ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:SNSD] Just you say...(Yuri) SeoSic ft.YoonTae&YulFany

    ลำดับตอนที่ #5 : [CH.2] For my success (100%) edit

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 56


     

     


     

    For my success

     
     

                “คุณยูริ?” ทิฟฟานี่เลิกคิ้วเมื่อเห็นว่านักแสดงสาวสวยหล่อเดินเข้ามาในสตูดิโอ เดาไม่ยากเลยว่าทำไมควอนยูริถึงมาที่นี่เพราะยังไม่หมดความพยายามที่จะจีบจองเจสสิก้าน่ะซิ ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่าเจสสิก้าน่ะชอบเคี้ยวหญ้าอ่อน

                “อ่า สิก้าล่ะคะคุณทิฟฟานี่?” ยูริรีบเดินตรงดิ่งเข้ามาถามสร้างความหมั่นไส้ให้สาวหมีไม่น้อยเลย

                “เปลี่ยนชุดค่ะ เดี๋ยวก็มาแล้วล่ะมั้ง” ตอบเสียงหวานปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถทั้งที่ในใจสุดจะสงสารและสมน้ำหน้าในคราวเดียวกัน เธอรู้ดีว่าเจสสิก้ากับซอฮยอนหายไปไหนและรู้ด้วยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นระหว่างสองคนนั้น

                “ว่าจะชวนสิก้าไปทานมื้อกลางวัน คุณทิฟฟานี่ไปด้วยกันมั้ยคะ?”

                “ไม่ล่ะค่ะมีนัดแล้ว” ทิฟฟานี่ปฏิเสธแล้วโค้งให้ตามมารยาท

                “อ๋อ ค่ะ”

                “ไปตามสิก้าก่อนนะคะ” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องแต่งตัว ทิ้งให้ยูรินั่งเอ๋ออยู่ในสตูดิโออย่างโดดเดี่ยวกับเหล่าทีมงานที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา

     

                อื้อหือกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม

                ทิฟฟานี่แนบหูกับประตูแล้วก็ได้แต่ยืนฟังหน้าแดงซ่าน นึกว่าซอฮยอนจะเรียบร้อยใสซื่อบริสุทธิ์กว่านี้ซะอีก คงร้ายลึกใช่ย่อยเลยล่ะทำเจสสิก้าเสียงหลงซะขนาดนี้

                “เฮ้อ...what the hell” สาวหมีผละออกมายืนพิงที่กำแพงข้างประตูแทนแล้วส่ายหน้าเอือมๆ อย่างเหนื่อยหนายในตัวเพื่อนสาว เพราะปกติเจสสิก้าไม่ใช่ผู้หญิงช่างยั่ว

                แต่รูปลักษณ์ภายนอกนั้นไม่ใช่เลยแค่หล่อนนั่งเฉยๆ ก็น่าปล้ำแล้ว!!

                “คุณทิฟฟานี่ ยูลไม่มีเพื่อนนั่งด้วย T T”

                ฉิบหายค่ะ!! ทิฟฟานี่สบถดังๆ ในใจ ตาก็จ้องมองยูริราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

                มาทำไมตอนนี้วะคะยัยซื่อบื้อบ้องตื้นเอ้ยย!!

                “ฟานี่ว่าเรากลับไปนั่งรอสิก้าที่สตูดิโอกันเถอะค่ะ” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มอายสไมล์แสนมีเสน่ห์ให้อีกฝ่ายก่อนจะพยายามลากตัวยูริออกไปจากบริเวณนั้น

                “ฟานี่ทำอะไรน่ะ?” เจสสิก้าเปิดประตูเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เธอรู้ว่าทิฟฟานี่มาตามเธอไปทำงานตามตารางต่อไป แต่ทำไมต้องทำท่าทางแปลกๆ ด้วยนะ…?

                “ซอฮยอน?” ยูริเอ่ยชื่อของตากล้องวัยหญ้าอ่อนอย่างลืมตัวเมื่อเห็นว่าเจ้าของชื่อก้าวเดินออกมาจากห้องแต่งตัวพร้อมกับเจสสิก้า

                “อ้าว คุณยูรินี่นา เป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้เจอดาราใหญ่อย่างคุณ” ซอฮยอนยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของดาราสาวผู้มีใบหน้าคมเข้มก็แหม คนมันไม่เคยเจอนี่นา

                “เธอ!!” แววตาของยูริดูวาวโรจน์ขึ้นมาทันทีเมื่อซอฮยอนช่างดูเมินเฉยเสียเหลือเกิน เท่านั้นยังไม่พอริมฝีปากบางอมชมพูนั้นยังยิ้มเยาะอีกต่างหาก

