คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 ความคิดของเวลา
ตอนที่ 4 ความคิดของเวลา
เช้าวันใหม่ รักษ์ตื่นนอนแต่เช้า วันนี้ตอนเช้าฝนก็ยังตกอยู่เหมือนเดิม ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกลงแต่อย่างใด เขาลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว โดยมีจุดมุ่งหมายว่าวันนี้ จะไปเยี่ยมยายสักหน่อย เพราะไม่ได้เจอกันนานมาก เขาลงไปที่ห้องด้านล่าง ซึ่งตอนนี้ แม่กับน้องกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่
แม่เขาพอเห็นเขาเดินลงมาจึงทักไปว่า
“รักษ์ วันนี้จะไปไหนหรือเปล่า ฝนตกตั้งแต่เช้าแล้ว มากินข้าวด้วยกันก่อนสิ”
“ครับแม่ แล้วเขาก็เดินไปนั่งข้างๆเคน ซึ่งเป็นน้องของเขา”
“วันนี้ผมว่าจะไปหายายหน่อยนะครับ คิดถึงไม่ได้เจอยายนานมากแล้ว”
“นั่นสินะ ยายก็บ่นคิดถึงอยู่ ไปหาแกหน่อยก็ดี มีหลายคนอยากเจอลูกนะ”
เคนก็พูดขึ้นมาว่า
“ก็พี่ไปเรียนอยู่ที่อื่นตั้งนานไม่ยอมกลับมาบ้านเลยนี่หน่า แม่ยังบ่นเลย”
“ก็จริงละนะ พี่คงจะเรียนหนักมาก เลยไม่มีเวลาได้กลับบ้าน”
“กลับมาก็ดีแล้วลูก อยู่นานๆหน่อยนะ แม่จะได้หายคิดถึง”
“ครับแม่”
หลักจากนั้นรักษ์ก็นั่งทานข้าวกับแม่และน้อง เมื่อทานข้าวเสร็จเขาเดินไปหยิบร่มแล้วจึงออกไปข้างนอกเพื่อจะไปยังบ้านยายซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก
เขาถือร่มเดินไปท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมา ละอองฝนกระทบกับร่มได้ยินเสียงเหมือนกับดนตรีที่กำลังบรรเลงอยู่ ทางข้างหน้าที่รักษ์เดินเต็มไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงมารวมกันบนพื้นกลายเป็นแอ่งน้ำน้อยใหญ่ เขาจึงต้องเดินหลบไปหลบมา
ขณะนั้นเองก็มีเสียงฟ้าผ่าและฟ้าร้องสลับกันไปมา เขาหยุดเดินแล้วแหงนหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าที่กำลังส่งเสียงร้องเหมือนสิงโตที่กำลังคำรามอยู่
เมื่อเขาหันกลับมายังทางเดิน เขารู้สึกเหมือนกับว่า จี้ที่เขาแขวนติดตัวอยู่ ได้หลุดออกจากคอของเขาตกลงไปบนพื้น เขาจึงก้มลงไปเพื่อจะเก็บมันขึ้นมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่ฟ้าได้ผ่าลงมายังจี้ที่เขากำลังก้มเก็บมันขึ้นมาพอดี พร้อมกับมีแสงจ้าสว่างเกิดขึ้นจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งรอบๆตัวของเขาได้ แล้วเขาก็สลบไป
เวลาผ่านไปโดยที่ไม่อาจจะรู้ได้ว่าผ่านไปนานกี่ชั่วโมง รักษ์ค่อยๆรู้สึกตัว ฟื้นขึ้นมาเห็นตัวเองกำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่งซึ่งอยู่บนภูเขา ทิวทัศน์รอบๆเป็นหมู่บ้านซึ่งมองจากด้านบนเห็นได้อย่างชัดเจนจนสุดปลายสายตา เขาก้มลงดูที่มือของเขา ปรากฏว่าจี้เส้นนั้นได้หายไปแล้ว เขาสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงลุกขึ้นเดินไปยังหมู่บ้านซึ่งมองเห็นจากสายตาของเขา
