ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขอรัก(ไม่)ร้าย

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ ๑ ครบ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 65


    “อาฮะ บอกรักจุ๊บๆ เตือนว่าอย่าลืมซื้อเจล ทรงนี้คงไม่ใช่เจลล้างมือหรอกมั้ง” พอเห็นแบบนี้ เปี่ยมโชคได้แต่รู้สึกหนักใจแทนเพื่อน

     

                ช่อพิกุลตาบวมเล็กน้อย ไม่ต้องบอกเปี่ยมโชคก็รู้ว่าคงผ่านการร้องไห้อย่างหนักหน่วงมาอย่างแน่นอน สภาพแบบนี้เขาก็อดคิดว่าคงไปกันไม่รอดแล้ว อยู่ๆ ในใจก็เกิดความคิดแสนชั่วร้ายว่างานนี้ทั้งสองคนจะต้องหย่ากันแน่ๆ เพราะถึงหลักฐานอาจจะยังไม่เยอะ แต่ธันวาจะต้องกำลังนอกใจเพื่อนสนิทของเขาอย่างแน่นอน

                “เราจะฟ้องชู้ของพี่ธันว์”

                เปี่ยมโชคเลิกคิ้ว “ไม่หย่าเหรอ”

                “เราไม่อยากหย่า” น้ำเสียหนักแน่นจริงจังของช่อพิกุลทำให้ใจของเปี่ยมโชคห่อเหี่ยวลงเล็กน้อย “แต่จะฟ้องชู้คนนั้นให้เข็ด จะได้ไม่มายุ่งกับของของคนอื่นอีก”

                “เพื่อนช่อ” เปี่ยมโชคเอ่ยด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจ “กฎหมาย ณ ปัจจุบันนี้ ถ้าชู้เป็นผู้ชาย เพื่อนฟ้องเขาไม่ได้ อย่างเดียวที่เธอฟ้องได้คือฟ้องหย่าสามี”

                หญิงสาวฟังแล้วก็นิ่งไป น้ำตาที่แห้งเหือดไปนานแล้วพาลจะไหลออกมาอีกรอบ หลังจากที่แน่ใจว่าธันมานอกใจจากแชตมากมายพวกนั้น แล้วไหนจะภาพลามกที่ทั้งสองคนนั้นแลกกันดูอีก ยังดีที่ไม่มีคลิปตอนทำเรื่องอย่างว่ากัน ถ้ามีเธอได้กลั้นใจตายแน่

                “แต่เราไม่อยากหย่านี่”

                เปี่ยมโชคกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ “โอเค ไม่หย่าเนอะ แล้วเธอจะทำยังไงต่อ จากที่ดูๆ เนี่ย สามีเธอเป็นเกย์แน่นอนเลย เพราะถ้าเขาเป็นไบที่ได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง ป่านนี้เธอคงถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้ว ไม่ค้างอยู่แค่นิ้วหรอก”

                “เรารู้ แต่พี่ธันว์จะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญหรอก เรารับได้หมด”

                “รับได้จริงอะ”

                “รับได้จริง ขอแค่เขายอมเลิกกับผู้ชายคนนั้นก็พอ” 

                ชายหนุ่มแทบอยากจะยกมือขึ้นมากุมขมับ แต่ก็อย่างที่เขาเคยพูดให้ช่อพิกุลฟัง โลกนี้มันก็มีคนหลายรูปแบบ และเพื่อนของเขาก็เป็นหนึ่งในแบบที่มีอยู่บนโลกใบนี้

                “แล้วเธอจะทำยังไงให้พวกเขาเลิกกัน”

                “ปั้นช่วยเราหน่อยสิ”

                “จะให้ช่วยยังไงครับ” เปี่ยมโชครู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี

                “ช่วยลองจีบผู้ชายคนนั้น พอมีหลักฐานว่าเขานอกใจพี่ธันว์ ก็แกล้งเอาหลักฐานพวกนั้นไปให้พี่เขาดู พวกเขาจะได้เลิกกัน”

