เพราะอะไร…ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากบอกไม่อยากพูดให้อีกฝ่ายรับรู้
แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้…
เจสสิก้าพยักหน้ารับน้อยๆ แอบช้อนตามองร่างสูงแล้วเลื่อนมือขึ้นไปใช้ปลายนิ้วไล้ตามริมฝีปากบางนั้นเล่น ไม่รู้ว่าทำไมถึงคุ้นเคยไปหมดทุกสัมผัสทุกการกระทำ คุ้นหมดทุกอย่างจนน่าแปลกใจ…ราวกับว่าเขาและเธอเคยเป็นของกันและกันมาก่อน
ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรักกันโดยเฉพาะ
แต่มันจะไปเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเจสสิก้าเพิ่งจะเคยพบเจอกับซอฮยอนเมื่อไม่นานมานี้เอง หรือจะเป็นเพราะสมองเธอมันฟุ้งซ่านจนกู่ไม่กลับเสียแล้ว…แต่เธอคิดว่าอย่างหลังไม่น่าจะใช่
ถ้าเพิ่งเจอกันจริงๆ เธอคงไม่สามารถรักซอฮยอนได้มากถึงขนาดนี้…
“เรา…เคยเจอกันมาก่อนมั้ยคะ?” เจสสิก้าเอ่ยปากถามออกไปเสียงแผ่ว มือบางเลื่อนขึ้นไปแนบลงกับใบหน้าใสของซอฮยอน เพียงแค่ถามคำถามนี้ออกไปหัวใจก็สั่นไหวไปทั้งดวง รู้สึกตื่นเต้นกับคำตอบเหลือเกินว่าเด็กตัวโตจะตอบคำถามของเธอในรูปแบบใด
“พี่สิก้าคะ”
“…” จะเรียกทำไมกัน…ฉันเป็นฝ่ายถามเธอก่อนนะ
“เชื่อเรื่องเวทย์มนตร์รึเปล่า?” ซอฮยอนพูดพร้อมรอยยิ้ม ฝ่ามืออุ่นวางทาบทับกับมือที่เล็กกว่าบนแก้มของตนเองอย่างเบามือ ซอฮยอนรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่…ทุกการกระทำทุกคำพูด
เพราะสิ่งที่เธอได้ถามออกไป…ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ
เจสสิก้าขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจในคำถามของซอฮยอน แต่เมื่อคิดทบทวนดูสักพักริมฝีปากบางก็แย้มยิ้มก่อนจะกดจูบลงที่ปลายคางมนนั้นอย่างนึกเอ็นดู
“พี่เชื่อนะคะ…” กระซิบตอบคำถามชิดกับผิวเนื้อเนียนและเว้นอีกประโยคไว้สักพัก
“เพราะเวทย์มนตร์ก็เหมือนกับความรัก…ที่สามารถทำได้ทุกอย่าง”
ให้ตายสิ…ไม่นึกเลยว่าจะตอบแบบนี้…ซอฮยอนคิดในใจแล้วลูบผมนุ่มของอีกฝ่ายอย่างเบามือ ก้มลงมอบจุมพิตกรุ่นร้อนให้อย่างแสนรักก่อนจะเลื่อนไปแตะริมฝีปากกับเปลือกตา
“นอนนะคะ วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว”
“ซอยังไม่ตอบคำถามพี่เลยนะคะ” เจสสิก้าเบ้ปากแล้วสะบัดหน้าหนีอย่างขัดใจ อันที่จริงเจสสิก้าไม่ใช่ผู้หญิงงอแงแง่งอนแบบนี้หรอกนะ แต่ถ้าไม่ทำ…ก็คงไม่ได้คำตอบจากเด็กปากแข็ง
“กาลครั้งหนึ่งในฝันค่ะ…” ซอฮยอนตอบยิ้มๆ ได้ยินอย่างนั้นเจสสิก้าก็ทำหน้างง…อีกแล้วที่เด็กคนนี้สร้างความปั่นป่วนให้หัวสมองของเธอ
ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ…ทุกอย่างก็ดับวูบลง
“กาลครั้งหนึ่ง…นานมาแล้ว”
