เธอคนนั้นกับวันเปิดเทอมใหม่
ความรักน่ะเหรอ... เป็นสิ่งดีนะ อาจจะจุดประกายให้คนหมดไฟมีกำลังใจขึ้นมาก็ได้
ผู้เข้าชมรวม
133
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปิ๊บ...ปิ๊บ...ปิ๊บๆๆ กริ๊ก
เสียงดังปลุกมาจากนาฬิกาซึ่งตั้งไว้ที่หกโมงตรง ผมฟาดมือใส่มันด้วยความเคยชินและรำคาญมากกว่าที่จะเป็นการกระตือรือร้น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คงต้องตื่นอยู่ดีเมื่อสติลอยเข้ามาในหัวชี้บ่งว่าวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการขึ้นมัธยมปลาย
เมื่อนึกได้ดังนั้นผมจึงต้องสลัดความขี้เกียจทั้งหมดทิ้งไปก่อนจะลุกขึ้นเป้าหมายเพื่อการอาบน้ำและจัดแจงอุปกรณ์เตรียมพร้อมกับการไปโรงเรียน
อาหารเช้าถูกจัดขึ้นวางบนโต๊ะอย่างง่ายๆพอสำหรับผมกับพี่สาวและบางทีคุณพ่อท่านคงทานด้วย จานสุดท้ายคือไข่เจียวที่คุณแม่วางลงมาให้ ทุกคนต่างดูกระตือรือร้นกันเสียจริงผมคิดอย่างนั้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าการเลื่อนชั้นครั้งนี้มันจะมีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าเดิมหรือจะมีอะไรดีขึ้นตรงไหน จะว่านิสัยเรื่อยเปื่อยแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าผมได้มาจากใคร ทั้งที่ในบ้านมีแต่คนขยันขันแข็งกันทั้งนั้น
ประมาณเจ็ดโมงครึ่งผมมาถึงโรงเรียนด้วยการติดรถมากับพี่สาวซึ่งทำงานอยู่ที่ธนาคารธนชาติในขอนแก่นนี่เอง
โรงเรียนก็ยังคงเป็นโรงเรียน ไม่เห็นมีอะไรน่าแปลกใจไปกว่าเดิมตรงไหน ผมคิดพลางยกตารางสอนที่พิมพ์ออกมาจากอินเตอร์เน็ตขึ้นมาสำรวจหาห้องประจำเรียนเพื่อความแน่ใจ
เท้าก้าวมาหยุดถึงหน้าห้องพอมองเข้าไปก็ยังมีคนบางตา ผมคิดว่าผมเองก็มาสายแล้วแท้ๆเชียว แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรในเมื่อในห้องก็ไม่ได้มีคนที่ผมรู้จักมากมายเท่าไรอยู่แล้ว นี่เองคือผลกระทบของการเลื่อนชั้นและย้ายห้องคราวนี้
โรงเรียนเองยังคงน่าเบื่อผมคิด ก็พอจะรู้เหมือนกันว่าผลการเรียนของตัวเองมันเริ่มตกมาตั้งแต่มัธยมต้นปีที่สอง อยู่ๆมันก็ขี้เกียจขึ้นมาซะเฉยๆไม่ใช่ว่าอะไรมาดลใจหรอกนะ ก็มันขี้เกียจนี่นา - -a
จะมองซ้ายมองขวาก็เจอแต่โต๊ะเก้าอี้ ห้องเรียนที่ห่างเหินมาร่วมสองเดือนที่แสนจะซ้ำซากจำเจ พออาจารย์เข้ามาโฮมรูมในชั้นที่นักเรียนนั่งเต็มหน้าสลอนกัน ก็มีการพูดคุยและจัดแจงหน้าที่ต่างๆพอเป็นพิธี ผมยังไม่คิดเลยซักนิดว่าจะมีอะไรมาดึงดูดความสนใจผมให้มันรู้สึกดีกว่านี้ขึ้นมาได้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าผมคิดผิด คิดผิดไปจริงๆ
วันถัดมาในชั่วโมงคาบการงานห้องผมได้ถูกจัดแจงให้มาเรียนอยู่ในห้องวิชาเขียนแบบ ทีแรกก็เกือบจะดีใจซักหน่อย เพราะไอ้ผมเองก็ชอบขีดๆเขียนๆและก็เรียนวิชาเลือกเขียนแบบมาถึงสามปีแล้ว แต่นี่ก็คิดผิดถนัด ที่ได้เรียนน่ะมันแค่ห้องส่วนวิชาน่ะเหรอ เหอๆ =o=^