ความรู้สึกแปลกได้เกิดขึ้นกับเขาพร้อมกับปริศนาต่างๆที่ทำให้เขามาอยู่ในที่แปลกๆแห่งนี้เขาพยายามคิดไปต่างๆนาเพื่อหาเหตุผลว่าที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับเรา ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั่นเองก็มีเสียงผู้หญิงร้องเรียกมาจากข้างหลัง
“พี่เชน พี่จะไปไหน รอก่อน”
เขาหันกลับไป เห็นผู้หญิงคนหนึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับเขากำลังเรียกชื่อใครคนหนึ่งแต่หันมาที่เขา เธอไว้ผมยาวประบ่าใส่เสื้อยืดคลุมทับด้วยเสื้อตัวนอก นุ่งกางเกงขายาวใส่ร้องเท้าแตะ ที่มือของเธอถือกล้องถ่ายรูป เหมือนกับว่ามาถ่ายรูป กำลังเดินมาที่เขา แล้วพูดอีกว่า
“พี่จะไปไหน รอกันก่อนสิ เผลอแปบเดียวแอบมาเดินที่นี่ ไปถ่ายรูปกันทางโน้นดีกว่า”
พูดเสร็จเธอก็มาดึงมุมแขนเสื้อของรักษ์แล้วก็พาเดินไปอีกทาง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงถามเธอคนนั้นว่า
“เธอเป็นใครหรอ แล้วมาทำอะไรกันที่นี่ เชนนี่ใครกันเหรอ”
เธอหันมามองเขาด้วยความงุนงง พรางตอบว่า
“ทรายไง เรามาถ่ายรูปกันวันนี้ จะเก็บไว้เป็นที่ระลึก”
“เชนก็ชื่อพี่ไง เป็นอะไรไปหรอ แปลกๆนะวันนี้ หรือว่าจะแกล้งอะไรกันอีก”
“เปล่านี่ครับ”
เขาคิดลำดับเหตุการณ์ ก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง ว่าทำไมจึง แล้วถามอีกว่า
“แล้วเธอเป็นอะไรกับผมหรอ”
เธออายพรางตอบว่า
“ก็เป็นแฟนนะสิ บ้ารึป่าวเนี่ย ยังจะมาถามอีก”
รักษ์ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อะไรนะเป็นแฟน”
“ตกใจทำไมกัน ก็เป็นแฟนนะสิ”
เธอเริ่มแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“วันนี้ทำไมพี่เชนดูแปลกๆจัง เกิดอะไรขึ้นรึป่าว หรือว่าศีรษะไปกระแทกกับอะไรมา ไหนดูหน่อยสิ”
เธอพูดพรางสำรวจมองดูรอบๆ
“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ หรือว่าทรายจะคิดไปเอง แต่พี่ก็แปลกจริงๆนะวันนี้”
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก”
แล้วเขาก็เดินตามเธอไปถ่ายรูปบนภูเขาและที่ใกล้ๆแถวนั้น หลังจากนั้นเธอพาเขาเดินลงจากภูเขาแล้วเดินไปยังรถยนต์ที่จอดไว้แถวนั้น เพื่อจะกลับบ้านเพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เขาขับรถไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนจึงเอ่ยถามเธอว่า
“บ้านอยู่ที่ไหนหรอ”
เธอสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“วันนี้พี่เชนเป็นอะไร ทำไม แปลกจัง หรือว่าจะแกล้งกันเนี่ย”
แล้วเธอก็บอกทางไปบ้านเธอ
เขาขับรถมาตามทางที่เธอบอกก็มาถึงบ้านของเธอ เธอลงจากรถพร้อมกับบอกว่า
“ขับรถดีๆนะ อย่าลืมกินข้าวด้วย ต้องกลับบ้านเลยนะห้ามไปเที่ยวที่ไหนอีก เข้าใจนะ
เดี๋ยวจะโทรไป”
แล้วเธอก็โบกมือลา เดินเข้าบ้านไปทิ้งให้เขานั่งอยู่ในรถคนเดียว
เมื่ออยู่คนเดียวรักษ์จึงเริ่มประติดประต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
“ที่นี่ ไม่ใช่บ้านเรา และดูเหมือนเราจะชื่อเชน และเธอคนนั้นเป็นแฟนเรา งั้นก็แสดงว่า
เรามีตัวตนอยู่ที่นี่แต่ชื่อ เชน แล้วที่นี่มันยังไง แล้วเราจะไปไหนดี”