                “ยูลมีธุระอะไรเหรอคะ?” เจสสิก้าหันมาถามร่างสูงที่กำลังจ้องมองซอฮยอนอย่างเกรี้ยวกราดไม่รู้อะไรดลใจให้เธอรู้สึกไม่ชอบที่ยูริมองซอฮยอนเช่นนั้น

                “ไปทานมื้อกลางวันด้วยกันนะคะ” ยูริรีบหันมายิ้มให้ทันทีทั้งที่ตัวเองก็แทบจะปรับอารมณ์ไม่ทัน

                “ไม่ว่างค่ะ ทำงาน” พูดจบเจสสิก้าก็รีบลากซอฮยอนออกไปจากตรงนั้นอย่างลืมตัว

                ปากบอกทำงานแต่ลากซอฮยอนออกไปด้วยเนี่ยนะ…-*- ทิฟฟานี่แอบบ่นในใจ เมื่อเห็นว่าเจสสิก้ากับซอฮยอนเดินลับตาไปแล้วจึงหันไปถามยูริในสิ่งที่ตัวเองสงสัยเมื่อครู่นี้

                “รู้จักซอฮยอนมาก่อนเหรอคะคุณยูริ?” เมื่อได้ยินคำถามจากปากผู้จัดการหมีสาวยูริก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองเบาๆ

                “ประมาณนั้นค่ะ ช่างมันเถอะ” ยูริตอบแบบปัดๆ ไปเพื่อไม่ให้ทิฟฟานี่ถามอะไรต่อ

                ปิดบังไปก็เท่านั้นแหละควอนยูริ

     

                “รู้จักกับยูลเหรอ?” เจสสิก้าเอ่ยปากถามสิ่งที่สงสัยออกไปตามตรง มือบางก็หยิบบรรดาสิ่งของบนโต๊ะยัดเข้ากระเป๋าแบรนด์เนมโดยที่ไม่แคร์ว่าข้างในมันจะรกมากเพียงใด

                “อยากให้รู้จักมั้ยคะ?” ซอฮยอนถามยอกย้อน ริมฝีปากบางก็แย้มยิ้มอย่างไม่เกรงกลัวเอฟเฟคต์น้ำแข็งที่กระจายไอเย็นไปทั่วบริเวณ

                “ซอจูฮยอน!”

                “ฮ่าๆ พอจะรู้จักค่ะ” สาวหน้าใสพูดจบก็หยิบกระเป๋ากล้องขึ้นสะพายพาดไว้ที่ไหล่ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนางแบบสาวคนสวยเบาๆ

                “หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกนะคะพี่สิก้า” ซอฮยอนหันหลังเตรียมจะเดินออกไปทำงานอย่างอื่น แต่เจสสิก้ารีบคว้าข้อมือบางนั้นไว้ซะก่อน

                “Facebook? Twitter? Skype? Whatsapp? Line?” เจสสิก้ารีบพูดสารพัด Social Network ที่นึกออกในตอนนั้นอย่างรวดเร็ว เธออยากรู้จักซอฮยอนมากกว่านี้

                “เอามือถือซอไปเลยมั้ยคะ?” เด็กตัวสูงพูดเสียงกลั้วหัวเราะ มือเรียวก็หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองส่งให้เจสสิก้า เห็นอย่างนั้นเจสสิก้าก็รับมาแล้วจัดการโทรเข้าเครื่องตัวเองพร้อมทั้งแอดไลน์เรียบร้อยก่อนจะส่งคืนให้กับเจ้าของ

                “Call me maybe… ว่าแล้วดาราสาวคนสวยก็ยัดกระดาษแผ่นเล็กลงในกระเป๋ากางเกงของซอฮยอนก่อนจะขยิบตาส่งวิ้งค์ให้เป็นการหยอกล้อ

                “โทรแน่นอนค่ะไม่ต้องห่วง” ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันสักพักก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง แต่ยังคงมีคำถามคั่งค้างอยู่ในใจยูริกับซอฮยอนเป็นอะไรกันและรู้จักกันได้ยังไง


     

                “สิก้าพอจะรู้เรื่องของยูริกับซอฮยอนมั้ย?”

