ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โดราเอม่อน อ่าแหน่วๆ

    ลำดับตอนที่ #2 : เอ๋!~~~~โดราเอม่อนจบอย่างไร[1]

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 49


    ตอนจบของโดราเอม่อน (แบบที่ 1)

            วันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันธรรมดาทั่วๆ ไป โนบิตะกลับมาจากโรงเรียน

    ขึ้นไปยังห้องนอน และพบโดเรมอนกำลังนอนหลับอยู่เหมือนปกติ

    “นี่ ! โดเรมอน ตื่นมาเล่นกันเถอะ” แต่โดเรมอนก็ยังหลับอยู่

    โนบิตะคิดว่าโดเรมอนคงเหนื่อยมาก จึงปลุกไม่ตื่น

    ดังนั้นโนบิตะจึงออกไปเล่นกับ ชิซูกะ และ เพื่อนคนอื่น

    หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงโนบิตะกลับมายังบ้าน แต่โดเรมอนก็ยังหลับอยู่

    โนบิตะรู้สึกแปลกใจ และพยายามปลุกโดเรมอนแต่ก็ไม่ปฎิกริยาใด ๆ ทั้งสิ้น

    โนบิตะเริ่มรู้สึกกลัวและเหนื่อยที่จะปลุกโดเรมอน

    โนบิตะพยายามทำทุกอย่างแต่โดเรมอนก็ไม่ยอมตื่น

    นบิตะรู้แล้วว่า มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปและมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    โนบิตะเริ่มร้องไห้โฮแต่โดเรมอนก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว

    และแล้วโนบิตะก็คิดอะไรขึ้นมาได้ 1 อย่าง และกระโดดเข้าไปในโต๊ะที่มีไทม์แมชชีน และ โนบิตะก็ได้ไปในอนาคตเพื่อที่จะพบโดเรมีน้องสาวของโดเรมอน

    โนบิตะขอร้องให้โดเรมีช่วยและฝืนใจโดเรมีให้กลับมาในปี 1998

    หลังจากที่มาถึง โดเรมีก็ได้เข้าไปตรวจสอบในตัวโดเรมอนว่าเกิดอะไรขึ้น

    หลังจากนั้นไม่กี่นาที โดเรมีก็บอกโนบิตะว่า “แบตเตอร์รี่หมด”

    โนบิตะถูกทำให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นและถามโดเรมีเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่า

    “แบตเตอรี่หมดหรือ ? อย่างงั้นโดเรมอนก็ไม่เป็นไรสิ ใช่ไหม?

    ถ้างั้น ช่วยเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่ให้หน่อยทำให้โดเรมอนกลบมามีชีวิตเหมือนเดิม”

    โดเรมีมองมาที่โนบิตะ และสั่นหน้า แล้วพูดว่า“ฉันควรจะเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่หรือ"

    โนบิตะจึงถามกลับว่า “ทำไมโดเรมีจึงพูดอย่างนั้น”

    โดเรมีจึงตอบ ว่า แบตเตอร์รี่หลักของโดเรมอนอยู่ตรงนี้ ใกล้กับกระเป๋าและก็ถูกใช้หมดแล้ว

    แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีแบตเตอร์รี่สำรองอยู่ที่หูแต่อย่างทีรู้ ๆ กันอยู่ว่า

    หูทั้งสองข้างของโดเรมอนถูกหนูกินไปเมื่อหลายปีก่อน

    ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีแบตเตอร์รี่สำรอง

    นบิตะ จึงถามโดเรมี “เธอหมายความว่าไงน่ะ”

    "ฉันหมายความว่า ถ้าฉันเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่โดเรมอนจะสูญเสียความจงจำทั้งหมดเกี่ยวกับโนบิตะตลอดกาล"

    “แล้วฉันควรจะเปลี่ยนหรือ”

    “อะไรนะ” โนบิตะปิดตาแล้วก็ร้องไห้

    แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที โนบิตะก็หยุดร้อง และพูดเบา ๆ กับโดเรมีว่า

    “ขอบคุณมาก ผมจะจัดการส่วนที่เหลือเอง เธอควรจะกลับไปยังอนาคตได้แล้ว”

    โดเรมีไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็เข้าไปกอดโนบิตะ แล้วโดเรมีก็ลาโนบิตะกลับบ้าน

    หลังจากที่โดเรมีกลับไปแล้ว โนบิตะก็อุ้มโดเรมอนไปไว้บนชั้น

    --------------------------- หลายปีผ่านไป--------------------------

    ในปี 2010 โนบิตะโตเป็นผู้ใหญ่

    ตั้งแต่วันนั้น โนบิตะก็เปลี่ยนแปลงและเรียนหนังสืออย่างหนักและก็ไม่เคยร้องไห้อีก

     และเขาอยู่โดยไม่มีโดเรมอน

    โนบิตะบอกชิซูกะ และ เพื่อนๆ ทั้งหลายว่า โดเรมอนต้องกลับไปยังอนาคตและไม่สามารถมา พบเพื่อน ๆ ทั้งหลายได้อีกแล้ว

    ชิซูกะประทับใจในตัวโนบิตะที่มีความเปลี่ยนแปลง และต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิงและทั้งสองก็รักกัน แล้วแต่งงานกัน

    โนบิตะเป็นนักวิทยาศาสตร์และทำห้องของเขาเป็นห้องทดลอง

    และเขาก็ได้ตั้งใจทำงานอย่างหนักในงานของเขา

    และห้ามไม่ให้ชิซูกะ เข้ามายังห้องทดลอง

    และแล้ววันหนึ่งโนบิตะก็เรียกให้ชิซูกะเข้ามายังห้องทดลอง

    และมันเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะเข้ามายังห้องของสามีของเธอ

    ในขณะที่เธอเข้ามายังห้อง เธอถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

    เธอเห็นโดเรมอนเพื่อนเก่าของเธอที่เคยเล่นด้วยกัน ในตอนที่ยังเป็นเด็ก

    โดเรมอนไม่ขยับ และ เหมือนกับกำลังหลับ

    “ดูนี่! ชิซูกะผมจะเสียบปลั๊กแล้วนะ”

    โนบิตะเปิดสวิตช์หลัก บนตัวของโดเรมอน โดเรมอนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

    เป็นเป็นช่วงที่ ทำให้เข้าใจได้ว่าใครเป็นผู้ที่คิดค้นโดเรมอนขึ้นมาซึ่งก็คือโนบิตะนั่นเอง

    เขาเรียนอย่างหนัก เพื่อที่ว่าจะได้พบ และพูดคุย กับโดเรมอนเพื่อนรักของเขา

    โนบิตะเป็นผู้หนื่งที่ได้สร้างโดเรมอนขึ้นมา

    เขาคิดค้นโปรแกรม และโครงสร้างทั้งหลาย สำหรับหุ่นยนต์โดเรมอน

    โนบิตะและชิซูกะร้องไห้อย่างเงียบ ๆ โดเรมอนก็ลืมตาขี้น และก็พูดว่า

    “โนบิตะนายทำการบ้านเสร็จแล้วหรือ”

    มันเหมือนกับมี ก้อนเมฆสีขาวก้อนเดิม อยู่บนท้องฟ้า

    ช่างเหมือนกับเวลาแห่งความทรงจำในอดีต ที่พวกเขามีร่วมกัน



    เม้นวันละนิดจิตแจ่มใสเด้อ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×