คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 (100%)
เสียงอาเจียนของฮาร่า ทำให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังอดร้อง อี๋! ไม่ได้
“เหอะ! แค่นี้ก็อาเจียนแล้วรึ!?”
มิยองพูดเยาะ ดวงตาคู่สวยฉายแววสะใจ หลังจากนั้นเธอก็เดินไปข้าง ๆ ฮาร่าและ
“อ้วกกกกก ก!!”
ทำตามอีกคนบ้าง - -
“เห้อ
เธอสองคนก็พอกันแหละน้า!~”
คนที่ดูเหมือนไม่มีอาการอะไรเลยอย่างแทยอนเดินเข้าไปลูบหลังหญิงสาวทั้งสองเบา ๆ พร้อมยื่นน้ำให้คนละขวด
ที่เธอไม่ได้คลื่นไส้อาเจียนเหมือนทั้งสองก็เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรเลยหนะสิ
ฮาร่าท้าทายมิยองเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวต่าง ๆ นา ๆ แล้วอีกคนก็ดันตกลงซะได้
รถไฟเหาะตีลังการ้อยตลบ ไวกิ้งแกว่งไปมาจนน่าปวดหัว ปลาหมึกยักษ์สุดพิศดาล บลา ๆๆๆ
แหงหละ
ใครจะไปเอาด้วย - -
“ไม่ต้องมาพูดเลยนะแทยอน นายอ่ะป๊อด!”
มิยองหันมาพูด ใช้ศัพท์ที่ได้เรียนรู้มาจากรายการกาก ๆ รายการหนึ่งที่มีพิธีกรแต่งตัวเป็นกุ๊ย
แล้วมันก็ทำให้ร่างเล็กหมดความสงสารทันที
“ฉันไม่ได้ป๊อด! ฉันแค่ไม่ได้งี่เง่าไปรับคำท้าบ้า ๆ เหมือนเธอต่างหาก!” แทยอนแก้ตัว
และมันทำให้คนที่เหมือนจะถูกพาดพิงหันขวับไปทางเธอทันที
“แทแท! พูดแบบนี้หาว่าฮ่าร่าเป็นคนตั้งคำท้าบ้า ๆ หรอคะ!” หญิงสาวแผดเสียงทำเอาร่างเล็กสะดุ้งเฮื้อก
“ป
เปล่าจ้ะ แทไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” แทยอนยิ้มแหย ๆ
มิยองเห็นดังนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ
ใจหนึ่งก็สงสารแทยอนที่มีแฟนขี้วีนอย่างฮาร่า
แต่อีกใจก็สมน้ำหน้าที่ไมเชื่อเธอ ยังยืนยันที่จะคบกับหญิงสาวต่อ
ดี
งั้นก็ก้มหัวยอมรับชะตากรรมตัวเองซะเถอะ!
“ซึงยอน
แน่ใจหรอคะว่าจะเข้า?” ซอฮยอนถาม
ขณะนี้ทั้งซึงยอน ซอฮยอนและยุนอายืนอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่
ประตูไม้บานเก่า ๆ เขียนด้วยของเหลวสีแดงคล้ายเลือดออกแนวสยองว่า ‘ยินดีต้อนรับ’
ใช่แล้ว
มันคือบ้านผีสิง ไม่สิ
ปราสาทผีสิง
“ซึงยังไม่เคยเข้าเลยค่ะ ซึงอยากรู้ว่าข้างในมีผีจริง ๆ รึเปล่า?” เด็กน้อยตอบอย่างไร้เดียงสา
“ข้างในมันก็มีแต่หุ่นแหละค่ะ” ซอฮยอนพูด สายตามองไปที่ปราสาทผีสิง สีหน้ายากที่จะคาดเดาได้ว่าเธอกลัวหรือไม่
“หึ! ก็แค่ของหลอกเด็ก” ยุนอาสบถเบา ๆ
แขนคนเปื้อนเลือดที่ห้อยอยู่ข้าง ๆ ประตูบ้านใหญ่นั่น แค่ดูก็รู้แล้วว่าของปลอม!
นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่ค่อยมีคนมาเข้า แล้วมันก็เป็นเหตุผลอีกทีที่ทำให้บริเวณนี้ดูเงียบ ๆเข้ากับสถานที่
“แต่ถ้าซึงอยากดู งั้นเข้าก็ได้ค่ะ ^^ ” ซอฮยอนพูดพร้อมกับจับมือเด็กน้อยแล้วก็ไม่ลืมที่จะหันไปถามอีกคน
“พี่ยุน จะเข้าไปด้วยกันไหมคะ?”