                “รู้แค่สองคนนั้นไม่ถูกกัน” เจสสิก้าตอบเพื่อนหมีแบบขอไปทีเพราะเพิ่งเหนื่อยจากการถ่ายละคร ทิฟฟานี่ก็รู้ดีว่าเจสสิก้าเหนื่อยแต่เธอสงสัยจับใจ

                “สนใจคุณควอนยูริเหรอคะคุณหมีฮวัง?” เจสสิก้าพูดหยอกล้อเมื่อเห็นว่าทิฟฟานี่ช่างดูหนักอกหนักใจเสียเหลือเกินกับเรื่องเมื่อตอนเกือบเที่ยง

                “บ้า ซื่อบื้อขนาดนั้นเนี่ยนะ” ทิฟฟานี่กุมขมับทันทีที่นึกถึงดาราสวยหล่ออย่างยูริ

                “แล้วเธอหลงตากล้องหน้าอ่อน?” สาวหมีถามกลับเสียงสูงแล้วก็ต้องกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเจสสิก้าหน้าขึ้นสีแดงจัดทันทีที่เอ่ยถึงซอฮยอน

                “ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับซอมากนะ”

                “งงั้นเหรอ” จะให้บอกได้ยังไงกัน

                ทิฟฟานี่หลุบตามองต่ำแล้วหยิบไอโฟนขึ้นมาเล่นเพราะไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดให้มากนักด้วยกลัวว่าสมองของเพื่อนสนิทจะขุดอะไรบางอย่างกลับมา

                “ฉันไม่อยากหยุดแค่นี้ ฉันอยากรักกับซอฮยอน” เจสสิก้าพูดเสียงแข็งจนดูน่ากลัว

                “อาจจะเป็นไปได้ยากก็ได้นะสิก้า” ทิฟฟานี่รีบพูดดักไว้ก่อน

                “ซอฮยอนหมั้นกับลูกชายของท่านรัฐมนตรีแล้ว”

                ได้ยินอย่างนั้นดาราสาวก็นิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ ราวกับว่าเธอไม่สนใจอะไร ในเมื่อความจริงแล้วซอฮยอนไม่ได้มีรสนิยมจะรักกับชายหนุ่ม

                “อยากได้ไม่อยากให้เป็นของใคร”

              จองสิก้าเธอเป็นนางเอกนะไม่ใช่ตัวร้าย!!!

                “ฉันไม่รู้ฉันไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น” สาวหมีบ่นกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นว่าเจสสิก้าไม่ยอมลดละเช่นนี้ทิฟฟานี่ก็หมดหนทางจะห้ามได้ห้ามไปก็เท่านั้น

                “สาวๆ นั่งทำอะไรกันจ๊ะ?” เสียงหวานแกมห้าวเรียกความสนใจจากสองสาวได้เป็นอย่างดีจนต้องหันขวับไปมองต้นเสียง

                “สวัสดีค่ะผู้กำกับอิม” ทิฟฟานี่เห็นว่าเป็นผู้กำกับมากพรสวรรค์จึงเอ่ยทักทาย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือในมือต่อ

                “คุยเรื่องตารางงานน่ะค่ะ คิดว่าจะติดทิ้งไปสักวันหรือสองวัน” ทิฟฟานี่เงยหน้าขึ้นมองทันทีที่เจสสิก้าพูดจบประโยคให้ตายเถอะ คิดอะไรไม่เคยปรึกษา

                “เวลาเป็นเงินเป็นทองสำหรับคุณนะ จะตัดทิ้งเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?” ยุนอาเลิกคิ้วถามอย่างงุนงง เดิมทีกิตติศัพท์ความอินดี้ของเจสสิก้าก็มากมายอยู่แล้ว พอได้มาเจอกับตัวก็เหมือนหลงเข้าไปในเขาวงกตไม่เข้าใจและหาทางออกไม่ได้

                ทิฟฟานี่เองก็เห็นด้วยกับยุนอาอยู่หรอกนะ แต่จะไปขัดความคิดและการตัดสินใจของเพื่อนสาวมันก็ใช่ที่ สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงช่วยเหลือและสนับสนุนเท่านั้น และมันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรเท่าไหร่ชีวิตก็ดูมีสีสันดี

                “อืมอัพค่าตัวขึ้นสักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้งคะ อาจจะไปแคสหนังใหญ่สักเรื่อง” ดาราสาวเจ้าของใบหน้าสวยจัดยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี มันไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าเจสสิก้าต้องการจะสร้างชื่อเสียงมากกว่านี้

                ยุนอาถึงกับเหงื่อตกเมื่อได้ยินคำพูดของเจสสิก้า เท่าที่ดูจากภายนอกเจสสิก้าไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยใช้เงินเก่งกาจอะไรมากมายนักสำหรับรายได้ค่าตัวที่มหาศาล ดูท่าทางละครที่เธอกำกับจะเป็นงานท้ายๆ ที่ค่าตัวจะยังไม่ขึ้นล่ะมั้งเนี่ย

