คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นคือ ตัวอักษร
ขอแรกของการเรียนทุกๆภาษา
คือ เราต้องจำตัวอักษรให้ได้ก่อน
ดังนั้นในบทนี้เราจะเริ่มกันที่
การแนะนำตัวอักษรญี่ปุ่นก่อนค่ะ
ไปรู้จักกับตัวอักษรญี่ปุ่นกันเลย
...............
อักษรในภาษาญี่ปุ่นจะมีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
- ฮิรางานะ
- คาตากะนะ
- คันจิ
สองแบบแรกเป็นตัวที่สำคัญมาก
โดยเฉพาะ “ฮิรางานะ”
ที่เพื่อนๆที่เรียนมาทุกคนจะรู้ว่า
ต้องจำให้ได้
เพราะฮิรางานะเป็นพื้นฐานของเสียงอักษรทุกตัวค่ะ
- ฮิรางานะ เป็นตัวอักษรที่ใช้แสดงเสียงในภาษาญี่ปุ่น มีทั้งหมด 46 ตัว อักษร 1 ตัว แทนเสียงหนึ่งช่วงเสียง
เช่น にほん แยกตัวอักษรเป็น に-ほ-ん ออกเสียงว่า ni-ho-n แปลว่า ญี่ปุ่น
- คาตากานะ เป็นตัวอักษรที่ใช้แทนเสียงของภาษาต่างประเทศ(โดยมากจะเป็นภาษาอังกฤษ) มีทั้งหมด 46 ตัว และออกเสียงเหมือนกับฮิรางานะ
เช่น タイแยกตัวอักษรเป็น タ-イ ออกเสียงว่า ta-i แปลว่า ไทย
- คันจิ เป็นตัวอักษรที่ใช้แสดงความหมาย คันจิหนึ่งตัวจะออกเสียงได้หลายเสียง ซึ่งขึ้นอยู่กับการประกอบกันของตัวอักษรให้เป็นหนึ่งคำ โดยมากคันจิจะประสมกับฮิรางานะ อักษรคันจิเกิดจากการดูภาพของธรรมชาติแล้วจินตนาการเป็นตัวอักษรเคยกับการกำเนิดตัวอักษรของภาษาจีน
+ เสียงอ่านของอักษรคันจิจะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบ "คุงโยมิ" และ "องโยมิ"
+ เสียงแบบ "คุง" จะเป็นเสียงอ่านแบบญี่ปุ่น ซึ่งมักอ่านแบบนี้เมื่อเจอคันจิผสมมากับฮิรางานะ
+ เสียงแบบ "อง" จะเป็นเสียงอ่านแบบจีน จะอ่านแบบนี้เมื่อเจอคันจิตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็ไม่มีกฎตายตัว ซึ่งเราต้องสังเกตกันให้ดี
+ ในประเทศญี่ปุ่นมีการบัญญัติให้อักษรคันจิ 1,945 ตัวเป็น "โจโยคันจิ (คันจิที่ใช้บ่อย)"เพื่อจำกัดจำนวนคันจิในระดับหนึ่ง เพื่อไม่ให้มีคันจิยาก ๆ มากเกินไป แต่ก็อาจจะมีใช้เกินกว่านั้นบ้างเหมือนกัน อันนี้ก็ต้องพึ่งการเดาเอานะค่ะ
เช่น 人 อ่านว่า hi-to แปลว่า คน
タイ人 อ่านว่า ta-i-ji-n แปลว่า ชาวไทย หรือ คนไทย
何人 อ่านว่า na-n-ni-n แปลว่า กี่คน
หรืออ่านว่า na-ni-ji-n แปลว่า คนอะไร หรือ ชาวอะไร
แถวเสียง