เจสสิก้านั่งหน้ามุ่ยอยู่แบบนี้ตั้งแต่มาทำงานจนกระทั่งถึงตอนแต่งหน้า แม้ตอนนี้สีหน้าก็ยังคงดูไม่ดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มากนักทำเอาทั้งทิฟฟานี่และช่างแต่งหน้ามึนไปตามๆ กัน เพราะปกติแล้วเจสสิก้าจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลาไม่ว่างานจะหนักหนาสาหัสเพียงใด ยิ่งงานวันนี้ชิวๆ เนื่องจากภาพยนตร์ที่ได้รับบทมาเป็นนางเอกคู่กับคิมคีย์บอม…เพื่อนสาวสมัยเรียนของเจสสิก้า
ย้ำว่าเพื่อนสาว…
“เป็นอะไรยะหล่อน” คีย์เข้ามาทักทายเพื่อนสาวร่วมวงการคนสนิทด้วยท่าทางที่มาดแมนราวกับชายหนุ่มเช่นทุกที ยกเว้นน้ำเสียงที่ดูจะไปทางดัดจริตเล็กน้อย
“เปล่า ฉันแค่ไม่อยากเล่นบทเลิฟซีนกับ…ตุ๊ด” เจสสิก้าพูดอย่างเซ็งๆ เพราะไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียงอะไรให้มากความ ไหล่เล็กบางนั้นไหวน้อยๆ ด้วยไม่ใส่ใจเพื่อนนักแสดงมากเท่าใดนัก คีย์เองก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจเจสสิก้า จึงได้แต่กลอกตาไปมาแล้วผลักหัวอีกฝ่ายแรงๆ เป็นการแสดงความรัก…
“งั้นฉันขอไปบิ้วท์อารมณ์แมนก่อนแล้วกันนะ -___-” หนุ่มร่างโปร่งว่าแล้วก็รีบเดินหนีออกไปจากบริเวณนั้นในทันทีเนื่องจากรับรู้ได้ถึงเอฟเฟคต์อุณหภูมิติดลบ…
“เวลาทำงานนะสิก้า” ทิฟฟานี่เตือนเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง แต่อีกฝ่ายก็ตอบรับด้วยสีหน้าบึ้งตึงเช่นเดิมไม่มีบริเวณไหนเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่มากมายนัก
“รู้แล้วน่า”
…เธอแค่หงุดหงิดที่เมื่อคืนนี้ยังไม่ได้คำตอบแน่ชัด
“อย่าเอาเรื่องอื่นมาปนกับเรื่องงาน…เธอพูดเองไม่ใช่หรือไง” ดาราสาวสวยบ่นตัวเองเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นโค้งขอบคุณให้กับเมคอัพดีไซน์เนอร์แล้วเดินไปเตรียมตัวเข้าฉาก
ผู้จัดการสาวหมีเห็นท่าทางของดาราดังผู้อยู่ในความดูแลของตนแล้วก็อดอมยิ้มขำไม่ได้ ต่อให้เจสสิก้าสติหลุดมากแค่ไหนก็ต่อเข้าเรื่องงานโดยไม่มีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยได้เสมอ…ฟังดูง่ายแต่ในความเป็นจริงแล้วช่างยากเย็นเหลือเกินที่จะปัดความจริงทิ้งไปเมื่อเข้าสู่โลกบันเทิง
เพราะความจริงไม่ใช่หนังหรือละคร…
ใกล้จะเที่ยงแล้ว
อย่าลืมทานข้าวนะคะ
11.51 sent by Seohyun
หากท้ายที่สุดแล้วก็ปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้…ซอจูฮยอนไม่อาจออกจากโลกมายาที่เธอจำเป็นต้องก้าวเดินเข้าไปได้เลย ต้องส่งข้อความตอบกลับไปทุกครั้งที่เขาส่งข้อความมา…
“รีบๆ ตามมานะ” คีย์พูดเสียงเรียบด้วยโทนเสียงของผู้ชายแมนแท้เรียกให้เจสสิก้าออกจากโลกแห่งความจริงเกือบจะสมบูรณ์แบบ…คิมคีย์บอมเป็นโฮโมเซ็กช่วลแต่เป็นชายหนุ่มได้เมื่ออยู่ในเวลางาน
จองเจสสิก้าจะยอมแพ้เพื่อนร่วมวงการไม่ได้!