“ไม่หละ
ข้าจะรออยู่ข้างนอก” ยุนอาพูดอย่างเซ็ง ๆ
ใครจะไปอยากเข้าปราสาทผีหลอกเด็กบ้า ๆ นี่กัน
มันยังน่ากลัวไม่เท่าครึ่งของครึ่งหนึ่งของปราสาทมืดที่เธอเคยอยู่เลย
“พี่ยุนยุนกลัวหรอคะ? ^^ ” ซึงยอนถามยิ้ม ๆ
แหม
ช่างไม่รู้อะไรซะเลยว่าพูดอยู่กับใคร เด็กน้อย
“ถึงข้าบอกว่าไม่ แต่เจ้าจะไม่เชื่อข้า” ร่างสูงพูดอย่างรู้ทัน และเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวหนึ่ง
“งั้นเดี๋ยวซอจะรีบออกมานะคะ ^^ ”
และแล้วสองพี่น้องก็เดินจูงมือกันเข้าไป
“เห้อ!~” ยุนอาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
เบื่อที่ต้องมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้
เมื่อไหร่กัน
เมื่อไหร่พลังของเธอจะฟื้นตัวเต็มที่สักที!?
สายลมอ่อน ๆ พัดมาทำให้ความคิดทุกอย่างหยุดชะงัก
ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับยุนอา ไม่
เธอรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
ฟรึ่บ!!
ยุนอาหันขวับไปที่หน้าต่างชั้นบนของปราสาท เธอเหมือนเห็นอะไรบางอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว!
ซอกับซึงหรอ
ไม่ ไม่ใช่ ทั้งสองพึ่งเข้าไป ปราสาทก็ออกจะหลังใหญ่ ไม่มีทางขึ้นไปรวดเร็วขนาดนั้นแน่ ๆ
หรือว่าจะเป็นคนที่แกล้งเป็นผี?
‘ข้างในมันก็มีแต่หุ่นแหละค่ะ’
ก็ไม่ใช่อีก
ซอฮยอนก็บอกว่าข้างในมีแต่หุ่นนี่หน่า
หรือว่าจะเป็นคนที่เข้าไปก่อนหน้านั้น?
ฟรึ่บ!!!
ยุนอาผุดลุกขึ้นเมื่อเห็นเงาดำ ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หน้าต่างนั่นอีกครั้ง
ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังบอกว่า สิ่งที่เธอเห็นไม่ธรรมดาแน่ ๆ
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจรีบเดินเข้าไป
ภายในตัวปราสาทมีเพียงแสงเทียนสลัว ๆ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ
ยุนอายังคงเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจว่า แมงมุมตัวใหญ่(ปลอม)จะโผล่ออกมาจากเพดานสักกี่ตัว
หุ่นซอมบี้ที่โผล่ออกมาจากประตูด้านซ้ายจะน่าเกลียดขนาดไหน หรือเสียงโหยหวนของสัตว์ประหลาดจากเทปจะน่าทุเรศยิ่งกว่ามนุษย์ต่างดาวรึเปล่า
ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกแปลก ๆ แปลกเหลือเกิน
ไม่สิ มันทั้งแปลก ทั้งคุ้นในเวลาเดียวกัน!
ในนี้เงียบเหมือนกับไม่มีคนอยู่
มีแต่เสียงโหยหวนคร่ำครวญจากเทปที่เสร่อดังมาให้เธอหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา
ยุนอาใช้เวลาเพียงห้านาทีในการเดินสำรวจชั้นล่างของปราสาทมหึมา และกำลังจะขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด ด!!”
เสียงกรีดร้องใครบางคนดังขึ้นทำให้ยุนอาหยุดชะงัก
ซอฮยอน!!!
หญิงสาวตากลมตกใจกับหัวปีศาจที่ล่วงลงมา ก่อนจะถอยหลังไปชนกับอะไรบางอย่าง
“พี่ยุน!” ซอฮยอนพูดชื่ออีกคนอย่างประหลาดใจ
จู่ ๆ ทำไมถึงมายืนตรงนี้ได้หละ?