-ฮิรางานะและคาตากานะจะมี 46 เสียง และจะแบ่งเป็นเสียงใส กับ เสียงขุ่น ค่ะ
เสียงใส (ฮิรางานะ)
あ | か | さ | た | な | は | ま | や | ら | わ | ん |
い | き | し | ち | に | ひ | み | | り | | |
う | く | す | つ | ぬ | ふ | む | ゆ | る | | |
え | け | せ | て | ね | へ | め | | れ | | |
お | こ | そ | と | の | ほ | も | よ | ろ | を |
|
++ を เป็นคำช่วย อ่านออกเสียง "โอะ" แต่เวลาฟังเพลงส่วนใหญ่จะออกเสียง "โวะ"
++ん เป็นตัวสะกด อ่านออกเสียง"อึน" หรือ "อึง"
++は ปกติอ่านออกเสียง "ฮะ" แต่เมื่อใช้เป็นคำช่วย ต้องอ่านออกเสียง "วะ"
++へ ปกติอ่านออกเสียง "เฮะ" แต่เมื่อใช้เป็นคำช่วย ต้องอ่านออกเสียง "เอะ"
เสียงขุ่น(ฮิรางานะ)
-เพิ่มขึ้นมาโดยการใส่ "เต็งเต็ง" 『"』 และ "มารุ" 『゜』 ลงในแถวเสียง " ka "แถวเสียง " sa " แถวเสียง " ta " และแถวเสียง "ha" ดังนี้
が | ざ | だ | ば | ぱ |
ぎ | じ | ぢ | び | ぴ |
ぐ | ず | づ | ぶ | ぷ |
げ | ぜ | で | べ | ぺ |
ご | ぞ | ど | ぼ | ぽ |
**** นอกจากนี้ยังมีเสียงผสมโดยการนำแถวเสียง " ya " มาใส่ไว้ด้านหลัง โดยแถวเสียง" ya " ที่นำมาต่อท้ายต้องเขียนด้วยตัวอักษรตัวเล็ก
きゃ | しゃ | ちゃ | にゃ | ひゃ | みゃ | りゃ | ぎゃ | じゃ | びゃ | ぴゃ |
きゅ | しゅ | ちゅ | にゅ | ひゅ | みゅ | りゅ | ぎゅ | じゅ | びゅ | ぴゅ |
きょ | しょ | ちょ | にょ | ひょ | みょ | りょ | ぎょ | じょ | びょ | ぴょ |
Tips:
++ ซึ่งการออกเสียงผสมนี้จะมีบ้างตัวที่ไม่มีเสียงในภาษาไทย ทำให้การออกเสียงอาจจะยากขึ้นมานิดหนึ่ง หากเพื่อนๆคนไหนมีปัญหาในการออกเสียงให้เพื่อนๆลอง ออกเสียงตัวอักษรโดยแบ่งออกเป็นสองตัวไปเลยแต่พูดให้เร็วขึ้น
เช่น ki+ya พูดเร็วๆก็จะกลายเป็น kya ได้เหมือนกัน ลองทำดูนะค่ะ
*** แต่พึงระวังเอาไว้ว่า เสียงนี้เป็นเสียงสั้น ถ้าเป็นเสียงยาวจะต้องมี "อุ" ต่อท้าย เช่น きょう (Kyou=เคียว) หรือ りゅう (Ryuu=ริว) ดังนั้น หากจะลักไก่อ่านออกเสียงเป็น "คิว" หรือ "เคียว" ฯลฯ อย่าออกเสียงลากยาวนะคะ ให้สะบัดเสียงให้สั้นลงจะได้ถูกต้องค่ะ
เสียงใส(คาตากานะ)
ア | カ | サ | タ | ナ | ハ | マ | ヤ | ラ | ワ | ン*** |
イ | キ | シ*** | チ | ニ | ヒ | ミ | | リ | | |
ウ | ク | ス | ツ*** | ヌ | フ | ム | ユ | ル | | |
エ | ケ | セ | テ | ネ | ヘ | メ | | レ | | |
オ | コ | ソ*** | ト | ノ*** | ホ | モ | ヨ | ロ | ヲ | |