ยุนอาพยายามเปิดเปลือกตาตื่นอย่างยากลำบากอยู่นานสองนาน แต่เมื่อปรับทัศนียภาพได้ก็ไม่เห็นผู้หญิงตัวเล็กนอนอยู่ข้างๆ แล้ว เมื่อคืนนี้เธอเองก็มึนหัวไม่น้อยด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์…ไม่น่าเชื่อว่าคิมแทยอนที่ดื่มเข้าไปมหาศาลขนาดนั้นจะเป็นฝ่ายตื่นก่อน
ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินทั่วบ้านของรุ่นน้องคนสนิทก็หาแทยอนไม่เจอ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอนของซอฮยอน…เหลือก็แต่ห้องน้ำที่ไม่กล้าเข้าไปดู
คิดได้อย่างนั้นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินกลับมานอนเล่นกลิ้งไปกลิ้งมาที่ห้องนอนของแทยอนอีกครั้งเพื่อฆ่าเวลา วันหยุดแบบนี้ยุนอาไม่รู้จะไปไหนดี ครอบครัวก็ล้วนแล้วแต่พากันย้ายไปอยู่สวิสเซอร์แลนด์ซะหมด
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอคะยุนอา” แทยอนทักรุ่นน้องคณะเดียวกันขณะที่สองมือเล็กๆ ก็เช็ดผมตัวเองอย่างแรงจนแทบหมดภาพพจน์อดีตดาวคณะนิเทศน์
…ดูยังไงก็เหมือนลูกหมาตกน้ำ
“ตื่นนานแล้วค่ะ แต่ยังเมาค้างนิดหน่อย” ยุนอาตอบพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ เพราะดูเหมือนแทยอนจะไม่สะทกสะท้านกับการดื่มเมื่อคืนนี้เท่าไหร่
“พี่ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยนะ…” แหงล่ะ! ก็คุณพี่ออกงานบ่อยจะตายไป
“วันนี้ยุนไม่มีเรียน เจ้าซอก็ไปทำโครงงานบ้านเพื่อน…เราไปเที่ยวกันมั้ย?” สาวหน้าใสพูดยิ้มๆ แม้ว่าในใจจะเขินอายจนแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ…
ก็ยุนอาตั้งใจจะชวนแทยอนออกเดทน่ะสิ!
“ได้ค่ะ พี่ว่างพอดี” แทยอนหน้าแดงด้วยความเขินอาย ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าเด็กมากพรสวรรค์จะเอ่ยปากชวนเธอไปเที่ยวในวันหยุด…แบบสองต่อสองซะด้วยสิ
ได้รับคำตอบแล้วยุนอาก็ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีวิ่งโร่เข้าห้องน้ำไป อันที่จริง…ยุนอารีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำก็เพราะจะได้หยุดเก๊กแล้วปล่อยให้ความเขินอายนั้นแสดงออกเต็มที่ทั่วใบหน้าขาวใส ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องคอยทำเป็นว่าไม่รู้สึกอะไรกับแทยอนเลย
เพราะเป็นการแอบรักแบบรู้เขารู้เรารึเปล่านะ?
แทยอนได้แต่ยืนยิ้มกับตัวเองด้วยความดีใจจนลืมเรื่องน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนสุดที่รักไปซะสนิท เช็ดผมไปก็นึกภาพไปว่าการเดทในวันนี้จะออกมาในรูปแบบใด
“จะพาเราไปเที่ยวที่ไหนนะ…” แทยอนคิดอะไรไม่ออกเลยล่ะ!!
“คัท! เยี่ยมจริงๆ คุณเจสสิก้า ฝีมือไม่น้อยไปกว่าค่าตัวสักนิด” ผู้กำกับหนุ่มชองยุนโฮเอ่ยปากชมอย่างภาคภูมิใจในตัวดาราสาวสวย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพยายามทาบทามมาให้แสดงเป็นนางเอกเรื่องนี้ล่ะก็งานคงไม่ราบรื่นสวยงามเป็นแน่ ส่วนพระเอกคงไม่ต้องพูดถึง…เจ้าตัวเสนอจะมาเอง
“แล้วผมล่ะฮยอง!” คีย์หันมาโวยวายทันทีที่เห็นว่ายุนโฮชมแต่เจสสิก้า
“เรียกอปป้าก็ได้นะ”
“ว้ากกกก ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด แค่เป็นเกย์!!”
เจสสิก้ามองภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องส่ายหัวด้วยความเอือมระอา คีย์ทำงานร่วมกับยุนโฮทีไรเป็นต้องกัดกันทุกครั้ง เธอเข้าใจอยู่หรอกนะว่าคีย์ชอบยุนโฮมากแค่ไหน แต่ครั้นจะไปแย่งแฟนหนุ่มของพี่ชายมันก็ดูเลวร้ายเกินไปหน่อย…ย้ำอีกทีว่าแฟนหนุ่มของพี่ชาย
“ต่อไปต้องไปถ่ายแบบที่สวนสนุกกับฮโยมินนะ” ทิฟฟานี่พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเจสสิก้าเดินมานั่งข้างๆ สายตาก็จดจ้องตารางงานของเพื่อนสาวในไอแพด
“อะไรนะ?”