เขาคิดไปต่างๆนา แล้วขับรถไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีจุดหมาย เขาจอดรถข้างสะพานแล้วเดินลงไปยืนมองดูแม่น้ำที่กำลังไหลเอื่อย ๆไปเป็นสาย พรางคิดอะไรต่างๆนานาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ คำถามมากมายเกิดขึ้นมาในหัวเขา
“ที่นี่ที่ไหน เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง คนที่ชื่อเชนเป็นใคร แล้วเรามาทำอะไรที่นี่”
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั่นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาล้วงดูในกระเป๋ามีโทรศัพท์ซึ่งไม่ใช่ของเขาแน่นอน เขากดรับสายพร้อมกับพูดว่า
“สวัสดีครับ”
“พี่เชน กลับถึงบ้านหรือยัง” เสียงจากสายที่โทรมาดังขึ้น
เขาจำเสียงเธอได้ จึงบอกว่า
“ยังไม่ได้กลับบ้านเลย”
“ทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่กลับบ้าน นี่ก็ 4ทุ่มแล้วนะ”
เขาไม่รู้จะบอกเธอยังไง เพราะเขาไม่มีบ้านที่นี่ จึงแกล้งบอกเธอว่า
“ไม่กล้ากลับไปบ้าน”
“ทำไมละ ทะเลาะกับคุณป้าอีกแล้วหรอ”
“อืม ตอนนี้ก็เลยยังอยู่นอกบ้าน”
“ตอนนี้อยู่ที่ไหนละ เดี๋ยวทรายจะไปหา จะพากลับไปเอง ทรายไปด้วยคุณป้าคงจะไม่ว่าอะไร”
เขารู้สึกผิดที่ไม่บอกความจริงกับเธอว่าเขาไม่ใช่เชน และยังจะให้เธอมาช่วยอีก จีงบอกเธอไปว่า
“ตอนนี้อยู่ที่สะพาน ข้างๆมีร้านขายบะหมี่อยู่”
“อ่อ รู้แล้วละว่าที่ไหน รออยู่ที่นั่นนะเดี๋ยวจะไปหา อย่าหนีไปไหนละ”
“ครับ”
แล้วเธอก็วางสาย รักษ์คิดว่าเธอคนนี้อาจจะช่วยอะไรเขาได้ เขาต้องขอความช่วยเหลือจากเธอไปก่อน วันหนึ่งเขาคงจะต้องบอกความจริงกับเธอ
เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาทีเธอก็เดินมาที่สะพานซึ่งรักษ์กำลังยืนอยู่ พร้อมเข้ามาทักว่า
“ มาอยู่ที่นี่เอง กลับบ้านกันนะ แล้วนี่กินอะไรยัง”
“ยังเลย”
เธอหันมายิ้ม พร้อมกับเดินมาจับมือเขาแล้วพาไปที่ร้านบะหมี่ข้างๆ เขาตกใจจนอาจจะลืมตัวไปครั้งหนึ่งว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เขาไม่เคยจับต้องมือผู้หญิงคนไหนเลย พอเธอมาจับมือเขา
ถึงจะรู้ว่าเธอเป็นมิตร แต่เขาก็ยังรู้สึกแปลกใจตัวเอง ได้แต่เดินตามเธอไป หรือไม่ก็เหตุผลอย่างหนึ่งคือ เธอเป็นคนสดใส ร่าเริง มีนิสัยคล้ายๆกับ คนที่เขารัก
ทรายพารักษ์มานั่งกินบะหมี่ แถวนั้น เธอหันมองเขา แล้วยิ้มพรางพูดว่า
“วันนี้ ทรายคิดว่าพี่แปลกๆ เลยเป็นห่วง พี่คงจะทะเลาะกับคุณป้า เห็นทะเลาะกันทีไร น่าเป็นห่วงทุกที แต่ก็ไม่เป็นไรนะ”
เขาหันไปมองเธอ เห็นสิ่งที่เธอพยายามเป็นห่วงเขาจึงพูดว่า
“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่จะพยายามแก้ไขตัวเองนะ”
ทรายแปลกใจกับคำพูดที่ได้ยิน
“พี่แปลกๆจริงๆนั่นแหละวันนี้ พี่ไม่เคยจะพูดว่า “ขอบคุณ” ปกติจะพูดว่า “อืมๆ” หรือไม่ก็ “ไม่ทำดีกว่า” ไม่เคยที่จะพูดว่า “จะพยายาม” เลยน่ะ
รักษ์ได้ฟังแบบนั้นก็รู้เลยว่า เชนคนนี้คงจะเป็นคนหัวแข็งน่าดูเลย เขาเลยบอกกับเธอว่า