                เปี่ยมโชคละอยากจะปรบมือให้เพื่อนดังๆ สักที คิดออกมาได้ไงเนี่ย

                “ช่วยเราหน่อยนะปั้น ถ้าสำเร็จแล้ว ปั้นจะให้เราทำอะไรก็ได้ เรายอมทุกอย่างเลย” เมื่อเห็นเพื่อนสนิทลังเล ช่อพิกุลก็เพิ่มแรงจูงใจมากขึ้นอีก “เดี๋ยวเราลดราคาขายส่งตุ๊กตาให้อีกนะ”

                “แหม น่าสนใจจัง”

                “ปั้น” น้ำเสียงอ้อนวอนของเพื่อนทำให้เปี่ยมโชคใจอ่อน

                “เดี๋ยวลองดูก่อนแล้วกัน แต่ถ้าเขาไม่หือ ไม่อือกับเราก็ช่วยไม่ได้แล้วนะ”

                “ขอบใจ ถ้าไม่มีปั้นเราก็ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครแล้ว” ช่อพิกุลยิ้มกว้าง พลางมองเพื่อนด้วยดวงตาใสซื่อ 

                “เฮ้อ” ชายหนุ่มลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนหันไปหยิบถุงกระดาษส่งให้เพื่อน “จะกลับบ้านแล้วใช่ไหม เอานี่ไปด้วย”

                ช่อพิกุลเปิดถุงกระดาษออกดู “เค้กน้องป้อนใช่ไหม”

                “ช่วงนี้ที่บ้านกินกันจนเบื่อแล้วเบื่ออีก เราเลยขอแบ่งมา”

                “ขอบใจที่หิ้วมาฝาก แล้วก็ฝากขอบคุณน้องป้อนด้วย” ช่อพิกุลมองดูนาฬิกาจากมือถือ “เรากลับก่อนนะ”

                ทั้งสองคนลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกัน เปี่ยมโชคเดินไปส่งหญิงสาวออกจากร้าน “ขับรถกลับดีๆ ล่ะ”

                “จ้า”

                เปี่ยมโชคมองเพื่อนเดินจากไปพลางส่ายหัวให้กับความรักของช่อพิกุล เขาเข้าใจว่าเพื่อนคงหักใจตัดขาดกับธันวาได้ยาก เพราะรักและผูกพันกันมาตั้งนาน แต่กับอีกฝ่ายน่ะสิ ต่อหน้าก็ทำดีด้วยราวกับอีกฝ่ายเป็นเจ้าหญิง แต่ลับหลังคือนอกใจ ช่อพิกุลในสายตาผู้ชายคนนั้นคงไม่ได้มากมายเท่าที่เพื่อนของเขาให้ค่าคนเป็นสามีหรอก

                ถึงจะเป็นเพศไหนก็เถอะ ถ้าลองว่าตัดสินใจแต่งงานกับใครสักคนแล้ว สิ่งที่ต้องพึงระลึกไว้ก็คือการให้เกียรติคนที่แต่งงานด้วยสิ แม้ว่าจะแต่งเพื่อบังหน้าหรือเหตุผลอื่นก็แล้วแต่เถอะ

                

                บ้านซึ่งเป็นเรือนหอของช่อพิกุลนั้นเงียบเหงามาก เพราะธันวายังไม่กลับมาจากการออกไปพบลูกค้าพร้อมกับลูกน้องคนนั้นที่สนิทสนมกันเป็นพิเศษ

                ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตตุ๊กตาในระบบการบริหารแบบกงสี ดังนั้นหลังจากแต่งงานกับธันวา ชายหนุ่มก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เธอซึ่งไม่ชอบงานด้านนี้อยู่แล้วจึงขอถอยออกมาและให้สามีเข้าไปแทนที่ตัวเอง ส่วนเธอออกมาทำงานเรซินซึ่งเคยเป็นแค่งานอดิเรกอย่างจริงจังจนตอนนี้มีมีกลุ่มลูกค้าที่คอยติดตามผลงานอยู่ไม่น้อย เมื่อลงงานใหม่ๆ ของก็มักจะขายหมดภายในไม่กี่นาที 

                แต่ถึงอย่างนั้นคนส่วนใหญ่ในครอบครัวก็ยังคิดว่ามันมีรายได้น้อยเกินไป ไม่สู้ลงทุนทำธุรกิจให้เงินงอกเงยมากขึ้นเพื่อเสริมฐานความร่ำรวยให้กับครอบครัว ทว่าเธอก็ไม่สนใจหรอก ในเมื่อเธอมีความสุขดี แม้จะได้รับส่วนแบ่งจากธุรกิจน้อยลงก็ตามที    