“ถ่ายแบบกับฮโยมิน…” ผู้จัดการหมีสาวตอบเสียงแผ่ว
“ขออีกรอบค่ะคุณผู้จัดการ”
“ขอโทษค่ะ หนูผิดไปแล้ว!!!” ทิฟฟานี่รีบขอโทษเจสสิก้าทันทีที่นึกขึ้นได้ เธอลืมไปเลยว่าเจสสิก้ากับฮโยมินนั้นไม่ค่อยถูกกัน…สาเหตุน่ะเหรอ?
ก็เพราะซอฮยอนไง…
แต่เจสสิก้าคงไม่รู้เรื่องอะไรหรอก เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างขาดหายไป เจอกันอีกทีก็กลายเป็นว่าไม่ถูกกันอยู่แล้ว จะขัดคอกันเวลาทำงานก็ไม่ได้ลากซอฮยอนมาพูด
ฮโยมินก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เพียงแต่ฮโยมินเองก็อยากจะเป็นผู้หญิงที่พิเศษที่สุดของซอฮยอนเช่นกัน ที่สาวเจ้าต้องเลิกกับซอฮยอนไปก็ไม่ใช่เพราะใครอื่น…
“เจสสิก้า!”
“เฮ้อ…” เจสสิก้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองนางแบบสาวอีกคนด้วยความรำคาญก่อนจะรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย…คอนเซปต์ก็ช่างยากเย็นเหลือเกินที่ต้องทำเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทสาววัยรุ่นกำลังน่าอุ้มมาเที่ยวสวนสนุกตอนกลางคืนกันสองคนเพราะไม่มีหนุ่มไหนกล้าจีบ
“เร็วๆ สิ มาก็สายแล้วยังจะช้าอีก” ฮโยมินบ่นกระปอดแปดไม่หยุด เจสสิก้าก็อยากจะโต้ตอบอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากจะเสียเวลามากไปกว่านี้
“มัวแต่บ่น…ช้าจริงๆ เลยนะคะคุณฮโยมิน” อาศัยช่วงที่อีกฝ่ายกำลังบ่นไม่สนใจรอบด้านเดินไปเข้าฉากก่อน ทำเอาฮโยมินแอบงงไปแบบเบาๆ…
ทำงานกับฮโยมินทำให้รูปภาพออกมาได้ดีมากถึงมากที่สุด เพราะต่างคนต่างก็รู้ด้วยกันทั้งคู่ว่าเวลาไหนต้องทำอะไร เก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ขี้เกียจกลับบ้านเลยนั่งเล่นรอดูพาเหรดก่อนค่อยกลับ…จะว่าไปเธอก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้มานานแล้วนี่นะ
นั่งคิดอะไรได้เพลินๆ ก็มีดอกกุหลาบสีขาวอยู่ตรงหน้า ช้อนตามองก็พบเจอมาสค็อตคุณกระต่ายของสวนสนุกจึงส่งยิ้มให้แล้วรับมา แต่แล้วจู่ๆ คุณกระต่ายก็นั่งลงข้างๆ ก่อนจะถอดหัวชุดมาสค็อตออก…
“เวลาเลิกงานพอดีเลย เราไปดูพาเหรดด้วยกันมั้ยคะพี่สิก้า”
“…” เงิบค่ะ ไม่นึกว่าเด็กตัวโตมันจะมาไม้นี้
เจสสิก้ายังมึนไม่หาย ตกลงซอฮยอนทำงานพิเศษกี่อย่าง?
“ว่าไงคะ?”