                “ขอตัวก่อนนะคะ ได้เวลาพักผ่อนแล้ว” เจสสิก้าลุกขึ้นโค้งให้ยุนอาแล้วเดินออกไปจากกองถ่ายโดยมีทิฟฟานี่เดินตามไปติดๆ และแน่นอนว่าเธอไม่ลืมที่จะเอ่ยลายุนอาก่อนเดินตามเพื่อนสาวจอมเอาแต่ใจ

                “กลับด้วยกันมั้ย?” เอ่ยถามผู้จัดการส่วนตัวพลางโยนกระเป๋าไปไว้ที่นั่งหลังคนขับ

                “เดี๋ยวพี่ซูยองมารับ” ทิฟฟานี่ตอบเสียงอ่อนใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ

                “งั้นฉันไปส่งฟานี่ที่ตึกเอสเอ็มนะ พี่ซูยองมาถึงนี่ได้เหนื่อยตายกลางทางกันพอดี”

                “แล้วหล่อนไม่เหนื่อยรึไงยะ”

                “บ้านฉันผ่านทางนั้น” เจสสิก้าตอบหน้าตาย

                บ้านเธอผ่านทางนั้นก็จริง แต่คอนโดใกล้ๆ กองถ่ายก็มีไม่ใช่เหรอ?

                เจสสิก้าเป็นคนรักเพื่อน โดยเฉพาะกับทิฟฟานี่ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมานมนานก็ยิ่งแล้วใหญ่ นั่นเป็นเหตุผลที่ทิฟฟานี่ปล่อยให้คนอื่นมาดูแลเจสสิก้าแทนเธอไม่ได้

                เรารู้ดีว่าถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด

                “เร็วสิ! อยากกลับไปนอนแล้ว”

                “รู้แล้วค่ะน้องสาว” แต่เราก็เป็นพี่น้องกันจริงๆ

     

                แทยอนนั่งขมวดคิ้วมุ่นอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ตากลมใสก็พยายามเบิ่งดูเพ่งความสนใจไปที่ทีวีตรงหน้าแม้ว่าจะง่วงงุนมากแค่ไหนก็ตาม

                เพื่อรอยัยน้องสาวตัวดีที่สนุกกับการทำงานจนลืมเวล่ำเวลา!

                มือเล็กหยิบไอโฟนห้าที่เพิ่งได้จากน้องสาวขึ้นมาดูแล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่มีอะไรอัพเดทเลยสักนิดที่อยากได้ก็เพื่อเอาไว้ตามตัวน้องสาวโดยเฉพาะเนี่ยแหละ แต่ไม่เคยจะตามได้เลยสักครั้ง

                “จะเที่ยงคืนอยู่แล้วนะ” แทยอนบ่นกับตัวเองเบาๆ พลางเหลือบไปมองซองเอกสารสีน้ำตาลบนโต๊ะหน้าทีวีอย่างน้อยใจ ทั้งที่วันนี้ประกาศผลออดิชั่นแท้ๆ ยังไม่อยู่ให้กำลังใจกันเลย มันน่างอนให้ตามง้อกันตายไปข้างจริงๆ เจ้าเด็กเลี้ยงแกะ

                “งอนอยู่สินะคะ” เด็กตัวโตว่าพร้อมกับนั่งลงข้างๆ พี่สาว

                “

                “อย่างอนเลยนะ มีมื้อดึกมาให้ด้วย” ว่าแล้วก็วางถุงกระดาษลงบนโต๊ะเล็กข้างหน้า แต่แทยอนก็ยังไม่มีทีท่าจะสนใจแม้แต่น้อย ปากบางนั้นยังเชิดขึ้นอย่างแง่งอน

                “” แน่ะยังมีการหันหลังไม่ยอมมองหน้าอีกต่างหาก

                “อาทิตย์นี้ไม่มีงานแล้วค่ะมีแต่เรียนอย่างเดียว เวลาว่างเยอะแยะเลย”

                “วันนี้วันอะไร?” วันอะไรวะ

                คนอายุน้อยกว่าเลิกคิ้วนั่งคิดอยู่นานสองนานก็ยังนึกไม่ออกจนแทยอนหงุดหงิดขั้นรุนแรงเอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารบนโต๊ะมาโยนใส่ตัวน้องสาวทั้งที่สัญญากันไว้แล้วว่าจะเปิดดูผลพร้อมกัน เธอแทบจะลงแดงเพราะนั่งรอแต่เจ้าเด็กนี่อยู่แล้ว!!