                “ช่อ ทำไมไม่นอนอีกล่ะคะ”

                ช่อพิกุลให้ไปมองชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นสามีของเธออย่างเต็มตา ธันวาเป็นผู้ชายที่สุภาพและมักให้เกียรติผู้หญิงเสมอตั้งแต่รู้จักกันมา เธอประทับใจในตัวเขามาก ต่างกับลูกพี่ลูกน้องผู้ชายที่มักหยาบคายและดูถูกเธอซึ่งเป็นหลานผู้หญิงคนเดียวของครอบครัวอยู่เสมอ ไม่มีความเอ็นดูใดๆ จากพวกนั้นแม้แต่น้อย แต่เธอหาทุกอย่างได้จากลูกชายของเพื่อนบิดาคนนี้

                “รอพี่ธันว์ค่ะ” ช่อพิกุลฝืนยิ้ม 

                ธันวานั่งลงข้างหญิงสาวบนโซฟา ก่อนเอื้อมมือเย็นๆ ไปลูบแก้มนุ่มของช่อพิกุลเบาๆ “ทำไมถึงตาบวมแบบนี้ล่ะฮึ ร้องไห้เพราะนางเอกซีรีส์เกาหลีตายอีกแล้วเหรอ”

                หญิงสาวแสร้งหัวเราะ “ค่ะ”

                “เรื่องไหนเนี่ย อยากดูด้วยจัง แต่ช่วงนี้พี่ไม่ว่างดูเป็นเพื่อนเลย” ธันวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดี อ่อนโยนจนช่อพิกุลไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นการเสแสร้งโกหก

                “พี่ธันว์กินอะไรมาแล้วหรือยังคะ”

                “กินกับลูกน้องมาแล้วค่ะ แล้วไก่อบที่ร้านนั้นอร่อยดี พี่เลยซื้อมาฝากช่อด้วย ถ้าอยากกินมื้อดึกก็อุ่นกินได้เลย แต่ถ้าไม่หิวก็เอาไว้อุ่นกินตอนเช้าด้วยกัน” ชายหนุ่มยกถุงที่ข้างในมีกล่องกระดาษซึ่งใส่ไก่อบเอาไว้

                ช่อพิกุลยิ้มบาง “ขอบคุณนะคะ” เธอยื่นมือไปรับถุงมาไว้ในมือ “พี่ธันว์ขึ้นไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวช่อขอเอาไปเก็บก่อน”

                “ช่อ”

                “คะ”

                “วันนี้พี่เหนื่อยมาก พี่ขอแยกไปนอนอีกห้องนะ จะได้พักผ่อนเต็มที่” ธันวาบอกก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิตที่หน้าผากของภรรยาเบาๆ “เหงาหน่อยนะ แต่ถ้าช่วงไหนงานไม่เยอะ ไม่ค่อยเหนื่อยเดี๋ยวพี่จะกลับไปนอนด้วย”

                ช่อพิกุลไม่เคยคิดอะไรมาก่อนเลย เรื่องนอนแยกห้องในวันที่ธันวาทำงานมาเหนื่อยมากๆ เธอเคยเห็นใจและสงสารชายหนุ่มจับใจ เพราะคิดว่าทางครอบครัวคงจะใช้งานสามีของเธออย่างเต็มที่แน่นอน แต่ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าบางทีธันวาอาจจะแค่รำคาญเธอก็ได้ เธอไม่รู้เลยว่าท่าทางทั้งหมดที่เขาแสดงออกมาตอนนี้อันไหนจริง อันไหนเสแสร้ง คนคนหนึ่งจะทนทำดีกับเธอมาเป็นสิบๆ ปีได้เลยเหรอ

                หญิงสาวได้แต่มองสามีเดินขึ้นบันไดไปด้วยหัวใจร้าวราน ทำไมเธอถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ชีวิตแต่งงานที่เคยเหมือนกับฝันแสนหวาน ตอนนี้ทำไมมันถึงกลายเป็นความขมขื่นแบบนี้ไปแล้ว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×