“เอาสิ” ตั้งสติได้ก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข คิดถึงมาทั้งวันแล้วได้มาเจอกันในช่วงนี้ รูปแบบนี้ก็น่าประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว คงเป็นเพราะความเหนื่อยล้าทำให้ไม่ค่อยตื่นเต้นมากมายนัก
ซอฮยอนถอดชุดมาสค็อตวางไว้ที่ม้านั่งแล้วจูงมือเจสสิก้าไปยืนรอดูขบวนพาเหรด ต้องลงทุนเสียตัวเล็กๆ น้อยๆ ฝ่าฝูงชนแต่มันก็คุ้มล่ะนะ…
“ยุนนนน พี่ว่าคนมันเยอะไปนะคะ” แทยอนอิดออดทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนออกันตามแนวขบวนพาเหรดมีมากแค่ไหน…ก็แค่ไม่อยากเสี่ยงเพราะส่วนสูงของเธอช่างไม่อำนวยเอาซะเลย
“ยุนอยากดูนี่” คนตัวสูงกว่าเอ่ยเอาแต่ใจหยอกล้อแกล้งรุ่นพี่ตัวเล็กอย่างสนุกสนาน
“ยุนก็รู้ว่าพี่สูงเท่าไหร่”
“แต่ยุนไม่ได้ตัวเล็กเท่าพี่แท” …แทยอนจะบ้าตาย บทกวนก็กวนได้โล่
ทุกน้ำเสียงและคำพูดของคนสองคนยังก้องอยู่ในหัวซอฮยอน เวลาและสถานการณ์อาจเป็นใจหากสถานที่มันช่างไม่เหมาะเจาะเอาเสียเลย จึงได้แต่ภาวนาในใจอย่าให้เจอยุนอากับแทยอนในตอนนี้…ตอนที่เธออยู่กับเจสสิก้าสองคน ขอแค่ตอนนี้เท่านั้น…
ขบวนพาเหรดหลากรูปแบบและสีสันปรากฏให้ได้เห็นกันหลังจากยิงพลุชุดใหญ่ ท่าทางเจสสิก้าจะชอบมากเพราะมองตาไม่กะพริบอย่างกับไม่เคยมาเที่ยวสวนสนุก
“ชอบมั้ยคะ?” เจสสิก้ายิ้มรับทันที มือบางนั้นจับมือของซอฮยอนไว้แล้วบีบเบาๆ เป็นเชิงออดอ้อน
“อยากไปไหนต่อล่ะสิ” ซอฮยอนพูดอย่างรู้ทัน
“พี่อยากนั่งชิงช้าสวรรค์ค่ะ” พูดจบก็ไม่รอช้า จูงมือเด็กตัวสูงเดินไปที่ชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับขบวนพาเหรด มันไกลนิดหน่อย…ถ้าไม่เจอแทยอนก็โอเคแล้ว
ซอฮยอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองไม่หยุดเมื่อเห็นว่าเจสสิก้าชอบสวนสนุกตอนกลางคืนเอามากๆ เพราะดาราสาวคนนี้เป็นผู้หญิงโรแมนติกรึเปล่านะ…?
“ไว้ว่างๆ เรามากันสองคนนะคะ” ซอฮยอนว่าพลางปิดประตูกระเช้าก่อนจะขยับไปนั่งฝั่งตรงข้าม
“พูดแล้วนะ อย่าคืนคำล่ะเด็กน้อย” สิ้นเสียง ชิงช้าสวรรค์ก็เริ่มทำงานพากระเช้านับสิบหมุนวนเชื่องช้าชมความงดงามของแสงสีภายในสวนสนุกจากที่สูง
เจสสิก้าขยับไปนั่งข้างๆ ซอฮยอนแล้วเอนหัวลงซบกับไหล่ลาดพร้อมกับกอดแขนอีกฝ่ายแน่น ไม่กี่วินาทีถัดมาซอฮยอนก็จูบหน้าผากเธอ…เป็นจูบอุ่นๆ ที่สัมผัสเป็นคำพูดได้…
‘พักผ่อนนะ’
“พี่อยาก…มีความทรงจำกับซอมากกว่านี้” เพราะความรู้สึกรักและคุ้นเคยมากเหลือเกินทำให้เผลอบอกความต้องการของตัวเองออกไป เจสสิก้าไม่ได้จะสื่อถึงเรื่องอย่างว่า…เธอแค่อยากให้ซอฮยอนรู้ว่าเธออยากจะอยู่ด้วยอยากจะใช้เวลาที่มีด้วยกันมากกว่าจะเป็นการแอบพบเจอ
“วันนี้เราก็สร้างความทรงจำไว้หลายเรื่องแล้วนี่คะ” ซอฮยอนยิ้มบางๆ มือเรียวยกขึ้นลูบตามแก้มเนียนอย่างแสนรัก…ทุกการกระทำยังคงย้ำว่ารัก
“และนี่จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องของวันนี้ค่ะ…” พูดจบก็เชยคางมนขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้มองใบหน้าหวานซึ้งได้ชัดเจนก่อนจะก้มลงกดจูบอ่อนโยนแนบแน่นและเนิ่นนาน…
ร่างบางในอ้อมอกหลับตาพริ้มรับสัมผัสร้อนด้วยความเต็มใจ…ความทรงจำวันนี้อาจไม่มากมาย อาจไม่หวานเชื่อมเหมือนอย่างคู่อื่นๆ ที่รักกัน แต่ในใจกลับเขินอายและรู้สึกดีมากเกินกว่าจะลืม
อยากจะจดจำทุกอย่างเอาไว้…
จำเผื่อส่วนที่ฉันเคยลืม…
“ถ้าไม่ดูพาเหรดแล้วจะไปไหนคะพี่แท” ยุนอาพูดเสียงเนือยๆ เพราะดูเหมือนแทยอนจะไม่อยากไปเบียดเสียดกับผู้คน…อย่าบอกนะว่าหวงตัว?