งานชิ้นแรกถูกสั่งป้าบลงมาทันที กระดาษหนึ่งแผ่นกับนักเรียนเป็นกลุ่มเพื่อหาว่าอุปกรณ์วัสดุในชีวิตประจำวันอะไรซักอย่างนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างซักอย่างอีกเหมือนกันนั่นล่ะ =_=”
ขณะที่เพื่อนแท้ทั่งคู่ของผมโบ้ยงานมาให้ผมนั่งเขียนอย่างโคตะระน่าซาบซึ้งใจรวมทั้งผู้หญิงอีกสองคนในกลุ่มซึ่งยังไม่สนิทพอที่หันไปใช้พวกเธอ ก็กลายเป็นว่างานตกมาถึงมือผมคนเดียวซะได้
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ใครจะไปรู้ระหว่างที่มือกำปากกาแน่นกำลังบรรจงกดและเขียนตัวอักษรยึกยือไม่เป็นภาษาลงในกระดาษอย่างขะมักเขม้นนั้น พลันบรรยากาศรอบข้างตัวก็พลันสงบนิ่งลง คล้ายกับว่าทุกสรรพเสียงในโสตประสาทของผมถูกกีดกั้นออกเพื่อรับฟังเสียงเล็กๆเพียงเสียงเดียวที่ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ทำถึงไหนแล้ว”
มือเล็กวางแปะลงหน้าโต๊ะเขียนแบบของผม ปรากฏร่างของหญิงสาว ในชุดนักเรียนสีขาวเจิดจรัส แสงส่องสะท้อนประกายราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ =o= ท่าจะบ้าแฮะเรา ดวงหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มผมยาวที่ถูกมัดรวมไว้ตามระเบียบของโรงเรียน เธอโผล่หน้ามาตรงข้ามกับโต๊ะเขียนแบบ วลีสั้นๆแทบจะไม่ได้แสดงถึงความสนใจ แต่อะไรซักอย่างมันกลับกระแทกเข้าใส่หัวใจของผมเต็มๆ ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งลงแม้แต่โลกก็อาจจะหยุดหมุนลง พร้อมกับมีเสียงเพลงฮิตติดชาร์ตยุคโบราณดังก้องอยู่ในหูผม “ใช่เลย~ โดนใจฉันเลย ไม่มีมากไป ไม่มีน้อยไป ประมาณนี้เลย ใช่เลย! lol”
“กะ..ก็ยังไม่ถึงไหนเลย ถ้าไปดูโต๊ะอื่นแล้วมาบอกด้วยแล้วกัน”ผมรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดเค้นเสียงตอบกลับไป ผมกลืนน้ำลายเอื้อกลงคออย่างยากลำบากหลังจากที่เธอพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับส่งยิ้มหวานและเดินจากไป
บางอย่างมันหาเหตุผลไม่ได้ผมนั่งตรึกตรองอยู่กับโต๊ะตัวนั้นอีกนาน จนหมดคาบและไปเรียนในวิชาต่อๆไปซึ่งก็แทบจำไม่ได้เหมือนกันว่างานมันเสร็จไปตอนไหน
ระหว่างคาบเปลี่ยนชั้นเรียนผมคว้าลูกบาสในมือไอ้พวกเพื่อนแท้มาหมุนเล่นอยู่ในมืออย่างเหม่อลอย พอก้าวผ่านประตูห้องเข้ามากลับมีมือเล็กๆของใครบางคนจิ้มสะกิดใส่ลูกบาสในมือผมร่วงหล่นไป พอหันไปพบกับเจ้าของมือเรียวเล็กหัวใจผมแทบจะหล่นลงตามลูกบาสจนเกือบจะคว้าไว้ไม่ทัน >o<”
มันอาจจะดูไม่มีเหตุผลแต่แน่ล่ะผมรู้แล้วในทันทีถึงเหตุผล สิ่งที่จะอธิบายความรู้สึกอย่างนี้ได้มันมีอยู่แค่อย่างเดียวอยู่แล้ว แล้วผมก็ได้รู้ว่าการเปิดเทอมใหม่นี้มันไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ถ้ายังมีเธออยู่ คงจะสามารถแต่งแต้มเข้ามาในชีวิตอันแสนธรรมดาของผมให้สดใสขึ้นได้มากโขทีเดียว
ผลงานอื่นๆ ของ Mr.วิกรมาทิตย์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mr.วิกรมาทิตย์
ความคิดเห็น