                “อ๋อ ยังไงพี่แทก็ผ่านแน่นอนนี่คะ” เอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะพลางหยิบเอกสารภายในซองออกมาดูแล้วกวาดสายตาอ่านเนื้อความ

                “

                “พี่แทคะ” เด็กสาวเรียกคนเป็นพี่เสียงแผ่วเบาซะจนทำเอาแทยอนใจกระตุกวูบน้ำเสียงแบบนี้มันยังไงกันนะ

                แทยอนหันกลับไปหาน้องสาวแล้วก็ต้องอารมณ์เสียมากกว่าเดิม

                ก็หน้าเจ้าเด็กนี่น่ะสิ ยิ้มแป้นเลย!!!

                “ซอจูฮยอน!!!” เสียงหวานใสตะโกนดุน้องสาวตัวเองอย่างหงุดหงิดแม้ว่าสายตาจะจ้องมองกระดาษในมือเรียวแล้วแทบจะร้องไห้

                ผ่านการออดิชั่นอับดับหนึ่ง

                “เด็กบ้า” พูดจบน้ำตาที่เอ่อรื้นคลอเบ้าอยู่ก็พากันไหลพร่างพรูผ่านแก้มเนียนใสไม่หยุดหย่อนที่เป็นแบบนี้ก็เพราะแทยอนไม่ได้เตรียมใจไว้สำหรับคำว่า ผ่าน

                “แล้วจะชวนพี่ยุนอามาฉลองด้วยกันนะคะ”

                นั่นแหละค่ะที่พี่สาวคนนี้ต้องการ

                ติ๊ดติ๊ด

                เสียงข้อความเข้าทำให้แทยอนหันไปสนใจเจ้ากาแล็คซี่ SIII ของน้องสาวที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ กับไอโฟนของเธอ และด้วยความใหญ่ของหน้าจอจึงทำให้สามารถมองเห็นชื่อผู้ส่งข้อความได้อย่างชัดเจนจองซูยอนเป็นไปได้ยังไงกัน??

                “หมายความว่ายังไง?” แทยอนถามเสียงเย็นเยียบ น้ำตาเมื่อครู่นี้เหือดแห้งหายไปในทันที ซอฮยอนเห็นอย่างนั้นก็รีบคว้าเจ้าสมาร์ทโฟนของตัวเองเก็บใส่กระเป๋ากางเกงอย่างร้อนรน

                “ว่าไงล่ะ?”

                “พรุ่งนี้จะชวนพี่ยุนอามานะคะ” ซอฮยอนส่งยิ้มบางๆ ให้พี่สาวแล้วรีบเดินกลับห้องของตัวเองจะให้แทยอนรู้มากกว่านี้ไม่ได้ ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ซะแล้วสิจูฮยอน

                เด็กตัวสูงพาร่างกายเข้ามาในห้องนอนด้วยความเร่งรีบ ปิดประตูล็อคห้องซะให้เรียบร้อยก่อนที่จะหยิบมือถือเจ้าปัญหาขึ้นมากดดูข้อความที่ได้รับ

                คิดถึงพี่มั้ยคะ?
             
    00.09 sent by MySooyeon

              ซอฮยอนยิ้มกว้างจนแก้มแทบแตกเมื่ออ่านข้อความจบ หัวใจพองโตจนต้องอ่านทบทวนอีกเป็นสิบๆ รอบเพื่อเตือนตัวเองว่านี่ไม่ใช่ความฝันเตือนตัวเองว่าปัจจุบันที่เป็นตอนนี้ ข้อความนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

                คิดถึงค่ะ
             
    00.11 send to MySooyeon

                คิดถึงมากเสียจนแทบขาดใจ แต่จะส่งไปตามหัวใจก็ไม่ได้มือเรียวหยิบกรอบรูปที่คว่ำอยู่บนหัวเตียงขึ้นมาดูก่อนจะวางมันกลับที่เดิมในสภาพตั้งโชว์หรา ริมฝีปากแย้มยิ้มระบายความสุขในหัวใจออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ สุขจนอยากจะย้อนเวลากลับไป

                ถ้าเจสสิก้าไม่พร้อมจะกลับมาก็ไม่เป็นไร

                เพราะซอจูฮยอนพร้อมที่จะ เริ่มต้นใหม่ กับผู้หญิงที่ชื่อจองซูยอนเสมอ

    ----------------------------------------------------------

    ดิทแล้วนะคะ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×