** ดูจากตารางฮิระงะนะประกอบค่ะ **
อักษรที่คล้ายกัน ต้องระวังด้วยนะคะ จุดสังเกตง่าย ๆ ก็คือ
シ "ชิ" ขีดด้านข้าง จะลากเข้าหาด้านข้าง เส้นด้านล่างลากขึ้น
ツ "ทซึ" ขีดด้านข้าง จะลากลงด้านล่างแต่มีแค่ขีดเดียว เส้นด้านล่างลากลง
ソ "โสะ" ขีดด้านข้าง จะลากลงด้านล่าง เส้นด้านล่างลากลง
ン "อึน" ขีดด้านข้าง จะลากเข้าหาด้านข้างแต่มีแค่ขีดเดียว เส้นด้านล่างลากขึ้น
ノ "โนะ" ลากลงมาขีดเดียวโดด ๆ เลย
เสียงขุ่น(คาตากานะ)
++ ดูจากตารางของฮิรางานะประกอบนะค่ะ
ガ | ザ | ダ | バ | パ |
ギ | ジ | ヂ | ビ | ピ |
グ | ズ | ヅ | ブ | プ |
ゲ | ゼ | デ | ベ | ペ |
ゴ | ゾ | ド | ボ | ポ |
ตัวคาตากานะเองก็มีการผสมเสียงในแถว " ya " เช่นเดียวกันค่ะ โดยเพื่อนๆสามารถดูได้จากตาราง ข้างล่างนี้
キャ | シャ | チャ | ニャ | ヒャ | ミャ | リャ | ギャ | ジャ | ビャ | ピャ |
キュ | シュ | チュ | ニュ | ヒュ | ミュ | リュ | ギュ | ジュ | ビュ | ピュ |
キョ | ショ | チョ | ニョ | ヒョ | ミョ | リョ | ギョ | ジョ | ビョ | ピョ |
นอกจากแถวเสียงที่ผสมขึ้นมา โดยใช้แถวเสียง "ya" ตัวเล็กมาต่อท้ายแล้ว ตัวอักษรคะตะคะนะจะมีแถวเสียงผสมที่ใช้แถวเสียงอื่น ๆ ตัวเล็กเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย ดังนี้ค่ะ
| ヴァ | クァ | ツァ | | | ファ |
ウィ | ヴィ | | | ティ | ディ | フィ |
| ヴ | | | | デュ | |
ウェ | ヴェ | | ツェ | | | フェ |
ウォ | ヴォ | | ツォ | | | フォ |
Tips
ถ้าต้องการให้ออกเสียงยาว ให้ใช้ 『ー』 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนเสียงยาวในภาษาญี่ปุ่นค่ะ เช่น คำว่า "Fram=กรอบ" หรือ "Flame=เปลวไฟ" ก็จะเป็น フレーム ค่ะ
จากตารางตัวอักษรดังกล่าว ขอให้เพื่อนๆทุกคนจดจำให้ได้ทุกตัวนะค่ะเพราะมันจะเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นอย่างแน่นอน แต่เสียงผสมอาจจะไม่ต้องจำก็ได้ค่ะ แต่ก็ต้องผสมเสียงเป็นได้เองนะค่ะเพราะในคำศัพท์ญี่ปุ่นจะมีเสียงผสมใช้กันอย่างแพร่หลายด้วยเช่นกันค่ะ
ตอนนี้ให้เพื่อนๆจดจำตัวอักษรกันไปก่อนเนอะ^^ แล้วในบทต่อไป ลิโซจะเอาคำศัพท์มาให้ลองเอาไปท่องเป็นตัวช่วยจำตัวอักษรของเพื่อนๆด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยให้ง่ายหรือยากขึ้นกันแน่นะค่ะ
เครดิตตารางตัวอักษร โซเอามาจาก ++ gin-no-ishi.exteen.com นะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ความคิดเห็น