“พี่ยุนยุนตามมาด้วย เย้ ๆ ^0^ ” เด็กน้อยวิ่งเข้าไปเกาะแขนยุนอาทันที
“เจ้าร้องทำไม?” ร่างสูงหันไปถามซอฮยอน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่ซอแค่ตกใจหัวผีปลอมนั่นแค่นั้นเอง ^^” ซึงยอนตอบให้เรียบร้อย
“แค่นี้เองรึ?” ยุนอาขมวดคิ้ว
“เอ่อ
ค่ะ” ซอฮยอนตอบเสียงเบา ก่อนจะพูดต่อ
“ซอว่าวันนี้เรากลับกันก่อนเถอะค่ะ เย็นมากแล้ว เดี๋ยวป้าฮโยมินเป็นห่วง”
“โถ่! พี่ซอ ซึงยังเล่นไม่เต็มที่เลยนะคะ TT” ซึงยอนเริ่มงอแง
“เอาไว้วันหลัง ค่อยมากันใหม่นะคะ ^^ ” หญิงสาวย่อตัวลงไปพูดกับเด็กน้อย
“ก็ได้ค่ะ”
ซึงยอนยอมแต่โดยดีพร้อมกับยื่นแขนน้อย ๆ ไปโอบคอพี่สาวอย่างอ้อน ๆ
“เด็กดี ^^ ” ซอฮยอนอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา ก่อนจะเดินนำออกไป
ยุนอาหันซ้ายหันขวา และมองไปที่ชั้นบน พยายามมองหาสิ่งที่ผิดปกติ แต่ก็ไม่พบอะไร
“ไปกันเถอะค่ะพี่ยุน ^^ ” หญิงสาวตากลมหันกลับมาบอก
ร่างสูงจึงเดินตามไปพร้อมกับคำถามที่ยังคงค้างคาอยู่ในหัว
ดวงตาคมเข้มเหลือบมองหน้าต่างชั้นบนอีกครั้งหลังจากออกมายืนอยู่หน้าปราสาทผีสิง
ถึงตอนนี้มันจะมีเพียงความว่างเปล่า แต่เธอก็รู้สึกได้
บางอย่างที่เธอมองไม่เห็น
“ถ้าซึงอยากมาเที่ยวบ่อย ๆ ก็ต้องเป็นเด็กดีรู้มั๊ยคะ?”
“ค่ะ รับทราบ! ^0^ ”
เสียงของสองพี่น้องดังไกลออกไป ทำให้ยุนอาต้องหยุดความสงสัยไว้แค่นั้น แล้วเดินตามทั้งสองไปทันที โดยไม่รู้เลยว่า
ท่ามกลางความมืดหลังหน้าต่างบานนั้นได้มีเสียงอันเยือกเย็นดังก้องกังวานไปทั่วห้อง
หากแต่คนธรรมดาไม่สามารถได้ยินได้
‘ในที่สุด เจ้าก็ตื่นขึ้นมา
ยุนอา’
“นี่! เรามาตัดสินกันด้วยไอ้นี่ดีกว่า จะได้รู้ไปเลยว่าใครแน่กว่ากัน!”
“ด้วยปราสาทนี่หนะหรือ?” มิยองเลิกคิ้วน้อย ๆ
ดวงตาคู่สวยมองปราสาทที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า มันดูเก่าโทรมและน่าสยดสยอง
“ นั่น แขนใคร!? O_O ” ร่างบางถามอย่างตกตะลึงพลางชี้ไปที่แขนที่ห้อยอยู่ข้าง ๆ ประตู
“ถามได้ ก็แขนคนสิยะ! ไม่รู้หรือไงว่านี่มันเป็นปราสาทผีสิง!”
“ปราสาทผีสิงหรอ!?” มิยองโพล่งออกมา สีหน้าดูเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง
ฮาร่าเห็นดังนั้นแล้วลอบหันหน้าไปหัวเราะชั่วร้ายทางอื่น
นี่เชื่อจริง ๆ หรอเนี่ย! บื้อชะมัด!
“ใช่ ข้างในหนะ มีแต่พวกผี ปีศาจรวมกันเต็มไปหมด” ฮาร่าหันกลับมาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมให้ดูน่าเชื่อถือ
“เธอกล้าเข้าไปมั๊ยหละ?”
ได้ยินคำท้าแบบนั้น มิยองก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
เห็นแบบนี้ จริง ๆ แล้วเธอก็กลัวเป็น ขืนเข้าไปแล้วโดนหักคอ โดนตัดแขนออกมาแขวนหน้าประตูเพิ่มทำไงหละ?