“เวลาเปลี่ยนไปพี่ก็อยากจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นบ้างสิ”
เธอยิ้มแสดงออกได้ถึงความดีใจที่เธออาจจะไม่เคยได้ยินคำพวกนี้เลย
“จริงๆนะ พี่รู้ไหมทรายดีใจมากที่เห็นพี่เป็นแบบนี้ ได้ยินพี่พูดอะไรแบบนี้”
“งั้นหรอ พี่จะพยายามทำให้ได้ก็แล้วกันนะ”
เขาพูดกับเธอแต่ในใจก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดีเพราะเขาในตอนนี้ไม่ใช่คนที่เธอรู้จักเลย เป็นอีกคนที่เธอไม่เคยแม้แต่จะรู้จัก
หลังจากนั้นเธอก็บอกให้เขาขับรถตามเธอไป ขับไปนานพอสมควรรถของเธอก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งก่อนจะเข้าไปในบ้านหลังนั้น บ้านหลังนี้ถ้าดูจากภายนอกเป็นบ้านของคนมีฐานะดีคนหนึ่ง
เธอพาเขาเข้าไปในบ้าน ที่บ้านหลังนั้นมีหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่ ข้างๆมีหญิงวัยกลางคนและเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งตอนนี้กำลังหันมามอง ทรายเห็นเข้าคิดว่าสงสัยว่าเชนไปทำอะไรผิดไว้แน่ๆเลย จึงยกมือไหว้ทักทายด้วยความคุ้นเคยว่า
“สวัสดีค่ะ คุณยาย คุณป้า”
ผู้ใหญ่ทั้งสองคน ยกมือรับไหว้ แล้วพูดว่า
“กลับมาแล้วหรอ วันนี้ทรายก็มาด้วยเหรอ”
“ค่ะ วันนี้ทรายเห็นพี่เชนแปลกๆ ก็เลยตามมาส่งที่บ้าน”
“พี่เชนเป็นอะไรเหรอค่ะ”
เสียงของเด็กสาวอายุประมาณ16-17 ปี ถามขึ้นมาพร้อมกับมองมาที่เขา รักษ์คิดในใจ คนในบ้านหลังนี้ สองคนนั้น คนหนึ่งน่าจะเป็นแม่ คนหนึ่งน่าจะเป็นยาย แล้วเด็กคนนี้ อาจจะเป็นหลาน หรือว่าน้อง จึงบอกไปว่า
“ก็ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกแค่มึนๆนิดหน่อย”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ไปทำงานที่บริษัทด้วย ชอบหนีไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ฝากทรายช่วยดูแลด้วยนะ ถ้าแกไม่เข้าไปทำงาน เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว แน่ๆ
รักษ์ฟังสิ่งที่แม่ของเชนซึ่งตอนนี้ก็คือ แม่ของเขาในตอนนี้พูดขึ้น ก็คิดในใจว่า
“งานอะไร บริษัทอะไร ปัญหามากมายกำลังจะเข้ามาอีกแล้ว แต่ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้รู้ว่าที่นี่ที่ไหน เรามาที่นี่ทำไม” จึงตอบกลับไปว่า
“ครับแม่ ผมจะตั้งใจทำงานให้ดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ก็ดีแล้ว พูดให้มันจริงเถอะ เห็นพูดแบบนี้ แล้วก็หนีไปไหนทุกที”
“ครับแม่”
ทรายเห็นท่าทางไม่ค่อยดีเลย พูดว่า
“คุณป้าไม่ต้องห่วงนะค่ะ ทรายจะช่วยดูแลให้เองค่ะ ถ้าพี่เชนหนีทรายจะโทรบอกคุณป้าเอง”
“ฝากด้วยนะทราย ดีนะที่มีเธออยู่ คอยช่วยทำโน่นทำนี่ให้ ป้าเลือกลูกสะใภ้ไม่ผิดจริงๆ”
เธอยิ้มพรางตอบว่า
“คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”
“เอาละ แม่พูดกับแกแค่นี้นะหวังว่าแกจะทำตามนะ”
รักษ์พยักหน้าตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า
“ครับ แม่”
แม่ของเชนพูดเสร็จก็ลุกขึ้นเพื่อจะเข้านอน ต่อจากนั้นหญิงชราคนนั้นก็พูดว่า