“ชิงช้าสวรรค์…”
“ห๊ะ?”
“ดูบนชิงช้าสวรรค์ไม่ได้เหรอคะ…พี่ไม่ชอบที่คนเยอะๆ” แทยอนว่าเสียงแผ่ว ตาหลุบต่ำมองพื้นด้วยความรู้สึกผิดสุดใจ…ก็ยุนอาอยากดูออกขนาดนั้น
ยุนอาเห็นท่าทางฟังน้ำเสียงแล้วก็พอจะเดาออกว่าแทยอนไม่ชอบและรู้สึกไม่ดีมากแค่ไหนที่ขัดใจเธอ ระบายยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วคว้ามือเล็กพาไปที่ชิงช้าสวรรค์ในทันที ไม่ใช่ว่าไม่อยากดูพาเหรดนะแต่ยุนอาอยากจะตามใจผู้หญิงตัวเล็กคนนี้มากกว่า
“เฮ้ย…” ร่างสูงอุทานกับตัวเองเบาๆ ขณะที่กำลังปิดประตูกระเช้า…
ชิบหายค่ะ! ซอฮยอนกับพี่เจสสิก้า!!!
งั้นตอนที่กระเช้าหยุดที่ตำแหน่งสูงสุดแทยอนก็จะเห็นน่ะสิ…
“เป็นอะไรรึเปล่า ยุนกลัวความสูงเหรอคะ?” แทยอนถามด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นยุนอาดูลุกลี้ลุกลนตั้งแต่เข้ามานั่งกับเธอในกระเช้าแล้ว
“ไม่หรอก ยุนไม่ได้กลัวความสูง” ตอบไปก็ปั้นยิ้มไปสุดความสามารถ แล้วพยายามพูดถึงเรื่องอื่นเพื่อไม่ให้แทยอนสนใจกระเช้าถัดไปข้างหน้าที่อยู่สูงกว่าเพียงเล็กน้อย
จะให้ตอบไปว่า ‘กลัวพี่แทจะเห็นน้องสาวสวีทกับคนอื่น’ ได้ยังไงกันล่ะ
“สูงจังเลยสูงจัง” คนตัวเล็กพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อกระเช้าที่พวกเธอนั่งอยู่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากพื้นดิน…หรือเป็นเพราะเธอเตี้ยมันเลยดูสูงเอามากๆ ?
คนอายุน้อยกว่ายังคงพยายามส่งยิ้มให้ ในใจก็คิดหาทางแก้ปัญหาไม่ออกสักทีทั้งที่เวลากระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าชิงช้าสวรรค์หยุดเมื่อไหร่ทุกอย่างก็จบกัน…แทยอนจะต้องเห็นซอฮยอนกับเจสสิก้าเป็นแน่…ยุนอาควรจะทำยังไงดี ฝั่งที่เธอนั่งมองขบวนพาเหรดได้ชัดกว่าซะด้วยสิ!!
กึก!
ยุนอาใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อกระเช้าหยุดนิ่ง และก็เป็นไปตามที่คิดไว้จริงๆ…
“มุมนั้นเห็นข้างล่างชัดดีจัง” ว่าแล้วแทยอนก็เคลื่อนตัวจะขยับไปนั่งข้างๆ กับรุ่นน้องคณะเดียวกัน แต่ทว่ายุนกลับดึงตัวแทยอนไป…จูบ!!
แทยอนกำลังฝันไปรึเปล่าว่าเธอจูบกับยุนอา…?
ความคิดเห็น