ดีไม่ดี
อสูรยุนอาจะรวมอยู่ในนั้นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้!
“ว่าไงหละ
ไม่กล้าหรอ?” ฮาร่ายิ้มเยาะ
“ฉันว่าแล้วเชียว ว่าอย่างเธอต้องไม่กล้า
ตาขาวชะมัด”
คำสบประมาทกระตุกต่อมเอาชนะของอีกคนขึ้นมา
“ใครว่าข้าไม่กล้า!”
ประโยคนั้นทำเอาคนฟังยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“อ๊ะ! เจอตัวแล้ว ทำไมมาไม่บอกเลยเนี่ย! ปล่อยให้ตามหาตั้งนาน!” จู่ ๆ แทยอนก็โผล่มาด้วยท่าทางหัวเสียนิด ๆ
ก็ฮาร่าเล่นใช้เธอไปซื้อน้ำ หลังจากนั้นพอเธอกลับมาที่เดิมก็ไม่เห็นทั้งสองแล้ว โทรหาก็ไม่ติด กว่าจะเจอเล่นเอาเธอเดินขาแทบหัก
“มาพอดีเลยค่ะแท เราตกลงจะเข้าปราสาทผีสิงกัน” ฮาร่าบอก
แทยอนเลิกคิ้วพร้อมกับมองไปเบื้องหน้า
“ปราสาทเนี่ยหนะหรอ?”
ร่างเล็กดูประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่ามิยองจะอยากเข้าสถานที่อะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
“งั้นก็รีบเข้าสิ เย็นแล้ว เดี๋ยวต้องรีบกลับนะ”
แทยอนเดินนำเข้าไปโดยไม่มีอาการหวดกลัว เพราะรู้อยู่แล้วว่าข้างในมันก็มีแต่หุ่น
ต่างจากมิยองที่มองคนที่เดินนำหน้าไปอย่างหวาดระแวง
“เข้าไปสิ หรือว่าเกิดอาการป๊อดขึ้นมาอีกหละ?”
ได้ยินเช่นนั้น มิยองจำต้องทำใจกล้าเดินตามแทยอนเข้าไป
ฮาร่าเดินปิดท้ายพร้อมกับฉีกยิ้มสะใจ โดยไม่รู้เลยว่า
บางสิ่งท่ามกลางความมืดที่อยู่บนปราสาทนั้น ไดปรากฏรอยยิ้มที่แสนจะชั่วร้ายกว่าร้อยเท่า!
“เห้อ ตัวร้อนจี๋เลย” ยูริบ่นพึมพำหลังจากแตะหน้าผากคนที่นอนอยู่เพื่อวัดอุณหภูมิ
“แล้วจะลุกขึ้นมากินยาได้ยังไงหละเนี่ย”
ร่างสูงวางถุงยาที่ลงไปซื้อเมื่อครู่ไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปหยิบอะไรบางอย่างเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่นานก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กที่เปียกหมาด ๆ
ยูริค่อย ๆแตะมันลงบนหน้าผากของซูยอนอย่างเบามือ และค่อย ๆไล่ไปข้าง ๆ แก้มเนียน
ดวงตาคมเข้มอดจ้องใบหน้าของคนที่หลับตาพริ้มราวกับเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่ได้
ขณะที่ร่างสูงนำผ้าผืนน้อยไปซัก เธอได้ยินเสียง กริ๊ง! ของกระดิ่งดังขึ้นบริเวณห้องนอน
ตามด้วยเสียง วืด และตุ้บ!
เกิดอะไรขึ้น!
ยูริรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ ไปที่ห้องนอน หลังจากนั้นก็เบิกตาโพลง
ภาพที่เห็นคือ หญิงสาวคนหนึ่งสวมฮู้ดสีแดงสดกำลังลุกขึ้นยืน เป็นเวลาเดียวกับแสงสีแดงที่สว่างออกมาจากกระจกดับลง
หมายความว่าไง ผู้หญิงคนนี้ก็ออกมาจากในกระจกงั้นหรอ?! O_O!
--------------------------------------------------
แทนี่ซวยแทนยุนซอไป
ทางด้านยูริ ใครออกมาอีก คิดว่าคงเดากันได้ไม่ยาก แต่จะมาดีมาร้ายนั้น...
ติดตาม ๆ จ้า ^^
ปล.อ่านแล้วอย่าลืมเม้น ๆ กันน้า ><
ความคิดเห็น