“เชน หลานก็โตแล้ว เปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างก็ดีนะ อะไรที่ไม่ดีๆก็ลดๆลงบ้าง”
“ครับ คุณยาย”
“ยายไปนอนละ” หญิงชราคนนั้นพูดเสร็จก็ลุกไปอีกคน
เด็กสาวเห็นยายของตัวเอง เดินไปกระท่อนกระแท่น จึงลุกไปช่วยพยุง
“เดี๋ยวหนูช่วยพยุงไปนะค่ะคุณยาย”
“เกตพยุงยายไปดีๆนะ”
“ค่ะพี่ทราย”
แล้วเด็กสาวคนนั้นก็พยุงยายพาไปเข้านอนปล่อยให้รักษ์นั่งอยู่กับทราย
“พี่เชนพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะไปทำงาน อย่าลืมละ”
เธอกำชับเขาอีกครั้ง
“ครับ เอ่อ มีอะไรจะขอสักอย่างได้ไหม”
เธอแปลกใจ
“จะขออะไรเหรอ”
“เอ่อ คือ พรุ่งนี้ไปทำงานด้วยกันได้ไหม เดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้าน”
“ได้ค่ะงั้นทรายจะรอนะค่ะ”
“ครับ”
“กลับบ้านก่อนนะค่ะ ดึกแล้ว อีกอย่างจะรีบเข้านอนด้วย อย่านอนดึก นี่ก็ 5 ทุ่มกว่าแล้วนอนเลยนะ”
“ครับ” เขายิ้มให้เธอเหมือนที่เธอยิ้มให้เขา แล้วเธอก็หันหลังไปขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน
รักษ์สังเกตบ้านนี้ เพราะเขาเป็นคนที่สังเกตการณ์อะไรๆได้ดี จึงเริ่มคำนวณความเป็นไปได้ ว่า
ห้องไหนคือห้องของเขา แม่เขาเดินไปห้องข้างล่าง ทางซ้าย ยายเขาเดินไปยังห้องทางขวา และตอนนี้ น้องของเขาเดินขึ้นไปยังชั้นบน ทางขวา ที่เหลือก็น่าจะห้องทางซ้ายด้านบน เขาจึงเดินขึ้นไป แต่ว่าห้องทางซ้ายด้านบน มีอยู่ 2ห้อง เขาคิดอีกครั้ง ในขณะที่เขากำลังยืนอยู่หน้าห้องที่ 1 จู่ๆก็มีเสียงของน้องสาวเขาดังมาว่า
“พี่ไม่เข้านอนหรอ ยืนทำอะไรอยู่หน้าห้องหรอพี่”
เขาก็รู้ได้ทันทีว่า นี่คือห้องนอนของเชน เขาจึงตอบไปว่า
“กำลังจะเข้านอนแล้ว นอนหลับฝันดีนะ เกต”
เด็กสาวแปลกใจที่อยู่ดีๆพี่ชายของตัวเองมาบอกว่า หลับฝันดี จึงคิดว่า
“พี่เราแปลกไปหรือเปล่าหรือว่าเราจะคิดไปเอง” แล้วเธอก็เดินเข้าห้องตัวเอง
รักษ์เดินเข้าไปในห้องนั้น ห้องนี้ประดับไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆที่ถูกจัดไว้เป็นระเบียบ
มีโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะคอมพิวเตอร์ ต่างๆจัดไว้อย่างเป็นที่เป็นทาง ที่เตียงนอนมีภาพของเขากับภาพของคนที่เขาเจอคือทรายถ่ายรูปคู่กันอยู่ด้วย เขามองดูรอบๆ พรางเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ หยิบเอาสมุดเล่มหนึ่ง ขึ้นมาเพื่อจะจดเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขา ในตอนนี้
วันที่ 28 มีนาคม 2557 วันที่ฝนตก ตอนเช้า ฯลฯ เขาเขียนเสร็จก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ก่อนจะเข้านอน เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง มันเหมือนกับความฝันแต่มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ถ้ามีเหตุที่เขามายังที่แห่งนี้ จะต้องมีผลของมันรออยู่ อะไรสักอย่างเขาจะต้องหาคำตอบเอาเอง การเดินทางครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับที่จะเฉลยอดีตที่เขาเคยผ่านมา
ความคิดเห็น